คุณหมอหัวใจแหวว

7.6

เขียนโดย sivach_13

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 18.10 น.

  18 ตอน
  20 วิจารณ์
  36.17K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) ชุลมุนวุ่นแล้วไง 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"พวกเราไม่ไว้ใจที่หมอมาสนิทกับยัยวี แล้วตอนนี้ก็มีคนพูดให้ได้ยิน

กันแล้วด้วย ว่าหมอน่ะมาจีบยัยวีเพื่อบังหน้าที่ตัวเองเป็นเกย์น่ะครับ"

 

พี่เอ๋เสริมขึ้นมา บทจะพูดชีก็แรงไม่แพ้พี่โจ้เหมือนกัน คุณหมอตรัยนั้น

ถึงกับตะลึงในความจริงที่ตัวเองกำลังได้รับฟังจากปากเพื่อนสนิทของ

หญิงสาวคนสำคัญ

 

"นี่ตกลงทุกคนคิดว่าหมอเป็นเกย์มาตลอดเลยเหรอ"

 

หมอตรัยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสลดหดหู่ ลองพี่โจ้กับพี่เอ๋เกย์ตัวจริง

คิดแบบนี้ แล้วยัยหนูวีของเขาเล่า วีรญามองเขาด้วยสายตาแบบ

ไหนกันนะ หญิงสาวจะคิดแบบเดียวกับคนอื่นๆด้วยหรือเปล่า

 

"อ้าว...แล้วไม่ใช่เหรอครับ??"

 

พี่เอ๋ถามหมอตรัยด้วยน้ำเสียงแตกตื่น...มันพลิกโผอ้ะ แต่เมื่อเห็นคุณ

หมอหนุ่มมีท่าทางมืดมนซะขนาดนั้น พี่โจ้และพี่เอ๋ก็รู้สึกผิดหน่อยๆที่

ด่วนสรุปและแอบมอบตำแหน่งยอดชายชาวเกย์ให้คุณหมอ

 

"ถ้าไม่ใช่ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ขอโทษจากใจจริงเลย"

 

พี่โจ้พูดด้วยเสียงอ่อยๆ แล้วก็กลับมาจริงจังอีกครั้ง

 

"งั้น..ที่คุณหมอมาสนิทกับไอ่วีนี่ก็...ก็ยังไงนะครับ"

 

"ผมรักหนูวี..."

 

หมอตรัยตอบพี่โจ้ด้วยเสียงที่เบาทว่าหนักแน่น และดวงตาที่ทอ

ประกายอ่อนโยนยามเอ่ยชื่อของยัยหมวย เท่านี้พี่โจ้ก็มั่นใจแล้ว

ว่าวีรยาจะไม่ได้กำลังโดนหลอกใช้ ยิ่งหมอแอ๊ดออกตัวให้อย่าง

เป็นหลักเป็นฐาน รุ่นพี่ยัยหมวยก็ยิ่งวางใจ

 

"ตรัยน่ะชอบยัยวีมาตั้งนานแล้วล่ะค่ะพี่โจ้ แต่ติดที่ยัยวีน่ะมีแฟนอยู่

แล้ว ทีนี้พอยัยวีเลิกกับแฟน พวกเราก็เลยยุให้หมอตรัยน่ะจีบยัยวี"

 

หมอแอ๊ดเฉลยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่ทุกคนเข้าใจกันดี แต่แล้วคุณหมอ

คนสวยก็ต้องก็นิ่วหน้านิดๆ เมื่อนึกถึงปัญหาใหญ่ที่ยังรออยู่

 

"แต่ยัยวีเนี่ยสิ ซื่อบื้อจัง ทำยังไงก็ไม่รู้ตัวเสียที"

คนสวยบ่นด้วยท่าทางขัดใจเจ๊

 

"เอ่อ...ไม่รู้ตัวน่ะไม่เท่าไรหรอกครับหมอแอ๊ด ตอนนี้ยัยวีมันยังไม่เลิก

คิดเลยว่าหมอตรัยน่ะเป็นเกย์ อ๊ะ..แต่ตอนนี้มันอาจจะคิดว่าหมอเป็น

ไบฯแล้วก็ได้มั้งครับ"

 

ขอบคุณครับพี่โจ้...แต่มันไม่ได้ช่วยให้หมอรู้สึกดีขึ้นเลยครับ

โธ่...หมวยนะหมวย ช่วยสังเกตหน่อยสิ หมอน่ะไม่ได้ชอบ

ผู้ชายนะคร้าบ หมอหนุ่มคิดอยู่ในใจ เฮ้อ..เมื่อเช้ายังแฮปปี้

ดี๊ด๊าอยู่เลย พอตอนเย็นงานเข้าซะงั้นนะหมอตรัย

 

"งั้นพวกเราคงต้องฝากพี่โจ้กับพี่เอ๋ให้ช่วยเรื่องนี้แล้วล่ะครับ"

 

หมอรินถือโอกาสฝากฝังเรื่องของหมอตรัยกับเพื่อนรักของยัยหมวยซะ

เลย แบบนี้สินะที่เรียกว่าเข้าทางเพื่อน อิอิ

 

แต่พี่เอ๋กลับทำหน้าหนักใจ หันไปสบตากับเพื่อนสนิทหนึ่งที พี่โจ้ก็มีสี

หน้าประมาณเดียวกัน

 

"พวกเราน่ะเต็มที่อยู่แล้วครับ แค่ได้รู้ว่าหมอตรัยจริงใจกับยัยหมวยแค่

ไหนเท่านั้นก็พอแล้ว แต่ว่า...ยัยหมวยนี่สิครับ รอยหยักในสมองมัน

น้อยขนาดนี้หมอตรัยคงต้องพยายามหนักหน่อยแล้วล่ะครับ"

 

"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ เพราะทางเราหมอตรัยก็เดินหน้าเต็มตัวอยู่

แล้ว พี่เอ๋ก็เห็นแล้วนี่ครับ เพื่อนผมลงทุนเปลี่ยนลุคส์เพื่อหนูวีซะ

ขนาดนี้ "

 

หมอดิวแกล้งผายมือมาทางคุณหมอที่นั่งหน้าแดงด้วยความเขิน

เล่นงี้เลยเหรอหมอดิว...บอกแล้วว่าเพื่อนเขินนะครับ ฮว้ากกก

 

"หมอตรัยนี่น่ารักกว่าที่คิดนะครับ..."

 

(มิน่าใครๆถึงคิดว่าหมอเป็นเกย์)พี่โจ้พี่เอ๋หัวเราะกันคิกคัก

คุณหมอของเรายิ่งแทบจะม้วนลงไปอยู่ใต้โต๊ะ

 

"งั้น..เรามาชนแก้วกันหน่อยนะคะ ฉลองที่ทุกคนเข้าใจกันแล้วก็

สำหรับความร่วมมือเรื่องเพื่อนแอ๊ด"

 

คนสวยเสนอพร้อมกับยื่นแก้วน้ำอัดลมไปข้างหน้า คนอื่นๆในโต๊ะ

จึงทำตาม เสียงแก้วกระทบกันไปมาดังขึ้นกรุ๊งกริ๊ง หมอดิวพูดติด

ตลกก่อนที่ทุกคนจะดื่มด้วยความขำ ทำเอาเกือบสำลักน้ำอัดลม

ตายเลยอ่ะ หมอดิว

 

"แด่...ความร่วมมือในการหาเมียให้เพื่อนในคืนนี้ ดื่มคร้าบบบ"

 

จากนั้นวงสนทนาก็เปลี่ยนเป็นหัวข้อเป็นกลยุทธพิชิตใจยัยหมวยวี

(จอมซื่อบื้อ) แต่ความจริงส่วนใหญ่ก็หนักไปในการแซวหมอตรัยซะ

มากกว่า เปลืองเนื้อเปลืองตัวทั้งโดนกัดทั้งโดนแซว...แต่เพื่อหนูวี

หมอยอมคร้าบ อะนะ..ตอนนี้ตาหมอก็มีพันธมิตรเพิ่มอีกสองหน่อเป็น

เพื่อนยัยหมวยซะด้วย หนทางข้างหน้าจะราบรื่นหรือลื่นกันจนหัวแตก

ก็ต้องเป็นกำลังใจให้อีตาหมอกันต่อไปนะคะ

 

พอใกล้สามทุ่ม พี่โจ้กับพี่เอ๋ก็ขอตัวกลับเพื่อเอาข้าวไปส่งยัยตัวร้ายที่

ป่านนี้คงหลับอุตุด้วยความเพลีย(เปล่านะคะเฮีย..ยัยหมวยนั่งปั่นงาน

หัวฟูอยู่บ้านอิเพื่อนค่ะ)หมอตรัยที่จ้องอยู่แล้วก็ขอตามไปด้วย แต่หมอ

รินสั่งด้วยเสียงเฉียบขาดเตือนสติคนที่กำลังอยู่ในห้วงรัก

(ครั้งแรกในชีวิตอีกตะหาก ฮิ้ววว)

 

"พอเลยตรัย แกเข้าเวรกลางคืนวันเสาร์-อาทิตย์ไม่ใช่เหรอ นี่มันจะได้

เวลาแล้วนะ เดี๋ยวก็เข้าสายหรอก ชั้นรู้ว่าแกอยากเจอยัยหมวย แต่ยัง

ไงก็ห้ามเสียเรื่องงาน ไม่งั้นคนอื่นจะว่าเอาได้ว่าเพราะยัยวีแกถึงเสีย

งานเสียการ ความรับผิดชอบต้องมาก่อนเฟ้ย"

 

หมอตรัยจึงเดินจ๋อยขึ้นรถกลับไปเข้าเวร  ส่วนพี่โจ้กับพี่เอ๋ซึ่งกำลังมุ่ง

หน้าเอาเสบียงไปส่งยัยหมวยคุยก็กันเองอย่างตื่นเต้นกับเรื่องราวที่ได้

รับรู้ในวันนี้ แอร๊ยยย..เขินแทนยัยหมวยวีเลยอ้ะ

 

"โจ้ กรูกลัวอย่างเดียวว่ะ..."

พี่เอ๋พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อความตื่นเต้นลดระดับลง

 

"หือมม์ มีไรเหรอ"

พี่โจ้ถามอย่างอารมณ์ดี ยังไงเขาก็เคลียร์สิ่งที่ข้องใจออกไปได้แล้ว

 

"ไอ่วี ..มันไม่เคยรู้เลยนะว่าหมอเค้าไม่ได้เป็นเกย์อย่างที่คิด ฉันกำลัง

คิดว่าถ้ายัยวีมันรู้แล้วทีนี้จะมันกลับไปสนิทสนมกับหมอเหมือนเดิมมั้ย

แกอย่าลืมนะว่านิสัยยัยวีมันเป็นยังไง ถึงจะจูจุ๊บกันไปแล้วก็เถอะ 

 

ฉันว่าตอนนี้ยัยวีมันยังไม่พร้อมที่จะมีใครหรอก มันยังเจ็บกับเรื่องไอ่ตั้ม

อยู่มากและที่สำคัญ เรื่องนี้แกกะฉันน่าจะรู้ดีพอๆกันนะ ไอ่วีไม่ใช่คนที่

จะรักใครได้ง่ายๆ"

 

เกย์หนุ่มพูดจบก็ถอนใจยาว ตอนนี้พี่โจ้ต้องกลับมาขมวดคิ้วเองเข้าซะ

แล้ว จริงอย่างพี่เพื่อนพูดทุกอย่าง ที่ผ่านๆมาแม้วีรญาจะไม่ใช่คนสวย

อย่างน้องอ้อมหรือมีเสน่ห์อย่างสุวัจนีก็มีหนุ่มๆมาขายขนมจีบยัยหมวย

อยู่ไม่น้อย แล้วทุกรายก็โดนยัยตัวแสบหักหน้าอย่างไม่ปราณี นี่เองที่

ทำให้พี่ด้าไม่พอใจมาก

 

เกย์หุ่นล่ำระลึกถึงวันหนึ่งที่เขาและเพื่อนได้มีโอกาสรับรู้และเป็นสักขี

พยานในความบ้าเลือดของวีรญาที่แหวใส่ชายวัยเกือบสี่สิบที่เข้ามา

กะลิ้มกะเหลี่ยทำทีเป็นพูดคุยอย่างสนิทสนมแล้วแอบจับมือเธอดื้อๆ

 

ยัยหมวยเกรี้ยวกราดจนน่ากลัวหนำซ้ำยังใช้แฟ้มฟาดชายชีกอคนนั้น

อย่างแรงจนเขาและโจ้ต้องแยกทั้งคู่ออกจากกันก่อนที่ยัยหมวยจะถูก

จับยัดซังเตข้อหาพยายามฆ่า

 

"พูดกับเค้าดีๆก็ได้นี่ยัยวี ไม่เห็นต้องตะคอกใส่พี่เค้าเลย พี่เค้าอายุ

มากกว่าแกตั้งเยอะ แล้วนี่ถ้าเค้าเอาเรื่อง แล้วพาลไม่ส่งรายงานแกจะ

ทำยังไง" 

 

สาวรุ่นพี่คนเก่งว่าวีรญาต่อหน้าผู้ชายคนนั้น ยิ่งทำให้ยัยหมวยฉุนจน

ฟิวส์ขาด 

 

"ไม่พี่แล้วค่ะ เนี่ยรุ่นน้าเลย แล้วเมื่อกี้เค้าจับมือวีด้วยนะพี่ด้า ส่วนเรื่อง

รายงานมันเป็นความรับผิดชอบส่วนตัวนะคะ ถ้าเค้าไม่ส่งตอนประเมิน

ผลงานเค้าก็ไม่ผ่าน นั่นยิ่งแสดงให้เห็นว่าเค้าไม่มีความรับผิดชอบก็

เท่านั้นเอง"

 

วีรญาตอบแรงแบบไม่เกรงใจ ทำให้พี่ด้าไม่สบอารมณ์รุ่นน้องคนนี้ยิ่ง

นัก นับวันวีรญายิ่งทำตัวไม่น่ารักกับพี่ๆผู้ชายจอมขี้หลีที่ชอบแต๊ะอั๋ง

ที่สำคัญพวกนั้นยังเป็นเครือข่ายสายงานสำคัญๆอีกมาก พี่ด้าคิดว่า

เรื่องแค่นิดๆหน่อยๆจะเป็นไรไป ยอมกันได้ก็ยอมๆกันไป ดีกว่ามานั่ง

ถือสาหาความให้เป็นเรื่องเป็นราวกันเสียเปล่าๆ

 

แต่กับวีรญามัน 'ไม่ใช่' ตั้งแต่แรก หญิงสาวไม่คิดว่าสิ่งที่รุ่นพี่สาวใหญ่

ทำจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องนัก การทำงานเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล

ไม่จำเป็นต้องเอาของบางอย่างมาล่อใจ โดยเฉพาะรุ่นน้องในที่ทำงาน

ของตัวเอง

 

วีรญากับกุลนารีมีความคิดเห็นที่ตรงกันในเรื่องนี้ ทั้งสองมองพี่ด้า

เสมือนพรานเบ็ดมากฝีมือ พวกหล่อนก็เปรียบเสมือนเหยื่อชั้นดีที่เอา

ไว้ล่อปลาโง่ให้มากินเบ็ดตัวแล้วตัวเล่าโดยที่ไม่มีโอกาสจะได้แอ้ม 

เหยื่อล่อชิ้นงามเลยสักตัว

 

แม้จะได้ผลประโยชน์กันทั้งคู่ พี่ด้าได้งาน พื้นที่มีผลงาน และก็มีกำลัง

ใจเล็กๆน้อยๆจากสาวๆของพี่ด้า แต่วีรญาก็ไม่ชมชอบวิธีการนี้เท่าไร

นัก หญิงสาวมักบ่นกับพี่โจ้และพี่เอ๋ของเธออยู่เสมอว่า

 

"มันเหมือนเรากำลังดูถูกทั้งตัวเองแล้วก็คนอื่นค่ะพี่ วีทำไม่ได้หรอก

ที่จะให้เสแสร้งให้ความหวังใครต่อใคร ไม่ว่าจะจริงหรือล้อเล่นก็เถอะ

ถ้าวีจะดีกับใคร จะยิ้มให้ใคร จะช่วยเหลือใคร มันก็เป็นเพราะวีอยาก

ทำอย่างงั้น วีโกหกตัวเองไม่ได้ค่ะ"

 

เพราะความดื้อรั้นของหญิงสาวนี่แหละที่ทำให้รุ่นพี่สาวใหญ่เพิ่มความ

หมั่นไส้ในตัวยัยหมวยอย่างทบเท่าทวีคูณ ยิ่งมาเจอภัทราซึ่งเปรียบ

เสมือนรุ่นน้องในฝัน ดูน่ารัก อ่อนหวาน ซื่อใส ไร้เดียงสา และว่าง่าย

ไม่ว่าพี่ด้าจะให้ทำอะไรภัทราก็ไม่เคยขัดใจทั้งสิ้น

 

ยิ่งยามน้องน้อยออดอ้อนหรือมีเรื่องทุกข์ใจจนน้ำตาเอ่อมาปรึกษา

พี่ด้าก็ยิ่งอยากปกป้องเหมือนภัทราเป็นน้องเล็กของหล่อนจริงๆ

โดยไม่ระแวงเลยแม้แต่น้อยว่าทั้งหมดเป็นแค่มารยาของภัทราและ

หล่อนกำลังถูกจูงจมูกด้วยรุ่นน้องที่น่ารักของตนเอง

 

เมื่อพี่โจ้กับพี่เอ๋มาถึง ภาพที่สองหนุ่มเห็นก็คือยัยหมวยนั่งขัดสมาธิ

อยู่บนนอกชานบ้านพักของกังสดาลและน้องกุ๊ก เกย์ทั้งสองจึงหอบหิ้ว

อาหารและขนมขึ้นไปบนบ้านสองสาว โดยมีเจ้าของบ้านทั้งสองรีบ

เตรียมภาชนะใส่อาหารและช้อนส้อมเพื่อจัดการกับลาภลอย (อิอิ)

 

ส่วนวีรญากำลังเตรียมที่จะส่งเมลล์ให้หัวหน้า พี่ด้า และผู้ร่วมงานคน

อื่นๆ หน้าที่ซีดอยู่แล้วของยัยหมวยดูซีดกว่าเดิม ใต้ตาก็คล้ำเหมือน

แพนด้าน้อยอดนอนอันเป็นอาการประจำตัวที่แสดงให้เห็นว่ายัยหมวย

นั้นง่วงจนจะไม่ไหวแล้ว

 

"อ้าว ไหนแกว่าจะนอนไง แล้วนี่เสร็จแล้วเรอะ"

 

พี่เอ๋ทักแล้วชะโงกหน้ามาดูผลงานของยัยหมวย...ก็ใช้ได้อยู่นะเนี่ย

 

"เสร็จหมดแล้วหนิ"

 

"ค่ะพี่ เดี๋ยวพรุ่งนี้วีต้องลงพื้นที่อีกครั้ง วันนี้วันเดียวข้อมูลยังไม่ครบ

หรอก ผู้ป่วยก็ยังสอบไม่หมดทุกคนเลย พี่ด้าโทร.มาให้ออกเดินทาง

ตอนแปดโมงครึ่งน่ะค่ะ"

 

หญิงสาวกดส่งเมลล์เสร็จก็ถอนใบหน้าออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์

แล้วกระพริบตา รู้สึกว่าดวงตาแห้งผากจากการจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็น

เวลานาน แล้วก็บิดตัวอีกนิดเพื่อคลายความเมื่อยล้า

 

"หูยย น่ากินมากเลยพี่วี มากินกันเร้ว มีต้มยำกุ้งของโปรดพี่ด้วยแหละ

กุยช่ายขาวผัดเต้าหู้ก็มี อ๊า...หอมอ้ะ"

 

น้องกุ๊กส่งเสียงสดใสดังมาจากวงอาหาร วีรญาและพี่เอ๋จึงรีบลุกตาม

เสียงใสๆ ยัยหมวยน่ะหิวตั้งแต่เย็นจนตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแล้วด้วยซ้ำ

แต่กลิ่นหอมน่ากินของอาหารก็ทำให้ต้องร่วมวงด้วยจนได้

 

"เย้...กุ้งเยอะแยะเลย"

วีรยากลับมาร่าเริงหลังจากที่ได้ลงนั่งและลิ้มรสอาหารที่ตนเองชื่นชอบ

 

"ไหนบอกซิ ทำไมแกลุกขึ้นมาทำฟิตปั่นงานจนเสร็จได้ ตอนแรกเห็น

ตีหน้าเหมือนหมาหงอย จะหลับมิหลับแหล่อยู่แล้วนี่"

 

พี่โจ้ถาม ขนมปังสังขยาเต็มปาก ทั้งๆที่เมื่อครู่เพิ่งทานข้าวกับพวก

หมอตรัยมา แหม...แต่ขนมกับข้าวนี่มันคนละกระเพาะกันนา

 

"ยัยสุเด่ะพี่ มันไปโปรยหมอตรัยที่ห้องยัยเจ๊ ตอนที่หมอเค้ารอพี่แต่ง

ตัวกันน่ะแหละ ไม่รู้ไปพูดไรขัดใจหมอแกเข้าน่ะเลยโดนด่าเอาซะเสีย

เลย สมน้ำหน้าอ่อยไม่ดูนัก เป็นแค่ชะนีน้อยบังอาจจะฟาดเก้ง"

 

น้องกุ๊กชิงฟ้องพี่ๆก่อนที่วีรญาจะได้เปิดปาก คนเสียงใสเล่าเหมือนกับ

ไปนั่งดูเหตุการณ์ในสถานที่จริงมาแล้ว ยังไงยังงั้น วีรญาจึงเสริมขึ้นมา

 

"ก็ไม่ได้พูดอะไรไม่ดีหรอกพี่ แค่น้องเค้าบอกคุณหมอไปว่าอยากได้ตัว

แทนไปทานข้าวด้วยแทนวีรึเปล่า...ก็เท่านั้น แต่ไม่รู้คุณหมอแกหงุด

หงิดอะไร เลยตอกยัยสุแรงไปหน่อยอ่ะค่ะ"

 

ถึงปากจะบอกไม่รู้ แต่เธอนั่นแหละรู้ดีที่สุดยัยหมวย ก็หมอตรัยหงุด

หงิดที่สุวัจนีเข้ามาเป็นกขค.ตอนที่เค้ากำลังจะจูจุ๊บเธอรอบสองไง

แอร๊ย...ไม่ต้องมาทำตาแบ๊วเลย

 

วันอาทิตย์เป็นวันที่คลินิกปิดละไม่ต้องเข้าเวรแทนใคร หมอตรัยจึง

นอนเหยียดยาวจนถึงเกือบเที่ยง เมื่อวานเขาต้องเข้าเวรทั้งวันแถม

ตอนกลางคืนยังรับปากเข้าเวรกลางคืนแทนหมอรุ่นพี่ที่ต้องอยู่ดูแล

ลูกสาวที่กำลังป่วย ได้นอนตอนใกล้เช้าแค่นิดเดียวเอง ชายหนุ่ม

เป็นคนใจอ่อนแบบนี้เสมอ แม้จะรู้สึกตัวตื่นได้สักพักแล้ว แต่หมอหนุ่ม

ก็ยังอยากนอนตากแอร์เย็นๆแบบนี้อีกสักพัก

 

หมอนใบนี้ใช่ไหมหนอที่คนตัวเล็กหนุนนอนในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

ชายหนุ่มสูดลมหายใจเอากลิ่นจางๆบนหมอนจนเต็มอก พลางคิดถึง

ยามที่ร่างเล็กๆที่นอนพริ้มตาหลับอย่างเป็นสุขบนเตียงนี้

แค่กลิ่นจางๆของวีรญาก็ทำเอาทั้งร่างกายและจิตใจของเขาปั่นป่วน

ไปหมด ตอนนี้ยัยตัวดีกำลังทำอะไรอยู่นะ...

 

คนที่หมอตรัยกำลังคิดถึงกำลังวิ่งวุ่นเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด วันนี้

จำนวนคนลดลงเนื่องจากเป็นวันอาทิตย์และเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งก็ต้อง

การเวลาส่วนตัวบ้างเช่นกัน แต่หมอปิงก็ยังมาเช่นเดิม วันนี้มีเจ้าหน้าที่

จากพื้นที่มาใหม่อีกสองคนสลับกับสองคนที่มาเมื่อวันก่อน เจ้าหน้าที่

ชายหนึ่งในสองคนนั้นเข้าไปทักวีรญาทันทีที่เห็นหน้า

 

"น้องวี น้องวีใช่ไหมครับ จำพี่ได้ไหม"

 

วีรยาหันมามองชายวัยสามสิบตอนปลาย ยัยหมวยทบทวนความจำครู่

หนึ่งก่อนจะยกมือไหว้

 

"สวัสดีค่ะพี่โต้ง แหม...ทำไมวีจะจำไม่ได้ล่ะคะ"

 

นั่นสิ...ทำไมหญิงสาวจะจำไม่ได้ ก็ผู้ชายคนนี้เป็นรุ่นพี่ของนายอาร์ท

หนุ่มขี้หลีที่เคยมาจีบวีรญาแล้วโดนหญิงสาวว้ากใส่อย่างรุนแรงจน

ขยาด พี่โต้งนี่แหละที่มาเคลียร์แล้วให้นายอาร์ทขอโทษวีรญาที่ทำตัว

รุ่มร่ามเกินพอดี ในตอนนั้นถึงในใจจะยังโกรธกรุ่นแต่ยัยหมวยก็จำต้อง

ยอมรับคำขอโทษตามมารยาทที่ดี

 

พี่โต้งถือโอกาสแนะนำคนที่มาด้วยให้วีรญารู้จัก

 

"น้องวี นี่พี่โยธิน เรียกพี่โยก็ได้ เพื่อนพี่ พี่โยเค้าอยู่อำเภอเวลาไป

นิเทศงานก็ให้พี่เค้าเลี้ยงข้าวก็ได้นะ"

 

วีรยายกมือไหว้เพื่อนพี่โต้ง ฝ่ายนั้นก็ยิ้มให้ด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย

พี่โยของพี่โต้งเป็นชายร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำหน้าตาคมสันแบบลูกทุ่ง

วีรยารีบจนไม่ทันสังเกตดวงตาแพรวพราวที่มองตามอย่างพึงใจเมื่อ

หญิงสาวขอตัวไปทำงานต่อ

 

จนบ่ายสามเซอร์ไพรซ์ของวีรยาก็มาในรูปรถยนต์เชฟโรเล็ตสีเทา

ที่มีคิตตี้พราวไปทั้งคันที่เข้ามาจอดใกล้ๆรถของสำนักงาน หมอตรัย

ก้าวลงมาจากรถในชุดเสื้อยืดคอปกสีฟ้าอ่อนและกางเกงแสล็คกับ

รองเท้าหนังสีดำมันปลาบ ชายหนุ่มถือกระติกที่บรรจุเครื่องดื่มเย็นๆ

หลายสิบขวดลงมาจากรถก่อนจะส่งเสียงทักทายพี่ๆพยาบาลและ

หมอปิงที่กำลังง่วนอยู่กับการสอบถามประวัติผู้ป่วย

 

"ทานน้ำกันก่อนครับ"

 

หมอตรัยยกกระติกขึ้นมาตั้งก่อนจะส่งขวดน้ำชาบรรจุขวดยี่ห้อดังให้

กับเจ้าหน้าที่แถวนั้น สายตาของหมอหนุ่มไล่มองหาใครบางคน

 

“วันนี้หมอว่างเลยมาเป็นกำลังเสริมให้ครับ”

 

แม้ปากจะพูดอย่างนี้ แต่ท่าทางที่ชะเง้อหายัยหมวยจนคอยาวก็ทำให้

หมอปิงอดกัดเพื่อนเล็กๆไม่ได้

 

“อะแฮ่ม...มาเป็นกำลังเสริม หรือมาหากำลังใจ

เอ๊ะ...หรือจะมาหาใครกันครับหมอตรัย “

โดนเข้าไปแบบนี้หมอตรัยก็ชักจะหูแดง ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายคนเริ่ม

ซุบซิบกัน อะโห...ขนาดเวลางานก็ไม่เว้นกันบ้างเลยเจ๊

 

“ถ้าหนูวีของแกละก็ โน่น..อยู่ตรงบ่อเก็บน้ำใช้หลังตึกกับพี่โจ้นู่นแน่ะ

เอาน้ำไปให้ยัยหมวยด้วยดิ เห็นบ่นหิวน้ำมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ป่านนี้

ฟาดน้ำคลองไปแล้วมั้งแก”


หมอปิงเปิดทางให้เพื่อนอย่างสวยงาม กุมารแพทย์แห่งโรงพยาบาล

ชุมชนมั่นคงจึงรีบคว้าขวดเครื่องดื่มแล้วจ้ำอ้าวไปตามทิศทางที่เพื่อน

ชี้ท่ามกลางเหล่าเจ๊ๆพยาบาลที่แอบมองปากก็มุบมิบซุบซิบเรื่องแซ่บๆ

ไปด้วย ฮึ้ย...เขินเว้ยยยย

 

แต่ถ้าหมอตรัยมีหูทิพย์แล้วได้ยินประโยคที่เจ๊น้อง พยาบาลสาวใหญ่ที่มา

จากโรงพยาบาลเดียวกันกระซิบกับเพื่อนมีหวังอิหมอได้จิตตกรอบสอง

แหงๆ

 

“หมอตรัยแกจะจีบไอ่โจ้ว่ะแก๊”

 

พี่น้องป้องปากกระซิบอีท่าไหนไม่รู้แต่ได้ยินกันทั้งวง เจ๊โหนเสียงสูง

ปรี๊ดในตอนท้ายจนพี่ตูน บอดี้แสลมยังอาย หมอปิงที่ได้ยินประโยคนี้

เต็มๆสองรูหูแทบจะลงไปนอนดิ้นแทนเพื่อน หนุ่มคิ้วบางรีบแก้ตัวแทน

สหายหนุ่มอย่างรวดเร็วจนเกือบจะกัดลิ้นตัวเอง

 

”เพื่อนผมจีบยัยวีคร้าบบบ”

 

“แหม...อย่ามาอำพี่ซะให้ยากเลยค่ะ ก็หมอตรัยแกเป็นเกย์ใช่ม้า

 แกจะจีบยัยวีไปทำไม”

อะแน้...รู้ดียิ่งกว่าเจ้าตัวอีกเว้ย

 

คำนั้นของพยาบาลสาวใหญ่ทำเอาหมอปิงน้ำตาแทบร่วงด้วยความ

สงสารเพื่อน ชื่อเสียงของเมิงกู่ไม่กลับซะแล้วตรัยเอ๊ย

เอาฟะ..ในเมื่อพูดความจริงกันแล้วไม่มีใครเชื่อ เดี๋ยวปิงจัดให้ จะเอา

ให้น้ำเน่าเหมือนละครตอนห้าโมงเย็นเลยว้อยส์

 

“เอิ่มมม...จริงๆมันก็เป็นความลับของหมอตรัยเค้า แล้วก็เป็นเรื่องส่วน

ตัวของเพื่อนด้วย หมอก็ไม่ค่อยอยากเล่าหรอกนะครับ...”


หนุ่มคิ้วบางจอมวางแผนแกล้งทิ้งช่วงเพื่อรอดูปฏิกิริยาคนรอบข้าง

ถ้าซื้อหวยกรูคงรวยเป็นล้านไปแล้ว หมอปิงคิด เพราะเป็นดังคาด

วงเม้าท์เริ่มเขยิบมาล้อมตัวหมอหนุ่มคิ้วบาง แม้ว่าบางคนจะทำเป็นไม่

สนใจก้มหน้าก้มตาเจาะเลือดผู้ป่วย แต่ก็กางหูฟังกันอย่างเอาเป็นเอา

ตาย สังเกตได้จากเลือดที่แทบไม่วิ่งขึ้นเข็ม ส่วนผู้ป่วยก็เงี่ยหูฟังไป

ด้วย ลืมเจ็บไปเลยล่ะสิ

 

หนักกว่านั้นเจ้าหน้าที่บางคนที่อยู่ไกลไปหน่อยก็รีบเขยิบๆๆๆเข้ามาฟัง

ให้ถนัดชัดหู เพราะเดี๋ยวจะกลับไปเม้าท์ต่อที่โรงพยาบาลไม่ได้ เอา

กับเค้าสิ เฮ้อออ

 

“หมอตรัยน่ะจริงแล้วก็เป็นผู้ชายธรรมดาๆ ปกติทั่วไปนี่แหละครับ

แต่มันต้องแกล้งเป็นตุ๊ด เอ่อ..ก็เพราะคุณแม่หมอตรัยเค้านั่นหละครับ

ที่พยายามบังคับให้หมอเค้าแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนรักที่อยู่สุรินทร์ให้

ได้ แต่หมอตรัยไม่ยอม ตอนนั้นคุณแม่หมอตรัยถึงกับขู่จะตัดแม่ตัดลูก

กันเลยนะครับ”

 

หมอปิงแอบขอขมาคุณอุษา คุณแม่ของเพื่อนรักอยู่ในใจที่แอบอ้างเอา

แม่เพื่อนมาขาย”งือๆ...คุณแม่คร้าบ ปิงขอโต้ด ทั้งหมดที่ทำไปนี่ก็

เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงลูกชายคุณแม่ที่อิเพื่อนแอ๊ดมันทำย่อยยับไปแล้วให้

กลับคืนมานะค้าบ ถ้าจะโทษก็โทษอิแอ๊ดแล้วกันนะครับแม่”แล้วชาย

หนุ่มก็สร้างเรื่องต่อ

 

“ตอนที่นัดดูตัวกัน พวกผมตกใจแทบแย่ เพราะน้องเค้าขี้เหร่มากเลย

น่ะครับ ทั้งอ้วน ทั้งดำ ฟันก็ห่าง สิวงี้เต็มพรืดไปหมด แต่คุณแม่หมอ

ตรัยก็ยังชมว่าน่ารัก จะเอามาเป็นสะใภ้ให้ได้ คิดดูสิครับมันน่าผิดปกติ

มั้ย”

พอเหล่าเจ๊ๆที่ล้อมอยู่พยักหน้าหมอปิงก็เล่าต่อ พาทุกคนเข้าสู่จุด

ไคล์แม็กซ์ของเรื่องอย่างไม่ให้เสียเวลา

 

“ครับ..พวกเราเดาว่าคุณแม่หมอตรัยต้องโดนของแน่ๆ ตอนนั้นหน้า

ท่านคล้ำมากแล้วก็สั่งอะไรที่คนรักลูกเค้าไม่กล้าสั่งกัน หมอตรัยก็เลย

ต้องแกล้งเป็นตุ๊ดตั้งแต่บัดเดี๋ยวนั้นน่ะแหละครับ ไม่งั้นต้องโดนบังคับ

จับแต่งกะน้องดำแน่นอน”

 

“เอ๊ะ แต่นี่มันก็จะสามปีแล้วไม่ใช่เหรอคะ ทำไมคุณหมอแกแกล้งนาน

จัง แถมเนียนซะขนาดนั้น”

 

พยาบาลพี่สาตั้งข้อสังเกตตามหลักนักระบาดวิทยาที่ดี หมอปิงหันมา

พยักหน้าหนึ่งหงึกก่อนจะพูดต่อ

 

“ครับ ก็น้องเค้ารอเพื่อนหมอมาตลอดเลยว่าเมื่อไรหมอตรัยจะเลิกเป็น

ตุ๊ดแล้วมาแต่งกับเค้าซะที ที่ผ่านมาเค้าก็พยายามมาหาหมอตรัยที่

บ้านบ่อยๆนะครับ ผมยังเตือนเลยว่าถ้าเค้าเอาอะไรให้กินก็อย่ากินนะ

เป็นอะไรไปแล้วมันแก้ยาก”

“จนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน น้องเค้าก็แต่งงานไป คงจะรอนานกว่านี้ไม่ไหว

น่ะครับกลัวเหี่ยวตาย หรือไม่หมอตรัยก็แกล้งเป็นตุ๊ดสมจริงไปหน่อย

จนเค้าหมดหวัง ตอนนี้หมอตรัยก็เลยไม่ต้องแกล้งเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วแล้ว

ล่ะครับ อา..แต่ว่าถ้าน้องเค้ารู้ว่าเพื่อนหมอแกล้งเป็นตุ๊ดแล้วล่ะก็มีหวัง

เค้าต้องกลับมาแน่ๆเลย หมอแกเลยต้องรีบมีแฟนรีบแต่งงานก่อนที่

น้องนั่นเค้าจะกลับมาครับ”


พอหมอปิงเล่าจบก็เรียกเสียงวิภาควิจารณ์กันอย่างเมามันส์

จนหนุ่มคิ้วบางต้องลอบยิ้มแล้วหันมาตีหน้าโศกว่าสงสารเพื่อนอย่าง

ล้นเหลือและหมอตรัยก็ลำบากในการเป็นตุ๊ดอย่างเหลือล้นจนอยาก

มอบรามสูรย์ทองคำให้หมอปิงสักตัว ค่าที่ตีบทแตกแสดงได้ดีเหลือ

เกิน


“ของเขมรนี่มันแรงจริงๆนะเธอ”

 

เสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะเดินแยกย้ายกันกลับไปทำงานต่อ

หมอปิงขำจนต้องก้มหน้าซ่อนยิ้ม ...ทีงี้เชื่ออ้ะ เรื่องขี้จุ๊ทั้งเพ

 

วีรญากำลังยืนอยู่กับพี่โจ้ที่ใต้ต้นไม้ข้างบ่อเก็บน้ำใช้ของสถานกักกัน

รุ่นพี่กล้ามปูกำลังถ่ายรูปและพูดอะไรบางอย่าง ส่วนยัยหมวยของเราก็

ก้มหน้าก้มตาจดสิ่งที่พี่โจ้บอกลงในสมุดยิกๆ แม้แดดตอนบ่ายจะร้อน

แรงแต่หญิงสาวกลับหน้าไม่แดงเพราะแรงแดดหากแต่หนักไปทาง

ซีดๆเหมือนผีจูออนซะมากกว่า(ตกลงนี่มันสารรูปนางเอกจริงเหรอ

เนี่ย)

 

“พี่โจ้ หนูวี น้ำเย็นๆหน่อยมั้ยครับ”

 

ทั้งสองหันมาตามเสียงเรียก วีรญายิ้มร่าแล้ววิ่งถลามาหาชายหนุ่มดัง

เช่นทุกครั้ง ขณะที่พี่โจ้เดินตามมาช้าๆ พอหญิงสาวเข้ามาใกล้หมอ

หนุ่มจึงก้มลงแล้วพูดเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคน

 

“คิดถึงหมอมากขนาดนั้นเลยเหรอครับ หนูวี”

 

ประโยคเด็ดนั้นเล่นเอายัยหมวยเบรกซะจนหัวทิ่ม หน้าซีดๆซับสีเลือด

ขึ้นมาทันที หมอตรัยเห็นแบบนั้นก็หัวเราะในลำคออย่างพอใจ

ชายหนุ่มเปิดฝาขวดชาเขียวแล้วส่งให้วีรญา

 

“รสข้าวญี่ปุ่น จำได้ว่าหนูวีชอบรสนี้ใช่มั้ยครับ”

 

ยัยหมวยพยักหน้า กล่าวขอบคุณชายหนุ่มแล้วรับชาเขียวรสชาดที่ตน

โปรดปรานมาดื่มอย่างกระหาย พอดีกับที่เกย์หนุ่มล่ำเดินมาถึงหมอ

ตรัยจึงส่งชาเขียวอีกขวดให้

 

“เอาใจกันจังเลยนะครับ ถ้าน้องผมหลงรักคุณหมอขึ้นมาจะทำไงเนี่ย

 ฮ่าฮ่าฮ่า”

พี่โจ้แซวเสียงดังตามปกติวิสัย ยัยหมวยนะเขินจนแทบสำลักน้ำชาเลย

 

“น้ำอะไรน่ะ กินมั่งดิ”

   

สาโรจน์แทรกเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ผิดกาลเทศะเสียจนโจ้อยาก

ตบให้ฟันร่วง เกย์หนุ่มหมั่นไส้ชายร่างเตี้ยมาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว เขากับ

วีรญาวิ่งกันขาแทบขวิดแต่หมอนี่กลับเอาแต่หลบอยู่ในอาคารคุยกับ

คนโน้นบ้างคนนี้บ้างไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง


คุณหมอตรัยส่งน้ำขวดสุดท้ายให้แล้วสาโรจน์ก็รีบเปิดขวดยกขึ้นน้ำ

ดื่มทันทีท่ามกลางความไม่พอใจของวีรญาและพี่โจ้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา