เนตรสังหารนักล่าวิญญาณ

10.0

เขียนโดย Keng

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 03.19 น.

  5 chapter
  19 วิจารณ์
  11.68K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) บทเรียนนักล่าวิญญาณ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

มิราชิและชาญเดินกลับเข้ามาในบ้านและทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับมิราชิ แขนของมิราชิที่บาดเจ็บถูกพันเอาไว้ด้วยผ้ากอซ และผูกแขนรั้งเอาไว้กับคอ ก่อนจะมานั่งกันที่โซฟาในห้องรับแขกเพื่อพักผ่อนหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

                “แขนของคุณโดนเจ้านั่นจัดการงั้นเหรอ”ชาญถามขึ้นหลังจากนั่งลงบนโซฟา

                “เปล่าหรอก”เสียงของมิราชิตอบกลับมา

                “ไม่ใช่อย่างงั้นเหรอ แล้วเกิดจากอะไรกันล่ะครับ”ชาญยังคงซักถามเพื่อหาคำตอบ

                “ช่างมันเถอะ แต่ว่าหลังจากนี้คงจะไม่สงบสุขอีกต่อไปแล้วล่ะ ตอนนี้ชั้นเองก็คงจะช่วยปกป้องนายเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้น ทางเดี๋ยวที่นายจะเอาตัวรอดได้ นายต้องเป็นนักล่าวิญญาณ”มิราชิพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดและจริงจังขึ้น

                “เป็นนักล่าวิญญาณงั้นเหรอ....”ชาญพูดในขณะที่รู้สึกอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินจากปากของมิราชิ

                “ใช่”มิราชิพูดขึ้น

                “ด.... เดี๋ยว....ก่อน..สิ ผมยังไม่ได้ตอบตกลงเลย”

                “นายไม่มีโอกาสปฏิเสธอีกแล้วล่ะ เพราะนั้นเป็นหนทางเดียวที่จะรักษาชีวิตของนายและก็ชั้นเอาไว้ นายจะต้องเป็นนักล่าวิญญาณให้ได้ ไม่ชั้นทั้งนายและชั้นอาจจะถูกโซลเลสฆ่าตายตอนไหนก็ได้ อีกอย่างนายเองก็จะได้ฝึกการใช้เนครส่องวิญญาณด้วย”มิราชิพูดขึ้น

                “ขอเวลาผมทำใจก่อนได้ไหม”ชาญพยายามต่อรองเพื่อบ่ายเบี่ยง

                “ไม่ได้!”มิราชิตะวาดเสียงแข็งใส่ชาญ

                “ก็ได้  ผมตกลง”ชาญจำใจต้องตอบตกลงไป

            “อืม”มิราชิพูดแล้วเดินไปหยุดยังหน้าห้องเก็บของที่อยู่ห่างออกไปจากห้องนั่งเล่นไม่ไกลมากนนัก  แล้วเข้าไปโยกคันสวิทซ์ “ครืนนน”เสียงของเหล็กที่เป็นกลไกของประตูลับใต้ดินกำลังแยกออกเพื่อเปิดช่องทางลับใต้ดินดังขึ้น

                “มีห้องใต้ดินด้วยอย่างงั้นเหรอ”ชาญถามขึ้นหลังจากเห็นประตูลับห้องใต้ดิน

ด้านล่างเป็นทางเดินยาวที่ทอดลงไปด้านในเงามืดจน จนมองแทบจะไม่เห็นอะไรเลย มิราชิจึงได้เปิดไฟ แสงไฟที่ค่อยๆสว่างไล่เรียงไปทีละดวงทีละดวง จนสร้างความสว่างให้กับห้องลับใต้ดินแห่งนี้ราวกับว่าอยู่บนสนามกลางแจ้งเลย ซึ่งภายในเป็นเพียงลานกว้างๆ

                “พาผมมาที่นี่ทำไมงั้นเหรอ”ชาญถามไป

                “ที่นี่คือสถานที่ฝึกวิชาล่าวิญญาณของชั้น ดังนั้นชั้นจึงพานายมาเพื่อเรียนวิชาล่าวิญญาณที่นี่”มิราชิพูดขึ้น แล้วค่อยๆเดินเข้าไปในลานกว้าง

                “แต่ว่าคุณยังบาดเจ็บอยู่เลย แล้วจะสอนผมได้อย่างไง”ชาญถาม

มิราชิก็เคลื่อนตัวด้วยความรวดเร็วจากกลางลานกว้างแล้วมายืนอยู่ที่ด้านหลังของชาญในเวลาเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น “ถึงแขนชั้นจะบาดเจ็บก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรไม่ได้เลยนะ อย่าได้ดูถูกชั้นไปหน่อยเลย”มิราชิพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเย็นเยือก

                “ข... เข้าใจ...แล้วครับ”ชาญตอบอย่างหวาดกลัวต่อพลังความสามารถของมิราชิที่มีอยู่

                “เอาล่ะนอกเรื่องมามากแล้ว ชั้นจะเริ่มอธิบายให้ฟังก่อนคร่าวๆก็แล้วกัน สิ่งที่นักล่าวิญญาณทุกคนจะต้องมีนั่นคือเนตรส่องวิญญาณ ถึงตัวเธอเองจะมีพลังของเนตรส่องวิญญาณก็จริงแต่ว่า ยังไม่รู้จักวิธีใช้และการควบคุม จากการที่ชั้นสังเกตเนตรส่องวิญญาณของนายจะต้องมีปฏิกิริยาจากพลังของวิญญาณและโซลเลสมากระทบจึงจะสามารถใช้เนตรส่องวิญญาณได้ แต่ว่ามันอาจจะใช้ไม่ได้กับโซลเลสพวกที่สามารถซ่อนรูปพลังงานของมันได้ ดังนั้นบทเรียนในวันนี้คือการเบิกเนตรส่องวิญญาณ”มิราชิอธิบาเพื่อนำเข้าเรื่องที่เขาจะสอนชาญ

                “แล้วผมควรจะต้องทำอย่างไง”ชาญถามขึ้น

                “ก่อนอื่นนายจะต้องทำจิตให้สงบก่อน เมื่ออยู่ในภาวะสงบแล้ว พลังสัมผัสพิเศษจะเริ่มแสดงผลออกมาเอง และนายจะต้องจับสัมผัสความรู้สึกนั้นเอาไว้ให้ได้ เพราะนั่นจะเป็นใบเบิกทางสู่การใช้เนตรส่องวิญญาณ”

                “ทำจิตใจให้สงบงั้นเหรอ ถึงจะพูดแบบนี้ก็เถอะ แต่มันก็ยังเข้าใจยากอยู่ดี”

                “งั้นเหรอยังไม่เข้าใจอยู่ดีสินะ การทำจิตให้สงบคือการตัดสิ้นสัมผัสทั้ง 5 อย่างไงล่ะ”มิราชิอธิบายเพิ่มเติม

                “ตัดสัมผัสพิเศษทั้ง 5 มันจะเป็นไปได้อย่างไง คนเราไม่สามารถหยุดสัมผัมพิเศษทั้ง 5 ของตนเองเอาไว้ได้หรอก”ชาญพยายามโต้เถียงกลับไป

                “อันที่จริงชั้นมีวิธีลัดที่ชั้นคิดค้นขึ้นมาเอง ว่าแต่นายสนใจหรือเปล่าล่ะ ถ้าสนใจก็ลองเดินตามมาเลย”มิราชิถามความเห็นของชาญ

                “สนใจสิ”ชาญพูดแล้วทำท่าทางดีใจขึ้นมาเล็กน้อย แล้วเดินตามมิราชิไป ขณะที่ชาญเดินตามมิราชิไปพลางมองดูรอบไป อยู่มิราชิก็ใช้ความเร็วเคลื่อนตัวหายในด้วยความเร็วอีกครั้งต่อหน้าต่อตาของชาญ “พรึบ”เสียงของไฟที่ดับกะทันหัน ทำให้มืดลงอย่างกระทัน “ครืนนน”เสียงของวัตถุบางอย่างกำลังเคลื่อนที่รอบๆตัวของชาญ

                “คุณมิราชิ นี่มันอะไรกัน”ชาญตะโกนเรียกมิราชิอย่างกระวนกระวาย

                “นี่ไงล่ะวิธีลัด นี่คือการตัดสัมผัสแรกคือ สัมผัสทางการมองเห็น”มิราชิเริ่มบอกอธิบาย

                “เอาล่ะชั้นจะค่อยใช้พลังวิญญาณของชั้นช่วยนายตัดสัมผัมไปที่ละสัมผัส ต่อสัมผัสที่สอง การสัมผัสกลิ่น”มิราชพูดขึ้นแล้วแล้วใช้พลังตัดสัมผัสการสัมผัสกลิ่นของชาญ

“สัมผัสที่สาม สัมผัสแห่งการลิ้มรสและสื่อสาร”มิราชิค่อยๆเพิ่มระดับการตัดสัมผัสทั้งห้าของชาญไปเรื่อย

 “สัมผัสที่สี่ สัมผัสแห่งความรู้สึก”เมือตัดสัมผัสแห่งความรู้สึกทำให้ชาญเหมือนลอยเวิ้งว้างไร้แรงสัมผัส

“และสุดท้ายสัมผัสแห่งการได้ยิน”สิ้นเสียงของมิราชิทุกอย่างก็เงียบลงไป ไม่มีแม้แต่เสียงลมพัดหรือเสียงใดๆผ่านเข้าไปในหูชาญแม้แต่น้อย

ชาญในตอนนี้ไม่รับรู้สิ่งอื่นใดที่เกิดขึ้นรอบๆตัวของเขาเลยเพราะมิราชิได้ใช้พลังช่วยตัดสัมผัสให้กับชาญ จนทำให้ชาญ เริ่มรู้สึกกลัวไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้ดลิ่น ไม่สามารถสัมผัสสิ่งรอบๆได้ ลิ้นรับรสไม่ได้และไม่มีเสียง “นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ยยยย!!!”เสียงของชาญที่ดังก้องอยู่ภายในใจที่ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา