The mission plan. ปฏิบัติการร้ายเปลี่ยนหัวใจนายแบดบอย
9.5
1) สัญญาว่าจ้าง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสัญญาว่าจ้าง
สัญญาว่าจ้าง
“นี่จ๊ะข้อตกลงในการว่าจ้างของหนู”
กระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกเรียกว่าสัญญาถูกยื่นมาตรงหน้าเด็กสาว ตอนนี้เธอนั่งอยู่ตรงข้ามกับหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่ท่าทางแสนจะใจดี
“หน้าที่ของหนูก็คือการตัวแสดงเป็นคู่หมั้นของลูกชายฉัน และทำยังไงก็ได้เพื่อเปลี่ยนแปลงนิสัยของเขาให้ดีจนกว่าคู่หมั้นตัวจริงของเขาจะกลับมา เข้าใจไหมจ๊ะหนูต้นหอม”
ผู้หญิงคนเดิมยังคงเอ่ยกับเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเจือไปด้วยความเอ็นดู
“เอ่อ...เข้าใจค่ะ แต่ว่าหนูสงสัยอยู่อย่างหนึ่งนะค่ะ”
“สงสัยอะไรหรือจ๊ะ”
“คือหนูสงสัยว่าทำไมต้องให้หนูเล่นละครเป็นคู่หมั้นของลูกชายคุณด้วยคะ แค่ช่วยแก้นิสัยของเขาเฉยๆไม่ได้เหรอคะ”
เด็กสาวเอ่ยถามกับหญิงผู้นั้นไปด้วยความสงสัย เพราะเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเธอจึงถูกยื่นข้อเสนอแบบนี้ ซึ่งเธอเองไม่เคยพบเจอในการทำงานครั้งไหนมาก่อน
“อ๋อ ไม่มีอะไรมากหรอกจ้า ที่ฉันต้องให้หนูเล่นละครเป็นคู่หมั้นของลูกชายฉันก็เพื่อให้หนูใกล้ชิดกับเขาได้ มันเป็นข้ออ้างน่ะจ่ะ เพราะปกติแล้วลูกชายฉันเขาจะไม่ชอบสุงสิงกับคนที่ไม่รู้จัก ยิ่งถ้าเขารู้ว่าหนูเป็นคนที่ฉันจ้างมาดัดนิสัยเขาคงไปกันใหญ่ ฉะนั้นการทำแบบนี้มันจะทำให้หนูสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น”
ถึงแม้ว่าคำตอบที่ได้จะฟังดูสมเหตุสมผลเพียงใด แต่ยังไงมันก็ยังคงแปลกและไม่ได้คลายข้อสงสัยของสาวน้อยอยู่ดี
“แต่มีอีกเหตุผลหนึ่งนะจ๊ะ”
“เหตุผลอะไรคะ”
เด็กสาวเอียงคอถามอย่างสงสัย การกระทำที่แสนน่ารักและใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอทำให้หญิงวัยกลางคนผู้นั้นนึกเอ็นดูเธออยู่ไม่น้อย
“ก็เป็นการให้หนูกันผู้หญิงคนอื่นออกจากลูกชายฉันไปในตัวน่ะจ่ะ คือว่าลูกชายฉันเขาเนื้อหอมน่ะมีสาวๆ มาชอบเขาเยอะ ถึงแม้เขาจะไม่สนใจก็ตามแต่ฉันก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ถ้าผู้หญิงคนอื่นรู้ว่าเขามีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนผู้หญิงพวกนั้นจะได้ไม่มายุ่งไงละจ๊ะ”
อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ให้ฉันเป็นไม้กันหมาว่างั้น เด็กสาวแอบคิดในใจ ตอนนี้เธอชักอยากจะรู้แล้วสิว่าลูกชายของว่าที่นายจ้างเธอคนนี้เป็นใคร ทำไมแม่ของเขาต้องมาจ้างเธอให้ทำอะไรแปลกๆ อย่างนี้ด้วย
“หนูเข้าใจแล้วละค่ะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้คุ้มกับค่าจ้างแน่นอนค่ะ”
ด้วยความที่งานแบบนี้เป็นงานถนัดของเธอ เธอจึงตอบตกลงข้อสัญญาในการว่าจ้างอย่างง่ายดาย แววตาที่มุ่งมั่นฉายชัดในดวงตากลมโตคู่สวยนั้น
“งั้นตกลงตามนี้นะจ๊ะ ฉันให้เวลาหนูเตรียมตัวอาทิตย์หนึ่ง แล้วเจอกันนะจ๊ะ”
“ค่ะ”
ฉันเดินทางกลับอพาร์ทเม้น หลังจากจบการสนและตกลงเงื่อนไขในการจ้างงานที่แลดูแปลกประหลาดพิลึกกึกกือกับลูกค้ารายหนึ่ง ถึงในใจจะนึกสงสัยยังไง แต่ด้วยความที่งานนี้รายได้ดีและจะสามารถทำเงินให้ฉันมากพอที่จะสามารถใช้ได้ตลอดทั้งเทอมของการเรียน ฉันจึงได้ตัดสินใจที่จะทำงานนี้
หลายคนคงจะสงสัยว่างานที่ฉันทำมันคืองานอะไร ทำไมถึงทำรายได้ให้ฉันมากมายนัก อย่าเพิ่งตกอกตกใจไปรับรองได้แน่นอนว่าฉันไม่ได้ทำงานผิดกฎหมาย และก็ไม่ต้องแปลกใจหรือคิดไปไกล เพราะงานที่ฉันทำมันคือการรับจ้างดัดนิสัยคน ถ้าจะพูดให้ดูดีหน่อยมันก็คือการพัฒนาบุคลิกภาพหรืออบรมมารยาทอะไรทำนองนี้ เป็นอาชีพที่ถูกผู้ว่าจ้างประเภทรวยๆ จ้างไปจัดการกับนิสัยแย่ๆ ของบรรดาลูกคุณหนูทั้งหลายนะสิ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไอ้พวกคุณหนูพวกนี้มันมีปัญหาอะไรกะชีวิตนักหนา ทั้งๆ ที่ชีวิตก็แสนจะสบาย ไม่รู้ว่าอยู่เฉยๆ ไม่ได้รึไง ถึงต้องทำตัวให้มีเรื่อง จนเดือดร้อนคนทำอาชีพอย่างฉันที่ต้องไปจัดการอบรมบ่มนิสัยถึงที่ เฮ้อ..
และนี่ก็เป็นอีกงานหนึ่งที่ฉันได้รับมา
“นี่ต้นหอม แกจะรับงานนี้จริงๆนะเหรอ”
เสียงเจื้อยแจ้วของยัยเลมอนเพื่อนสาวจอมจุ้นของฉันถามขึ้นในขณะที่ฉันนั่นอ่านการ์ตูนอย่างสบายใจในช่วงพักกลางวันที่โรงเรียน
“อืม”
ฉันตอบในขณะที่ใบหน้าของฉันยังคงจดจ่ออยู่กับหนังสือการ์ตูนในมือ
“แกรับจ้างเป็นคู่หมั้นคนอื่นเนี่ยนะ”
เลมอนดูจะสนอกสนใจงานใหม่ของฉันมาก แถมพยายามก้มหน้ามามองฉันเพื่อเรียกร้องความสนใจอีก จะมุดหน้าเข้ามาในหนังสือการ์ตูนอยู่แล้วนั่น
“ฉันรับจ้างดัดนิสัยอีตานั่นต่างหากล่ะ เธอก็รู้ว่าฉันทำงานแบบนี้อยู่แล้ว”
ถ้าฉันไม่ทำแล้วฉันจะเอาอะไรกินเข้าไปล่ะ ฉันต้องหาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุ 17 เพราะพ่อแม่ของฉันท่านประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต เหลือเพียงแต่คุณลุงกับคุณป้าที่อยู่ต่างเมือง จะให้ฉันต้องไปอยู่ด้วยก็คงไม่ไหวเพราะฐานะทางการเงินของพวกท่านก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก ฉันเลยตัดสินใจอยู่คนเดียวโดยไม่พึ่งท่านดีกว่า โชคดีที่เข้าไปเจอบริษัทรับดัดนิสัยนี่ในอินเตอร์เน็ทฉันเลยสมัครแถมมันยังมีรายได้ดีอีกด้วย ฉันเลยทำอาชีพนี้หาเลี้ยงตัวเองมาจนถึงตอนนี้ก็ 1 ปีเต็มแล้ว
“ก็เขาให้แกเป็นคู่หมั้นด้วยนี่”
กลับมาสู่วงสนทนาที่ยัยเพื่อนรักของฉันยังซักฉันไม่เลิก
“นี่ฟังนะ เขาจ้างให้ฉันดัดนิสัยลูกชายเขาในฐานะคู่หมั้นก็แค่นั้นเอง ฉันได้ไปหมั้นกับเข้าจริงๆ ซะเมื่อไหร่”
ฉันเริ่มรำคาญเลยปิดหนังสือการ์ตูนและเงยหน้าขึ้นตอบ
“...”
(-_-)(_-_)(-_-)
ยัยเลมอนยักหน้าหงึกๆ แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่เลิกสงสัย
“อืม แล้วแกรู้ไหมว่านายคู่หมั้นกำมะลอของแกเขาเป็นใคร”
“ถามทำไม”
เฮ้อ..นี่แกจะสงสัยอะไรนักหนาเนี่ยเลมอนจ๋า
“ก็แม่เขาจ้างให้แกไปดัดนิสัยเนี่ยแสดงเขาว่าต้องนิสัยแย่มากๆ เผื่อเขาเป็นพวกไม่ดีหรือพวก อันธพาลแล้วทำอะไรแกขึ้นมา ฉันจะได้ไปบอกตำรวจถูกไงแก”
โถๆ ที่แท้ก็เป็นห่วงฉัน แต่ดูปากสิแช่งกันชัดๆ ฉันน่าจะดีใจไหมเนี่ย
“ไม่รู้สิ เห็นบอกว่าชื่ออาฟเตอร์ เรียนอยู่โรงเรียน Harmers อะไรเนี่ยแหละ”
O.O
“อ๊ายยยยยยย จริงเหรอแก!!!”
>,<…!!!
อยู่ๆ ยัยเลมอนก็กรี๊ดขี้นมา เล่นเอาฉันและคนที่นั่งอยู่แถวนั้นตกใจไปตามๆ กัน จนฉันต้องยกมือขึ้นอุดปากมันเพราะกลัวว่าคนอื่นจะคิดว่ามันโดนผีขนุนเข้าแล้วแจ้นไปตามหมอผีมาไล่ผีที่สิงมัน
“ก็เออนะสิ ว่าแต่แกจะกรี๊ดทำไมเนี่ย”
“อี้ แอ อ่อย อ้าน อ๊ะ ).( ...”
“อะไรของแกวะ เลมอน”
“อ่อยอ้านนนนนน!!!”
อ้อนึกขึ้นได้ ฉันเอามืออุดปากมันไว้เองนี่หว่า มิน่าล่ะพูดจาไม่รู้เรื่องเชียว -.,-
“ไอ้บ้าแกจะอุดปากฉันไว้ทำไมวะต้นหอม หายใจไม่ออกนะเว้ย”
พอปล่อยปุ๊บก็ด่ากันปั๊บ ไอ้เพื่อนบ้า
“เออๆ ฉันขอโทษน่า ว่าแต่แกนั่นแหละจะกรี๊ดทำไม ชาวบ้านเขาตกใจกันหมดแล้ว”
“นี่แกไมรู้จริงๆเหรอ อาฟเตอร์น่ะดังจะตาย”
เลมอนเล่าต่อ แต่เสียงนี่สิดังไปสามบ้านแปดบ้าน สงสารคนอื่นจริงๆ ที่ต้องมาได้ยินเสียงมัน ขนาดฉันอยู่กับมันมานานยังต้องเอามืออุดหูอยู่เลย ไม่ชินกับเสียงมันสักที
“หึ”
ฉันตอบไปแต่มือของฉันก็ยังอุดหูอยู่ บอกตรงๆ นะกลัวเสียงยัยนี่มาก
“แกไปมุดหัวอยู่ในถ้ำมาหรือไงห๊า ถึงได้ไม่รู้จักอาฟเตอร์น่ะ”
“...”
อ้าวถูกด่าซะงั้นฉัน T^T
เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ตอบสนองของฉันยัยแลมอนเลยพูดต่อไป แถมยังยื่นมือมาดึงมือที่ปิดหูของฉันออกด้วย อ้ายยย !! หูฉัน
“นี่ฟังนะแก อาฟเตอร์นะเขาเป็นหนุ่มฮอตที่สุดของโรงเรียนมัธยม Harmers เลยนะ ทั้งหล่อทั้งรวย มีสาวๆล้อมหน้าล้อมหลังฝันอยากจะเป็นแฟนของเขาเต็มไปหมด ดูดีมีเสน่ห์ เท่สุดๆ เลยนะแก”
ยัยเลมอนพูดไปทำหน้าเคลิ้มไปจะอะไรกันนักหนาเนี่ย (ลืมบอกไปว่าเลมอนเห็นมันสวยๆ ตัวเล็กน่ารักแบบนี้ แต่มันบ้าผู้ชายจนเข้าขั้นเพ้อเจ้อเลยแหละ = =’)
“เหรอแล้วไงล่ะ”
ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี นายอาฟเตอร์นั่นหล่อแล้วเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ
“ก็แกน่ะน่าอิจฉาจะตาย กำลังจะได้เป็นคู่หมั้นกับอาฟเตอร์เชียวนะ คู่หมั้นนะคู่หมั้น อ้ายยยย เพื่อนฉันน่าอิจที่สุดเลย”
ยังๆ ยัยนี่ทำเสียงดี๊ด๊าใส่ฉันอีก ฉันว่ายัยนี่กำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่นะ ผิดประเด็นสุดๆ เลยด้วย
“ฉันก็เป็นแค่คู่หมั้นหลอกๆ แถมนายนี่ก็ยังนิสัยแย่ถึงขนาดที่แม่ของเขาต้องมาจ้างฉันไปดัดนิสัยเนี่ยนะ มันน่าอิจฉาตรงไหนล่ะ”
ฉันล่ะสงสารตัวเองมากกว่า รู้สึกงานนี้มันแหม่งๆ ไงชอบกล
“พูดดีไปเหอะแก ระวังจะตกหลุมรักเขาเข้าล่ะ ฉันได้ยินว่าผู้หญิงคนไหนอยู่ใกล้เขาก็ตกหลุมรักเขาหมดแหละ”
“ไม่ใช่ฉันแน่ๆ”
ฉันตอบไปอย่างมั่นใจ เพราะฉันก็ไม่เคยตกหลุมรักใครมาก่อนทั้งที่ก็มีคนมาจีบฉันอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน(สวยน่ะ ฮิฮิ)
“แล้วฉันจะคอยดู”
พูดเสร็จเลมอนก็เดินจากไป น่าหมั่นไส้จริงๆ ยัยนี่ เรื่องผู้ชายล่ะขอให้บอกเถอะ
“หนุ่มฮอตเหรอ แล้วไงล่ะ…???”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ