You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi
10.0
11) บทที่11
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "จุนคุงเคยรักฉันเหรอ" รอยยิ้มของเด็กสาวเปลี่ยนไปเหมือนกับยิ้มทั้งที่บ้าคลั่ง "งั้นถ้าหากว่าฉันขับไล่วิญญาณตนนั้นได้ จุนคุงจะหันกลับมาหาฉันใช่ไหมล่ะ!"
จิเสะสะบัดร่างของจุนไปจนกระแทกกับต้นไ้ม้ใหญ่ในศาลเจ้าฟุมิเนเนะ มาซารุมีปฏิกริยาขึ้นมาทันที เขารีบวิ่งไปหาคนที่สำคัญที่สุดของตนโดยไม่ทันมองจิเสะซึ่งเหวี่ยงยันต์มาที่กลางหลังของเขา!
ร่างในชุดกิโมโนทรุดลงต่อหน้าต่อตาโดยมือนั้นพยามจะเอื้อมไปหาจุน ใช่แล้ว...ทั้งแววตาทั้งท่าทาง มันช่างเหมือนกับจิเสะเมื่อครู่ไม่มีผิดเพี้ยน
เพียงแต่คราวนี้ จุนวิ่งไปหามาซารุเท่านั้นเอง...
สีหน้าของจิเสะดูนิ่งและเย็นชาต่างจากในจิตใจ เธอเหวี่ยงยันต์ไปก่อนที่จุนจะถึงตัวมาซารุ ทันใดนั้น สิ่งที่เหมือนกับบาเรียสีฟ้าใสก็ปรากฏขึ้นมาแทนกำแพงที่กั้นระหว่างคนทั้งสอง
จิเสะหยิบยันต์ออกมาจากกระเป๋าสะพายเพื่อเหวี่ยงขึ้นไปบนฟ้า ชักนำร่างของมาซารุให้ถูกดึงขึ้นไป ตอนนั้นเองที่จุนสังเกตว่ายันต์ที่กลางหลังของมาซารุมีโซ่สีฟ้าเข้มเรืองแสงติดปลายอยู่กับพื้นดิน
ยันต์ที่ลอยอยู่บนฟ้ามีแสงสีทองไล่ไปตามอักษรสีแดงตั้งแต่ต้นจนเมื่อสุด สายฟ้าขนาดใหญ่ก็ผ่าใส่ร่างของมาซารุ!
ถึงจะดูไม่มีบาดแผลหรืออาการผิวหนังไหม้อย่างเมื่อครู่ก็ตาม แต่ท่าทางของวิญญาณในชุดกิโมโนก็ดูเจ็บปวดมาก
"อีกแป๊ปเดียวนะ จุนคุง รับรองได้เลยว่าฉันจะจัดการ 'ไม่ให้เหลือซาก' เลยล่ะ"
เด็กหนุ่มฟังจิเสะเน้นเสียงแล้วหวาดผวา ท่าทางอำมหิตซะจนเขาไม่คาดคิดว่าเด็กสาวที่ใจดีอ่อนโยนอย่างเธอจะแสดงออกมาได้
ทำไงดี... ทำไงดี...
เสียงมือถือดังขึ้นมาขัดจังหวะความคิดของจุน ชื่อเบอร์โทรเข้ากลับเป็นคนที่ไม่น่าคุยที่สุดในช่วงเวลานี้ ถึงอย่างนั้นเขาก็กดรับ
"เอาใบตารางงานฉันไปหรือเปล่า..."
"ช่้วยด้วย!" จุนตะโกนใส่มือถืออย่างลนลาน มองดูมาซารุซึ่งโดนสายฟ้าผ่าใส่รอบที่ห้าอย่างทำอะไรไม่ถูก แต่คนปลายสายกลับคิ้วกระตุกกึก ตวาดลงโืทรศัพท์สีชมพูลายการ์ตูน
"อย่าตะโกนใส่มือถือสิยะ เสียมารยาท!"
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เธอกลับตอบกลับด้วยเสียงที่ดังกว่าจุนสักสิบเท่าได้
"มาที่ศาลเจ้าฟุมิเนเนะด่้วนเลย"
จินเนะกล่าวเยาะๆ "เรื่องอะไร..."
"แล้วฉันจะเล่าเรื่องความจริงในตอนนั้นให้เธอฟัง แต่ตอนนี้มาที่นี่ก่อน!"
จินเนะมองมือถือซึ่งถูกตัดสายอย่างงุนงง ตอนแรกเธอคิดว่าคงจะเป็นการโดนอันธพาลรุมหาเรื่องหรืออะไรที่มันปกติๆ แต่เมื่อคิดดูแล้ว จุนถึงขั้นขอความช่วยเหลือจากเธอคงไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วล่ะ
เด็กสาวมองไซโตะที่กำลังมุ่งหน้าไปส่งเธอที่บ้านแล้วบอกจุดหมายใหม่ให้แทนโดยไม่อธิบายอะไรทั้งนั้นเพราะเธอเองก็จับต้นชนปลายไม่ถูกเหมือนกัน
"ฮึ่ย!"
จุนพยามดันเจ้าเขตอาคมที่จิเสะสร้างขึ้นมาอย่าสุดกำลัง สภาพผิวสัมผัสมันนุ่มๆเด้งๆเหมือนเยลลี่ แต่ทำไมถึงไม่ขาดสักทีนะ!
"มันไม่ถูกทำลายง่ายๆหรอกนะ จุนคุง เธอเลิกพยามดีกว่า เดี๋ยวฉันจะจัดการให้เสร็จไวๆ เธอจะกลับมารักฉันและมีวิถีชีวิตที่ปกติเหมือนเดิมแล้ว"
จิเสะพูดด้วยแววตาที่ไร้อารมณ์ทั้งที่กำลังยิ้มบางๆให้กับเด็กหนุ่ม เป็นครั้งแรกที่จุนเกลียดคนที่ยิ้มให้นอกจากน้องสาวของตัวเองนะ!
"ผมจะกลัีบไปกับเธอก็ได้ แต่หยุดทำร้ายมาซารุซังเถอะ!"
เด็กสาวชุดมิโกะหันกลับมาตะโกนใส่เขา "จุนคุงเองก็ดูถูกความรักของฉันเหมือนกันแหละ! ฉันไม่อยากได้แค่ร่างกาย ฉันอยากได้ความรักจากจุนคุงด้วย เข้าใจไหม! ตราบใดที่มาซารุยังอยู่ที่นี่ เธอเองคงไม่มีทางรักฉันได้อีกครั้งหรอก!"
"ถ้ามาซารุซังหายไปแล้วมันต่างจากเดิมตรงไหนกัน ยังไงผมก็คงไม่มีทางกลับไปรักเธอได้หรอกนะ"
จุนพยามเกลี้ยกล่อม แต่เด็กสาวพูดทั้งน้ำตาที่ไหลลงมาเรื่อยๆ
"ต่างสิ ฉันก็จะปลอบใจเธอ ฉันก็จะดูแลเธอ ฉันก็จะทำให้เธอลืมเขาได้ไงล่ะ ถ้าหากเขายังอยู่ที่นี่ เธอเองก็จะยังคงมองไปที่เขาไม่ใช่จิเสะคนนี้! แต่ฉันจะสร้างความหวังและโอกาสขึ้นมาเอง"
เด็กสาวโยนยันต์รูปแบบเดียวกับที่ลอยอยู่บนฟ้าขึ้นไป ตอนนี้สายฟ้าจึงปรากฏขึ้นสองสาย ฟาดผ่าใส่ร่างของมาซารุจนสติเขาเลือนลางเต็มที ไม่สิ ร่างที่มีละอองสีฟ้าของเขาก็จางลงไปบางส่วนแล้วเช่นกัน
เด็กสาวในชุดมิโกะมองภาพนั้นอย่างสาสมใจปนหงุดหงิด ถ้าเธอแข็งแกร่งกว่านี้คงไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนี้หรอก แต่ให้วิญญาณตนนี้เจ็บปวดเหมือนเธอก็ดีเหมือนกัน
"มาซารุ! พยามหนีสิ! พยามเข้า!" จุนตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง...และเขาก็ทำได้แค่ตะโกนอยู่แบบนั้น ไม่ได้ช่วยอะไรเลย...
"ถ้า...ถ้าข้าตอบโต้นาง เจ้าจะไม่หนีข้าไปแน่นะ" มาซารุเอ่ยอย่างยากเย็น "ถ้าข้าเผลอทำร้ายนาง เจ้าจะโกรธข้าไหม"
ร่างเด็กหนุ่มชาวาบ นี่มันบ้าชัดๆ ที่มาซารุไม่ตอบโต้่อะไรก็เพียงเพื่อเรื่องแค่้นั้นเนี่ยนะ จุนกำหมัดแน่น ความโกรธแล่นริ้วขึ้นมา โกรธทั้งจิเสะ ทั้งตัวเอง ทั้งมาซารุ!
"เลิกทำเพื่อผมได้แล้ว! ผมไม่หนีเธอไปเพราะแค่โกรธหรือเพียงเรื่องบ้าๆ ได้ยินไหม! ผมไม่ได้อยู่กับเธอเพราะเธอทำให้ผมสบายใจได้เท่านั้นนะ!" เขาตะโกนเสียงดังให้มันออกมา่จากความรู้สึก "แต่ถ้าเธอไม่คิดถึงตัวเองให้มากกว่านี้ผมจะหนีไปจากเธอจริงๆด้วย!"
มาซารุเบิกตากว้างอย่างนึกไม่ถึง ก่อนจะยิ้มออกมา เขาหลับตาลงเหมือนจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับอากาศและสายลมบนนภา ละอองสีฟ้าอ่อนลอยขึ้นมาจากพื้นดินจากทั่วทั้งภูเขาฟุมิเนเนะ ร่างที่จางกลับมาปกติเหมือนเดิม มิหนำซ้ำ ละอองสีฟ้ารอบกายยังหนาแน่นขึ้นกว่าเดิืมด้วย
เพียงมาซารุสะบัดข้อมือเบาๆ ยันต์ทั้งหมดก็ขาดครึ่งเหมือนโดนคมดาบตัดขาดและหมดพลังไปในทันที สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว!
"ผู้เป็นสายเลือดของท่านองเมียวจิมิสึกาวะ เขตแดนภูเขานี้คือที่ของข้า ฉะนั้น หากข้าต่อต้าน พลังของเจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอจะต้านทาน ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้า เพราะฉะนั้น เจ้ายอมแพ้เถอะ"
"ยอมแพ้เหรอ" จิเสะทวนคำด้วยความโกรธขึ้ง พูดเสียงต่ำ "ถ้าจะยอมแพ้ฉันคงยอมไปนานแล้ว!"
ยันต์ห้าใบถูกเหวี่ยงมาปะทะกับส่วนต่างๆของร่างกายมาซารุ แต่มันกลับสูญสลายไปเมื่อละอองสีฟ้าสัมผัสโดน
"ฉันพบจุนก่อนหน้าคุณ! คุณไม่มีสิทธิ์มาแย่งเขาไป"
"ข้าพบกับเขาเมื่อหลายร้อยปีที่แล้วและรอมาตลอด"
มาซารุพูดไปก็เดินเข้าไปใกล้ฝ่าย แต่สิ่งที่ได้รับคือจิเสะที่แค่นยิ้ม
"จะใช่หรือไม่ใช่จุนก็ไม่รู้ ถึงจะใช่คนที่คุณรอมาตลอดก็เถอะ แต่เขาก็ถือกำเนิดขึ้นใหม่แล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ถึงจะสร้างความรักขึ้นอีกครั้งก็ไร้ค่า เขาไม่ใช่คนเดียวกับที่คุณรอหรอก"
วิญญาณในชุดกิโมโนเองส่ายหน้า "มันไม่ใช่เรื่องชาติภพ ข้าได้พบกับ 'จุน' เมื่อหลายร้อยปีก่อนจริงๆ"
"พูดบ้าๆ!"
เด็กสาวพยามเหวี่ยงยันต์อันแล้วอันเล่า บางส่วนโดนร่างของมาซารุแล้วสลายไป บางส่วนก็ไม่โดนหรือยันต์บางแผ่นถูกหลบได้
รถของไซโตะแล่นเข้ามาและพวกเขาวิ่งมาที่ศาลเจ้าได้โดยไม่ติดขัดเพราะหมอกทั้งหลายถูกจิเสะทำลายไปก่อนหน้านี้แล้ว จินเนะซึ่งรีบวิ่งเพราะอยากฟังสิ่งที่พี่ชายอยากบอกจนเกือบหกล้มหน้าคว่ำเพราะสวมส้นสูง แน่นอนว่าส้นรองเท้าได้หักไปแล้ว
เด็กสาวร้องลั่นเมื่อถูกช้อนตัว "อ๊ะ! ปล่อยนะ"
ไซโตะ "ถ้าอยากขึ้นไปเร็วๆก็อย่าดิ้นน่า"
ชายหนุ่มอุ้มจินเนะในท่าเจ้าหญิงวิ่งขึ้นไปตามบันไดของศาลเจ้า จนกระทั่งได้พบกับจุนซึ่งยื่นอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เขาโดนจิเสะผลักไปกระแทกโดยไม่ระวังนั่นเอง
จินเนะถูกปล่อยลงพื้นก็ตรงไปเขย่าคอเสื้อพี่ชายเป็นการใหญ่ "รีบบอกมานะ! บอกมาสิ"
"เดี๋ยว...เดี๋ยว" เด็กหนุ่มผู้มึนหัวไปหมดแล้วรีบห้าม "ผม...ผมเวียนหัวนะ"
ไซโตะรวบมือของเด็กสาวที่สูงแค่ระดับอกไว้เหนือศีรษะของเธอ จนคล้ายท่ากระโดดตบ สิ่งนั้นทำให้จุนนึกขอบคุณเขาในใจ
ไซโตะชี้ไปที่มาซารุ "นั่นวิญญาณในตำนานเหรอ"
จุนพยักหน้า ความรู้สึกขอบคุณในใจสลายไปนิดหน่อย สำหรับเขาแล้วไม่อยากให้ใครต่อใครมองว่ามาซารุเป็นตัวประหลาดหรอกนะ แต่ไซโตะัจับความรู้สึกนั้นได้และกล่าวขอโทษที่เขาอาจเสียมารยาทไปบ้าง
ด้านมาซารุเดินเข้ามาใกล้จิเสะซึ่งแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้เป็นด้านบวกแต่ยังคงมีสีหน้าไม่ยอมแพ้
"อย่าคิดว่าตัวเองใช้หมอกได้คนเดียว!"
จิเสะเหวี่ยงยันต์ไปที่ด้านหลังของมาซารุแต่ใกล้กับบริเวณของจุน หมอกหนาทึบปรากฏจากยันต์นั้นเหมือนกับเป็นเครื่องผลิตน้ำขนาดใหญ่ต่างจากรูปร่างของมันและที่ยันต์สีเหลืองผลิตก็ไม่ใช่น้ำแต่เป็นหมอกควันสีเทาเท่านั้นเอง
วิญญาณในชุดกิโมโนขมวดคิ้ว "เจ้าทำอะไรนะ"
ยิ้มของเด็กสาวดูเยือกเย็นและแววตาที่อำมหิตเหมือนกับนักฆ่าที่กำลังลงมือกับเหยื่อ "ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บคนที่ไม่รักฉันไว้นี่"
จิเสะไม่ต้องรอให้ตัวเองพูดจบก็หยิบดาบโบราณเล่มหนึ่งออกมาจากฝักดาบซึ่งคล้องเอาำไว้ด้านหลัง
ละอองสีฟ้าคล้ายหิ่งห้อยมารวมตัวกันที่ฝ่ามือของมาซารุก่อนจะกลายเป็นดาบซึ่งแขวนอยู่ที่กำแพงในศาลเจ้าฟุมิเนเนะนั่นเอง
"ดูจากการจับด้ามดาบ เจ้าคงไม่มีความรู้เรื่องอาวุธในมือเท่าไหร่หรอก บอกมาว่าเจ้าทำอะไรกับจุน แล้วข้าจะไม่ทำให้เจ้าบาดเจ็บ"
มาซารุพูดด้วยเสียงไร้อารมณ์และตวัดดาบจนเกิดเสียงผ่านอากาศเพื่อข่มขวัญศัตรู ซึ่งก็คือจิเสะที่ส่ายหน้าเบาๆ มองอีกฝ่ายอย่างดูแคลน "แค่โดนก็พอ จะแผลลึกบางแค่ไหนก็ได้่...แค่สัมผัสร่างกายคุณได้ก็พอ!"
มาซารุตั้งท่ารับดาบของจิเสะอย่างง่ายดายและปัดดาบของเธอกระเด็นไป เด็กสาวไม่ใช่คนที่ชอบออกกำลังกายรวมทั้งไม่เก่งในวิชาพละจึงไม่ได้มีแรงมหาศาลอะไร
แสงสีฟ้ารวมตัวกันเป็นสาย มัดแขนขาของจิเสะทันที เด็กสาวมองดาบซึ่งโดนปัดกระเด็นและยันต์ที่อยู่ในกระเป๋าแต่กลับเอื้อมไปหยิบไม่ได้แล้วทรุดลงอย่างผู้ที่พ่ายแพ้
"มาซารุ!" จุนวิ่งฝ่าสายหมอกออกมา "เธอปลอดภัยไหม อ๊ะ นี่เธอทำอะไรกันบ้างเนี่ย รีบแก้มัดให้จิเสะเถอะ!"
เด็กหนุ่มที่สิ่งฝ่าสายหมอกมาได้มองแสงสีฟ้าสลายหายไป แล้วรีบวิ่งมาดึงมาซารุไปไหลจากจิเสะโดยที่ไม่คิดเหลียวมองเธออีกแม้แต่น้อย จนกระทั่งเข้าไปในสายหมอกก็หยุด "คงปลอดภัยแล้วล่ะ"
แต่วิญญาณในชุดกิโมโนพูดด้วยเสียงเย็นชา "เจ้าไม่ใช่มาซารุ เจ้าเป็นใครและคิดจะทำอะไรกันแน่"
มือของจุนที่มือมาซารุจับอยู่กลายเ็ป็นกระดาษไป ทันใดนั้น เสียงปืนนัดหนึ่งดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงัน สายหมอกทั้งหลายค่อยๆจางลงโดยมีลูกปืนนัดหนึ่งแทงทะลุต้นเหตุของมันอยู่กับพื้นดิน
ไซโตะควงปืนอย่างชำนาญแล้วยักคิ้ว "เอามาป้องกันตัวนะ"
"แล้วทำไมไม่วิ่งไปฉีกมันตั้งแต่แรกล่ะยะ!"
เขายักไหล่ "ก็แค่ดูสถานการณ์ไปก่อนเท่านั้นเอง แถมดูมันไม่ค่อยจะน่าเข้าใกล้ซะด้วยสิ"
จิเสะเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ในมือแกว่งดาบโบราณไปมาพร้อมรอยยิ้ม "นั่นคือชิกิงามิ เหมือนจุนคุงมากเลยเนอะ"
เด็กหนุ่มที่มองเหตุการณ์ทั้งหมดได้ชัดเจนเพราะหมอกจางลงไปแล้วรีบตะโกนเสียงดัง "รีบหนีเร็ว!"
มาซารุหันไปตามเสียงจุนตัวจริงแล้วมองที่ใต้เท้าของตนเองซึ่งเป็นวงกลมสีฟ้าแบบเดียวกับละอองของเขาแล้วขมวดคิ้ว "ขยับไม่ได้งั้นเหรอ"
เมื่อได้ยินดังนั้น เด็กหนุ่มไม่รอช้าที่จะวิ่งไปหามาซารุท่ามกลางความตกใจของทุกคนรวมทั้งจิเสะด้วย เขาไม่อยากได้แค่ตะโกนแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว!
"ไม่ได้นะ จุนคุง! มันจะสลายวิญญาณของเธอไปด้วย!"
ราวกับเท้าของร่างในชุดกิโมโนมีแม่เหล็กติดอยู่กับพื้นดิน มาซารุซึ่งได้ยินจิเสะพูดพยามผลักไสจุนออกไปเต็มที่พร้อมๆกับพยามทำลายแสงสีฟ้าที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินไปด้วย เพียงแต่ยันต์ที่อยู่ตรงกลางอาณาเขตวงกลมนี้เหมือนจะมีรัศมีปกป้องครอบอยู่
มาซารุรวบรวมละอองสีฟ้ามาไว้ในกำมือทั้งสองแล้วจี้ไปที่ยันต์นั่นสุดกำลังจนเกิดเป็นประกายสายฟ้าแปลบปลาบ
ในที่สุด พลังของมาซารุก็สามารถเจาะเกราะป้องกันของแผ่นยันต์ได้ ในตอนนั้นเองที่แสงสว่างวาบที่เกิดจากการปะทะของสองพลัง สว่างไสวไปทั่วภูเขาฟุมิเนเนะยามค่ำคืน...
จิเสะสะบัดร่างของจุนไปจนกระแทกกับต้นไ้ม้ใหญ่ในศาลเจ้าฟุมิเนเนะ มาซารุมีปฏิกริยาขึ้นมาทันที เขารีบวิ่งไปหาคนที่สำคัญที่สุดของตนโดยไม่ทันมองจิเสะซึ่งเหวี่ยงยันต์มาที่กลางหลังของเขา!
ร่างในชุดกิโมโนทรุดลงต่อหน้าต่อตาโดยมือนั้นพยามจะเอื้อมไปหาจุน ใช่แล้ว...ทั้งแววตาทั้งท่าทาง มันช่างเหมือนกับจิเสะเมื่อครู่ไม่มีผิดเพี้ยน
เพียงแต่คราวนี้ จุนวิ่งไปหามาซารุเท่านั้นเอง...
สีหน้าของจิเสะดูนิ่งและเย็นชาต่างจากในจิตใจ เธอเหวี่ยงยันต์ไปก่อนที่จุนจะถึงตัวมาซารุ ทันใดนั้น สิ่งที่เหมือนกับบาเรียสีฟ้าใสก็ปรากฏขึ้นมาแทนกำแพงที่กั้นระหว่างคนทั้งสอง
จิเสะหยิบยันต์ออกมาจากกระเป๋าสะพายเพื่อเหวี่ยงขึ้นไปบนฟ้า ชักนำร่างของมาซารุให้ถูกดึงขึ้นไป ตอนนั้นเองที่จุนสังเกตว่ายันต์ที่กลางหลังของมาซารุมีโซ่สีฟ้าเข้มเรืองแสงติดปลายอยู่กับพื้นดิน
ยันต์ที่ลอยอยู่บนฟ้ามีแสงสีทองไล่ไปตามอักษรสีแดงตั้งแต่ต้นจนเมื่อสุด สายฟ้าขนาดใหญ่ก็ผ่าใส่ร่างของมาซารุ!
ถึงจะดูไม่มีบาดแผลหรืออาการผิวหนังไหม้อย่างเมื่อครู่ก็ตาม แต่ท่าทางของวิญญาณในชุดกิโมโนก็ดูเจ็บปวดมาก
"อีกแป๊ปเดียวนะ จุนคุง รับรองได้เลยว่าฉันจะจัดการ 'ไม่ให้เหลือซาก' เลยล่ะ"
เด็กหนุ่มฟังจิเสะเน้นเสียงแล้วหวาดผวา ท่าทางอำมหิตซะจนเขาไม่คาดคิดว่าเด็กสาวที่ใจดีอ่อนโยนอย่างเธอจะแสดงออกมาได้
ทำไงดี... ทำไงดี...
เสียงมือถือดังขึ้นมาขัดจังหวะความคิดของจุน ชื่อเบอร์โทรเข้ากลับเป็นคนที่ไม่น่าคุยที่สุดในช่วงเวลานี้ ถึงอย่างนั้นเขาก็กดรับ
"เอาใบตารางงานฉันไปหรือเปล่า..."
"ช่้วยด้วย!" จุนตะโกนใส่มือถืออย่างลนลาน มองดูมาซารุซึ่งโดนสายฟ้าผ่าใส่รอบที่ห้าอย่างทำอะไรไม่ถูก แต่คนปลายสายกลับคิ้วกระตุกกึก ตวาดลงโืทรศัพท์สีชมพูลายการ์ตูน
"อย่าตะโกนใส่มือถือสิยะ เสียมารยาท!"
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เธอกลับตอบกลับด้วยเสียงที่ดังกว่าจุนสักสิบเท่าได้
"มาที่ศาลเจ้าฟุมิเนเนะด่้วนเลย"
จินเนะกล่าวเยาะๆ "เรื่องอะไร..."
"แล้วฉันจะเล่าเรื่องความจริงในตอนนั้นให้เธอฟัง แต่ตอนนี้มาที่นี่ก่อน!"
จินเนะมองมือถือซึ่งถูกตัดสายอย่างงุนงง ตอนแรกเธอคิดว่าคงจะเป็นการโดนอันธพาลรุมหาเรื่องหรืออะไรที่มันปกติๆ แต่เมื่อคิดดูแล้ว จุนถึงขั้นขอความช่วยเหลือจากเธอคงไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วล่ะ
เด็กสาวมองไซโตะที่กำลังมุ่งหน้าไปส่งเธอที่บ้านแล้วบอกจุดหมายใหม่ให้แทนโดยไม่อธิบายอะไรทั้งนั้นเพราะเธอเองก็จับต้นชนปลายไม่ถูกเหมือนกัน
"ฮึ่ย!"
จุนพยามดันเจ้าเขตอาคมที่จิเสะสร้างขึ้นมาอย่าสุดกำลัง สภาพผิวสัมผัสมันนุ่มๆเด้งๆเหมือนเยลลี่ แต่ทำไมถึงไม่ขาดสักทีนะ!
"มันไม่ถูกทำลายง่ายๆหรอกนะ จุนคุง เธอเลิกพยามดีกว่า เดี๋ยวฉันจะจัดการให้เสร็จไวๆ เธอจะกลับมารักฉันและมีวิถีชีวิตที่ปกติเหมือนเดิมแล้ว"
จิเสะพูดด้วยแววตาที่ไร้อารมณ์ทั้งที่กำลังยิ้มบางๆให้กับเด็กหนุ่ม เป็นครั้งแรกที่จุนเกลียดคนที่ยิ้มให้นอกจากน้องสาวของตัวเองนะ!
"ผมจะกลัีบไปกับเธอก็ได้ แต่หยุดทำร้ายมาซารุซังเถอะ!"
เด็กสาวชุดมิโกะหันกลับมาตะโกนใส่เขา "จุนคุงเองก็ดูถูกความรักของฉันเหมือนกันแหละ! ฉันไม่อยากได้แค่ร่างกาย ฉันอยากได้ความรักจากจุนคุงด้วย เข้าใจไหม! ตราบใดที่มาซารุยังอยู่ที่นี่ เธอเองคงไม่มีทางรักฉันได้อีกครั้งหรอก!"
"ถ้ามาซารุซังหายไปแล้วมันต่างจากเดิมตรงไหนกัน ยังไงผมก็คงไม่มีทางกลับไปรักเธอได้หรอกนะ"
จุนพยามเกลี้ยกล่อม แต่เด็กสาวพูดทั้งน้ำตาที่ไหลลงมาเรื่อยๆ
"ต่างสิ ฉันก็จะปลอบใจเธอ ฉันก็จะดูแลเธอ ฉันก็จะทำให้เธอลืมเขาได้ไงล่ะ ถ้าหากเขายังอยู่ที่นี่ เธอเองก็จะยังคงมองไปที่เขาไม่ใช่จิเสะคนนี้! แต่ฉันจะสร้างความหวังและโอกาสขึ้นมาเอง"
เด็กสาวโยนยันต์รูปแบบเดียวกับที่ลอยอยู่บนฟ้าขึ้นไป ตอนนี้สายฟ้าจึงปรากฏขึ้นสองสาย ฟาดผ่าใส่ร่างของมาซารุจนสติเขาเลือนลางเต็มที ไม่สิ ร่างที่มีละอองสีฟ้าของเขาก็จางลงไปบางส่วนแล้วเช่นกัน
เด็กสาวในชุดมิโกะมองภาพนั้นอย่างสาสมใจปนหงุดหงิด ถ้าเธอแข็งแกร่งกว่านี้คงไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนี้หรอก แต่ให้วิญญาณตนนี้เจ็บปวดเหมือนเธอก็ดีเหมือนกัน
"มาซารุ! พยามหนีสิ! พยามเข้า!" จุนตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง...และเขาก็ทำได้แค่ตะโกนอยู่แบบนั้น ไม่ได้ช่วยอะไรเลย...
"ถ้า...ถ้าข้าตอบโต้นาง เจ้าจะไม่หนีข้าไปแน่นะ" มาซารุเอ่ยอย่างยากเย็น "ถ้าข้าเผลอทำร้ายนาง เจ้าจะโกรธข้าไหม"
ร่างเด็กหนุ่มชาวาบ นี่มันบ้าชัดๆ ที่มาซารุไม่ตอบโต้่อะไรก็เพียงเพื่อเรื่องแค่้นั้นเนี่ยนะ จุนกำหมัดแน่น ความโกรธแล่นริ้วขึ้นมา โกรธทั้งจิเสะ ทั้งตัวเอง ทั้งมาซารุ!
"เลิกทำเพื่อผมได้แล้ว! ผมไม่หนีเธอไปเพราะแค่โกรธหรือเพียงเรื่องบ้าๆ ได้ยินไหม! ผมไม่ได้อยู่กับเธอเพราะเธอทำให้ผมสบายใจได้เท่านั้นนะ!" เขาตะโกนเสียงดังให้มันออกมา่จากความรู้สึก "แต่ถ้าเธอไม่คิดถึงตัวเองให้มากกว่านี้ผมจะหนีไปจากเธอจริงๆด้วย!"
มาซารุเบิกตากว้างอย่างนึกไม่ถึง ก่อนจะยิ้มออกมา เขาหลับตาลงเหมือนจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับอากาศและสายลมบนนภา ละอองสีฟ้าอ่อนลอยขึ้นมาจากพื้นดินจากทั่วทั้งภูเขาฟุมิเนเนะ ร่างที่จางกลับมาปกติเหมือนเดิม มิหนำซ้ำ ละอองสีฟ้ารอบกายยังหนาแน่นขึ้นกว่าเดิืมด้วย
เพียงมาซารุสะบัดข้อมือเบาๆ ยันต์ทั้งหมดก็ขาดครึ่งเหมือนโดนคมดาบตัดขาดและหมดพลังไปในทันที สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว!
"ผู้เป็นสายเลือดของท่านองเมียวจิมิสึกาวะ เขตแดนภูเขานี้คือที่ของข้า ฉะนั้น หากข้าต่อต้าน พลังของเจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอจะต้านทาน ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้า เพราะฉะนั้น เจ้ายอมแพ้เถอะ"
"ยอมแพ้เหรอ" จิเสะทวนคำด้วยความโกรธขึ้ง พูดเสียงต่ำ "ถ้าจะยอมแพ้ฉันคงยอมไปนานแล้ว!"
ยันต์ห้าใบถูกเหวี่ยงมาปะทะกับส่วนต่างๆของร่างกายมาซารุ แต่มันกลับสูญสลายไปเมื่อละอองสีฟ้าสัมผัสโดน
"ฉันพบจุนก่อนหน้าคุณ! คุณไม่มีสิทธิ์มาแย่งเขาไป"
"ข้าพบกับเขาเมื่อหลายร้อยปีที่แล้วและรอมาตลอด"
มาซารุพูดไปก็เดินเข้าไปใกล้ฝ่าย แต่สิ่งที่ได้รับคือจิเสะที่แค่นยิ้ม
"จะใช่หรือไม่ใช่จุนก็ไม่รู้ ถึงจะใช่คนที่คุณรอมาตลอดก็เถอะ แต่เขาก็ถือกำเนิดขึ้นใหม่แล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ถึงจะสร้างความรักขึ้นอีกครั้งก็ไร้ค่า เขาไม่ใช่คนเดียวกับที่คุณรอหรอก"
วิญญาณในชุดกิโมโนเองส่ายหน้า "มันไม่ใช่เรื่องชาติภพ ข้าได้พบกับ 'จุน' เมื่อหลายร้อยปีก่อนจริงๆ"
"พูดบ้าๆ!"
เด็กสาวพยามเหวี่ยงยันต์อันแล้วอันเล่า บางส่วนโดนร่างของมาซารุแล้วสลายไป บางส่วนก็ไม่โดนหรือยันต์บางแผ่นถูกหลบได้
รถของไซโตะแล่นเข้ามาและพวกเขาวิ่งมาที่ศาลเจ้าได้โดยไม่ติดขัดเพราะหมอกทั้งหลายถูกจิเสะทำลายไปก่อนหน้านี้แล้ว จินเนะซึ่งรีบวิ่งเพราะอยากฟังสิ่งที่พี่ชายอยากบอกจนเกือบหกล้มหน้าคว่ำเพราะสวมส้นสูง แน่นอนว่าส้นรองเท้าได้หักไปแล้ว
เด็กสาวร้องลั่นเมื่อถูกช้อนตัว "อ๊ะ! ปล่อยนะ"
ไซโตะ "ถ้าอยากขึ้นไปเร็วๆก็อย่าดิ้นน่า"
ชายหนุ่มอุ้มจินเนะในท่าเจ้าหญิงวิ่งขึ้นไปตามบันไดของศาลเจ้า จนกระทั่งได้พบกับจุนซึ่งยื่นอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เขาโดนจิเสะผลักไปกระแทกโดยไม่ระวังนั่นเอง
จินเนะถูกปล่อยลงพื้นก็ตรงไปเขย่าคอเสื้อพี่ชายเป็นการใหญ่ "รีบบอกมานะ! บอกมาสิ"
"เดี๋ยว...เดี๋ยว" เด็กหนุ่มผู้มึนหัวไปหมดแล้วรีบห้าม "ผม...ผมเวียนหัวนะ"
ไซโตะรวบมือของเด็กสาวที่สูงแค่ระดับอกไว้เหนือศีรษะของเธอ จนคล้ายท่ากระโดดตบ สิ่งนั้นทำให้จุนนึกขอบคุณเขาในใจ
ไซโตะชี้ไปที่มาซารุ "นั่นวิญญาณในตำนานเหรอ"
จุนพยักหน้า ความรู้สึกขอบคุณในใจสลายไปนิดหน่อย สำหรับเขาแล้วไม่อยากให้ใครต่อใครมองว่ามาซารุเป็นตัวประหลาดหรอกนะ แต่ไซโตะัจับความรู้สึกนั้นได้และกล่าวขอโทษที่เขาอาจเสียมารยาทไปบ้าง
ด้านมาซารุเดินเข้ามาใกล้จิเสะซึ่งแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้เป็นด้านบวกแต่ยังคงมีสีหน้าไม่ยอมแพ้
"อย่าคิดว่าตัวเองใช้หมอกได้คนเดียว!"
จิเสะเหวี่ยงยันต์ไปที่ด้านหลังของมาซารุแต่ใกล้กับบริเวณของจุน หมอกหนาทึบปรากฏจากยันต์นั้นเหมือนกับเป็นเครื่องผลิตน้ำขนาดใหญ่ต่างจากรูปร่างของมันและที่ยันต์สีเหลืองผลิตก็ไม่ใช่น้ำแต่เป็นหมอกควันสีเทาเท่านั้นเอง
วิญญาณในชุดกิโมโนขมวดคิ้ว "เจ้าทำอะไรนะ"
ยิ้มของเด็กสาวดูเยือกเย็นและแววตาที่อำมหิตเหมือนกับนักฆ่าที่กำลังลงมือกับเหยื่อ "ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บคนที่ไม่รักฉันไว้นี่"
จิเสะไม่ต้องรอให้ตัวเองพูดจบก็หยิบดาบโบราณเล่มหนึ่งออกมาจากฝักดาบซึ่งคล้องเอาำไว้ด้านหลัง
ละอองสีฟ้าคล้ายหิ่งห้อยมารวมตัวกันที่ฝ่ามือของมาซารุก่อนจะกลายเป็นดาบซึ่งแขวนอยู่ที่กำแพงในศาลเจ้าฟุมิเนเนะนั่นเอง
"ดูจากการจับด้ามดาบ เจ้าคงไม่มีความรู้เรื่องอาวุธในมือเท่าไหร่หรอก บอกมาว่าเจ้าทำอะไรกับจุน แล้วข้าจะไม่ทำให้เจ้าบาดเจ็บ"
มาซารุพูดด้วยเสียงไร้อารมณ์และตวัดดาบจนเกิดเสียงผ่านอากาศเพื่อข่มขวัญศัตรู ซึ่งก็คือจิเสะที่ส่ายหน้าเบาๆ มองอีกฝ่ายอย่างดูแคลน "แค่โดนก็พอ จะแผลลึกบางแค่ไหนก็ได้่...แค่สัมผัสร่างกายคุณได้ก็พอ!"
มาซารุตั้งท่ารับดาบของจิเสะอย่างง่ายดายและปัดดาบของเธอกระเด็นไป เด็กสาวไม่ใช่คนที่ชอบออกกำลังกายรวมทั้งไม่เก่งในวิชาพละจึงไม่ได้มีแรงมหาศาลอะไร
แสงสีฟ้ารวมตัวกันเป็นสาย มัดแขนขาของจิเสะทันที เด็กสาวมองดาบซึ่งโดนปัดกระเด็นและยันต์ที่อยู่ในกระเป๋าแต่กลับเอื้อมไปหยิบไม่ได้แล้วทรุดลงอย่างผู้ที่พ่ายแพ้
"มาซารุ!" จุนวิ่งฝ่าสายหมอกออกมา "เธอปลอดภัยไหม อ๊ะ นี่เธอทำอะไรกันบ้างเนี่ย รีบแก้มัดให้จิเสะเถอะ!"
เด็กหนุ่มที่สิ่งฝ่าสายหมอกมาได้มองแสงสีฟ้าสลายหายไป แล้วรีบวิ่งมาดึงมาซารุไปไหลจากจิเสะโดยที่ไม่คิดเหลียวมองเธออีกแม้แต่น้อย จนกระทั่งเข้าไปในสายหมอกก็หยุด "คงปลอดภัยแล้วล่ะ"
แต่วิญญาณในชุดกิโมโนพูดด้วยเสียงเย็นชา "เจ้าไม่ใช่มาซารุ เจ้าเป็นใครและคิดจะทำอะไรกันแน่"
มือของจุนที่มือมาซารุจับอยู่กลายเ็ป็นกระดาษไป ทันใดนั้น เสียงปืนนัดหนึ่งดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงัน สายหมอกทั้งหลายค่อยๆจางลงโดยมีลูกปืนนัดหนึ่งแทงทะลุต้นเหตุของมันอยู่กับพื้นดิน
ไซโตะควงปืนอย่างชำนาญแล้วยักคิ้ว "เอามาป้องกันตัวนะ"
"แล้วทำไมไม่วิ่งไปฉีกมันตั้งแต่แรกล่ะยะ!"
เขายักไหล่ "ก็แค่ดูสถานการณ์ไปก่อนเท่านั้นเอง แถมดูมันไม่ค่อยจะน่าเข้าใกล้ซะด้วยสิ"
จิเสะเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ในมือแกว่งดาบโบราณไปมาพร้อมรอยยิ้ม "นั่นคือชิกิงามิ เหมือนจุนคุงมากเลยเนอะ"
เด็กหนุ่มที่มองเหตุการณ์ทั้งหมดได้ชัดเจนเพราะหมอกจางลงไปแล้วรีบตะโกนเสียงดัง "รีบหนีเร็ว!"
มาซารุหันไปตามเสียงจุนตัวจริงแล้วมองที่ใต้เท้าของตนเองซึ่งเป็นวงกลมสีฟ้าแบบเดียวกับละอองของเขาแล้วขมวดคิ้ว "ขยับไม่ได้งั้นเหรอ"
เมื่อได้ยินดังนั้น เด็กหนุ่มไม่รอช้าที่จะวิ่งไปหามาซารุท่ามกลางความตกใจของทุกคนรวมทั้งจิเสะด้วย เขาไม่อยากได้แค่ตะโกนแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว!
"ไม่ได้นะ จุนคุง! มันจะสลายวิญญาณของเธอไปด้วย!"
ราวกับเท้าของร่างในชุดกิโมโนมีแม่เหล็กติดอยู่กับพื้นดิน มาซารุซึ่งได้ยินจิเสะพูดพยามผลักไสจุนออกไปเต็มที่พร้อมๆกับพยามทำลายแสงสีฟ้าที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินไปด้วย เพียงแต่ยันต์ที่อยู่ตรงกลางอาณาเขตวงกลมนี้เหมือนจะมีรัศมีปกป้องครอบอยู่
มาซารุรวบรวมละอองสีฟ้ามาไว้ในกำมือทั้งสองแล้วจี้ไปที่ยันต์นั่นสุดกำลังจนเกิดเป็นประกายสายฟ้าแปลบปลาบ
ในที่สุด พลังของมาซารุก็สามารถเจาะเกราะป้องกันของแผ่นยันต์ได้ ในตอนนั้นเองที่แสงสว่างวาบที่เกิดจากการปะทะของสองพลัง สว่างไสวไปทั่วภูเขาฟุมิเนเนะยามค่ำคืน...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ