The mission plan. ปฏิบัติการร้ายเปลี่ยนหัวใจนายแบดบอย

9.5

เขียนโดย Um_brella

วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 22.19 น.

  4 ตอน
  1 วิจารณ์
  8,919 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) สัญญาว่าจ้าง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

  

 

  สัญญาว่าจ้าง  

 

 http://www.keedkean.com


สัญญาว่าจ้าง 

 

 “นี่จ๊ะข้อตกลงในการว่าจ้างของหนู”

กระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกเรียกว่าสัญญาถูกยื่นมาตรงหน้าเด็กสาว ตอนนี้เธอนั่งอยู่ตรงข้ามกับหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่ท่าทางแสนจะใจดี

 “หน้าที่ของหนูก็คือการตัวแสดงเป็นคู่หมั้นของลูกชายฉัน และทำยังไงก็ได้เพื่อเปลี่ยนแปลงนิสัยของเขาให้ดีจนกว่าคู่หมั้นตัวจริงของเขาจะกลับมา เข้าใจไหมจ๊ะหนูต้นหอม”

ผู้หญิงคนเดิมยังคงเอ่ยกับเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเจือไปด้วยความเอ็นดู

“เอ่อ...เข้าใจค่ะ แต่ว่าหนูสงสัยอยู่อย่างหนึ่งนะค่ะ”

“สงสัยอะไรหรือจ๊ะ”

“คือหนูสงสัยว่าทำไมต้องให้หนูเล่นละครเป็นคู่หมั้นของลูกชายคุณด้วยคะ แค่ช่วยแก้นิสัยของเขาเฉยๆไม่ได้เหรอคะ”

เด็กสาวเอ่ยถามกับหญิงผู้นั้นไปด้วยความสงสัย เพราะเธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเธอจึงถูกยื่นข้อเสนอแบบนี้ ซึ่งเธอเองไม่เคยพบเจอในการทำงานครั้งไหนมาก่อน

 “อ๋อ ไม่มีอะไรมากหรอกจ้า ที่ฉันต้องให้หนูเล่นละครเป็นคู่หมั้นของลูกชายฉันก็เพื่อให้หนูใกล้ชิดกับเขาได้ มันเป็นข้ออ้างน่ะจ่ะ เพราะปกติแล้วลูกชายฉันเขาจะไม่ชอบสุงสิงกับคนที่ไม่รู้จัก ยิ่งถ้าเขารู้ว่าหนูเป็นคนที่ฉันจ้างมาดัดนิสัยเขาคงไปกันใหญ่ ฉะนั้นการทำแบบนี้มันจะทำให้หนูสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น”

ถึงแม้ว่าคำตอบที่ได้จะฟังดูสมเหตุสมผลเพียงใด แต่ยังไงมันก็ยังคงแปลกและไม่ได้คลายข้อสงสัยของสาวน้อยอยู่ดี

“แต่มีอีกเหตุผลหนึ่งนะจ๊ะ”

“เหตุผลอะไรคะ”

เด็กสาวเอียงคอถามอย่างสงสัย การกระทำที่แสนน่ารักและใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอทำให้หญิงวัยกลางคนผู้นั้นนึกเอ็นดูเธออยู่ไม่น้อย

“ก็เป็นการให้หนูกันผู้หญิงคนอื่นออกจากลูกชายฉันไปในตัวน่ะจ่ะ คือว่าลูกชายฉันเขาเนื้อหอมน่ะมีสาวๆ มาชอบเขาเยอะ ถึงแม้เขาจะไม่สนใจก็ตามแต่ฉันก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ถ้าผู้หญิงคนอื่นรู้ว่าเขามีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนผู้หญิงพวกนั้นจะได้ไม่มายุ่งไงละจ๊ะ”

อ๋อ อย่างนี้นี่เอง  ให้ฉันเป็นไม้กันหมาว่างั้น เด็กสาวแอบคิดในใจ ตอนนี้เธอชักอยากจะรู้แล้วสิว่าลูกชายของว่าที่นายจ้างเธอคนนี้เป็นใคร ทำไมแม่ของเขาต้องมาจ้างเธอให้ทำอะไรแปลกๆ อย่างนี้ด้วย

“หนูเข้าใจแล้วละค่ะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้คุ้มกับค่าจ้างแน่นอนค่ะ”

ด้วยความที่งานแบบนี้เป็นงานถนัดของเธอ เธอจึงตอบตกลงข้อสัญญาในการว่าจ้างอย่างง่ายดาย แววตาที่มุ่งมั่นฉายชัดในดวงตากลมโตคู่สวยนั้น

“งั้นตกลงตามนี้นะจ๊ะ ฉันให้เวลาหนูเตรียมตัวอาทิตย์หนึ่ง แล้วเจอกันนะจ๊ะ”

“ค่ะ”

 

ฉันเดินทางกลับอพาร์ทเม้น หลังจากจบการสนและตกลงเงื่อนไขในการจ้างงานที่แลดูแปลกประหลาดพิลึกกึกกือกับลูกค้ารายหนึ่ง ถึงในใจจะนึกสงสัยยังไง แต่ด้วยความที่งานนี้รายได้ดีและจะสามารถทำเงินให้ฉันมากพอที่จะสามารถใช้ได้ตลอดทั้งเทอมของการเรียน ฉันจึงได้ตัดสินใจที่จะทำงานนี้

หลายคนคงจะสงสัยว่างานที่ฉันทำมันคืองานอะไร ทำไมถึงทำรายได้ให้ฉันมากมายนัก  อย่าเพิ่งตกอกตกใจไปรับรองได้แน่นอนว่าฉันไม่ได้ทำงานผิดกฎหมาย และก็ไม่ต้องแปลกใจหรือคิดไปไกล เพราะงานที่ฉันทำมันคือการรับจ้างดัดนิสัยคน  ถ้าจะพูดให้ดูดีหน่อยมันก็คือการพัฒนาบุคลิกภาพหรืออบรมมารยาทอะไรทำนองนี้  เป็นอาชีพที่ถูกผู้ว่าจ้างประเภทรวยๆ จ้างไปจัดการกับนิสัยแย่ๆ ของบรรดาลูกคุณหนูทั้งหลายนะสิ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไอ้พวกคุณหนูพวกนี้มันมีปัญหาอะไรกะชีวิตนักหนา ทั้งๆ ที่ชีวิตก็แสนจะสบาย ไม่รู้ว่าอยู่เฉยๆ ไม่ได้รึไง ถึงต้องทำตัวให้มีเรื่อง จนเดือดร้อนคนทำอาชีพอย่างฉันที่ต้องไปจัดการอบรมบ่มนิสัยถึงที่ เฮ้อ..

และนี่ก็เป็นอีกงานหนึ่งที่ฉันได้รับมา

 

“นี่ต้นหอม แกจะรับงานนี้จริงๆนะเหรอ”

เสียงเจื้อยแจ้วของยัยเลมอนเพื่อนสาวจอมจุ้นของฉันถามขึ้นในขณะที่ฉันนั่นอ่านการ์ตูนอย่างสบายใจในช่วงพักกลางวันที่โรงเรียน

 “อืม”     

ฉันตอบในขณะที่ใบหน้าของฉันยังคงจดจ่ออยู่กับหนังสือการ์ตูนในมือ

 “แกรับจ้างเป็นคู่หมั้นคนอื่นเนี่ยนะ”

เลมอนดูจะสนอกสนใจงานใหม่ของฉันมาก  แถมพยายามก้มหน้ามามองฉันเพื่อเรียกร้องความสนใจอีก  จะมุดหน้าเข้ามาในหนังสือการ์ตูนอยู่แล้วนั่น

 “ฉันรับจ้างดัดนิสัยอีตานั่นต่างหากล่ะ เธอก็รู้ว่าฉันทำงานแบบนี้อยู่แล้ว”

ถ้าฉันไม่ทำแล้วฉันจะเอาอะไรกินเข้าไปล่ะ  ฉันต้องหาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุ  17 เพราะพ่อแม่ของฉันท่านประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต เหลือเพียงแต่คุณลุงกับคุณป้าที่อยู่ต่างเมือง จะให้ฉันต้องไปอยู่ด้วยก็คงไม่ไหวเพราะฐานะทางการเงินของพวกท่านก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก ฉันเลยตัดสินใจอยู่คนเดียวโดยไม่พึ่งท่านดีกว่า โชคดีที่เข้าไปเจอบริษัทรับดัดนิสัยนี่ในอินเตอร์เน็ทฉันเลยสมัครแถมมันยังมีรายได้ดีอีกด้วย ฉันเลยทำอาชีพนี้หาเลี้ยงตัวเองมาจนถึงตอนนี้ก็ 1 ปีเต็มแล้ว

“ก็เขาให้แกเป็นคู่หมั้นด้วยนี่”

กลับมาสู่วงสนทนาที่ยัยเพื่อนรักของฉันยังซักฉันไม่เลิก

 “นี่ฟังนะ เขาจ้างให้ฉันดัดนิสัยลูกชายเขาในฐานะคู่หมั้นก็แค่นั้นเอง ฉันได้ไปหมั้นกับเข้าจริงๆ ซะเมื่อไหร่”

ฉันเริ่มรำคาญเลยปิดหนังสือการ์ตูนและเงยหน้าขึ้นตอบ

 “...”

(-_-)(_-_)(-_-)

ยัยเลมอนยักหน้าหงึกๆ  แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่เลิกสงสัย

 “อืม แล้วแกรู้ไหมว่านายคู่หมั้นกำมะลอของแกเขาเป็นใคร”

 “ถามทำไม”

เฮ้อ..นี่แกจะสงสัยอะไรนักหนาเนี่ยเลมอนจ๋า

 “ก็แม่เขาจ้างให้แกไปดัดนิสัยเนี่ยแสดงเขาว่าต้องนิสัยแย่มากๆ เผื่อเขาเป็นพวกไม่ดีหรือพวก อันธพาลแล้วทำอะไรแกขึ้นมา ฉันจะได้ไปบอกตำรวจถูกไงแก”

โถๆ  ที่แท้ก็เป็นห่วงฉัน  แต่ดูปากสิแช่งกันชัดๆ  ฉันน่าจะดีใจไหมเนี่ย

“ไม่รู้สิ เห็นบอกว่าชื่ออาฟเตอร์ เรียนอยู่โรงเรียน Harmers อะไรเนี่ยแหละ”

O.O

“อ๊ายยยยยยย จริงเหรอแก!!!”

>,<…!!!

อยู่ๆ ยัยเลมอนก็กรี๊ดขี้นมา เล่นเอาฉันและคนที่นั่งอยู่แถวนั้นตกใจไปตามๆ กัน จนฉันต้องยกมือขึ้นอุดปากมันเพราะกลัวว่าคนอื่นจะคิดว่ามันโดนผีขนุนเข้าแล้วแจ้นไปตามหมอผีมาไล่ผีที่สิงมัน

“ก็เออนะสิ ว่าแต่แกจะกรี๊ดทำไมเนี่ย”

“อี้ แอ อ่อย อ้าน อ๊ะ ).( ...”

“อะไรของแกวะ เลมอน”

“อ่อยอ้านนนนนน!!!”

อ้อนึกขึ้นได้ ฉันเอามืออุดปากมันไว้เองนี่หว่า มิน่าล่ะพูดจาไม่รู้เรื่องเชียว -.,-

“ไอ้บ้าแกจะอุดปากฉันไว้ทำไมวะต้นหอม หายใจไม่ออกนะเว้ย”

พอปล่อยปุ๊บก็ด่ากันปั๊บ ไอ้เพื่อนบ้า

“เออๆ ฉันขอโทษน่า ว่าแต่แกนั่นแหละจะกรี๊ดทำไม ชาวบ้านเขาตกใจกันหมดแล้ว”

“นี่แกไมรู้จริงๆเหรอ  อาฟเตอร์น่ะดังจะตาย”

เลมอนเล่าต่อ แต่เสียงนี่สิดังไปสามบ้านแปดบ้าน สงสารคนอื่นจริงๆ ที่ต้องมาได้ยินเสียงมัน ขนาดฉันอยู่กับมันมานานยังต้องเอามืออุดหูอยู่เลย ไม่ชินกับเสียงมันสักที

 “หึ”

ฉันตอบไปแต่มือของฉันก็ยังอุดหูอยู่  บอกตรงๆ นะกลัวเสียงยัยนี่มาก

 “แกไปมุดหัวอยู่ในถ้ำมาหรือไงห๊า ถึงได้ไม่รู้จักอาฟเตอร์น่ะ”

“...”

อ้าวถูกด่าซะงั้นฉัน T^T

เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ตอบสนองของฉันยัยแลมอนเลยพูดต่อไป  แถมยังยื่นมือมาดึงมือที่ปิดหูของฉันออกด้วย อ้ายยย !! หูฉัน

“นี่ฟังนะแก อาฟเตอร์นะเขาเป็นหนุ่มฮอตที่สุดของโรงเรียนมัธยม Harmers เลยนะ ทั้งหล่อทั้งรวย มีสาวๆล้อมหน้าล้อมหลังฝันอยากจะเป็นแฟนของเขาเต็มไปหมด ดูดีมีเสน่ห์ เท่สุดๆ เลยนะแก”

ยัยเลมอนพูดไปทำหน้าเคลิ้มไปจะอะไรกันนักหนาเนี่ย (ลืมบอกไปว่าเลมอนเห็นมันสวยๆ ตัวเล็กน่ารักแบบนี้ แต่มันบ้าผู้ชายจนเข้าขั้นเพ้อเจ้อเลยแหละ = =’)

“เหรอแล้วไงล่ะ”

ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี นายอาฟเตอร์นั่นหล่อแล้วเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ

“ก็แกน่ะน่าอิจฉาจะตาย กำลังจะได้เป็นคู่หมั้นกับอาฟเตอร์เชียวนะ คู่หมั้นนะคู่หมั้น อ้ายยยย เพื่อนฉันน่าอิจที่สุดเลย”

ยังๆ ยัยนี่ทำเสียงดี๊ด๊าใส่ฉันอีก ฉันว่ายัยนี่กำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่นะ ผิดประเด็นสุดๆ เลยด้วย

 “ฉันก็เป็นแค่คู่หมั้นหลอกๆ แถมนายนี่ก็ยังนิสัยแย่ถึงขนาดที่แม่ของเขาต้องมาจ้างฉันไปดัดนิสัยเนี่ยนะ มันน่าอิจฉาตรงไหนล่ะ”

ฉันล่ะสงสารตัวเองมากกว่า รู้สึกงานนี้มันแหม่งๆ ไงชอบกล

“พูดดีไปเหอะแก ระวังจะตกหลุมรักเขาเข้าล่ะ ฉันได้ยินว่าผู้หญิงคนไหนอยู่ใกล้เขาก็ตกหลุมรักเขาหมดแหละ”

“ไม่ใช่ฉันแน่ๆ”

ฉันตอบไปอย่างมั่นใจ  เพราะฉันก็ไม่เคยตกหลุมรักใครมาก่อนทั้งที่ก็มีคนมาจีบฉันอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน(สวยน่ะ ฮิฮิ)

“แล้วฉันจะคอยดู”

พูดเสร็จเลมอนก็เดินจากไป  น่าหมั่นไส้จริงๆ ยัยนี่  เรื่องผู้ชายล่ะขอให้บอกเถอะ

 “หนุ่มฮอตเหรอ แล้วไงล่ะ…???”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา