You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi
3) บทที่3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความจุนมองดูนาฬิกาเมื่อเสียงกริ่งหมดคาบดังขึ้นมาพลางนับคำนวณการใช้เงินว่าทำอย่างไรจึงจะพอทานข้าวกลางวันและค่ารถบัส
เรื่องที่จะให้มาซารุต้องตากฝนมาพบเขานั้นไม่เอาแล้ว นอกจากอันตรายแล้วยังมีเรื่องของสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ที่สำคัญ การไปที่ศาลเจ้าฟุมิเนเนะมันก็ช่วยผ่อนคลายได้มากทีเดียว ความรู้สึกตัดขาดจากปัญหาของโลกภายนอกมันมากกว่าแค่การไปพักรักษาแผลใจของจุนซะแล้ว
แต่โชคชะตาเหมือนจะไม่เป็นใจนัก จิเสะเดินเข้ามาพร้อมกับท่าทีเขินๆ โดยมีกลุ่มเพื่อนส่งเสียงเชียร์อยู่ข้างนอก
"เอ่อ...จุนคุง วันนี้จะทานไอติมที่ร้านไอเสะกับฉันได้ไหม คือว่าที่นั่นเขามีเมนูใหม่ื แล้วก็มีคนชวนให้ไปชิมกันเยอะ เอ่อ...ฉันได้บัตรส่วนลดมาด้วยนะ!"
บัตรส่วนลดที่แทบชิดติดหน้าของเด็กหนุ่มทำให้เขากระพริบตาปริบๆ นึกถึงมาซารุที่เขานัดไว้ ถึงจะไม่ได้นัดว่าจะไปเมื่อไหร่ก็เถอะ
แต่นี่ถือเป็นโอกาสในการจะสานสัมพันธ์กับจิเสะแล้ว! จุนรับบัตรทานไอติมไว้หนึ่งใบแทนการตอบตกลง
"เอ่อ...ฮาร์ท สตรอว์เบอรี่ราดคาราเมลค่ะ"
เด็กสาวสั่งตามโพยที่เพื่อนแอบส่งมาจากโต๊ะเยื้องขวาที่จุนไม่ทันสังเกต แม้ว่าความจริงแล้วเธอจะชอบกินรสบลูเบอรี่มากกว่าก็ตาม แต่การสั่งอะไรที่สื่อความนัยก็เป็นการบอกที่ดีนะ
แต่จุนไม่ได้ทันคิดเรื่องนั้น เพราะเขาไม่รู้ว่าเด็กสาวชอบทานอะไร ความจริงเขาคิดด้วยซ้ำว่าจิเสะที่น่ารักอ่อนโยนต้องชอบกินอะำไรที่เป็นของเด็กผู้หญิงอยู่แล้ว
จุนจิ้มส่งเดชไปรายการหนึ่งแล้วมองท่าทีเขินอายของจิเสะด้วยความรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
นี่เป็นโอกาสบอกความในใจเลย!
"เอ่อ...จิเสะจัง ความจริงแล้วฉันมีเรื่องอยากจะบอกเธอนะ ฉันรู้สึกมานานแล้ว แต่ไม่เคยกล้าพูดเพราะกลัวจะโดนปฏิเสธ..."
จิเสะใจเต้นตึกตัก นี่มันบทพูดในนิยายรักหวานแหววตอนที่พระเอกกำลังจะสารภาพรักกับนางเอกชัดๆเลยนี่นา!
เด็กสาวกล่าวตะกุกตะกัก
"อะ...อะไรเหรอ"
จุนเงยหน้าจากการมองพื้นแล้วพยามทตัวฮึดสู้
"ฉันชอบ..."
"สตรอว์เบอรี่ พาเฟ่ต์ได้แล้วค่ะ!" พนักงานเสิร์ฟพูดดังเกินกว่าเหตุแล้ววางถ้วยพาเฟ่ต์ลง แต่ก็สะดุดกึกขึ้นมา "เอ๊ะ...นี่ของโต๊ะเอนี่นา ขอโทษนะคะ คุณลูกค้าโต๊ะบี แต่ก็ถือเป็นของขอโทษแล้วกัน"
ท่าทางตอนเดินจากไปของพนักงานเสิร์ฟดูจะมีความสุขยิ่งกว่าอะไร ทั้งนี้ทั้งนั้น เธอเป็นแฟนคลับตัวยงของเมยามิ ริกะ หรือก็คือแฟนคลับของจินเนะนั่นเอง!
'แม้จะไม่รู้ว่าทำไมคุณริกะให้ขัดขวางการสารภาพรักของพวกนั้น แต่แค่ได้ช่วยคุณริกะก็ดีใจมากแล้วล่ะ! แถมยังจะได้ลายเซ็นกับภาพถ่ายคู่เป็นรางวัลอีก!'
พนักงานเสิร์ฟนามว่าไอคาว่าคิดอย่างปลื้มปีติแล้วเดินไปถ่ายรูปกับจินเนะที่ทานไอติมอยู่มุมหนึ่งของร้านตามรางวัลที่ได้ทันที
จิเสะมองไปที่พนักงานเสิร์ฟด้วยความไม่ติดใจสงสัยอะไรมาก ผิดกับจุนที่มองน้องสาวอย่างเซ็งๆ
แต่ความกล้าเกิดขึ้นได้ไม่กี่ครั้ง จิเสะและจุนนั่งทานไอติมกันอย่างเงียบๆ ถึงเด็กสาวอยากจะบอกเขาว่าเธอรู้สึกยังไง แต่ก็อยากให้เขาพูดเรื่องสำคัญนั้นก่อนนี่นา!
การทานไอติมวันนั้น จบลงด้วยชัยชนะของจินเนะเท่านั้นเอง
ไซโตะ ผู้จัดส่วนตัวที่ขับรถมารับเมยามิ ริกะถึงร้านไอศกรีมไอเสะเหมือนเป็นผู้นำโชคดีมาให้ เพราะจุนไม่อยากไปภูเขาฟุมิเนเนะด้วยการขัดขวางของน้องสาวหรอกนะ!
การต่อรถบัสในช่วงสองสามวันนี้ทำให้เขาเริ่มจำราคาบัตรได้แล้ว เฮ้อ...และราคาตั๋วของเขาจะมากกว่าคนอื่นเพราะฟุมิเนเนะมันเป็นสุดปลายทางพอดี
มาซารุยืนรออยู่หน้าศาลเจ้าเฉกเช่นเคย แม้จะไม่ได้นัดเวลาไว้แต่นี่ก็นานกว่าเวลาที่เขาควรจะมาตามปกติ ดังนั้น จุนจึงอดขอโทษไม่ได้
"ไม่เป็นไรหรอก แค่จุนมาที่นี่ ข้าก็ดีใจแล้ว"
รอยยิ้มที่แสนเริงร่าของอีกฝ่ายทำให้การเดินตั้งแต่ลงรถบัสมาถึงที่นี่หายไปเป็นปลิดทิ้ง มันเหมือนกับ...ได้รับคำชมจากคนที่ชอบมากๆ อะไรแบบนั้น
เด็กหนุ่มได้รับขนมโกโบโมจิเป็นของว่างระหว่างทำการบ้านวิชาวิทยาศาสตร์ของคิริเอะ ความอร่อยของมันทำให้ความรู้สึกเบื่อหน่ายเรื่องการแพร่พันธุ์พืชลดลงไปได้มากเลยทีเดียว
"ภาพวาดนี่สื่อถึงอะไรเหรอ"
มาซารุอดชี้ไปที่ภาพดอกไม้ดอกหนึ่งซึ่งแสดงถึงส่วนประกอบของพืชได้เป็นอย่างดี
บุรุษในชุดกิโมโนเอียงคอแล้วพยามทาย
"รูปร่างคงจะเป็นดอกไม้ไม่ผิดแน่ อ้อ!" มาซารุทุบกำปั้นบนมือตัวเองเบาๆแสดงท่าทีนึกออก "คงจะเป็นความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสวยงามใช่ไหม"
"เอ่อ..." จุนมองภาพ 'ความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสวยงาม' ในหนังสือวิทยาศาสตร์แล้วเริ่มขำออกมา "ฮ่าฮ่าฮ่า คือ...ความจริงมันคือส่วนประกอบของพืชนะ เธอไม่เคยเจอในหนังสือวิทยาศาสตร์เหรอ"
"ข้าไม่รู้จักวิทยาศาสตร์ มันคืออะไรเหรอ"
จุนเริ่มเหงื่อตก เขาเองพอจะรู้ว่าวิทยาศาสตร์คืออะไร แต่จู่ๆให้มาอธิบายมันก็พูดยากอยู่นะ
"เอ่อ...เทคโนโลยี อะไรพวกนั้นล่ะมั้ง? เอาเป็นว่ามันคือสิ่งที่ทำให้สบายแล้วก็ยุ่งยากไงล่ะ"
แม้มาซารุจะไม่ค่อยเข้าใจแต่เขาก็ยังคงจ้องมองส่วนประกอบของพืชด้วยความสนใจใคร่รู้ สำหรับเขาแล้วทุกภาพวาดย่อมมีความหมายหรือสื่อถึงอะไรสักอย่าง
แต่เขาก็พอจะเข้าใจว่าจุนกำลังทำงานบางอย่างอยู่ จึงไม่ได้เข้าไปถามอะไรมากไปกว่านั้น
ในที่สุด ชั่วโมงสนทนาก็กลับมาเมื่อการบ้านและงานทุกอย่างเสร็จสิ้น
"โรงเรียนคือสถานที่ให้ความรู้ไงล่ะ มีคนเยอะๆไปเรียน มาซารุซังโตขึ้นมาแบบไหนเหรอ หรือว่าอยู่แต่ในศาลเจ้า"
บุรุษคนงามในชุดกิโมโนเอียงคอเล็กน้อย ครุ่นคิดถึงเรื่องอดีตและตอบคำถามครบถ้วน
"ข้าถูกสอนสิ่งต่างๆที่ปราสาท แต่ตอนนี้ข้าอาศัยอยู่ที่นี่"
จุนสะดุดกึก "ปราสาทเหรอ"
"ข้าเป็นลูกขุนนาง" มาซารุยังคงไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของคู่สนทนาที่จ้องเขาตาโต "ถูกสอนการอ่านและเขียนกวี สอนเพลงดาบ สอนมารยาทในพิธีชงชา แล้วก็อะไรทำนองนั้นที่ปราสาท"
เด็กหนุ่มเหมารวมเอาว่าปราสาทที่ว่านี่คือคฤหาสถ์หลังใหญ่ๆ ส่วนขุนนางก็คือนักการเมือง
"แต่นั่นมันเรื่องนานมาแล้วล่ะ"
จุนพยักหน้ารับรู้ ที่แท้ก็เป็นลูกอดีตนักการเมืองอย่างนั้นสินะ
"แล้วทำไมมาอยู่้ที่ฟุมิเนเนะนี่ได้ล่ะ หรือว่าหนีออกจากบ้าน!?"
"ข้ามารอใครคนหนึ่ง" น้ำเสียงของบุรุษชุดกิโมโนฟังดูเศร้าสร้อยและโหยหา "ซึ่งก็คือเจ้ายังไงล่ะ"
จุนตัวแข็งทื่อเมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายสัมผัสกับเขา...
"จุน อีกแล้วรึไงยะ!"
อาจารย์คิริเอะพูดเสียงดังลั่นข้างหูเด็กหนุ่มที่กำลังเหม่อแทนการเรียกสติแล้วปาดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริงบนหน้าผาก
ไม้บรรทัดตวัดไปมาจนเกิดเสียงผ่านลมเป็นการประคอบคำพูดขู่ไม่กี่คำ ทำให้เด็กหนุ่้มไม่เหม่ออีกทั้งชั่วโมงเลยทีเดียว
ในที่สุด ชั่วโมงชมรมก็เวียนมาถึง จิเสะออกไปจากห้องเรียนและเดินไปห้องชมรมพร้อมกันกับเขา ต่างจากวันอื่นๆที่จะไปกับกลุ่มเพื่อนสาว
จินเนะเหลือบมองภาพนั้นด้วยความแค้นใจ พยามคิดแผนที่ทำให้พี่ชายแตกคอกับเด็กสาวผู้น่าสงสารคนนั้นให้เร็วที่สุด!
หลังคิดไปคิดมา คำตอบก็ปรากฏ
สิ้นสุดชั่วโมงชมรมเป็นเวลาที่จิเสะรอคอย เธอรีบเดินไปหาจุนอย่างรวดเร็วและรั้งเขาไว้จนในห้องเหลือเพียงสองคน แต่เป็นที่แน่นอนว่านอกห้องยังคงมีกลุ่มเพื่อนสาวที่ทั้งลุ้นทั้งพยามบอกใบ้ยืนออกันอยู่
"เอ่อ...ถ้าเป็นที่นี่ จะบอกได้ไหมว่า...ว่าจะบอก เอ่อ เรื่องอะไรเหรอ"
จุนมองท่าทีเขินด้วยความรู้สึกแปลกใจ งุนงงว่าจิเสะต้องการให้เขาพูดอะไร แต่ไปๆมาๆเขาก็นึกได้ว่าคู่สนทนายังไม่ได้รับฟังคำสารถาพรักของเขาเลย
แต่คราวนี้ ยังไม่ทันพูดอะไร เด็กสาวน่ารักคนหนึ่งก็พุ่งมาจากประตูแล้วพูดอย่างรวดเร็วว่า
"ฉันชอบรุ่นพี่ค่ะ!"
จิเสะอ้าปากค้าง มองใบหน้าของจุนที่ออกอาการไม่แปลกใจอะไรด้วยความรู้สึกสับสน เธอวิ่งร้องไห้ออกไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนสาว
จุนถามด้วยใบหน้าเย็นชา
"คราวนี้ได้อะไรล่ะ"
"ปากกาพร้อมลายเซ็นของเมยามิ ริกะัค่ะ"
สาวน้อยน่ารักโรงเรียนเดียวกันนามว่า ซายากะ ตอบอย่างฉะฉานด้วยรอยยิ้ม เธอก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับที่ทำทุกเรื่องได้เพื่อเมยามิ ริกะ โดยไม่ถามอะไรทั้งนั้น
จุนไม่ได้ไปที่ศาลเจ้าฟุมิเนเนะเพราะเรื่องเมื่อวานนี้ หลังจากนั้นเหตุการณ์นั้นดูเหมือนเขาจะไม่ได้ทำอะไรนอกจากวิ่งหนีมา
ก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะ แต่ว่าการที่โดนล่วงเกินแบบนี้มันเป็นอะไรที่รู้สึกว่ามากเกินไป ถึงเขาจะไม่ได้รังเกียจรังงอนก็เถอะ
หลังจากนั่งทำการบ้านวิชาวิทยาศาสตร์ซึ่งน่าเบื่อหน่ายเป็นที่สุดไปพร้อมกับการนึกถึงขนมโกโบโมจิแสนอร่อยก็มีคนมาหาจุนถึงที่บ้าน จิเสะและกลุ่มเพื่อนเดินเข้ามาด้วยชุดกิโมโนลายสวยสีสันสดใสและพัดหนึ่งอัน
"วันนี้มีงานเทศกาลทานาบาตะ จุนคุงจะไปด้วยกันไหม"
หน้าตาของเพื่อนเด็กสาวบ่งบอกกับเขาว่า หากตอบปฏิเสธเมื่อไหร่พวกเธอจะไม่ปล่อยให้เขากลับห้องง่ายๆแน่!
จินเนะเดิืนลงมาจากห้องนอนด้วยชุดกิโมโนน้ำเงินและจ้องมองพวกพี่ชายด้วยความไม่พอใจ แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถขัดอะไรเขาได้เลย แต่ใช่ว่าแค่ได้ไปงานเทศกาลกับจิเสะแล้วเขาจะชนะเธอได้แล้วหรอกนะ!
ที่สำคัญ แผนคราวที่แล้งดูเหมือนจะพลาดเพราะเด็กสาวได้รับคำอธิบายทางโทรศัพท์แล้วว่าเขาไม่ได้คิดอะไรและไม่ได้ตอบตกลง
คุณพ่อของเด็กหนุ่มเดินมาตบไหล่ลูกชายพร้อมกับชูนิ้วโป้งยิ้มกว้าง
"เอาเลยสิ! ชุดกิโมโนก็มีเตรียมไว้ใช่ไหมล่ะ ยังไงก็เดินเที่ยวกับจิเสะจังสักหน่อยแล้วกัน"
คาเมซากิ ชิโร่ เชิญกลุ่มเด็กสาวไปที่ห้องรับแขกด้วยความใจดีระหว่างที่รอจุนแต่งตัว
จินเนะกดโทรศัพท์ด้วยมือขวาอย่างรวดเร็วเพื่อคุยกับใครบางคนด้วยสีหน้าที่ไม่ยินดียินร้ายอะไร
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ