ชิโนบิ
8.3
1) บทนำ:เริ่มต้นที่ตอนจบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทนำ
เริ่มต้นที่ตอนจบ
พ.ศ.๒๒๔0 ณ แผ่นดินสยาม
“ โฮ! ตาจ๊า สวยจังเลย ”
เสียงเด็กหญิงลูกครึ่งญี่ปุ่นอายุ ๙ ขวบ ยืนมองวิวทิวเขาสลับซับซ่อนปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี
“โฮ! สวยจริงๆด้วย หลานตาชอบหรอ”
เสียงที่ออกสำเนียงภาษาไทยไม่ค่อยชัดเท่าไรนักเพราะเนื่องจากเขาเป็นคนเชื่อชาติญี่ปุ่น
“จ๊ะตา อาชิคิดว่าเมื่อมองมัน รู้สึกสบาย” เด็กน้อยตอบรับตาผู้เป็นที่รัก
“ใช่ จริงด้วยนะ หลานตาช่างคิดจริงๆ” ชายแก่หัวเราะเบาๆกับความร่าเริงของหลานสาวคนเดียวที่ฉายแววฉลาดตั้งแต่เล็ก
“เรากลับบ้านกันเถอะอาชิ”
“จ่ะตา” ชายแก่พูดพร้อมยื่นมือให้กับหลานสาวที่หน้าตาน่ารัก
“ตาจ่า แล้วเราจะมาที่นี่อีกไหมจ๊ะ”
“เดี่ยวดูก่อน ถ้าตาขึ้นเขาอีกตาอาจจะพาอาชิมา”
“จริงนะตา ตาต้องสัญญากับอาชินะจ๊ะ ไชโย!” เด็กหญิงพูดด้วยความดีใจ
สองตาหลานเดินลงเขาได้ครึ่งทางชายแก่ก็หยุด เพราะตาได้เห็นความผิดปกติของป่าที่ไม่มีคนอาศัยอยู่เลยยกเว้นครอบครัวของเขาเท่านั้น
“เดี่ยวอาชิรอตาอยู่ตรงนี้นะ เดียวตามา”
เด็กหญิงไม่พูดอะไร ได้แต่พยักหน้ารับคำสั่งของตา
ชายแก่เดินสำรวจไปเลื่อยๆได้เห็นความผิดปกติของป่าโดยมีร่องรอยคนจำนวนมากเดินบุกมาเป็นทางกว้าง
เด็กหญิงสงสัยเสียงที่อยู่ข้างหลังตนจึงได้เดินไปตามเสียงนั้น มันอยู่หลังพุ่มไม้ เด็กหญิงแหวกพุ่มไม้ออกเห็นเด็กผู้ชายอายุราว ๑๓-๑๔ ขวบ นั่งอยู่ด้วยอาการหวาดกลัวและตัวสั่น เครื่องแต่งกายของเขานั้นบ่งบอกได้เลยว่าเขามิใช่คนป่าอย่างเธอซึ่งเครื่องแต่งกายของเด็กผู้ชายประดับด้วยทองมุขสีต่างๆชุดเสื้อผ้าสะอาดสะอานผิดกับเสื้อผ้าของเด็กหญิงที่เปื้อนโคลนดินเต็มไปหมด
“เจ้าเป็นใคร ทำไมมานั่งแถวนี้”
“ข้า….. หลงทาง” เสียงเด็กชายตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ไว้ใจกับคนที่เขาเจอว่าเป็นมิตรหรือศัตรู แต่ไงเขาก็คิดว่าอย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ชาย
“แล้วเจ้าจะไปไหนล่ะ”
“ ข้ากลับจากการประพาสป่าของพระเจ้าอยู่หัว” เด็กชายพูดพร้อมยกมือไหว้ท่วมหัว
“เจ้าคงเป็นคนเมือง เดี่ยวข้าจะไปส่งเจ้าเอง”
เด็กชายทำท่าทางดีใจที่มีคนช่วยแต่ก็แฝงความไม่แน่ใจมามากพอกัน
“ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรเล่า ว่าข้าจะออกจากป่านี้ได้โดยมีเจ้าพาข้าออกไป” เมื่อเด็กหญิงได้ยินคำสบประมาณของเขาก็พูดขึ้นมาว่า
“ข้าเป็นคนแถวนี้ อยู่มาหลายปีแล้ว ข้าชำนาญเส้นทางแถวนี้ดี เจ้ามั่นใจได้”
เด็กหญิงทำท่าอวดเก่ง”ถ้าเจ้ากลัวก็ไม่ต้องตามมา” พร้อมเดินนำทางเด็กชายที่อายุมากกว่าไปโดยลืมคำสั่งของตา ส่วนเด็กชายเมื่อได้ยินคำสบประมาณบ้างก็ต้องเดินตามหล่อนไป
เด็กหญิงพาเด็กชายมาส่งถึงกำแพงเมืองทางด้านหลังและก็ต้องสะดุ้งเมื่อเพิ่งนึกถึงคำสั่งของตาได้
“ตายล่ะ! ป่านนี้ตาหาข้าแย่แล้วละมั่งเนี่ย”
เด็กหญิงอุทานออกมาแล้วรีบวิ่งเข้าป่าอย่างรวดเร็วไม่ทันได้ฟังคำพูดของเด็กชายที่พยายามขอบคุณและถามชื่อนามของเด็กหญิงผู้น่ารักคนนี้ถึงเนื้อตัวจะเปื้อนไปด้วยโครนแต่ดูออกเลยว่าเด็กหญิงผู้นี้มีผิวพรรนขาวกว่าคนธรรมดาสามัญซึ่งไม่เหมือนเด็กชาวบ้านหรือชาวป่าทั่วๆไป เขามีความรู้สึกดีๆกับหล่อน ซึ่งเป็นผู้ช่วยเขาไว้แม้จะเป็นเพียงเวลาสั่นๆแต่เขาจะจำหล่อนไปจนตาย
เด็กหญิงกลับมาแต่ไม่พบตาของตนจึงเดินทางกลับบ้านก่อนเพราะคิดว่าตาคงรอลงโทษหล่อนอยู่ที่บ้านแล้ว
ทันใดที่เด็กหญิงเกือบถึงบ้านก็ได้ยินเสียงต่อสู้ที่บ้านของหล่อนเอง เด็กหญิงเดินเข้าไปใกล้เลื่อยๆภาพที่เห็นก็ต้องทำให้หล่อนหยุดทันที ภาพนั้นมีชายรูปร่างสูงตัวโตถือดาบแหลมคมแท่งเข้าที่ตัวของผู้เป็นพ่อของหล่อนเองและชายตัวเล็กแต่สูงผู้เป็นน้องชายของชายตัวโตก็ใช้มีดขนาดเล็กปลายแหลมปาไปที่ลำคอของแม่หล่อน คนชั่วร้ายพวกนี้ใช้ผ้าดำปิดหน้า เครื่องแต่งกายเป็นสีดำทั้งชุด
“พ่อ! แม่! แกเป็นใครทำไมต้องทำพ่อแม่ข้าด้วย” หล่อนตัดสินใจวิ่งเข้าไปหาชายตัวโต เด็กหญิงน้ำตาไหลแต่มือนั้นก็ต่อยคนใจร้ายพวกนั้นอย่างสุดชีวิตแม้หล่อนจะไม่มีแรงพอที่จะทำให้มันบาดเจ็บได้เลยก็ตาม แต่เป็นวิธีเดียวที่เด็กหญิงอายุเพียง ๙ ขวบจะปกป้องร่างของผู้เป็นพ่อและแม่หล่อนได้ไม่น้อยก็มาก แต่ใจก็รู้ว่ามันไม่ช่วยอะไรได้เลยกับการกระทำของหล่อนกับทำให้ตัวเองวิ่งมาหาความตายเร็วขึ้นเท่านั้นเอง
ชายคนหนึ่งจะใช้ดาบแท่งมายังตัวเด็กหญิงผู้น่าสงสาร แต่ตาของหล่อนก็มาทันเวลา ตาของหล่อนใช้ดาบยาวแหลมปัดดาบของชายคนนั้นได้
“พวกแกฆ่าลูกฉันทำไม”
“แกซินะ อาซูมิ ซามูไรที่ไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรได้”
“เผ่าคงโก*! พวกแกอยู่เผ่าคงโกใช่มัย ? ข้าเคยสัญญาแล้วไงว่าข้าจะไม่ยุ่งพวกเผ่าของแก”
“แต่น้องแกมายุ่ง” เสียงตะวาดโต้ขึ้นทันควัน
“เรื่องนั้นมันผ่านไปนานแล้ว แล้วมันก็จบไปนานแล้วด้วย” ชายแก่โต้กลับ
“ยัง! มันยังไม่จบง่ายๆอย่างนั้นหรอตาเฒ่าอาซูมิ มันฆ่าน้องชายข้า และวันนี้ก็ล้างแค้นสำเร็จ ฮาฮาฮา……” ชายตัวโตผู้โหดเหี้ยมหัวเราะด้วยความสะใจ
“ทำไมแกต้องทำกับลูกข้าด้วย เขาไม่รู้เรื่องนี้เลย” ชายแก่พูดด้วยความคับแค้นใจ
“แต่มันมีสายเลือดของน้องแกและก็แกอยู่ด้วย” ชายตัวเล็กได้พูดโต้ขึ้นอย่างไม่ละอาย
“และวันนี้ข้าก็จะฆ่าสายเลือดของเผ่าโอชิของแกให้หมด” ชายตัวโตพูดเสร็จก็หัวเราะออกมาอย่างน่ากลัวยิ่งนักและเริ่มกระบวนการต่อสู้กับตาของอาชิกระบวนการต่อสู้ของเขาทั้งสองสูสีกันมากจนไม่อาจเดาได้เลยว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ แต่ชายตัวโตผู้น่ากลัวก็พลาดท่าให้กับชายแก่อย่างหมดท่า ชายตัวเล็กเห็นดังนั้นจึงวิ่งเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่สามารถต่อกรกับกระบวนท่าของชายแก่ได้แม้แต่น้อยแต่กับทำให้ตัวเองบาดเจ็บ
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายตัวโตต้องตายแต่ชายตัวเล็กผู้น้องได้หนีรอดไปด้วยอาการบาดเจ็บ
“อาชิ หลานเป็นยังไงบ้าง” เด็กหญิงร้องไห้พร้อมกอดร่างไร่วิญญาณของผู้เป็นพ่อและแม่ของหล่อนอย่างน่าเวทนา ชายแก่ใช้มือลูบหัวหลานสาวอย่างเศร้าเสียงใจไม่แพ้กัน
*เผ่าคงโกเดิมทีมีพี่น้องตามสายเลือดเพียง ๓ คนเท่านั้น นอกนั้นที่อาศัยนามเผ่าคงโกเพื่อเอาตัวรอดจากอันตรายจากโจรหรือพวกที่เป็นเพียงญาติห่างๆ เผ่าคงโกเคยเป็นมิตรกับเผ่าโอชิแต่ไม่นานก็เกิดการบาดหมางกันขึ้นเนื่องจากการแย่งชิงความเป็นใหญ่ในแผ่นดินของหัวหน้าเผ่าทั้งสองจึงเกิดการประลองยุทธขึ้นโดยมีเงื่อนไขว่าตัวแทนเผ่าใดที่สามารถประลองยุทธแล้วชนะ เผ่านั้นจะเป็นผู้นำในแผ่นดินทำให้ฝ่ายเผ่าคงโกเสียสายเลือดคนกลางไปซึ่งเป็นผู้ที่แกร่งที่สุดในเผ่าคงโก แต่หัวหน้าเผ่าคงโกไม่ยอมเสียน้องชายไปฟรีๆจึงคิดที่จะล้างแค้นโดยสังหารเผ่าโอชิให้หมดทุกคนแต่ก็ไม่สำเร็จ
“อาชิ เจ้าพูดอะไรบ้าง พูดกับพ่อแม่หนูหน่อยซิ เขารอฟังอยู่นะ”
ตาหลานนั่งอยู่หน้าหลุมศพ๒ หลุมที่ปกคลุมด้วยดินพูนสูงพอเหมาะและมีดอกไม้หลากสีวางไว้ข้างหลุม
“พ่อ แม่ ข้าจะแก้แค้นให้ท่าน”
พอจบคำพุดที่แทรกด้วยความโกรธแค้นของเด็กผู้หญิง ๙ ขวบ ที่จริงจังเอาเรื่อง จากคำพูดนี้ทำให้ตาของอาชิเป็นห่วงหลานรักอย่างมากแต่ความแค้นนี้มันเกินจะห้ามหนักหนา
*หมายเหตุ:(นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการส่วนตัวของผู้แต่งเองและอ้างอิงประวัติศาสตร์เล็กน้อย ไม่ได้เกิดจากเรื่องจริงแต่อย่างใด)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ