(Inuyasha Fanfiction) Forever Love Sesshomaru&Rin

8.5

เขียนโดย MomijiNI

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.38 น.

  16 ตอน
  6 วิจารณ์
  36.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2560 00.18 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

9) บทลงโทษ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
         แสงแดดยามเช้าทอประกาย นัยน์ตาสีอำพันก็ตื่นขึ้นจากนิทรา เขามองไปข้างๆ ก็พบว่าฟูกถูกพับเก็บเรียบร้อยแล้ว เขาลุกขึ้นจากฟูกนอน แล้วเดินออกจากห้องทันที
 
“กลิ่นของริน..ทางนี้สินะ”
 
         เขาเดินตามกลิ่นรินไปเรื่อยๆ จนรู้สึกได้แล้วว่าจุดหมายปลายทางมันจะไปจบที่ไหน
 
“ห้องครัว…” เขาคิดพลางเดินไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้พบสิ่งที่เขากำลังตามหา
 
“ริน”
 
“...” รินและจาเค็นที่กำลังยกอาหารออกจากห้องครัว หันมามองตามเสียงนั้นอย่างตกใจ บุคคลที่ไม่เคยเดินมาเฉียดที่นี่ กลับมายืนอยู่ตรงหน้า
 
“ท่านเส็ตโชมารู” รินและจาเค็นเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
 
“วันนี้เจ้าทำอาหารงั้นรึ?”
 
“รินก็ทำเป็นประจำอยู่แล้วหนิค่ะ” รินตอบทั้งที่ยังสงสัยในคำถาม
 
“...” มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะไม่รู้ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องริน จนตอนนี้ เขาไม่เคยอยู่ปราสาทอย่างจริงจังเลยซักครั้ง เขามักจะตื่นก่อนรุ่งสาง เพื่อไปธุระ หรือปราสาทใหญ่ และกลับเข้ามาค่ำๆ เสมอ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่รู้เลยว่ากิจวัตรประจำวันที่รินทำอยู่ในปราสาท แต่ละวันเธอทำอะไรบ้าง
 
“ทำให้ข้าด้วยสิ”
 
“เอ๊ะ?!” รินและจาเค็นพูดพร้อมกัน
 
“เอ่อ...รินทำเป็นแต่อาหารมนุษย์นะคะ ท่านไม่ทานไม่ใช่หรอคะ?” รินรู้ว่าเส็ตโชมารูเองไม่กินอาหารมนุษย์ แล้วจริงๆ เขาไม่กินก็มีชีวิตอยู่ได้ นั่นยิ่งทำให้รินแปลกใจที่บอกให้รินทำอาหารให้เขา
 
“ข้าก็กินได้ แค่ไม่ชอบ ถ้าเจ้ากังวล จะทำแบบของจาเค็นก็ได้” เขาพูดพลางมองไปที่สำรับอาหารที่จาเค็นถืออยู่
 
“เอ๋? ปลาย่างเนี่ยนะขอรับ ข้าว่าคงไม่เหมาะล่ะมั้งขอรับ ท่านเส็ตโชมารู” จาเค็นที่เคยเห็นแต่เจ้านายมันกินแต่สำรับอาหารหรูๆ ที่ปราสาทใหญ่ เลยเกรงว่าสำรับอาหารแบบมันอาจจะไม่ถูกปากเจ้านายของมันนัก
 
“เจ้ามีปัญหางั้นรึ จาเค็น!”
 
“อึ๋ย! ไม่มีขอรับท่านเส็ตโชมารู” สายตาอำมหิตที่จ้องมา ทำให้มันก้มหน้าตอบกลับไปทันที
 
“งั้นข้าจะรอ” เขาพูดแล้วเดินออกจากห้องครัวไป
 
“ค่า…”
 
         ห้องกว้างติดกับสวนดอกไม้ เส็ตโชมารูเลื่อนประตูออกไปตรงระเบียงยาว เขานั่งห้อยขาตรงระเบียงนั้น พลางมองสวนดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกสดชื่น หลังจากมีเรื่องมากมาย เขาเพิ่งจะเคยใช้ชีวิตในปราสาทนี้อย่างจริงจังก็วันนี้ ได้อยู่กับรินแบบนี้… พลางคิดไปว่าถ้าเป็นเช่นนี้ได้ทุกวัน เขาคงจะมีความสุขจนไม่อยากจะได้สิ่งใดอีกแล้ว แต่แล้วกลิ่นอาหารเริ่มลอยเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เมื่อหันกลับไปทางประตูก็พบว่ารินและจาเค็นกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับสำรับอาหาร เขาลุกจากระเบียงแล้วเดินเข้ามานั่งในห้อง สำรับอาหารก็ถูกยกมาวางไว้ตรงหน้า นัยน์ตาสีอำพันมองสำรับอาหารนั้นที่มีข้าว ปลาย่าง เหมือนกับของจาเค็น แต่มีถ้วยใส่น้ำอีกใบที่แตกต่างจากของจาเค็นเล็กน้อย
 
“นี่อะไรรึ?” เขาชี้ที่ถ้วยแล้วถามริน
 
“ซุปค่ะ ทานคู่กับปลาย่างก็รสชาติดีนะคะ” รินพูดแล้วยิ้มออกมา
 
“...” เขามองสำรับซักพัก ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาละเลียดกินอาหารตรงหน้า เขากินปลาย่างและยกซดซุปตามที่รินบอก ถึงจะไม่ชอบนักก็ตาม แต่พอกินเข้าไปแล้ว อาหารของมนุษย์ก็ไม่ได้แย่นะ รสชาติดีอย่างที่รินบอกจริงๆ
 
“ซุปนี่ใช้ได้เลย” เขาพูดพลางมองไปที่ริน
 
“ถ้าท่านชอบ ไว้รินจะทำให้ทานใหม่นะคะ” รินยิ้มอย่างดีใจที่อสูรหนุ่มพอใจในอาหารของเธอ
 
         เมื่อทานข้าวเรียบร้อย จาเค็นก็กลับไปที่เรือนเล็กของตนอย่างเคย เพื่อตอบสาส์นเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้สำคัญมากมายอะไร แทนเจ้านายของมัน ที่ยกกลับมาให้มันทำทุกคืนๆ ส่วนรินเองก็ดูแลปราสาท กวาดเรือน ดูแลต้นไม้ดอกไม้ในสวนตามปกติ เวลาที่ไม่ได้ออกไปไหน โดยมีเส็ตโชมารูช่วยเธออยู่ข้างๆ รินเองแปลกใจที่วันนี้เขาไม่ไปปราสาทใหญ่ แต่กลับมาขลุกอยู่ในปราสาทกับเธอทั้งวัน จนเธอต้องเอ่ยถาม
 
“วันนี้ทำไมท่านไม่ไปปราสาทใหญ่ล่ะคะ?” เธอถามพลางนั่งมองดอกบัวในบ่อน้ำหน้าปราสาท
 
“เมื่อวานข้าไปทำศึก ท่านแม่ก็เลยให้ข้าพัก”
 
“หรอคะ”
 
“เมื่อไหร่เจ้าจะเล่าให้ข้าฟัง”
 
“เรื่องอะไรคะ?”
 
“แผลที่เท้า เจ้าไปได้มายังไง?” เขาพูดแล้วจับข้อเท้าของริน ที่มีผ้าพันแผลอยู่อย่างเบามือ
 
“เอ่อ..คือเมื่อวานรินออกไปเยี่ยมท่านคาเอเดะน่ะคะ ระหว่างทางเจอปีศาจกลุ่มนึง เห็นเรียกตัวเองว่าเผ่าคาราสุ แล้วก็สู้กันนิดหน่อยค่ะ ไม่มีอะไรมาก” รินเล่าเหตุการณ์อย่างสั้นๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่ได้กังวลอะไร
 
“พวกคาราสุ มันมาหาเจ้าแล้วงั้นรึ?” เขาตกใจกับสิ่งที่รินพูดก่อนจะเอ่ยถาม
 
“ท่านรู้จักหรอคะ?”
 
“มันทำอะไรเจ้า!! บอกข้ามาริน แผลนั่นมันทำเจ้าใช่ไหม?!!” น้ำหนักเสียงนั้น ทำให้รินรู้ดีว่าเขากำลังโกรธ
 
“ใจเย็นๆ สิคะ ท่านเส็ตโชมารู”
 
“...” เสียงอ่อนโยนของรินทำให้อสูรหนุ่มเย็นลง ก่อนจะฟังรินเล่าอย่างเงียบๆ
 
“แผลนี่ รินแค่หกล้มตอนจะหนีค่ะ ส่วนพวกนั้น พอดีรินพกธนูไปด้วย ก็เลยจัดการมันไปแล้วล่ะค่ะ”
 
“จิตปกป้องของข้าช่วยอะไรเจ้าไม่ได้เลยงั้นรึ?” อสูรหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อ ทั้งที่ตั้งใจให้พลังกับรินไปแล้ว แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ไม่ต่างอะไรกับเธอจะต้องปกป้องตัวเอง
 
“ก็เพราะจิตปกป้องของท่านสิคะ รินถึงได้รอด…ขอบคุณนะคะ” รินยิ้ม ก่อนจะเอื้อมไปจับมือแกร่งของอสูรหนุ่มที่นั่งข้างๆ แล้วขอบคุณอย่างจริงใจ
 
         น้ำเสียงของรินทำให้เขาโล่งใจ เข้าไม่รู้ว่าวันนั้นที่รินเจอจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ถ้ารินพูดเช่นนี้ เขาเองก็ยิ่งดีใจที่สามารถปกป้องรินได้บ้าง ถึงจะไม่ได้อยู่ใกล้กันก็ตาม อสูรหนุ่มดึงร่างรินเขามากอดแนบอกแกร่งของเขาอย่างเป็นห่วง ก่อนจะเอ่ยคำมั่นสัญญาอย่างจริงใจ
 
“ข้าจะไม่ให้ใครหน้าไหนมันมาทำอะไรเจ้าได้ทั้งนั้น ข้าสัญญา!”
 
“รินก็เหมือนกันค่ะ” รินคิดในใจ โดยที่อสูรหนุ่มไม่รู้เลยว่ารินตั้งใจจะทำอะไรบางอย่าง ที่เขาเองก็คงไม่ได้อยากให้ทำนัก
-------------------------------------------------
         อาทิตย์ตกดินลับตา บ่งบอกเวลาเข้าพลบค่ำ สามีภรรยา ณ ปราสาทอะจิไซ ก็เดินเข้าห้องนอนของตนอย่างเริ่มจะชินกับการนอนเคียงคู่กันทุกคืนเสียแล้ว
 
“เจ้ายังกลัวข้าอยู่รึเปล่า?” อสูรหนุ่มเอ่ยถาม เพราะสามสี่วันหลังมานี้ ที่รินอนุญาตให้เขาเข้ามานอนในห้องด้วย ทั้งที่รินเองก็ยังมีผงะบ้างเวลาเขาถูกเนื้อต้องตัวเธอ เกรงว่าเธออาจจะอึดอัดเขา ถ้าเขามานอนในห้องบ่อยๆ เช่นนี้
 
“ก็...ยังนิดหน่อยค่ะ” รินตอบพลางทำอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะเล็กไม่ไกลจากฟูกนอนนัก โดยไม่ได้หันมามองอสูรหนุ่มที่ทำหน้าหงอยที่ได้ยินคำตอบของริน เพราะเขาเองก็อยากจะทำกิจกรรมของสามีภรรยา แต่ถ้าหากรินยังกลัวอยู่เขาก็แตะต้องตัวเธอไม่ได้มากดังเดิม
 
“เรื่องที่ข้าทำร้ายเจ้า เจ้าจะลงโทษข้าก็ได้นะ ข้ายินดี ถ้ามันจะทำให้เจ้าสบายใจ” เขาหาวิธีเผื่อจะทำให้เธอหายกลัวเขาบ้าง
 
“หรอคะ งั้นท่านใส่สิ่งนี้ดีไหมคะ?” รินพูดแล้วหยิบของที่อยู่ในมือเธอชูขึ้นให้อสูรหนุ่มเห็น
 
“ลูกประคำนี่มัน…”
 
“มีพลังเหมือนกับที่ท่านอินุยาฉะใส่เลยนะคะ ลงโทษท่านด้วยสิ่งนี้จะดีไหมนะ?”
 
“ตามใจเจ้าสิ” เสียงแผ่วเบานั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางนึกถึงน้องชายต่างมารดาที่ยังใส่ประคำนั้นจนถึงตอนนี้ ถ้าเขาโดนสะกดเช่นนั้นบ้าง คงจะรู้สึกแย่น่าดู แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ถ้าเขาต้องถูกลงโทษ
 
“ไม่เอาหรอกคะ แค่ท่านเร่งปราณปีศาจออกมา ลูกประคำคงแตกกระจุยหมดแน่ ฮึๆ” รินตอบแล้วขำเบาๆ อสูรหนุ่มที่ฟังก็รู้สึกโล่งใจทันที
 
“แล้วเจ้าจะลงโทษข้ายังไงล่ะ? หึ!” หน้าที่นิ่งแต่เสียงยียวนเล็กน้อย กำลังจะเดินเข้าไปหาสาวน้อยที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะเล็กนั่น
 
“งั้น...ห้าม..เอ่อ...ห้ามทำเรื่องแบบนั้นกับรินนะคะ!” รินพูดเข้มเล็กน้อย เพราะเริ่มนึกขึ้นได้ ตอนที่อสูรหนุ่มกำลังจะเดินเข้ามาใกล้เธอ
 
“อะไรคือ..เรื่องแบบนั้น” เส็ตโชมารูชะงัก เพราะไม่เข้าใจสิ่งที่รินจะบอกกับตน
 
“เอ่อ...คือ...เรื่องอย่างว่าน่ะค่ะ ห้ามทำ!” รินพูดด้วยใบหน้าที่เขินอาย ก่อนจะเบือนหน้าหนีอสูรหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอ
 
“...” เส็ตโชมารูก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่รินจะสื่ออีกเช่นเดิม แต่พอมองใบหน้าที่เขินอายของริน เขาเองก็คิดว่าสิ่งที่เขาคิดอาจจะถูกต้อง
 
“เงียบเนี่ย คือท่านเข้าใจที่รินพูดใช่ไหมคะ?”
 
“เจ้าหมายถึงมีอะไรกันงั้นรึ?”
 
“...” รินพยักหน้าเบาๆ ด้วยใบหน้าแดงก่ำ
 
“ถึงเมื่อไหร่?”
 
“จนกว่า...รินจะพอใจ!” รินนั่งหันหลังให้ก่อนจะเอ่ยออกมา
 
“...” คำตอบนั้นทำให้เขาหงอยกว่าเก่า พลางคิดว่าใส่ลูกประคำนั่นซะจะยังดีกว่าโดนลงโทษเช่นนี้ เขาที่กำลังเซ็ง อยากจะรู้ว่าเขาสามารถสัมผัสเธอได้แค่ไหน เขาจึงเดินเข้าไปนั่งอยู่ข้างหลังของรินอย่างแนบชิด ก่อนจะใช้มือแกร่งทั้งสองโอบเอวเธอเพื่อกอด แล้วเอ่ยถาม
 
“งั้นแบบนี้ข้าทำได้รึเปล่า?”
 
“...ได้ค่ะ..” รินผงะเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่แล้วก็มีริมฝีปากอุ่นๆ จุมพิตที่พวงแก้มอมชมพูของเธอ ทั้งที่ยังกอดอยู่
 
“แล้วแบบนี้ล่ะ?”
 
“ก็..ได้ค่ะ..”
 
“แล้วถ้าข้า…” ริมฝีปากอุ่นถูกประกบกับริมฝีปากของรินอย่างนุ่มนวล และเนินนานพอสมควร จนรินหลับตาพริ้มเพราะเคลิบเคลิ้มกับจุมพิตที่มอบให้ ก่อนจะผละริมฝีปากออกจากกัน
 
“แบบนี้..ผิดกฎของเจ้ารึเปล่า?” เขากระซิบข้างหูด้วยเสียงแผ่วเบา และใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย
 
“เอ่อ..ก็..พอได้ค่ะ ไม่ผิดกฎค่ะ…” รินได้แต่เขินจนทำอะไรไม่ถูก
 
         ซักพักทั้งคู่ก็ผละออกจากกัน และต่างแยกย้ายไปนอนบนฟูกของตนเอง โดยไม่ได้พูดอะไรอีก ทั้งคู่นอนหันหลังให้กันโดยไม่ได้นัดหมาย รินและเส็ตโชมารูเขินจนไม่กล้าหันมาสบตากัน ถึงแม้ทั้งคู่จะเป็นสามีภรรยากันก็ตาม แต่ใกล้ชิดกันเช่นนี้ก็มีไม่บ่อยนักตั้งแต่อยู่ร่วมกันมา รินหลับไปพร้อมกับรอยยิ้มที่เขินอาย ส่วนเส็ตโชมารูนั้นก็ต้องข่มตาหลับห้ามใจกลิ่นอันแสนหอมหวนนั้นไว้ เพราะตนถูกลงโทษอยู่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอีกนานเท่าไหร่
-------------------------------------------------
**********
“มาแล้วรึ? เจ้าเส็ตโชมารู”
 
“...”
 
“แกคงจะอยากได้มันคืนสินะ เมียของแกน่ะ”
 
“ริน!! แก...ไอ้ชั้นต่ำ! ปล่อยนางเดี๋ยวนี้!!!”
 
“ข้าจะฆ่ามัน เหมือนกับที่มันฆ่าน้องของข้า อย่าหวังว่าข้าจะคืนมันให้แก!”
 
“อย่าไปฟังนะคะท่านเส็ตโชมารู ในมือมันนั่นไม่ใช่ริน รินอยู่นี่ค่ะ รินอยู่ทางนี้!...”
 
“ปล่อยนาง!!!”
 
สวบ!!!  เฮือก...
 
“ท่านเส็ตโชมารู!!!”
**********
 
“ท่านเส็ตโชมารู!!! แฮ่กๆๆๆ” รินตื่นขึ้นด้วยความตื่นตระหนกที่เห็นภาพอสูรหนุ่มที่ตนรักถูกดาบเล่มยาวแทงทะลุอกแกร่งด้านซ้ายจนเลือดอาบ เพราะคิดจะเข้าไปช่วยเธอ เหงื่อของริน และเสียงหายใจหอบนั้น ทำให้อสูรหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเธอตระหนกตกใจไม่ต่างกัน
 
“ริน! ข้าเรียกเจ้าตั้งนาน เจ้าฝันร้ายรึ?” อสูรหนุ่มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เพราะก่อนที่รินจะตื่น เธอพึมพำและดิ้นไปมาเบาๆ อยู่บนฟูก จนผู้ที่ประสาทสัมผัสไวอย่างเขาตื่นมาเรียกเธอ เพื่อดึงสติกลับมา
 
“...นิดหน่อยค่ะ แฮ่กๆ”
 
“เจ้าไม่เป็นอะไรแล้วนะ ข้าอยู่นี่แล้ว อยู่กับเจ้าแล้ว..” เขากอดรินไว้อย่างอบอุ่น เพื่อให้เธอเบาใจ
 
“ค่ะ ท่านเส็ตโชมารู แฮ่ก”
 
“เจ้าพักผ่อนซะ ข้าจะอยู่ข้างๆ เจ้า” เขาพูดพลางยกชายกิโมโนของเขาเช็ดเหงื่อให้รินอย่างเบามือ
 
“ท่านก็นอนเถอะค่ะ รินไม่เป็นอะไรแล้ว”
 
“อืม”
 
         เส็ตโชมารูมองใบหน้าที่หลับไหลของรินอย่างเป็นห่วง เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอเพิ่งจะได้รับข่าวร้ายจากหมู่บ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่ ว่าคาเอเดะผู้มีพระคุณของเธอได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบแล้ว จากสาส์นที่พวกอินุยาฉะส่งมาให้ ตั้งแต่วันนั้นรินเองก็ดูเศร้าหมองลงไป เธอเหม่ออยู่บ่อยๆ บางครั้งก็ร้องไห้ออกมา และช่วงนี้ก็ดูเหมือนเธอจะฝันร้ายอยู่บ่อยๆ จนอสูรหนุ่มเองก็กังวลใจแทน แต่ก็เข้าใจความรู้สึกถึงการสูญเสียนั้นดี เพราะเขาเองก็เคยผ่านมันมาแล้ว ความเศร้าที่จะไม่มีรินอยู่ข้างๆ เขาอีก…
 
         นัยน์ตาสีอำพันที่หลับไปได้ไม่นาน ก็ลืมตาตื่นจากห้วงนิทรา และทำกิจวัตรประจำวันของตน ก่อนจะมานั่งอยู่ข้างฟูกของภรรยา ที่บัดนี้นอนหลับเพราะความเพลียจากฝันร้าย มือแกร่งค่อยๆ สัมผัสแก้มอมชมพูนั้นอย่างเบามือ แต่นั่นทำให้ภรรยาของเขาลืมตาตื่น เพราะเธอนอนไม่ค่อยหลับ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนฟูกนอนของเธอ และมองใบหน้างามของสามีนั้นอย่างกังวล
 
“ท่านจะไปแล้วหรอคะ?”
 
“อืม...คืนนี้ข้าไม่ได้กลับปราสาทนะริน ข้าจะค้างที่ปราสาทใหญ่ซักสองสามวัน ข้าต้องจัดกองทัพ กำลังจะมีศึกใหญ่”
 
“กับใครคะ บอกรินได้รึเปล่า?” เธอถามด้วยความกังวล เพราะฝันร้ายที่เธอฝันติดต่อกันมาหลายวัน
 
“พวกเผ่าคาราสุ มันส่งสาส์นท้ารบมา”
 
“...” รินอึ้งไป ความฝันของเธอราวกับลางบอกเหตุ เธอฝันถึงพวกมัน บุคคลที่มีใบหน้าคล้ายกับอสูรหนุ่มนัยน์ตาสีแดงที่เธอเพิ่งจัดการไปเมื่อเร็วๆ นี้ ดูเหมือนจะแค้นที่เธอฆ่าน้องชายของเขา ถ้าเป็นดังความฝันจริง แล้วเส็ตโชมารูล่ะ จะเป็นยังไง?
 
“ริน...เจ้าเงียบไปนะ ถ้าเจ้ากลัว ข้าจะพาเจ้าไปปราสาทใหญ่ด้วยกัน” อสูรหนุ่มเอ่ยทัก เพราะรินที่นั่งนิ่งราวกับอึ้งในสิ่งที่เขาพูด
 
“เปล่าค่ะ แต่..ก่อนจะไปช่วยฟังที่รินจะบอกซักหน่อยนะคะ”
 
“ว่ามาสิ” เขาสงสัย แต่ก็ให้รินพูด
 
“ไม่ว่าศัตรูจะพูดอะไรเกี่ยวกับริน ท่านอย่าเชื่อมันนะคะ ท่านอย่าได้ลังเลอะไรทั้งนั้น แล้วท่านจะปลอดภัย ท่านเชื่อรินนะคะ…”
 
“อืม ข้าจะจำไว้” เขาสงสัยกับสิ่งที่รินพูด ราวกับว่าเธอรู้อนาคต แต่ก็ไม่ถามอะไร เพราะรินที่ดูเพลียๆ นั้น เขาจึงจุมพิตเบาๆ ไปที่หน้าผากมน ก่อนจะกดตัวเธอลงไปนอนกับฟูกอย่างเบามือ และห่มผ้าให้
 
“พักผ่อนซะ ไม่นานข้าจะกลับมา ข้าสัญญา”
-------------------------------------------------
ณ อาณาจักรเผ่าคาราสุ
 
“จัดกองทัพไปถึงไหนแล้ว” นายเหนือหัวของเผ่ากล่าวถามนายทหารคนนึง
 
“เรียบร้อยแล้วขอรับ นายท่าน!”
 
“งั้นรึ? หึๆๆ!! แบ่งกองทัพส่วนนึง ไว้ล่อไอ้เส็ตโชมารูเข้ามาที่นี่ด้วย”
 
“ได้ขอรับ นายท่าน!”
 
“ข้าจะให้มันลิ้มรสชาติ ของความสูญเสีย มันจะต้องตาย! ไปพร้อมกับนังมนุษย์นั่น! และตำแหน่งจอมอสูรผู้ยิ่งใหญ่ก็จะเป็นของข้า!!! 555” มันหัวเราะอย่างสะใจ ราวกับแผนการของมันสำเร็จลุล่วงแล้ว
-------------------------------------------------

จบตอนที่ 9

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา