ไกลปืนเที่ยง
7)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ สถานีตำรวจตำบลโคกอีแร้ง ซึ่งเป็นสภาพเก่าแก่เต็มที ตัวอาคารสองชั้นทำจากไม้ทาสีเลือดหมูทั้งหลัง ที่แห่งนี้ปัจจุบันมีเพียงตำรวจ 4 นายเท่านั้นที่ประจำการอยู่ คือพลตำรวจสมาน พลตำรวจสุครีพ สิบตำรวจโทศักดิ์ชัย และจ่าสิบตำรวจชัยวุฒิ เมื่อสองสามเดือนก่อน เคยมีดาบตำรวจอีก 2 คน และร้อยเวรอีก 3 คน แต่ก็ถูกคนของกำนันเล้งสั่งเก็บไปแล้ว เนื่องจากคดีเรื่องของการค้ายาและขนส่งยาเสพติดที่บังเอิญตำรวจเหล่านี้ได้สืบทราบและกำลังอยู่ในระหว่างสอบสวนและรวบรวมหลักฐานเพื่อจับกุม แต่ดันมาถูกเก็บเสียก่อนเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่ออำพรางคดี ท่านปลัดทินกรผู้ร่วมมือกับทางตำรวจก็พลอยถูกบีบออกจากพื้นที่ด้วยเช่นกัน โรงพักหรือสถานีตำรวจแห่งนี้จึงมีสภาพร้างไม่ต่างอะไรกับบ้านผีสิง และเมื่ออาทิตย์ก่อน คนของกำนันก็ปาระเบิดขู่หน้าโรงพักของตำรวจเพื่อทำการข่มขวัญเจ้าหน้าที่ที่เหลือเพียงสี่นาย เพื่อไม่ให้ตำรวจกล้าเข้าไปวุ่นวายกับคดีนี้อีก ตำรวจทั้งสี่นายถึงจะมีก็ไม่ต่างอะไรกับไม่มีเพราะรับทำคดีเล็กๆอย่างเดียวเช่น คดีทะเลาะเบาะแว้ง ผัวเมียตีกัน ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นคดีใหญ่ๆเช่นการฆ่ากันตาย พรากผู้เยาว์ หรือข่มขืน ถ้าสืบทราบได้ว่าคนลงมือเป็นคนของกำนันเล้งเมื่อไหร่ คดีนี้จะต้องยุติการสอบสวนทันที แลวันนี้ก็เช่นกันเป็นวันที่เงียบเหงาอีกวันหนึ่งของโรงพักโคกอีแร้ง
"คร้าบ .... ครับ ๆๆๆๆ ครับท่าน ได้เลยครับ สวัสดีครับ แกร่ก" เสียงวางหูโทรศัพท์พร้อมกับเสียงผ่อนลมหายใจยาวของจ่าสิบตำรวจชัยวุฒิ ทำเอาเพื่อนร่วมงานอย่าง สิบตำรวจโทศักดิ์ชัย เงยหน้าขึ้นจากเครื่องคอมพิวเตอร์เก่าคร่ำครึที่ทางราชการซื้อให้เมื่อหลายสิบปีก่อน
"ไงจ่า .... คราวนี้มีอะไรอีกล่ะเครียดเชียว เห็นถอนลมหายใจซะดังเลย"
"ไม่ให้ผมเครียดได้ไงล่ะหมู่ ทางกำนันเล้งแกทำเรื่องอีกแล้วน่ะสิ แล้วขอให้เราหุบปากเงียบๆซะไม่ต้องสนใจเรื่องของแก แกจะจัดการเอง"
"หนักขนาดไหนล่ะจ่า"
"ก็ประมาณรุมซ้อมวัยรุ่นที่แอบไปกิ๊กกับเมียน้อยแกเข้า ตอนนี้ไอ้เด็กนั่นนอนหยอด น้ำข้าวต้มปางตายอยู่เลยที่อนามัย"
"เฮ้อออ ... ก็คงต้องเอาหูเอาตาไปนาไปไร่เหมือนเดิม" หมู่ศักดิ์ถอนหายใจอีกคนแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
"ก็ต้องงั้นล่ะหมู่ ..... ไม่งั้นตำรวจโรงพักนี้จะได้เหลือน้อยลงอีกน่ะสิ" จ่าชัยวุฒิ พูดจบก็งัดข้าวกล่องใส่โฟมขึ้นมากินบนโต๊ะทำงานทั้งๆที่ยังไม่เที่ยง ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวถูกจัดวางบนโต๊ะพร้อมช้อนที่ตักจะนำอาหารคำแรกเข้าปาก ก็พอดีมีโทรศัพท์มาเสียก่อน จ่าวุฒิบ่นอย่างหัวเสียแล้วแข็งใจรับโทรศัพท์ หมู่ศักดิ์เห็นอาการจ่าวุฒิพยักหน้าหงึกหงักกับโทรศัพท์สักครู่จึงวางหูลงแล้วหันมาคุยด้วย
"หมู่ ..... วันนี้เราจะมีเจ้าหน้าที่ใหม่มาช่วยราชการ 1 นาย ตอนบ่ายๆนะ บอกอีกสองคนให้เตรียมตัวต้อนรับด้วย"
"ใครเหรอจ่า?"
"ผมก็ไม่รู้ .... อาจเป็นนายร้อยจบใหม่ จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจก็ได้ ส่งมาตายแท้ๆ" ไม่วายบ่นส่งท้ายในความสังเวชใจ ด้วยนึกถึงหนึ่งในร้อยเวรที่ตายไปเพิ่งเป็นเด็กจบใหม่หน้าละอ่อนจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจหมาดๆ แต่ก็ต้องหมดอนาคตเพราะถูกสั่งให้ย้ายมาในที่กันดารแบบนี้ แถมต้องมาตายเสียตั้งแต่อายุยังน้อย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ