บทเพลงรักสะกิดใจ นายสุดฮอต!!

8.8

เขียนโดย Namizz

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.37 น.

  27 chapter
  129 วิจารณ์
  42.07K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

27) ~ POSTSCRIPT : บทส่งท้าย ~

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
'แฮ่ม...หนึ่ง สอง สาม...สวัสดีนียา...วันนี้ฉันเกิดอยากจะถ่ายคลิปขึ้นมา ฮ่าๆๆๆ ...ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แค่อยากทำแบบนี้เฉยๆ ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลมาได้2-3วัน น่าเบื่อมากกก...ฉันอยากจะไปสวนสนุกกับเพื่อนๆและเธอนะ...แต่ก็ไปไม่ได้...วันนั้น...ที่ฉันสัญญา...ฉันพูดเรื่องจริงนะ...ขอโทษจริงๆที่ฉันไมได้รักษาสัญญาว่าจะไปหาเธอ...แต่ฉันก็ไม่ได้ผิดคำพูดทุกอย่างน้า~~อย่างน้อย...ฉันก็ได้ส่งดอกทานตะวันที่เธอชอบไปให้ แทนตัวของฉันไง...แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันไม่เคยผิดคำสัญญา..ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ..ในใจเธอไง...แต่ตอนนี้ฉันคงจะไปยืนอยู่ใกล้ๆเธอไม่ได้หรอกนะ แรงเดินก็แทบจะไม่มี เก่งที่สุดก็แค่หายใจทิ้งไปวันๆ ดูไม่ค่อยมีค่าเท่าไหร่เลยเนอะ...เธอว่างั้นไหม...ฉันคิดถึงเธอจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว อยากจะออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย แต่แม่กับหมอคงไม่ยอม อิอิ ฉันก็เลยได้แต่มองเพดานและนั่งถ่ายคลิปตัวเองเหมือนคนจะลาตายซะอย่างนั้น หุหุ^0^ เธอรู้ไหม ทุกๆคืนฉันไม่อยากนอนหลับเลย เพราะถ้าฉันหลับ ฉันกลัว...กลัวว่าจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาเห็นเธออีกน่ะสิ -_-+
               
 
     แต่มันอาจจะดูเห็นแก่ตัวเกินไปนะ ถ้าฉันยังตื่นมาให้เธอเห็นหน้าแล้ววันนึง..ฉันต้องจากฉันไป...ฉันจึงเลือกที่จะให้เธอลืมฉัน...ไหนๆ เธอก็อยากจะลืมฉันอยู่แล้ว....จริงไหม'
 
               
 
"ไม่จริงนะพี่เต็ง...อย่าคิดแบบนั้น ตื่นขึ้นมา คุยกับฉันสิ" ฉันพูดทั้งน้ำตากับโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ
               
 
'ฉันคงไม่ได้เข้าข้างตัวเองใช่ไหมว่าเธอ...ไม่ได้ลืมฉัน...แววตาเธอมันฟ้อง ว่าเธอ...ยังเหมือนเดิม...ยังเป็นนียาคนเดิมของฉัน...ดังนั้น ขอให้ฟังนะ ถ้าฉันตาย...ได้โปรดอย่าร้องไห้ หรือลืมฉันไปเลยได้ยิ่งดี...ขอร้อง ต่อให้ฉันตาย เธอต้องยิ้ม...ยิ้มให้ได้... เชื่อฉันสิ...ฉันจะอยู่ข้างๆเธอเสมอ แม้ว่าเธอจะไม่เห็นแต่ฉันเชื่อว่าเธอสัมผัสได้...
               
 
     สุดท้ายแล้ว...ความในใจที่อยากจะบอกกับเธอคือ แม้ว่าช่วงระยะเวลาที่เราได้พบกันมันจะสั้นนัก...แต่เหมือนกับว่าเราได้อยู่ด้วยกันมานาน  ฉันแค่อยากจะบอกกับเธอว่า...ฉันรักเธอมากนะ...มากเกินกว่าจะแสดงออกมาได้..ทุกครั้งที่เธอเสียใจ  มันทำให้ฉันอยากจะตายให้เร็วขึ้น แต่ทุกครั้งที่เธอมีความสุข มันกลับทำให้ฉันไม่ยอกตาย...เธอรู้หรือเปล่า  ฮ่าๆๆๆ....งี่เง่าจังเลยฉัน  นี่แหละที่อยากจะบอก  อ้อ...วันเกิดปีนี้ ฉันคงไม่ได้ไปร่วมงานด้วยตนเอง..แต่ฉันมีของขวัญชิ้นพิเศษจะให้ ตั้งใจดุและฟังดีๆล่ะ เพราะนี่ จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะมอบให้เธอได้....'
               
 
     ฉันพยักหน้าให้กับโทรศัพท์ ภาพของเต็งหนึ่งยังคงอยู่ในจอ ซึ่งเขากำลังก้มๆ เงยๆหาอะไรบางอย่าง...และในมือของเขาก็มีกีตาร์โปร่ง...เขาเริ่มดีดคีย์แรกขึ้นและ....
 
               
 
 ~~~ในการเดินทาง คงไม่มีนักเดินทางคนไหน ที่รู้ว่า....วันใดคือวันที่สุดท้ายเรามีเวลาที่ยังเหลือสักเท่าไร ที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน...ได้อยู่กับคนที่เรารัก               
 
และเธอคนที่ทำให้นักเดินทางอย่างฉันพบว่า...จุดหมายในชีวิตคืออะไร ด้วยดินแดนที่เธอสร้างไว้ ที่มีชื่อว่าความรัก....               
 
*เมื่อชีวิตของคนเรามันสั้นนัก สิ่งที่ฉันพอจะทำ...ในช่วงเวลาที่ยังหายใจ คือการดูแลเธอให้ดีจากนี้ไป เพื่อตอบแทนเรื่องราวดีดีก่อน ที่เวลาของเราจะหมดลง...               
 
ปมด้อยใดใดที่ตัวฉันนั้นเคยมีอยู่ แต่แล้วเมื่อพบเธอ ...เธอทำให้ฉันกับมองข้ามไปจากคนเดิมๆที่ไม่มีค่าอะไร สุดท้ายเธอก็เปลี่ยน...ให้ฉันกลับกลายเป็นคนสำคัญ               
 
เธอทำให้ฉันได้รู้ว่าฉันมีค่ามากกว่า ที่ฉันเคยมองเห็นในตัวเอง...และวันนี้ฉันมีสิ่งนี้ ที่มอบไว้แทนความรัก...
               
>>แม้นานแค่ไหนอีกไกลเท่าไร จะยืนข้างเธอ...และคอยดูแลเธอคนนี้ด้วยหัวใจ  เพื่อตอบแทนเรื่องราวดีดี..ก่อนที่เวลาของเรา...<<
 
                '
 
'ลาก่อน...ทานตะวันของฉัน...เธอ เปรียบเสมือนบทเพลง...ที่ฉันรักเท่าชีวิต.'
               
 
     ไฟล์จบแล้ว หน้าจอดับลง น้ำตาไหลอาบแก้ม ฉันปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร...ฉันจับมือของเต็งหนึ่งมาบีบไว้แน่น เอาหลังมือเขามาแนบแก้มตัวเอง
               
 
"ไม่นะ....พี่ตื่นขึ้นมาพูดกับฉันก่อน...ฉันไม่เคยลืมพี่เลยนะ จริงๆนะ...ไหนพี่สัญญาว่าพี่จะอยู่เคียงข้างฉันยังไงล่ะ เราจะร้องเพลงด้วยกันทุกๆวัน...พี่พึ่งบอกรักฉันแค่ในโทรศัพท์เองนะ มันไม่แฟร์....และอีกอย่างฉันยังไม่ได้บอกพี่เลย....ได้โปรด...ลืมตาเถอะนะคนดี...ลืมตาขึ้นมาฟังฉันหน่อยได้ไหม....ฉันสัญญา ฉันจะไม่ดื้อกับพี่ จะยอมฟังตามคำพูดพี่ทุกอย่างด้วย ตื่นขึ้นมาสิ...ตื่นขึ้นมา....ฮือออๆๆๆ"
               
 
     ติ๊ด...ติ๊ด...
               
 
     เสียงเครื่องอีซีจีดังขึ้นเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง เส้นกราฟในจอมอนิเตอร์เต้นยึกยักเป็นจังหวะที่มันควรจะเป็น
               
 
     ติ๊ด...ติ๊ด...
               
 
"ถ้าพี่ตาย แล้วใครจะสอนฉันร้องเพลงล่ะ ตื่นเถอะนะ  ขอร้อง... ตื่นขึ้นมากอดกันอีก...ฮึก..ฮือๆๆ ถ้าฉันบอกรักพี่แล้ว พี่ต้องไม่ตายนะ...งั้นฟังนะ...ฉันรักพี่เต็งหนึ่งนะ แม้จะแค่ช่วงระยะเวลาที่เราพบกันไม่นาน..แต่ฉันก็รักพี่....ตื่นเถ...."
               
 
     ติ๊ดดดดด!!!
               
 
     ไม่ทันจะพูดจบ เครื่องอีซีจีก็ส่งเสียงยาวดังลั่นห้อง ไม่ช้าก็มีหมอกับนางพยาบาลแห่กันเข้ามา ฉันมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างตกใจ เฟิร์นกับโซดาวิ่งเข้ามากอดฉันเอาไว้จากด้านหลัง เพื่อดึงฉันให้ออกห่างจากเตียง แต่ฉันขืนตัวเอาไว้ หมอวิทมองมาทางเราแล้วส่ายหน้าช้าๆ....
               
 
"เสียใจด้วยครับ...สิ้นลมแล้ว..."
               
 
     หมอเอาผ้าที่คลุมแค่อกดึงขึ้นมาปิดหน้าเต็งหนึ่ง...และในช่วงขณะเดียวกัน ฉันเห็นน้ำใสๆกำลังไหลออกมาจากขอบตาของเต็งหนึ่ง...ฉันมองภาพนั้นด้วยใจที่จะขาดออกมา ฉันพยายามจะวิ่งเข้าไปหา แต่ก็เหมือนกับว่าความพยายามของฉันมันสูญเปล่า....
               
 
"ฮือๆๆ...พี่เต็ง....ไม่นะ...ฮือๆๆๆ" ฉันทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว...คนที่ฉันรัก  เขาจากไปในที่ที่ฉันเอื้อมไม่ถึงแล้ว..... 
 
 
 
POSTSCRIPT...
 
 

     ลมพัดเอื่อยๆกระทบผิวหน้า ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกเย็น ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลย...แต่มันเป็นความรู้สึกเศร้า..ฉันเหงา...ฉันมายืนอยู่บนดาดฟ้าของหอประชุมเพียงลำพัง..เชื่อไหมว่า สามวันที่ผ่านมา ฉันไม่เคยไปงานศพของเต็งหนึ่งเลยสักวัน...ฉันทำใจไม่ได้ที่จะเห็นเขาอยู่ในที่แคบๆอย่างโลงสี่เหลี่ยมนั่น ที่ที่ฉันเองก็รู้ว่า สักวัน เราทุกคนต้องเข้าไป แต่สำหรับเขา...มันเร็วเกินไป...ถ้าหากวันนั้นฉันไปงานเต้นรำ...ถ้าหากวันนั้นฉันไม่กอดตอนรับโพทส์เป็นเพื่อน...ถ้าหากวันนั้นฉันไม่ออกมารับลูกปลา..ถ้าหากวันนั้นฉันตัดสินไม่เดินเข้ามาเรียนที่นี่...เขาคงไม่จากฉันไปเร็วขนาดนี้...ฉันล่วงมือเข้าไปหยิบของในกระเป๋าออกมา...มันคือตุ๊กตากล่องดนตรีชายหญิงยืนกอดกัน...ของขวัญที่เต็งหนึ่งได้ทิ้งไปแล้ว แต่ฉันก็จะเก็บมันไว้...ฉันไขลานกล่องดนตรี เสียงเมโลดี้อันแสนอ่อนหวานได้ดังขึ้น ท่วงทำนองตั้งแต่ต้นจนจบ...ฉันรู้สึกว่า เริ่มมีก้อนสะอื้นอยู่ในลำคอแล้วเสียงสั่นๆก็เริ่มพูดออกมา...
               
 
 
"ฮืออ..พี่เต็ง..." ฉันยืนร้องไห้โฮแข่งกับสายลมที่พัดเข้ามากระทบไปทั่วทั้งร่าง...ไหล่บางเริ่มสั่นระริก...ทำไมนะ...การสูญเสียมันถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้...เวลาน่ะมีค่ามากนะ...มันมีค่าทุกนาที ฉันอยากย้อนเวลากลับไป...ถ้าทำได้..ฉันจะอยู่เคียงข้างเขาตั้งแต่วันที่เราได้เจอกันอีก และคงบอกรักเขาวันละร้อยพันครั้งอย่างไม่ลังเล...
               
 
'ถ้าหากฉันรู้ว่าเวลาของเขา มันจะเคลื่อนที่ไปเร็วแบบนี้....'
 
 
               
     ใบไม้พลิ้วไหวปลิวร่วงลงจากต้น เวลาล่วงเลยผ่านไป เฟิร์นกับโซดาเดินเข้ามาในบ้านหลังหนึ่ง ทั้งสองเดินไปยังสวนกว้างที่อยู่ทางหลังบ้าน ก่อนจะพบกับร่างของลูกปลาในชุดแซ็กสีดำ นั่งอยู่ในสวน พวกเธอค่อยๆเดินเข้าไปหาลูกปลา สายตาของคนทั้งสองมองลูกปลาด้วยความสงสาร เวทนา  ตอนแรกทั้งสองโกรธในสิ่งที่ลูกปลาทำ..แต่เมื่อคิดทบทวนและมองย้อนกลับไป..มันไม่ใช่ความผิดของลูกปลาคนเดียว...เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น พวกเธอทั้งสองและทุกคนต่างมีส่วนทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น...ลูกปลาควรมีอนาคตที่สดใสสวยงาม มีคนรักที่ดี ถ้าหากไม่ใช่เพราะความรักที่เธอมีต่อพี่เต็งหนึ่ง...มากเกินไป สิ่งนี้ได้พรากลูกปลาที่สดใสร่าเริง..ทำลายหญิงสาวคนหนึ่งให้จมอยู่ในวังวนแห่งความทุกข์ของตัวเองไปแล้ว...
               
 
     หลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้น ลูกปลาที่อยู่ต่อหน้าเฟิร์นในวันนี้คือลูกปลาที่เศร้าซึม...วันๆเอาแต่เหม่อลอยไม่ยอมพูดคุยกับใคร แม่ของลูกปลาบอกว่า ลูกปลาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ไม่ยอมกินข้าว บางครั้งอยู่ดีๆก็ร้องไห้ขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล แต่ทุกๆครั้งที่ร้องไห้เธอก็จะหยิบเอาไวโอลินตัวโปรดขึ้นมาบรรเลงอย่างเศร้าสร้อย...คงต้องใช้เวลาเท่านั้นที่จะรักษาให้ลูกปลากลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง...
               
 
"ลูกปลา...ฉันกับโซดา มาเยี่ยมแกนะ" เฟิร์นนั่งลงคุยกับลูกปลา แต่ลูกปลายังคงเงียบไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา สายตาเหม่อมองไปไกล
               
 
"พวกเราทุกคนเป็นห่วงแกนะ...โดยเฉพาะนียา...ตอนนี้มันกำลังทำเรื่องย้ายไปเรียนที่ต่างจังหวัด...มันเลยมาเยี่ยมแกไม่ได้....ต่อไปนี้อย่าโทษตัวเองอีกเลยนะ เราทุกคนไม่ได้โกรธแก ไม่มีใครโทษว่าเป็นความผิดของแก..เพราะฉะนั้น เลิกโทษตัวเองเถอะนะ มีคนอีกมากมายรอแกอยู่ ฉันและเพื่อนๆทุกคนก็รอแกกลับมา...กลับมาเป็นเพื่อรักฉันเหมือนเดิม" โซดาเอ่ยแต่ทว่าหญิงสาวตรงหน้าดูจะไม่รับรู้อะไรสักนิด โซดาหันไปถอนหายใจกับเฟิร์น ทั้งคู่เอื้อมมือไปกุมมือลูกปลาไว้เบาๆ
               
 
"พวกฉันไปก่อนนะ แล้วจะแวะมาเยี่ยมแกใหม่" ร่างของทั้งสองลุกขึ้นยืนพร้อมกันก่อนที่จะเดินจากไป แต่แล้ว...
               
 
"ฉันขอโทษ...." เสียงนั้นแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน ทั้งคู่ชะงักเท้าหันกลับมามองเพื่อนสาว แต่ทว่าดวงตาของลูกปลายังคงเหม่อลอยเช่นเดิม ริมฝีปากก็ไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย ทั้งสองมองหน้ากัน ก่อนที่จะก้าวเดินจากไป...
               
               
 
 
     แสงแดดในยามบ่าย ค่อยๆฉายแสงจ้าขึ้น แต่ก็ยังคงมีสายลมเย็นๆพัดผ่านร่างบางของหญิงสาว ทำให้เส้นผมสีดำและชุดกระโปรงสีขาวยาวเลยเข่าปลิวไสว...มือเรียวยาวถือดอกทานตะวันซึ่งถูกจัดเป็นช่ออย่างงดงาม มันสั่นไหวตามแรงลม... ณ สถานที่ที่นียา ยืนอยู่..หน้าหลุมฝังศพของชายที่เธอรัก นัยน์ตามองตรงไปยังรูปของชายหนุ่มที่เธอคุ้นเคยดี...ร่างบางคลี่ยิ้มอันสดใสที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมานาน...
               
 
"ฉันคิดถึงพี่มากเลยนะ...เต็งหนึ่ง คิดถึงวันเก่าๆที่เราเคยอยู่ด้วยกัน...ยังจำได้ไหมวันปฐมนิเทศ พี่เป็นคนแรกที่ทำให้ฉันต้องเปิดเผยความจริงต่อหน้าทุกคน ความจริงที่ฉันปิดบัง...ก็เพราะเพื่อนพี่นั่นแหละ  พี่กีตาร์...เราอยู่วงเดียวกัน ความสัมพันธ์ก็มากกว่าพี่น้อง...แต่พอวันนึง เขาก็ทิ้งฉันไป...ทิ้งสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อหน้าพี่...เขาทิ้งฉันเพื่อไปหาผู้หญิงอีกคน...ฉันเสียใจ จึงลาออกจากวงและย้ายโรงเรียนทันที...ฉันมันงี่เง่าจังเลยเนอะ...แล้วยังวันที่ฉันไปแอบดูพี่เล่นเปียโนนั่นอีก ฉันดันไปตบหน้าพี่เพราะความโมโห...ยิ่งคิดฉันก็ยิ่งโทษตัวเองเข้าไปใหญ่
 
 
     หลังจากนี้ไป...ฉันคงจะไม่ได้มาหาพี่อีกแล้วนะ...เพราะฉันเลือกแล้ว...ฉันจะไปเรียนที่ต่างจังหวัด..ตอนเด็กๆฉันจำได้ว่าพี่อยากเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง...เพราะฉะนั้นฉันนี่แหละ จะสานฝันของพี่เอง..พี่เต็งไม่ต้องห่วงหรอกนะ หลับให้สบายเถอะ...ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถมาหาพี่ได้อีกแล้ว...แต่รู้ไว้นะว่าฉันยังคงรักพี่เสมอ ฉันสัญญานะ ว่าพี่จะอยู่ในใจของฉัน...ผู้ชายในความทรงจำของฉัน...เต็งหนึ่ง...พี่จะตรึงอยู่ในใจฉันตลอดไป...ลาก่อน..ดอกหญ้าที่มีค่ามากกว่าสิ่งใด..."
 
 
     พูดจบฉันก็ค่อยๆบรรจงวางช่อดอกทานตะวันลงข้างๆป้ายหลุดฝังศพ มือข้างขวาเอื้อมไปลูบไล้ที่ในหน้าของเขาในรูปอย่างอ่อนโยน และหันหลังเดินห่างออกไป... ฉันพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เพราะฉันสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะต้องเข้มแข็งให้ได้...จังหวะที่ฉันจะเปิดประตูรถ..เสียงเสียดสีของเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง ดังแว่วเข้ามาในหู...น้ำหนักเสียงและเทคนิคการบรรเลงแบบนี้ฉันจำมันได้ดี..นักไวโอลินมือหนึ่งของโรงเรียน...ลูกปลา! เมื่อนึกขึ้นได้ฉันก็หันกลับไปมองทันที ร่างบางของหญิงสาวอีกคน กำลังยืนอยู่หน้าหลุมฝังศพของเต็งหนึ่ง...บนบ่าข้างซ้ายมีไวโอลินสีขาว เพลงนั้นฉันจำมันดี..เพลงที่ฉัน ลูกปลา และเขา...ขึ้นแสดงด้วยกันที่หอประชุม...ฉันมองภาพตรงน่าอย่างเลื่อนลอย ถึงแม้จะอยู่ห่างจากสายตาหลายเมตร...ฉันก็ดูออกว่าลูกปลาผอมลงมาก...ฉันมองดูได้สักพัก ก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นรถและขับออกไปทันที...ทิ้งไว้เพียงเสียงกระซิบจากสายลมที่ดังออกมาจากปากอันเรียวบางของลูกปลา...
               
 
'ฉันขอโทษนะ...นียา ขอให้เธอโชคดี...'
 
 
                 
 
     มีใครรู้บ้างว่า...ปลื้ม...ชอบ...และรัก มันแตกต่างกันตรงไหน...แค่คำสามคำ...สามารถเป็นจุดชนวนของเรื่องราวต่างๆมากมาย..คำนิยาม ส่วนมากของคำเหล่านี้...สุดท้ายก็สื่อถึงความรู้สึกเดียวกัน...อาจจะมีทุกข์บ้าง สุขบ้าง ... แล้วคุณล่ะ จะนิยามคำสามคำนี้ว่าอะไร...แน่ใจแล้วหรือ ว่าคนที่คุณกำลังแอบมองเขาในขณะนี้คุณ....ปลื้ม....ชอบ....หรือตกหลุมรักเขากันแน่....^0^!!
 
   
                                                                                                             
จบริบูรณ์...........   (ปิดต้นฉบับ   อ๊อด! อ๊อด!~~)
 
 
 
===============
 
 
 
“...ชนใด ไม่มี ดนตรีกาล
  
 
ในสันดาน เป็นคนชอบกลนัก
  
 
อีกใคร ฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ
  
 
เขานั้นเหมาะ คิดขบถ อัปลักษณ์
  
 
ฤาอุบาย มุ่งร้ายฉมังนัก
  
 
มโนหนัก มืดมัวเหมือนราตรี
 
  
และดวงใจ ย่อมดำสกปรก
 
  
ราวนรกชน เช่นกล่าวมา
 
   
ไม่ควร ใครไว้ใจในโลกนี้
 
 
 
เจ้าจง ฟังดนตรีเถิดชื่นใจ " 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา