เพียงใจที่ผูกพัน

-

เขียนโดย น้ำปั่น

วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14.12 น.

  4 ตอน
  2 วิจารณ์
  9,889 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) น้องสาวผู้แสนดี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่  2  น้องสาวผู้แสนดี
ในห้องเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  4 เป็นช่วงเวลาที่อาจารย์ยังไม่เข้ามาสอน  นักเรียนในห้องบ้างก็นั่งคุยกันอยู่เป็นกลุ่ม ๆ  บ้างก็เดินไปเดินมาอยู่ภายในห้อง  บางคนก็วิ่งเล่นและแกล้งกันไปแกล้งกันมา นิศานั่งอยู่ที่โต๊ะเรียน มี หญิง และ  น้ำใส  ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนิศานั่งอยู่ด้วย ทั้งสามคนนั่งคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน  เอกวิ่งเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อนเขาวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้านิศา  มือข้างหนึ่งถือกระเป๋านักเรียนส่วนอีกข้างถือของมาพะรุงพะรังยืนหอบอยู่เพราะความเหนื่อย  โดยที่มี  นิศา  หญิง  และ น้ำใสนั่งมองดูอยู่
“สวัสดีตอนเช้านะ  นิศา  หญิง แล้วก็น้ำใสด้วยนะ”  เอกทักทายเพื่อนด้วยน้ำเสียงแจ่มใสแต่ยังมีอาการเหนื่อยและหอบปนอยู่อย่างเห็นได้ชัด
“มาสายนะแกไอ้เอก”   หญิงทักกลับแต่ปนด้วยน้ำเสียงตำหนิ
“แหมหญิงมาสายก็ยังดีกว่าไม่มานะจริงมั้ยเอก”  น้ำใสเข้าข้าง เอกพยักหน้าคล้อยตาม
“เอก ทำไมมาสายล่ะ ปกติเอกไม่เคยมาสายขนาดนี้นี่นา ”  นิศาถามด้วยความเป็นห่วง
“เออ...คือว่า...เมื่อวานเราได้ยินนิศาพูดว่าปาท่องโก๋ร้านเจ๊แมวอร่อยแล้วนิศาก็ชอบกินมากๆด้วย เราก็เลย...เออ...คือ...ไปยืนรอหน้าร้านเจ๊แมวตั้งแต่เช้าเพื่อจะไปซื้อปาท่องโก๋มาให้นิศา  นี่ไงปาท่องโก๋ที่นิศาชอบ”
เอกพูดพลางยื่นถุงปาท่องโก๋ให้นิศาอย่างเขิน เขิน
“นี่อย่าบอกนะเอกว่านายลงทุนไปถึงร้านเจ๊แมวทั้งทั้งที่ร้านเจ๊แมวเนี้ยอยู่คนละทางกะบ้านนายแถมยังไปตั้งแต่เช้าอีกเพื่อจะไปซื้อปาท่องโก๋มาให้ยายนิศากินเนี้ยนะ”  หญิงพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“จริงสิ”  เอกตอบ
“เอก นิขอบใจเอกมากนะแต่ว่า... เอกไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยนะคือว่า...นิเกรงใจคราวหลังเอกอย่าทำอะไรแบบนี้อีกนะ”  นิศาพูดอย่างซึ้งใจ
“เพื่อนิศาเอกทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วก็เอกรัก...เอ่อ...คือ...คือว่า...เอกหมายถึง...ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นาเพื่อนกันเรื่องแค่นี้เล็กน้อยน่าอย่าคิดมากเลยนะมากินปาท่องโก๋โคตรอร่อยกันดีกว่านะ”
เอกพูดตะกุดตะกัดราวกับว่ามีความลับอะไรช่อนอยู่ นิศา กับ หญิงก็นั่งกินปาท่องโก๋กันอย่างเอร็ดอร่อยโดยที่ไม่มีใครได้สังเกตเห็นว่า น้ำใส นั่งหน้าเศร้าอยู่ ที่จริงแล้วเอกแอบรักนิศามาตั้งนานแล้ว แต่เขาไม่กล้าที่จะบอกให้นิศาหรือใครใครได้รู้ว่าเขาชอบเธอมากแค่ไหน  เขาได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไว้ภายในใจของเขา  เขาทำได้เพียงคอยดูแลคอยทำสิ่งที่ดีดีเพื่อนิศาอยู่เสมอ โดยที่ตัวของนิศาเองก็ไม่รู้ตัวเองเลยว่าเอกคิดกับเธออย่างไร  เธอรู้แต่เพียงว่าเอกเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่ดีมาก  มีแต่น้ำใสคนเดียวเท่านั้นที่พอจะมองออกว่าเอกคิดอย่างไรกับนิศา แต่เอกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้ำใสรู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับนิศา  และที่ยิ่งไปกว่านั้นเอกไม่เคยรู้เลยว่าน้ำใสเองก็แอบรักเขาเหมือนกันแต่น้ำใสรู้ดีว่าเอกคิดกับเธอเพียงแค่เพื่อนเท่านั้น  และที่สำคัญเอกก็รักนิศามากเธอจึงได้แต่แอบรักเขาเพียงข้างเดียวโดยที่ไม่บอกให้ใครได้รับรู้เช่นกัน
 
ในห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5 ทันทีที่อาจารย์เดินเข้ามาในห้องเรียน  นักเรียนภายในห้องต่างนั่งกันอย่างสงบเรียบร้อย  เนตรดาวเดินตามหลังอาจารย์มาอย่างกระชั้นชิด เมื่ออาจารย์เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าชั้นเรียนเนตรดาวก็หยุดเดินและยื่นอยู่ใกล้ๆกับอาจารย์  นักเรียนในห้องต่างมองดูเนตรดาวอย่างสนใจและอยากรู้ว่าเนตรดาวเป็นใครและมาทำอะไรที่นี่
“นักเรียนทุกคนค่ะ วันนี้อาจารย์มีนักเรียนใหม่จะมาแนะนำให้พวกเราได้รู้จักกันนะ เธอจะเข้ามาเรียนที่นี่วันนี้เป็นวันแรก นักเรียนทุกคนตรบมือต้อนรับเพื่อนหน่อยเร็ว  ”
 อาจารย์พูดจบก็ตรบมือนำ นักเรียนในห้องก็ตรบมือตามอาจารย์ นักเรียนบางคนกระซุบกระซิบพูดคุยถึงสมาชิกใหม่ในห้องเรียนกันอย่างตื่นเต้น โดยแฉพาะนักเรียนชายที่ดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะมีนักเรียนหญิงคนใหม่เข้ามาเรียนในห้องนี้
“พอกันก่อนนะค่ะนักเรียน เดี๋ยวเรามาลองฟังเสียงเพื่อนคนใหม่กันดีกว่ามั้ยค่ะ เนตรดาวพูดอะไรหน่อยสิจ๊ะ”
อาจารย์พูดขัดจังหวะเมื่อเห็นนักเรียนในห้องพูดคุยกันถึงสมาชิกใหม่ในห้องอย่างเสียงดัง
“สวัสดีค่ะ  เพื่อนๆทุกคน ชื่อเนตรดาวนะค่ะ เรียกเนตรอย่างเดียวก็ได้ค่ะ”  เนตรดาวไม่ทันได้พูดอะไรต่อนักเรียนชายในห้องคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้น
“เรียกที่รักแทนได้มั้ยคับ ไม่ทราบว่ามีแฟนรึยังเอ่ย”  เมื่อนักเรียนชายคนนั้นพูดจบเพื่อนๆในห้องต่างก็โห่เสียงดังลั่นจนเนตรดาวแก้มแดงก่ำ
“พอกันก่อนนะค่ะนักเรียน เดี๋ยวใครมีคำถามหรืออยากคุยอะไรกับเพื่อนใหม่เอาไว้ค่อยคุยกันนอกรอบแล้วกันนะ  เนตรดาวเดี๋ยวไปนั่งใกล้ๆ แพทกับหวานตรงโน้นนะจ๊ะ นักเรียนดูแลเพื่อนด้วยนะ”  อาจารย์พูดพลางชี้ไปที่โต๊ะเรียนที่ว่างอยู่ซึ่งอยู่ใกล้กับโต๊ะเรียนของแพทและหวาน เนตรดาวเดินไปนั่งที่โต๊ะเรียน สายตาของนักเรียนทุกคนในห้องต่างมองดูเนตรดาวอย่างไม่กระพริบตา
“สวัสดีจ๊ะเนตรดาวเราชื่อแพทนะ ส่วนนี่หวานเราสองคนเป็นเพื่อนกันจ๊ะ”  แพทแนะนำตัวส่วนหวานก็ยิ้มให้เนตรดาวอย่างเป็นมิตร
“ยินดีที่ได้รู้จักนะแพท  หวาน ”  เนตรดาวพูดพลางยื่นมือไปจับมือแพทและมือหวานตามลำดับ 
ที่โรงอาหารนิศา หญิง  น้ำใส  และเอก กำลังรับประทานอาหารกันอยู่ทั้งสี่คนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานนิศาเหลือบไปเห็นภูผานั่งรับประทานอาหารอยู่คนเดียวที่โต๊ะอาหารซึ่งอยู่ถัดออกไปตรงหน้าโต๊ะของนิศาประมาณ 4-5 โต๊ะ
“เดี๋ยวนิมานะ”  นิศาพูดจบก็ถือจานข้าวและแก้วน้ำเดินไปนั่งที่โต๊ะเดียวกับภูผา หญิง  น้ำใส และเอกต่างมองตามด้วยความมึนงงปนสงสัย
“สวัสดีค่ะพี่ภู”  นิศาพูดทันทีที่นั่งลง เธอยิ้มให้ภูผาอย่างอ่อนโยนภูผามองหน้าเธอแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปรับประทานอาหารต่อ  โดยไม่สนใจว่านิศานั่งมองดูเขาอยู่ นิศาหน้าเจื่อนก่อนจะพูดต่อ
“มาเรียนวันแรกเป็นไงบ้างค่ะพี่ภู”   นิศาพูดต่อแต่ภูผาก็ยังรับประทานอาหารต่อไม่สนใจนิศาแม้แต่น้อยเขาทำราวกับว่านิศาไม่มีตัวตน  นิศาหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดเธอได้แต่นั่งมองภูผา และไม่ได้พูดอะไรต่อจนเวลาผ่านไปประมาณสัก 2 นาทีเมื่อภูผารับประทานอาหารเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นเดินไปอย่างไม่สนใจนิศาแม่แต่น้อย
“พะ...พี่ภูเดี๋ยวค่ะ”   นิศาตะโกนเรียกเขาแต่ภูผาก็ไม่หันมามองเธอเลย นิศาหน้าเศร้าเธอถือจานข้าวและแก้วน้ำเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของเธอซึ่งมี  หญิง  น้ำใส  และเอก  ซึ่งนั่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตั้งแต่ต้นด้วยความสงสัยและอยากรู้
“ใครเหรอนิ ทำไมนิต้องไปนั่งโต๊ะเดียวกับเค้า”   เอกถามด้วยความอยากรู้แต่ก็มีอารมณ์หึงปนอยู่ด้วย ทำให้น้ำใสซึ่งนั่งมองอยู่อดที่จะเศร้าไม่ได้ที่เห็นเอกสนใจนิศาถึงเพียงนี้  นิศาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนฟังว่า
ภูผาเป็นใครมีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอบ้าง  ในขณะเดียวกันเนตรดาวซึ่งนั่งรับประทานอาหารอยู่กับแพท และหวานซึ่งเธอเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นที่นิศาเดินไปหาภูผา  เธอแสยะยิ้มอย่างอดที่จะหมันไส้นิศาไม่ได้
ถึงเวลาเลิกเรียนนายโชคคนขับรถอีกคนของบ้านนิศามารอรับนิศาหน้าประตูโรงเรียน  ไม่นานนิศาก็เดินออกมาจากโรงเรียน
“อ้าว  น้าโชคสวัสดีค่ะ”  นิศาสวัสดีนายโชคทันทีที่เธอเห็นนายโชคมารอรับเธอ
“สวัสดีครับคุณหนู  แล้วคุณภูผากับคุณเนตรดาวล่ะครับ ”  นายโชคทักทายนิศากลับพร้อมถามถึง ภูผา และ เนตรดาว
“นิก็ยังไม่เห็นพี่ภูกับพี่เนตรเลยค่ะแต่นิว่าเดี๋ยวก็คงจะมากันมั้งค่ะ”  นิศาตอบพลางกวาดสายตามองเข้าไปภายในบริเวณโรงเรียนเพื่อมองหาภูผาและเนตรดาว
“ผมว่าคุณหนูไปนั่งรอในรถก่อนดีกว่ามั้ยครับข้างนอกอากาศร้อนเดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้นะครับ”  นายโชคถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรค่ะน้าโชคนิว่านิยืนรออยู่ตรงนี้ดีกว่าค่ะขอบคุณมากนะค่ะน้าโชคที่เป็นห่วงนิ”  นิศาตอบพลางสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นเนตรดาวกำลังเดินมา
“นั้นไงค่ะน้าโชคพี่เนตรมาแล้ว”  นิศาพูดพลางชี้ให้นายโชคมองเนตรดาวที่กำลังเดินมาพร้อมกับแพทและหวานทันทีที่เนตรดาวเห็นนิศาเธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  เมื่อมาถึงบริเวณหน้าประตูโรงเรียนหวานและแพทก็ต่างแยกย้ายกันกลับไปคนละทาง คงเหลือแต่เพียงเนตรดาวเท่านั้นที่เเดินมาจวนจะถึงบริเวณรถที่นิศาและนายโชคยืนรออยู่เธอแสร้งปั้นหน้ายิ้มทั้งๆที่ในใจเธอรู้สึกราวกับจะกินเลือดกินเนื้อนิศาก็ไม่ปาน
“เลิกเรียนเร็วจังนะนิศา”  เนตรดาวแสร้งทำเป็นพูดดีกับนิศา
“เนตรก็เพิ่งเลิกเมื่อกี้นี้เองค่ะพี่เนตร ว่าแต่พี่ภูล่ะค่ะเนตรยังไม่เห็นพี่ภูเลย”  นิศาตอบพร้อมถามถึงภูผาด้วยความเป็นห่วง
“พี่ก็ไม่เห็นเหมือนกันนะแต่ช่างเค้าเถอะเรากลับกันก่อนก็ได้” เนตรดาวตอบ
“แต่พี่ภูยังไม่มาเลยนะค่ะพี่เนตร นิว่าเรารอพี่ภูกันก่อนดีกว่านะค่ะ”  นิศาไม่เห็นด้วยที่เนตรดาวจะทิ้งให้ภูผากลับบ้านเพียงลำพัง
“ใช่ครับผมว่าเราน่าจะรอคุณภูผากันก่อนนะครับ”  นายโชคแสดงความคิดเห็นแต่ไม่ทันสิ้นเสียงของนายโชคเนตรดาวก็สวนกลับด้วยความโมโห
“ใครถามแกไอ้ขี้ข้าแส่มาออกความเห็น”   เนตรดาวหันไปต่อว่านายโชคด้วยน้ำเสียงดุดัน ทำให้นายโชคถึงกลับหน้าเปลี่ยนสีและกล่าวคำขอโทษเนตรดาวทันที  นิศาซึ่งเห็นเหตุการณ์อยู่ตลอดเธอแทบจะไม่เชื่อหูและสายตาของตัวเธอเองที่เนตรดาวจะโมโหร้ายได้ถึงขนาดนี้
“พี่เนตรค่ะอย่าว่าน้าโชคเลยนะค่ะน้าโชคก็แค่หวังดีนะค่ะถึงได้พูดออกไปแบบนั้น”  นิศาพูดทำให้นายโชครู้สึกซาบซึ้งใจที่นิศาไม่ว่าอะไรเขาเหมือนเนตรดาว  เนตรดาวได้ฟังดังนั้นเธอเกือบจะกลั้นอารมณ์ของความโกรธเอาไว้ไม่อยู่  เธออยากจะตรงเข้าไปตบหน้านิศาแต่เธอก็ต้องอดกลั้นเอาไว้  เธอแสร้งทำเป็นรู้สึกผิด
“เนตรขอโทษนะค่ะน้าโชค  พี่ขอโทษนะจ๊ะนิศาคือพี่คงเครียดไปหน่อยอย่าถือสาเลยนะ”  เนตรดาวทำเป็นพูดอย่างรู้สึกผิดทั้งๆที่ในใจเธอไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย
“ไม่เป็นไรครับคุณเนตร”  นายโชครู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ยินคำขอโทษของเนตรดาว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่เนตร”  นิศาตอบอย่างเข้าใจ เธอคิดว่าเนตรดาวอาจจะเครียดเรื่องเรียนถึงได้ระบายออกมาแบบนั้น  ทั้งสามคนยืนรอภูผาอยู่ที่รถเนตรดาวโทรศัพท์หาภูผาแล้ว  แต่เขาก็ไม่ยอมรับสายจนนิศาอาสาที่จะเข้าไปตามหาภูผาภายในโรงเรียน  เมื่อนิศาเข้าไปในโรงเรียนเนตรดาวนึกแผนการที่จะแกล้งนิศาได้เธอจึงแกล้งทำเป็นปวดท้องอย่างหนัก แล้วสั่งให้นายโชคพาเธอไปโรงพยาบาล  แต่นายโชคบอกว่าถ้าเกิดไปตอนนี้นิศากับถูผาจะกลับบ้านกันอย่างไร เนตรดาวจึงแกล้งปวดท้องหนักขึ้นอีกเธอบอกว่าให้นายโชคไปส่งเธอที่โรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยกลับมารับนิศากับภูผาก็ได้  นายโชคจึงจำใจต้องยอมขับรถไปส่งเนตรดาวที่โรงพยาบาล
 
ภูผานั่งอยู่เพียงลำพังตรงโต๊ะไม้หินอ่อนภายในโรงเรียน  รอบรอบตัวของเขาถึงแม่จะมีผู้คนเดินไปมาอยู่บ้างแต่ก็ถือว่าน้อยมาก  เพราะว่าช่วงเวลานี้เลยเวลาเลิกเรียนมานานมากแล้ว    แต่ภูผาก็ยังคงนั่งนิ่งๆเขาไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบรอบตัวของเขาเลยแม้แต่น้อย   รวมถึงเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเมื่อครั้งที่เนตรดาวโทรมาก็ตาม  แต่เขาก็ไม่ได้สนใจที่จะรับสาย  สายตาของเขาที่เหม่อมองไปไกลรวมถึงแววตาคู่นั้นที่ดูเศร้าสร้อย  ดูเหมือนว่าเขากำลังมีอะไรอยู่ภายในจิตใจ  เขาไม่รู้ตัวว่านั่งอยู่ตรงนี้เป็นเวลานานเท่าไหร่แล้ว  และก็ไม่รู้ว่าจะนั่งอยู่จนถึงเมื่อไหร่  จู่จู่เขาก็ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายมาแต่ไกล  เสียงนั้นค่อยๆดังใกล้เข้ามาหาเขาเรื่อยๆ   ภูผาหันไปทางต้นตอของเสียงตามสัญชาตญาณ  เขาเห็นนักเรียนชาย  2  คนกำลังโดนกลุ่มนักเรียนชายรุ่นราวคราวเดียวกันประมาณ  8-10 คน รุ่มทำร้าย  เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นและใครเป็นฝ่ายผิด แต่เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นกลุ่มคนซึ่งมีจำนวนมากกว่ามาทำร้ายคนกลุ่มน้อยเขาจึงเดินตรงไปยังกลุ่มคนกลุ่มนั้นเพื่อหวังจะช่วยนักเรียนชายที่โดนทำร้าย
“มีพวกเยอะกว่าแล้วคิดจะรังแกใครก็ได้งั้นเหรอ อย่างนี้เค้าเรียกว่าหมาหมู่นะ”   ภูผาตะโกนลั่นอย่างไม่พอใจที่เห็นพฤติกรรมของนักเรียนกลุ่มนั้น  นักเรียนกลุ่มนั้นหยุดทำร้ายนักเรียนชาย  2  คน  แล้วหันมาทางภูผาแทนพวกเขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากหนึ่งในนักเรียนชายกลุ่มนั้นจึงตะโกนขึ้น
“แล้วมันธุระกงการอะไรของแกว่ะถึงมาแส่  อ้อฉันรู้แล้วหรือว่า  แกอย่างจะมีเรื่องอีกคนหนึ่งหา”  นักเรียนชายคนนั้นตะโกนขึ้นด้วยความไม่พอใจ 
“อันที่จริงมันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉันหรอกนะแต่มันทนไม่ได้ที่เห็นพวกหมาหมู่แบบนี้ว่ะ”
ภูผาย้อนทำให้นักเรียนชายในกลุ่มคนหนึ่งทนไม่ไหววิ่งเขามาหาภูผาเพื่อหวังจะชกหน้าเขาแต่ภูผาหลบทันเสียก่อนจึงไม่โดนชก  ภูผาตั้งตัวได้เขาจึงชกนักเรียนชายคนนั้นจนหงายหลัง เพื่อนๆในกลุ่มของนักเรียนชายคนนั้นทั้งหมดจึงตรงเข้ามาหวังจะทำร้ายภูผา  นักเรียนชาย  2  คนซึ่งโดนทำร้ายก่อนหน้านี้จึงวิ่งตรงเข้าไปช่วยภูผา  ทั้งหมดจึงตะลุมบอนกัน 
 
อีกฟากหนึ่งนิศายังคงเดินตามหาภูผาอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ภายในโรงเรียนเธอรู้สึกไม่ดีและเป็นห่วง
ภูผาเป็นอย่างมากที่เขาหายไปอย่างนี้
“พี่ภูอยู่ที่ไหนนะ  หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับพี่  นิศาเป็นห่วงพี่มากรู้มั้ย”  นิศาบ่นพึมพำอยู่คนเดียว จู่จู่เธอก็ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายเธอจึงรีบวิ่งไปทางเสียงนั้น  เมื่อเธอมาถึงต้นตอของเสียง เธอแทบจะช็อกเมื่อภาพที่เธอเห็นคือภาพของภูผาที่กำลังโดนทำร้าย  ภูผาโดนชกจนล้มลงนักเรียนชายกลุ่มนั้นกำลังจะตรงเข้าไปซ้ำภูผา  นิศารีบรวบรวมสติก่อนที่เธอจะตรงเข้าไปขวางนักเรียนชายกลุ่มนั้น
“อย่าทำอะไรพี่ภูนะ”  นิศาพูดเสียงสั่นพลางกางมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นเพื่อกำบังภูผาไว้  ภูผารวมถึงนักเรียนชายทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้นหันมามองทางนิศาเป็นตาเดียวกัน  ภูผารู้สึกซึ้งใจที่นิศายอมทำเพื่อเขาถึงเพียงนี้ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วเขาและเธอไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆ เป็นเพียงแค่พี่น้องต่างสายเลือดเท่านั้น  “นิศาขอร้องอย่าทำอะไรพี่ภูเลยนะค่ะ”  นิศาพูดต่อหลังจากที่เธอเงียบไปนาน
“ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงถ้าไม่อยากเจอดีถอยไป”  หนึ่งในนักเรียนชายกลุ่มนั้นพูดขึ้น
“แต่พี่ภูเป็นพี่ชายของนิศาไม่ให้นิศายุ่งนิศาคงทำไม่ได้  พี่ภูเจ็บนิศาก็รู้สึกเจ็บเหมือนกัน”  นิศาพูดในขณะที่น้ำตาของเธอคลอเบ้า  ภูผาถึงกับอึ้งที่ได้ยินนิศาพูดแบบนี้เขาไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะมีใครเป็นห่วงเขาได้ถึงเพียงนี้  นักเรียนชายคนหนึ่งในกลุ่มคิดว่าคงพูดไม่รู้เรื่องแน่ๆ จึงตรงเข้าไปผลักนิศาจนเธอล้มลง  ภูผาเห็นเช่นนั้นเขารู้สึกแค้นนักเรียนชายคนนั้นมากที่ทำกับนิศาแบบนั้น  เขาจึงรวบรวมเรี่ยวแรงของตัวเองทั้งหมดที่พอจะมีเหลืออยู่พยายามพยุงตัวให้ลุกขึ้นทั้งๆ ที่ร่างกายของเขาในตอนนี้บอบช้ำมากแล้วจากการโดนทำร้าย   ทันทีที่เขาลุกขึ้นยืนได้เขารีบตรงเข้าไปชกหน้านักเรียนชายที่ทำร้ายนิศาทันทีด้วยความโกรธ  เพื่อนของนักเรียนชายคนนั้นทั้งหมดจึงตรงเข้ามาทำร้ายภูผาจนภูผาล้มลงไปนอนราบกับพื้น  พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนผ่านมาเห็นเหตุการณ์จึงตะโกนห้าม  นักเรียนกลุ่มนั้นตกใจจึงวิ่งหนีกระจัดกระจายกันไปคนละทางโดยที่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนวิ่งตามไล่จับไปอย่างกระชั้นชิด   คงเหลือแต่ภูผา  นิศา  และนักเรียนชายทั้ง  2  คนที่โดนทำร้าย ยังอยู่ที่เดิมไม่ได้วิ่งหนีไปไหน  นิศาซึ่งล้มอยู่เธอค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินไปหาภูผาซึ่งนอนอยู่บนพื้นโดยที่นักเรียนชาย  2   คนก็นั่งมองอยู่  ทั่วทั้งตัวของ
ภูผามีแต่บาดแผลเขาดูบอบช้ำมาก  นิศากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เธอจึงปล่อยโฮออกมาเพราะความสงสารภูผา
 
“พี่ภู พี่เจ็บมากมั้ย”  นิศาพูดทั้งๆ ที่ยังร้องไห้อยู่เธอค่อยๆ พยุงร่างของภูผาที่นอนราบอยู่กับพื้นให้นั่งลงซึ่งตอนนี้ภูผากำลังอยู่ในอ้อมกอดของนิศา  เขาและเธอสบตากัน  โดยที่มีนักเรียนชายทั้ง  2  คนมองดูอย่างซึ้งใจ
“พวกเราทั้งสองต้องขอบใจนายมากนะภูผาที่มาช่วยพวกเรา”  หนึ่งในนักเรียนสองคนนั้นพูดขึ้น
“พวกนายรู้จักชื่อฉันได้ยังไง”  ภูผาถามด้วยความสงสัย
“ ก็วันนี้ไงตอนที่นายออกไปแนะนำตัวหน้าชั้นเรียนพวกเราสองคนก็เลยรู้จักนาย ดูสิมาเรียนวันแรกก็ต้องมาเจ็บตัว”  นักเรียนชายคนเดิมพูด
“นี้หมายความว่าพวกนายทั้งสองคนเรียนอยู่ห้องเดียวกับฉัน”  ภูผาถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ  นักเรียนชาย  ทั้งสองคนพยักหน้าพร้อมกันแทนคำตอบว่าใช่  นิศานั่งฟังทั้งสามคนคุยกันโดยที่ภูผายังอยู่ในอ้อมกอดของเธอแต่น้ำตาของนิศาก็ยังไม่หยุดไหล
“ฉันชื่อชาย ”  ชายแนะนำ
“ส่วนฉันชื่อพีนะ  ขอโทษนายจริงๆนะ ภูผาที่ทำให้นายต้องมาต้องเจอเรื่องแบบนี้  ไอ้พวกนั้นมันเที่ยวหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว  แค่ฉันเผลอเดินไปชนมัน  พวกมันก็ยกพวกมาตะลุมบอนพวกฉันแล้ว  พวกมันถือว่ามีพวกเยอะกว่าก็เลยคิดว่าจะทำอะไรกับใครก็ได้”  พีพูดอย่างอดที่จะโมโหไม่ได้
“ไม่เป็นอะไรหรอกเรื่องแค่นี้เอง” ภูผาตอบ 
“พี่ภูนิว่าไปหาหมอก่อนดีกว่านะ  ดูสิพี่เป็นแผลช้ำไปหมดทั้งตัวแล้ว”   นิศาพูดโดยที่ยังร้องไห้อยู่เธอค่อยๆ พยุงตัวของภูผาให้ลุกขึ้นยืน  โดยที่มีชายและพีมองดูอยู่  ชายดูจะสนใจนิศาเป็นพิเศษดูเหมือนว่าเขาจะชอบเธอตั้งแต่แรกเห็นซะแล้ว   นิศาพยุงตัวภูผาให้ค่อยๆ เดินมาที่หน้าประตูโรงเรียน โดยที่มีชายและพีเดินมาด้วย เมื่อมาถึงหน้าประตูโรงเรียนนิศาก็ต้องตกใจเมื่อเธอไม่เห็นเนตรดาวและนายโชครออยู่เธอคิดว่าทั้งสองคงกลับกันไปก่อนแล้วโดยที่ไม่รอเธอและภูผา  เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรหานายโชคแต่แบตโทรศัพท์ของเธอหมด  เธอจึงขอยืมโทรศัพท์ภูผาแต่ว่าแบตโทรศัพท์ของภูผาก็หมดเช่นกัน
“พี่ภูเราจะทำยังไงกันดีค่ะ  น้าโชคกับพี่เนตรกลับกันไปแล้ว  แล้วเนตรจะพาพี่ไปหาหมอได้ยังไง”  นิศาพูดอย่างกังวนใจ 
“เอาอย่างนี้ดีมั้ยเดี๋ยวฉันโทรให้คนขับรถที่บ้านฉันมารับเดี๋ยวฉันไปส่งนายเองขอให้ฉันได้ตอบแทนนายบ้างนะนายภู”   ชายพูด
“ขอบใจนะ”  ภูผาขอบใจชาย  ทั้ง  4  คนนั่งรอรถกันอยู่หน้าประตูโรงเรียน   นิศาหยิบผ้าเช็ดหน้าของเธอมาพันตรงข้อมือของภูผาซึ่งมีเลือดออก  ภูผารู้สึกดีกับนิศามากที่เธอทำอะไรๆให้เขาอย่างนี้แต่เขาก็ไม่กล้าแสดงออกให้นิศารู้ว่าเขารู้สึกเช่นไร  เขาได้แต่ทำหน้านิ่งเฉยราวกับว่าเขาไร้ซึ่งความรู้สึก  ในเวลาเดียวกันชายก็นั่งแอบมองนิศาอยู่ไม่ให้เธอรู้ตัวส่วนพีก็นั่งสำรวจดูแผลบริเวณร่างกายของเขา  เมื่อคนขับรถของบ้านชายมาชายก็สั่งให้คนขับรถพาพวกเขาทั้งสี่คนไปส่งที่โรงพยาบาล
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา