สองคน ใจ ดวงเดียว
9.6
4)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ4
“พวกเขากำลังคิดหนี ครับเสี่ย”
สมุนตัวใหญ่ หนึ่งในสี่คนร้าย รายงานกับเจ้านายของมัน
อยู่ในรถตู้ ติดฟิล์มทึบ จอดด้านข้างกำแพงโรงแรม
ในรถมี จอมอนิเตอร์หกจอเรียงกัน ด้านหลังเบาะคนขับ
พร้อมกับอุปกรณ์อีกหลายอย่าง เรียงไปซ้ายขวาของตัวรถตู้
บนหลังคา มีจานรับส่งสัญญาณดาวเทียม ขนาดเล็ก
จอแรก เป็นภาพภายในห้องของโรงแรม ที่สองหนุ่มสาวนอนหมดสติ
อีกสองจอจับใบหน้าของแต่ละคน โดยคอนโทรลจากระยะไกล
ภาพชัดแจ๋ว แม้จะถ่ายในความสลัว
ต้องเป็นกล้องรุ่นพิเศษ ชั้นดี
“ปล่อยให้หนีไป ตามดู เก็บภาพไปเรื่อยๆ
ติดต่อมือกล้อง และกล้องอัตโนมัติ ให้เตรียมพร้อม
อย่าให้คลาดสายตา
อ่อ...พวกติดตาม อย่าให้ตามติดเกินไป”
“ครับเสี่ย” ไอ้ยักษ์กดสายทิ้ง
กดโทรสั่งงาน อีกครั้ง
“เสี่ยสั่ง ปล่อยให้หนี ทุกกล้องถ่ายไปเรื่อยๆ
ไอ้เข้มกับไอ้หมี ไล่กวด
ให้พวกนั้นรู้ว่าถูกตามก็พอ ทำเป็นหมาหยอกไก่ไว้ เข้าใจนะ”
“ครับ”
เสียงมือถือ ของคุณไพจิตรดัง
ทุกคนหันไปมองพร้อมกัน ท่านผู้กำกับดูเบอร์หน้าจอ
ส่ายหัว แสดงว่าเบอร์ไม่รู้จัก
กดเปิดลำโพงพร้อมกับ กดรับ
“ไพจิตรพูด”
น้ำเสียงอารมณ์ไม่ดี ตื่นเต้นนิดๆ
“ลูกสาวลื้ออยู่ในมืออั๊ว ฟังให้ดีทั้งคู่ปลอดภัย
อั๊วต้องการเงิน ยี่สิบล้าน พรุ่งนี้ เตรียมแบงค์ย่อยเก่า ไม่เรียงหมายเลข
อย่าทำเครื่องหมาย หรือตุกติก เตรียมให้พร้อม
พรุ่งนี้ อั๊วจะโทรติดต่อมาอีกครั้ง...”
ไพจิตรพูดอย่างร้อนรน
“ขอพูดกับลูกสาวอั๊วก่อน” ไม่ทันแล้วมันตัดสาย
ได้แต่เหลือบตา มองหน้าทุกคนรำพัน...
“มันต้องการเงินยี่สิบล้าน!
โธ่! ผมจะเอาที่ไหนไปให้พวกมัน หนังผมก็เจ๊ง บ้านก็จำนอง
มีเงินเหลือไม่ถึงแสน”
ไพจิตรทิ้งมือถือลงตัก ยกมือสองข้างทึ้งผม ลูบหน้าสีหน้าทุกข์หนัก
ทุกคนมองอย่างเห็นใจ...
“เอาไว้พรุ่งนี้เจอกันที่บ้านคุณ คุณอำนวย คุณต้องไปที่นั่นด้วย
วันนี้คงแค่นี้แหละ ทำอะไรไม่ได้มาก
ขอโทษครับคูณไพจิตร ผมกับจ่าต้องขอตัว
หากมีอะไรเพิ่มเติม ติดต่อผมได้ทันที”
สารวัตรยื่นนามบัตรให้ คุณไพจิตร และอำนวย
ทำความเคารพ เดินออกไปพร้อมจ่าคู่ใจ...
“โอเค! กลับบ้าน บ้านใครบ้านมัน ผมเพลีย เหนื่อยใจเต็มทน
กลับไปต้องเจอแม่ของลูกอีก ไม่จบแน่วันนี้เฮ้อ!”
ผู้กำกับมือทองถอนหายใจ...
ลุกขึ้น หันกลับไปถามผู้จัดการ
“มีทางออกอีกสักทาง ที่ไม่ต้องเจอพวกข้างนอกนั้นอีกไหมครับ?”
ผู้จัดการพยักหน้า ยิ้มเซียวๆ
“มีครับ ตามผมมา”
“ขอบคุณอย่างสูง เฮ้อ!”
คุณไพจิตรโล่งใจ เดินตามผู้จัดการ
อำนวย ได้แต่เดินตามไปอีกคน
ออกถึงหลังอาคาร มีทางเดินออกไปอีกประตูหนึ่ง ด้านติดกับซอยใหญ่
อำนวย เอ่ยปาก
“แยกกันตรงนี้นะครับคุณอา ผมจะแอบย่องไปที่รถ พรุ่งนี้พบกัน สวัสดีครับ”
“อืมม...สวัสดี ผมจะโบกแท็กซี่กลับ”
ปรียานุช แม่ของพิมพ์มายา
กระวนกระวายใจ ร้องไห้หลายรอบเป็นลมไปอีกสองหน
นังส้มเด็กคู่ใจในบ้านเตรียมยาดม ยาหอมไว้พร้อม
นั่งมองคุณปรียานุชนอนบนโซฟา
ยกโทรศัพท์ โทรหาพ่อของลูกตลอด แต่เขาไม่ยอมรับ
ในที่สุด...
“คุณ! ลูกเป็นไงบ้างค่ะ?”
“ไม่เป็นไร ลูกปลอดภัย พวกมันต้องการเงิน
ผมจะพยายามรวบรวมเงิน ให้ได้
คุณพักผ่อนเถอะไ ว้เป็นหน้าที่ของผมเอง”
ไพจิตร ปลอบใจเมียเก่า
เขาอยู่บ้านเมียคนสุดท้ายในตอนนี้ สาวและสวยกว่า
“คุณต้องช่วยยายพิมพ์ให้ได้นะคะ ฉันไม่ยอมจริงๆ”
“เอาน่า ใจเย็นๆ ทั้งผม ทั้งตำรวจทำอย่างเต็มที่
ลูกต้องปลอดภัยผมรับรอง แค่นี้ก่อนนะ
ผมต้องติดต่อพวกพ้อง เตรียมเงินให้พวกมัน อย่าคิดมาก หวัดดี”
“ค่ะ! เดี๋ยว!”
ไพจิตรตัดสายไปแล้ว เธอวางหู
แต่เสียงโทรดังขี้นทันที...
เธอสะดุ้ง รีบยกหูอีกครั้ง
“มีอะไรค่ะ?”
“สวัสดีครับคุณน้า ผมหยอยครับ”
“อ่อ...มีอะไรเหรอ?” เธอเปลี่ยนเสียงเป็นปกติ
“ผมเป็นห่วงคุณพิมพ์ครับ มีอะไรคืบหน้าบ้างผมอยากรู้?”
คุณปรียานุช ค้อนโทรศัพท์
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ไม่มีอะไรคืบหน้า
เท่านี้ก่อนนะ ฉันจะเป็นลม!”
“ครับๆ หวัดดีครับ”
“เอิกกกกก”
เสียงคุณปรียานุชดัง พร้อมกับปล่อยหูโทรศัพท์หล่น
นังส้มเข้าประชิด ให้หยูให้ยาตามความสามารถทันที...
พอได้สติอีกครั้ง เธอบ่น
“บ้าจริงๆ กวนอยู่ได้”
เธอรำคาญไอ้หนุ่มที่ตามติดพันธุ์ลูกสาวของเธอ
อายุก็น้อยกว่า ทำให้ยายพิมพ์ต้องตกเป็นข่าว
แก้ข่าวกันเป็นประจำ โดยเฉพาะเรื่องลูกพิมพ์ชอบกินเด็ก
และมีมาอีกเยอะ
แต่แค่โทรมาเท่านั้น ไม่มีมาหา อยู่เป็นเพื่อนสักคน
เพี่ยงอยากรู้ข่าว เอาไปเม้าส์กับพวก ให้สนุกกันเล่นมากกว่า
เฮ้อ! น่าเบื่อหน่าย หาความจริงใจจากวงการมายายากจริงๆ
น้ำตาเธอไหลอีกครั้ง
ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ ลูกแม่ ฮือ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ