The mission plan. ปฏิบัติการร้ายเปลี่ยนหัวใจนายแบดบอย
9.5
3) แรกพบไม่สบชะตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแรกพบไม่สบชะตา
9:15 am
ฉันลงจากแท็กซี่มายืนกดกริ่งที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง แต่ฉันว่ามันควรถูกเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่า อะไรจะกว้างใหญ่ไพศาลขนาดนี้ ในใจก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าจะเจออะไรบ้าง รู้สึกผิดเหมือนกันนะเนี่ยที่มาสาย แต่ว่าฉันมาสายแค่สิบห้านาทีเองนะ นายอาฟเตอร์อะไรนั่นคงไม่ว่าหรอกมั้ง ก็แค่นัดเจอกับคู่หมั้นนี่ คนกันเองจะตายไป
“แอ๊ด...”
เลียงประตูรั้วเปิดขึ้น พร้อมใบหน้าที่ดูใจดีของคุณป้าที่มีอายุคนหนึ่งซึ่งฉันเดาเอาว่าน่าจะเป็นแม่บ้าน
“คุณหนูต้นหอมใช่ไหมคะ คุณผู้หญิงกับคุณหนูรออยู่ด้านในค่ะ”
“ค่ะ”
ฉันตอบพร้อมเดินตามป้าแม่บ้านเข้าไปภายในบ้าน บ้านหลังนี้ใหญ่มากจริงๆ อยู่กันกี่คนเนี่ย
“คุณหนูต้นหอมมาแล้วค่ะคุณผู้หญิง”
เสียงป้าแม่บ้านบอกคุณผู้หญิงของแกที่นั่งอยู่ที่โซฟา ซึ่งข้างๆ มีเด็กผู้ชายหน้าตาดี(มาก)อายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉันนั่งอยู่ เดาได้ไม่อยากเลยว่าเป็นใคร
“สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะที่หนูมาสาย”
ฉันกล่าวทักทายพร้อมเอ่ยคำขอโทษไปอย่างสุภาพ ตามมารยาทที่ควรจะเป็น
“ไม่เป็นไรจ่ะ นั่งก่อนสิจ๊ะ”
นายจ้างของฉันตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ฉันชอบรอยยิ้มของคนบ้านนี้จริงๆ ท่าทางจะใจดีกันทั้งบ้าน ^#^
“อาฟเตอร์นี่หนูต้นหอมคู่หมั้นของลูก”
เสียงของผู้เป็นแม่บอกกับนายอาฟเตอร์ผู้เป็นลูกชาย ตอนนี้นายนั่นกำลังมองมาทางฉันอยู่พอดี อ๋อย >///< เค้าหล่อจังเลยแฮะ ดีนะที่ฉันมีภูมิต้านทานผู้ชายหล่ออยู่บ้าง ไม่งั้นป่านนี้คงเขินจนละลายไปแล้ว แต่ว่านะ.. สายตาของเขาที่มองฉันกลับมันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้
“สวัสดีค่ะ”
ฉันปั้นหน้ากล่าวทักทายไปพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสให้กับว่าที่คู่หมั้นกำมะลอสุดหล่อ
“อืม”
เขาตอบกลับมาพร้อมใบหน้าที่เฉยชา แถมสายตาและน้ำเสียงยังดุอีกต่างหาก ใจคอไม่คิดจะยิ้มบ้างรึไงนะ เห็นแล้วรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาเลยแฮะ
“อาฟเตอร์คุยกับหหนูต้นหอมหน่อยสิลูก”
ผู้เป็นแม่พูดกับลูกชายด้วยน้ำเสียงที่ดูดุขึ้นเล็กน้อย แต่สำหรับฉันมันก็ยังคงใจดีอยู่นั่นแหละ
พอแม่ของเขาพูดจบ นายอาฟเตอร์เลยเงยหน้ามองฉันอีกครั้ง พร้อมกับพูดว่า..
“หึ! เธอเนี่ยนะจะมาเป็นคู่หมั้นของฉัน แค่นัดครั้งแรกก็มาสายแล้ว มารยาทน่ะมีไหม ถึงได้ปล่อยให้คนอื่นนั่งรออยู่อย่างนี้”
“...”
อาฟเตอร์เงยหน้าขึ้นมาคุย เรียกว่าด่าฉันน่าจะดีกว่า แม่นายบอกให้นายคุยกับฉันไม่ใช่เหรอทำไมกลายเป็นฉันโดนนายด่าเนี่ย แล้วนายนี่หมอนี่เป็นผู้ชายประเภทไหนกันทำไมถึงได้คอเราะร้ายขนาดนี้ ดูพูดแต่ละคำสิทำยังกะฉันไปเผาบ้านอย่างนั้นแหละ!
“อาฟเตอร์”
แม่ของอีตาปากจัดเอ่ยขึ้นอย่างดุๆ เพื่อปรามอีตานั่น แต่เหมือนจะไม่ทันนะคะ เพราะมันหลังจากเขาด่าฉันไปแล้ว T^T
“ฉันรู้ค่ะ ว่าฉันสายจนต้องให้คนอื่นมานั่งรอ ฉันขอโทษนะคะ”
ฉันพยายามสงบสติอารมณ์และนับหนึ่งถึงสิบไว้ในใจ เย็นไว้ต้นหอมเย็นไว้
“แค่ขอโทษงั้นเหรอ คงคิดว่าการนัดเจอคู่หมั้นมันไม่สำคัญสินะถึงได้ทำแบบนี้ คนอย่างเธอนะฉันไม่ยอมรับเป็นคู่หมั้นหรอกนะ”
แงๆๆ หมอนั่นด่าฉันอีกแล้วอ่ะ T____T
“อาฟเตอร์ ๆ หยุดนะ”
พูดจบนายอาฟเตอร์ก็ลุกเดินขึ้นบันไดชั้นสองไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของแม่ตัวเองอีกเลย เขาปล่อยให้ฉันนั่งอึ้งอยู่กับคำพูดที่ถูกด่าเมื่อกี้อยู่อย่างนั้น
“เอ่อหนูต้นหอมจ๊ะ ฉันต้องขอโทษด้วยนะ ก็เพราะอาฟเตอร์เขาเป็นนิสัยแบบนี้ไงจ๊ะฉันก็เลยอยากให้หนูช่วย”
แม่ของอีตาอาฟเตอร์นั่นหันกลับพูดกับฉัน สายตาของท่านรู้สึกผิดสุดๆ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันเป็นเรื่องธรรมดา หนักกว่านี้หนูก็เจอมาแล้วแค่นี้สบายมาก คอยดูนะคะหนูจะต้องเปลี่ยนนิสัยแย่ๆ ของเขาให้ได้”
ฉันตอบไปเพื่อให้แม่ของนายอาฟเตอร์สบายใจแม้ว่าตอนนี้ในใจฉันจะรู้สึกว่ามันชักจะไม่ง่ายแบบงานอื่นแล้วละสิ ขนาดเจอกันวันแรกแถมอยู่ต่อหน้าแม่เขายังกล้าว่าฉันขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าลับหลังอีตานี่จะร้ายกาจขนาดไหน แต่ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะ ยังไงฉันก็ต้องจัดการกับอีตานี่ให้ได้ หนอย ! บังอาจมาว่าฉันว่าไม่มีมารยาทงั้นเหรอ ฉันเป็นคนที่จะมาอบรมมารยาทให้เขาแท้ๆ มาว่ากันแบบนี้ได้ยังไง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ