Bleeding of the cursed Island หลั่งเลือดเกาะมรณะ

-

เขียนโดย kang

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 01.06 น.

  3 ตอน
  4 วิจารณ์
  8,157 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ฝูงมฤตยูรัตติกาล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
หลังจากที่แบล็คฮอร์คจมลงสู่ท้องทะเล เกลนพยายามปลดกระเป๋าสะพายหลังของเขาออก ในขณะที่ร่างของเขาเริ่มจมลงสู้ท้องทะเลอันมืดมิดเบื้องล่าง และไม่นานนักเขาก็สามารถปลดกระเป๋าใบนั้นออกได้สำเร็จ เขารีบถอดสายสะพายปืนM16 A4 *ของเขา และถอดหมวกเหล็กที่สวมอยู่ออกเพื่อช่วยลดน้ำหนักไม่ให้เขาจมลงใต้น้ำ แต่ก่อนที่เขาจะตะเกียกตะกายขึ้นมาเหนือน้ำ พร้อมกับทหารคนอื่นๆ ภาพที่เขาพอจะมองเห็นลางๆใต้น้ำนั้น คือร่างของจิลที่กำลังพยายามปลดสายกระเป๋าสัมภาระของเธอออก ขณะที่ร่างของเธอเริ่มจมลงสู่ท้องทะเลอันมืดมิดเบื้องล่าง เขารีบดำดิ่งตามเธอลงไป และเมื่อเขาตามไปถึง เขารีบยายามปลดประเป๋าใบนั้น แต่ตัวล็อคกระเป๋าที่คากเอวของเธออยู่นั้นมันกลับติดแน่นจนเขาไม่สามารถดึงมันออกได้ และทันใดนั้นเอง ขณะที่เขากำลังพยายามช่วยปลดสายล็อคกระเป๋าให้จิลอยู่  เกลนได้สังเกตเห็นเงาแบบเดียวกับสิ่งที่พุ่งชนแบล็คอฮร์กที่พวกเขาโดยสารมา  กำลังว่ายขึ้นมาจากใต้ท้องทะเลมืดมิดเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว และชั่วไม่กี่วินาทีต่อมา สิ่งนั้นได้เอื้อมมือคว้าตัวของพลปืนคุ้มกันที่ริดชีวิตแล้วดึงเขาลงไปสู่เงามืดเบื้องล่าง เกลนไม่รอช้า เชารีบตั้สติแล้วชักมีดที่พกอยู่ออกมาแล้วพยายามตัดสายกระเป๋าใบนั้น พร้อมกับที่เงาแบบเดียวกันอีกจำนวนหนึ่งเริ่มว่ายน้ำชึ้นมาจากเงามืดเบื้องล่าง ชั่ววินาทีต่อมา สายเชือกกระเป๋าของจิลก็ขาดออก เกลนรีบถอดหมวกเหล็กและปลดปืนM16 ขิงเธอออก แล้วดันแนของเธอเพื่อให้เธอว่ายน้ำขึ้นไป พร้อมกับที่เงาเหล่านั้นเริ่มเข้ามาใกล้ทั้งสองมายิ่งขึ้นเรื่อยๆ และไม่นานนักร่างของพลทหารที่กำลังตะเกียกตะกายขึ้นมาจากน้ำไม่ห่างจากเขาทั้งสอง ได้ถูกเงานั้นคว้าเข้าที่ข้อเท้าแล้วดึงกลับลงไปใต้น้ำอีกครั้งพร้อมกับที่เจ้าของร่างพยายามดิ้นให้หลุดออกมา เกลนรีบหันหลับมาไปมอง แต่ภาพที่เขาเห็นคือร่างของนาวิกโยธินนายนั้นหายไปในเงามืด เกลนรีบหันกลับแล้วพยายามว่ายน้ำมาจนเขาสามารถขึ้นมาเหนือน้ำได้สำเร็จ
                “ทุกคนรีบขึ้นฝั่งเร็ว” เสียงของร้อยตรีซัลลี่ดังมาจากความมืดไม่ห่างจากกลุ่มพวกเขามากนัก นาวิกโยธินทั้งหกรีบว่ายน้ำตรงไปยังฝั่งอย่างไม่คิดชีวิต  ไม่นานนักนาวิกโยธินอีกนายก็ได้ถูกดงกลับลงไปใต้น้ำอีกครั้ง
                “จิล ว่ายต่อไปอย่าหยุด” เกลนตะโกนเสียงดีงลั่น ขณะที่เขาว่าตามหลังเธอมาติดๆ แต่ทันใดนั้น เกลนได้รู้สึกเหมือนมีอุ้งมือขนาดใหญ่ที่ทรงพลังอันหนึ่งคว้าเข้าที่ข้อเท้าของเขา ชั่ววินาทีนั้นเกลนได้ถูกดึงกลับไปลงใต้น้ำโดยเจ้าของอุ้งมือนั้น ทันทีที่เขาถูกดึงลงมา ได้มีอุ้งมือขนาดใหญ่อีกอันหนึ่งคว้าเข้าที่หัวไหล่ของเขา และกระชากให้เขาหันมา ทันทีที่ได้เห็นภาพเบื้องหน้าเกลนถึงกับตาค้างด้วยความตกใจ จนเผลอเกือบส่งเสียงร้องออกมา เพราะภาพที่เขาพอจะสังเกตเห็นได้นั้นคือ เงาของมนุษย์แบบเดียวกับที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ แต่เจ้าของเงานี้กลับมีขนาดใหญ่กว่าเงาอื่นถึงสามเท่า มันค่อยๆอ้าปากช้าๆ เผยฟันอันแหลมคมราวใบมีดที่เรียงกันเป็นชั้นๆ เกลนรีบตั้งสติก่อนที่มันจะเริ่มกัดเขา เขารีบดึงมีดที่พกอยู่ขึ้นมาแล้วแทงเข้าที่บริเวณดวงตาซ้ายของมันอย่างจัง สิ่งนั้นเริ่มดิ้นด้วยความเจ็บพร้อมกับปล่อยแขนของจากตัวเขา ซึ่งเกลนได้อาศัยจังหวะนั้นชักปืนพกออกมาจากซองที่ขาขวา แล้วจ่อปากกระบอกปืนติดกับหนาผากของสิ่งนั้นแล้วกดลั่นไกสามครั้งติดๆกัน ร่างของเจ้าสิ่งนั้นแน่นิ่งแล้วจมลสู่เงาเบื้องล่าง แต่กลับไม่มีเลือดไหลออกมาจการ่างของมันเลยแม้แต่หยดเดียว
                เกลนรีบขึ้นเหนือน้ำ แล้วออกว่ายอย่างไม่คิดชีวิตตรงไปยังฝั่ง และไม่นานนักเขาก็สามารถว่ายมาจนมาถึงฝั่งพร้อมกับนาวิกโยธินอีกสี่นาย  แต่ทันทีที่วกเขาเดินขึ้นมาบนฝั่ง และเงยหน้าขึ้นมอง พวกเขาก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า ซึ่งนั่นก็คือ นาวิกโยธินอีกแปดนายได้หายตัวไปทิ้งไว้เพียงแค่หมวกเหล็กและปืนกลM16 ที่ตกสู่บนพื้นทราย
                “นีมันเรื่องบ้าอะไรกัน ตะก้มันตัวอะไรวะนั่น” นาวิกโยธินคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างเริ่มคุมสติไม่อยู่
                “เลิกบ่น แล้วไปหยิบปืนมาซะ เฮค” น้อยตรีซัลลี่พูดขึ้น พร้อมกับที่เขาและนาวิกโยธินที่เหลือวิ่งเข้าไปหยิบปืนกลที่ตกอยู่ขึ้นมาสำเร็จความพร้อม
                “เจค แซม แมท นอร์ม มีใครได้ยินมั้ยตอบด้วย?” เกลนพูดผ่านวิทยุสื่อสารของเขา หลังจากที่เขาสำรวจความพร้อมของปืนกลที่เพิ่งหยิบขึ้นมาเสร็จแล้ว
                “แฮ่ๆๆๆๆๆ อ๊าๆๆๆๆ….” เสียงคำรามและเสียงร้องดังเข้ามาในวิทยุของเกลน จนเขาต้องรีบกดปิดมันทิ้ง แล้วหันไปมองหน้าร้อยตรีซัลลี่
                “มีบางอย่างอ่มนดงมะพร้าวด้านหน้าครับ” ควิลตะโกนพร้อมกับที่เขาดึงกล้องมองกลางคืนที่ติดอยู่บนหมวกลงมาสวม เกลนและร้อยตรีซัลลลี่รีบหยิบหมวกเหล็กที่ตกอยู่ขึ้นมาสวม แล้วิ่งเข้าไปอยู่ทาด้านหลังควิลกับเฮ็คที่สวมกล้องมองกลางคืนอยู่
                “เห็นตัวมันมั้ย” ร้อยตรีซัลลี่พูดถามขณที่เขาและเกลนประทับปืนเล็งไปทางด้านหน้าผ่านทางกล้องที่ติดอยู่บนปืน แต่ภาพท่พวกเขาเห็นนั้นกลับไม่มีอะไร นอกจากเสียงกระพือปีกราวกับมีอะไรบางอย่างจำนวนมากกำลังวนไปวนมาอยู่ในดงมะพร้าวเพื่อทำให้พวกเขาควบคุมสติไม่อยู่
                “ไม่เห็นครับ ไม่เห็นอะไรเลย” เฮคพูดตอบเสียงสั่นด้วยความกลัว
                “นายใส่กล้องกลางคืนนะ มองไม่เห็นได้ยังไง”เกลนพูดตอบขณะที่เขาส่องกล้องไปรอบๆเพื่อหาตัวสิ่งที่อยู่ในนั้น
                ‘แกร๊ก’ เสียงประทับปืนดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเกลน เขารีบหันมองแล้วได้เห็นจิลกำลังประทับปนขึ้นส่องไปรอบๆ เขารีบหันกลับมา และทันใดนั้นเอง
                “โอ้ ไอ้บ้าเอ๊ย” เกลนตะโกนเสียงดังลั่น แล้วรีบกดลั่นไกปืนทันที
                ‘ปัง ปัง ปัง ปัง” เสียงปืนในมือของเกลนยิงรัวออกไปไม่ยั้ง เมื่อเขาได้เห็นบางสิ่งที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ตัวสีเทา ซีดๆ มีกรงเล็บแหลมราวใบมีด มีหูแหลมและใบหน้าเรียวและมีปีกที่ดูเหมือนปีกของพญามัจจุราชกำลังบินเข้ามาพวกเขา สิ้นเสียงปืนในมือของเกลน ร่างของสิ่งนั้นร่วงหล่นลงสู่พื้นอย่างแรง จนเม็ดทรายแตกกระจายไปทั่ว
                “ยิงบ้าอะไรของนายวะ เกลน ?”ร้อยตรีซัลลี่หันมาตวาดเกลน ราวกับว่าเขามองไม่เห็นสิ่งที่บินเข้ามา แต่ทันทีที่เขาหันกลับในวินาทีต่อมา
                “โอ้ เวรเอ๊ย” ร้อยตรีซัลลี่เผลอสบถเสียงดังเมื่อเขามองเห็นปิศาจสีเทานับสิบๆตัวกำลังบินตรงเข้ามาพวกเขา เกลน ร้อยตรีซัลลี่รีบประทับปืนเล็งทันที แต่เมื่อเขามองผ่านกล้อง พวกเขาทั้งสองกลับไม่สามารถมองเห็นฝูงมฤตยูเหล่านั้นได้
                “ควิล เฮค ถอดกล้องกลางคืนออกซะ” เกลนตะโกนสุดเสียงพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมากล้อง แล้วลั่นไกปืนในมือค้างเอาไว้ ร่างของมฤตยูสามตัวร่วงหล่นลงสู่พื้นทรายพร้อมกับที่ ควิลและเฮค ถอดกล้องกลางคืนออก
                “โอ้ อะไรวะเนี่ย” สองทหารตะโกนออกมาแทบจะพร้อมๆกัน แล้วทั้งคู่จึงรีบลีนไกปืนในมือทันที แต่ทันใดนั้นทั้งห้ากลับต้องพบเห็นกับภาพที่น่าเชื่อ เมื่อจูๆเหล่ามฤตูที่ถูกยิงไปก่อนหน้านั้น กลับลุกขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับพร้อมแยกเขี้ยวใส่เขา พวกมันโผบืนขึ้นมาอีกครั้งราวกับกระสุนไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้ และแผลตามตัวของพวกมันนั้นกลับไม่มีเลือดไหลออกมาเลยแม้แต่หยดเดียว นาวิกโยธินทั้งห้ายืนมองภาพนั้นอย่างไม่คิดเชื่อสายตา แต่ไม่พวกเขาก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ พวกเขายังคงยงต่อสู้ต่อไป
                เกลนเริ่มยิงอย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้นหลังจากที่เขารู้แล้วว่าพวกเขาไม่สามารถฆ่าพวกมันได้อย่างดาย เขาเริ่มเล็งตัวที่อยู่ใกล้ๆและยิงไปยังจุดที่เขาคิดว่าน่าจะเปนจุดตายของพวกมัน แต่ไม่ว่าจะยิงไปที่จุดไหนก็ตาม พวกมันก็ยังสามารถลุกกลับขึ้นมาได้เสมอๆ จนกระทั่งเมื่อขาเสามารถยิงมันล้มได้อีกตัว ระหว่างที่มันำลังจะลุกขึ้นมาเกลนได้เล็งไปยังส่วนหัวของมันและยิงเข้าที่กลางแสกหน้าของมัน มันล้มกลับไปลงอีกครั้ง แต่ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็สามารถลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง ซึ่งได้สร้างความตกใจแก่เหล่านาวิกยธินทั้งห้าเป็นอย่างมาก
                “บรรจุกระสุน” เกลนพูดขึ้นเพื่อให้คนอื่นๆยิงคุ้มกันแล้วหันไปบรรจุกะสุน พร้อมกับถอดกล้องเล็งออก และทันที่เขาจัดการทุกอย่างเสณ้จสิ้นแล้ว เสียงเหมือนมีอะไรบางอยางพุ่งขึ้นขากน้ำทะเลก็ดังขึ้น เกลนรีบเงยหน้าขึ้นมองแล้วได้เห็น ฝูงมฤตยูแบบเดียวกันอีกฝูงหนึ่งกำลังบินตรงเข้ามาทางเขา เกลนรีบประทับปืนแล้วยิงออกไป ร่าของมฤตยูเหล่านั้นค่อยๆตกลงกลับสู่ท้องทะเลมทีละตัวๆ
                “บรรจุ” เสียงของควิลดังขึ้น ดังขึ้นพร้อมกับที่เขาหันมาทางด้านหลัง และทันใดนั้นควิลกถึงกับตาค้างที่เห็นเกลนกำลังยิงต้านมฤตยูกลุ่มนั้นอยู่ เขสรีบบรรจุกระสุนใหม่ แล้วช่วยเกลนยิงออกไป ซึ่งการที่ทั้งสองหันมายิงทสงด้านหลังทำให้ประสิทธิภาพการยิงทางดเนหน้าลดลง เหล่ามฤตยูฝูงนั้นเริ่มเข้ามาใกล้พวกเขาได้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
                “เกลน ทางขวา” ควิลตะโกนสุดเสียงเมื่อเขาหันไปเห็นอสุรกายตัวหนึ่งกำลังบินเข้ามาทางขวาของเพื่อนรัก เกลนรีบหันไปแล้วใช้พานท้ายปืนฟาดเข้าที่ใหนาของอสุรกายตัวนั้นอย่างจัง จนเขี้ยวจำนานมากหลุดออกาจากปากของมัน เมื่อร่างของมันหล่นลงสู่พื้น เกลนรีบใช้เท้าเหยียบเข้าที่หน้าอกของมันอย่างแรง พร้อมกับจ่อปากกระบอกปืนเข้าที่บริเวณหน้าอกซ้ายของมัน แล้วเหนี่ยวไกออกครั้งติดๆกัน
                ‘ปัง ปัง’ เมื่อกระสุนสองนัดนั้นถูกยิงออกไป อสุรกายตนนั้นเริ่มเกิดอาการกระตุกและแน่นิ่งไป
                “เล็งที่หัวใจของพวกมัน” เกลนหันมาตะโกนบอกนาวิกโยธินอีกสามนายที่กำลังยิงต่อสู้ทางด้านหน้า และทันใดนั้นเสียงน้ำทะเลแตกซ่านดังสนั่นราวกับมีอะไรบางอย่างขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมาจากทางด้านล่าง เกลนรีบหันกลับไปมองและภาพที่เขาเห็นคือ อสุรกายขนาดใหญ่ตนนั้นที่เขาใช้มีดแทงเข้าที่ตาของมันกำลังพุ่งตัวตรงเข้ามาทางเขา
                “เกลน หลบไป” ควิลตะโกนพร้อมกับผลักร่างของเกลนออกไปให้พ้นทาง ทำให้เขากลับกลายเป็นฝ่ายถูกอสุรกายร่างยักษ์ตนนั้นคว้าตัวและพาบินไปด้วย
                เกลนรีบลุกกลับขึ้นมาแล้วเล็งไปที่ปักของอสถรกายร่างยักษ์ตนนั้นแล้วเหนี่ยวไกค้าง
                ‘ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง” เสียงปืนกลในมือของเกลนดังติดๆกัน พร้อมกับที่ร่างของอสุรกายตนนั้ร่วงลงสู่พื้นทรายอย่างแรง ควิลรีบพยายามดื้นให้หลุดจากอุ้งมือของอสุรกายตนนั้นขณะที่มันยังทันได้ตั้งตัว แต่มันกลับไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ มันเงยหน้าขึ้นมาแล้วกัดเข้าที่คอของเขาจนจมเขี้ยว ควิลร้องเสียงดังสนั่น เขารีบหันมาทางเกลนพร้อมกับกระอักเลือดออกมาเป็นทางยาว
                “เกลนนนนนนนนนน” ควิลตะโกนสุดเสียงพร้อมกับยื่นมือไปทางเพื่อนรัก เกลนมองดูภาพนั้นอยู่เพียงชั่วครู่อย่างรู้ความหมาย เขาค่อยๆคว้าระเบิดออกมาแล้วดึงสลักของมันออกอย่างชั่งใจ แต่ไม่นานนักเขาก็ตัดสินใจ โยนระเบิดลูกนั้นไปตกอยูใกล้ๆควิลกับอสุรกายตนนั้นควิลรีบชักมีดออกมา แล้วแทงเข้าที่ชอกคอของอสูรกายตนนั้น ทำห้มันยอมปล่อยเขาออกมา ควิลรีบคว้าระเบิดลูกนั้นมาแล้วยื่นเข้าไปที่หน้าของอสุรกายตนนั้นและไม่นานนัก
                “ตูมมมมมมมมมมมมม” เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่ว เม็ดทรายในบริเวณนั้นซาดกระจายไปทั่วบริเวณ ร่างของอสูรกายตนนั้นลอยละลิ่วตกลงสู่ท้องทะเลไป ชั่ววินาทีนั้นเองเหล่ามฤตยูตนอื่นๆลนฝั่งต่างพากันร่วงลงสู่พื้นและแสดงอาการเจ็บปวดอย่างไม่มีสาเหตุ พวกมันจำนวนหนึ่งรีบบินไปยังจุกที่อสุกายตนนั้นจมลงไปแล้วดำน้ำหายไป
                “เฮค ใช้ระเบิดเลย” ร้อยตรีซัลลี่หันไปสั่งเฮคท่นั่งอย้างๆให้ใช้ระเบิดจัดการมฤตูเหล่านั้นขณะที่พวกมันยังไม่ทันได้ตั้งตัว ตทันใดนั้นเอง ได้มีอสุรกายอีกตัวหนึ่งพุ่งขึ้นมาเหนือน้ำแล้วบินตรงเข้ามาเกลน ในขณะที่เขายังไม่ทันไดตั้งตัว เขารีบก้มหลบ ทำให้อสูรกายตนนั้นคว้าเข้าที่ไหล่ของเฮคอย่างจัง มันโฉบร่างของเฮคบินไปอย่างรวดเร็ว และความตกใจทำให้เฮคเผลอปล่อยระเบิดที่ดึงสลักแล้วในมือตกลงสู่พื้นใกล้ๆกับนาวิกโยธินอีกสามนาย ทันทีที่พวหเขาหันมาเห็น ร้อยตรีซัลลี่รีบตะโกนสุดเสียง
                “หนีเร็วววววววววววว” นาวิกโยธินรีออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา
                “ตูมมมมมมมมมมมมมม” เสียงระเบิดดังก่ฃ้อง ร่างของนาวิกโยธนทั้งสามลอยระริ่วไปด้วยแรงอัดระเบิด ร่างของพวกเขาตกลงสู่พื้นอย่างแรง พร้อมกับที่พวกเขาเริ่มเห็นภาพเหล่ามฤตยูเหล่านั้นช่วยกันประคอร่างของอสุรกายร่างยักษ์ที่ถูกระเบิดเล่นงานบินหายเข้าไปในป่า หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็หมดสติไป
                *M16 เป็นปืนเล็กยาวจู่โจมที่กองทัพบก สหรัฐอเมริกากำหนดขึ้น โดยเรียกแทนชื่อปืน Armalite AR-15 ซึ่งเป็นปืนเล็กยาวจู่โจมที่ยิงด้วยกระสุนขนาด 5.56x45 มม. นาโต ที่ออกแบบโดยนายยูจีน สโตนเนอร์ (Eugene Stoner) ในปีค.ศ. 1950 เดิมใช้เป็นปืนเล็กยาวประจำกายของทหารในกองทัพบกและกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 โดยเข้าประจำการแทนปืนเล็กยาว M14 ซึ่งใช้กระสุนขนาด 7.62x51 มม. นาโต และยังใช้กันแพร่หลายในกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การ NATO และนานาประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯในช่วงสงครามเย็นมาจนถึงปัจจุบัน
………………………………….

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา