ชิโนบิ
2) ความเดี่ยวดาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ๑
ความเดี่ยวดาย
พ.ศ.๒๒๕0 ณ แผ่นดินสยาม
เวลาหมุนเปลี่ยนไปหลายปี ตอนนี้ก็เป็นเวลาผ่านมา ๑0 ปีแล้ว จากเด็กหญิงที่ไม่พูดไม่จากับใครนอกจากตาของหล่อนเองนับตั้งแต่พ่อแม่ตายไป หล่อนเริ่มแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยการฝึกกระบวนท่าการต่อสู้ต่างๆที่ตาของหล่อนเป็นผู้สอนมาเป็นเวลา ๑0 ปีเต็ม ตาของหล่อนถ่ายทอดวิชาต่อสู้จนหมดกระบวนท่าที่จะสอน
หล่อนโตเป็นสาวและสวยน่ารัก แต่ตลอด ๑0 ปีหล่อนแทบจะไม่มีรอยยิ้มนอกจากจะยิ้มกับตาของหล่อนเท่านั้นจากเหตุการณ์วันนั้นมันทำลายความร่าเริงความสุขที่เด็กปกติควรจะมีไปแต่มันกลับทำให้หล่อนกลายเป็นคนเย็นชาไม่มีแม้แต่ความสุขแต่สิ่งที่มาแทนที่คือความแค้นและมันกลายเป็นปมมาตลอดสิบปี
“ตาจ้า วันนี้เราจะไปไหนจ๊ะ”
“ตาจะพาอาชิไปหาคนคนนึงที่จะช่วยดูแลอาชิแทนตาเมื่อตาไม่อยู่”
“ตา! ทำไมตาพูดเช่นนั้นล่ะ ตาต้องอยู่กับอาชิตลอด”
“คนเราฝืนสังขารไปได้ไม่นานหรอก สักวันตาก็ต้องจากโลกนี้ไป”
“ไม่ตา! อย่าพูดเช่นนั้นนะ อาชิจะอยู่กับตาจะไม่ไปไหน” หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่สั่นเพราะไม่อยากสูญเสียตาของหล่อนไปอีกถ้าเป็นเช่นนั้นก็หมายถึงเผ่าโอชิเหลือหล่อนเพียงคนเดียวและก็หมายถึงหล่อน…ไม่เหลือใครเลย
“เชื่อตานะอาชิ ถ้าอยากให้ตาจากโลกนี้อย่างสบายใจเชื่อตาและสัญญากับตาได้ไหม” ชายแก่พูดกับหลานสาวอย่างอ่อนแรง
“จ๊ะตา อาชิสัญญา” หญิงสาวพูดออกมาเพื่อเป็นการเบาใจแก่ตาของหล่อนเองแต่ใจจริงนั้นหล่อนแทบรับมันไม่ได้ที่จะต้องมาเสียเขาไปอีกคน
ตาหลานเดินมาถึงหมู่บ้านที่มีคนเดินกันวุ่นวายแต่ไม่รุกรานกัน พวกเขายิ้มแย้มให้กัน มันช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจยิ่ง แต่พวกชาวบ้านมองมาทางตาหลานก็มีการกระซิบระซาบและมองด้วยสายตาแปลกๆ เป็นธรรมดาที่ชาวบ้านทำท่าเช่นนี้เพราะตากับหลานนั้นเป็นคนแปลกหน้า ถ้าไม่ทำซิ ที่ว่าแปลกกว่ากันเยอะ
ตาหลานเดินมาถึงบ้านหลังใหญ่ มีคนใช้มากมายทำงานอย่างขะมักเขม้นแต่สายตาก็มองมาทางตาหลานด้วยความแปลกใจ
“ท่านอาซูมิ มาแล้วเชิญท่านขึ้นมากินน้ำกินท่าก่อนเถอะขอรับ กระผมรอท่านอยู่นึกว่าท่านจะมาไม่ถูกสะอีก” ชายอายุราวคราวเดียวกับพ่อของอาชิเดินมาอย่างนอบน้อม ภาษาคนอาวุโสกับคนที่อายุน้อยกว่าพร้อมคำพูดที่เคารพอย่างยิ่ง
เขามีนามว่ามั่นเคยเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายของพ่ออาชิ เขาเป็นขุนนางระดับสูงที่เดียว ส่วนพ่อของอาชินั้นก็เคยเป็นขุนนางระดับสูงอยู่ในรั้วในวังมาก่อนแต่เมื่อพ่อของอาชิได้มาพบรักกลับสาวชาวญี่ปุ่นก็แต่งงานกันอยู่กินฉันสามีภารยาก็คือแม่ของอาชิ มีชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งหวังที่จะมาแย้งชิงแผ่นดินสยามซึ่งไม่เกี่ยวกับเผ่าโอชิเลยแต่กับโดนหางเลขไปด้วยเพราะแค่เป็นคนญี่ปุ่นเหมือนกันทางวังหลวงจึงสั่งการทหารไปว่าใครที่เป็นชาวญี่ปุ่นให้สั่งประหารทันที พ่อของอาชิจึงโดนใส่ร้ายว่าเป็นกบฏแผ่นดินสยาม ตาของอาชิเลยพาหนีทหารจากทางวังหลวงไปอยู่ในป่าลึกแต่ก็หนีไม่รอดความตายที่เผ่าคงโกได้มอบให้พ่อกับแม่ของอาชิเอง
พอมาถึงเรือนชั้นบน ตาก็ได้สั่งอาชิให้ลงไปข้างล่างก่อน อาชิเดินชมบริเวณลานบ้านที่กว้างหลังบ้านมีลำธารน้ำไหลยาวเป็นทาง มีต้นไม้ปลูกเต็มบริเวณแต่ละต้นเป็นต้นไม้มีผลไม้บ้าง บางต้นก็มีดอกไม้หลากสีบ้าง บริเวณนั้นมีคนขุดดินพรวนดินอย่างขะมักเขม้น มีหญิงสาวถือเครื่องเทศเดินไปยังห้องเครื่องครัว เด็กหญิงชายวิ่งเล่นกันภาษาเด็กและท่าทางเป็นลูกหลานของบ่าวไพร่ในบ้านเศรษฐีนี้ด้วย
“ท่านคิดที่จะนำนางมาฝากไว้กับข้าน้อยจริงหรือ”
“ใช่ ข้าคิดดูแล้วไม่มีที่ไหนที่จะปลอดภัยกว่าที่นี้อีกแล้ว”
“ข้าน้อยขอสัญญาว่า ข้าน้อยจะดูแลนางเหมือนเป็นลูกแท้ๆคนหนึ่งเลย อีกอย่างข้าน้อยก็เป็นหนี้ชีวิตท่านซูมิ ถ้าวันนั้นท่านไม่ช่วยข้าน้อยปานนี้ ข้าน้อยคงไม่มีเมียมีลูกและเงินทองมากมายจนถึงวันนี้ พ่อของอาชิก็เป็นสหายกับข้าน้อย เมื่อมีเรื่องให้ช่วย ข้าน้อยมิอาจจะปฏิเสธได้”
“ตั่งแต่ลูกเขยและลูกสาวข้าตาย อาชิก็มีปมตั่งแต่นั้นมาข้าไม่อยากให้หลานสาวของฉันนั้นอยู่แต่ในป่า ข้าอยากให้ท่านช่วยส่งอาชิไปเรียนในวังหลวง”
“เรื่องนั้นท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้าจะส่งให้นางได้เรียน แล้วอีกอย่างข้าน้อยมีลูกสาวรุ่นราวคราวเดียวกันกับนาง จะได้ส่งไปเรียนพร้อมกับพวกนางจะได้มีเพื่อน”
“ถ้านางทำให้ท่านหนักใจหรือนางไม่เชื่อฟังท่านก็สามารถทำโทษนางได้ให้เหมือนกับลูกท่านคนนึง”
ชายทั้งสองพูดคุยหารือกันในเรื่องของอาชิ การที่ตาเฒ่าอาซูมิต้องการให้อาชิไปเรียนในวังหลวงก็เพื่อให้นางได้ใกล้ชิดพระเจ้าหลวงมากขึ้น นั้นหมายถึงความปรอดภัยก็ย่อมมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน และนายมั่นก็ทราบเหตุผลนี้ดี
อาซูมิสั่งลาอาชิแต่นางกับรู้สึกว่ามันอาจเป็นการสั่งครั้งสุดท้ายของตาตัวเอง
เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือนอาซูมิก็จากโลกไปอย่างสงบโดยมีหลานสาวทำศพให้อย่างเรียบร้อย นางเศร้าใจมาก เพราะนางไม่มีที่พึ่งทางใจแล้ว นับแต่ที่ตาของหล่อนจากไป ท่านอาซูมิได้มอบดาบซามูไรให้กับอาชิแล้วให้อาชิปกป้องดูแลพระเจ้าแผ่นดิน ที่ให้ท่านและอาชิอยู่แม้ชีวิตของอาชิจะเกิดอะไรขึ้น อาชิต้องปกป้องไม่ให้พระเจ้าแผ่นดิน เป็นคำสั่งสุดท้ายของตาอาชิ อาชิได้เหรียญประจำเผ่า ๒ เหรียญจากตาที่ต้องดูแลและเป็นทาญาติเผ่าโอชิคนสุดท้าย
“ท่านได้ข่าวหรือยังว่า ตาเฒ่าอาซูมิมันตายแล้ว”
“ข้ารู้แล้ว มันสมควรตายไปนานแล้วมันฆ่าพี่ข้า วันนั้นข้าไม่มีวันลืม”
เขาก็คือคนที่รอดพ้นน้ำมือของอาซูมิได้ในวันที่เขาและพี่ชายได้ไปลอบสังหารลูกสาวและลูกเขยของอาซูมิตาย เขาพูดพร้อมจับแผลเป็นที่ใบหน้าที่คู่อาริได้ฝากเอาไว้เมื่อสิบปีก่อน
“แต่มันยังเหลือทายาทอีกคนนะท่าน”
“ใคร” เขาทำเสียงข้องใจ
“เด็กนั้นไงที่อยู่กับตามัน สายของเราได้สืบมาว่าตาเฒ่าซูมิถ่ายทอดวิชาให้หมด ไม่แน่ว่าสักวันมันอาจจะมาแก้แค้นแทนตาของมันก็เป็นได้นะท่านไครสะ”
“ให้มันมาซิ ข้าไม่แกร่งกลัวมันแม้แต่น้อย” เขาตะวาดลูกน้องด้วยความแค้น
“แต…แต่มีปัญหาอยู่อย่างเดียวคือไม่มีใครรู้ว่าเด็กนั้นมันอยู่ที่ไหน”
“มันเป็นผู้หญิง ข้ายังจำได้เด็กที่มีดวงตาอาฆาตแค้นมาก มันมองหน้าข้าด้วยสายตาที่แข็งกร้าว ทั้งที่นังเด็กนั้นมันแค่ ๙ ขวบเท่านั้น แต่ความ
กล้าของมันเกินอายุ เผ่าของเราต้องระวังให้ดีสักวันมันจะมาเยี่ยมเผ่าเราก็เป็นได้”
สองชายที่เป็นศัตรูกับอาชิหารือกันแล้วมีการวางแผนยึดครองแผ่นดินสยาม
“ต่อไปนี้เจ้าต้องปิดบังฐานะของเจ้าทั้งหมดแล้วใช้ศักดิ์เป็นหลานสาวของข้าแทน เจ้าจะต้องเปลี่ยนชื่อจากอาชิเป็นพิมพิลาลัย”
“พิมพิราลัย หรือท่าน”
“เรียกข้าว่าลุงมั่นก็ได้ เจ้าก็คิดสะว่าที่นี่เป็นบ้านของเจ้าเลยแล้วกัน”
“จ๊ะลุง อา….เฮย พิมจะเชื่อฟังลุงมั่น”
“แล้วลุงจะช่วยปิดบังความลับนี้ไว้ด้วยอีกแรงแล้วกัน”
“พิมขอขอบพระคุงลุงมากที่ช่วยเหลือพิมมาตลอดนับตั่งแต่ตาของพิมเสียไป”
“ไม่เป็นไร ข้าต่างหากล่ะที่ต้องขอบพระคุณตาเจ้า ถ้าไม่มีตาของเจ้าก็ไม่มีลุงที่นั่งอยู่ตรงหน้าเจ้าแน่ พิมเอย”
อาชิหรือพิมพิราลัยได้มีหวังใหม่กับผู้ชายที่ดูอบอุ่นเหมือนพ่อคนที่สองของหล่อนไปแล้ว เขาดูเป็นกันเองกับหล่อนมาก คอยสั่งสอนชี้แนะทางถูกผิด เขาก็มีลูกสาวชื่อจันทราที่มีนิสัยค่อนข้างเอาแต่ใจ พิมจึงมีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ