เม็ดทรายในสายลม

-

เขียนโดย ดาวเหนือ

วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.11 น.

  5 ตอน
  8 วิจารณ์
  7,800 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 23.36 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) มีผลต่อหัวใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
"อะฮึ่ม เราจะเริ่มถ่ายกันได้ยังครับ"
"อ้อ เออมัวแต่ทักทายงั้นพี่ว่าเรามาถ่ายกันดีกว่ามา"
"มึงรีบอ่อไอโมะ" ด้วยความที่ครอบครัวป๊อบปี้กับโทโมะรู้จักกันมานาน ป๊อบปี้จึงไม่จำเป็นต้องแนะนำเพราะทั้งกรรณและโทโมะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว
"เอ้า พี่กรรณเขากลับมาทำธุระ ไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้นนี่หว่า ใช่มั้ยครับพี่"
"ใครบอกแก เพราะคราวนี้น่ะพี่กรรณอยู่ยาวเว่ย"
"อ้าวว จริงหรอพี่"
"พอดีพี่ทำโปรเจ็คเสร็จแล้วน่ะ ได้กลับมาทั้งทีก็กะว่าจะอยู่สักพักน่ะ ก็คงจะหลังรับปริญญาพวกแกนั่นแหละ"
"งี้แสดงว่าวันรับเราก็ไม่ต้องจ้างช่างภาพมาตามถ่ายรูปแล้วน่ะสิคะ" 
"แน่นอนอยู่แล้วฟาง มีช่างภาพระดับโปรมาอยู่นี่ทั้งคน"
"น้อยๆหน่อยไอป๊อบ" ชายหนุ่มพูดกับน้องชาย ก่อนจะหันไปตอบว่าที่น้องสะไภ้ "ยินดีครับน้องฟาง"
"งั้นเฟย์ว่าเราไปถ่ายกันเถอะค่ะ ไปเขื่อน" เฟย์พูดขึ้นแล้วก็เดินนำไปกับเขื่อน แล้วทุกคนก็เดินตามไป
 
แสงแดดอ่อนๆในยามสายเริ่มแผดรังสีความร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังเรียกได้ว่าอุ่นๆไม่ถึงกับร้อนมากนัก คงต้องยกความรอบคอบให้ยัยเฟย์ที่วางแผนจัดแจงเวลาไว้อย่างดีและเลือกวันที่อากาศค่อนข้างจะอำนวยให้อย่างยิ่งสำหรับการออกมาถ่ายรูปในสวนสาธารณกลางเมืองอย่างวันนี้
 
พี่กรรณถือว่าเป็นช่างภาพที่มืออาชีพมากๆไม่ว่าจะอยากได้แบบไหนก็ถ่ายให้ได้หมด แถมรูปที่ถ่ายออกมาเรียกได้ว่าลงตัวตามองค์ประกอบภาพถ่ายทุกอย่างทั้งแสง สี หรือมุมของภาพ แทบจะไม่ต้องนำไปตัดแต่งต่อเลย
เราถ่ายทั้งรูปเดี่ยว รูปหมู่ สามสาว สามหนุ่ม และรูปคู่ เฟย์สาวน้อยผู้มีรอยยิ้มสดใสกับเขื่อนหนุ่มผู้มากไปด้วยความทะเล้นรูปที่ถ่ายออกมาจึงไม่พ้นภาพคู่รักที่สดใสชวนยิ้มทั้งคู่ ส่วนฟางหญิงสาวผู้มีบุคลิกอ่อนหวานกับชายหนุ่มผู้แสนจะอบอุ่นอย่างป๊อบปี้คงไม่ต้องอธิบายรูปภาพของทั้งคู่นั้นหวานแค่ไหน
ทั้ง ป๊อบปี้ฟาง เขื่อนและเฟย์ถ่ายกันเสร็จแล้ว ตอนนี้เหลือฉันกับโทโมะเป็นคู่สุดท้ายที่กำลังถ่ายอยู่และเกือบจะเสร็จแล้ว สำหรับเราสองคนไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็เพื่อนกันนี่ จะต้องโพสต์ท่าอะไรให้ยุ่งยากล่ะ ท่าที่โพสต์ส่วนใหญ่จะเน้นท่าทางที่ดูเหมือนแกล้งกันเสียมากกว่าขนาดที่กำลังโพสต์ท่ากันก็ยังแกล้งกันเลย มันเป็นเรื่องปกติของเราสองคนไปแล้ว เรื่องปกติคนเป็นเพื่อนสนิทกัน แค่นั้น
"พอแล้วละค่ะ แก้วว่าน่าจะได้แล้วละ" ฉันคิดว่าฉันคงจะพอแล้ว แต่แล้วอยู่ๆในขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปหาพี่กรรณเพื่อขอดูรูป
นายโทโมะก็ดึงฉันเข้าไปหาตัวเอง และพูดกับฉันว่า
"แต่ฉันยังไม่พอ" และหันไปบอกพี่กรรณอีกว่า "เดี๋ยวผมขออีกสักหน่อยนะครับพี่ คราวนี้อะขอช๊อตหวานๆหน่อย"
"ห๊ะ ว่าไงนะ" ฉันถามเขาด้วยความตกใจ "จะแกล้งอะไรฉันอีกเนี่ย"
"เอ้า ก็ฉันกับเธอไม่เคยมีรูปแบบนั้นเลยนี่ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ่ายไว้สักรูปจะเป็นไรไปล่ะ " โทโมะอธิบาย
มันก็จริงของเขาเนอะ เรายังไม่เคยมีรูปดีๆแบบนั้นเลย ถ้าจะมีไว้สักรูปจะเป็นไรไป คิดได้ดังนั้นฉันจึงพยักหน้าให้เขา 
" อื้ม ก็ได้"
"ดีมาก งั้นมา เอาเลยครับพี่ พวกผมพร้อมแล้ว" 
เรายืนกันด้วยท่าที่หันตัวเข้าหากัน มือของฉันถือดอกไม้สีขาวไว้ช่วงหน้าอกมือข้างนึงของโทโมะถือช่อดอกไม้ช่อเดียวกับฉันและหันหน้าไปยิ้มหวานให้กล้อง และจู่ๆโทโมะก็เอื้อมมือข้างที่เหลือมาโอบเอวฉันดึงเข้าหาตัวจนฉันต้องหันมามองด้วยความตกใจ 
ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก ใกล้จนเธอมองเห็นใบหน้าเนียนใสนั้นอย่างชัดเจน โทโมะหันมามองแก้วด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ที่ทำให้เธอเหมือนถูกมนต์สะกดทุกครั้งที่ได้เห็น
"แชะ"
 
 ฉันไม่รู้เลยว่าพี่กรรณจะได้กดชัตเตอร์ไปเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาผ่านไปกี่นาทีในเมื่อตอนนี้คนตรงหน้าทำให้ฉันแทบหยุดลมหายใจ เราใกล้กันเกินไปแล้ว ใกล้กันจนฉันรู้สึกกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจที่มันเต้นระรัวอยู่ข้างใน  โทโมะมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ เขาต้องได้ยินหรือไม่ก็สัมผัสถึงมันได้แน่ๆ แต่ฉันก็ไม่สามารถที่จะผละออกจากเขาได้เช่นกัน ทำไมกันนะ ทำไมรอยยิ้มของเขาถึงผลต่อฉันขนาดนี้ฉันเผลอยิ้มให้เขา
อยากหยุดเวลานี้ไว้จังเลย อยากให้นายยิ้มให้ฉัน อยากให้เรายืนยิ้มให้กันอย่างนี้นานๆ แต่แล้วความคิดของฉันก็ต้องหยุดลงเมื่อเสียงๆหนึ่งดังขึ้น
 
"โมะคะ"
โทโมะหันไปทางต้นเสียงและยิ้มกว้างเข้าไปอีก เขาผละออกจากฉันแทบจะทันทีเพื่อวิ่งไปหาเจ้าของเสียงนั้น
"เกล มาถึงพอดีเลยพี่กับแก้วถ่ายเสร็จสพอดี" เธอคนนั้นมองมาทางฉันด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ และแน่นอนโทโมะมองไม่เห็นสายตานั้นหรอก
"หรอคะ ดีจังเลย เกลอยากถ่ายรูปกับพี่โมะแล้วค่ะ เราไปถ่ายกันเลยมั้ย"
"ได้สิครับ ไป" พูดจบเบลก็รีบควงแขนโทโมะแล้วเดินมาหาฉัน 
"อะฮึ่ม จะยืนอยู่ทำไมอีกละครับ" 
"เอออ รู้แล้วน่า"
เมื่อเดินมาถึงเขาก็ออกปากไล่เธอทันที เธอจึงเดินออกมาปล่อยให้เขาอยู่กับคนที่เขารอโดยที่ไม่รู้เลยว่าระหว่างนั้นชายหนุ่มที่ทำหน้าที่เป็นตากล้องคอยจับตามองอยู่ตลอดเวลา
"แก้วมานี่มา เป็นไงมั่งร้อนมั้ย" ทันทีที่เดินมาถึงเฟย์ก็เดินมาหาเธอทันที และพาไปนั่งกับคนอื่นๆที่นั่งรอกันอยู่ในที่ร่ม
"แล้วไอโมะอ่ะ" เขื่อนถามขึ้นเมื่อไม่เห้นโทโมะมาด้วย
"ถ่ายรูปกับเกลอยู่น่ะ"
"เกลมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่อะ"
"ก็มาเมื่อกี้แหละพี่ฟาง มาถึงปุ๊บก็เบิ่งไปหาโทโมะทันที"
"เอ้า เขาก็ต้องไปหาคนของเขาสิเฟย์จะให้เขามาหาพวกเราหรือไง"
"ก็ควรจะเข้ามาทักทายก่อนมั้ยล่ะ" ระหว่างนั้นแก้วก็เดินไปที่รถเพื่อเก็บชุด ใช่แล้ววันนี้ไม่ได้มีแค่พวกเธอ 6 คนเท่านั้นแต่ยังมี เกล มาด้วยอีกคน
ผู้หญิงคนนั้นเป็นรุ่นน้องในคณะของพวกเธอและก็เป็น แฟนของโทโมะ ทั้งคู่คบกันมาได้เกือบจะปีแล้ว โดยที่โทโมะเป็นคนขอเกลเป็นแฟน เห็นโทโมะอย่างนี้จริงๆแล้วฮอตไม่เบาเลยนะ มีตำแหน่งเป็นถึงเดือนคณะพ่วงด้วยฐานะหนุ่มฮอตของรุ่น แทบจะทุกคนไม่มีใครไม่รู้จักเขาหรอกโดยเฉพาะสาวๆ ฉันเองที่เป็นเพื่อนสนิทยังไม่วายมีรุ่นน้องเข้ามาตีสนิทเพื่อหาทางเข้าใกล้พี่โทโมะ แต่โทโมะก็ไม่เคยคบใครจริงจังสักที คนที่คุยก็แค่คนคุยไม่เคยได้สถานะแฟน อยากจะเลิกคุยเมื่อไหร่ก็เลิกแบบดื้อๆ และฉันต้องเป็นคนเคลียร์ให้ตลอดแต่นั่นมันก็ไม่ทำให้ฉันวุ่นวายเท่ากับที่อยู่ๆโทโมะเดินมาบอกฉันว่าเขาได้ขอน้องเกลเป็นแฟนแล้วด้วยเหตุผลที่ว่าน้องเกลเคยช่วยเขาเอาไว้ ตอนนั้นยอมรับเลยว่าฉันรู้สึกชาไปทั้งใจ และจากนั้นไม่ว่าจะไปไหนหรือทำอะไรก็มักจะมีน้องเกลตามไปด้วยเสมอ
 
"บอกตามตรงเฟย์ไม่ค่อยชอบยัยเด็กนี่เลย "
"ทำไมหรอเฟย์" ป๊อบปี้เป็นคนถามเฟย์
"ก็เฟย์แอบสังเกตุเห็นน่ะสิ หลายครั้งที่ยัยนี่มองแก้วด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเลย และลับหลังโทโมะอะ ก็ชอบพูดกระแนะกระแหนแก้ว"
"ยังไง"
"ก็อารมณ์ไม่พอใจที่แก้วสนิทกับโทโมะนะสิคะ"
"แต่ว่าท่าทางน้องเกลเขาออกจะใสซื่อนะ"
"ก็แอพน่ะสิ ไม่เชื่อถามพี่ฟางเลย"
"จริงหรอคับฟาง ทำไมป๊อบไม่เคยเห็น" ชาบหนุ่มหันไปถามแฟนสาว
" ไม่แปลกหรอกที่จะไม่เคยเห็นก็ต่อหน้าทั้งสามคนน่ะ เกลเขาก็เป็นอย่างที่เราเห็นนั่นแหละ เพียงแต่ลับหลังชอบพูดจาใส่แก้วโดยอาศัยท่าทางซื่อๆนั่น"
ป๊อบปี้กับเขื่อนมองหน้ากันอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่พวกเขาทั้งสองคนรู้ดีว่าสองสาวไม่ใช่คนที่จะมาพูดจาโกหกหรือให้ร้ายผู้อื่นได้
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา