หนึ่งดวงใจ
-
เขียนโดย Mawmeaw
วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 16.41 น.
10 ตอน
26 วิจารณ์
19.44K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 09.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) สารภาพ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ไม่จริงนะยัยเกด คุณศิวดลทำไมคุณต้องโกหกยัยเกดแบบนั้นด้วย พูดสิว่าทั้งหมดที่คุณบอกกับยัยเกดเมื่อครู่มันไม่ใช่ความจริง”
บรรยากาศตึงเครียดขึ้นทุกที พีระวัตรรีบตามวรรณวิฬาร์ออกมาติดๆ เขาไม่รู้จะแก้ไขเหตุการณ์ตรงหน้าให้ผ่อนคลายกว่านี้ได้อย่างไรดี
“ที่ผมพูดมาทั้งหมดเมื่อครู่นี้เป็นความจริง ผมรักคุณครับคุณวรรณวิฬาร์ ผมหลงรักคุณตั้งแต่วันที่คุณแอบไปร้องเพลงปลดปล่อยอารมณ์อยู่ที่ม้านั่งในสวนสาธารณะในตอนเช้าวันนั้นแล้ว”
“พอเถอะคุณศิวดล คุณรู้มั้ยว่าคุณพูดอะไรออกไป คุณไม่นึกถึงความรู้สึกของยัยเกดคนรักของคุณบ้างเลยหรือไง”
“พอเถอะวรรณวิฬาร์ เธอก็หยุดพูดเสียที คนที่คุณศิวดลเขารักไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเธอต่างหากล่ะวรรณ เป็นเธอต่างหากที่เขารัก ขอให้เธอมีความสุขกับการสละโสดของเธอสักทีนะเพื่อนรัก หวังว่าจากนี้ไปเราคงไม่ต้องพบกันอีก”
พูดจบการะเกดก็วิ่งร้องไห้ออกไปจากร้านไอศครีมแห่งนี้ไปทันที
วรรณวิฬาร์ค่อยๆ ทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ เธอไม่ได้ร้องไห้ แต่ตอนนี้น้ำตาเธอตกในเสียแล้ว เพื่อนรักของเธอกำลังเป็นทุกข์อย่างหนักเพราะเธอเป็นต้นเหตุ
ทั้งๆ ที่วันนี้เธออุตส่าห์วางแผนกับนายพีระวัตรอย่างแนบเนียนเพื่อให้เพื่อนรักของเธอได้ปรับความเข้าใจกับคนรักของเธอเสียที
แต่กลับกลายเป็นว่าเธอทำให้เพื่อนของเธอต้องเสียใจอย่างหนัก และเธอกำลังสูญเสียมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่ดีไปเสียแล้วหรือนี่
ศิวดลเดินมาตรงหน้าหญิงสาวก่อนพูดว่า
“ผมขอโทษ ผมรู้ว่าสักวันเรื่องมันจะต้องลงเอยแบบนี้ แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะ ผมไม่ได้รักการะเกดแล้ว แต่ผมรักคุณต่างหากล่ะ วรรณวิฬาร์”
วรรณวิฬาร์ เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผู้พูดด้วยความผิดหวัง เธอไม่ได้ซาบซึ้งกับคำสารภาพของชายหนุ่มตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“คุณมันคนเห็นแก่ตัว คุณศิวดล คุณจะต้องเสียใจที่คุณทำให้ผู้หญิงดีๆ อย่างการะเกดหลุดมือไป”
“ไม่หรอก ผมไม่มีวันเสียใจ เพราะผู้หญิงที่ผมรักที่อยู่ตรงหน้าผมคนนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่ดีไม่แพ้การะเกดเลย”
ชายหนุ่มที่อยู่ในเหตุการณ์อีกคนที่ใครๆ อาจจะลืมเขาไปชั่วขณะ หลังจากที่เขาอดทนฟังอยู่นานมากแล้ว
พีระวัตรกระชากคอเสื้อศิวดลขึ้นมาก่อนจะใช้กำปั้นซัดเข้าที่ใบหน้าเขาเต็มแรงจนศิวดลเซถลาล้มลงไปกองกับพื้น
ศิวดลใช้มือเช็ดที่มุมปากพบว่ามีของเหลวสีแดงไหลลงมาพร้อมๆ กับความเจ็บปวดที่เริ่มเข้าจู่โจมเขา
“คุณดลผมอุตส่าห์คิดว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษนะ แต่ที่คุณทำอยู่นี่มันเหมือนการกระทำของคนขี้ขลาด เกดเขาก็เป็นเพื่อนผมคนหนึ่ง ทำไมคุณถึงต้องหลอกเธอด้วย”
ศิวดลเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าพีระวัตรด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ที่คุณชกหน้าผมไม่ใช่เพราะคุณเจ็บแค้นแทนการะเกดเพื่อนของคุณหรอก แต่ที่คุณชกหน้าผม เพราะผมดันไปรักผู้หญิงคนเดียวกันกับคุณใช่มั้ย ผมรู้ คุณก็ขี้ขลาดไม่ต่างจากผมหรอกคุณพี”
วรรณวิฬาร์อึ้งไปเมื่อได้ฟัง เธอเริ่มสับสนขึ้นมา เธอไม่เข้าใจว่าผู้ชายสองคนตรงหน้ากำลังพูดเรื่องจริงกับเธออยู่หรือเปล่า
“ใช่ผมรักวรรณวิฬาร์ ผมรักเธอ แต่ผมก็ไม่เคยหลอกลวงผู้หญิงอีกคนให้ต้องเสียใจ เหมือนอย่างคุณ คุณศิวดล”
หลังจากอดทนฟังอยู่นาน หญิงสาวหนึ่งเดียวในที่นั้น ก็เอ่ยแทรกขึ้นบ้างว่า
“พอทีทั้งคู่นั่นแหละ พวกคุณตื่นเสียทีเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกคุณจะต้องมาเถียงกันในเรื่องของฉัน แต่พวกคุณควรจะต้องยอมรับความจริงเสียที”
ทั้งคู่หันหน้ามาถามเกือบจะพร้อมกัน
“ความจริงอะไร คุณหมายความว่ายังไง วรรณวิฬาร์”
“ความจริงที่ว่าฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับพวกคุณทั้งสองคนเลยนะสิ คนที่ฉันรักมากที่สุดคือ การะเกด เพื่อนรักของฉันต่างหากล่ะ เชิญพวกคุณเถียงกันตามสบาย ฉันจะไปตามหายัยเกดล่ะ”
ว่าแล้วหญิงสาวก็ผละไปทันที ปล่อยให้ชายหนุ่มทั้งสองมองตามด้วยความรู้สึกผิดหวังไม่ต่างกัน
.....................................
มุมหนึ่งในสวนสาธารณะสราญรมย์
“มาแล้วเหรอยัยวรรณ ทางโน้นเป็นยังไงมั่ง”
“ไม่รู้สิ ถ้าไม่ฟัดกันจนตาย ก็คงชวนกันไปปรับทุกข์ที่ไหนสักแห่งแล้วล่ะมั้ง”
“วรรณ ทำอย่างนี้มันแรงไปหรือเปล่า เธอไม่รู้สึกผิดบ้างเหรอ ที่ทำให้ผู้ชายพวกนั้นอกหักไปพร้อมๆ กันถึง 2 คนน่ะ”
“ไม่หรอก เพราะฉันอยากช่วยเธองัยเกด ชีวิตของเธอจะได้ไม่ต้องจมอยู่กับพวกผู้ชายใจโลเลแบบนั้นอีกไง”
“ขอบใจมากนะวรรณ ฉันโชคดีจริงๆ ที่รู้จักกับเพื่อนดีๆ อย่างเธอ ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ฉันก็รู้แล้วว่าเรามีอะไรเหมือนๆ กัน โดยเฉพาะตอนนี้ ฉันพร้อมแล้วล่ะ”
“พร้อมอะไรของเธอกันยะ ยัยเกด”
“ก็พร้อมที่จะอยู่ชมรมเดียวกันกับเธอไง ชมรมนางสาวโสดสนิท”
ทั้งสองหัวเราะขึ้นพร้อมๆ กันอย่างอารมณ์ดี หลังจากผ่านพ้นเรื่องราวเศร้าๆ มาเหมือนๆ กันแล้ว
“ว่าแต่ยัยเกด ฉันว่านายพีเขาก็เป็นคนดีนะ ทำไมเธอไม่ให้โอกาสเขาบ้างล่ะ เท่าที่ฉันรู้จักเขามา เขาก็เป็นผู้ชายที่ใช้ได้คนหนึ่งเลยนะ”
“นี่เธอ เพิ่งสละโสดไปหยกๆ ยังจะมาทำตัวเป็นแม่สื่อให้เพื่อนได้อีกนะ ฉันเป็นหัวหน้าชมรมนี้นะยะ จะให้สละโสดได้ไง”
“ถามจริงๆ เธอไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ ตอนที่นายพีสารภาพว่าเขารักเธอน่ะ”
“ก็ไม่รู้สิ ตอนนั้นฉันรู้สึกไม่เชื่อใจผู้ชายทั้งสองคนนั้นเลยล่ะ แล้วอีกอย่างคำพูดของหมอนั่นน่าเชื่อถือซะที่ไหนกันล่ะ”
“เธอก็นะ นายพีระวัตรกับนายศิวดลนั่นมันคนละคนกันนะ แยกแยะหน่อยสิเพื่อน”
“เอ๊ะ! นี่ยัยเกด ดูเหมือนว่าเธอชักจะพูดแปลกๆ ทุกทีแล้วนะ ถามจริงเถอะ เธอกำลังจะบอกอะไรฉันกันแน่”
( โปรดติดตามตอนต่อไป…ตอนอวสาน )
บรรยากาศตึงเครียดขึ้นทุกที พีระวัตรรีบตามวรรณวิฬาร์ออกมาติดๆ เขาไม่รู้จะแก้ไขเหตุการณ์ตรงหน้าให้ผ่อนคลายกว่านี้ได้อย่างไรดี
“ที่ผมพูดมาทั้งหมดเมื่อครู่นี้เป็นความจริง ผมรักคุณครับคุณวรรณวิฬาร์ ผมหลงรักคุณตั้งแต่วันที่คุณแอบไปร้องเพลงปลดปล่อยอารมณ์อยู่ที่ม้านั่งในสวนสาธารณะในตอนเช้าวันนั้นแล้ว”
“พอเถอะคุณศิวดล คุณรู้มั้ยว่าคุณพูดอะไรออกไป คุณไม่นึกถึงความรู้สึกของยัยเกดคนรักของคุณบ้างเลยหรือไง”
“พอเถอะวรรณวิฬาร์ เธอก็หยุดพูดเสียที คนที่คุณศิวดลเขารักไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเธอต่างหากล่ะวรรณ เป็นเธอต่างหากที่เขารัก ขอให้เธอมีความสุขกับการสละโสดของเธอสักทีนะเพื่อนรัก หวังว่าจากนี้ไปเราคงไม่ต้องพบกันอีก”
พูดจบการะเกดก็วิ่งร้องไห้ออกไปจากร้านไอศครีมแห่งนี้ไปทันที
วรรณวิฬาร์ค่อยๆ ทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ เธอไม่ได้ร้องไห้ แต่ตอนนี้น้ำตาเธอตกในเสียแล้ว เพื่อนรักของเธอกำลังเป็นทุกข์อย่างหนักเพราะเธอเป็นต้นเหตุ
ทั้งๆ ที่วันนี้เธออุตส่าห์วางแผนกับนายพีระวัตรอย่างแนบเนียนเพื่อให้เพื่อนรักของเธอได้ปรับความเข้าใจกับคนรักของเธอเสียที
แต่กลับกลายเป็นว่าเธอทำให้เพื่อนของเธอต้องเสียใจอย่างหนัก และเธอกำลังสูญเสียมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่ดีไปเสียแล้วหรือนี่
ศิวดลเดินมาตรงหน้าหญิงสาวก่อนพูดว่า
“ผมขอโทษ ผมรู้ว่าสักวันเรื่องมันจะต้องลงเอยแบบนี้ แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะ ผมไม่ได้รักการะเกดแล้ว แต่ผมรักคุณต่างหากล่ะ วรรณวิฬาร์”
วรรณวิฬาร์ เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผู้พูดด้วยความผิดหวัง เธอไม่ได้ซาบซึ้งกับคำสารภาพของชายหนุ่มตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“คุณมันคนเห็นแก่ตัว คุณศิวดล คุณจะต้องเสียใจที่คุณทำให้ผู้หญิงดีๆ อย่างการะเกดหลุดมือไป”
“ไม่หรอก ผมไม่มีวันเสียใจ เพราะผู้หญิงที่ผมรักที่อยู่ตรงหน้าผมคนนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่ดีไม่แพ้การะเกดเลย”
ชายหนุ่มที่อยู่ในเหตุการณ์อีกคนที่ใครๆ อาจจะลืมเขาไปชั่วขณะ หลังจากที่เขาอดทนฟังอยู่นานมากแล้ว
พีระวัตรกระชากคอเสื้อศิวดลขึ้นมาก่อนจะใช้กำปั้นซัดเข้าที่ใบหน้าเขาเต็มแรงจนศิวดลเซถลาล้มลงไปกองกับพื้น
ศิวดลใช้มือเช็ดที่มุมปากพบว่ามีของเหลวสีแดงไหลลงมาพร้อมๆ กับความเจ็บปวดที่เริ่มเข้าจู่โจมเขา
“คุณดลผมอุตส่าห์คิดว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษนะ แต่ที่คุณทำอยู่นี่มันเหมือนการกระทำของคนขี้ขลาด เกดเขาก็เป็นเพื่อนผมคนหนึ่ง ทำไมคุณถึงต้องหลอกเธอด้วย”
ศิวดลเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าพีระวัตรด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ที่คุณชกหน้าผมไม่ใช่เพราะคุณเจ็บแค้นแทนการะเกดเพื่อนของคุณหรอก แต่ที่คุณชกหน้าผม เพราะผมดันไปรักผู้หญิงคนเดียวกันกับคุณใช่มั้ย ผมรู้ คุณก็ขี้ขลาดไม่ต่างจากผมหรอกคุณพี”
วรรณวิฬาร์อึ้งไปเมื่อได้ฟัง เธอเริ่มสับสนขึ้นมา เธอไม่เข้าใจว่าผู้ชายสองคนตรงหน้ากำลังพูดเรื่องจริงกับเธออยู่หรือเปล่า
“ใช่ผมรักวรรณวิฬาร์ ผมรักเธอ แต่ผมก็ไม่เคยหลอกลวงผู้หญิงอีกคนให้ต้องเสียใจ เหมือนอย่างคุณ คุณศิวดล”
หลังจากอดทนฟังอยู่นาน หญิงสาวหนึ่งเดียวในที่นั้น ก็เอ่ยแทรกขึ้นบ้างว่า
“พอทีทั้งคู่นั่นแหละ พวกคุณตื่นเสียทีเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกคุณจะต้องมาเถียงกันในเรื่องของฉัน แต่พวกคุณควรจะต้องยอมรับความจริงเสียที”
ทั้งคู่หันหน้ามาถามเกือบจะพร้อมกัน
“ความจริงอะไร คุณหมายความว่ายังไง วรรณวิฬาร์”
“ความจริงที่ว่าฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับพวกคุณทั้งสองคนเลยนะสิ คนที่ฉันรักมากที่สุดคือ การะเกด เพื่อนรักของฉันต่างหากล่ะ เชิญพวกคุณเถียงกันตามสบาย ฉันจะไปตามหายัยเกดล่ะ”
ว่าแล้วหญิงสาวก็ผละไปทันที ปล่อยให้ชายหนุ่มทั้งสองมองตามด้วยความรู้สึกผิดหวังไม่ต่างกัน
.....................................
มุมหนึ่งในสวนสาธารณะสราญรมย์
“มาแล้วเหรอยัยวรรณ ทางโน้นเป็นยังไงมั่ง”
“ไม่รู้สิ ถ้าไม่ฟัดกันจนตาย ก็คงชวนกันไปปรับทุกข์ที่ไหนสักแห่งแล้วล่ะมั้ง”
“วรรณ ทำอย่างนี้มันแรงไปหรือเปล่า เธอไม่รู้สึกผิดบ้างเหรอ ที่ทำให้ผู้ชายพวกนั้นอกหักไปพร้อมๆ กันถึง 2 คนน่ะ”
“ไม่หรอก เพราะฉันอยากช่วยเธองัยเกด ชีวิตของเธอจะได้ไม่ต้องจมอยู่กับพวกผู้ชายใจโลเลแบบนั้นอีกไง”
“ขอบใจมากนะวรรณ ฉันโชคดีจริงๆ ที่รู้จักกับเพื่อนดีๆ อย่างเธอ ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ฉันก็รู้แล้วว่าเรามีอะไรเหมือนๆ กัน โดยเฉพาะตอนนี้ ฉันพร้อมแล้วล่ะ”
“พร้อมอะไรของเธอกันยะ ยัยเกด”
“ก็พร้อมที่จะอยู่ชมรมเดียวกันกับเธอไง ชมรมนางสาวโสดสนิท”
ทั้งสองหัวเราะขึ้นพร้อมๆ กันอย่างอารมณ์ดี หลังจากผ่านพ้นเรื่องราวเศร้าๆ มาเหมือนๆ กันแล้ว
“ว่าแต่ยัยเกด ฉันว่านายพีเขาก็เป็นคนดีนะ ทำไมเธอไม่ให้โอกาสเขาบ้างล่ะ เท่าที่ฉันรู้จักเขามา เขาก็เป็นผู้ชายที่ใช้ได้คนหนึ่งเลยนะ”
“นี่เธอ เพิ่งสละโสดไปหยกๆ ยังจะมาทำตัวเป็นแม่สื่อให้เพื่อนได้อีกนะ ฉันเป็นหัวหน้าชมรมนี้นะยะ จะให้สละโสดได้ไง”
“ถามจริงๆ เธอไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ ตอนที่นายพีสารภาพว่าเขารักเธอน่ะ”
“ก็ไม่รู้สิ ตอนนั้นฉันรู้สึกไม่เชื่อใจผู้ชายทั้งสองคนนั้นเลยล่ะ แล้วอีกอย่างคำพูดของหมอนั่นน่าเชื่อถือซะที่ไหนกันล่ะ”
“เธอก็นะ นายพีระวัตรกับนายศิวดลนั่นมันคนละคนกันนะ แยกแยะหน่อยสิเพื่อน”
“เอ๊ะ! นี่ยัยเกด ดูเหมือนว่าเธอชักจะพูดแปลกๆ ทุกทีแล้วนะ ถามจริงเถอะ เธอกำลังจะบอกอะไรฉันกันแน่”
( โปรดติดตามตอนต่อไป…ตอนอวสาน )
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ