ไกลปืนเที่ยง
9.0
6)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หลังจากส่งลูกสมุนทั้งสองแล้ว มะปรางก็กลับมาถึงบ้านซึ่งเป็นร้านขายกาแฟโอเลี้ยงและปาท่องโก๋ของเธอ พลางเรียกหาบิดาสักพัก ชายชรารุ่นราว 60 กว่าๆผมหงอกทั้งหัวเดินกะย่องกะแย่งออกมาพลางขานรับ
"กลับมาแล้วเรอะ ..... วันนี้ไปไหนมาล่ะนี่มันเย็นมากแล้วนะ แกก็รู้ไม่ใช่เรอะว่ามันอันตราย"
"รู้จ่ะพ่อ ....แหมม หนูก็แค่ไปส่งไอ้แกละกับไอ้จุกมันเอง .... นี่จ่ะหนูซื้อโจ๊กมาฝาก กินเป็นข้าวเย็นกันเลยขี้เกียจทำกับข้าวอ่ะ"
"อ้าว ..... พ่อก็อุตส่าห์หุงข้าวเผื่อแก นี่ก็ทำผัดผักบุ้งกับไข่เจียวไว้ด้วย โจ๊กไว้กินพรุ่งนี้ดีกว่าใส่ตู้เย็นอุ่นไว้กินเช้า"
"ตามใจจ่ะพ่อ" มะปรางยิ้มให้บิดา แล้วก็ลงมือจัดวางจานช้อนส้อม และยกสำรับมาตั้งไว้ สองพ่อลูกเริ่มรับประทานอาหารเย็นแล้วอยู่ๆหญิงสาวก็นึกอะไรขึ้นได้
''ตายจริงพ่อ!!!! หนูลืมหมวกสานใบนั้นที่ใต้ต้นมะขาม พ่อกินข้าวไปก่อนนะ เดี๋ยวหนูมา'' พูดจบหญิงสาวลุกพรวดพราด คว้ากุญแจรถได้ก็สตาร์ทซาเล้งคู่ใจบิดออกไปทันทีโดยไม่ฟังคำทัดทานของบิดา เมื่อมาถึงกลางทางก็พบชายหนุ่มที่เธอทิ้งมาเมื่อตอนบ่าย กำลังเดินอย่างขมักเขม้น หญิงสาวรู้สึกผิดในความใจดำของตัวเองแต่ก็ทำเป็นใจแข็งขับรถผ่านไปโดยไม่มองหน้าแต่เป้นชายหนุ่มเสียเองที่ยิ้มแก้มแทบปริเมื่อเจอเธอแล้วยังร้องทัก
"คุณๆๆๆ ลืมของไว้หรือเปล่า" ชายหนุ่มร้องทักพร้อมกับโบกหมวกที่เธอตามหาในมือไปมา หญิงสาวใจชื้นขึ้นจึงขับรถเครื่องเข้าไปหา
"คุณทำหมวกนี่ลืมไว้เมื่อตอนบ่ายน่ะผมเก็บมาได้ กะว่าจะเอาไปคืนคุณเมื่อเข้าหมู่บ้านได้แล้ว คุณมาก็ดีแล้วเอาคืนไปเถอะอยู่กับผมนานๆมันจะยิ่งขาดหมด" ชายหนุ่มพูดพลางปัดฝุ่นออกจากหมวกยื่นให้หญิงสาว
เธอรีบรับมันมาด้วยความดีใจ เพราะหมวกใบนี้ถึงแม้จะเก่าและขาดแต่กลับมีความหมายกับเธอมาก
"เอ่อ .... ขอบ...ขอบใจนายนะ" หญิงสาวยิ้มแหยๆรู้สึกผิดที่ทำไม่ดีใส่ชายหนุ่มเมื่อตอนบ่าย
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอเดินต่อนะใกล้ค่ำแล้วเดี๋ยวจะเข้าหมู่บ้านไม่ทันก่อนค่ำ"
"เดี๋ยวสิรอก่อน .... ถือเป็นการตอบแทนให้ฉันไปส่งนายเข้าหมู่บ้านก็แล้วกัน"
"มันจะดีเหรอ ..... คุณไม่กลัวผมจะปล้ำคุณกลางทางแล้วเหรอ" ชายหนุ่มย้อน
"ก็ลองดูสิ แม่จะถีบตกรถซาเล้งเลย" หญิงสาวทำท่าขึงขัง
"งั้นก็ได้ครับ ..... ผมไม่ขอปฏิเสธแล้วกัน" ชายหนุ่มพูดจบก็วางสัมภาระไว้ข้างรถแล้วกระโดดขึ้นรถทันที
ภายใต้บรรยากาศยามโพล้เพล้ ดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าลงทุกที รถซาเล้งที่บรรทุกเอาหนุ่มสาวคู่หนึ่งขับไปตามทางถนนดินแดงแคบๆผ่านทุ่งนาและไร่สวนผลไม้ของชาวบ้าน ผ่านเงารกครึ้มและสุมทุมพุ่มไม้ข้างทางทำให้บรรยากาศรอบด้านสดชื่นแต่ก็ดูวังเวงยิ่งนัก ยามพลบค่ำเช่นนี้ชายหนุ่มสังเกตดูก็ไม่เห้นแม้แต่รถสวนมาเลย ผิดกับเมื่อยามบ่ายที่ยังพอมีมอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านขับผ่านไปผ่านมาบ้าง เลยดูไม่น่าวังเวงเท่ากับตอนกลางคืน ช่างสมกับเป็นที่ห่างไกลความเจริญดีแท้ แม้แต่แสงไฟริมทางถนนก็ยังไม่มี อาศัยแค่แสงไฟจากรถซาเล้งเก่าคันนี้เท่านั้นที่ทอดลำยาวไปเบื้องหน้าพอจะมองเห็นทางถนนดินแดงที่ขรุขระไปได้บ้าง
"แล้วนี่คุณมีที่พักแล้วหรือยัง?"หญิงสาวชวนคุยเพื่อทำลายความเงียบวังเวงของบรรยากาศ
"ยังเลย ..... ว่าจะหาโรงแรมแถวนี้ดู คุณพอจะแนะนำได้บ้างไหมที่ไหนราคาถูกๆพอนอนได้ ไม่ต้องหรูมากหรอก"
"อย่าว่าแต่ราคาถูกเลย โรงแรมแพงๆแถวนี้ก็ไม่มีหรอกเพราะที่นี่มันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ขืนใครเปิดโรงแรมที่นี่ก็เจ๊งกันพอดี"
"ว้า ..... ทำไงดีเนี่ย ไม่ได้สำรองแผนอื่นไว้ซะด้วย" ชายหนุ่มทำหน้าผิดหวัง
"ฉันก็บอกคุณแล้ว ว่าที่นี่ไม่เหมาะกับคนเมืองใหญ่อย่างคุณหรอก เอาอย่างนี้สิ.....คุณไปพักบ้านฉันคืนนี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยตีรถกลับเข้าตัวเมือง เดี๋ยวฉันจะไปส่งให้ที่สถานีรถขนส่งในตอนเช้า"
"อืมมมม ... ก็ดีครับ ขอบคุณมากคุณ ..... เอ่อ"
"มะปราง ..... ฉันชื่อมะปราง แล้วคุณล่ะ" หญิงสาวแนะนำตัว พลางหันมายิ้มแย้มให้ สายลมอ่อนๆยามค่ำคืนต้องระแก้มใสทำเอาไรผมพลิ้วผ่านแก้มเนียนนุ่มที่ต้องแสงจันทร์ช่างเป็นภาพที่น่ามองเหลือเกิน
"ผมชื่อตุลย์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ!!!!"
"กลับมาแล้วเรอะ ..... วันนี้ไปไหนมาล่ะนี่มันเย็นมากแล้วนะ แกก็รู้ไม่ใช่เรอะว่ามันอันตราย"
"รู้จ่ะพ่อ ....แหมม หนูก็แค่ไปส่งไอ้แกละกับไอ้จุกมันเอง .... นี่จ่ะหนูซื้อโจ๊กมาฝาก กินเป็นข้าวเย็นกันเลยขี้เกียจทำกับข้าวอ่ะ"
"อ้าว ..... พ่อก็อุตส่าห์หุงข้าวเผื่อแก นี่ก็ทำผัดผักบุ้งกับไข่เจียวไว้ด้วย โจ๊กไว้กินพรุ่งนี้ดีกว่าใส่ตู้เย็นอุ่นไว้กินเช้า"
"ตามใจจ่ะพ่อ" มะปรางยิ้มให้บิดา แล้วก็ลงมือจัดวางจานช้อนส้อม และยกสำรับมาตั้งไว้ สองพ่อลูกเริ่มรับประทานอาหารเย็นแล้วอยู่ๆหญิงสาวก็นึกอะไรขึ้นได้
''ตายจริงพ่อ!!!! หนูลืมหมวกสานใบนั้นที่ใต้ต้นมะขาม พ่อกินข้าวไปก่อนนะ เดี๋ยวหนูมา'' พูดจบหญิงสาวลุกพรวดพราด คว้ากุญแจรถได้ก็สตาร์ทซาเล้งคู่ใจบิดออกไปทันทีโดยไม่ฟังคำทัดทานของบิดา เมื่อมาถึงกลางทางก็พบชายหนุ่มที่เธอทิ้งมาเมื่อตอนบ่าย กำลังเดินอย่างขมักเขม้น หญิงสาวรู้สึกผิดในความใจดำของตัวเองแต่ก็ทำเป็นใจแข็งขับรถผ่านไปโดยไม่มองหน้าแต่เป้นชายหนุ่มเสียเองที่ยิ้มแก้มแทบปริเมื่อเจอเธอแล้วยังร้องทัก
"คุณๆๆๆ ลืมของไว้หรือเปล่า" ชายหนุ่มร้องทักพร้อมกับโบกหมวกที่เธอตามหาในมือไปมา หญิงสาวใจชื้นขึ้นจึงขับรถเครื่องเข้าไปหา
"คุณทำหมวกนี่ลืมไว้เมื่อตอนบ่ายน่ะผมเก็บมาได้ กะว่าจะเอาไปคืนคุณเมื่อเข้าหมู่บ้านได้แล้ว คุณมาก็ดีแล้วเอาคืนไปเถอะอยู่กับผมนานๆมันจะยิ่งขาดหมด" ชายหนุ่มพูดพลางปัดฝุ่นออกจากหมวกยื่นให้หญิงสาว
เธอรีบรับมันมาด้วยความดีใจ เพราะหมวกใบนี้ถึงแม้จะเก่าและขาดแต่กลับมีความหมายกับเธอมาก
"เอ่อ .... ขอบ...ขอบใจนายนะ" หญิงสาวยิ้มแหยๆรู้สึกผิดที่ทำไม่ดีใส่ชายหนุ่มเมื่อตอนบ่าย
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอเดินต่อนะใกล้ค่ำแล้วเดี๋ยวจะเข้าหมู่บ้านไม่ทันก่อนค่ำ"
"เดี๋ยวสิรอก่อน .... ถือเป็นการตอบแทนให้ฉันไปส่งนายเข้าหมู่บ้านก็แล้วกัน"
"มันจะดีเหรอ ..... คุณไม่กลัวผมจะปล้ำคุณกลางทางแล้วเหรอ" ชายหนุ่มย้อน
"ก็ลองดูสิ แม่จะถีบตกรถซาเล้งเลย" หญิงสาวทำท่าขึงขัง
"งั้นก็ได้ครับ ..... ผมไม่ขอปฏิเสธแล้วกัน" ชายหนุ่มพูดจบก็วางสัมภาระไว้ข้างรถแล้วกระโดดขึ้นรถทันที
ภายใต้บรรยากาศยามโพล้เพล้ ดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าลงทุกที รถซาเล้งที่บรรทุกเอาหนุ่มสาวคู่หนึ่งขับไปตามทางถนนดินแดงแคบๆผ่านทุ่งนาและไร่สวนผลไม้ของชาวบ้าน ผ่านเงารกครึ้มและสุมทุมพุ่มไม้ข้างทางทำให้บรรยากาศรอบด้านสดชื่นแต่ก็ดูวังเวงยิ่งนัก ยามพลบค่ำเช่นนี้ชายหนุ่มสังเกตดูก็ไม่เห้นแม้แต่รถสวนมาเลย ผิดกับเมื่อยามบ่ายที่ยังพอมีมอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านขับผ่านไปผ่านมาบ้าง เลยดูไม่น่าวังเวงเท่ากับตอนกลางคืน ช่างสมกับเป็นที่ห่างไกลความเจริญดีแท้ แม้แต่แสงไฟริมทางถนนก็ยังไม่มี อาศัยแค่แสงไฟจากรถซาเล้งเก่าคันนี้เท่านั้นที่ทอดลำยาวไปเบื้องหน้าพอจะมองเห็นทางถนนดินแดงที่ขรุขระไปได้บ้าง
"แล้วนี่คุณมีที่พักแล้วหรือยัง?"หญิงสาวชวนคุยเพื่อทำลายความเงียบวังเวงของบรรยากาศ
"ยังเลย ..... ว่าจะหาโรงแรมแถวนี้ดู คุณพอจะแนะนำได้บ้างไหมที่ไหนราคาถูกๆพอนอนได้ ไม่ต้องหรูมากหรอก"
"อย่าว่าแต่ราคาถูกเลย โรงแรมแพงๆแถวนี้ก็ไม่มีหรอกเพราะที่นี่มันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ขืนใครเปิดโรงแรมที่นี่ก็เจ๊งกันพอดี"
"ว้า ..... ทำไงดีเนี่ย ไม่ได้สำรองแผนอื่นไว้ซะด้วย" ชายหนุ่มทำหน้าผิดหวัง
"ฉันก็บอกคุณแล้ว ว่าที่นี่ไม่เหมาะกับคนเมืองใหญ่อย่างคุณหรอก เอาอย่างนี้สิ.....คุณไปพักบ้านฉันคืนนี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยตีรถกลับเข้าตัวเมือง เดี๋ยวฉันจะไปส่งให้ที่สถานีรถขนส่งในตอนเช้า"
"อืมมมม ... ก็ดีครับ ขอบคุณมากคุณ ..... เอ่อ"
"มะปราง ..... ฉันชื่อมะปราง แล้วคุณล่ะ" หญิงสาวแนะนำตัว พลางหันมายิ้มแย้มให้ สายลมอ่อนๆยามค่ำคืนต้องระแก้มใสทำเอาไรผมพลิ้วผ่านแก้มเนียนนุ่มที่ต้องแสงจันทร์ช่างเป็นภาพที่น่ามองเหลือเกิน
"ผมชื่อตุลย์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ!!!!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ