กำแพงรัก
-
เขียนโดย Mawmeaw
วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 16.45 น.
10 ตอน
20 วิจารณ์
19.00K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 09.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) ความทรงจำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความศิริกัญญาเดินออกมาจากที่ทำงาน เธอเดินมารอรถโดยสารที่ป้ายรถเมล์เหมือนเช่นทุกวัน
“ลูกชิ้นปิ้งมั๊ยจ๊ะ ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆจ้า”
เสียงแม่ค้ารถเร่ขายลูกชิ้นปิ้งที่ร้องตะโกนขายลูกชิ้นปิ้งผ่านบริเวณป้ายรถเมล์ดังมาเข้าหูศิริกัญญา
ภาพความทรงจำเมื่อครั้งที่เธอเข้ากรุงเทพฯ ไปหาพี่ชายปรากฏขึ้นมาอย่างแจ่มชัดในห้วงความคิด วันนั้นเธอแอบลงจากรถไปซื้อลูกชิ้นปิ้งตามลำพัง แล้วไปมีเรื่องกับพวกนักเลงประจำถิ่น มีใครคนหนึ่งทำเสียงดุใส่เธอด้วยเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ
หญิงสาวแอบถอนหายใจ พักนี้ภาพความทรงจำต่างๆในตอนที่เธอไปหาพี่ชายที่กรุงเทพฯมักจะแทรกเข้ามาอยู่ในห้วงความคิดของเธอบ่อยๆ
หญิงสาวนั่งรอรถสักพัก รถก็วิ่งเข้ามาจอด หญิงสาวเบียดเสียดผู้คนขึ้นไปยืนบนรถที่แสนจะคับแคบจนได้ในที่สุด
มีใครคนหนึ่งสละที่นั่งให้หญิงสาว เธอกล่าวขอบคุณก่อนจะนั่งลงที่ว่างนั้น เธอเพิ่งสังเกตว่าคนที่สละที่นั่งให้เธอนั้นแต่งเครื่องแบบทหาร
แต่ที่แปลกมากไปกว่านั้นคือ หน้าตาของเขาช่างเหมือนกับใครคนหนึ่งจริงๆ หญิงสาวพยายามขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ตาฝาด แต่ปรากฏว่า เมื่อเธอดูดีดีอีกที เธอก็พบว่าเธอตาฝาดไปจริงๆ
“นี่เราเป็นเอามาก ถึงขนาดตาฝาดเลยเชียวเหรอเนี่ย เฮ้อ!”
หญิงสาวได้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจ
เมื่อกลับถึงบ้านหญิงสาวก็ออกไปเดินเล่นแถวๆสวนหลังบ้าน ขณะที่เธอกำลังนั่งเล่นอยู่นั้นเธอก็บังเอิญเห็นใครคนหนึ่งเดินผ่านมา เธอแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นหน้าคนๆนั้นชัดๆ
“นายพยัคฆ์”
หญิงสาวพยายามขยี้ตาอีกที คนๆนั้นก็ได้เดินหายไปแล้ว ศิริกัญญาตัดสินใจเดินออกไปตามทางที่ชายคนนั้นเดินไปเมื่อครู่ แต่ปรากฏว่าไม่ปรากฏแม้แต่เงาของชายคนนั้นแล้ว
“เอ แปลกๆ ช่วงนี้ทำไมเราถึงตาฝาดบ่อยนักนะยัยส้มเอ๊ย”
.........................................................................
รุ่งเช้าหญิงสาวเดินออกไปรอรถประจำทางที่ป้ายรถเมล์ตามปกติ เธอรู้สึกเหมือนมีใครกำลังเดินตามเธออยู่
หญิงสาวเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ก่อนจะรีบหลบเข้าแอบข้างกำแพง และปรากฏตัวสกัดคนที่บังอาจสะกดรอยเธอ
“ตามฉันมาทำไม”
ศิริกัญญาถามขึ้น แด่เธอกลับแปลกใจเมื่อเห็นเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่ง เด็กชายท่าทางตกใจกลัว เนื่องจากหญิงสาวตวาดถามด้วยเสียงอันดัง
เด็กชายตัวเล็กยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งใส่มือให้หญิงสาวก่อนจะรีบวิ่งหนีไปทันที ซึ่งสร้างความแปลกใจให้ศิริกัญญาไม่น้อย
หญิงสาวหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน มีข้อความสั้นๆเขียนเอาไว้ว่า
“ฝากไปรับเพื่อนพี่หน่อย มันไปประจำการที่นั่นครั้งแรก ยังไม่รู้จักที่ทาง ช่วยเป็นไกด์ให้มันหน่อยแล้วกัน…สันติ”
“บ้าจริงพี่สันต์เนี่ย ใช้แฟกซ์ทั้งๆที่รู้ว่าที่นี่แฟกซ์มันหาง่ายซะที่ไหนกัน”
หญิงสาวบ่นอุบอิบเมื่อได้รับแฟกซ์จากพี่ชายโดยไม่ทันตั้งตัวจากเด็กชายตัวน้อย หน้าตาตื่นตระหนกคนนั้น
ที่สถานีรถไฟ ศิริกัญญาเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายใจ เธอรู้สึกหงุดหงิดกับแฟกซ์ของพี่ชาย ที่ไม่รอบคอบเอาซะเลย
นอกจากจะไม่ระบุชื่อเพื่อน ไม่ระบุเวลามา แถมยังไม่ระบุลักษณะของเพื่อนที่จะมาอีกด้วย แล้วอย่างนี้เธอไม่ต้องนั่งรออยู่นี่ทั้งวันหรืองัยเนี่ย
ศิริกัญญาเผลอหลับไปบนม้านั่งตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่รอผู้โดยสารขาเข้าไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกอยู่ใกล้ๆ
“คุณครับๆ คุณศิริกัญญาใช่มั๊ยครับ”
หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงีย พบว่าเป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้ว หญิงสาวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง เธอแทบหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
“คุณ…เอ่อ…คุณ…”
“ผมภูวไนย เพื่อนของคุณสันติครับ คุณคงเป็นคุณศิริกัญญาหรือคุณส้มน้องสาวคุณสันติใช่มั๊ยครับ”
“เอ่อ… ใช่ค่ะ…ใช่ ฉันเป็นน้องสาวพี่สันติ ว่าแต่คุณชื่อภูวไนยงั้นเหรอคะ ไม่ใช่ชื่อพยัคฆ์เหรอคะ”
“เอ๊ะ! เปล่านี่ครับ ผมชื่อภูวไนยหรือเรียกสั้นๆว่าภู แต่ว่าคนที่ชื่อพยัคฆ์เป็นใครกันเหรอครับ”
“อ๋อ…เอ่อ เปล่าหรอก ไม่มีอะไร ว่าแต่ทำไมคุณถึงรู้ว่าเป็นฉันล่ะคะ”
“ก็อยู่นี่ มีคุณนั่งอยู่คนเดียวนี่ครับ”
ชายหนุ่มแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารตอบแบบยิ้มๆ
ศิริกัญญามองไปรอบๆ จริงด้วยสิ ที่นี่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียว มีแต่เธอที่นั่งหลับอยู่คนเดียวจริงๆเสียด้วย
“แหะๆ นั่นสินะคะ”
ศิริกัญญาหัวเราะแก้เก้อเบาๆ ในขณะที่ภูวไนยมองหน้าหญิงสาวอย่างงงๆ
ศิริกัญญาอธิบายเส้นทางไปค่ายทหารคร่าวๆ แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากเย็นเอาการสำหรับผู้มาใหม่ สุดท้ายหญิงสาวก็ต้องติดรถไปส่งเขาจนถึงที่ค่ายทหาร
...........................................................................
ก่อนเข้านอนหญิงสาวครุ่นคิดอย่างหนัก จะเป็นไปได้ไหมว่าคน 2 คนจะมีหน้าตาเหมือนกันยังกับแกะ
เท่าที่ดูเขาเหมือนจะจำเราไม่ได้ งั้นก็แปลว่าเขาไม่ใช่นายพยัคฆ์แน่ ถึงจะหน้าตาท่าทางเหมือนกับนายนั่นมากก็เถอะ
หญิงสาวล้มตัวลงนอน พลางครุ่นคิดถึงความทรงจำที่กรุงเทพฯช่วงที่อยู่กับพี่ชายจำเป็น จนกระทั่งเผลอหลับไปในที่สุด
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
“ลูกชิ้นปิ้งมั๊ยจ๊ะ ลูกชิ้นปิ้งร้อนๆจ้า”
เสียงแม่ค้ารถเร่ขายลูกชิ้นปิ้งที่ร้องตะโกนขายลูกชิ้นปิ้งผ่านบริเวณป้ายรถเมล์ดังมาเข้าหูศิริกัญญา
ภาพความทรงจำเมื่อครั้งที่เธอเข้ากรุงเทพฯ ไปหาพี่ชายปรากฏขึ้นมาอย่างแจ่มชัดในห้วงความคิด วันนั้นเธอแอบลงจากรถไปซื้อลูกชิ้นปิ้งตามลำพัง แล้วไปมีเรื่องกับพวกนักเลงประจำถิ่น มีใครคนหนึ่งทำเสียงดุใส่เธอด้วยเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ
หญิงสาวแอบถอนหายใจ พักนี้ภาพความทรงจำต่างๆในตอนที่เธอไปหาพี่ชายที่กรุงเทพฯมักจะแทรกเข้ามาอยู่ในห้วงความคิดของเธอบ่อยๆ
หญิงสาวนั่งรอรถสักพัก รถก็วิ่งเข้ามาจอด หญิงสาวเบียดเสียดผู้คนขึ้นไปยืนบนรถที่แสนจะคับแคบจนได้ในที่สุด
มีใครคนหนึ่งสละที่นั่งให้หญิงสาว เธอกล่าวขอบคุณก่อนจะนั่งลงที่ว่างนั้น เธอเพิ่งสังเกตว่าคนที่สละที่นั่งให้เธอนั้นแต่งเครื่องแบบทหาร
แต่ที่แปลกมากไปกว่านั้นคือ หน้าตาของเขาช่างเหมือนกับใครคนหนึ่งจริงๆ หญิงสาวพยายามขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ตาฝาด แต่ปรากฏว่า เมื่อเธอดูดีดีอีกที เธอก็พบว่าเธอตาฝาดไปจริงๆ
“นี่เราเป็นเอามาก ถึงขนาดตาฝาดเลยเชียวเหรอเนี่ย เฮ้อ!”
หญิงสาวได้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจ
เมื่อกลับถึงบ้านหญิงสาวก็ออกไปเดินเล่นแถวๆสวนหลังบ้าน ขณะที่เธอกำลังนั่งเล่นอยู่นั้นเธอก็บังเอิญเห็นใครคนหนึ่งเดินผ่านมา เธอแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นหน้าคนๆนั้นชัดๆ
“นายพยัคฆ์”
หญิงสาวพยายามขยี้ตาอีกที คนๆนั้นก็ได้เดินหายไปแล้ว ศิริกัญญาตัดสินใจเดินออกไปตามทางที่ชายคนนั้นเดินไปเมื่อครู่ แต่ปรากฏว่าไม่ปรากฏแม้แต่เงาของชายคนนั้นแล้ว
“เอ แปลกๆ ช่วงนี้ทำไมเราถึงตาฝาดบ่อยนักนะยัยส้มเอ๊ย”
.........................................................................
รุ่งเช้าหญิงสาวเดินออกไปรอรถประจำทางที่ป้ายรถเมล์ตามปกติ เธอรู้สึกเหมือนมีใครกำลังเดินตามเธออยู่
หญิงสาวเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ก่อนจะรีบหลบเข้าแอบข้างกำแพง และปรากฏตัวสกัดคนที่บังอาจสะกดรอยเธอ
“ตามฉันมาทำไม”
ศิริกัญญาถามขึ้น แด่เธอกลับแปลกใจเมื่อเห็นเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่ง เด็กชายท่าทางตกใจกลัว เนื่องจากหญิงสาวตวาดถามด้วยเสียงอันดัง
เด็กชายตัวเล็กยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งใส่มือให้หญิงสาวก่อนจะรีบวิ่งหนีไปทันที ซึ่งสร้างความแปลกใจให้ศิริกัญญาไม่น้อย
หญิงสาวหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน มีข้อความสั้นๆเขียนเอาไว้ว่า
“ฝากไปรับเพื่อนพี่หน่อย มันไปประจำการที่นั่นครั้งแรก ยังไม่รู้จักที่ทาง ช่วยเป็นไกด์ให้มันหน่อยแล้วกัน…สันติ”
“บ้าจริงพี่สันต์เนี่ย ใช้แฟกซ์ทั้งๆที่รู้ว่าที่นี่แฟกซ์มันหาง่ายซะที่ไหนกัน”
หญิงสาวบ่นอุบอิบเมื่อได้รับแฟกซ์จากพี่ชายโดยไม่ทันตั้งตัวจากเด็กชายตัวน้อย หน้าตาตื่นตระหนกคนนั้น
ที่สถานีรถไฟ ศิริกัญญาเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายใจ เธอรู้สึกหงุดหงิดกับแฟกซ์ของพี่ชาย ที่ไม่รอบคอบเอาซะเลย
นอกจากจะไม่ระบุชื่อเพื่อน ไม่ระบุเวลามา แถมยังไม่ระบุลักษณะของเพื่อนที่จะมาอีกด้วย แล้วอย่างนี้เธอไม่ต้องนั่งรออยู่นี่ทั้งวันหรืองัยเนี่ย
ศิริกัญญาเผลอหลับไปบนม้านั่งตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่รอผู้โดยสารขาเข้าไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกอยู่ใกล้ๆ
“คุณครับๆ คุณศิริกัญญาใช่มั๊ยครับ”
หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงีย พบว่าเป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้ว หญิงสาวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง เธอแทบหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
“คุณ…เอ่อ…คุณ…”
“ผมภูวไนย เพื่อนของคุณสันติครับ คุณคงเป็นคุณศิริกัญญาหรือคุณส้มน้องสาวคุณสันติใช่มั๊ยครับ”
“เอ่อ… ใช่ค่ะ…ใช่ ฉันเป็นน้องสาวพี่สันติ ว่าแต่คุณชื่อภูวไนยงั้นเหรอคะ ไม่ใช่ชื่อพยัคฆ์เหรอคะ”
“เอ๊ะ! เปล่านี่ครับ ผมชื่อภูวไนยหรือเรียกสั้นๆว่าภู แต่ว่าคนที่ชื่อพยัคฆ์เป็นใครกันเหรอครับ”
“อ๋อ…เอ่อ เปล่าหรอก ไม่มีอะไร ว่าแต่ทำไมคุณถึงรู้ว่าเป็นฉันล่ะคะ”
“ก็อยู่นี่ มีคุณนั่งอยู่คนเดียวนี่ครับ”
ชายหนุ่มแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารตอบแบบยิ้มๆ
ศิริกัญญามองไปรอบๆ จริงด้วยสิ ที่นี่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียว มีแต่เธอที่นั่งหลับอยู่คนเดียวจริงๆเสียด้วย
“แหะๆ นั่นสินะคะ”
ศิริกัญญาหัวเราะแก้เก้อเบาๆ ในขณะที่ภูวไนยมองหน้าหญิงสาวอย่างงงๆ
ศิริกัญญาอธิบายเส้นทางไปค่ายทหารคร่าวๆ แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากเย็นเอาการสำหรับผู้มาใหม่ สุดท้ายหญิงสาวก็ต้องติดรถไปส่งเขาจนถึงที่ค่ายทหาร
...........................................................................
ก่อนเข้านอนหญิงสาวครุ่นคิดอย่างหนัก จะเป็นไปได้ไหมว่าคน 2 คนจะมีหน้าตาเหมือนกันยังกับแกะ
เท่าที่ดูเขาเหมือนจะจำเราไม่ได้ งั้นก็แปลว่าเขาไม่ใช่นายพยัคฆ์แน่ ถึงจะหน้าตาท่าทางเหมือนกับนายนั่นมากก็เถอะ
หญิงสาวล้มตัวลงนอน พลางครุ่นคิดถึงความทรงจำที่กรุงเทพฯช่วงที่อยู่กับพี่ชายจำเป็น จนกระทั่งเผลอหลับไปในที่สุด
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ