หนึ่งดวงใจ

-

เขียนโดย Mawmeaw

วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 16.41 น.

  10 ตอน
  26 วิจารณ์
  19.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 09.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) สละโสด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ก็…ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่มีอะไรจะบอกเธอเกี่ยวกับนายพีนั่น”

 

“เธอคิดจะบอกอะไรฉันงั้นเหรอ เกด”

 

“ก็…คือว่า ความจริงเรื่องทั้งหมดนี่ มันเป็นความคิดของนายพี ความจริงแล้วฉันกับคุณดลเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันหรอก เรารักกันมาก และเราก็กำลังจะมีข่าวดีเร็วๆนี้อยู่แล้ว”

 

“เธอหมายความว่ายังไงยัยเกด ฉันงงไปหมดแล้วนะ”

 

“ความจริงฉันเป็นแม่สื่อให้นายพี นายพีเขาแอบชอบเธอมานานแล้ว เธอจำได้มั้ย คืนที่มีคนโทรไปหาว่าเธอเป็นร้านเจ๊หมอนซักแห้งน่ะ ความจริงแล้ววันนั้นฉันเพิ่งไปแอบสืบเบอร์เธอมาได้และให้นายพีเขาไป”

 

“อ้อ งั้นคืนนั้น คนที่โทรไปก็คือนายพีสินะ”

 

“ใช่แล้วจ้ะ นายพีเขามาเล่าให้ฉันฟังตอนเช้าบอกว่าเมื่อคืนเขาลองโทรไปหาเธอหลังจากได้ยินเธอเปิดเพลงเศร้าๆ ฟังน่ะ แต่นายนั่นไม่กล้าพูดกับเธอ เลยแกล้งทำเป็นโทรผิดน่ะ”

 

“เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนนะ หมอนั่นรู้ได้ไงว่าฉันฟังเพลงก่อนนอนน่ะ”

 

“อ้อ ฉันลืมบอกไปอีกอย่าง นายพีเช่าห้องอยู่ติดกับเธอ เขาบอกว่าได้ยินคนห้องข้างๆ เปิดเพลงเศร้าๆ ฟังแทบทุกคืน สงสัยจะมีอารมณ์เดียวกัน จนเขาเห็นเธอเดินออกมาจากห้องนั่นแหละ เขาถึงได้บอกฉันว่าเขาเจอเนื้อคู่เข้าให้แล้ว”

 

“เอ๊ะ! หมอนั่นอยู่หอพักเดียวกับฉันงั้นเหรอ แล้วทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้านายนั่นเลยล่ะ”

 

“เธอล่ะก็นะ คนที่เขาแอบชอบใครอยู่ เขาจะกล้าปรากฏตัวต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอจ๊ะแม่คุณ”

 

“อ้อ เพราะงั้นเธอก็เลยแอบสืบประวัติฉันและร่วมกันสร้างเรื่องทั้งหมดนี่ขึ้นมา เพื่อให้ฉันเดินไปตามเกมของพวกเธองั้นสิ เจ้าเล่ห์กันจริงนะ”

 

“แหมๆ เปล่าซะหน่อย นายพีเขาก็แค่อยากให้เธอเห็นเขาโดยบังเอิญ เพราะเขาอยากเห็นหน้าเธอบ่อยๆ น่ะสิ เลยต้องสร้างเรื่องให้เธอต้องร่วมมือกับเขาเพื่อช่วยให้ฉันกับคุณดลปรับความเข้าใจกัน”

 

“แหม ฉันเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่าเพื่อนรักก็วันนี้นี่เอง”

 

วรรณวิฬาร์พูดประชดด้วยความไม่พอใจ หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากปากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักของเธอ

 

วรรณวิฬาร์พูดเป็นครั้งสุดท้าย

 

“เกด เห็นทีคราวนี้ต้องเป็นเราบ้างแล้วล่ะที่ต้องเป็นฝ่ายเดินหนีไปจากมิตรภาพจอมปลอมนี่ บอกตามตรงนะ ฉันโกรธเธอจริงๆ นะที่บังอาจร่วมมือกับหมอนั่นมาหลอกลวงฉัน”

 

ว่าแล้ววรรณวิฬาร์ก็เดินหนีไป เธอเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงัก เสียงเพลงดังแว่วมาให้ได้ยิน

 

“ไม่ได้ตั้งใจ ที่จะทำให้เข้าใจผิด ไม่ได้ตั้งใจ ที่จะทำให้เธอนั้นต้องโกรธ ไม่ได้กะเกณฑ์เรื่องความรัก หรืออะไรทั้งนั้น แค่เพียงตัวฉัน ขอให้คนข้างๆ กาย ได้มีรอยยิ้ม ความรักทุกครั้งที่เจอกัน ก็แค่เท่านั้นขอให้เธอจงเข้าใจ *เราดีกันนะ รักกันนะ ที่รักฟังทางนี้ ลองดูให้ดี ว่ามีใครทั้งคนคอยห่วงใย เราดีกันนะ แค่จะขอยกโทษให้ได้มั้ย ก็ไม่มีใคร จะมาแทนที่เธอได้ ก็รักเธอ…”

 

พีระวัตรเดินออกมายืนกลางเวทีขนาดใหญ่ที่ตั้งเด่นอยู่กลางสวนสราญรมย์ เขาประกาศเสียงดังฟังชัดว่า

 

“เพลงนี้ ผมขอมอบให้กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมแอบรักมานาน ซึ่งผมก็ได้ทำผิดต่อเธอเอาไว้ ผมรู้ตัวดีว่าเธอคงจะโกรธผมมากและเธอคงจะไม่ยอมให้อภัยผมง่ายๆ ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัวกับเธอ ผมแค่อยากมอบเพลงจากใจเพลงนี้ให้เธอฟังครับ”

 

เมื่อชายหนุ่มพูดจบ ดนตรีก็บรรเลงขึ้น และตามด้วยเสียงของนักร้องจำเป็นที่ตั้งใจร้องเพลงนี้ให้กับผู้หญิงที่เขารักที่กำลังยืนนิ่งอยู่

 

“ซ่อนตัวเองมานานเท่าไหร่ จะไปกลัวทำไมความรัก สิ่งที่เธอไม่เคยรู้จักเลยสักครั้ง หากเธอลองมองมาให้ดี ฉันมีเธอในใจเท่านั้น แค่เพียงเธอเข้ามาใกล้กันก็จะเข้าใจ

อาจไม่ดีราวกับเจ้าชาย อาจไม่คล้ายกับคนในฝัน แต่ก็พร้อมร้อนหนาวแทนเธอได้เสมอ จะกุมมือเวลาร้องไห้ เช็ดน้ำตานี้ให้กับเธอ อยู่ปลอบใจไม่ยอมห่างไกลให้เธอได้รู้ รักแท้ยังมีอยู่จริง

 

*หนึ่งดวงใจของฉัน อาจดูว่าไม่เท่าไร ถึงแม้ว่ามันไม่ยิ่งใหญ่พอก็เชื่อในรัก หนึ่งดวงใจดวงเดียวจากฉันขอทำให้เธอรู้จัก เพียงเธอจะเชื่อเหมือนกันกับฉัน รักแท้ยังมีอยู่จริง…”

 

วรรณวิฬาร์ค่อยๆ เดินตรงมาหน้าเวทีช้าๆ หน้าตาท่าทางเอาเรื่อง พีระวัตรเห็นท่าทางของเธอแล้ว เขาคิดว่างานนี้เวทีคงต้องพังแน่ๆ

 

หญิงสาวค่อยๆ เดินขึ้นมายืนบนเวทีเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม เธอเอ่ยขึ้นว่า

 

“ไม่คิดจะพูดอะไรกับฉันเลยเหรอ นายคิดว่าแค่นายร้องเพลงแค่นี้จะทำให้ฉันหายโกรธนายงั้นเหรอ มันง่ายไปหน่อยมั้ง”

 

“ผมรู้ ว่าผมทำให้คุณโกรธมากจริงๆ ผมขอโทษ ถ้าคุณอยากจะระบายความโกรธกับผมด้วยวิธีไหนได้ก็เชิญ”

 

“นายแน่ใจเหรอที่พูดน่ะ”

 

“แน่ใจสิ เพื่อให้คนที่ผมรักสบายใจขึ้น ให้ตายผมก็ยอม”

 

“ได้ นายพูดเองนะ”

 

วรรณวิฬาร์เอื้อมมือไปแย่งไมโครโฟนที่พีระวัตรถืออยู่ในมือมา ก่อนจะเงื้อมันขึ้นสุดแขน

 

ชายหนุ่มหลับตาปี๋ เขาแน่ใจว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เขาต้องลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นเวทีเป็นแน่ แต่ทว่า

 

เสียงดนตรีดังขึ้น ชายหนุ่มรู้สึกว่ามีมือเล็กๆ นุ่มๆ ของใครคนหนึ่งดึงมือเขาไปยังหน้าเวที เมื่อเขาลืมตาขึ้น เสียงใสๆ ดังขึ้น

 

 “เพราะว่าอยู่คนเดียวมานาน มันนานมากจนเกินไป ใกล้กับเธอทีไรใจฉันมันเลยไหวหวั่น ฉันก็บอกเธอไปตรงๆ ว่ามันชอบเธอมานาน และเก็บเอาเธอไปนอนฝันตลอดทั้งคืน มันเหงานี่นา เธอก็คงไม่ว่า หากมีเวลา ลองหันมามองสักที *อยากถูกเธอเรียกว่าแฟน อยากควงแขนเธอเหมือนใคร ขอให้บอกฉันต้องทำแบบไหน จะได้เธอเคียงข้างกาย อยากให้เธอเรียกว่าแฟน เดินเกี่ยวแขนSay Good night หน้าตาอย่างนี้ พอจะได้ไหม เปิดใจรับฉันหน่อยนะ…”

 

วรรณวิฬาร์ร้องเพลงให้เขา พร้อมๆ กับหันมายิ้มให้ชายหนุ่ม พีระวัตรรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองล่องลอยอยู่ในห้วงแห่งความฝัน เขาแทบอยากหยิกแขนตัวเอง เพื่อให้รู้ว่ามันคือความจริง

 

บทเพลงถูกขับร้องไปเรื่อยๆ พร้อมๆ กับความรู้สึกภายในหัวใจของหนุ่มสาวทั้งสองที่กำลังบรรเลง “ดนตรีแห่งความรัก” ไปพร้อมๆ กัน

 

จบบริบูรณ์ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา