What is under the moonlight

6.8

เขียนโดย kang

วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 22.09 น.

  11 ตอน
  49 วิจารณ์
  19.84K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 13.30 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) คืนนรก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตลอดทั้งวันนั้น ทิมยังคงวางอำนาจอย่างเกินตัวเช่นเดิม ซึ่งในวันนี้ เสียงตวาดของเขาแทบจะดังอยู่ตลอดเวลา เพราะมีทหารหลายนายที่เผลอหลับยามด้วยความง่วงและความเหนื่อยล้า

จอห์นสันยืนจ้องมองผืนป่าเบื้องหน้าอย่างหมดสิ้นความหวัง ขณะที่ท้องฟ้าใกล้มือลงเต็มที

“มาร์คัส” จอห์นสันเรียกเพื่อนที่ยืนข้างๆเบาๆ

                “ว่าไง?”มาร์คัสตอบกลับ โดยที่สายตาของเขายังคงจ้องมองไปทางด้านหน้า

                “เราทำอะไรไม่ได้แล้วใช่มั้ย? อีกไม่นานก็มืดแล้ว” จอห์นสันพูดอย่างคนที่กำลังหมดสิ้นความหวัง

                “ถ้าจะให้พูดแบบตรงๆ  ใช่ อย่าคิดมาก จอห์นสัน เราพยายามแล้ว เราทำให้วิลเลี่ยมเชื่อเราได้ อย่างน้อยเราก็ทำสำเร็จเล็กน้อยล่ะ ”มาร์คัสตปลอบใจเพื่อนอย่างเข้าใจในความรู้สึกของเพื่อนของเขาดีเพราะเขาเองก็เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาแล้วเช่นกัน

เวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เวลาที่ทหารทั้งสามนายไม่ต้องการก็มาถึง

เมื่อจันทราเริ่มส่องแสงยามเต็มดวงบนฟากฟ้า ของสองอมนุษย์สองตนยืนจ้องมองดวงจันทร์ราวกับรอคอยเวลานี้มานาน แล้วการกลายร่างของพวกมันก็เริ่มต้นขึ้น ร่างกายของสองอมนุษย์เริ่มเปลี่ยนไปตามทีละขั้นๆ ขนยาวๆเริ่มงอกออกมาตามร่างกายของมัน ขาของพวกมันเริ่มเปลี่ยนรูปร่างจากขามนุษย์กลายเป็นขาของหมาป่า ลำตัวของพวกมันเริ่มมีก้ามเนื้อมกายิ่งขึ้น ใบหน้าของพวกมันเริ่มยื่นออกไปทางด้านหน้า จนกลายเป็นใบหน้าของหมาป่า ใบหูเริ่มมีปลายแหลมและชี้ขึ้นด้านบน   และไม่นานต่อมาการกลายร่างของพวกมันก็เสร็จสมบูรณ์ สองมนุษย์หมาป่าเงยหน้าขึ้นประสานเสียงหอนดังก้องไปทั่วทั้งผืนป่า สร้างความตกใจและชวนขนลุกให้แก่ทหารทั้งค่าย โดยเฉพาะ วิลเลี่ยม จอห์นสัน และมาร์คัส !                                                  เมื่อเสียงหอนเงียบหายไป พวกมันรีบวิ่งตรงไปยังสถานที่ที่พวกมันหมายตาเอาไว้เพื่อระบายความกระหายเลือดของพวกมันที่เพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ ซึ่งที่แห่งนั้นก็คือ สนามเพลาะ !

…………………….

“เสียงหอนของหมาบ้าอะไรวะ น่าขนลุกชะมัด?” ทหารนายหนึ่งที่กำลังนั่งยองๆอยู่บนพื้นโดยมีผ้าพันแผลพันรอบหน้าผากบ่นขึ้น หลังจากที่เสียงหอนของหมาป่านั่นเงียบหายไปได้เกือบครบหนึ่งชั่วโมง จากนั้นเขาจึงหันไปเขย่าตัวเพื่อนที่นั่งหลับอยู่ เพื่อปลุกเพื่อนที่เคยเป็นทหารที่ได้รับบาดเจ็บที่ถูกทิมบังคับให้ออกมาเฝ้ายามเหมือนกันตื่นขึ้นมา

                “เฮ้ย เอ็งน่ะ ตื่นได้แล้ว ถึงเวลาแกแล้ว” ทหารที่กำลังนั่งหลับเริ่มสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนเพื่อเฝ้าเวรต่อจากเพื่อน

                “ทิมมาแล้วรีบเรียกฉันด้วยนะเว้ย ขอนอนก่อนนะ” ทหารนายนั้นทิ้งตัวลงนั่งพิงขอบสนามเพลาะแล้วหลับตาลง

                “บ้าเอ้ย ง่วงชะมัด” ทหารที่เพิ่งตื่นนอนลุกขึ้นยืนหันหลังให้กับป่าแล้วขยี้ตาตัวเองที่ยังคงพร่ามัวจนมองอะไรไม่ชัด ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย

ทหารนายนั้นค่อยๆหันหลังกลับเพื่อเฝ้าแวร แล้วทันใดนั้น แม้ภาพที่เขาเห็นจะยังคงพร่ามัว แต่ด้วยบริเวณใกล้ๆสนามเพลาะที่เขาอยู่ ไม่มีต้นไม้บังแสงและคืนนี้ก็ไม่ได้มืดมากนัก ทำให้เขาสามารถมองอะไรได้ชัดเจน และภาพที่เขาเห็นลางๆก็คือ ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่มีกรงเล็บแหลมคม กำลังเหวี่ยงตรงเข้ามาที่ใบหน้าของเขา

 ทหารอีกคนนั้นขณะที่ขากำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทรา เขากลับเริ่มรู้สึกเหมือนมีใครเอาขามาเตะที่เอวของเขา จนเขาต้องยกมือขึ้นมือปัดด้วยความรำคาญแล้วบ่นเบาๆ                         

ขณะที่ทหารที่เพิ่งจะหลับตาลง เริ่มกำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทรา ทันดนั้นจู่ๆไดเมีน้ำเหนียวๆ สาดลงมาที่ใบหน้าของเขา จนเขาต้องรีบลืมตาขึ้นมา พร้อมกับที่เพื่อนของเขาทิ้งตัวลงมานอนลงบนตักของเขา

ทหารนายนั้นกัดฟันอย่างไม่พอใจ แล้วพูดออกมาด้วยอารมณ์โกรธ

                “ไอ้บ้าเอ้ย นี่มันน้ำอะไรของแกวะ.... ?” ทหารนายนั้นพูดเสียงดัง พร้อมกับที่เขายกมือซ้ายขึ้นลูบใบหน้าที่มีน้ำเหนียวๆติดอยู่ โดยใช้มือซขวาดันร่างของเพื่อนที่นอนคว่ำหน้าบนตักของเขาให้เงยหน้าขึ้นมา แต่ทันทีที่เขาเห็นฝ่ามือขวาของตัวเอง เขาก็ถึงกับตาค้างด้วยความตกใจ เพราะน้ำเหนียวๆที่เขาลูบออกมาจากใบหน้าของเขา มันคือ เลือด  เขารีบก้มลงมองดูร่างของเพื่อนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนตักของเขา และภาพที่เขาเห็นคือ ที่ใบหน้าของเพื่อนของเขา ได้มีบาดแผลเป็นรอยกรงเล็บสัตว์ข่วนลึกและยาวตั้งแต่ใบหูซ้ายมาจนถึงมุมปากขวา ทาหรนายนั้นรีบหันไปมองทางที่เพื่อนของเขาเคยยืนอยู่ และภาพที่เขาได้เห็นนั่นก็คือ หมาป่าขนาดหมึมา กำลังง้างฝ่ามือแล้วเหวี่ยงฝ่ามือขนาดใหญ่ของมัน ตรงมาเข้าที่ศีรษะของเขา ก่อนที่เขาจะได้ทันส่งเสียงร้องออกมา  และชั่ววินาทีต่อมา

‘โพล๊ะ’ เสียงของแข็งบางอย่างแตกกระจายดังแว่วในความเงียบ จนทำให้ทหารอีกสองนายที่เฝ้าอยู่อีกด้านของสนามเพลาะสะดุ้ง แล้วหันมาทางเสียงที่มา

                “เสียงอะไรกันวะนั่น” ทหารนายหนึ่งที่นั่งหลังพิงขอบสนามเพลาะถามลอยๆอย่างอดสงสัยไม่ได้

                “ช่างมันเหอะ ไอ้สองตัวนั่นคงทำปืนตกล่ะมั้ง” จิมที่นั่งอยู่ข้างๆตอบคู่เวรใหม่อย่างไม่สนใจ

                “ดัง โพล๊ะ เนี่ยนะ? ฉันว่า มันเหมือนลูกแตงโมแตกไม่มีผิด” ทหารอีกนายถามกลับมาอีกครั้งอย่างสงสัย

                “จะสงสัยอะไรนักเล่า อยากรู้นักก็เดินไปถามพวกมันเลยมั้ยล่ะ” จิมตอบกลับไปอย่างรำคาญและเบื่อหน่าย

เมื่อทหารนายนั้นได้รู้ว่า เพื่อนของเขาเริ่มเกิดความรำคาฐ เขาจึงไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก นอกจากทำหน้าเบ้แล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบ แล้วพยายามค้นหาไฟแช็ค แต่กลับหาไม่พบ เขาจึงหันไปมองหน้าจิมอย่างเป็นวัญญาณอันรู้กันดี

จิมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วควักซองบุหรี่ออกมา จากนั้นเขาจึงหยิบบุหรี่ออกมาคาบ แล้วหยิบกล่องไม้ขีดไฟขึ้นมาแล้ว จุดไม้ขีดขึ้นมาหนึ่งก้าน แต่ทันใดนั้นไฟที่ไม้ขีดก็ดับลงด้วยลมบางอย่างคล้ายลมหายใจแรงๆ

ทหารทั้งสองมองหน้ากันอย่างสงสัยแล้วรีบพลิกตัวมานั่งอีกด้านหนึ่งของสนามเพลาะแล้วหยิบไฟฉายที่คาดที่เอวขึ้นมาส่องไปยังที่มาของลมหายใจนั้น และภาพที่พวกเขาเห็นคือ หมาป่าตาบอดขนสีน้ำตาล ขนาดมหึมา กำลังเหวี่ยงมือที่มีกรงเล็บแหลมยาวตรงเข้า แล้วข่วนเข้าที่ใบหน้าของทหารที่นั่งข้างๆจิมอย่างแรง จนทหารนายนั้นตัวลอยละลิ่ว  เลือดสดๆไหลทะลักออกมาตามแผล จนร่างทหารนายนั้นพุ่งชนเข้ากับขอบสนามแล้วล่วงลงนอนนิ่งทันที จิมจึงได้สติขึ้นมา เขาส่งเสียงร้องดังลั่นด้วยความตกใจ แล้วยกปืนขึ้นมา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ยิงออกไป ฝ่ามือขนาดใหญ่ของมนุษย์หมาป่าตนนั้นก็พุ่งเข้ามาตบเข้าที่ศีรษะของจิมอย่างแรง จนศีรษะของเขาหลุดกระเด็นออกจากบ่า เลือดสีแดงฉานสาดไปทั่วบริเวณนั้นพร้อมกับที่ร่างของจิมล้มลง                                                                                                                

....................................

หลังจากที่เสียงร้องของจิมทเงียบหายไปได้ไม่นาน ทิมและทหารนายอื่นๆต่างรีบวิ่งมาที่เกิดเสียง และได้พบกับภาพอันน่าสยดสยอง จนทหารบางนายต้องรีบเบือนหน้าหนี

                “ใครทำกันวะเนี่ย!” ทิมพูดออกมาด้วบใบหน้าที่แสดงถึงความตกใจไม่น้อย

                “ทิม ตรงนี้ก็ด้วย!” เสียงทหารนายหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับที่ทิมและทหารนายอื่นๆวิ่งตรงยังอีกมุมของสนามเพลาะ ยกเว้นมาร์คัส จอห์นสัน และวิลเลี่ยมที่ได้แต่ยืนมองหน้ากันไปมาใบหน้าที่กังวลไม่น้อย                   

“ให้ตายสิวะ ทุกคนฟัง แยกย้ายกันตามหาไอ้ตัวต้นเหตุ เจอเมื่อไหร่ฆ่ามันได้เลย” ทิมตะโกนสั่งการณ์เสียงดัง พร้อมกับที่ทหารทั้งสามนายถึงกับตาโตด้วยความตกใจ ทันใดนั้นมาร์คัสรีบวิ่งไปเข้าหาทิม ก่อนที่ทหารนสยอ่านๆจะแยกย้ายกันออกไป

                “ทิม อย่า ขอล่ะ คืนนี้พวกเราต้องรวมตัวกันไว้จนกว่าจะเช้า แล้วพรุ่งนี้เราต้องรีบไปจากที่นี่”มาร์คัสรีบพูดรัวเร็วเพื่อพยายามห้ามปราม แต่ทิมกลับหัวเราะใส่เขา

                “เฮ้ย พวกเอ็งเสียสติแล้วอย่าพาคนอื่นซวยได้มั้ย รวมกันเหรอ มันจะได้ฆ่าพวกเราทีเดียวทุกคนเลยใช่มั้ยหา?     คืนนี้จันทร์เต็มดวง มนุษย์หมาป่าของพวกแกสินะ น่าขำหว่ะ คิดว่าคนเขาจะเชื่อเรื่องโกหกปัญญาอ่อนรึยังไงวะ ไปตายซะไป” ทิมตวาดใส่มาร์คัส พร้อมกับที่เขาและทหารอีกสองนายต่างจ้องมองมายังทหารทั้งสามที่พยายามจะช่วยชีวิตของพวกเขา ราวกับทหารทั้งสามนายนั้นเป็นตัวประหลาด จากนั้นทหารนายอื่นๆต่างแยกย้ายไปทำตามคำสั่งกันเป็นคู่ๆ

                “วิลเลี่ยม มานี่!” ทหารที่ได้รับบาดเจ็บนายหนึ่งตะโกนเรียกวิลเลี่ยม ราวกับเรียกตัวประหลาดโดยไม่ได้คิดเลยว่าในยามที่เขาได้รับบาดเจ็บ วิลเลี่ยมคือคนที่ช่วยชีวิตและคอยดูแลเขา

หลังจากที่ทหารนายอื่นๆแยกย้ายกันไปหมดแล้ว จอห์นสันถึงเอ่ยขึ้นมาอย่างเอาจริงเอาจัง

“ไปตามล่า พวกมันกันเถอะ”

เมื่อจอห์นสันพูดจบ ทหารทั้งนายต่างรีบพากันออกเดินเพื่อตามล่าหาตัวมนุษย์หมาป่าทั้งสองตนนั้นให้เจอก่อนที่พวกมันจะลงมือสังหารใครอีก ซึ่งในตอนนี้ได้มีทหารที่ยังคงรอดชีวิตอยู่เพียง 6 นายเท่านั้น

……………………………..

วิลเลี่ยมเดินอย่างระมัดระวังตามหลัง ทหารที่ได้รับบาดเจ็บมาติดๆ ทหารนายนั้นคอยแอบชำเลืองมิงวิลเลี่ยมอยู่บ่อยครั้งและไม่นานนักทหารนายนั้นก็เริ่มพูดขึ้น

                “วิลเลี่ยม ถามหน่อยเถอะ นายเชื่อไอ้สองตัวนั้นลงได้ยังไง? มนุษย์หมาป่าไร้สาระสิ้นดี ไม่เคยคิดเลยนะ นายจะไร้สาระไปกับสูงผิวดำกับไอ้สูงผิวขาวนั้นได้”

                หลังจากที่ทหารนายนั้นพูดจบ วิลเลี่ยมไม่ตอบอะไรกลับไป เขาเดินตามหลังทหารนายนั้นต่อไปอย่างเงียบๆแต่ทันใดนั้นเอง

 ‘ปัง..ปัง..ปัง..ปัง..ปัง” เสียงปืนไรเฟิลได้ดังขึ้นอย่างติดๆกัน ราวกับคนที่ยิงออกไปด้วยความตกใจ

                “อะไรวะ !”ทหารที่ได้รับบาดเจ็บรีบวิ่งออกไปทางด้านหน้าทันที

                “เดี่ยว อย่าเพิ่ง อย่า” วิลเลี่ยมพยายามตะโกนห้ามทหารนายนั้น แต่กลับไร้ประโยชน์ ทหารนายนั้นยังคงออกวิ่งต่อไปราวกับไม่ได้ยินเสียงตะโกนห้ามของเขา

  วิลเลี่ยมส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ แล้วรีบวิ่งตามทหารนายนั้นไป โดยที่เสียงปืนไรเฟิลเงียบไปแล้ว

เมื่อวิลเลี่ยมและทหารที่ได้รับบาดเจ็บวิ่งมาจนถึงทางเลี้ยวของสนามเพลาะ พวกเขาได้เห็นทหารคนหนึ่งนอนแน่นิ่งจมกองเลือด โดยมีหมาป่าขนาดหมึมากำลังนั่งยองๆอยู่ข้างๆ ซึ่งมันกำลังใช้ปากกัดเข้าที่ซอกคอของทิมกำลังสั่นระริกอยู่ และวินาทีนั้น มนุษย์หมาป่าตนนั้นได้กระชากปากที่กัดซอกคอของทิมออกมาอย่างแรง จนคอของทิมขาดหายไปเกือบครึ่ง เลือดสดๆสีแดงฉานพุ่งกระฉูดออกมา พร้อมกับที่ทิมแน่นิ่งไป จากนั้นมันจึงทิ้งร่างของทิมแล้วมองมายังวิลเลี่ยมกับทหารที่ยืนข้างๆแล้วคำรามเสียงดังลั่นใส่พวกเขาทั้งสอง ทำให้ทหารทั้งสองนายได้สติ และเริ่มกระหน่ำยิงไปยังมนุษย์หมาป่าตนนั้น

 แม้กระสุนทุกนัดที่ยิงออกไปจะยิงถูกร่างของมนุษย์หมาป่าตนนั้นจนเลือดไหลออกมาเป็นทางยาว แต่มันกลับยืนนิ่งราวกับว่ากระสุนเหล่านั้นไม่สามารถทำอันตรายกัมันได้ แล้วทันใดนั้นร่างของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ก็ได้ลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง ราวกับว่าทหารนายนั้นได้ถูกตัวอะไรบางอย่างตบเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง    

วิลเลี่ยมรีบหยุดยิงแล้วหัยไปมองยังร่างของทหารนายนั้นที่นอนชักกระตุกอยู่บนพื้น โดยมีเลือดสดๆไหลออกจากคอของเขา วอลเลี่ยมรีบหันกลับมายังขอบสนามที่ที่ทหารนายนั้นเคยยืนอยู่ และภาพที่เขาเห็นคือ มนุษย์หมาป่าตาบอด ขนสีน้ำตาลกำลังนั่งยองๆอยู่บนของสนามเพลาะ  วิลเลี่ยมยืนมองมนุษย์หมาป่าตนนั้นด้วยความตกใจอยู่ชั่วครู่หนึ่ง

มนุษย์หมาป่าตนนั้นค่อยๆแยกเขี้ยวใส่วิลเลี่ยมอย่างน่ากลัว ทันใดนั้นวิลเลี่ยมส่งเสียงร้องลั่นด้วยความกลัว แล้วรีบเหวี่ยงปืนไรเฟิลในมือทิ้งไป แล้วออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต

“จอห์นสัน มาร์คัส!!” วิลเลี่ยมตะโกนเรียกหาเพื่อนของเขาที่ยังคงมีชีวิตอยู่อย่างสุดเสียง และไม่นานต่อมาเสียงตะโกนของจอห์นสันก็ดังขึ้น

                “วิลเลี่ยม นายที่อยู่ไหน?”  

เมื่อวิลเลี่ยมได้ยินเสียงตะโกนกลับมา เขาเริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมาทันที เขารีบเร่งฝีเท้า แล้วตะโกนเสียงดังยิ่งขึ้น

                “จอห์นสัน มาร์คัส ฉันอยู่นี่ !”  

หลังจากที่วิลเลี่ยมตะโกนออกมา เสียงของจอห์นสันก็ดังขึ้นอีกครั้งจากอีกทางด้านหนึ่งของสนามเพลาะ ซึ่งเพียงแค่วิลเลี่ยมวิ่งพ้นทางเลี้ยวเบื้องหน้าไปได้ เขาก็สามารถไปรวมตัวกับจอห์นสันและมาร์คัสได้

“วิลเลี่ยม  ฉันอยู่นี่ รีบมาเร็วเข้า !”

วิลเลี่ยมเริ่มมีความหวังขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยม เขารีบเร่งีเท้าเพื่อให้เขาสามารถผ่านทางเลี้ยวเบื้องหน้าไปได้เร็วยิ่งขึ้น

                จอห์นสันกับมาร์คัสรีบวิ่งตรงไปยังทางเลี้ยวเบื้องหน้าเพื่อเข้าไปช่วยวิลเลี่ยม ซึ่งไม่นานนัก พวกเขาก็ได้เห็น        วิลเลี่ยมวิ่งออกมาจากมุมเลี้ยวเบื้องหน้า 

เมื่อวิลเลี่ยมได้เห็นเพื่อนทั้งสอง กำลังวิ่งเข้ามา เขาถึงกับยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง แต่ทันใดนั้นได้มีมือดำๆของตัวอะไรบางอย่างคว้าเข้าที่หัวไหล่ของวิลเลี่ยม แล้วมือนั้นก็ได้ดึงวิลเลี่ยมหายกลับเข้าไปในทางเลี้ยวนั้นอีกครั้ง พร้อมกับที่วิลเลี่ยมร้องเสียงหลงด้วยความกลัว และพยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ

                “วิลเลี่ยม !” จอห์นสันตะโกนสุดเสียง แล้วออกวิ่งไปยังทางเลี้ยวนั้นอย่างรวดเร็ว โดยมีมาร์คัสวิ่งตามหลังเขามา                  

เมื่อจอห์นสันวิ่งผ่านเลี้ยวนั้นไปแล้ว ขณะที่มาร์คัสกำลังจะวิ่งมาถึงทางเลี้ยว ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงราวกับมีตัวอะไรบางอย่างขนาดใหญ่กำลังวิ่งตรงมาหาเขาจากทางด้านซ้าย มาร์คัสรีบหันไปมอง แล้วได้เห็นกับ ร่างขนาดมหึมาที่ถูกปกคลุมไปขนสีน้ำตาลกำลังกระโจนเข้ามาหาเขา  

มาร์คัสรีบเบี่ยงตัวหลบได้อย่างหวุดหวิดจนเขาล้มลง จากนั้นเขารีบคลานไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว แล้วรีบลุกขึ้นนั่งพร้อมกับชักมีดเงินออกมาจากซอง  เขาจ้องมองไปยังใบหน้าอันคุ้นตาที่เขารอคอย และมันก็รอคอยเขามานาน ซึ่งดวงตาขวาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวของมันก็กำลังจ้องมองมายังเขาอย่างอาฆาตเช่นกัน !

                มาร์คัสยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ตอนนี้เขามีโอกาสอีกครั้งที่จะได้ล้างแค้นให้แก่พ่อของเขา พร้อมกับที่เขาพูดทักทายคู่แค้น

                “ไง ไอ้บอด ไม่เจอกันนานนะ คิดถึงฉันมั้ย?”

เมื่อมาร์คัสพูดจบ มนุษย์หมาป่าตนนั้นได้แยกเขี้ยวครางแล้วออกมาราวกับว่า มันรู้ความหมายในสิ่งที่เขาพูด     มันรีบพุ่งตัวเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว แต่มาร์คัสสามารถเบี่ยงตัวหลบได้อย่างรวดเร็วผิดจากครั้งก่อนที่เขาเคยต่อสู้กับมัน เพราะตอนนี้มาร์คัสเป็นทหารย่อมต้องได้รับการฝึกการต่อสู้ระยะประชิดมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำได้เป็นอย่างดีไม่แพ้จอห์นสันเลย ทั้งตอนนี้เขาได้เรียนรู้แล้วว่า  มนุษย์หมาป่าตนนี้มีดวงตาเพียงข้างเดียว มันย่อมทำอะไรได้ไม่แม่นยำนัก !

เมื่อมันโจมตีพลาด มันรีบหันมาแล้วเหวี่ยงแขนหมายใช้กรงเล็บเข้าจัดการเหยื่อของมัน แต่มาร์คัสกลับก้มศีรษะหลบได้อย่างทันเวลา แล้วอาศัยจังหวะนั้น ใช้มีดเงินในมือพุ่งเข้าแทงที่ท้องมนุษย์หมาป่าตนนั้นได้อย่างง่ายดาย ควันสีขาวพุ่งออกมาจากแผลของมัน พร้อมกับมันร้องเสียงดังลั่นไปทั่ว

                “นี่ แด่พ่อฉัน” มาร์คัสบิดมีดที่แทงในแนวนอนให้ตั้งขึ้น แล้วเหวี่ยงแขนขึ้นไปทางด้านบนจนสุดแขน ทำให้มนุษย์หมาป่าตนนั้นเป็นแผลตั้งแต่ท้องยาวจนถึงคางเหมือนครั้งที่มันฆ่าพ่อของเขา เลือดของมันพุ่งออกมาเป็นสายเลอะไปทั่วทั้งตัวของมาร์คัส ร่างของมันเริ่มสั่นด้วยอาการเกร็งแล้วล้มลงแน่นิ่ง มันครางออกมาราวกับสัตว์ที่กำลังจะสิ้นใจ ดวงตาของมันเริ่มปิดลงจนสนิท และลมหายใจสุดท้ายของมันก็มาถึง

มาร์คัสยืนมองร่างของมัน แล้วหายใจหอบด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังวิ่งเข้ามาจากทางด้านหลังของเขาอีกครั้ง เขารีบหันกลับไปและภาพที่เขาได้เห็นคือ ร่างขนาดมหึมาที่มีขนสีดำปกคลุมกำลังกางกรงเล็บพุ่งมาที่เขาอย่างรวดเร็ว ...

…………………………

 

จอห์นสันวิ่งไปตามทางที่มนุษย์หมาป่าตนนั้นลากวิลเลี่ยมมาโดยไม่ได้ให้ความสนใจอะไรรอบข้าง

  เมื่อจอห์นสันวิ่งมาจนถึงทางเลี้ยวอีกทางหนึ่งของสนามเพลาะ เขารีบเอาหลังพิงขอบสนามเพลาะใกล้ๆกับทางเลี้ยว แล้วกำปืนไรเฟิลที่อยู่แน่น เพื่อรวบรวมความกล้า พร้อมกับทีเขาเริ่มได้กลิ่นคาวเลือดโชยมาจากทางเลี้ยวนั้น      เขาหายใจแรงๆออกมาสองครั้ง แล้วค่อยๆโผล่หนิ้กไปมองเล็กน้อย พร้อมกับที่กลิ่นคาวเลือดเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และในตอนนั้นเองที่เขาเริ่มรู้สึกได้ว่า กลิ่นคาวเลือดมันลอยมาจากทางด้านล่างใกล้กับเท้าของเขา !

                เมื่อจอห์นสันก้มหน้าลงมองพื้น และได้เห็นภาพที่อยู่เบื้องหน้า เขาต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากและเดินถอยหลังสามก้าวด้วยความตกใจเ พราะภาพที่เขาเห็นนั้นคือ  ร่างของวิลเลี่ยมนอนแน่นิ่งจมกองเลือด โดยที่ท้องมีรอยแผลถูกข่วนเป็นทางยาวจนเครื่องในทะลักออกมากองด้านนอก และใบหน้าศพของวิลเลี่ยมได้แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดก่อนที่เขาจะสิ้นใจ  จอห์นสันฝืนใจก้มลงและใช้มือปิดตาให้กับเพื่อนของเขา แต่ทันใดนั้น เสียงคำรามอย่างเจ็บปวดของสัตว์บางอย่างก็ดังขึ้น ทำให้จอห์นสันได้สติอีกครั้งพร้อมกับที่เขานึกขึ้นได้ว่า มาร์คัสไม่ได้วิ่งตามเขามาด้วย !                          

…………………..

จอห์นสันรีบวิ่งกลับไปยังทิศทางเดิม โดยที่เขาได้ภาวนาอยู่ในใจตลอดระยะทางว่า ขออย่าให้มาร์คัสเป็นอะไร

เมื่อจอห์นรสันวิ่งกลับมาถึงทางเลี้ยวที่เขาเผลอแยกกับมาร์คัสโดยที่ไม่รู้ตัว เขารีบเอาหลังพิงขอบสนามเพราะพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ แล้วหันตัวออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับประทับปืนเตรียมพร้อมที่จะยิงทุกเมื่อที่เห็นอะไรผิดปกติ แต่ทันใดนั้น

“มาร์คัส !” จอห์นสันพูดเรียกเพื่อนด้วยเสียงอันดัง

จอห์นสันนรีบวิ่งเข้าไปยังร่างของมาร์คัสที่ใช้เอามือข้างซ้ายกดแผลที่ท้อง ทั้งยังมีแผลอีกแห่งที่บริเวณหน้าอกและกำลังนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นโดยมีร่างมนุษย์หมาป่าขนสีน้ำตาลนอนแน่นิ่งอยู่ไม่ห่าง

                “จอห์นสัน” มาร์คัสเรียกชื่อเพื่อนอย่างอ่อนแรงราวกับคนที่กำลังจะสิ้นใจ

                “มาร์คัส ฉันขอโทษ ทำใจดีๆไว้นะ เพื่อน” จอห์สันพูดขอโทษเพื่อนรักและรีบคว้ามือซ้ายที่มาร์คัสยกขึ้นมาบีบเอาไว้แน่นเพื่อให้กำลังใจ

                “นายไม่...ผิดหรอก...โอ้ก” มาร์คัสพูดแล้วกระอักเลือดออกมาเพราะแผลที่ท้องและอกของเขาเป็นแผลที่ลึกมากทำให้เขาเกิดอาการเสียเลือดมากอย่างรวดเร็ว

                มาร์คัส ค่อยๆยกมือขวาที่กำมีดเงินเอาไว้แน่น แล้วส่งให้จอห์นสัน

                “ฉันแทงมันไปแล้วหนึ่งแผล แต่ฉันฆ่ามันไม่ได้.....” มาร์คัสพูดแล้วกระอักเลือดออกมาราวกับคนกำลังจะสิ้นใจในไม่ช้า   จากนั้นเขาจึงกัดฟันแน่นเพื่อรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายแล้วพูดขึ้นใหม่อีกครั้ง

“ฆ่ามันแทนฉันทีนะ เพื่อนรัก” มาร์คัสพูดจบ แล้วสิ้นใจตายพร้อมกับดวงตาที่ปิดลง

                “มาร์คัส ไม่นะ ไม่ !” จอห์นสันตะโกนลั่นไปทั่วสนามเพลาะ

เมื่อเพื่อนแท้ของเขาจากไป จอห์นสันค่อยๆวางร่างของมาร์คัสลงบนพื้น แล้วหันไปหยิบปืนไรเฟิลคู่กายขึ้นมาจัดการติดมีดเล่มนั้นเข้ากับปากกระบอกปืน แล้วออกเดินตามล่าหามนุษย์หมาป่าตนสุดท้ายที่เขารู้ดีว่า ตนนี้คือ แดนนี่ !

...........................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา