เนตรสังหารนักล่าวิญญาณ
3) พลังปริศนาอันน่าสะพรึงกลัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความการประจันหน้าของบุคคลทั้งสอง กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้านี้แต่ทว่า ท่าทีของทั้งสองฝ่ายกลับหยุดนิ่งราวกับว่าถูกตรึงตัวไว้ให้ขยับเขยื้อนไม่ได้
“อะไรกันทั้งๆที่เมื่อกี้ต่อสู้กันอย่างรวดเร็วแต่ตอนนี้กลับหยุดนิ่งไปซะเฉยๆแบบนี้ละ”ชาญที่ดูเหตุการณ์อยู่พูดขึ้นกับตัวเองต่อสิ่งที่ได้เห็น
“คิดเอาไว้ไม่มีผิดแก ยังคงสู้ในแบบเดิมอยู่สินะ รอให้ศัตรูโจมตีก่อนแล้วใช้จังหวะสวนกลับเร็ว เพื่อสังหารในดาบเดียว แกนี่มันไม่รู้จักพัฒนาเลยนะ มิ..รา..ชื!”เสียงของเคียวคุพูดขึ้นแล้วก็เปลี่ยนเป็นระดับเสียงที่ดุดันขึ้นก่อนจะพุ่งทะยานตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
“ช่องโหว่เต็มไปหมด ย้า!!”มิราชิใช้ดาบแทงสวนใส่เคียวคุ
“หึ...หึ....”เสียงหัวเราะเบาๆอันเยือกเย็นของเคียวคุถูกเปล่งออกมาหลังจากที่เคียวคุกระโดดม้วนตัวข้ามศรีษะของมิราชิไป
“ไม่ได้โจมตีหรือว่า.... แย่แล้ว!”มิราชิเริ่มรู้ตัวขึ้นมาทันทีว่าโดนหลอก เพราะว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเคียวคุคือชาญนั่นเอง มิราชิจะหันกลับไปโจมตีเพื่อสกัดกั้นเอาไว้แต่สายเกินไปเสียแล้วเพราะเคียวคุห่างจากตัวเขามากเกินไป แต่มิราชิก็พยายามที่จะตามไปสกัดกั้นเอาไว้ให้
“หนีไปซะ!!!”เสียงตะโกนบอกของมิราชิที่ดังสั่นเครือบอกให้กับชาญให้หนีไปแต่ทว่ากลับสายจนเกินไปเสียแล้ว เพราะว่าเคียวคุเข้าถึงตัวของชาญแล้ว พาตัวเขากระโดดขึ้นไปอยู่บนหลังคาของบ้านหลังหนึ่ง
“ถึงได้บอกไงว่าแกไม่ได้พัฒนาเลยเจ้า มิราชิ”เคียวคุพูด แล้วก็กำลังเตรียมจะดูดกลืนดวงวิญญาณของชาญเข้าไป ดวงไฟสีขาวที่ค่อยล่องลอยออกมาจากปากของชาญ ค่อยเคลื่อนตัวเข้าไปในปากของเคียวคุ
“นี่แก....”มิราชิเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็รีบเร่งไปเพื่อยับยั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“มันสายเกินไปแล้วล่ะนะ เจ้ามิรา.....”เคียวคุยังไม่ทันจะพูดเสร็จก็โดนแรงอัดมหาศาลปะทะเข้าอย่างจังจนทำให้กระเด็นออกไป
“อะไรกันนะ เด็กนั่น?”มิราชิมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับคำถามที่เกิดในใจของตน
ร่างของชาญที่โดนดึงดวงวิญญาณออกจากร่าง ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะต้องหมดสติไปเป็นธรรมดาแต่ทว่าเขากลับต่อกรกับเคียวคุได้ด้วยพลังปริศนาที่ ดวงตาของชาญส่องประกายสีดำทมิฬ พร้อมด้วยกับลายอักขระบางอย่างที่ปรากฏอยู่กลางหน้าผากของเขา แล้วชาญก็พุ่งทะยานเข้าใส่เคียวคุในทันทีที่เขาทรงตัวได้
“พลังนี่มันอะไรกัน เจ้านี่ไม่มีทางที่จะลุกขึ้นมาได้แล้วนิ ทั้งที่ดวงวิญญาณออกจากร่างแล้วแท้ๆ แต่กลับมีพลังมากมายมหาศาลอย่างนี้”เคียวคุค่อยวิเคราะห์ชาญไปขณะที่เคลื่อนตัวหลบหมัดของชาญที่กระหน่ำเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง มีออร่าอยู่รอบๆหมัดของชาญทำให้ดูแล้วเป็นหมัดที่ทรงพลัง
“ไวเป็นบ้าเลยเจ้านี้ แต่ถ้าโดนจับแล้วมันจะทำอะไรได้”เคียวคุใช้พลังเรียกเชียกสีม่วงเข้มเส้นหนึ่งขึ้นมาแล้วโยนเข้าไปเพื่อมัดตรึงรางของชาญเอาไว้
“สำเร็จ ฤทธิ์มากนักใช่ไหมแก ตายซะเถอะ!”เคียวคุกระโดดพุ่งลงมาเสียบร่างของชาญที่โดนตรึงเอาไว้เชือกสีม่วงเข้มที่ส่องแสงออกมาตลอดเวลา ขณะที่ปลายดาบจะแทงชาญนั้น เชือกเส้นดังกล่าวก็เกิดขาดอย่างกะทันหัน
“ไม่จริงน่ะ !”เคียวคุหยุดชะงักเพราะว่าทันทีที่เชือกขาดชาญก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วราวกับว่าเขาสามารถหายตัวได้
“นี่แก.... อักกกกก!!!”เงาดำปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเคียวคุอย่างรวดเร็ว แต่เคียวคุยังไม่ทันจะได้หันไปมองอย่างเต็มตา ก็โดนหมัดที่ชาญเหวี่ยงเข้ามาจากทางด้านหลังปะทะจนกระเด็นได้กระทบกับกำแพง ด้วยความแรงของหมัดที่ชาญปล่อยออกมาถึงกับทำให้กำแพงที่เคียวคุไปโดนนั้นพังถล่มลงไปทั้งแถบ
“พลังร้ายกาจมาก นี่น่ะเหรอพลังที่เจ้าเคียวคุมันบอกในตอนแรก”มิราชิยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ
“หนอย.... แก... ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ”เคียวคุค่อยลุกจากซากปรักหักพังของกำแพง ก่อนที่จะใส่ผ้าคลุมสะบัดแล้วหนีหายไปในห่วงมิติ
“เก่งเหมือนกันนิเจ้าหนูไม่คิดว่านายสามารถจัดการเจ้าเคียวคุจนอยู่หมัดได้”มิราชิเห็นเหตุการณ์สงบจึงได้เข้ามาแล้วใช้มือเตะที่บ่าของชาญ แต่ชาญกลับไม่ได้ตอบอะไร อีกทั้งยังชกหมัดขวาเข้าใส่มิราชิ มิราชิใช้ฝักดาบขึ้นมากันหมัดแต่ฝักดาบกลับแหลกละเอียด จนมิราชิต้องตีลังกาถอยหลังเพื่อหลบระยะของหมัดที่พุ่งออกมา
“เฮ้ เจ้านั่นมันไปแล้วนะ นี่ชั้นเอง”มิราชิพูดเพื่อบอกกับชาญ แต่ชาญกลับเข้าโจมตีใส่เขาในทันที
“(เกิดอะไรขึ้นทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงไม่พูด แล้วก็โจมตีใส่เราอีก)”มิราชินึกในใจ
การโจมตีจากชาญที่กระหน่ำใส่มิราชิเช่นเดียวกับที่โจมตีใส่เคียวคุ ด้วยใบหน้าที่ดุดันและแววตาที่ส่องประกายแสงสีดำทมิฬ การโจมตีไม่ต่างจากการโจมตีที่โจมตีใส่เคียวคุ
“ตั้งสติหน่อยสิ การต่อสู้มันจบลงไปแล้วนะ”มิราชิพยายามพูดเรียกสติของชาญ แต่ชาญกลับยิ่งโจมตีใส่เขาหนักขึ้นไปอีก จนกระทั่งมิราชิพลาดในที่สุด เขาใช้แขนซ้ายขึ้นมาเพื่อจะจับหมัดของชาญแต่แรงปะทะที่มากเกินกว่าที่มิราชิจะรับไหวทำให้แขนซ้ายของมิราชิถูกแรงจากหมัดของชาญกระทำจนแขนของมิราชิบาดเจ็บสาหัส กระดูกแขนซ้ายเคลื่อน
“อ้า!”เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของมิราชิดังขึ้นหลังจากแขนของเขาได้รับการโจมตีจากชาญ มิราชิเซถลาถอยหลังลงไป และทรุดตัวลงไปนั่ง ชาญเองก็ได้เข้ามาเพื่อจะจัดการมิราชิ ดวงวิญญาณที่ล่องลอยของชาญได้เข้ามาหยุดการกระทำของร่างของเขา เอาไว้ แสงจากดวงจิตตรึงร่างของชาญเอาไว้และค่อยกลับคืนเข้าไปในปากของชาญอย่างช้าๆ ทันทีที่ดวงจิตกลับคืนสู่ร้างพลังปริศนาที่เกิดขึ้นก็หายไปในชั่วพริบตาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมทั้งชาญทรุดตัวลงไปเพราะหมดสติ
“เกือบไปแล้วสิ ถ้าไม่มีดวงจิดนั่นสะกดร่างของเด็กนี่เอาไว้ล่ะก็ได้ เราคงตายไปแล้ว”มิราชิที่นั่งอยู่กับพื้นด้วยลมหายใจโรยรินจากการโจมตีของชาญ
เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที
มิราชิพยายามพยุ่งตัวขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเลเพราะแขนซ้ายของเขาในตอนนี้ใช้การไม่ได้เลย ซึ่งชาญเองก็ได้ฟื้นคืนสตืขึ้นมา
“แย่แล้ว ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”ชาญได้สติก็ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือซะดังลั่น
“นี่ ไม่มีอะไรแล้วล่ะ นายปลอดภัยแล้วนะจะโวยวายทำไม”มิราชิพูดขึ้นขณะที่ยืนอยู่ด้านหลังของชาญ
“ปลอดภัยแล้วงั้นเหรอ แล้วปีศาจตัวนั้นไปไหนแล้ว”ชาญมองสำรวจตัวเองก่อนจะถามมิราชิถึงปีศาจที่จับตัวของเขาไป
“เจ้านั่นมันหนีไปแล้วล่ะ”มิราชิตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยอ่อน
“แขนของคุณ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ”ชาญถามอย่างเป็นห่วง
“เข้าบ้านก่อนเถอะ แล้วชั้นจะเล่าให้ฟัง”มิราชิเดินเข้าบ้านโดยที่ใช้แขนขวาพยายามประคองแขนซ้ายไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ