มนต์รักสาว Otop
8.8
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ พอตาได้ยินคำตอบของหนูน้อย ก็พลันทำให้ตานึกถึงภาพในอดีตเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เย็นวันที่ฝนตั้งเค้ามาว่ากำลังจะตกลงมา ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มเต็มไปด้วยก้อนเมฆสีดำปกคลุมทั่วท้องฟ้า ลมเริ่มพัดแรงขึ้น แรงขึ้นทุกที ตาเผื่อนนึกบ่นพึมพำว่า “ฝนทำไมจะต้องมาตกวันนี้ด้วยนะ เวลาจะให้ตกก็ไม่ตก เวลาไม่อยากตกก็ชอบตกนักเชียว จะตกอะไรกันนักกันหนาเนี่ย” ปากก็บ่นมือก็รีบขนกระสอบข้าวเปลือกขึ้นกระบะท้ายรถอีแต๋นคู่ใจ แล้วรีบขับอีแต๋นมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างรวดเร็วกลัวฝนจะตกลงมาทำให้ข้าวเปลือกเสียหาย “แต่ถึงจะรีบยังไงก็คงไม่เร็วไปกว่านี้ ก็ทางแสนจะขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ รถอีแต๋นก็เก่า เห้อ” ตาเผื่อนได้แต่บนพึมพำ
พอมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน ด้านขวามือจะมีศาลาเก่า ๆ สภาพทรุดโทรมใกล้จะพังแหล่มิพังแหล่ เป็นที่พักโดยสารของคนที่จะเดินทางเข้าไปในเมือง ซึ่งนาน ๆ ทีจะมีรถโดยสารผ่านมาซักคันหนึ่ง จึงไม่มีใครคิดจะซ่อมแซมปรับปรุงศาลานี้ คงเพียงรอเวลาว่าเมื่อไหร่มันจะพังลงมาซะที ในขณะที่ตาเผื่อนมัวแต่มองศาลาเก่า ๆ นั้น พลันก็ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องไห้เสียงดัง ดังมาก มากแค่ไหนนะเหรอ ก็มากพอที่จะกลบเสียงอีแต๋นของตาเผื่อนได้ก็แล้วกัน ตาเผื่อนรีบหยุดรถดับเครื่องยนต์อีแต๋นของแก เพื่อหาต้นตอของเสียงร้องนั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นตระกร้าหวายใบหนึ่งในศาลาเก่า ๆ นั้น ตาเผื่อนรีบลงไปดู ยิ่งเดินเข้าใกล้มากเท่าไร เสียงร้องก็ยิ่งดังมากขึ้น
“เห้ย ตายละหว่า ! นี่มันอะไรกันเนี่ย” ตาเผื่อนถึงกับอุทานออกมาเสียงดังเมื่อมองเข้าไปในตระกร้าหวายนั้น ก็ภาพที่เห็นมันคือ ทารกตัวน้อยๆ กำลังดิ้นไปดิ้นมา พร้อมกับส่งเสียงร้องไห้ “อุ๊แว้ อุ๊แว้ อุ๊แว้” ตลอดเวลา ตามตัวเต็มไปด้วยผื่น ตุ่มเล็ก ๆ เต็มไปหมด คาดว่าคงถูกมด แมลง หรือไม่ก็ยุ่งกัด ตาเผื่อนยืนตะลึงทำอะไรไม่ถูกเลย พอได้สติก็รีบอุ้มหนูน้อยมาปลอบ “โอ๋ๆ อย่าร้องนะลูก เงียบซะนะ เงียบซะ ขวัญเอ้ยขวัญมานะลูก” ตาเผื่อนเหลือบตาไปในตระกร้าใบนั้นเห็นขวดนมที่ชงแล้วก็รีบเอามาให้ทารกน้อยกิน ทารกรีบดูดขวดนมอย่างรวดเร็ว “ดูท่าทางหนูคงจะหิวมากเลยนะเนี่ย” “ใครกันนะที่พาหนูมาทิ้งไว้ตรงนี้” “เอหรือว่าพ่อแม่หนูจะอยู่แถวนี้” ว่าแล้วตาเผื่อนก็ตะโกนไปรอบ ๆ ศาลาเพื่อเรียกหาพ่อแม่ของทารกน้อย ตาเผื่อนเรียกหาอยู่นาน ก็ไม่เห็นมีใคร
ตาเผื่อนเริ่มหันรีหันขวาไม่รู้จะทำยังไงดี ใจก็เริ่มกังวล จะอยู่รอเรียกหาตัวพ่อแม่ของทารกน้อยก็กลัวฝนจะตกลงมาเปียกข้าวเปลือกที่อยู่บนท้ายรถอีแต๋น จะทิ้งทารกไว้ก็กลัวเด็กจะตาย ไม่รู้จะทำยังไงดี เดินอุ้มทารกไปมาจนในที่สุดก็ตัดสินใจ “วันนี้หนูไปอยู่กับตาก่อนนะ” “เดี๋ยวพรุ่งนี้ตาค่อยตามหาพ่อแม่ของหนูให้ใหม่นะ” “ดูสิฝนกำลังจะตกแล้ว พายุใหญ่กำลังจะมา เรารีบไปกันเถอะนะ” ว่าแล้วตาเผื่อนก็รีบอุ้มหนูน้อยวางลงในตระกร้าหวายแล้วหิ้วตระกร้าหวายไปขึ้นรถอีแต๋นที่จอดอยู่
แต่เจ้ากรรมอีแต๋นซึ่งเก่ามาก มากพอ ๆ กับความแก่ของตาเผื่อนมันทำพิษซะแล้ว สตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติดซะที “ดูสิเนี่ย จะทันก่อนฝนตกมั้ย” “เจ้าประคู้ณ ขอให้คราวติดซะทีเถิด ไม่งั้นทั้งคนทั้งข้าวคงเปียกหมดแน่” ได้ผลแฮะ ในที่สุดรถอีแต๋นก็สตาร์ทติด ตาเผื่อนไม่รอช้ารีบมุ่งหน้ากลับบ้านทันที
เรื่องราวต่อไปของทารกน้อยจะเป็นยังไงนะ แล้วพ่อแม่ของทารกเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงต้องทิ้งทารกแล้วที่นี ติดต่อได้ในตอนต่อไปนะคะ
พอมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน ด้านขวามือจะมีศาลาเก่า ๆ สภาพทรุดโทรมใกล้จะพังแหล่มิพังแหล่ เป็นที่พักโดยสารของคนที่จะเดินทางเข้าไปในเมือง ซึ่งนาน ๆ ทีจะมีรถโดยสารผ่านมาซักคันหนึ่ง จึงไม่มีใครคิดจะซ่อมแซมปรับปรุงศาลานี้ คงเพียงรอเวลาว่าเมื่อไหร่มันจะพังลงมาซะที ในขณะที่ตาเผื่อนมัวแต่มองศาลาเก่า ๆ นั้น พลันก็ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องไห้เสียงดัง ดังมาก มากแค่ไหนนะเหรอ ก็มากพอที่จะกลบเสียงอีแต๋นของตาเผื่อนได้ก็แล้วกัน ตาเผื่อนรีบหยุดรถดับเครื่องยนต์อีแต๋นของแก เพื่อหาต้นตอของเสียงร้องนั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นตระกร้าหวายใบหนึ่งในศาลาเก่า ๆ นั้น ตาเผื่อนรีบลงไปดู ยิ่งเดินเข้าใกล้มากเท่าไร เสียงร้องก็ยิ่งดังมากขึ้น
“เห้ย ตายละหว่า ! นี่มันอะไรกันเนี่ย” ตาเผื่อนถึงกับอุทานออกมาเสียงดังเมื่อมองเข้าไปในตระกร้าหวายนั้น ก็ภาพที่เห็นมันคือ ทารกตัวน้อยๆ กำลังดิ้นไปดิ้นมา พร้อมกับส่งเสียงร้องไห้ “อุ๊แว้ อุ๊แว้ อุ๊แว้” ตลอดเวลา ตามตัวเต็มไปด้วยผื่น ตุ่มเล็ก ๆ เต็มไปหมด คาดว่าคงถูกมด แมลง หรือไม่ก็ยุ่งกัด ตาเผื่อนยืนตะลึงทำอะไรไม่ถูกเลย พอได้สติก็รีบอุ้มหนูน้อยมาปลอบ “โอ๋ๆ อย่าร้องนะลูก เงียบซะนะ เงียบซะ ขวัญเอ้ยขวัญมานะลูก” ตาเผื่อนเหลือบตาไปในตระกร้าใบนั้นเห็นขวดนมที่ชงแล้วก็รีบเอามาให้ทารกน้อยกิน ทารกรีบดูดขวดนมอย่างรวดเร็ว “ดูท่าทางหนูคงจะหิวมากเลยนะเนี่ย” “ใครกันนะที่พาหนูมาทิ้งไว้ตรงนี้” “เอหรือว่าพ่อแม่หนูจะอยู่แถวนี้” ว่าแล้วตาเผื่อนก็ตะโกนไปรอบ ๆ ศาลาเพื่อเรียกหาพ่อแม่ของทารกน้อย ตาเผื่อนเรียกหาอยู่นาน ก็ไม่เห็นมีใคร
ตาเผื่อนเริ่มหันรีหันขวาไม่รู้จะทำยังไงดี ใจก็เริ่มกังวล จะอยู่รอเรียกหาตัวพ่อแม่ของทารกน้อยก็กลัวฝนจะตกลงมาเปียกข้าวเปลือกที่อยู่บนท้ายรถอีแต๋น จะทิ้งทารกไว้ก็กลัวเด็กจะตาย ไม่รู้จะทำยังไงดี เดินอุ้มทารกไปมาจนในที่สุดก็ตัดสินใจ “วันนี้หนูไปอยู่กับตาก่อนนะ” “เดี๋ยวพรุ่งนี้ตาค่อยตามหาพ่อแม่ของหนูให้ใหม่นะ” “ดูสิฝนกำลังจะตกแล้ว พายุใหญ่กำลังจะมา เรารีบไปกันเถอะนะ” ว่าแล้วตาเผื่อนก็รีบอุ้มหนูน้อยวางลงในตระกร้าหวายแล้วหิ้วตระกร้าหวายไปขึ้นรถอีแต๋นที่จอดอยู่
แต่เจ้ากรรมอีแต๋นซึ่งเก่ามาก มากพอ ๆ กับความแก่ของตาเผื่อนมันทำพิษซะแล้ว สตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติดซะที “ดูสิเนี่ย จะทันก่อนฝนตกมั้ย” “เจ้าประคู้ณ ขอให้คราวติดซะทีเถิด ไม่งั้นทั้งคนทั้งข้าวคงเปียกหมดแน่” ได้ผลแฮะ ในที่สุดรถอีแต๋นก็สตาร์ทติด ตาเผื่อนไม่รอช้ารีบมุ่งหน้ากลับบ้านทันที
เรื่องราวต่อไปของทารกน้อยจะเป็นยังไงนะ แล้วพ่อแม่ของทารกเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงต้องทิ้งทารกแล้วที่นี ติดต่อได้ในตอนต่อไปนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ