คุณหมอหัวใจแหวว

7.6

เขียนโดย sivach_13

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 18.10 น.

  18 ตอน
  20 วิจารณ์
  36.16K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) ชุลมุนวุ่นแล้วไง 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

"ยัยวี ยัยวี๊...มานี่ซิ มานี่ๆๆๆ"

 

พี่โจ้เรียกวีรญาด้วยน้ำเสียงสูงปรี๊ดเหมือน 'พี่ตูน บอดี้สแลม'

ตอนร้องเพลง'คิดฮอด'

 

 

"เมื่อกี้..เมื่อกี้หมอตรัยมาส่งแกใช่ไหม ชะ...ชั้นคงไม่ได้ตาฝาดไป

หรอกนะ เมื่อกี้ชั้นเห็นหมอตรัยเค้าหอมแก้มแกด้วยอ่ะ"

 

พี่โจ้ระล่ำระลักถามวีรญาด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ หลังจากลากไม้

ลากมือยัยหมวยมานั่งใต้ถุนบ้านพักตัวเองเป็นที่เรียบร้อย ยัยหมวยไม่

กล้าตอบอะไรแต่หน้าแดงก่ำ หลักฐานมันก็ฟ้องอยู่บนหน้าอยู่แล้วนี่ไง

ที่จริงพี่โจ้ไม่เห็นต้องถามย้ำหาความมั่นใจให้ตัวเองเล้ย

 

หลังจากนั่งเงียบบิดไปบิดมาอยู่ครู่หนึ่ง ยัยหมวยซึ่งตอนนี้จับต้นชน

ปลายอะไรแทบไม่ถูกกับเรื่องของคุณหมอมาดนิ่มที่มาเปลี่ยนแปลง

ตัวเองเอากะทันหัน ก็พูดทำลายความเงียบขึ้น

 

"พี่โจ้คะ จริงๆวีมีเรื่องอยากปรึกษาอ้ะค่ะ คือว่า..."

 

วีรญาอุบอิบบอกรุ่นพี่กล้ามปู แล้วเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้

เกย์หนุ่มรุ่นพี่ฟัง อย่างที่บอกไป...ตอนนี้ยัยหมวยของเรางงไปหมด

แล้วล่ะ ก็หมอตรัยที่ใครๆเค้าก็ว่ากันว่าเป็นเกย์ อยู่ๆมาแสดงท่าทีว่ามี

ใจให้แถมยังขอร้องให้มองในฐานะผู้ชายด้วยแล้ว มันจะยังไงกันนะ

 

พี่โจ้เบิกตากว้างฟังอย่างตั้งอกตั้งใจจนยัยหมวยเล่าจบ เอาละสิทีนี้

จะให้คำแนะนำยังไงกับยัยหมวยดีนะ

เพราะยังไง...ยังไง๊ พี่โจ้เองก็ไม่กล้าที่จะฟันธงลงเสาว่าคุณหมอตรัย

น่ะแมนแท้ๆ100% เหมือนกับที่ไม่กล้ารับรองว่าหมอแกจะเกย์100%

เช่นกัน

 

โถ..ก็นะ..คุณหมอแกสั่งสมชื่อเสียงในแนวนั้นมาน้อยอยู่ซะเมื่อไรกัน

ล่ะ ถึงจะไม่เคยมีใครเจอผู้ชายที่เป็นแฟนคุณหมอแกเลยสักคนก็เถอะ

พี่โจ้จึงเสนอว่าควรจะรอผนึกกำลังรวมสมาธิกับพี่เอ๋ในการวิเคราะห์

สารประกอบของคุณหมอตรัยดีกว่า คนเดียวกลัวว่าจะไม่ชัวร์...ว่างั้น

ยัยหมวยกับพี่โจ้จึงมานั่งซดต้มเลือดหมูกันสองคนรอพี่เอ๋ตื่น

 

"วีจะทำไงดีคะพี่โจ้"

 

เกย์หนุ่มผิวสีแทนก็อึ้งไปเหมือนกันพอรุ่นน้องหน้าหมวยตีหน้าละห้อย

ขอคำปรึกษาเอาอย่างงี้

 

"วี ชั้นว่าแกอย่าเพิ่งเล่าให้คนอื่นฟังนะเรื่องนี้ เดี๋ยวรอชั้นกะไอ่เอ๋ตรอง

ดูก่อนว่ามันจะอะไรยังไง รู้ป้ะ"

 

พี่โจ้กำชับรุ่นน้องอย่างห่วงใย วีรญานั้นเป็นทั้งรุ่นน้องมหาวิทยาลัย

และรุ่นน้องในที่ทำงาน เลือดสถาบันแรงกล้ารักพี่รักน้องอย่างพี่โจ้จึง

ห่วงชื่อเสียงยัยหมวยมิใช่น้อย แถมเจ้าตัวยังรู้ด้วยว่ายัยหมวยนั้นถูก

เหล่จากคนที่อยู่กลุ่มงานเดียวกันอย่างภัทราที่ไม่ยอมให้ใครดีกว่าตน

เองไปได้ ก็หลายครั้งอยูหรอกที่พี่โจ้ปะทะคารมเอากับภัทรา บางครั้ง

ก็เป็นพี่ด้าอย่างไม่เกรงกลัว สองคนนั้นซะอีกที่ต้องเป็นฝ่ายกลัวปาก

พี่โจ้แทน

 

"พี่โจ้อ้ะ วีจะกล้าเล่าให้ใครฟัง เค้าก็อายเป็นนะเฟ้ย"

 

ยัยหมวยอายม้วน กินต้มเลือดหมูแทบไม่ลงขณะที่พี่โจ้ซัดเอาๆ

อะนะ...ก็คนเค้าใช้ความคิดนี่นา ตัวก็

 

"อื้อหือ อิเอ๋มันจะนอนเอาถ้วยรึไงวะ ป่านนี้แล้วยังไม่ลุกอีก"

 

พี่โจ้บ่นงึมงำเมื่อเห็นเข็มนาฬิกาเดินไปจนเกือบสิบโมง พอหันมาหา

วีรญาก็พบว่ายัยหมวยที่นั่งรออยู่ก็หลับไปซะแล้ว

 

"ต๊าย...นี่ก็อีกคน ยัยวีนี่หล่อนเป็นทุกข์เป็นร้อนเรื่องตัวเองจริงๆจังๆ

บ้างไหมเนี่ย ดูมันขนาดบนม้าหินใต้ถุนบ้านมันก็ยังหลับเข้าไปได้

ชั้นละเชื่อแกแล้วจริงจริ๊ง ยัยวีเอ๊ยย"

 

พี่โจ้ลืมตัวแผดเสียงแปดหลอดออกมาจากลำคอพ่วงพี เล่นเอายัย

หมวยสะดุ้งตื่น..แหม ก็รอตั้งนานแล้วอ้ะ พอดีกับพี่เอ๋ที่คงได้ยินเสียง

ทะลุทะลวงเมื่อครู่จึงเดินงัวเงียลงบันไดมาพร้อมกับบ่นไปด้วย

 

"อื๊อออ...มีไรอ่ะยัยวี มากวนแต่เช้าเลยนะแก ชั้นกำลังฝันถึงน้อง

โตโน่อยู่เชียว ขัดลาภกระทั่งความฝันจริงๆพวกแกเนี่ย 

แล้วไอ่โจ้แกจะแหกปากหาวิมานอะไรฮะ นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะเดี๋ยว

ชาวบ้านเค้าก็ด่าเอาหรอกแก"

 

 

พี่โจ้ค้อนใส่เพื่อนวงเบ้อเริ่มก่อนจะบอกปนกัดเล็กๆไปว่า

 

"จะสิบโมงแล้วอิเอ๋ มัวแต่ฝันถึงโตโน่กรูว่าเมิงตื่นมาหาของจริงลง

ท้องจะดีกว่าไหม ที่สำคัญกรูกะยัยวีมีเรื่องที่ต้องระดมความคิดหน่อย

เมิงรีบไปอาบน้ำแต่งตัวลงมาให้ไวๆเลยนะ เรื่องนี้รับรอง...แซ่บบบ"

 

พี่เอ๋ที่ชักจะเริ่มตาสว่าง ยิ่งเรื่องแซ่บๆด้วยแล้ว...คุณพี่หันมามอง

วีรญาแว่บหนึ่งก่อนจะถามจี้ใจดำยัยหมวยจี๊ดขึ้นมา

 

"ยัยวี...นี่มันชุดเมื่อวานนี่หว่า ตกลงแกเพิ่งกลับมาในชุดเดิมหรือว่า

หลับไปทั้งอย่างงี้แล้วรีบตื่นมาหาฉันกัน ไหนเฉลยก่อนฉันจะไป

อาบน้ำทีซิ"

 

พี่โจ้กับยัยหมวยหันมามองหน้ากัน แล้วพี่โจ้ก็ตัดบทฉับเข้าให้

 

"เมิงรีบไปอาบน้ำมา เดี๋ยวจะได้รู้ทุกอย่างที่เมิงอยากรู้ แล้วก็มาช่วย

กันคิดด้วย ส่วนแก...ยัยวี กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อมาให้เรียบ

ร้อย เร็วๆด้วยนะทั้งคู่เลย"

 

แม้พี่เอ๋จะส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นจังเล้ยยยยังไงพี่โจ้ก็ไม่ฟัง

เอามือรุนหลังเพื่อนขึ้นชั้นสองไปอาบน้ำจนได้ ขณะที่วีรญาเอง

ก็จ้ำอ้าวกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อเหมือนกัน

 

ราวยี่สิบนาทีให้หลังทั้งวีรยาและพี่เอ๋ก็เตรียมตัวพร้อมสำหรับประชุม

เครียดแบบเฉพาะกิจในครั้งนี้ ระหว่างที่ทั้งสองคนไปอาบน้ำอาบท่า

ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าพี่โจ้ก็เปิดถุงขนมขบเคี้ยวเทลงจาน เคียงข้างด้วย

เครื่องดื่มน้ำดำซาบซ่าและน้ำแข็งล้นกระติกพร้อมรบเช่นกัน

 

"อ้ะ ว่าไงไหนยัยวี ไอ่โจ้ พวกแกมีไรแซ่บๆจะบอกชั้น"

 

พี่เอ๋ทวงยิกเมื่อเห็นว่าครบองค์ประชุม มือก็กอบมันฝรั่งทอดกรอบแผ่น

บางเข้าปากไปด้วยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับฟัง

 

"เออน่ะ นี่ยัยวีเดี๋ยวชั้นเล่าเองแล้วกันนะยะ แกมัวแต่อายเล่าช้า

ต้วมเตี้ยมๆอย่างงี้ วันนึงก็เล่าไม่จบหรอกย่ะ"

 

พี่โจ้ออกตัว ที่จริงแกอยากจะเม้าท์เองใจแทบขาดตะหากเล่า

ยัยหมวยเลยได้แต่พยักหน้างงๆ..ตกลงนี่มันเรื่องของใครกันฟระ

พี่โจ้เล่าออกอาการกรี๊ดกร๊าดจนแอ๊บแมนไม่อยู่ ส่วนพี่เอ๋เองก็

หัวเราะกระซิกกระซี้ไม่ต่างกัน ได้ยินแต่

 

"เหรอ..เหรอ"  "จิงง่ะ" 

 

"ต๊าย..แก ตายแล้ว อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกแขก"

 

เป็นสิบๆรอบ กว่าจะเล่าจบเล่นเอาเหนื่อยทั้งคนเล่าคนฟัง ถ้ายัยหมวย

เป็นคนเล่าเองอาจจะเร็วกว่านี้ก็ได้นะ แต่ก็นะ..อาจจะไม่มันส์เท่า อิอิ

พอพี่โจ้เล่าจบก็คว้าแก้วเครื่องดื่มที่ละลายจนแทบไม่เหลือความซ่า

ขึ้นมาซดอั้กๆแก้กระหาย พักหายใจครู่หนึ่ง แล้วหันมาถามความคิด

เห็นจากเพื่อน

 

"เอ๋ เมิงคิดว่าไง"

 

พี่เอ๋เลียเศษมันฝรั่งทอดกรอบที่ติดปลายนิ้ว ย่นหัวคิ้วอย่างใช้ความ

คิด เกย์กล้ามปูคู่ซี้ของพี่โจ้เงียบไปครู่ใหญ่ๆ

 

"บอกตามตรงนะโจ้ ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ะ รึหมอแกจะเป็นไบวะ

เพราะยัยวีมันก็นิสัยคล้ายๆผู้ชายอยู่เหมือนกัน อาจจะจีบแก้ขัดก็ได้

 

หรือว่า...หรือว่าแกจะจีบยัยวีบังหน้าเพื่อจะแอ๊บแมน เอ..มันก็ไม่น่า

ใช่นะ เพราะหมอตรัยแกก็ไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้น อุ๊ย ฉันก็เดาใจหมอ

แกไม่ถูกเหมือนกันว่ะโจ้ รึเราจะบุกไปถามกันเลยดีมะ"

 

ถ้าหมอตรัยกับเพื่อนๆมาได้ยินคอมเม้นต์พี่เอ๋เข้าก็อาจจะปลาบปลื้ม

จนกลั้นใจตายไปเลยก็ได้ ลำพังมีข่าวว่าเป็นเกย์ก็หนักเอาการอยู่แล้ว

นี่ยังต้องมากลายเป็นไบเซ็กช่วลบ้าง เป็นกระเทยแอ๊บแมนที่จีบหญิง

บังหน้าบ้าง โอ๊ย..เพลียแทน

 

"หืออ..แต่ละอย่างบรรเจิดเหลือเกินนะแก ไอ่เอ๋ คิดมาได้ไงวะ แต่ไอ้

ข้อเสนอสุดท้ายที่บุกไปถามตรงๆเลยเนี่ย ชั้นเห็นด้วยนะ"

 

พี่โจ้อดเหน็บเพื่อนไม่ได้ ก็ดูซิแต่ละอย่างที่เพื่อนบันดาลให้หมอแก

เป็น ถึงอีกใจพี่โจ้จะแอบคล้อยตามพี่เอ๋ไปกว่าครึ่งก็เถอะ

 

"พี่โจ้ พี่เอ๋ แล้ววีควรจะทำยังไงดีคะ วีงงไปหมดแล้วเนี่ย"

 

หญิงสาวหนึ่งเดียวในตอนนี้โอดครวญ

 

"ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย อยู่เฉยๆรอดูท่าทีของหมอตรัยไปเรื่อยๆว่า

เค้าจะมาแบบไหน ว่าแต่แกเถอะยัยวี เมื่อคืนหมอเค้าทำอะไรแกบ้าง

ป่ะนอกจากจูจุ๊บนะ"

 

"ป๊าววว บ้าเหรอพี่เอ๋อ้ะถามไรงี้ ขืนทำอะไรวี วีข่วนหน้าแหกจริงๆนะ

ไม่ว่าจะใครก็เถอะ"

 

พี่เอ๋ถามท่าทางอยากรู้อยากเห็นจนออกนอกหน้า วีรญานั้นรีบปฏิเสธ

เสียงหลงขณะที่พี่โจ้ลงมะเหงกบนกบาลที่เริ่มจะอาภัพเส้นผมของคู่หู

 

"พี่โจ้คะ พี่เอ๋คะ วีบอกตามตรงนะ...ตอนนี้วียังทำใจเรื่องตั้มไม่ได้เลย

มันเจ็บนะคะที่ถูกคนที่เชื่อใจที่สุด ไว้ใจที่สุดมาทรยศกันได้ลง วีน่ะยัง

คบใครตอนนี้ไม่ได้หรอกค่ะ

 

จนกว่าที่วีจะลืมเรื่องของตั้มแล้วก็ทำใจให้ยอมรับใครสักคนเข้ามาใน

ชีวิตได้น่ะ วีคิดว่าตัวของวีเองก็คงต้องใช้เวลาสักพักนึงแหละค่ะ"

 

วีรญาชี้แจงด้วยน้ำเสียงเศร้าลึกซึ้ง เล่นเอาพี่เอ๋จ๋อยไปเลย ทั้งพี่เอ๋

และพี่โจ้เข้าใจยัยหมวยดีที่สุด วีรญานั้นเป็นคนที่แม้จะมนุษยสัมพันธ์

ดีกับทุกคน แต่การที่ยัยหมวยจะรักใครสักคนนั้นต้องใช้เวลานาน

 

และเมื่อลงได้รักใครคนนั้นไปแล้ว ยัยหมวยวีจะไม่มีวันนอกใจแฟนตัว

เองอย่างเด็ดขาดถึงจะมีหนุ่มหล่อพ่อรวยขนาดไหนมาจีบก็ตาม

ซึ่งตลอดเวลาที่หญิงสาวคบกับสิทธิพรอยู่นั้นก็ได้เป็นตัวพิสูจน์ความ

มั่นคงของวีรญาได้เป็นอย่างดี

 

"อืม...พี่ก็เห็นด้วยกับไอ่เอ๋นะ รอดูท่าทีหมอแกไปก่อน ยังไงเดี๋ยวพี่

กับเอ๋จะลองเลียบๆเคียงๆถามคุณหมอแอ๊ดแกดูอีกทีแล้วกันว่าทาง

โน้นเค้าจะยังไง พี่ว่าถ้าแกจะจีบวีเพื่อหลอกคนอื่นนะ วีก็โอเคเซย์

เยสตามน้ำไปเลย ดีซะอีกคนอื่นๆแล้วก็แฟนเก่าแกจะได้รู้ว่าแกก็ไม่ได้

สิ้นไร้ไม้ตอกต้องคอยง้อแต่มัน แกกับหมอตรัยก็นั่งจับเข่าคุยตกลงกัน

ให้เป็นเรื่องเป็นราวไปเลย เพราะยังไงแบบนี้ก็ได้ประโยชน์ทั้งคู่"

 

"ไอเดียแหล่มเป็ดมากไอ่โจ้ งั้นตกลงตามนี้นะวี"

 

พี่โจ้ออกไอเดียบ้าง แล้วก็เป็นไอเดียสุดบรรเจิดซะด้วยสิ พี่เอ๋จึงหนุน

เพื่อนสุดแรงม้า เพราะทั้งสงสารและเห็นใจวีรญาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ไหนจะต้องเจอปัญหาจากแฟน จากเพื่อนร่วมงานที่จ้องจะสมน้ำหน้า

และเห็นใครได้ดีกว่าตัวไม่ได้อย่างภัทรา แล้วก็ไหนจะปัญหาทางบ้าน

ของหญิงสาวอีก

 

"แล้วแกจะเจอหมอตรัยเค้าอีกเมื่อไหร่"

พี่เอ๋ถาม

 

"เย็นนี้คุณหมอบอกว่าจะมารับวีไปทานข้าวกับพวกหมอแอ๊ดน่ะค่ะ"

 

พอหญิงสาวพูดจบประโยค ทั้งพี่โจ้และพี่เอ๋ก็หันมามองหน้ากันแล้ว

คิดอยู่ในใจว่า "แบบนี้ มันชักจะยังไงๆซะแล้วนา"

 

มาทางฝั่งคุณหมอตรัยกันบ้าง วันนี้คุณหมออารมณ์ดีขนาดเดินผิวปาก

เข้ามาที่ทำงานเลยเชียวละ พยาบาลช่างเม้าท์และสาวกเม้าท์มอย

หลายคนแอบซุบซิบกันเล็กๆเป็นน้ำจิ้มก่อนจะเจอของจริงกันตอนพัก

เที่ยงในวงผลไม้ดอง สงสัยว่าคุณหมอตรัยอารมณ์ดีอะไรนักหนาน้อ

รึแกจะตกผู้ชายได้(อ้าว...เฮ้ย แต่ละเรื่องดีๆกันจัง)

 

หมอรินที่เตรียมตัวออกเวรตอนเก้าโมงเช้าเดินสวนมาพอดีและก็ทันได้

ยินคุณหมอของเราผิวปากเพลง'ขอหอมหน่อย(ได้ไหม)'ของLonely

Lego ดังมาตามทางเดิน เลยอดแซวไม่ได้

 

"อารมณ์ดีมาเลยนะ เมื่อคืนเป็นไงมั่ง ฉันอุตส่าห์ว่าเช้านี้จะไม่กลับ

ไปนอนบ้าน เปิดทางให้แกแบบสุดๆไปเลย นึกว่าวันนี้จะลาซะอีก"

 

เจอเพื่อนทักแบบนี้เข้าหมอตรัยก็ออกอาการเขินหน่อยๆ ชายหนุ่มตอบ

เพื่อนด้วยใบหน้าที่ระบายรอยยิ้มอ่อนหวาน

 

"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกหมอริน เราแค่บอกหนูวีไปว่าให้ช่วยมองเราใน

ฐานะผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้นเอง"

 

อีกฝ่ายคาดคั้นหนักขึ้น แหม...ถ้าแค่นั้นหมอตรัยไม่อาการแบบนี้

หรอกน่า เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานหมอรินรู้ดี

 

"แค่นั้นจิงง่ะ จริงเหรอออ หมอตรัย บอกเรามาดีๆซะดีกว่า"

 

บีบคออยู่ไม่นานหมอตรัยก็หลุดความลับออกมา คนเล่าหน้าแดงหูแดง

ขณะที่หมอรินเองก็แทบเก็บอาการกรี๊ดเอาไว้ไม่อยู่

 

"ชั้นกลับก่อนนะตรัย จะรีบไปเม้าท์กับพวกอิแอ๊ด"

 

ซะงั้น...หมอรินสะบัดก้นจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้คุณหมอตรัยยืน

ยิ้มกริ่มอยู่คนเดียว วันนี้คุณหมอคงทำงานอย่างมีความสุขไปทั้งวัน

เฮ้อ..ถ้าคุณหมอรู้สักนิดว่าอีกฝั่งเค้าคิดกันยังไง หมอตรัยแกจะยังยิ้ม

ออกอยู่หรือเปล่านะ ตอนนี้เริ่มเห็นใจ'คนมีชื่อเสียง'กันบ้างไหมเอ่ย

 

และแทบไม่ต้องรอนาน ราวสิบโมงกว่าๆก็มีโทรศัพท์จากหมอแอ๊ด

น้ำเสียงตื่นเต้นแบบไม่ปิดบังดังมาตามคลื่นโทรศัพท์

 

"ตรัย กลางวันนี้กินข้าวด้วยกันหน่อยสิ ชั้นอยากรู้เรื่องเมื่อคืนอ้ะ"

 

ถ้าเป็นวันธรรมดาที่งานยุ่งมากๆ หมอตรัยก็อาจจะปฏิเสธไปแล้ว

แต่นี่เป็นวันเสาร์แถมตอนนี้ก็อารมณ์ดีซะขนาดนี้ เมื่อเพื่อนชวน

คุณหมอของเรามีหรือจะปฏิเสธ

 

"อืม เอาสิ..แต่เลือกที่ใกล้ๆโรงพยาบาลหน่อยนะ

เราต้องรีบเข้าทำงานต่อน่ะ"

 

อีกฝ่ายคิดแค่แป๊บเดียวจริงๆ เหมือนกัน

 

"เอางี้ ไปเจอกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นโมจิ มันมีฉากกั้นเป็นส่วนตัวดี

เดี๋ยวเรื่องอาหารชั้นสั่งรอแกเอง"

 หมอแอ๊ดบัญชาก่อนจะวางสายไป

 

ตกเที่ยงหมอตรัยจึงไปรวมตัวกับเพื่อนๆที่เหลือแค่หมอแอ๊ด หมอดิว

หมอเจ เภสัชกรอั๋นกับภริยา และพี่หมี ส่วนคนอื่นๆรีบเดินทางกลับกัน

ไปตั้งแต่เช้า หมอปิงนั้นต้องรีบกลับไปเข้าเวรต่อ หมอเบียร์กับพี่กุ้งก็

เช่นกัน ส่วนหมอรินที่เม้าท์จนฉ่ำใจตั้งแต่เมื่อเช้าตอนนี้กลับไปนอน

เอาแรงเพื่อจะมาเปิดคลินิกต่อในช่วงบ่าย

 

"ตรัยตกลงเมื่อคืนนี้แกทำอะไรยัยวีมันมั่งน่ะ"

 

หมอแอ๊ดยิงคำถามตั้งแต่คุณหมอตรัยยังไม่ทันหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้

เจอแบบนี้เข้าไปหมอตรัยก็แทบหงายท้องตกเก้าอี้ไปเลย นี่แค่ดอก

แรกนะ มองไปรอบโต๊ะเพื่อนๆก็ส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นกันทั่วทุก

คน แถมยังจ้องเป๋งมาที่เขาคนเดียวซะอีก รู้สึกบีบหัวใจเล็กๆแฮะ 55

 

"ไม่ได้ทำอะไรเลยคร้าบ จริงๆนะ ด้วยเกียรติของกุมารแพทย์โรงพยา

บาลชุมชนมั่นคงเลยเอ้า แอ๊ดไม่ต้องมาแกล้งถามเลย เมื่อเช้ารู้จากริน

หมดแล้วใช่ไหม ยังจะมาแกล้งเราอีก"

 

หมอตรัยชี้แจงด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม จนหมออั๋นหมั่นไส้อดที่จะประชด

ออกมาไม่ได้

 

"อื้อหือ..แต่ถ้าดูจากสีหน้าแกแล้วเนี่ย ทำเอาชั้นคิดเลยนะว่าแกน่ะ

ฟาดยัยวีไปเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแหงแซะ หน้าระรื่นซะขนาดนี้"

 

พอหนุ่มอั๋นพูดจบเพื่อนๆก็เฮกันลั่นทั้งโต๊ะ หมอเจกับพี่หมีนั้นถึงกับ

ขำน้ำหูน้ำตาไหลกันเลยที่เดียว หมอตรัยเลยได้แต่ด่าเพื่อนอุบอิบๆ

อยู่ในลำคอ หูแดง

 

" ชั้นไม่ใช่แกนี่หว่า จะได้วางยาเอาเหมือนที่ยัยตาลโดน"

 

เภสัชกรหนุ่มได้ยินเข้าก็สะดุ้งเฮือก...เล่นแรงนะหมอตรัย

 

"แล้วตกลง...แค่จูบจริงง่ะ  แอร๊ยย ตรัยแกจูบแบบฝรั่งเศสเลยป่ะ

เม้าท์ทูเม้าท์น่ะ"

 

อะนะ...หมอแอ๊ดก็ช่างกล้าถาม ไม่สนใจเพื่อนที่นั่งหน้าแดงว่าเขิน

ขนาดไหน ส่วนที่เหลือก็กางหูฟังกันอย่างเต็มที่ตั้งใจซะยิ่งกว่าฟัง

เล็คเช่อร์ตอนเรียนซะอีก เป็นไปได้หมอตรัยก็อยากแทรกตัวหายไป

ในเก้าอี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปซะเลย ถูกต้อนยิ่งกว่าจนมุมแบบนี้

 

"เมิงถามแบบนี้ ทีหลังกรูว่าแอบตั้งกล้องไปเลยดีมั้ยอิแอ๊ด จะได้ไม่

ต้องถามกันให้เมื่อย ชัดเจนทั้งภาพและเสียง ไอตรัยมันจะได้โกหก

เมิงไม่ได้ด้วย หลักฐานแน่น...ปึ้กก"

 

แม้จะกางหูฟังอยู่เหมือนกัน แต่หมอเจก็อดกัดหมอแอ๊ดตามประสาคน

ปากไม่อยู่สุขจนได้ หมอแอ๊ดจึงได้แต่ค้อนตากลับประหลับประเหลือก

ก่อนจะออกกลับมาเค้นเอากับหมอตรัยอีกครั้ง

 

"ว่าไงๆๆ "

 

"บ้าสิ พอดียัยหนูวีข่วนหน้าเราแหกกันพอดี ทำก็แค่ที่เล่าให้หมอริน

ฟังน่ะแหละ อย่าถามมากได้มั้ย เขินนะเนี่ย"

 

หมอแอ๊ดกับหมอดิวนั้นออกอาการกรี๊ดกร๊าด ขณะที่หนุ่มอั๋นกับหมอเจ

ถอนใจพรวดส่ายหัวกันด๊อกแด๊ก

 

"งั้นแกอย่าเรียกจูบเลยตรัย ฉันกระดากแทนว่ะ แบบนั้นมันแค่เอาปาก

มาชนกันเฉยๆแล้ว"

 

อดีตคาสโนว่าตัวพ่อวิจารณ์ แต่หมอดิวก็เถียงแทนเพื่อนทันควัน

 

"สำหรับตรัยน่ะ แค่นั้นก็ถือว่ามากแล้วย่ะ ตรัยมันสุภาพบุรุษจะเหมือน

ทรชนอย่างพวกแกได้ไง มันเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก จริงมั้ย"

 

หมอแอ๊ดหัวเราะเสียงแหลม ถูกใจที่หมอดิวเอาคืนเภสัชจอมเจ้าชู้ซะ

เถียงไม่ออก แล้วหันไปซุบซิบงุบงิบกับหมอดิวกันสองคนแถมยังมี

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยให้เจ็บใจลอยมาอีกตั้งหาก

 

หมอเจจึงได้แต่ตบไหล่ปลอบใจเภสัชกรอั๋นที่โดนแม่ยกหมอตรัยกัดจน

เยินไปทั้งตัวแล้วพูดปลอบเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคน(รึเปล่า)ปน

แขวะแก๊งค์สาวแตกไปด้วยในตัว

 

"ไม่เข็ดซะทีนะไอ่อั๋น กรูก็บอกแล้ว ว่าไอ่ตรัยน่ะแม่ยกมันดี ทีหน้าที

หลังเมิงก็อย่าไปยุ่งกะม๊านน ปากคอน่ะสงบๆ เจียมเนื้อเจียมตัวไว้มั่ง

เหอะ พวกเราน่ะมันคนที่ไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด"

 

"นั่นสินะ กรูก็ลืมคิดไป กรูมันคนไม่สำคัญ กรูมันเล๊ววว

มีแต่เจนี่แหละที่เข้าใจอั๋น อั๋นรักเจนะ"

 

หนุ่มอั๋นรับมุก คว้ามือหมอเจที่ตบไหล่อยู่มากุมแนบอกทันที แล้ว

ปล่อยมุกต่อ หมอเจได้แต่ตีหน้าปุเลี่ยนๆ กลอกตามองเพื่อนๆที่

หัวเราะกันเฮลั่นโต๊ะ

 

"อื้อหือ มุกนี้เลยนะไอ่อั๋น กรูไม่น่าหลวมตัวช่วยเมิงเลยจริงจริ๊ง"

หมอเจปลง

 

ถ้ามีใครสักคนในกลุ่มมีตาทิพย์รู้เหตุการณ์ได้ล่วงหน้า คงได้ออกปาก

เตือนหมอตรัยที่ท่าทางมีความสุขจนล้นให้ลดอาการดีใจลงบ้างได้

แล้ว เพราะเย็นนี้คนที่เขานัดไว้คงไม่มีทางได้มาทานข้าวกับหมอตรัย

ตามสัญญาได้แน่ๆ นั่นแหละนะช่วงเวลาแห่งความสุขน่ะเข้ามาหาเรา

สั้นกว่าความทุกข์เสมอ ต่อไปหมอตรัยจะเจอกับอะไรบ้างมาเอาใจช่วย

คุณหมอกันนะจ๊ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา