ลิขิตรัก สองหัวใจ (โอม เฌอปราง bnk48) เรื่องนี้ลง เว็บนี้ Readawrite และ Dek-D

-

เขียนโดย ณัฐพล

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 22.23 น.

  13 ตอน
  1 วิจารณ์
  13.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2563 21.23 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) ไอดอล&เกมเมอร์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากที่แพทเลิกกะในการทำงาน แพทก็เห็นแม่ของตนนั้นกำลังเก็บร้าน..แต่แพทเองรีบวิ่งปรี่ตรงเข้ามาหาแม่เพื่อที่จะช่วยแม่เก็บร้าน แพทเองนอกจากฝึกงาน ยังมีงานอดิเรกคือ ‘เกมเมอร์’ แต่แพทตั้งใจทำงานโดยไม่เกียจคร้าน แพทชอบแต่งคอสเพลย์อยู่บ่อยๆ ในตอนนี้ร่างร่าง หนึ่งนอนอยู่บนเตียงก่อนที่จะหลับไป ในความฝันของเธอ เห็นผู้ชายวัยกลางคนกำลังอยู่กับหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ แพทจึงเดินเข้าไปดู นั่นไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นคือเฌอปราง เธอเอ่ยขึ้น

“เฌอ เฌอกำลังทำอะไร”

แพทได้แต่เรียกก่อนที่จะมีอีกคนมองมาทางแพทแล้วพยักหน้าตอบ

 เสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้า แพทได้ยินเสียงถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมา

“เฌอ”

แพทหันไปรอบๆ ไม่มีใครเลยก่อนจะมองมายังนาฬิกา เป็นเวลา หกนาฬิกาของเช้าวันถัดมาก่อนที่จะไปทำธุระส่วนตัวให้เสร็จแล้วรีบเดินออกจากบ้านไป

 ในขณะเดียวกันเฌอจัดเตรียมอาหารให้เรียบร้อยแล้ว อดิศรเดินลงมาพอดี

“เฌอ ไม่เหนื่อยหรอลูกถึงเตรียมอาหารให้พ่อทุกวัน”

“ไม่นี่คะพ่อ เฌอทนได้ เฌอเห็นพ่อทำงานมาก็เหงื่อตกทุกที”

 อดิศรมองสำหรับกับข้าว ในนั้นมี แกงจืด ผัดเผ็ดปลาดุก มัสมั่นไก่ อดิศรชินกับรสชาติของเฌอทำ

“อร่อยมากๆ เลยลูก วันนี้ไม่ได้ไปเรียนหรอ”

“ไปค่ะพ่อ พ่อกินเยอะๆ นะคะ จริงสิพ่อ คนเรานอกจากเราแล้วยังมีคนหน้าคล้ายคลึงกันไหมคะ”

เฌอปรางถามด้วยความสงสัย เขาครุ่นคิดมาดีแล้วที่จะถามว่า ‘เธอมีคนหน้าตาคล้ายคลึงกันกับอีกคนด้วยหรือ’

อดิศรพลางตอบไปว่า

“ก็น่าจะมีนะ นอกจากคนหน้าเหมือนแล้วยังมีฝาแฝดด้วยนะลูก”

เฌอสะดุ้งกับคำว่าฝาแฝด เขาไม่คิดเลยว่าเธอเป็นอะไรกับแพท

“พ่อคะ ชาติที่แล้วก่อนที่จะมาเกิดเป็นแฝดเขามีความสัมพันธ์กันยังไงหรอคะ”

อดิศรเองเคยมีเพื่อนฝาแฝดเขาเคยเล่าให้อดิศร อดิศรจึงเอ่ยขึ้น

“ชาติที่แล้วเขาเป็นเพื่อนกัน เขาเคยทำบุญมาด้วยกันนะ แล้วชาติต่อมาเขาก็ไปเกิดเป็นแฝด”

อดิศรบอก ก่อนพลางตักข้าวมาสักคำสองคำ ก่อนที่จะโทรหาลูกน้องอีกคนให้มาคุยเรื่องงานที่บ้าน

 เฌอปรางก็ตักข้าวมาจนหมด ก็เอาจานข้าวไปเก็บแล้วจึงกล่าวลา

“พ่อ งั้นหนูไปเรียนก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”

เฌอรีบขึ้นรถก่อนมีเสียงปิดประตูรถ รถเคลื่อนออกจากบ้านพักไปตามทางถนน

 ..แพทเดินมาถึงโรงแรมที่ตนเองฝึกงานวันนี้เธอสวมชุดนิสิตกระโปรงยาวคลุมเข่า ก่อนที่จะเดินชนชายหนุ่ม

“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับเจ็บตรงไหนไหมครับคุณผู้หญิง” เสียงทุ้มเอ่ยวาจาถาม

“ไม่เป็นไรค่ะ”

แพทเงยหน้ามอง ใบหน้าของชายหนุ่มที่หน้าตาธรรมดาและแววตาดูอ่อนโยน ตอนนี้แพทกำลังตกหลุมรักเธอแล้ว

“เฌอปราง” โอมอุทานขึ้น

“เฌอ ฉันคือเฌอหรอคะ”

“ครับ คุณเฌอปราง วงเกิลกรุ๊ปของไทย ผมเป็นรองผู้จัดการครับคุณเฌอ”

“ค่ะ…คือว่าฉันรู้จักคุณอยู่ค่ะ”

โอมมองใบหน้าหวานๆ ของสุภาพสตรีที่เคยเผลอเรียกว่า ‘เฌอปราง’ ก่อนไล่ความคิดไป นี่คืองานไม่ใช่เรื่องส่วนตัว

 แพทรีบเดินจ้ำอ้าว ก่อนที่จะไปเคาะประตูห้องผู้จัดการ ตอนนี้ผู้จัดการกำลังดูซีรี่ย์เกาหลี

“ก๊อก ก๊อก นี่คุณ”

กอล์ฟรีบเดินไปเปิดประตูอย่างไม่สบอารมณ์

“นี่ มีอะไร”

“ฉันมารายงานตัวคุณ”

กอล์ฟมองไปที่นาฬิกาข้อมือ

“ตรงเวลานี่ กลับไปที่เธอประจำเลย”

กอล์ฟกวักมือไล่ให้อีกฝ่ายก่อนแพทจะแลบลิ้นลับหลังอีกฝ่ายก่อนไป แพทเดินลงมาตรงฟ้อนท์แผนกของตัวเอง

นิ่มเดินมาแล้วพูด

“อ้าว แพท ไปทะเลาะกับผู้จัดการมาหรอ”

แพทพยักหน้าแทนคำตอบ

“พี่นิ่ม คือ..ว่าแพทเห็นรองผู้จัดการแล้วนะเขาดูสุภาพมากๆ ผิดกับอีตากอล์ฟนั่นอีก”

นิ่มถอนหายใจก่อนเอ่ยขึ้น

“ก็คุณโอมนะเขาเป็นคนดี แต่เขาเองชอบแต่งเพลง โดยเฉพาะเพลงจีบสาวนี่พี่เคลิ้มเลย”

แพทเบิกตาก่อนเอ่ย

“รองผู้จัดการเนี่ยนะคะชอบแต่งเพลง”

“ใช่ค่ะ ชอบแต่งเพลงมีกีต้าร์คู่ใจนี่ใช่เลยนะคะ”

แพทเริ่มชอบรองผู้จัดการเข้าแล้ว ใจของเธอเต้นแรง

“แพท! แพท”

“คะ”

“ลูกค้ามา”

“ค่ะๆ”

แพทต้อนรับลูกค้าเป็นอย่างดี

..เฌอปราง สาววัยยี่สิบต้นๆ เธอเป็นถึงนักวิจัยและงานอดิเรกคือ ‘ไอดอล’ เธอเดินสายไปกับวงเกิลกรุ๊ป เพื่อนๆ ในวงเริ่มที่จะร้องเพลงกัน โดยมีสตาร์ฟมาคอยดู ในตอนนี้วงดังของเมืองกรุง อยู่ในตู้ปลา เป็นห้องกระจก และเพื่อนๆ ในวงได้มาไลฟ์สดกัน โอตะคุบางคนก็ไปดูตัวจริง ส่วนบางคนก็ดูผ่านYouTube โดยมี เฌอปรางเป็นกัปตันวงและเหล่าสมาชิกคนอื่นๆ ด้วย

 ..ในทีวีของโรงแรมโอม การ์เด้นท์เปิด ช่องข่าวบันเทิง ก่อนมีผู้รายงานข่าวรายงานข่าวๆ หนึ่ง

“ในตอนนี้ วงbnk48 ตอนนี้กระแสมาแรงมากๆ เลยโดยเฉพาะโอตะผู้ชายนี่ชอบกันเยอะมากๆ  ตอนนี้เรามาสัมภาษณ์ น้องเฌอปราง วงbnk48 หน่อยค่ะ สวัสดีค่ะน้องเฌอ”

“สวัสดีค่ะ”

“ตอนนี้วงเรากระแสมาแรงมากๆ แล้วเห็นบอกว่าจะมีผลงานชุดที่สามหลังจากเพลงคุกกี้เสี่ยงทายด้วย”

“ใช่ค่ะ”เฌอตอบ

“แล้วอัลบั้มใหม่ มีชื่อเพลงว่าอะไรคะ”

“River ค่ะ”

นิ่มมองไอดอลอีกคนในรายการทีวี ก่อนหันมาทางแพท

“เฮ้ย! หน้าทำไมเหมือน..แพทจัง”

แพทกำลังก้มหน้าก้มตาจดรายละเอียดการเข้าออกลูกค้า

“แพท เธอ…ไปออกทีวีตอนไหนหรอ”

นิ่มพนักงานคนสนิทนิ่งไปสักสามนาที

“ชั่งมันเถอะ”

“เห็นได้ข่าวว่า ทำการวิจัยขวดสีฟ้าได้ชนะเลิศด้วยเก่งจัง”

“ขอบคุณค่ะ”

“มีเคล็ดลับอะไรไหมถึงได้เก่ง”

“ก็ขยันหาความรู้ พัฒนาเยอะก็เก่งแล้วค่ะ”เฌอยิ้มแก้เก้อ

“งั้นรายการต่อไป พยากรณ์อากาศค่ะ ส่วนการสัมภาษณ์จบเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ”

นิ่มงุนงงว่า แพททำไมถึงมีใบหน้าคล้ายคลึงกับไอดอลชื่อดังก่อนละสายตามายังรายชื่อลูกค้าต่อ

..ห้องรองผู้จัดการตอนนี้กำลังติดตามข่าว bnk48 โดยมีเฌอปราง เขาสนใจคนที่ชื่อ “เฌอปราง” ในตอนนี้เขาเองอยากเสนอตนเองนั้นไปเป็นโปรดิวเซอร์เบื้องหลังบ้างจัง

 เสียงเคาะประตูดังมาด้านนอกก่อนเจ้าของห้องเอ่ย

“เข้ามาเลยครับ”

ชายอีกคนในชุดสูทใบหน้าหวานราวกับพระเอกเกาหลีเดินเข้ามา

“อะพี่โอม ผมเอาการรายงานหุ้นมาให้พี่อ่าน”

โอมละสายตามาที่เอกสาร

“ปีนี้ยอดหุ้นดีกว่าปีก่อน นายทำงานได้ยอดเยี่ยมมากๆ”

“ครับพี่โอม พี่สนใจข่าวยัย..แม่สาวไอดอลชื่อดังด้วยหรอครับ”

โอมพรางมองมาทางทีวีก่อนจะตอบ

“ใช่นะ เขาชื่อเฌอปราง จริงสิเมื่อเช้าพี่ก็เจอเขาที่โรงแรมแต่..การแต่งกายนี่เหมือนชุดพนักงานของโรงแรมเราเลย”

กอล์ฟหันไปมองทางทีวีอีกครั้งก่อนบอก

“จริงสิพี่โอม มีเด็กฝึกงานคนหนึ่งเขามาฝึกงานที่โรงแรมของเรา แต่ใบหน้าเขาคล้ายกับแม่สาวไอดอลคนนี้เลย แต่เห็นป้าขายอาหารเรียกชื่อ เธอว่าแพท”

โอมครุ่นคิด อยู่ครู่หนึ่ง

‘เฌอตัวจริงอยู่ในทีวี แล้วเฌออีกคนที่เราเห็นคือใครกัน’

“กอล์ฟร้านขายอาหารที่นายว่าอยู่ที่ไหนหรอ”

กอล์ฟตอบอย่างเร่งด่วน

“อยู่ท้ายซ้อยไม่ไกลจากโรงแรมของเรานะพี่โอม”

โอมฟังแบบนั้น ใจจริงก็ชอบอาหารไทยๆ แต่เรื่องที่เขายังคิดอยู่คือ..เฌอปรางทำไมมีสองคน ก่อนจะสั่งให้กอล์ฟไปทำงานที่ห้องของตนตามเดิม

‘เฌอปราง ฉันอยากพบเธอจังเลย’

เฌอปรางทำวิจัยจนเสร็จก็ขับรถกลับมาถึงบ้านพักของกรมชลประทาน

“พ่อคะ พ่อ”เฌอปรางร้องเรียกหาพ่อของตน

ก่อนจะขับรถออกไปข้างนอก

..รถโตโยต้า ยารีส แอคทิฟ สีดำที่คุ้นเคยของโอมขับไปตามทางถนนหลวง ได้ชนประสานงากับรถของเฌอปราง

“ซวย! ชนกันจนได้”

โอมเปิดประตูก้าวออกมาจากรถ ก่อนจะต่อว่าคู่กรณี

“นี่คุณ ลงมาเคลียร์กันหน่อยสิ คุณ”

ร่างบางของอีกฝ่ายก้าวลงมาจากรถ

“นี่คุณ ฉันขอโทษพอดีฉันจะรีบไปหาพ่อฉัน”

โอมนิ่งไปอีกครั้ง คราวนี้เขาพบเฌอปราง

“เฌอ เฌอใช่ไหม ผมติดตามคุณในทีวีบ่อยๆ”

เฌออมยิ้มก่อนตอบ

“ใช่คะ ฉันเฌอปราง คุณ..คือว่าเราโทรเรียกประกันมานะคะจะได้เคลียร์กันรู้เรื่อง”

“คุณเฌอครับ ผมชื่อโอม คือว่า..ผมอยากชวนคุณไปทานข้าวที่ร้านท้ายซอยของโรงแรมผมไหมครับ”

เฌออมยิ้มพรางตอบ

“ได้สิคะ วันนี้เฌออยากพักอยู่ งานเยอะมากๆ เลยไม่มีโอกาสำกเลย”

พอทั้งคู่มองหน้ากันก็อมยิ้มให้ก่อนจ้องประสานตากัน

..

แพททำหน้าที่ต้อนรับลูกค้า  ลูกค้าในช่วงนี้ก็มาเรื่อยๆ

“พี่นิ่ม จะไปไหนหรอคะ”

แพทเห็นอีกฝ่ายกำลังจะกลับบ้าน

“ก็กลับนะสิ พอดีเปลี่ยนกะเข้าเวรนะสิ เดี๋ยวพี่บุ๋มก็มาทำแทนพี่แล้ว งั้นพี่ไปก่อนนะ”

พนักงานสาวก้าวออกไป

ตอนนี้แพทหายใจฟืดฟาดก่อนพ่นลมหายใจออกมา ผู้จัดการหนุ่มเดินมา

“ไง ยัยปักเป้า ไม่มีเพื่อนละสิถึงทำหน้าจ๋อย”

“อย่าเผือกสิคะ คุณหน้าหล่อ หล่ออย่างกับผีตายซาก”แพทสบถ

“หรอ ก็ดีกว่าคุณอีกยัยปักเป้าเน่า”

แพทหน้าแดงพร้อมโกรธก่อนจะคว้าฝ่ามือเพื่อที่จะตบอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ารับไว้ได้

“แรงแค่นี้ จะทำอะไรผม ถ้าหากว่าคุณมาเป็นแฟนผม คงโชคดีนะ ไม่อยากมีเหรอ สามีรวยๆ ขับรถยนต์ทรงสปอร์ตคงมีคนสนใจเยอะแยะเลยนะคุณ”

“เชอะ ถ้าหากว่าฉันไปนอนกับคุณแถมให้ลูกแก่คุณฉันก็ไม่เอาหรอกฉันเกลียดนาย”

แพทเดินเลี่ยงไปอีกทางพร้อมทำหน้ามุ่ยไม่สบอารมณ์ ก่อนที่กอล์ฟจะบ่นพึมพำ

“สักวันเธอก็ตกเป็นของฉันคอยดู”

..

เฌอปรางก็ขับมาที่ร้านแพทตี้ และยังมีรถอีกคันเป็นของโอม

“นี่หรอคะร้านที่อยากจะมาทาน”

“ครับเห็นน้องชายผมบอกว่าอร่อยมากๆ”

ประไพในชุดแม่ค้าเดินปรี่ตรงเข้ามา

“รับอะไรดีคะ คุณผู้ชายและคุณหนู”

โอมเปิดเมนูอาหาร พร้อมสั่ง

“ป้า ผมเอาข้าวผัดปู กับ ผัดผักบุ้งไฟแดงจานหนึ่งแล้วเฌอละจะเอาอะไร”

“เฌอเอาราดหน้ากับน้ำเปล่าค่ะป้า”

เฌอมองใบหน้าของชายหนุ่มก่อนเอ่ย

“คุณโอมทำงานอะไรหรอคะ”

“ผมเป็นรองผู้จัดการของโรงแรม โอม การ์เด้นท์ ครับ ส่วนงานอดิเรกคือ แต่งเพลง”

เฌอปรางประหลาดใจ

“รองผู้บริหารหรอคะ ถ้างั้นคุณก็รวยสินะคะ”

โอมสั่นหัว

“ไม่เลยครับ ผมพอมีพอกิน แม่ผมก็เสียไปตอนผมเรียนมหาวิทยาลัย ผมเองก็เลยเลือกเส้นทางการบริหารมาครับ”เสียงเข้มบอกพร้อมเล่าให้อีกฝ่ายฟัง

..

พอแพทเลิกงานก็เดินออกจากโรงแรมก่อนบ่น

“อีตาบ้า พูดอะไรๆ ก็ทุเรศคนอย่างฉันจะไปเป็นเมียนายได้อย่างไร คนผีทะเลเอ๊ย”

แพทเดินมาเห็นภาพตรงหน้าทำให้เธอนั้นใจสลาย

“นั่นคุณโอมกำลังอยู่กับเฌอเพื่อนเรานี่”

แพทหลบและมองไปที่สองคนนั้น

“คุณโอมคะ คุณว่าจะให้ฉันมาฝึกซ้อมร้องเพลงที่โรงแรมหรอคะ”

โอมพยักหน้าแทนคำตอบ

“ครับ ผมแต่งเพลงไว้ให้คุณเป็นพิเศษครับ ผมเลยอยากนัดคุณมาร้องเพลงกันครับ”

เฌอเองก็แอบชอบโอมทั้งที่พบกันครั้งแรก

“ได้ค่ะ เฌอจะมาทุกวันเพื่อความต้องการของคุณโอม”

“ผมทานเสร็จแล้วงั้นผมไปก่อนนะครับ”

โอมกล่าวลา ก่อนเดินจากไป แพทเดินออกมาจากพุ่มไม้ ก่อนแซวอีกฝ่าย

“แหมเฌอ เสน่ห์แรงเลยนะ ทานข้าวกับผู้ชาย”

เฌอเอ่ยกล่าวกับเพื่อนของเธอ

“ก็ธรรมดานะแพท แล้วแพทชอบคนนี้ไหมละ”

แพทเสแสร้ง

“ไม่นะ ไม่อยากแย่งผู้ชายมาจากเพื่อนรักนี่ ถ้าแย่งแฟนเดี๋ยวชาติหน้าเขาก็แย่งคนรักคืน”

เฌอปรางฟังอีกฝ่ายเล่าถึงกับหัวเราะ

“ใครกันนะ จะเป็นแฟนของแพทเพื่อนเรากันนะ เราอยากรู้”

แพทหวั่นๆ ก่อนมองไปอีกทาง

“แม่คะ งั้นเฌอกลับบ้านหาพ่อก่อนนะคะ งั้นเราไปก่อนนะแพท รักแพทมากที่สุดเลย”

“เออ”

แพทมองเฌอปรางขึ้นรถก่อนขับออกไปตามถนน

แพทมองมายังประไพ

“แม่ เฌอทำไมถึงเรียกแม่ว่าแม่ละคะ”

ประไพอ้ำอึ้งก่อนเล่าให้แพทฟัง

“ที่แท้เฌอก็เป็นลูกของแม่อีกคน แต่ถ้าเป็นพี่ของแพท แพทจะทำให้เห็นความต่างเลย”

“นี่แน่ะ ให้แบบเดียวกันใครจะไปแยกออกละ”

แพทยิ้มก่อนที่จะบอกว่า

“งั้นแพทไปเล่นเกมก่อนนะคะแม่”

..

เฌอขับเข้ามาถึงบ้านพักข้าราชการกรมชลประทาน ตอนนี้อดิศรก็มานั่งรอบุตรสาว

“เฌอไปไหนมาลูก”

“คือว่าเฌอไป..ทานข้าวนอกบ้านมาค่ะพ่อ พอดีไปทานข้าวที่ร้านแพทตี้มา”

“ร้านแพทตี้หรอ ร้านนี้เปิดมาหลายปีแล้วนี่”

“ค่ะพ่อ ป้าประไพเขาทำอะไรมากๆ เลยนะคะ”

อดิศรเอ่ยขึ้น

“ประไพหรอ”

“ใช่ค่ะพ่อ เอาไว้ว่างๆ หนูจะพาพ่อไปหาป้าประไพนะคะ”

อดิศรจำเรื่องราวเก่าๆ ตั้งคบกันครั้งแรกแต่ที่แยกกันอยู่เพราะอดิศรนั้นงานหนักจึงจำเป็นต้องแยกกันอยู่ แต่ใช่ว่าจะไม่ไปหาหรอกเพราะยังไม่ถึงเวลาบอกความจริง

“เฌอ พ่อว่าเราอย่าไปหาเขาเลยพ่อเองหนักใจ”

“พ่อมีอะไรปิดบังหรือเปล่า”

เฌอปรางเอ่ยถาม

“เปล่าแต่พ่อเองต้องมีงานอีกเยอะทั้งเคลียร์เอกสาร แกหลายอย่างอีก”

อดิศรบอก

เฌอปรางพยักหน้าแทนคำตอบก่อนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเฌอกดรับสาย

“สวัสดีค่ะ เฌอกำลังพูดอยู่ค่ะ”

เสียงปลายสายเป็นเสียงของหญิงอีกคน

“เฌอนี่ฉันเองอุ๋งอิ๋ง”

“มีอะไรหรออุ๋งอิ๋ง”

“คือว่า การบ้านชีววิทยาเรื่อง การสืบพันธุ์ของมนุษย์ ฉันยังงงไอ้อวัยวะเพศชาย มันมีการสืบพันธุ์เหมือนสัตว์หรือเปล่า”

เฌอปรางฟังเสียงปลายสายพูดก่อนจะเอ่ยขึ้น

“คงเหมือนกันมั๊ง อย่าลืมนะว่ามนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคม แต่การดำรงชีวิตจะมีความแตกต่างจากสัตว์ก็ตาม มนุษย์กับสัตว์ก็มีการสืบพันธุ์ เพื่อสืบทายาทรุ่นต่อๆ ไป แต่สัตว์นะ มีทั้งผู้ล่ากับผู้ถูกล่า เป็นห่วงโซ่อาหาร มันก็ต่างกันตรงนี้แหล่ะมีอะไรอีกไหมเพื่อน”

“ไม่มีนะ เฌอตอนนี้อยู่กับพ่อหรอ”อุ๋งอิ๋งถามอีกฝ่าย

“ใช่ พ่อฉันนะเขาขยันทำงานเพื่อเรา เราเองก็ตั้งใจเรียนพอเรียนจบก็ทำงานหาเงินมาให้พ่อกับ..กับ”

“กับแม่หรอ”

เฌอน้ำตาไหล เขาเองยังไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากแม่เขาจึงต้องทำเป็นเข้มแข็ง

“ใช่กับแม่นะ ฉันเองก็…”เฌอพูดตะกุกตะกัก

“ก็อะไร”

“เปล่างั้นแค่นี้นะ”

 เฌอวางสายโทรศัพท์ก่อนที่จะวาง แล้วหันมาบอกพ่อของตน

“พ่อคะ งั้นเฌอขึ้นห้องก่อนนะคะ”

เฌอรีบเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านพักก่อนอดิศรมองตามเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยได้ไออุ่นจากแม่ก่อนเฌอปรางเก็บตัวเงียบเอาแต่อยู่ในห้อง

 แพทเดินมาทำหน้าตาเหมือนอารมณ์ดี เห็นแม่กำลังเปิดร้าน

“มาแม่ หนูช่วย”เสียงหวานเอ่ยกับมารดา

“แพท รู้ไหมว่า คนเราถ้าไม่ได้ทำงานข้าราชการก็มาทำอาชีพอิสระก็ได้นะถ้าเราหางานไม่ได้”

“รู้สิแม่ แต่ที่แพททำทุกวันนี้เพื่อแม่สบายไงแพทจะเรียนจบปริญญาให้แม่ภูมิใจเลย”

ประไพเอื้อมมือลูบศรีษะบุตรสาว

“ดีมาก ถ้าเป็นแบบนี้แม่จะตายตาหลับเลย จริงสิแม่ก็น่าสงสารพี่เฌอ เฮ้ย! เฌอมากๆ เลย”

แพทเอ่ย

“ใช่นะสิแม่ เฌอเขาก็อยู่กับพ่อ หนูเกิดมายังไม่เคยเจอพ่อเลย พ่อก็ใจร้าย ลูกตัวเองก็ยังไม่มา”

ประไพเอ็ดบุตรสาว

“อย่าไปว่าพ่อเขาเลย เขาอาจคางานก็ได้นะ”

แพทเองจำความได้พ่อก็ไม่ได้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน แพทมองไปที่นาฬิกาข้อมือ

“ตายๆ! สายแล้ว”แพทอุทานขึ้น

ประไพมองบุตรสาวอย่างงงๆ

“แม่คะ แพทไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ”

แพทรีบเดินตรงไปยังโรงแรมที่ตนฝึกงาน

**ชายหนุ่มกำลังเลียวมองนาฬิกาข้อมือ เป็นเวลาแปดนาฬิกา มีพนักงานเก็บกระเป๋าเอ่ยถาม

“สวัสดีครับ ผู้จัดการ”

ผู้จัดการหนุ่มมองก่อนที่จะเอ่ยขึ้น

“ดีมาก แต่ผมกำลังรออีกคนมารายงานตัว”

แพทรีบวิ่งมา ตอนนี้มาถึงโรงแรมแล้ว ชายหนุ่มในชุดสูทชำเลืองมองก่อนต่อว่า

“เธอมาสาย ฉันจะหักคะแนนเธอครึ่งหนึ่ง”

แพทมองหน้าอีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง

“นี่ ฉันช่วยแม่ฉันขายของฉันมาช้า คุณก็มาด่าฉันทีพี่นิ่มหรือพี่เป้มาสายคุณยังไม่ด่เลย”แพทขึ้นเสียง

“นั่นผมอนุโลม ผมหักคะแนนในการฝึกงาน”

“นี่ไอ้หน้าจืด นายกะจะแกล้งฉันอีกสินะ” แพทหงุดหงิด

“เอาสิถ้าคุณแน่คุณลองพิสูจน์ดูสิ”

แพทและกอล์ฟต่างหาเรื่องกัน แพทเองไม่พอใจที่อีกฝ่ายนั้นกลั่นแกล้งและใช้เธอ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายฟิคชั่นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา