คุณหมอหัวใจแหวว

7.6

เขียนโดย sivach_13

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 18.10 น.

  18 ตอน
  20 วิจารณ์
  35.81K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) ชุลมุนวุ่นแล้วไง 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 ตอนเที่ยงวันตะวันตรงหัวเป๊ะ วีรญา พี่โจ้ พี่เอ๋ กังสดาล สุวัจนี
และน้องกุ๊กก็มาตั้งวงส้มตำไก่ย่างกันที่ใต้ถุนบ้านพี่เอ๋ เหมือนที่
เป็นมาแทบจะทุกเสาร์อาทิตย์ แปลกที่วันนี้ภัทราที่เข้าเวรสอบ
สวนโรคและไม่ค่อยมาสุงสิงกับกลุ่มนี้เท่าไรมานั่งแจมด้วย
ส่วนพี่นาที่บ้านอยู่ใกล้ๆวันนี้ต้องอยู่บ้านดูแลลูกและสามีตาม
ประสาคนมีครอบครัวมาปาร์ตี้ส้มตำไม่ได้
 
พี่โจ้นั่งแทะไก่ย่างอย่างเมามัน ขณะที่เพื่อนในวงแต่ละคนก็มุงจาน
อาหารกันจนแทบจะเรียกว่าหัวชนกันเลยก็ได้ ช่วงพักเที่ยงอันแสนสุข
แบบนี้มักจะเกิดขึ้นช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
เสมอ เพียงแต่บางครั้งจะไม่มีภัทราและสุวัจนีมาร่วงวงด้วยเท่านั้น
 
"เย็นนี้จะไปกินอะไรที่ไหนกันดีพี่"
 
น้องกุ๊กถามขึ้น ส้มตำปูไข่เค็มยังคาปากอยู่เลย
แม่คุณถามถึงมื้อเย็นซะแล้ว
 
"ดูก่อน เผื่อชั้นไม่ว่างเย็นนี้หมอตรัยเค้านัดไอ่วีไปดินเน่อร์
ชั้นจะตามไปสังเกตุการณ์"
 
พี่โจ้จับขาปูเค็มในจานส้มตำขึ้นมาดูดแล้วพูดไปด้วย น้องกุ๊กกับ
กังสดาลทำตาโตหันมามองหน้ากันท่าทางเหรอหรา
 
"ไปด้วยดิ้ ไปด้วย"
 
สองสาวประสานเสียงอย่างพร้อมเพรียง สุวัจนีนั้นวางท่าเฉย ส่วน
ภัทราก็ทำท่าเหมือนไม่สนใจสาละวนอยู่กับการเอาส้อมไล่ตักเส้น
มะละกอในจานส้มตำเข้าปาก
 
"ไว้ก่อนย่ะ เดี๋ยวคราวหน้าชั้นจะพาไปด้วย ครั้งนี้ต้องขอจริงๆแก"
 
พี่เอ๋ตัดบท สองสาวเลยได้แต่บ่นอุบอิบๆ สุวัจนีที่ทำเฉยในตอนแรก
พูดขึ้นตั้งใจกระทบวีรญาเต็มๆ
 
"อยู่บ้านพักเดียวกันแท้ๆ ไม่เคยชวนหนูสักคำ น้ำใจคนเราน่ะนะ
ทีเวลาหนูไปไหนมาไหน ตอนพี่วียังไม่มีรถหนูยังพาพี่ไปด้วยเลย
ขนาดตอนพจน์มาเที่ยวหนูก็พ่วงพี่วีไปด้วยตลอด ทีเวลาตัวเองไป
กับพวกหมอตรัยละกันท่าไม่ยอมพาเพื่อนไปซักคน กับพี่โจ้พี่เอ๋ที่
ว่ารักกันจะตายก็เพิ่งชวนไปครั้งนี้น่ะแหละมั้ง"
 
วีรยาไม่ทันได้ออกโรงโต้ตอบ พี่โจ้ก็จัดให้ทันควันเหมือนกัน
...จัดหนักซะด้วยสิ รุ่นพี่กล้ามปูวางกระดูกไก่ที่แทะสลับกับขาปูเมื่อ
ครู่ลงบนจานตรงหน้า พร้อมกับจ้องสุวัจนีไม่วางตาแล้วเช็คบิล
 
"ไอ่วีมันก็ตอบแทนน้ำใจแกเป็นค่าน้ำมันทุกอาทิตย์อยู่แล้วไง
แล้วไม่ใช่แกหรอกเหรอที่เอาไปเที่ยวโพนทะนาว่ารำคาญที่ไอ่วีมัน
คอยติดรถไปไหนมาไหนด้วย จนไอ่วีมันเซ็งที่โดนเอาไปเม้าท์เลย
ออกมอไซค์ของมันเอง
 
ส่วนเรื่องที่แกเอาไอ่วีไปไหนต่อไหนด้วยน่ะ อย่าคิดว่าพวกฉันโง่นะ
ชั้นรู้ว่าแกน่ะเอาไอ่วีไปเป็นไม้กันหมา ไปเป็นพยานว่าไม่ได้ไปกับ
ผู้ชายสองต่อสอง
 
สำหรับเรื่องดินเน่อร์นี่น่ะ การที่ไอ่วีมันจะชวนใครต่อใครไปด้วยน่ะ
มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกชั้น แล้วชั้นก็ไม่สนใจด้วยเพราะคนชวนคือ
หมอตรัยไม่ใช่ไอ่วี ชั้นคงไม่กล้าขอตามไปด้วยหรอก
 
แล้วไอ่วีมันก็คงไม่กล้าขอพาคนโน้นคนนี้ไปด้วยเหมือนกัน ทีเวลาแก
ไปกับหนุ่มๆแล้วไม่บอกไม่ชวนใครล่ะไม่เห็นเอามาพูดบ้าง พูดเอาแต่
ความดีเข้าตัวเองนี่หว่า หรือต้องให้ชั้นบอกว่าชั้นกับไอ่โจ้เจอแกที่
ไหนกับใครยังไงเมื่อสักสองอาทิตย์ก่อนที่แถวๆอามิโก้"
 
เล่นเอาสาวปากกล้าเงียบไป พี่โจ้จ้องสาวเหนือยอดแสบจอมพลิกลิ้น
ด้วยสายตาเหมือนจะเชือดเจ้าหล่อนออกเป็นชิ้นๆ สุวัจนีจึงไม่ได้เอ่ย
อะไรออกมาให้เข้าตัวอีก อามิโก้ที่ว่าเป็นผับเล็กๆบรรยากาศชิลด์ๆที่มี
ดนตรีเล่นสด ใกล้กับโรงแรมแห่งหนึ่ง
 
วันที่พี่โจ้กับพี่เอ๋เห็นหล่อนเป็นวันที่หล่อนพาหนึ่งในกิ๊กกระเป๋าหนักมา
เที่ยวและจบลงที่โรงแรมที่ว่า โดยที่สุพจน์แฟนหนุ่มแสนซื่อ(บื้อ)
เหยื่ออีกรายของหล่อนไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
 
ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูคนอื่นชื่อเสียงของหล่อนก็คงเละยิ่งกว่าโจ๊ก แถมกิ๊กคน
อื่นๆและอาจลามไปถึงสุพจน์ก็คงได้ข่าวคาวนี้เช่นกัน ถึงตอนนั้นหญิง
สาวคงได้กลายเป็นหมาหัวเน่าไร้คนเหลียวแลแน่ สุวัจนีจึงเงียบปาก
ไม่กล้ากระแนะกระแหนเหมือนเมื่อครู่
 
"เอ้า กินๆๆๆ มัวมาทำหน้าตูมกันอยู่ได้ เดี๋ยวส้มตำชืดกันพอดี"
น้องกุ๊กพยายามบิ้วท์อารมณ์เพื่อนๆ แล้วตักส้มตำเข้าปากอีกคำโต
 
"ไม่ละ อิ่มดีกว่าหมดอารมณ์"

สาวเสน่ห์แรงกระแทกช้อนลงบนจานข้าวอย่างไร้มารยาทพลางลุกขึ้น
ยืนสะบัดก้นกลับบ้านอย่างไม่คิดที่จะช่วยเก็บล้างซากอารยธรรมที่เจ้า
หล่อนทำไว้ พี่โจ้ก็พอๆกันพูดไล่หลังอีกดอก
 
"ดีนะ กินๆแล้วก็สะบัดตูดไป หมาแมวก็ไม่ใช่จะได้เก็บล้างกันไม่เป็น"
 
แต่อีกฝ่ายก็หาได้สนใจจะหันกลับมา พี่โจ้จึงยักไหล่ไม่สนเหมือนกัน
ว้อย...กินส้มตำต่อดีกว่า ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาภัทราที่คอยมองอยู่
ตลอดโดยมีพี่เอ๋ที่แกล้งเงียบมองยัยจอมเจ้าเล่ห์นี่อยู่อีกทีเหมือนกัน
ยังกับจะเล่นงูกินหาง มันจะอะไรกันนักกันหนาฟระ..พวกนี้
 
หลังจากอิ่มหนำสำราญกันเรียบร้อยดีแล้ว ภัทราต้องกลับไปเข้าเวรต่อ
ส่วนบรรดาตัวเขมือบทั้งหลายก็มานอนผึ่งพุงดูทีวียามบ่ายกันในตัว
บ้านต่อ  วีรญากับน้องกุ๊กอาสาล้างจานชามส่วนกังสดาลรับหน้าที่ขี่
จักรยานยนต์ไปซื้อขนม น้ำอัดลม และน้ำแข็งมาเพิ่ม
 
ระหว่างที่มีโอกาสได้อยู่กันสองคนพี่เอ๋ก็ได้มีโอกาสหารือกับพี่โจ้
 
"เฮ้ย..โจ้ เมื่อกี้ตอนที่แกฉะนังสุวัชชะนีนั่น"
(ไปเปลี่ยนชื่อเค้าอีกนะพี่เอ๋)
"นังภัทมองตาไม่กระพริบเลยว่ะ กรูรู้สึกเหมือนมันมาสังเกตการณ์
ยังไงไม่รู้"
 
พี่เอ๋เปิดเรื่อง เหลือบไปดูเห็นเพื่อนอยู่ในท่าเอนหลังกำลังลูบพุงหลาม
เต่งตึงเล่นอยู่ก็ได้แต่ปลง
 
"เออ อินี่ยิ่งแผนสูงอยู่แถมแบ็คมันดีด้วย ยัยวีโดนเล่นหลายหนับแล้ว
นี่ชั้นก็ว่าจะชวนมันย้ายกลุ่มงานมาอยู่กลุ่มเดียวกับชั้นแล้วเนี่ย แต่ยัยวี
มันติดยัยกั้งกะยัยนายังกับอะไรดี แต่ก็ไม่แน่นะถ้ามันทนไม่ไหวขึ้นมา
เพราะก็เห็นเริ่มบ่นๆบ้างแล้วเนี่ย"
 
"ไม่รู้ยัยวีมันจะโดนอะไรอีกมั่ง กรูสังหรณ์ว่าเร็วๆนี้แหละ"
 
พี่เอ๋พูดแล้วถอนหายใจเฮือก สงสารยัยหมวยวีมันน่ะ...ไม่ใช่อะไร
ครู่เดียวลางสังหาร เอ๊ย สังหรณ์ที่รู้สึกเมื่อครู่ก็เป็นจริงเมื่อมีโทรศัพท์
จากพี่ด้าให้วีรญาเตรียมตัวลงพื้นที่เพื่อช่วยงานด่วน
 
จู่ๆก็มีข่าวแจ้งจากพยาบาลที่ทำงานในสถานกักกันเยาวชนชายใน
พื้นที่รับผิดชอบ ยัยหมวยและรุ่นพี่ผู้ชายอีกคนจึงต้องลงปฏิบัติงาน
ด่วน ตอนแรกทุกคนก็ไม่ได้เอะใจเพราะกำลังวุ่นวายจนเมื่อหญิงสาว
ขึ้นรถออกเดินทางไปแล้วนั่นแหละ กังสดาลจึงทักขึ้นมา
 
"ที่จริงวันนี้มันเวรยัยภัทไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมไอ่วีต้องเป็คนลงพื้นที่
ด้วยละเนี่ย"
 
"แถมไปกะไอ่พี่โรจน์ด้วยนะ กลับมาสรุปรายงานคนเดียว ได้อ้วกเป็น
เลือดแน่ไอ่วีเอ๊ย"

พี่โรจน์หรือสาโรจน์เป็นรุ่นพี่ในกลุ่มงานเดียวกับวีรญาที่ขึ้นชื่อด้านการ
ทำงานเอาหน้าและชอบเอาเปรียบคนที่ไปทำงานด้วยกันจนไม่มีใคร
อยากจับคู่ด้วย แถมอีตานี่ยังไม่ถูกกับพี่โจ้อย่างแรวงส์เพราะฝีปากทั้ง
สองคนก็ไม่เป็นสองรองใคร
 
สาโรจน์เคยแดกดันเรื่องการที่พี่โจ้เป็นเกย์เป็นเกย์ไว้อย่างเผ็ดร้อน
ขณะเดียวกันรุ่นพี่กล้ามปูของยัยหมวยก็โต้ตอบด้วยเรื่องที่อีกฝ่ายทำ
ตัวเป็นปลิงเกาะภริยาสูงวัยเพื่อเงินได้อย่างแสบสันต์ไม่แพ้กันจนเกือบ
มีเรื่องชกต่อย
 
...แต่อีตาสาโรจน์ก็ไม่กล้าดวลเดี่ยวกันตัวต่อตัวกับพี่โจ้เนื่องจากเกรง
ใจแขนล่ำๆและแรงน้องๆช้างของพี่โจ้นั่นเอง
 
แล้วก็จริงดังที่กังสดาลคาดไว้ วีรญาวิ่งทำงานในพื้นที่จนแทบไม่มี
เวลาพักทั้งถ่ายรูป เก็บข้อมูล เก็บตัวอย่างคุยกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย
วิ่งงกๆไม่ได้หยุด แต่คนที่ไปด้วยกลับวางท่าสบายๆนังคุยกับผู้บริหาร
สถานกักกัน พี่พยาบาลจากโรงพยาบาลชุมชนมั่นคงที่เป็นผู้เกี่ยวข้อง
กับเคสนี้ และคุณหมอจากพื้นที่ที่เข้ามาช่วยถึงเรื่องการดำเนินการขั้น
ต่อไป แล้วทำเนียนไม่ยอมลงมือช่วยงาน จนพี่พยาบาลที่รู้จักกับวีรญา
และสาโรจน์ดีเริ่มบ่นให้กันฟัง
 
"ดูไอ่วีมันเดินจนขาจะพันกันแล้วพี่สา ไอ่โรจน์มันยังนั่งโม้กับรองผอ.
สถานกักกันเฉย ไม่คิดจะลงมาช่วยกันบ้างรึไงวะ"
 
พี่น้อง พยาบาลเวชกรรมบ่นขึ้น ดังพอให้คุณหมอจากพื้นที่ได้ยินนั่น
แหละ คุณหมอคนนั้นเงยหน้าขึ้นจากการซักถามประวัติผู้ป่วย เผยให้
เห็นคิ้วบางๆที่เหมือนกับมีคิ้วอยู่ครึ่งเดียว หมอปิงนั่นเอง
 
"ฉันละโมทนากับมันเลยไอ่โรจน์เนี่ย คราวหน้าแกบอกต้นสังกัดมันไป
เลยนะ...ว่าไม่ต้องส่งมันมา ถ้าไม่มีใครแล้วเอาไอ่วีมาคนเดียวก็ได้
เห็นแล้วขัดใจว่ะ"
 
พี่สา พยาบาลจากชุมชนมั่นคงอีกคนหันไปตอบเพื่อน หมอปิงไล่สาย
ตาตามที่พยาบาลทั้งสองพูดก็เห็นยัยหมวยวิ่งสำรวจพื้นที่เหงื่อตก
ทั้งถ่ายรูปจุดที่สงสัยและโทรศัพท์ประสานงานไปด้วย...
 
วันนี้ทุกคนยุ่งมากแล้วก็เหนื่อยมาก มีเพียงสาโรจน์ที่ดูสภาพดีกว่าคน
อื่นๆ แต่กระนั้นชายผิวขาวร่างเตี้ย ก็ยังบ่นเรื่องที่ต้องทำงานในวัน
หยุดจนทุกคนในรถเอือมระอา กว่าวีรญาจะกลับถึงบ้านพักก็เป็นเวลา
จะหกโมงเย็นแล้ว
 
หญิงสาวยังต้องสรุปรายงานเพื่อส่งให้หัวหน้า พี่ด้า และผู้เกี่ยวข้อง
คนอื่นๆทั้งในและนอกสำนักงานทราบอีก เมื่อหมอตรัยมารับยัยหมวย
จึงเห็นเจ้าของหัวใจของเขากำลังก้าวเท้าลงจากรถของทีมงานใน
สภาพสุดโทรมหน้ามันเยิ้มและดูเหนื่อยเอามากๆ
 
วีรญาเองก็ยุ่งจนลืมโทร.บอกคุณหมอตรัยเรื่องวันนี้เช่นกัน พอเห็น
ชายหนุ่มจอดรถไว้ที่บ้านพี่โจ้พี่เอ๋แล้วเดินมาหานั่นแหละจึงนึกได้
 
"ไงครับ หนูวี สภาพเหมือนไปฟัดกับไอ้ด่างที่ไหนมาเลยนะ"
 
คุณหมอทักเชิงสัพยอก มือก็ช่วยรับเป้เอกสารและข้าวของพะรุงพะรัง
ที่หญิงสาวหอบอยู่เต็มสองมือเอาถือไว้เอง
 
"เหนื่อยไหม.."
 
ถามเสียงอ่อนโยนแล้วลูบหัวเบาๆ วีรญาหน้าแดงอีกแล้ว
..ยัยหมวยยยย น่ารักอ้ะ ถ้าไม่ติดคนเยอะอยากช่วยอุ้มไปส่งบ้านเลย
นะรู้มั้ย คุณหมอเข้าโหมดจิตหน่อยๆอีกละ ตอนนี้ยัยหมวยเยินจะตาย
พี่แกยังจะมาหื่นได้อีกนะ
 
"ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่วันนี้วีคงไปทานข้าวกับคุณหมอไม่ได้
แล้วล่ะ ต้องรีบสรุปรายงานส่งหัวหน้ากับคนอื่นๆ วีเจอหมอปิง
ด้วยนะคะ หมอปิงลงมาช่วยเพราะผู้ป่วยรายนึงเป็นคนในพื้นที่
ของหมอเค้าน่ะค่ะ วีน่ะยุ่งจนไม่มีโอกาสเข้าไปทักหมอปิงเลย
รู้ป่าวคะ"
 
หญิงสาวนั่งแหมะลงบนม้าหินอ่อนอันเป็นเฟอร์นิเจอร์ประจำบ้าน
รุ่นพี่กล้ามปูทั้งสองหน่อ พี่เอ๋รีบยื่นหน้ามาถาม
 
"กลุ่มไอ่โจ้มีใครรู้ข่าวมั่งรึยัง กลุ่มแกแจ้งไปไหนแล้วมั่งยัยวี"
 
"ไม่รู้ซิพี่ อันนี้ยัยภัทเป็นคนแจ้งนะ เดี๋ยวตอนกลับบ้านวีและถาม
หัวหน้าพี่ให้ก็ได้ว่าเจ๊แกรู้เรื่องรึยัง เผื่อพรุ่งนี้จะส่งใครลงมาช่วยวีมั่ง
เหนื่อยนะเนี่ย"
 
หญิงสาวบ่น เพราะแสงนีออนที่พี่โจ้เปิดหรือเปล่าไม่ก็รู้ ทำให้หน้า
ขาวๆของยัยหมวยดูซีดกว่าปกติ พี่โจ้จึงบอกอย่างเป็นห่วง
 
"เดี๋ยวแกรีบกลับไปอาบน้ำแล้วนอนซักพักนิดก็ได้ เดี๋ยวชั้นซื้อข้าว
มาให้แล้วจะมาปลุก ตอนนั้นแกค่อยรีบเขียนรายงาน เดี๋ยวชั้นกะ
ไอ่เอ๋จะไปดูตรงข้อมูลให้"
 
"อืมม..ก็ได้พี่ วันนี้เหนื่อยมากจริงๆแหละ ร้อนด้วย ขอโทษนะคะ
คุณหมอ คราวนี้เลยไม่ได้ไปด้วยกันเลย ยังไงก็เอาพี่โจ้พี่เอ๋ไปแทน
วีแล้วกันนะคะ"
 
หญิงสาวยิ้มประจบ หมอตรัยจึงถือโอกาสช่วยถือของเดินไปส่งวีรญา
ถึงที่บ้านพัก หมอตรัยแกล้งเดินไม่รู้ไม่ชี้ตามยัยหมวยเข้าไปในห้องพัก
ส่วนตัวของหญิงสาว สุวัจนีที่วันนี้อยู่บ้านและกำลังนอนคุยโทรศัพท์
อยู่กับกิ๊กคนไหนก็ไม่ทราบได้ ถึงกับมองตาค้างเพราะไม่คาดคิดว่า
หมอตรัยจะมาหายัยหมวยถึงบ้านพักแถมเดินเข้าห้องไปแล้วด้วย
 
วีรญาหาเบาะรองนั่งให้ชายหนุ่มแล้วก็วุ่นวายหาน้ำหาขนมมาให้ใน
ระหว่างที่คุณหมอตรัยต้องรอตัวแทนของวีรญาทั้งสองคนเตรียมตัว
แต่งองค์ทรงเครื่องพร้อมออกไปทานข้าวกับแก๊งค์ของคุณหมอ
 
"หนูวีไปอาบน้ำอาบท่าเถอะครับ หมอแค่มานั่งรอพี่โจ้พี่เอ๋แป๊บเดียว
แหละ ไม่ต้องวุ่นวายมากหรอก แค่นี้หนูวีก็เหนื่อยแย่แล้ว อย่าให้หมอ
ต้องกลายเป็นคนที่ทำให้หนูวีเหนื่อยเพิ่มขึ้นเลย"
 
คุณหมอพูดจบก็ทำเป็นหันไปสนใจภาพในจอทีวีที่ยัยหมวยเปิดไว้
หญิงสาวจึงเดินเลี่ยงไปหยิบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไปชำระล้างร่างกาย
ที่เต็มไปด้วยเหงื่อจากการวิ่งวุ่นทั้งวัน
 
ครู่ใหญ่หญิงสาวจึงกลับมาในชุดเสื้อยืดหลวมโพรกและกางเกง
บ็อกเซอร์ หน้าขาววอกตัวหอมกลิ่นแป้งเย็นฟุ้ง ยัยหมวยนั่งลงบน
เบาะรองนั่งอีกตัวห่างจากหมอตรัยพอสมควร กลิ่นหอมสะอาดของ
แชมพู กลิ่นแป้งเย็นธรรมดาๆ ที่ลอยจากตัวของคนที่นั่งห่างไปไม่
ถึงวา กำลังกระตุ้นอารมณ์บางอย่างของชายหนุ่มให้คุกรุ่นขึ้นได้
อย่างไม่น่าเชื่อ (แอร๊ยยย อีหมอ...โรคจิตอ้ะ)
 
"หนูวี...คิดถึงเหลือเกิน"
 
หมอตรัยเรียกชื่อหญิงสาวข้างกายด้วยน้ำเสียงต่ำพร่า วีรญาอึ้งๆไป
เหมือนกันว่าอีตาหมอจะเข้าโหมดไหนอีกเนี่ย มือร้อนระอุคว้าหมับเข้า
ที่ไหล่บอบบางของวีรญา ชายหนุ่มโน้มใบหน้าที่หล่อเข้มเพราะได้
บารมีหนวดเคราส่งเสริมเข้ามาใกล้ ยัยหมวยรู้สึกเหมือนตัวเองกำลัง
จะหยุดหายใจเมื่อใบหน้าถูกเป่ารดด้วยลมหายใจเร่าร้อน
 
ก่อนที่อะไรๆมันจะไปไกลกว่านี้ก็มีเสียงเคาะประตูหน้าห้องแล้วเปิด
เข้ามาโดยเร็ว เล่นเอายัยหมวยวีกับอีตาหมอผละจากกันแทบไม่ทัน
 
"ขัดจังหวะรึเปล่าคะ "
 
เป็นสุวัจนีนั่นเอง เจ้าหล่อนไม่รอให้ใครอนุญาตก็เดินเข้ามานั่งในห้อง
ลอยหน้าลอยตา หมอตรัยอยากตอบยัยนี่เหลือเกินว่า
 
"ขัดสิคร้าบบ ขัดมากด้วย แล้วช่วยออกไปจากห้องทีได้ม้ายยย
หมอไม่ปลื้มนะครับ"
อารมณ์หมอตรัยตอนนี้ แบบว่า...อยากตบผู้หญิงอ้ะ ย๊ากกก
 
"เห็นว่าวันนี้พี่วีไม่ว่างไปทานข้าวกับคุณหมอ
...อยากได้คนไปแทนมั้ยคะ?"
 
สาวพราวเสน่ห์ส่งยิ้มฉ่ำ นัยน์ตาฉายแววชวนค้นคว้าให้คุณหมอ
ซึ่งถึงกับอึ้งไปเลย ยัยนี่จะรู้มั้ยนะ ตอนนี้คุณหมอแกไม่มีอารมณ์
จะล้อเล่นกับใครแล้ว เลือดขึ้นหน้าแล้วเนี่ย 555+
 
โอ้วว..ยัยนี่!!!ทอดสะพานกันง่ายๆอย่างงี้เลยนะครับท่าน
หมอตรัยอุทานในใจ คิดจะปาดเค้กกันต่อหน้าต่อตาเพื่อนฝูง
เลยเรอะ จะว่าไปเจ้าหล่อนก็เคยแย็ปๆคุณหมอของเราไว้เมื่อ
นานมาแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่น่าเกลียดได้เท่ายัยอ้อม
ที่รายนั้นตาหมอแกตอกกลับมาซะหน้าแหกหมอดิวไม่รับเย็บ
 
คุณหมอซึ่งกำลังไม่จอยจากการถูกขัดคอเมื่อครู่เลยตอบแบบ
ไม่ถนอมน้ำใจ
 
"ถ้าคนไปแทนหนูวีคราวนี้น่ะ มีพี่โจ้กับพี่เอ๋ไปแล้วครับ คราวหน้า
คงมีคุณนากับกั้งตามไปด้วย แล้วก็อาจจะมีน้องกุ๊ก คนอื่นหมอนึก
ไม่ออกว่าควรจะชวนใครไปดี เพราะหมอเกลียดพวกที่ไม่รู้กาละ
เทศะแล้วก็ชอบฉวยโอกาสน่ะครับ"
 
ตาหมอ...แรว้งส์อ้ะ เล่นเอาสาวทรงเสน่ห์นั่งหน้าตึง ไม่บอกก็รู้ว่าหมอ
ตรัยแกด่าเอาแบบไม่อ้อมเลยแหละ ก่อนที่จะได้ปะทะฝีปากกันมากไป
กว่านี้ พี่เอ๋กับพี่โจ้ก็มาตามตาหมอที่ตอนนี้กำลังจะของขึ้นอยู่รอมร่อ
 
วีรญาจึงเดินออกมาส่งชายหนุ่มที่หน้าประตู กว่าจะไปได้ตาหมอของ
เราส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ยัยหมวยอยู่นานจนน่าหมั่นไส้เชียวแหละ
 
"ไว้คราวหน้านะครับ หนูวี"
 
เสียงออดอ้อนแบบที่ไม่น่าจะหลุดออกมาจากปากหนุ่มมาดขรึม
ทำเอาวีรญาขำจนหลุดหัวเราะกิ๊ก แต่สาวอีกคนที่ยืนหน้าบึ้งอยู่
ข้างหลังวีรญากลับส่งสายตาอาฆาตให้คุณหมอที่ฉีกหน้าตัวเอง
ซะยับแบบไม่กั๊ก
 
"ค่ะ สัญญาเลย"
 
ลับหลังหมอตรัยไปไม่เท่าไร วีรญาที่ตั้งใจว่าจะงีบเอาแรงสักหน่อย
ก่อนจะลุกขึ้นมาทำงานต่อก็ต้องล้มเลิกโปรแกรมที่วางเอาไว้ลงไป
เพราะยัยเพื่อนร่วมบ้านจอมวายร้ายยังกระแนะกระแหนไม่เลิกหนำซ้ำ
ยังเปิดทีวีเสียงดังแบบ เผื่อแผ่บ้านข้างๆอีก  ทำลายบรรยากาศการ
นอนหมด วีรญาไม่อยากเปลืองพลังกับเรื่องแบบนี้เลยจริงๆให้ตายสิ
 
"นึกว่าอยากไปด้วยนักรึไง อีหมอแอ๊บแมนนี่ พอเราพูดดีเข้าหน่อยละ
ปากเสียใส่ พี่วีภูมิใจมากใช่มั้ยที่ได้เป็นคู่ควงเก๊ๆของไอ้หมอเกย์นี่"
 
แน้...ยัยนี่ มีตีกันด้วย ร้ายอ่าาา ยัยหมวยก็โมโหที่ไม่ได้นอนเหมือน
กัน หันมาคว้าข้าวของได้ก็หอบไปบ้านกังสดาล ก่อนไปก็เอาคืนหนึ่ง
ดอก เวรกรรมอะไรของอีคู่นี้ฟระ กัดกันจะตายต้องมาอยู่ใต้ชายคา
เดียวกันอีก
 
"ยัยสุ อย่ามาพาลเพราะเค้าไม่สนที่เธออ่อย ต่อให้หมอเค้าไม่ได้
เป็นเกย์ เค้าก็ดูออกย่ะว่าใครมั่งที่ไม่ควรจะเข้าไปเกลือกกลั้วด้วย"
 
ฉะแล้วยัยหมวยก็เดินหนี ทิ้งให้อีกฝ่ายตาขวางเป็นหมาบ้าต่อไป
ก็ได้แต่เป็นห่วงละนะ ว่าสักวันยัยหมวยปากดีของเราจะโดนวาง
ยาเบื่อมั่งมั้ย โฮะๆๆๆ
 
กังสดาลและน้องกุ๊กออกจะแปลกใจไม่น้อยที่เห็นยัยหมวยหอบ
ข้าวของมาหาในสภาพหน้ายู่ยี่ เพราะที่คุยกันสักครู่ยัยหมวยบอก
พี่โจ้กับพี่เอ๋ว่าจะนอนนี่นา
 
"ขอนั่งทำงานเดี๋ยว นอนไม่ได้เลย หมาบ้าที่บ้านมันอาละวาด
ท่าจะแย่อ้ะ"
 
ยัยหมวยบอกแล้วเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้เพื่อนทั้งสองฟัง
สั้นๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาพิมพ์สรุปรายงานด้วยท่าทางคร่ำเครียด
 
ทางฝั่งหมอตรัยที่วันนี้ต้องขับรถคนเดียว ไม่มียัยหมวยนั่งข้างๆแถม
เมื่อกี้ยังต้องมาอารมณ์เสียกับเพื่อนบ้านยัยหมวยก็อยู่ในโหมดเซ็งเป็ด
ป่านนี้หมอแอ๊ด หมอดิว และหมอริน คงสั่งอาหารรอแล้วมั้ง ชายหนุ่ม
เหลือบตามองกระจกรถด้านหลัง พอเห็นรถพี่โจ้ยังตามมาทันก็อุ่นใจที่
ตัวเองไม่ได้อารมณ์ร้อนเผลอเหยียบคันเร่งจนทิ้งเพื่อนยัยหมวย
 
ร้านข้าวต้มโต้รุ่งอาตี๋ หมอแอ๊ดรู้สึกแปลกใจมวากกก..เลยแหละ
ที่คนที่เดินมาพร้อมกับหมอตรัยวันนี้คือคู่หูดูโอเกย์กล้ามปูเพื่อนสนิท
ของยัยหมวยวี แล้วยัยหมวยไปไหนเสียละเนี่ย
 
"หวัดดีค่ะ พี่โจ้ พี่เอ๋ วันนี้ลมอะไรพัดมาคะ
ถึงมาทานข้าวกับพวกเราได้ แล้วนี่ยัยหมวยวีไปไหนซะล่ะคะ"
 
หมอแอ๊ดทักทายพี่โจ้และพี่เอ๋อย่างสนิทสนม จริงๆกลุ่มนี้ก็เคยเที่ยว
กลางคืนด้วยกันบ้างเหมือนกันนะ นับว่าสนิทกันในระดับนึงเลยล่ะ
 
"วันนี้ยัยวีมันงานเข้าครับหมอแอ๊ด
เลยส่งพี่กับไอ่เอ๋มาแทน พอได้มั้ย อิอิ"
 
พี่โจ้แซวหลังจากลงนั่งกันแล้ว คุณหมอคนสวยเลิกคิ้วอย่างฉงน
สายตาที่มองสองหน่อเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม วันเสาร์เนี่ยนะ
ยัยหมวยงานเข้า...เจ๊ไม่เข้าใจค่ะ
 
"พวกเราน่ะไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับ ใครก็ได้ทั้งนั้นแหละ
จะมีที่ผิดหวังอยู่คนนึงก็โน่น...ไอ่ตรัยโน่น"
 
หมอรินโยนมุกเป้งเข้าให้ คุณหมอตรัยเลยได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
วันนี้ผิดหวังอ้ะ หมดแรงจะโต้เถียงหนึ่งวันครับ
 
พี่เอ๋เฉลยเมื่อเห็นสายตาแสดงความสงสัยของหลายคน
 
"วันนี้ยัยวีมันโดนลงพื้นที่ครับ เห็นว่าเจอหมอปิงด้วย"
 
"เอ๊ะ ยัยวีเป็นเวรวันนี้เหรอครับ เมื่อคืนไม่เห็นบอก?"
 
หมอดิวสงสัย ก็เมื่อคืนยัยหมวยไม่พูดเรื่องเวรให้ฟังสักคำเลยนี่นา
ไม่งั้นหมอตรัยต้องพายัยตัวแสบกลับตั้งแต่สี่ทุ่มเป็นแน่แท้
 
"อ่ะ ..เปล่าหรอกครับ น้องอีกคนที่ชื่อภัทตะหากเวรวันนี้ แต่อย่างว่า
อ่ะนะรายนั้นเขาลูกรักครับ ยัยวีเลยเจองานหินแถมลงไปกับไอ่ตาโรจน์
ด้วยพวกผมเห็นหน้าซีดๆเลยปล่อยให้นอนไปก่อนเดี๋ยวกลับไปค่อย
เอาข้าวไปฝากแล้วปลุกขึ้นมาทำรายงานต่อ"
 
พี่โจ้ตอบแบบไม่กั๊ก ปกติเขากับหมอแอ๊ดที่ค่อนข้างสนิทกันก็มักจะเล่า
เรื่องที่ทำงานเม้าท์คนนั้นบ้างคนนี้บ้างกันอยู่แล้ว
 
เรื่องนี้นับว่ารู้มานานแล้วว่าวีรญา กังสดาล และกุลนารีนั้นเป็นคนที่
รองหัวหน้ากลุ่มอย่างพี่ด้าไม่ค่อยปลื้ม เหตุเพราะความเป็นตัวของ
ตัวเองมากเกินน่ะแหละ กับกังสดาลยังไม่เท่าไรเพราะบางครั้งยัยกั้ง
ยังยอมตามใจพี่ด้าบ้าง แต่สำหรับวีรญาแล้วเจ้าตัวค้านสุดตัวกับบาง
เรื่องที่เห็นว่ามันไม่ใช่
 
พี่ด้าชอบเอาน้องๆสาวๆในกลุ่มมาเป็นตัวล่อหนุ่มๆที่เป็นหน่วยงาน
เครือข่ายให้ขยันส่งงาน น้องๆที่รู้จักกับพี่ด้าบางคนอย่างสุวัจนีก็เป็น
หนึ่งในตัวล่อเช่นกัน เพราะสุพจน์เองก็เป็นเครือข่ายในงานของพี่ด้า
ที่มาติดใจความช่างเจรจาของสาวสวยมากเสน่ห์จนตกลงใจคบหากัน
 
พี่ด้าเคยพาวีรญา กังสดาล ภัทรา สุวัจนีและน้องๆอีกสองคนในกลุ่ม
ไปแนะนำให้หน่วยงานที่เป็นพันธมิตรได้รู้จัก ปรากฏว่าภัทรานั้นดับ
สนิท ครั้งต่อๆมาจึงมีเพียงภัทราที่เจ๊แกหนีบไปด้วยเนื่องจากไม่ต้อง
การให้คนอื่นมากลบรัศมีน้องรัก
 
ที่พี่ด้าสงสารและเอ็นดูภัทราสุดจิตสุดใจก็เพราะความช่างฉอเลาะของ
หญิงสาว นอกจากนี้ภัทรายังมีแฟนหนุ่มที่มักสร้างความชอกช้ำให้จน
เด็กดีของพี่ด้าเก็บมาร้องไห้ที่ทำงานบ่อยๆ
 
กุลนารีกับภัทรานั้นเคยทำงานด้วยกันมาก่อนที่จะย้ายมาอยู่กลุ่มเดียว
กัน พี่นาเคยเล่าเรื่องของภัทราเมื่อสมัยก่อนให้แก๊งค์ยัยหมวยและ
แก๊งค์ของหมอตรัยได้รู้ประวัติคร่าวๆของหญิงสาวผู้น่าสงสาร
(จริงเหรอ)
 
"ยัยภัทราน่ะเป็นเด็กไม่ค่อยมีสัมมาคารวะ แต่มันขี้อ้อนฉอเลาะเก่ง
กัดก็เก่ง เลยมีคนหลงมันเยอะ แฟนคนปัจจุบันเนี่ยเป็นคนที่สอง
 คนแรกน่ะยังไงไม่รู้เหมือนกัน แต่ไอ้คนที่สองเนี่ย ชื่ออีตาอนันต์
เป็นนักวิชาการอยู่ที่XXX
 
ไอ้นี่ก็มีเมียมีลูกสองคนแล้ว แต่มันหย่ากัน ตอนคบกับยัยภัทรามันก็คบ
กับคนอื่นๆไปด้วยอีกสองสามคนได้มั้ง ยัยภัทราน่ะหลงไอ้นี่หัวปักหัว
ปำเลย ยัยภัทน่ะร้องไห้ขอให้มันเลิกกับคนอื่นอยู่บ่อยมากๆ แต่ไอ้นี่น่ะ
พอเลิกคนโน้นก็มีคนนี้ไปเรื่อย ล่าสุดยัยภัทมันก็ช้ำหนักนะ เพราะคู่
แข่งคนนี้ก็เป็นคนที่คบกับไอ้อนันต์มาก่อนยัยภัทอีก แต่ยัยภัทยังไงๆก็
ไม่ยอมเลิกกับไอ้นี่สักที ไม่รู้ไปติดใจอะไรมันนักหนา"
 
ไม่รู้จริงอ้ะเจ๊...
 ภัทราจึงดูเป็นคนที่น่ารักน่าสงสารในสายตาคนอื่นเสมอ จากข้อมูลที่
พี่นาบอกเล่ายังมีรายละเอียดร้ายๆของยัยนี่อีกเยอะ ที่ต่อๆมาทุกคนได้
มีโอกาสสัมผัสได้ด้วยตัวเอง...โดยเฉพาะวีรญา
 
ครั้งหนึ่งมีการจัดประชุมเกี่ยวกับโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน วิทยากรเป็น
หนุ่มแว่นรูปหล่อ ดีกรีคุณหมอ พูดเพราะ "คะขา" ทุกคำเชียวละ
วีรญากับพี่สรรค์ชัย รุ่นพี่อีกคนต้องแหกตาตื่นกันตั้งแต่ตีห้าเพื่อไปรับ
วิทยากรมาบรรยาย
 
วีรญาเทคแคร์วิทยากรคนนี้สุดแรงม้าเหมือนที่เทคแคร์วิทยากรท่านอื่น
แต่พอมาถึงงาน ภัทรากลับเล่นแผนสูง ให้ยัยหมวยเป็นคนถ่ายรูป
งานประชุมส่วนตัวเองนั่งกระแซะคุณหมอแว่นกันท่าคนอื่นซะยังงั้น
แบบลืมไปเลยว่าตัวเองมีแฟนนักวิชาการอยู่แล้ว
(อะนะ..มันจะมาเทียบกันได้ยังไง หมอกับนักวิชาการ ฉลาดนะยัยนี่)
 
พองานเลี้ยงเย็น เจ้าหล่อนก็ส่งสายตาให้คุณหมอจากกรุงเทพอย่าง
เปิดเผย โดยมีพี่ด้าทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ วีรญาน่ะเหรอโดนส่งไป
นั่งปลายโต๊ะเป็นเด็กชงเหล้าไม่ให้มานั่งเกะกะได้
 
พี่ด้าจัดแจงหาแฟนคุณภาพพรีเมี่ยมให้น้องรัก ขอแลกเบอร์ ขอแลก
อีเมลล์ กับหนุ่มแว่นชื่อหมอเอ้อย่างแนบเนียน ภัทราเทียวติดต่อกับ
หมอเอ้ได้สักพักก็ต้องเสียหน้ามหาศาลเมื่อโปรยไปเต็มที่ แต่คำตอบ
ที่ได้รับกลับมาคือ
 
"พี่ต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้าทำให้น้องเข้าใจผิด พี่เอ้คงคิดกับน้อง
ภัทมากกว่าน้องสาวไม่ได้หรอกค่ะ เพราะพี่เป็นเกย์พี่เอ้ชอบผู้ชายค่ะ
แล้วก็ถ้ายังไงรบกวนน้องภัทบอกอีเมลล์พี่สรรค์ชัยให้พี่ด้วยนะคะ"
 
เจอแบบนี้เข้าไป น้องสาวคนดีของพี่ด้าถึงกับจุกฮาไม่ออก เมื่อยังหา
คนที่ดีพร้อมเลิศเลอเพอเฟ็คกว่าคนที่คบด้วยปัจจุบันไม่ได้ภัทราก็ยัง
คงคบกับคนเก่า ที่แม้ตัวเองจะต้องมีสภาพเป็นเหมือนสิ่งของบำเรอ
ความใคร่ของอีกฝ่ายหญิงสาวก็ยอม
 
 หลังจากดื่มกินกันไปได้ครู่ใหญ่ พี่โจ้ก็เกริ่นนำเพื่อพาวงสนทนาเข้า


เรื่องที่ตนเองต้องการคำตอบ พี่เอ๋รู้ดีว่าเพื่อนไม่ได้อยากรู้เพื่อสนอง
ความต้องการของตนเอง หากแต่คนปากร้ายใจดีอย่างพี่โจ้กำลัง
ประเมินสถานการณ์เพื่อยัยหมวยรุ่นน้องผู้คอยติดต่องแต่งไปไหนมา
ไหนด้วยต่างหาก
 
วีรญานั้นถึงไหนถึงกันกับพี่โจ้มาตลอด ยัยหมวยเคยช่วยงานรุ่นพี่แบบ
ข้ามวันมาแล้วหลายครั้งจนพี่ด้าออกอาการหมั่นไส้ที่ช่วยงานกลุ่มอื่น
ซะจนเว่อร์โดยลืมไปว่าพี่โจ้ ยัยหมวย และน้องกุ๊กนั้นจบจากสถาบัน
เดียวกัน ดังนั้นเมื่อมีใครกำลังงานเข้า ที่เหลือก็จะเข้าไปช่วยแบบทุ่ม
สุดตัว แล้วก็พวกนี้แหละที่สร้างเครือข่ายโยงใยความสัมพันธ์ข้ามกลุ่ม
งานให้ขยายออกไปยังกลุ่มอื่นๆให้เกิดความกลมเกลียวกันยิ่งขึ้นภาย
ในหน่วยงานแห่งนี้
 
 
"หมู่นี้รู้สึกว่าหมอตรัยจะชวนยัยหมวยออกมาทานข้าวด้วยบ่อยนะครับ"
 
แม้จะเป็นแค่การเกริ่นนำ แต่เมื่อพี่โจ้ถามจบประโยคบรรยากาศการดื่ม
กินที่รื่นเริงก็เหมือนจะหยุดชะงักไปชั่วครู่ คุณหมอตรัยมองพี่โจ้แบบไม่
เต็มตา อารมณ์เหมือนไอ้หนุ่มที่แอบพาลูกสาวเค้าออกมาเที่ยวแล้ว
วันนี้ว่าที่พ่อตากำลังจะจับขึ้นเขียงเชือดคอยังไงยังงั้น
 
"ก็...นิดหน่อยน่ะครับ"
หมอตรัยอ้อมแอ้มตอบ
(ไม่แล้วมั้งคะหมอ อาทิตย์นึงปาเข้าไป 3-4 วันนี่ไม่หน่อยแล้ว)
 
"หมอตรัย...คิดยังไงกับไอ่วีเหรอครับ"
 
อีกดอกตามมาติดๆ ให้มันได้ยังงี้สิพี่โจ้ ตอนนี้แต่ละคนนั่งกินข้าวกัน
แบบหายใจไม่ทั่วท้องแล้ว เพราะเพื่อนๆคุณหมอตรัยชักจะไม่แน่ใจ
แล้วว่าวันนี้พี่โจ้กับพี่เอ๋คิดอะไรอยู่กันแน่ ที่มากินข้าวกับพวกเขาใน
วันนี้ เจอคำถามนี้ของพี่โจ้...หมอหน้าแดงเลยครับ

 
"อืม...หนูวีเป็นคนน่ารักครับ แล้วก็มีน้ำใจ เป็นเด็กดีมากๆเลย"

 
"ใช่ครับ หมอ...วีน่ะมันเป็นเด็กดี แล้วก็ทั้งซื่อทั้งบื้อเอามากๆเลย
หมอรู้ไหมครับ "
 
พี่โจ้ทิ้งช่วงไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อช้าๆ แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง
แม้ว่าพี่โจ้จะยิ้มที่ปาก แต่สายตาคุณพี่ไม่ยิ้มตามด้วยเลยแม้แต่น้อย
กลับจ้องคุณหมอแบบเอาจริงเอาจัง
 
"เพราะมันซื่อบื้อยังงี้แหละถึงโดนใครต่อใครเค้าหลอกใช้เอาง่ายๆ
อย่างว่าแหละครับ ผมถึงเป็นห่วงมัน...ยิ่งช่วงนี้รู้สึกว่ายัยวีจะสนิทกับ
หมอจังเลยนะครับ ...ตั้งแต่ไอ่วีเลิกกับแฟนเนี่ย"
 
ชายหนุ่มคิดว่าพอจะเข้าใจเจตนาของพี่โจ้ขึ้นมารางๆ กุมารแพทย์วัย
สามสิบห้าจึงถามพี่โจ้อย่างตรงไปตรงมาด้วยเสียงนุ่มๆ
 
"พี่โจ้อยากบอกอะไรกับหมอกันแน่ครับ พูดตรงๆได้เลยนะครับ"
 
"คุณหมอต้องการอะไรกันแน่ครับ ถึงได้เข้ามาสนิทสนมกับยัยวีตอนนี้
ในช่วงเวลาแบบนี้ เป็นห่วง สงสาร หรือว่าอะไร...บอกตรงๆนะครับพี่
เองก็ได้ข่าวเรื่องที่คุณหมอไม่คบผู้หญิงตลอดเวลาที่คุณหมอทำงาน
ที่นี่มาสามปีเต็มอยู่เหมือนกัน ดังนั้นพี่ถึงไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่หมอมา
ใกล้ชิดกับยัยวี ว่าไงครับ ตอบให้พี่หายข้องใจหน่อยได้ไหม"
 
ในเมื่อคุณหมอขอมา พี่โจ้ของเราก็จัดเต็มให้ตาคำขอ ว่ากันตามตรง
ถ้าหากว่ายัยหมวยมาด้วย พี่โจ้ก็คงไม่พูดอะไรแบบนี้ออกไปเช่นกัน
 
ทีแรกหมอแอ๊ดเองก็ชักหน้าตึงขึ้นมาแล้วเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น
หรือว่ายัยหมวยจะให้รุ่นพี่มหากาฬของตนมาคาดคั้นอะไรกับหมอตรัย
หรือเปล่านะ ที่หมอแอ๊ดคิดแบบนี้ในตอนแรกก็เพราะผู้หญิงที่จ้องจะ
จับหมอตรัยแต่ละคนที่ผ่านมากันทั้งนั้นที่ทำให้หมอแอ๊ดเริ่มระแวง
 
จนเมื่อผ่านไปครู่ใหญ่สาวสวยเจ้าของคลินิกเวชกรรมความงามชื่อดัง
จึงคิดได้ว่า ถ้ามองในมุมกลับกัน การเข้ามาของหมอตรัยซะอีกที่น่า
เป็นห่วงมากกว่าในสายตาของคนที่เป็นเพื่อนฝูงของวีรญา หมอแอ๊ด
จึงเห็นใจทั้งสองฝ่ายไม่น้อย สำหรับมุมมองของหมอรินที่ติดท็อปทรี
วิชาไซโคโลจี้หรือจิตวิทยา ชายหนุ่มเชื่อมั่นว่าหากเกิดความไม่เข้าใจ
กัน เขานี่แหละจะคลี่คลายได้(โห...มั่นอ่ะ)
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา