Love Plus [ The Predestination Love ]
3.8
4) เทศกาลชมรม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความลำนำแห่งฤดูใบไม้ร่วง ตอนที่ 4 เทศกาลชมรม
เมื่อเมฆหมอกและความมืดของยามราตรีกาลค่อยๆหายไปในตอนรุ่งสาง ณ สวนสาธารณะของส่วนหอพัก หรือที่เรียกกันจนติดปากว่ากรีนเฮาส์นั้น เรนะ สาวน้อยผู้เพิ่งจะเคยสัมผัสกับแดดอันอบอุ่นของพระอาทิตย์ยามเช้าของโรงเรียนฮาคุโอ กำลังวิ่งออกกำลังกายตามปกติเหมือนที่เธอเคยทำอยู่ทุกวันๆก่อนที่จะมาอยุ่ที่นี่ โดยส่วนตัวของเรนะนั้นเธอไม่ค่อยชอบตื่นเช้าสักเท่าไหร่ แต่เธอกลับชอบอากาศยามเช้าที่ชวนให้สดชื่นและมีกำลังใจที่จะทำอะไรๆในวันนั้นซะมากกว่า มันจึงเป็นการบังคับให้เธอต้องตื่นเช้าออกมารับลมเย็นๆแล้วก็แสงแดดอุ่นๆไปโดยปริยาย และไม่เพียงแต่เรนะเท่านั้น ยังมีคนอื่นๆที่คิดแบบเดียวกับเธอออกมาใช้เวลายามเช้าด้วยการทำกิจกรรมใช้แรงมากโขอยู่ทีเดียว " เหนื่อยจัง "เรนะบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะสอดส่ายสายตาหาม้านั่งที่ว่างๆ แล้วเดินทอดน่องช้าๆไปนั่งแหมะอยู่บนม้านั่งตัวดังกล่าว เรนะใช้ผ้าขนหนูของเธอซับเหงื่อที่ไหลออกมาเพราะการวิ่งเบาๆ พลางสอดส่ายสายตามองไปๆมาๆในสวนสาธารณะไปพลาง เธอยิ้มเล็กน้อยเมื่อมองเห็นคนอื่นๆกำลังปฏิบัติกิจกรรมของตนทั้งวิ่งออกกำลังกาย ทั้งเล่นกีฬายามเช้า ก่อนที่เรนะจะบิดตัวแล้วถอนหายใจอย่างสบายอารมณ์" วันที่ 2 แล้วสินะเนี่ย "หลังจากกิจกรรมยามเช้าเสร็จสิ้น เรนะก็เริ่มออกเดินทางไปยังส่วนมัธยมปลายของโรงเรียนฮาคุโอด้วยรถรางแน่นขนัด ต่างกับวันแรกที่เธอเข้ามาเสียเหลือเกิน หรืออาจจะเป็นเพราะเธอมาเช้ากว่าเมื่อวานก็อาจเป็นได้ เมื่อรถรางวิ่งไปถึงจุดหมายหน้าที่ของมัน กลุ่มคนมากมายก็ทยอยๆหลั่งไหลออกมาจากรถรางมุ่งไปยังตึกเรียนมัธยมปลาย และแน่นอน เรนะเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน" อรุณสวัสดิจ้าเรนะจัง " เสียงเรียกดังจากด้านหลังทำให้เรนะต้องหันกลับไปมองแม้จะพอรู้อยู่แล้วว่าใครก็เถอะ และมันก็ใช่อย่างที่เธอคิดเพราะคนที่เรียกเธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ยูกินั่นเอง" เธอนี่ชอบโผล่มาไกล้ๆชั้นตลอดเลยนะยูกิ "" แหมๆ สำหรับวันนี้คงอยู่กับเรนะจังได้ไม่นานหรอกนะ เพราะวันนี้นักเรียนไหม่แบบเรนะต้องออกรบนี่นะ "ยูกิยิ้ม แต่คำพูดของยูกิมันกลับทำเรนะไม่สบายใจ ออกรบเหรอ ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ เรนะคิด แต่ก็คงไม่มีอะไรน่าแปลกสำหรับโรงเรียนฮาคุโอมั้ง เพราะเมื่อวานเธอก็เห็นมาเยอะพอสมควรแล้ว ถึงวันนี้เรนะจะต้องจับโล่จับดาบวิ่งไล่ใครเธอก็คงไม่แพ้ใครง่ายๆแน่ แต่ความหมายของยูกิกลับต่างจากที่เรนะคิดโดยสิ้นเชิง" ว่าแต่วันนี้ดูแปลกๆนะสังเกตไหม " เรนะถามยูกิ แต่เธอก็ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบอยู่แล้ว " ยังไงเหรอค่ะ "" ก็เธอดูสิ " เรนะชี้ไปที่อกของคนอื่นๆที่มีเข็มกลัดสีแดงติดเสื้อของทุกคนในขณะที่เรนะไม่มี ทำให้เธอสงสัยว่าไอ้เจ้าเข็มกลัดสีแดงที่ติดอยู่บนอกเสื้อนั่นมันคืออะไรกันแน่ แต่จะว่าไปตัวยูกิเองก็มีเข็มกลัดที่ว่าติดอยู่ด้วยสิ แล้วถ้าเพ่งมองให้ดีๆ สัญลักษณ์ที่อยู่ใจกลางของเข็มกลัดของยูกิเป็นรูปฟลุตและทรัมเป็ตไขว้กันอยู่ ซึ่งแตกต่างจากของคนอื่นๆที่บางคนก็เป็นรูปไม้เทนนิสไขว้กันแล้วมีลูกเทนนิสลอยอยู่ตรงกลาง หรือไม่ก็ลูกบาสลูกเดียว เป็นต้น" อ่อ นี่เหรอค่ะ " ยูกิชี้ที่เข็มกลัดของตัวเอง เรนะก็พยักหน้า" เข็มกลัดนี่น่ะ เป็นสัญลักษณ์ของชมรมค่ะ มันมีความหมายว่าคนที่ใส่เข็มกลัดนี้มีชมรมอยู่แล้วน่ะค่ะ "หลังจากนั้นยุกิก็เริ่มสาธยายเกี่ยวกับสัญลักษณ์ต่างๆที่อยู่บนเข็มกลัดโดยเริ่มจากสัญลักษณ์ของตัวเองที่หมายถึงชมรมดนตรี สัญลักษณ์ลูกบาสลูกเดียวที่หมายถึงชมรมบาสเกตบอล ตลอดจนสัญลักษณ์ลูกบาสเล็กๆ 3 ลูกวิ่งอยู่บนเกลียวลมที่หมายถึงชมรมสตรีทบาส ซึ่งเรนะก็พยักหน้าตามด้วยความเข้าใจ ยูกิยังเล่าให้ฟังอีกด้วยว่าสัญลักษณ์พวกนี้จะติดในวันที่มีงานเทศกาลอะไรสักอย่างเท่านั้น เพื่อเป็นการบ่งบอกสังกัดชมรมเมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นอีกด้วย ( วันธรรมดาก็สามารถติดเข็มกลัดได้เหมือนกัน แต่ต้องระวังเพราะตัวเข็มกลัดมีการสลักชื่อเจ้าของเอาไว้ด้วย หากชื่อจริงกับชื่อในเข็มกลัดไม่ตรงกันจะถูกลงโทษ ถ้าเข็มกลัดหายหากแจ้งกับประธานชั้นปีแล้ว 7 วันไม่ได้คืน ทางโรงเรียนจะสร้างไหม่ให้ )" สำหรับวันนี้คนที่ไม่มีเข็มกลัดนี่ติดอกอยู่ก็จะลำบากพอควรล่ะค่ะ เพราะวันนี้เป็นเทศกาลชมรม "" เหรอ!? แต่ถ้าคิดแบบนั้น ทุกๆวันที่เจอเธอ ชั้นก็ลำบากทุกวันน่ะล่ะนะ " เรนะบ่นยูกิเองก็ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้นทั้งคู่เดินต่อไปเรื่อยๆตามทางเดินจนเข้าสู่เขตของลานกว้างเหมือนเมื่อวาน และทันที่ที่เรนะได้เหยียบย่างเข้ามาในนี้เรนะก็ต้องตกใจกับซุ้มที่ตั้งอยู่มากมายเรียงรายไปตามทางเดิน และขอบของลานกว้าง เสียงผู้คนร้องเชียร์และทาบทามนักเรียนใหม่เพื่อให้เข้าชมรมของตนดังลั่นไปหมดจนจับใจความไม่ได้ว่าพูดอะไรกันบ้าง ทั้งๆที่เมื่อวานนี้ยังเป็นแค่สวนโล่งๆ ที่มีแค่คนเดินไปๆมาๆและนั่งพักผ่อนเท่านั้นเอง" นี่แหละค่ะเทศกาล… " ยูกิบอกกับเรนะ แต่เรนะก็หายไปโดยที่ยูกิไม่รู้ตัวเลย
" สงสัยจะโดนจับไปแล้วมั้ง แต่เรนะจังตัดสินใจจะเข้าชมรมดนตรีไปแล้วนี่นา คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง " ยูกิพูดกับตัวเองสักพัก แล้วเธอก็ค่อยๆเดินไปทางซุ้มชมรมดนตรีของเธอฝ่ายเรนะที่หายไปนั้น ก็ไม่ได้หายไปไหนไกลแต่เธอคงอยู่ในสภาพที่พูดกับใครไม่ได้ไปอีกพักใหญ่เพราะเธอถูกมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่เพียงแค่นั้นเธอยังถูกเอาผ้ามัดปากยัดใส่ถุงและแบกขึ้นไหล่ด้วยฝีมือของผู้ชาย 2 คนอีกด้วย ด้วยความที่เธอถูกมัดอยู่ ทำให้เรนะไม่มีแรงจะขัดขืนเลยแม้แต่นิดเดียว ทำได้แค่ดิ้นขยุกขยิกนิดๆหน่อยๆเท่านั้น" หึหึ เป็นไปตามแผน ในที่สุดก็ได้ตัวมาแล้ว รู้ปล่าวว่าชั้นเล็งเธอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาแล้ว " ชายคนแรกบอก" ไอ้บ้านี่ อย่าเพิ่งคิดอะไรนอกเรื่องสิ " ชายอีกคนบอกทั้งคู่แบกเรนะที่ไร้แรงขัดขืนข้ามป่า ข้ามลำธาร ลัดเลาะไปตามขอบหน้าผา - - ไปจนถึงคฤหาสน์ที่เหมือนจะทิ้งร้างไปหลายปีแล้ว มันตั้งตระหง่านอยู่บนเนินริมทะเลสาบของโรงเรียนฮาคุโอ ตัวคฤหาสน์เป็นรูปทรงสไตน์ยุโรป หากแต่มันถูกตกแต่งไปด้วยตะไคร่น้ำและเถาวัลย์ที่ทับถมกันมาหลายปีจนเกือบจะกลายเป็นสีเขียวเพราะใบไม้ หน้าต่างกระจกก็แตกไปเกือบหมด เหมือนกับคฤหาสน์ที่เคยมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นแล้วปล่อยทิ้งร้างยังไงยังงั้น" เอาล่ะ ถึงซะที "ชายทั้งสองแบกเรนะเข้ามายืนอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ สักพักใหญ่ๆ ประตูก็เปิดออกโดยไม่ต้องมีใครมาเปิดหรือผลักมัน เหมือนทั้งคู่จะรู้อยู่แล้วเพราะพวกเขาไม่ได้แสดงท่าทีตกใจอะไรออกมา ทั้งคู่แบกเรนะไปตามทางเดินภายในตัวคฤหาสน์ที่ดูสะอาดกว่าที่เห็นข้างนอกมากมายหลายเท่า ก่อนที่จะลงลิฟสู่ชั้นไต้ดิน แล้วเดินลงบันไดไปอีก 2 ชั้น เพื่อไปสู่ห้องเก็บของที่มีรูปมิกุ?? ( Hutsune Miku ) ยิ้มแฉ่ง และใส่กรอบอย่างดีที่สุดประดับไว้กลางห้องโล่งๆถึง 7 รูป 7 แบบด้วยกัน" เอ้า คนละทางก็แล้วกัน "
ทั้งคู่บอกกันเป็นนัยๆแล้ววางเรนะลงบนพื้นให้เบาที่สุด ก่อนจะเดินแยกไปคนละทางแล้วเริ่มเลือนรูปที่ประดับห้องไปทางซ้ายบ้าง ขวาบ้างจนครบ เมื่อทั้งคู่ทำภารกิจเสร็จก็เดินไปยังรูปประดับที่ใหญ่ที่สุดในห้องและช่วยกันเลื่อนรูปลงมาด้านล่าง หลังจากที่รูปใบสุดท้ายถูกเลื่อนมาให้ถูกต้อง กลไกภายในห้องก็ทำงานทันที เสียงฟันเฟืองดังเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมาสักพักใหญ่ๆแล้วมันก็เงียบเสียงไป หลังจากนั้นรูปประดับรูปสุดท้ายที่ตั้งอยุ่ตรงหน้าพวกเขาก็เด้งออกมา เผยให้เห็นประตูที่ถูกซ่อนอยู่ด้านหลังรูปใบสุดท้าย
" เอาล่ะได้ซะที ได้เวลาแล้ว หึหึหึ " " จะว่าไปชั้นก็ชักจะทนไม่ไหวแล้วล่ะนะ หึหึ " ทั้งคู่จ้องมาทางเรนะอย่างมีเลศนัย เรนะถึงกับสะดุ้งเมื่อมองแววตาที่พวกเขาทั้งคู่จ้องเธอ แววตาของสัตว์ร้ายที่จ้องมองเหยื่อที่ตนหามาได้ เรนะพยายามดิ้นหนีแต่ก็จนปัญญาเพราะถูกมัด ทั้งคู่แบกเรนะเข้าไปในประตูลับดังกล่าว ก่อนจะจับเธอนั่งไว้บนเก้าอี้ที่มีตัวเดียวในห้องแล้วปิดประตูห้องลง และแล้วความมืดก็มาเยือนภายในห้องพร้อมๆกับเสียงซุบซิบๆที่ดังขึ้นรอบๆตัวเธอ" เรนะจริงๆด้วยล่ะ " " นั่นมันลูกสาวของดาราคนนั้นไม่ใช่เหรอ " " คนนี้ล่ะใช่แล้ว "และเสียงอีกมากมายที่เธอจับใจความไม่ได้ แต่ที่แน่ๆท่ามกลางความมืดแบบนี้ เรนะเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆซะแล้ว เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเธอ แถมจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอบ้างก็ไม่รู้ แต่ในขณะที่เรนะกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั่นเอง ไฟดวงเล็กๆที่อยู่ในห้องก็ถูกเปิดขึ้น เผยให้เห็นถึงสิ่งที่อยู่ภายในห้องว่ามีอะไรบ้างแล้วตัวเรนะเองถึงกับตะลึง" เลดี้แอนเจลเทิลแมน "เสียงร้องเสียงดังมาจากหนึ่งในกลุ่มคน และคาดว่าตัวเขาน่าจะเป็นหัวหน้าของคนกลุ่มนี้เพราะใส่ชุดแปลกประหลาดกว่าเพื่อนนั่นเอง แต่จะว่าไป นอกจากสองคนที่แบกเธอมาในห้องนี้ที่ใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนฮาคุโอธรรมดาๆ คนอื่นๆก็ล้วนแต่แปลกหมด บางคนทั้งๆที่เป็นผู้ชายกลับใส่ชุดผู้หญิงซะงั้น" หรือจะเป็นที่เค้าเรียกว่าคอสเพล ? " เรนะคิด" ต้องขอโทษที่ทำให้ตกใจ My Dear วิธีการของพวกเราอาจจะดูรุนแรงไปบ้างแต่เชื่อเถอะว่าพวกเราไม่ได้มีเจตนาร้าย "ชายคนดังกล่าวบอกกับเรนะพร้อมกับนั่งคุกเข่าและยื่นมือให้ เหมือนจะจุมพิตหลังมือของเรนะ แต่สำหรับเรนะที่ถูกมัดอยู่อย่างแน่นหนาย่อมเป็นไปไม่ได้ แถมเมื่อได้ฟังคำพูดชวนเลี่ยนมันก็ทำไห้เรนะขนลุกขนพองไปหมด เมื่อชายคนดังกล่าวมองเห็นหน้าเรนะที่กำลังทำหน้าหวาดหวั่น ก็มีท่าทีตกใจทันที" ปล่อยแขกคนสำคัญสิ My Dear ของเรากลัวหมดแล้วเนี่ย "เมื่อได้ยินคำสั่ง สองคนก่อนหน้านี้ก็วิ่งเข้ามาปลดเชือกให้เรนะอย่างรวดเร็ว เมื่อเรนะถูกปล่อยตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชายคนดังกล่าวที่ใช้ชื่อว่า ลูลูซ ซึ่งเป็นหัวหน้าของพวกเขาก็เล่าถึงสาเหตุที่จับตัวเรนะมา บอกว่าที่นี่คือชมรมวิจัยคอมพิวเตอร์ไอดอล เป็นหนึ่งในชมรมที่มีอยู่มากมายในโรงเรียนฮาคุโอ มีหน้าที่หลักคือสร้างไอดอลคอมพิวเตอร์ที่จะสรรค์สร้างผลงานลงในเน็ตโดยใช้คนจริงเป็นต้นแบบนั่นเอง" พวกเราไม่มีผลงานมา 2 ปีแล้วล่ะ " ที่คือเสียงบอกเล่าของเหล่าสมาชิกชมรมที่อยู่ที่นี่ เนื่องจากพวกเขาต้องการแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน แล้วก็ไม่มีหญิงสาวคนใดที่มีอยู่ในโรงเรียนฮาคุโอถูกใจพวกเขาซัก คนนับตั้งแต่โอโมเอะขึ้นเป็นประธานนักเรียน ( เมื่อก่อนพวกนี้ตามตื้อโอโมเอะแบบนี้ล่ะ แต่โอโมเอะไม่เล่นด้วย พอโอโมเอะขึ้นเป็นประธานนักเรียนก็ไม่มีใครกล้าตามตื้อเธออีก ) แต่วันนี้พวกเขาก็ได้พบแล้ว พวกเขาเล่าถึงวิธีการทำงานให้ฟังตั้งแต่วัดตัวไปจนถึงภายในซึ่งมันก็ทำให้เรนะถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอแสนยาก" แต่ละอย่างที่พูดมาไม่ปลอดภัยกับชีวิตสักนิด " เรนะคิด แต่ก็ตั้งใจฟังเรื่องที่พวกเขาเล่าต่อ
" แบบนี้มันกดขี่ทางเพศชัดๆเลย " เรนะคิดอีกทีเมื่อได้ฟังจนจบ ท่าทางตัวเธอจะต้องหาวิธีหนีออกจากชมรมนี้ให้ให้เร็วที่สุดซะแล้วในจังหวะที่เธอกำลังนั่งคิดวิธีหนีออกไปนั่นเอง อยู่ๆ หลอดไฟที่ห้อยอยู่บนเพดานก็ดับไป สักพัก มันก็กลายเป็นไฟกระพริบสีแดงราวกับสัญญาณเตือนภัยอะไรสักอย่าง และดูเหมือนว่าลูลูซกับสมาชิกในชมรมจะดูวุ่นวายกับสิ่งนี้มากเหลือเกิน เพราะแต่ละคนต่างวิ่งเข้าไปประจำหน้าคอมพิวเตอร์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้แต่ลูลูซที่วิ่งไปดูสถานการณ์" เกิดอะไรขึ้น " ลูลูซถาม" เราถูกดักซุ่มโจมตีครับ ศัตรูจะมาถึงที่มั่นภายใน 5 นาที ถ้าคำนวณจากระยะทางและความเร็ว "" บ้าจริง พวกไหนกันที่กล้าเข้ามาโจมตีเราเนี่ย บริทาเนียเหรอ หรือว่าพวกไนท์ออฟราวน์ "" ไม่ใช่ครับ น่าจะเป็นพวกสหพันธ์นะครับ เพราะจำนวนคนมากกว่าพวกบริทาเนียเหรอ หรือว่าพวกไนท์ออฟราวน์ รวมกันซะอีก คิดว่าเป้าหมายน่าจะเป็นว่าที่ไอดอลของพวกเรา สึคิยามะ เรนะ ครับผม "เมื่อได้ยินดังนั้น ลูลูซก็แสยะยิ้มทันที ถ้าเป็นพวกสหพันธ์ก็พอสูสี ลูลูซคิด ลูลูซเริ่มสั่งการให้แต่ละคนเข้าประจำที่มั่นของตนเพื่อตรึงกำลังปกป้องเรนะเอาไว้ด้วยชีวิต แถมแต่ละคนเมื่อได้ยินว่าต้องปกป้องเรนะก็เกิดอาการฮึกเหิมเข้าไปอีก หลังจากที่ลูลูซสั่งการไปเรียบร้อยแล้ว สมาชิกที่อยู่ในห้องก็หายไปจนหมดภายในไม่กี่นาทีจนเหลือแต่ลูลูซกับเรนะที่ยังอยู่ในห้อง ลูลูซคุกเข่าลงต่อหน้าเรนะและดึงหลังมือของเรนะขึ้นมาและจุมพิตมัน และการกระทำของลูลูซก็ทำให้เรนะรู้สึกขนลุกกราวในทันใด" พวกเราจะออกรบเพื่อปกป้องคุณ My Dear โปรดเป็นกำลังใจให้กับพวกเราด้วย "ลูลูซบอกกับเรนะแล้ววิ่งหายไปอีกคน
เมื่อเมฆหมอกและความมืดของยามราตรีกาลค่อยๆหายไปในตอนรุ่งสาง ณ สวนสาธารณะของส่วนหอพัก หรือที่เรียกกันจนติดปากว่ากรีนเฮาส์นั้น เรนะ สาวน้อยผู้เพิ่งจะเคยสัมผัสกับแดดอันอบอุ่นของพระอาทิตย์ยามเช้าของโรงเรียนฮาคุโอ กำลังวิ่งออกกำลังกายตามปกติเหมือนที่เธอเคยทำอยู่ทุกวันๆก่อนที่จะมาอยุ่ที่นี่ โดยส่วนตัวของเรนะนั้นเธอไม่ค่อยชอบตื่นเช้าสักเท่าไหร่ แต่เธอกลับชอบอากาศยามเช้าที่ชวนให้สดชื่นและมีกำลังใจที่จะทำอะไรๆในวันนั้นซะมากกว่า มันจึงเป็นการบังคับให้เธอต้องตื่นเช้าออกมารับลมเย็นๆแล้วก็แสงแดดอุ่นๆไปโดยปริยาย และไม่เพียงแต่เรนะเท่านั้น ยังมีคนอื่นๆที่คิดแบบเดียวกับเธอออกมาใช้เวลายามเช้าด้วยการทำกิจกรรมใช้แรงมากโขอยู่ทีเดียว " เหนื่อยจัง "เรนะบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะสอดส่ายสายตาหาม้านั่งที่ว่างๆ แล้วเดินทอดน่องช้าๆไปนั่งแหมะอยู่บนม้านั่งตัวดังกล่าว เรนะใช้ผ้าขนหนูของเธอซับเหงื่อที่ไหลออกมาเพราะการวิ่งเบาๆ พลางสอดส่ายสายตามองไปๆมาๆในสวนสาธารณะไปพลาง เธอยิ้มเล็กน้อยเมื่อมองเห็นคนอื่นๆกำลังปฏิบัติกิจกรรมของตนทั้งวิ่งออกกำลังกาย ทั้งเล่นกีฬายามเช้า ก่อนที่เรนะจะบิดตัวแล้วถอนหายใจอย่างสบายอารมณ์" วันที่ 2 แล้วสินะเนี่ย "หลังจากกิจกรรมยามเช้าเสร็จสิ้น เรนะก็เริ่มออกเดินทางไปยังส่วนมัธยมปลายของโรงเรียนฮาคุโอด้วยรถรางแน่นขนัด ต่างกับวันแรกที่เธอเข้ามาเสียเหลือเกิน หรืออาจจะเป็นเพราะเธอมาเช้ากว่าเมื่อวานก็อาจเป็นได้ เมื่อรถรางวิ่งไปถึงจุดหมายหน้าที่ของมัน กลุ่มคนมากมายก็ทยอยๆหลั่งไหลออกมาจากรถรางมุ่งไปยังตึกเรียนมัธยมปลาย และแน่นอน เรนะเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน" อรุณสวัสดิจ้าเรนะจัง " เสียงเรียกดังจากด้านหลังทำให้เรนะต้องหันกลับไปมองแม้จะพอรู้อยู่แล้วว่าใครก็เถอะ และมันก็ใช่อย่างที่เธอคิดเพราะคนที่เรียกเธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ยูกินั่นเอง" เธอนี่ชอบโผล่มาไกล้ๆชั้นตลอดเลยนะยูกิ "" แหมๆ สำหรับวันนี้คงอยู่กับเรนะจังได้ไม่นานหรอกนะ เพราะวันนี้นักเรียนไหม่แบบเรนะต้องออกรบนี่นะ "ยูกิยิ้ม แต่คำพูดของยูกิมันกลับทำเรนะไม่สบายใจ ออกรบเหรอ ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ เรนะคิด แต่ก็คงไม่มีอะไรน่าแปลกสำหรับโรงเรียนฮาคุโอมั้ง เพราะเมื่อวานเธอก็เห็นมาเยอะพอสมควรแล้ว ถึงวันนี้เรนะจะต้องจับโล่จับดาบวิ่งไล่ใครเธอก็คงไม่แพ้ใครง่ายๆแน่ แต่ความหมายของยูกิกลับต่างจากที่เรนะคิดโดยสิ้นเชิง" ว่าแต่วันนี้ดูแปลกๆนะสังเกตไหม " เรนะถามยูกิ แต่เธอก็ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบอยู่แล้ว " ยังไงเหรอค่ะ "" ก็เธอดูสิ " เรนะชี้ไปที่อกของคนอื่นๆที่มีเข็มกลัดสีแดงติดเสื้อของทุกคนในขณะที่เรนะไม่มี ทำให้เธอสงสัยว่าไอ้เจ้าเข็มกลัดสีแดงที่ติดอยู่บนอกเสื้อนั่นมันคืออะไรกันแน่ แต่จะว่าไปตัวยูกิเองก็มีเข็มกลัดที่ว่าติดอยู่ด้วยสิ แล้วถ้าเพ่งมองให้ดีๆ สัญลักษณ์ที่อยู่ใจกลางของเข็มกลัดของยูกิเป็นรูปฟลุตและทรัมเป็ตไขว้กันอยู่ ซึ่งแตกต่างจากของคนอื่นๆที่บางคนก็เป็นรูปไม้เทนนิสไขว้กันแล้วมีลูกเทนนิสลอยอยู่ตรงกลาง หรือไม่ก็ลูกบาสลูกเดียว เป็นต้น" อ่อ นี่เหรอค่ะ " ยูกิชี้ที่เข็มกลัดของตัวเอง เรนะก็พยักหน้า" เข็มกลัดนี่น่ะ เป็นสัญลักษณ์ของชมรมค่ะ มันมีความหมายว่าคนที่ใส่เข็มกลัดนี้มีชมรมอยู่แล้วน่ะค่ะ "หลังจากนั้นยุกิก็เริ่มสาธยายเกี่ยวกับสัญลักษณ์ต่างๆที่อยู่บนเข็มกลัดโดยเริ่มจากสัญลักษณ์ของตัวเองที่หมายถึงชมรมดนตรี สัญลักษณ์ลูกบาสลูกเดียวที่หมายถึงชมรมบาสเกตบอล ตลอดจนสัญลักษณ์ลูกบาสเล็กๆ 3 ลูกวิ่งอยู่บนเกลียวลมที่หมายถึงชมรมสตรีทบาส ซึ่งเรนะก็พยักหน้าตามด้วยความเข้าใจ ยูกิยังเล่าให้ฟังอีกด้วยว่าสัญลักษณ์พวกนี้จะติดในวันที่มีงานเทศกาลอะไรสักอย่างเท่านั้น เพื่อเป็นการบ่งบอกสังกัดชมรมเมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นอีกด้วย ( วันธรรมดาก็สามารถติดเข็มกลัดได้เหมือนกัน แต่ต้องระวังเพราะตัวเข็มกลัดมีการสลักชื่อเจ้าของเอาไว้ด้วย หากชื่อจริงกับชื่อในเข็มกลัดไม่ตรงกันจะถูกลงโทษ ถ้าเข็มกลัดหายหากแจ้งกับประธานชั้นปีแล้ว 7 วันไม่ได้คืน ทางโรงเรียนจะสร้างไหม่ให้ )" สำหรับวันนี้คนที่ไม่มีเข็มกลัดนี่ติดอกอยู่ก็จะลำบากพอควรล่ะค่ะ เพราะวันนี้เป็นเทศกาลชมรม "" เหรอ!? แต่ถ้าคิดแบบนั้น ทุกๆวันที่เจอเธอ ชั้นก็ลำบากทุกวันน่ะล่ะนะ " เรนะบ่นยูกิเองก็ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้นทั้งคู่เดินต่อไปเรื่อยๆตามทางเดินจนเข้าสู่เขตของลานกว้างเหมือนเมื่อวาน และทันที่ที่เรนะได้เหยียบย่างเข้ามาในนี้เรนะก็ต้องตกใจกับซุ้มที่ตั้งอยู่มากมายเรียงรายไปตามทางเดิน และขอบของลานกว้าง เสียงผู้คนร้องเชียร์และทาบทามนักเรียนใหม่เพื่อให้เข้าชมรมของตนดังลั่นไปหมดจนจับใจความไม่ได้ว่าพูดอะไรกันบ้าง ทั้งๆที่เมื่อวานนี้ยังเป็นแค่สวนโล่งๆ ที่มีแค่คนเดินไปๆมาๆและนั่งพักผ่อนเท่านั้นเอง" นี่แหละค่ะเทศกาล… " ยูกิบอกกับเรนะ แต่เรนะก็หายไปโดยที่ยูกิไม่รู้ตัวเลย
" สงสัยจะโดนจับไปแล้วมั้ง แต่เรนะจังตัดสินใจจะเข้าชมรมดนตรีไปแล้วนี่นา คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง " ยูกิพูดกับตัวเองสักพัก แล้วเธอก็ค่อยๆเดินไปทางซุ้มชมรมดนตรีของเธอฝ่ายเรนะที่หายไปนั้น ก็ไม่ได้หายไปไหนไกลแต่เธอคงอยู่ในสภาพที่พูดกับใครไม่ได้ไปอีกพักใหญ่เพราะเธอถูกมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่เพียงแค่นั้นเธอยังถูกเอาผ้ามัดปากยัดใส่ถุงและแบกขึ้นไหล่ด้วยฝีมือของผู้ชาย 2 คนอีกด้วย ด้วยความที่เธอถูกมัดอยู่ ทำให้เรนะไม่มีแรงจะขัดขืนเลยแม้แต่นิดเดียว ทำได้แค่ดิ้นขยุกขยิกนิดๆหน่อยๆเท่านั้น" หึหึ เป็นไปตามแผน ในที่สุดก็ได้ตัวมาแล้ว รู้ปล่าวว่าชั้นเล็งเธอไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาแล้ว " ชายคนแรกบอก" ไอ้บ้านี่ อย่าเพิ่งคิดอะไรนอกเรื่องสิ " ชายอีกคนบอกทั้งคู่แบกเรนะที่ไร้แรงขัดขืนข้ามป่า ข้ามลำธาร ลัดเลาะไปตามขอบหน้าผา - - ไปจนถึงคฤหาสน์ที่เหมือนจะทิ้งร้างไปหลายปีแล้ว มันตั้งตระหง่านอยู่บนเนินริมทะเลสาบของโรงเรียนฮาคุโอ ตัวคฤหาสน์เป็นรูปทรงสไตน์ยุโรป หากแต่มันถูกตกแต่งไปด้วยตะไคร่น้ำและเถาวัลย์ที่ทับถมกันมาหลายปีจนเกือบจะกลายเป็นสีเขียวเพราะใบไม้ หน้าต่างกระจกก็แตกไปเกือบหมด เหมือนกับคฤหาสน์ที่เคยมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นแล้วปล่อยทิ้งร้างยังไงยังงั้น" เอาล่ะ ถึงซะที "ชายทั้งสองแบกเรนะเข้ามายืนอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ สักพักใหญ่ๆ ประตูก็เปิดออกโดยไม่ต้องมีใครมาเปิดหรือผลักมัน เหมือนทั้งคู่จะรู้อยู่แล้วเพราะพวกเขาไม่ได้แสดงท่าทีตกใจอะไรออกมา ทั้งคู่แบกเรนะไปตามทางเดินภายในตัวคฤหาสน์ที่ดูสะอาดกว่าที่เห็นข้างนอกมากมายหลายเท่า ก่อนที่จะลงลิฟสู่ชั้นไต้ดิน แล้วเดินลงบันไดไปอีก 2 ชั้น เพื่อไปสู่ห้องเก็บของที่มีรูปมิกุ?? ( Hutsune Miku ) ยิ้มแฉ่ง และใส่กรอบอย่างดีที่สุดประดับไว้กลางห้องโล่งๆถึง 7 รูป 7 แบบด้วยกัน" เอ้า คนละทางก็แล้วกัน "
ทั้งคู่บอกกันเป็นนัยๆแล้ววางเรนะลงบนพื้นให้เบาที่สุด ก่อนจะเดินแยกไปคนละทางแล้วเริ่มเลือนรูปที่ประดับห้องไปทางซ้ายบ้าง ขวาบ้างจนครบ เมื่อทั้งคู่ทำภารกิจเสร็จก็เดินไปยังรูปประดับที่ใหญ่ที่สุดในห้องและช่วยกันเลื่อนรูปลงมาด้านล่าง หลังจากที่รูปใบสุดท้ายถูกเลื่อนมาให้ถูกต้อง กลไกภายในห้องก็ทำงานทันที เสียงฟันเฟืองดังเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมาสักพักใหญ่ๆแล้วมันก็เงียบเสียงไป หลังจากนั้นรูปประดับรูปสุดท้ายที่ตั้งอยุ่ตรงหน้าพวกเขาก็เด้งออกมา เผยให้เห็นประตูที่ถูกซ่อนอยู่ด้านหลังรูปใบสุดท้าย
" เอาล่ะได้ซะที ได้เวลาแล้ว หึหึหึ " " จะว่าไปชั้นก็ชักจะทนไม่ไหวแล้วล่ะนะ หึหึ " ทั้งคู่จ้องมาทางเรนะอย่างมีเลศนัย เรนะถึงกับสะดุ้งเมื่อมองแววตาที่พวกเขาทั้งคู่จ้องเธอ แววตาของสัตว์ร้ายที่จ้องมองเหยื่อที่ตนหามาได้ เรนะพยายามดิ้นหนีแต่ก็จนปัญญาเพราะถูกมัด ทั้งคู่แบกเรนะเข้าไปในประตูลับดังกล่าว ก่อนจะจับเธอนั่งไว้บนเก้าอี้ที่มีตัวเดียวในห้องแล้วปิดประตูห้องลง และแล้วความมืดก็มาเยือนภายในห้องพร้อมๆกับเสียงซุบซิบๆที่ดังขึ้นรอบๆตัวเธอ" เรนะจริงๆด้วยล่ะ " " นั่นมันลูกสาวของดาราคนนั้นไม่ใช่เหรอ " " คนนี้ล่ะใช่แล้ว "และเสียงอีกมากมายที่เธอจับใจความไม่ได้ แต่ที่แน่ๆท่ามกลางความมืดแบบนี้ เรนะเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆซะแล้ว เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเธอ แถมจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอบ้างก็ไม่รู้ แต่ในขณะที่เรนะกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั่นเอง ไฟดวงเล็กๆที่อยู่ในห้องก็ถูกเปิดขึ้น เผยให้เห็นถึงสิ่งที่อยู่ภายในห้องว่ามีอะไรบ้างแล้วตัวเรนะเองถึงกับตะลึง" เลดี้แอนเจลเทิลแมน "เสียงร้องเสียงดังมาจากหนึ่งในกลุ่มคน และคาดว่าตัวเขาน่าจะเป็นหัวหน้าของคนกลุ่มนี้เพราะใส่ชุดแปลกประหลาดกว่าเพื่อนนั่นเอง แต่จะว่าไป นอกจากสองคนที่แบกเธอมาในห้องนี้ที่ใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนฮาคุโอธรรมดาๆ คนอื่นๆก็ล้วนแต่แปลกหมด บางคนทั้งๆที่เป็นผู้ชายกลับใส่ชุดผู้หญิงซะงั้น" หรือจะเป็นที่เค้าเรียกว่าคอสเพล ? " เรนะคิด" ต้องขอโทษที่ทำให้ตกใจ My Dear วิธีการของพวกเราอาจจะดูรุนแรงไปบ้างแต่เชื่อเถอะว่าพวกเราไม่ได้มีเจตนาร้าย "ชายคนดังกล่าวบอกกับเรนะพร้อมกับนั่งคุกเข่าและยื่นมือให้ เหมือนจะจุมพิตหลังมือของเรนะ แต่สำหรับเรนะที่ถูกมัดอยู่อย่างแน่นหนาย่อมเป็นไปไม่ได้ แถมเมื่อได้ฟังคำพูดชวนเลี่ยนมันก็ทำไห้เรนะขนลุกขนพองไปหมด เมื่อชายคนดังกล่าวมองเห็นหน้าเรนะที่กำลังทำหน้าหวาดหวั่น ก็มีท่าทีตกใจทันที" ปล่อยแขกคนสำคัญสิ My Dear ของเรากลัวหมดแล้วเนี่ย "เมื่อได้ยินคำสั่ง สองคนก่อนหน้านี้ก็วิ่งเข้ามาปลดเชือกให้เรนะอย่างรวดเร็ว เมื่อเรนะถูกปล่อยตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชายคนดังกล่าวที่ใช้ชื่อว่า ลูลูซ ซึ่งเป็นหัวหน้าของพวกเขาก็เล่าถึงสาเหตุที่จับตัวเรนะมา บอกว่าที่นี่คือชมรมวิจัยคอมพิวเตอร์ไอดอล เป็นหนึ่งในชมรมที่มีอยู่มากมายในโรงเรียนฮาคุโอ มีหน้าที่หลักคือสร้างไอดอลคอมพิวเตอร์ที่จะสรรค์สร้างผลงานลงในเน็ตโดยใช้คนจริงเป็นต้นแบบนั่นเอง" พวกเราไม่มีผลงานมา 2 ปีแล้วล่ะ " ที่คือเสียงบอกเล่าของเหล่าสมาชิกชมรมที่อยู่ที่นี่ เนื่องจากพวกเขาต้องการแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน แล้วก็ไม่มีหญิงสาวคนใดที่มีอยู่ในโรงเรียนฮาคุโอถูกใจพวกเขาซัก คนนับตั้งแต่โอโมเอะขึ้นเป็นประธานนักเรียน ( เมื่อก่อนพวกนี้ตามตื้อโอโมเอะแบบนี้ล่ะ แต่โอโมเอะไม่เล่นด้วย พอโอโมเอะขึ้นเป็นประธานนักเรียนก็ไม่มีใครกล้าตามตื้อเธออีก ) แต่วันนี้พวกเขาก็ได้พบแล้ว พวกเขาเล่าถึงวิธีการทำงานให้ฟังตั้งแต่วัดตัวไปจนถึงภายในซึ่งมันก็ทำให้เรนะถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอแสนยาก" แต่ละอย่างที่พูดมาไม่ปลอดภัยกับชีวิตสักนิด " เรนะคิด แต่ก็ตั้งใจฟังเรื่องที่พวกเขาเล่าต่อ
" แบบนี้มันกดขี่ทางเพศชัดๆเลย " เรนะคิดอีกทีเมื่อได้ฟังจนจบ ท่าทางตัวเธอจะต้องหาวิธีหนีออกจากชมรมนี้ให้ให้เร็วที่สุดซะแล้วในจังหวะที่เธอกำลังนั่งคิดวิธีหนีออกไปนั่นเอง อยู่ๆ หลอดไฟที่ห้อยอยู่บนเพดานก็ดับไป สักพัก มันก็กลายเป็นไฟกระพริบสีแดงราวกับสัญญาณเตือนภัยอะไรสักอย่าง และดูเหมือนว่าลูลูซกับสมาชิกในชมรมจะดูวุ่นวายกับสิ่งนี้มากเหลือเกิน เพราะแต่ละคนต่างวิ่งเข้าไปประจำหน้าคอมพิวเตอร์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้แต่ลูลูซที่วิ่งไปดูสถานการณ์" เกิดอะไรขึ้น " ลูลูซถาม" เราถูกดักซุ่มโจมตีครับ ศัตรูจะมาถึงที่มั่นภายใน 5 นาที ถ้าคำนวณจากระยะทางและความเร็ว "" บ้าจริง พวกไหนกันที่กล้าเข้ามาโจมตีเราเนี่ย บริทาเนียเหรอ หรือว่าพวกไนท์ออฟราวน์ "" ไม่ใช่ครับ น่าจะเป็นพวกสหพันธ์นะครับ เพราะจำนวนคนมากกว่าพวกบริทาเนียเหรอ หรือว่าพวกไนท์ออฟราวน์ รวมกันซะอีก คิดว่าเป้าหมายน่าจะเป็นว่าที่ไอดอลของพวกเรา สึคิยามะ เรนะ ครับผม "เมื่อได้ยินดังนั้น ลูลูซก็แสยะยิ้มทันที ถ้าเป็นพวกสหพันธ์ก็พอสูสี ลูลูซคิด ลูลูซเริ่มสั่งการให้แต่ละคนเข้าประจำที่มั่นของตนเพื่อตรึงกำลังปกป้องเรนะเอาไว้ด้วยชีวิต แถมแต่ละคนเมื่อได้ยินว่าต้องปกป้องเรนะก็เกิดอาการฮึกเหิมเข้าไปอีก หลังจากที่ลูลูซสั่งการไปเรียบร้อยแล้ว สมาชิกที่อยู่ในห้องก็หายไปจนหมดภายในไม่กี่นาทีจนเหลือแต่ลูลูซกับเรนะที่ยังอยู่ในห้อง ลูลูซคุกเข่าลงต่อหน้าเรนะและดึงหลังมือของเรนะขึ้นมาและจุมพิตมัน และการกระทำของลูลูซก็ทำให้เรนะรู้สึกขนลุกกราวในทันใด" พวกเราจะออกรบเพื่อปกป้องคุณ My Dear โปรดเป็นกำลังใจให้กับพวกเราด้วย "ลูลูซบอกกับเรนะแล้ววิ่งหายไปอีกคน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
3.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
3.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ