Love Plus [ The Predestination Love ]
3) กรีนเฮาส์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความลำนำแห่งฤดูใบไม้ร่วง บทที่ 3 กรีนเฮาส์
ประธานนักเรียนเองเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวที่กำลังยืนเอามือเท้าสะเอวทำหน้าบึ้งอยุ่ต่อหน้าเธอก็อดขำไม่ได้ เนื่องจากร่างกายของหญิงสาวที่ยืนอยู่ต่อหน้าประธานนั้น มีขนาดตัวที่เล็กกว่าอายุมาก มันจึงทำให้ดูน่ารักน่ากอดมากกว่าที่จะเกรงซะมากกว่า ซึ่งถ้าประธานนักเรียนไม่ได้รู้จักมาก่อนล่ะก็ เธอคงคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป้นเด็กมัธยมต้นแน่ๆ
" เห็นด้วยรึปล่าว ? " ทานาบาตะมีสีหน้าจริงจังเมื่อประธานนักเรียนอ่านจบ
กลางป่าเขาที่รายล้อมด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่นาๆชนิด หญิงสาว 2 คนยืนประจันหน้ากันอยุ่โดยไม่ได้สนใจบรรยากาศร่มเย็นที่รายล้อมพวกเขาอยู่เลย เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วนะหลังจากที่พวกเธอทั้งคู่ยืนประจันหน้ากันอยู่อย่างนี้ จากร่อยรอยของเศษไม้ที่ปลิวกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปรอบตัวทั้งคู่ บ่งบอกถึงการต่อสู้ที่รุนแรงที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้อย่างชัดเจน และเท่าที่มองด้วยตาเปล่าก็เหมือนมีคนบาดเจ็บอยู่ด้วยเพราะเธอยกมือซ้ายมากุมไหล่ขวาไว้ตลอดเวลา
" นี่เจ้าจะติดตามข้าไปอีกนานสักเพียงใด ข้าสู้อุตสาห์ฝ่าฟันหนีออกมาจากนรกนั่นได้แล้ว เจ้ายังจะจับตัวข้ากลับไปอีกรึ ? "
ประโยคแรกถูกถามออกมาจากหญิงสาวผมลอนยาวสืทองน่ารักที่บาดเจ็บอยู่ก่อน ส่วนหญิงสาวอีกคนที่อยู่ตรงหน้าเมื่อได้ยินคำถามนั้นกลับไม่ได้มีความรู้สึกใดๆนอกจากความเย็นชา
" ถึงแม้สำหรับเจ้ามันจะเป็นนรกก็เถอะ แต่สำหรับข้าน่ะ มันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนที่ไม่สามารถมีได้เป็นหนที่สอง เพราะฉะนั้น ข้าต้องขอจับตัวเจ้ากลับไป มันคงเป็นการดีกว่าที่จะปล่อยให้เจ้าจากไปแล้วนำพรรคพวกกลับมาถล่มเมืองของข้า "
เมื่อพูดจบเธอก็หายไปจากโฟกัสสายตาของหญิงผมทองก่อนที่จะไปโผล่ด้านหลังอย่างเงียบเชียบ มีดสั้นทรงยุโรปเล็กๆในมือของเธอพุ่งไปที่คอของหญิงสาวผมทองอย่างแม่นยำและรวดเร็ว แต่ถึงแม้มันจะรวดเร็วสักเพียงใดก็ไม่อาจจะทำร้ายร่างกายของหญิงสาวผมทองไปได้มากไปกว่ารอยเฉี่ยวของคมมีดที่คอเท่านั้นเอง
" สมแล้วที่เป็นเจ้า สัญชาตญาณตอบรับรวดเร็วจริงๆ นี่ขนาดข้าลงมือแบบไม่ให้ตั้งตัวได้นะ " หญิงสาวกล่าวชม แต่มันกลับไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีด้วยเลย เมื่อคนที่หักแขนขวาของตนมายืนชื่นชมอยู่ตรงหน้า
" ไม่ยอมรับคำชมงั้นเหรอ งั้นก็ช่วยไม่ได้เล่นกันมามากพอแล้ว ข้าคงต้องขอให้เจ้ากลับไปได้แล้วล่ะนะ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย "
" ปิ๊บ "
ความเงียบได้บังเกิดขึ้นในห้องสี่เหลียมเล็กๆหลังจากที่โทรทัศน์ที่เพิ่งจะฉายภาพอนิเมชั่นเรื่องดังถูกปิดไป โต๊ะทำงานที่มีเอกสารวางระเกะระกะไม่เป็นระเบียบถูกมือเล็กๆของหญิงสาวที่น่าจะเป็นของเจ้าของโต๊ะที่นั่งอยุ่ กวาดลงพื้นอย่างไม่แยแสเลยสักนิด ก่อนที่เธอจะวางรีโมททีวีที่เพิ่งจะใช้ไปเมื่อครู่ วางลงบนโต๊ะที่ว่างเปล่าหลังจากเอกสารไปนอนกองบนพื้นเรียบร้อยแล้ว และดึงมือกลับมาลูบหัวเด็กน้อยอีกคนที่นอนหลับอยุ่บนตักเธอเบาๆ พลางส่งยิ้มให้เล็กน้อย
" เอ่อ โทษทีนะไม่อยากจะขัดความสุขเท่าไหร่หรอก แต่ช่วยบอกเหตุผลที่มาอยู่ที่นี่ให้ฟังหน่อยได้รึปล่าว คุณประธาน "
หญิงสาวผมสีน้ำเงินยาวถึงช่วงเอวที่ยืนอยู่ข้างหน้าโต๊ะทำงานถาม และเธอก็มีสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ที่ประธานนักเรียนฮาคุโอมาเยี่ยมเยือนเธอในตอนที่เธอกำลังปลีกวิเวกทำงานส่วนตัวของเธออยุ่ ซึ่งมันอาจจะมีผลทำให้เธอส่งงานไม่ทันก็เป็นได้
" สาเหตุเหรอ?? อืมม " ประธานนักเรียนทวนคำถามเล็กน้อย
" ก็คงจะเป็นไอ้นี่ล่ะมั้ง "
หลังจากที่ประธานนักเรียนนั่งนึกสักครู่ เธอก็หยิบเอกสารออกมา ( จากไหนไม่รู้ ) ปึกใหญ่ๆ แล้วทิ้งมันลงตรงหน้าของหญิงสาวผมสีน้ำเงินอย่างเบาที่สุด เพราะเธอไม่อยากทำให้เด็กน้อยที่นอนหลับอยู่บนตักของเธอต้องตื่น แต่ถึงจะเบาแค่ไหนมันก็ทำให้หญิงสาวผมสีน้ำเงินต้องสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง ก่อนที่เธอจะหยิบเอกสารดังกล่าวออกมาดูและแอบเหลือบตามองประธานนักเรียนที่จ้องมองเธออยู่เป็นครั้งคราว
" มันคืออะไรเหรอประธาน " หญิงสาวถามทั้งๆที่ตัวเธอเองรู้คำตอบอยู่แก่ใจ แต่ถึงยังไงเธอก็ต้องตีหน้าเซ่อไว้ก่อน
" ไม่ต้องมาตีหน้าเซ่อหรอกรุ่นพี่ทานาบาตะ เอ๊ะหรือจะเรียกว่ามั……. "
ก่อนที่จะได้พูดมากไปกว่านั้น กองเอกสารกองนั้นก็ทิ้งดิ่งลงบนโต๊ะด้วยความตั้งใจของทานาบาตะพร้อมๆกับใบหน้าที่บ่งบอกชัดเจนถึงความสงสัยและตกใจ ถึงแม้จะเป็นคำที่หลุดมาแค่คำเดียวแต่มันก็ไม่น่าเชื่อ อีกอย่างคือเธอไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครแม้กระทั่งกับอาจารย์ แต่ความคิดเตลิดของเธอก็ต้องจบลงเมื่อประธานนักเรียนพูดขึ้นมา
" ก็รู้นะ ว่ารุ่นพี่ชอบงานเทศกาล แต่ว่า นายการโฆษณาเกินความจำเป็นนี่มันอะไร นี่ยังดีที่เห็นก่อน เกิดถ้าเจ้าพวกขี้เกียจคนอื่นๆเห็นนี่ลำบากหนักเลยนะ รู้ไหมสถานภาพของชมรมหนังสือพิมพ์จะเป็นยังไงถ้าคนอื่นมาเห็นเนี่ย นี่มันไม่ใช่เรื่องของรุ่นพี่คนเดียวนะ "
เมื่อเจอเข้ากับคำเทศนาของผู้ที่อยู่เหนือนักเรียนทุกคนในโรงเรียนฮาคุโอ ทานาบาตะก็ได้แต่นั่งฟังเพียงอย่างเดียว จริงอยู่ว่าในสถานการณ์แบบนี้เธอสามารถนำสิ่งที่อยู่ในกรณีเดียวกันของประธานนักเรียนมาโต้เถียงได้ และถ้าเธอทำแบบนั้นประธานนักเรียนต้องยอมฟังสิ่งที่เธอต้องการบอกแน่ๆ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะทานาบาตะนั้นรุ้ดี ถึงแม้ประธานนักเรียนคนปัจจุบันจะดูว่ามีเวลาว่างเหลือเฟือพอที่จะลอยชายไปนั่นไปนี่ แต่เธอก็ไม่เคยขาดตกบกพร่องในงานที่ทำเลยแม้แต่น้อย ทานาบาตะจึงได้แต่นั่งรับกรรมที่ตัวเองก่อไว้อย่างเสียมิได้ แต่หลังจากนั่งพับเพียบนานเข้าๆ เหน็บก็เริ่มคลืบคลานมาเยือนขาของทานาบาตะโดยไม่ต้องเชิญ ทานาบาตะเริ่มกระวนกระวายกับอาการที่เกิดขึ้น พลางหาวิธีเอาตัวรอดจากการเทศนาครั้งนี้ไปพลางและเธอก็เกิดนึกถึงข่าวที่เพิ่งจะเกิดขึ้นสดๆร้อนๆเมื่อปีก่อนนี่เอง
" เดี๋ยวก่อนโอโมเอะจัง ชั้นมีข้อเสนอ "
ทานาบาตะบอกกับประธานนักเรียน แถมยังเรียกด้วยชื่ออีกด้วยซึ่งมันก็ทำให้ประธานนักเรียน หรือ โอโมเอะ ต้องแปลกใจ จริงอยู่ที่ว่าชื่อของเธอนั้นมันไม่ได้ปิดไว้เป็นความลับ แต่คนส่วนใหญ่จะเรียกเธอว่าประธานซะมากกว่า และจะมีแค่คนในชมรมลับเท่านั้นที่จะเรียกชื่อเธออย่างเปิดเผย แต่อยู่ๆทานาบาตะที่เรียกเธอว่าประธานอยู่เป็นประจำก็มาเรียกชื่อเธอเฉยๆซะงั้น ชวนให้นึกสงสัยว่าทานาบาตะจะต้องมีอะไรสำคัญๆที่จะพูดต่อไปแน่นอน
" มีอะไรจะเสนอเหรอรุ่นพี่ " โอโมเอะถามกลับ
เมื่อทานาบาตะเห็นว่าประธานนักเรียนอย่างโอโมเอะยอมคล้อยตามแล้ว ทานาบาตะก็เดินไปที่ตู้เอกสาร ก่อนที่เธอจะลงมือคุ้ยๆเขี่ยๆหาอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น สักพักทานาบาตะก็หยิบก้อนกระดาษเก่าๆที่เหมือนกับเศษกระดาษของนักเขียนการ์ตูนที่วาดพลาดแล้วขยำทิ้งลงถังขยะยังไงยังงั้นมาวางไว้บนโต๊ะ และเริ่มคลี่มันออกแล้วส่งให้กับโอโมเอะ ซึ่งโอโมเอะก็ไม่ได้รังเกียจมันแต่ประการใด เธอรับมันเอาไว้และอ่านเนื้อความข้างใน แถมยังเหลือบตาขึ้นมามองทานาบาตะที่กำลังยืนลุ้นอยุ่อีกด้วย
" นี่รุ่นพี่คิดจะใช้วิธีเดียวกันกับชมรมบาสเหรอ ขอบอกไว้ก่อนนะ คนที่ใช้วิธีนี้น่ะ ตอนนี้มีแค่ชมรมบาสเท่านั้นนะ ที่ได้รับการอนุมัติ ถึงมันจะเป็นการแก้ปัญหาของรุ่นพี่ได้ทั้งหมดก็เถอะ "
" ไม่เห็นจะเป็นไรเลยโทโมะจัง ให้โอกาสชั้นสักครั้งเถอะนะๆๆ " ทานาบาตะขอร้อง ซึ่งมันก็ทำให้ตัวประธานนักเรียนเองต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
" ถ้างั้น ครึ่งปีนะค่ะ ชั้นให้เวลารุ่นพี่ครึ่งปี ถ้ารุ่นพี่สามารถทำให้งานเทศกาลที่เกิดขึ้นในโรงเรียนฮาคุโอแห่งนี้เป็นที่ยอมรับได้ ชั้นจะอนุมัติชมรมใหม่ให้ก็แล้วกัน "
โทโมเอะบอก และเป็นจังหวะเดียวกันกับเด็กที่นอนหนุนตัดเธอตื่นขึ้นมาพอดี เด็กน้อยงัวเงียสักพักก่อนที่จะลงมือขยี้ตาของตน แล้วมองมาที่ประธานนักเรียนซึ่งโทโมเอะก็ส่งยิ้มน้อยๆให้ เมื่อเด็กคนดังกล่าวเห็นว่าทั้งคู่ยังคุยกันไม่จบ เขาก็ค่อยๆปีนลงมาจากตักประธานนักเรียนแล้วเดินออกนอกประตูไป โดยที่ไม่ได้สนใจทานาบาตะที่ยืนอยู่เลย แต่ทานาบาตะเองก็ไม่ได้สนใจเหมือนกัน เพราะยังไงระฆังบอกเวลาเลิกเรียนก็ดังขึ้นมาแล้วด้วย และตอนนี้เธอก็สนใจกับการปั่นงานส่งซะมากกว่า แต่ถึงยังไงก็ต้องรอประธานนักเรียนลุกจากที่นั่งของเธอก่อนน่ะนะ
" งั้นก็ ตกลงตามนี้นะรุ่นพี่ ชั้นไม่กวนการทำงานของรุ่นพี่แล้ว "
ประธานนักเรียนลุกออกจากเก้าอี้ของทานาบาตะ แล้วเดินตามเด็กน้อยที่ออกจากห้องไป ส่วนทานาบาตะเมื่อเห็นประธานนักเรียนจากไปก็รีบกุลีกุจอเก็บเอกสารต่างๆที่นอนกองกันอยุ่พื้นกลับขึ้นมา ตอนนี้เธอไม่มีเวลาสนใจอะไรทั้งนั้นเพราะเส้นตายส่งงานของเธอมันไกล้ไปทุกทีๆ แต่ทานาบาตะก็ต้องปวดหัวอีกครั้งเพราะไม่ว่าเธอจะคุ้ยกองเอกสารที่ขนขึ้นมาจากข้างล่างแล้วหลายต่อหลายรอบ กลับไม่พบต้นฉบับของนิยายที่เธอแต่งไว้ก่อนหน้านี้เลย
" หายไปไหนนะ " ทานาบาตะบ่น พลางคุ้ยเขี่ยหาอีกครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เจอจนเธอแทบจะถอดใจ พลัน! สายตาของทานาบาตะกลับเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยุ่ใต้รีโมททีวี ทานาบาตะไม่รอช้าเธอรีบหยิบกระดาษแผ่นดังกล่าวมาอ่านดูด้วยหวังว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งของต้นฉบับของเธอที่ทำไว้ก่อนหน้า แต่ก็เปล่า มันไม่ใช่ต้นฉบับที่เธอทำไว้ แต่มันก็ทำให้เธอต้องปวดหัวไปอีกรอบเหมือนกันเมื่อได้อ่านข้อความที่เขียนไว้ในนั้น
" ถึงรุ่นพี่ สำหรับต้นฉบับที่รุ่นพี่ได้เขียนทิ้งไว้ก่อนหน้านี้ โอโมเอะคนนี้จะขอรับไว้ก่อน เนื่องจากงานเขียนชิ้นนี้อาจจะทำให้การจัดการงานเทศกาลของรุ่นพี่ลดลงมาก เพราะฉะนั้น จะขอเก็บงานชิ้นนี้เอาไว้กับตัวก่อน เมื่อหมดเทศกาลชมรมในวันพรุ่งนี้แล้วจะคืนให้แน่นอน อ่อ สำหรับนิยายเรื่องต่อไปที่รุ่นพี่กำลังจะเขียน อยากให้เป็นนิยายรักซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนไล่เสียบ แล้วก็เหนือจินตนาการนิดๆ แบบ Maid or Alive ที่กำลังฉายทางทีวีอยู่ตอนนี้นะค่ะ >_< "
ทานาบาตะสั่นเมื่อได้อ่านข้อความจนจบ แต่เธอก็ไม่รุ้จะทำยังไงกับมัน และเธอเองก็เข้าใจว่าประธานนักเรียนต้องการให้เธอเตรียมงานพรุ่งนี้อย่างเต็มที่นั่นเอง แต่ถึงแม้จะเป็นการหวังดีก็เถอะ แต่เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมาหน่อยๆเหมือนกัน
" นี่เล่นกันแบบนี้เลยเหรอเนี่ยยยย ต้นฉบับช้านนนนน "
หลังจากที่เรนะกับยูกิกลับมาจากชมรมดนตรีเรียบร้อยแล้ว ยูกิก็ขอตัวลาไปยังหอพักของเธอซึ่งอยู่อีกด้านของส่วนหอพัก หรือที่คนทั่วๆไปเรียกกันว่ากรีนเฮาส์ สาเหตุหลักที่คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยุ่ในส่วนหอพักเรียกอาณาเขตของหอพักว่ากรีนเฮาส์นั้น เนื่องจากว่าส่วนของหอพักนั้น เป็นส่วนที่กว้างที่สุดของโรงเรียนฮาคุโอมีพื้นที่ๆเป็นสวนสาธารณะ และต้นไม้ร่มรื่นประดับอยู่ทั่วไป แถมยังมีการทาสีของตัวหอพักและหลังคาให้เป็นสีเขียวซะส่วนใหญ่ นักเรียนและอาจารย์ส่วนใหญ่กว่า 90% ก็พักอยุ่ในส่วนนี้ มันจึงมีเครื่องอำนวยความสะดวกและมีร้านรวงต่างๆตั้งอยุ่พอสมควร เหมือนกับเป็นเมืองเล็กๆที่แยกออกมาต่างหากเลยก็ไม่ผิด
" ในที่สุดก็ถึงซะที เฮ้อ "
เรนะบ่นหลังจากที่เธอต้องลากสังขารออกมาจากรถรางรับส่ง และเดินมาจนถึงห้องพักของตัวเองที่อยู่ถึงชั้น 5 ของตัวหอพัก ( หอที่เรนะอยู่มี 7 ชั้นจ๊ะ ) และทันทีที่สามารถเข้าห้องได้ เรนะก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเธออย่างสบายใจ พลางบิดขี้เกียจไปมาบนเตียงฟูนุ่มก่อนที่จะหงายร่างของตน เบนสายตาขึ้นไปมองหลอดไฟทรงห่วงเล็กๆที่ติดอยุ่บนเพดาน แล้วถอนหายใจเบาๆอยุ่ในห้องของตัวเอง
" หิวจัง "
เรนะบ่นอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงนอนของเธอและเริ่มอาบน้ำแต่งตัว มันน่าแปลกใจมากสำหรับคนที่เพิ่งจะเข้าไหม่อย่างเรนะสำหรับหอพักแบบนี้ อันที่จริงหอพักของโรงเรียนฮาคุโอนั้น มีให้เลือกทั้งแบบรูมเมทหรือแบบเดี่ยวก็ได้ ( แบบรูมเมทนั้นสำหรับคนที่ไม่ชอบอยู่คนเดียวและจะจัดให้สำหรับ ช-ช ญ-ญ ส่วนแบบเดี่ยวจะจัดให้เพื่อสำหรับบางคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ) แถมยังมีตั้งแต่ระดับ 1 – 5 อีกต่างหาก ซึ่งตัวของเรนะนั้นถูกจัดให้อยุ่ในระดับ 2 ( ระดับของการแบ่งห้องหอนั้นเป็นความลับ แต่ไม่ได้จัดตามฐานะแน่นอน ระดับสูงสุดคือ 5 ระดับต่ำสุดคือ 1 ) แล้วถึงจะบอกว่าเป็นห้องของระดับ 2 ก็เถอะ แต่มันก็ดูหรูกว่าโรงแรมบางที่ซะอีก ตัวห้องของระดับที่เรนะอยู่นั้นแบ่งเป็น 4 ส่วนนั่นคือห้องนอน ห้องน้ำ( ห้องอาบน้ำ ) และห้องครัว ถึงมันจะไม่ได้กว้างใหญ่มากมายแต่มันก็พออยู่ได้สบายๆสำหรับเรนะเลยทีเดียว เมื่อเรนะอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปข้างนอกเสร็จแล้วนั้น
" กริ๊งงงงงง "
เสียงโทรศัพท์มือขอเรนะก็ดังขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนเรนะสะดุ้ง เรนะรีบวิ่งมาหยิบโทรศัพท์ที่วางอยุ่บนโต๊ะโคคัตสึที่ตั้งอยุ่กลางห้องอย่างเร็วที่สุด เมื่อเรนะอ่านชื่อของผู้โทรมาก็ยิ้มและรับสายในทันที
" สวัสดีค่ะคุณพ่อ " เรนะพูด และก็สนทนากับบุคคลที่เธอเรียกว่า " คุณพ่อ " ไปนานพอสมควร ก่อนที่เธอจะวางสายและออกไปยืนที่ระเบียงเพื่อมองดูพื้นที่ของกรีนเฮาส์ที่เปิดไฟส่องสว่างอยุ่ด้านล่างของเธอ
" พรุ่งนี้เราก็ต้องลุยอีกวันสินะ "
เรนะบ่นเบาๆพร้อมๆกับดวงไฟในห้องเรนะที่ดับลง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ