เม็ดทรายในสายลม
-
เขียนโดย ดาวเหนือ
วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.11 น.
5 ตอน
8 วิจารณ์
7,800 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 23.36 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) มีผลต่อหัวใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"อะฮึ่ม เราจะเริ่มถ่ายกันได้ยังครับ"
"อ้อ เออมัวแต่ทักทายงั้นพี่ว่าเรามาถ่ายกันดีกว่ามา"
"มึงรีบอ่อไอโมะ" ด้วยความที่ครอบครัวป๊อบปี้กับโทโมะรู้จักกันมานาน ป๊อบปี้จึงไม่จำเป็นต้องแนะนำเพราะทั้งกรรณและโทโมะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว
"เอ้า พี่กรรณเขากลับมาทำธุระ ไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้นนี่หว่า ใช่มั้ยครับพี่"
"ใครบอกแก เพราะคราวนี้น่ะพี่กรรณอยู่ยาวเว่ย"
"อ้าวว จริงหรอพี่"
"พอดีพี่ทำโปรเจ็คเสร็จแล้วน่ะ ได้กลับมาทั้งทีก็กะว่าจะอยู่สักพักน่ะ ก็คงจะหลังรับปริญญาพวกแกนั่นแหละ"
"งี้แสดงว่าวันรับเราก็ไม่ต้องจ้างช่างภาพมาตามถ่ายรูปแล้วน่ะสิคะ"
"แน่นอนอยู่แล้วฟาง มีช่างภาพระดับโปรมาอยู่นี่ทั้งคน"
"น้อยๆหน่อยไอป๊อบ" ชายหนุ่มพูดกับน้องชาย ก่อนจะหันไปตอบว่าที่น้องสะไภ้ "ยินดีครับน้องฟาง"
"งั้นเฟย์ว่าเราไปถ่ายกันเถอะค่ะ ไปเขื่อน" เฟย์พูดขึ้นแล้วก็เดินนำไปกับเขื่อน แล้วทุกคนก็เดินตามไป
แสงแดดอ่อนๆในยามสายเริ่มแผดรังสีความร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังเรียกได้ว่าอุ่นๆไม่ถึงกับร้อนมากนัก คงต้องยกความรอบคอบให้ยัยเฟย์ที่วางแผนจัดแจงเวลาไว้อย่างดีและเลือกวันที่อากาศค่อนข้างจะอำนวยให้อย่างยิ่งสำหรับการออกมาถ่ายรูปในสวนสาธารณกลางเมืองอย่างวันนี้
พี่กรรณถือว่าเป็นช่างภาพที่มืออาชีพมากๆไม่ว่าจะอยากได้แบบไหนก็ถ่ายให้ได้หมด แถมรูปที่ถ่ายออกมาเรียกได้ว่าลงตัวตามองค์ประกอบภาพถ่ายทุกอย่างทั้งแสง สี หรือมุมของภาพ แทบจะไม่ต้องนำไปตัดแต่งต่อเลย
เราถ่ายทั้งรูปเดี่ยว รูปหมู่ สามสาว สามหนุ่ม และรูปคู่ เฟย์สาวน้อยผู้มีรอยยิ้มสดใสกับเขื่อนหนุ่มผู้มากไปด้วยความทะเล้นรูปที่ถ่ายออกมาจึงไม่พ้นภาพคู่รักที่สดใสชวนยิ้มทั้งคู่ ส่วนฟางหญิงสาวผู้มีบุคลิกอ่อนหวานกับชายหนุ่มผู้แสนจะอบอุ่นอย่างป๊อบปี้คงไม่ต้องอธิบายรูปภาพของทั้งคู่นั้นหวานแค่ไหน
ทั้ง ป๊อบปี้ฟาง เขื่อนและเฟย์ถ่ายกันเสร็จแล้ว ตอนนี้เหลือฉันกับโทโมะเป็นคู่สุดท้ายที่กำลังถ่ายอยู่และเกือบจะเสร็จแล้ว สำหรับเราสองคนไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็เพื่อนกันนี่ จะต้องโพสต์ท่าอะไรให้ยุ่งยากล่ะ ท่าที่โพสต์ส่วนใหญ่จะเน้นท่าทางที่ดูเหมือนแกล้งกันเสียมากกว่าขนาดที่กำลังโพสต์ท่ากันก็ยังแกล้งกันเลย มันเป็นเรื่องปกติของเราสองคนไปแล้ว เรื่องปกติคนเป็นเพื่อนสนิทกัน แค่นั้น
"พอแล้วละค่ะ แก้วว่าน่าจะได้แล้วละ" ฉันคิดว่าฉันคงจะพอแล้ว แต่แล้วอยู่ๆในขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปหาพี่กรรณเพื่อขอดูรูป
นายโทโมะก็ดึงฉันเข้าไปหาตัวเอง และพูดกับฉันว่า
"แต่ฉันยังไม่พอ" และหันไปบอกพี่กรรณอีกว่า "เดี๋ยวผมขออีกสักหน่อยนะครับพี่ คราวนี้อะขอช๊อตหวานๆหน่อย"
"ห๊ะ ว่าไงนะ" ฉันถามเขาด้วยความตกใจ "จะแกล้งอะไรฉันอีกเนี่ย"
"เอ้า ก็ฉันกับเธอไม่เคยมีรูปแบบนั้นเลยนี่ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ่ายไว้สักรูปจะเป็นไรไปล่ะ " โทโมะอธิบาย
มันก็จริงของเขาเนอะ เรายังไม่เคยมีรูปดีๆแบบนั้นเลย ถ้าจะมีไว้สักรูปจะเป็นไรไป คิดได้ดังนั้นฉันจึงพยักหน้าให้เขา
" อื้ม ก็ได้"
"ดีมาก งั้นมา เอาเลยครับพี่ พวกผมพร้อมแล้ว"
เรายืนกันด้วยท่าที่หันตัวเข้าหากัน มือของฉันถือดอกไม้สีขาวไว้ช่วงหน้าอกมือข้างนึงของโทโมะถือช่อดอกไม้ช่อเดียวกับฉันและหันหน้าไปยิ้มหวานให้กล้อง และจู่ๆโทโมะก็เอื้อมมือข้างที่เหลือมาโอบเอวฉันดึงเข้าหาตัวจนฉันต้องหันมามองด้วยความตกใจ
ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก ใกล้จนเธอมองเห็นใบหน้าเนียนใสนั้นอย่างชัดเจน โทโมะหันมามองแก้วด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ที่ทำให้เธอเหมือนถูกมนต์สะกดทุกครั้งที่ได้เห็น
"แชะ"
ฉันไม่รู้เลยว่าพี่กรรณจะได้กดชัตเตอร์ไปเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาผ่านไปกี่นาทีในเมื่อตอนนี้คนตรงหน้าทำให้ฉันแทบหยุดลมหายใจ เราใกล้กันเกินไปแล้ว ใกล้กันจนฉันรู้สึกกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจที่มันเต้นระรัวอยู่ข้างใน โทโมะมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ เขาต้องได้ยินหรือไม่ก็สัมผัสถึงมันได้แน่ๆ แต่ฉันก็ไม่สามารถที่จะผละออกจากเขาได้เช่นกัน ทำไมกันนะ ทำไมรอยยิ้มของเขาถึงผลต่อฉันขนาดนี้ฉันเผลอยิ้มให้เขา
อยากหยุดเวลานี้ไว้จังเลย อยากให้นายยิ้มให้ฉัน อยากให้เรายืนยิ้มให้กันอย่างนี้นานๆ แต่แล้วความคิดของฉันก็ต้องหยุดลงเมื่อเสียงๆหนึ่งดังขึ้น
"โมะคะ"
โทโมะหันไปทางต้นเสียงและยิ้มกว้างเข้าไปอีก เขาผละออกจากฉันแทบจะทันทีเพื่อวิ่งไปหาเจ้าของเสียงนั้น
"เกล มาถึงพอดีเลยพี่กับแก้วถ่ายเสร็จสพอดี" เธอคนนั้นมองมาทางฉันด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ และแน่นอนโทโมะมองไม่เห็นสายตานั้นหรอก
"หรอคะ ดีจังเลย เกลอยากถ่ายรูปกับพี่โมะแล้วค่ะ เราไปถ่ายกันเลยมั้ย"
"ได้สิครับ ไป" พูดจบเบลก็รีบควงแขนโทโมะแล้วเดินมาหาฉัน
"อะฮึ่ม จะยืนอยู่ทำไมอีกละครับ"
"เอออ รู้แล้วน่า"
เมื่อเดินมาถึงเขาก็ออกปากไล่เธอทันที เธอจึงเดินออกมาปล่อยให้เขาอยู่กับคนที่เขารอโดยที่ไม่รู้เลยว่าระหว่างนั้นชายหนุ่มที่ทำหน้าที่เป็นตากล้องคอยจับตามองอยู่ตลอดเวลา
"แก้วมานี่มา เป็นไงมั่งร้อนมั้ย" ทันทีที่เดินมาถึงเฟย์ก็เดินมาหาเธอทันที และพาไปนั่งกับคนอื่นๆที่นั่งรอกันอยู่ในที่ร่ม
"แล้วไอโมะอ่ะ" เขื่อนถามขึ้นเมื่อไม่เห้นโทโมะมาด้วย
"ถ่ายรูปกับเกลอยู่น่ะ"
"เกลมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่อะ"
"ก็มาเมื่อกี้แหละพี่ฟาง มาถึงปุ๊บก็เบิ่งไปหาโทโมะทันที"
"เอ้า เขาก็ต้องไปหาคนของเขาสิเฟย์จะให้เขามาหาพวกเราหรือไง"
"ก็ควรจะเข้ามาทักทายก่อนมั้ยล่ะ" ระหว่างนั้นแก้วก็เดินไปที่รถเพื่อเก็บชุด ใช่แล้ววันนี้ไม่ได้มีแค่พวกเธอ 6 คนเท่านั้นแต่ยังมี เกล มาด้วยอีกคน
ผู้หญิงคนนั้นเป็นรุ่นน้องในคณะของพวกเธอและก็เป็น แฟนของโทโมะ ทั้งคู่คบกันมาได้เกือบจะปีแล้ว โดยที่โทโมะเป็นคนขอเกลเป็นแฟน เห็นโทโมะอย่างนี้จริงๆแล้วฮอตไม่เบาเลยนะ มีตำแหน่งเป็นถึงเดือนคณะพ่วงด้วยฐานะหนุ่มฮอตของรุ่น แทบจะทุกคนไม่มีใครไม่รู้จักเขาหรอกโดยเฉพาะสาวๆ ฉันเองที่เป็นเพื่อนสนิทยังไม่วายมีรุ่นน้องเข้ามาตีสนิทเพื่อหาทางเข้าใกล้พี่โทโมะ แต่โทโมะก็ไม่เคยคบใครจริงจังสักที คนที่คุยก็แค่คนคุยไม่เคยได้สถานะแฟน อยากจะเลิกคุยเมื่อไหร่ก็เลิกแบบดื้อๆ และฉันต้องเป็นคนเคลียร์ให้ตลอดแต่นั่นมันก็ไม่ทำให้ฉันวุ่นวายเท่ากับที่อยู่ๆโทโมะเดินมาบอกฉันว่าเขาได้ขอน้องเกลเป็นแฟนแล้วด้วยเหตุผลที่ว่าน้องเกลเคยช่วยเขาเอาไว้ ตอนนั้นยอมรับเลยว่าฉันรู้สึกชาไปทั้งใจ และจากนั้นไม่ว่าจะไปไหนหรือทำอะไรก็มักจะมีน้องเกลตามไปด้วยเสมอ
"บอกตามตรงเฟย์ไม่ค่อยชอบยัยเด็กนี่เลย "
"ทำไมหรอเฟย์" ป๊อบปี้เป็นคนถามเฟย์
"ก็เฟย์แอบสังเกตุเห็นน่ะสิ หลายครั้งที่ยัยนี่มองแก้วด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเลย และลับหลังโทโมะอะ ก็ชอบพูดกระแนะกระแหนแก้ว"
"ยังไง"
"ก็อารมณ์ไม่พอใจที่แก้วสนิทกับโทโมะนะสิคะ"
"แต่ว่าท่าทางน้องเกลเขาออกจะใสซื่อนะ"
"ก็แอพน่ะสิ ไม่เชื่อถามพี่ฟางเลย"
"จริงหรอคับฟาง ทำไมป๊อบไม่เคยเห็น" ชาบหนุ่มหันไปถามแฟนสาว
" ไม่แปลกหรอกที่จะไม่เคยเห็นก็ต่อหน้าทั้งสามคนน่ะ เกลเขาก็เป็นอย่างที่เราเห็นนั่นแหละ เพียงแต่ลับหลังชอบพูดจาใส่แก้วโดยอาศัยท่าทางซื่อๆนั่น"
ป๊อบปี้กับเขื่อนมองหน้ากันอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่พวกเขาทั้งสองคนรู้ดีว่าสองสาวไม่ใช่คนที่จะมาพูดจาโกหกหรือให้ร้ายผู้อื่นได้
"อ้อ เออมัวแต่ทักทายงั้นพี่ว่าเรามาถ่ายกันดีกว่ามา"
"มึงรีบอ่อไอโมะ" ด้วยความที่ครอบครัวป๊อบปี้กับโทโมะรู้จักกันมานาน ป๊อบปี้จึงไม่จำเป็นต้องแนะนำเพราะทั้งกรรณและโทโมะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว
"เอ้า พี่กรรณเขากลับมาทำธุระ ไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้นนี่หว่า ใช่มั้ยครับพี่"
"ใครบอกแก เพราะคราวนี้น่ะพี่กรรณอยู่ยาวเว่ย"
"อ้าวว จริงหรอพี่"
"พอดีพี่ทำโปรเจ็คเสร็จแล้วน่ะ ได้กลับมาทั้งทีก็กะว่าจะอยู่สักพักน่ะ ก็คงจะหลังรับปริญญาพวกแกนั่นแหละ"
"งี้แสดงว่าวันรับเราก็ไม่ต้องจ้างช่างภาพมาตามถ่ายรูปแล้วน่ะสิคะ"
"แน่นอนอยู่แล้วฟาง มีช่างภาพระดับโปรมาอยู่นี่ทั้งคน"
"น้อยๆหน่อยไอป๊อบ" ชายหนุ่มพูดกับน้องชาย ก่อนจะหันไปตอบว่าที่น้องสะไภ้ "ยินดีครับน้องฟาง"
"งั้นเฟย์ว่าเราไปถ่ายกันเถอะค่ะ ไปเขื่อน" เฟย์พูดขึ้นแล้วก็เดินนำไปกับเขื่อน แล้วทุกคนก็เดินตามไป
แสงแดดอ่อนๆในยามสายเริ่มแผดรังสีความร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังเรียกได้ว่าอุ่นๆไม่ถึงกับร้อนมากนัก คงต้องยกความรอบคอบให้ยัยเฟย์ที่วางแผนจัดแจงเวลาไว้อย่างดีและเลือกวันที่อากาศค่อนข้างจะอำนวยให้อย่างยิ่งสำหรับการออกมาถ่ายรูปในสวนสาธารณกลางเมืองอย่างวันนี้
พี่กรรณถือว่าเป็นช่างภาพที่มืออาชีพมากๆไม่ว่าจะอยากได้แบบไหนก็ถ่ายให้ได้หมด แถมรูปที่ถ่ายออกมาเรียกได้ว่าลงตัวตามองค์ประกอบภาพถ่ายทุกอย่างทั้งแสง สี หรือมุมของภาพ แทบจะไม่ต้องนำไปตัดแต่งต่อเลย
เราถ่ายทั้งรูปเดี่ยว รูปหมู่ สามสาว สามหนุ่ม และรูปคู่ เฟย์สาวน้อยผู้มีรอยยิ้มสดใสกับเขื่อนหนุ่มผู้มากไปด้วยความทะเล้นรูปที่ถ่ายออกมาจึงไม่พ้นภาพคู่รักที่สดใสชวนยิ้มทั้งคู่ ส่วนฟางหญิงสาวผู้มีบุคลิกอ่อนหวานกับชายหนุ่มผู้แสนจะอบอุ่นอย่างป๊อบปี้คงไม่ต้องอธิบายรูปภาพของทั้งคู่นั้นหวานแค่ไหน
ทั้ง ป๊อบปี้ฟาง เขื่อนและเฟย์ถ่ายกันเสร็จแล้ว ตอนนี้เหลือฉันกับโทโมะเป็นคู่สุดท้ายที่กำลังถ่ายอยู่และเกือบจะเสร็จแล้ว สำหรับเราสองคนไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็เพื่อนกันนี่ จะต้องโพสต์ท่าอะไรให้ยุ่งยากล่ะ ท่าที่โพสต์ส่วนใหญ่จะเน้นท่าทางที่ดูเหมือนแกล้งกันเสียมากกว่าขนาดที่กำลังโพสต์ท่ากันก็ยังแกล้งกันเลย มันเป็นเรื่องปกติของเราสองคนไปแล้ว เรื่องปกติคนเป็นเพื่อนสนิทกัน แค่นั้น
"พอแล้วละค่ะ แก้วว่าน่าจะได้แล้วละ" ฉันคิดว่าฉันคงจะพอแล้ว แต่แล้วอยู่ๆในขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปหาพี่กรรณเพื่อขอดูรูป
นายโทโมะก็ดึงฉันเข้าไปหาตัวเอง และพูดกับฉันว่า
"แต่ฉันยังไม่พอ" และหันไปบอกพี่กรรณอีกว่า "เดี๋ยวผมขออีกสักหน่อยนะครับพี่ คราวนี้อะขอช๊อตหวานๆหน่อย"
"ห๊ะ ว่าไงนะ" ฉันถามเขาด้วยความตกใจ "จะแกล้งอะไรฉันอีกเนี่ย"
"เอ้า ก็ฉันกับเธอไม่เคยมีรูปแบบนั้นเลยนี่ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ่ายไว้สักรูปจะเป็นไรไปล่ะ " โทโมะอธิบาย
มันก็จริงของเขาเนอะ เรายังไม่เคยมีรูปดีๆแบบนั้นเลย ถ้าจะมีไว้สักรูปจะเป็นไรไป คิดได้ดังนั้นฉันจึงพยักหน้าให้เขา
" อื้ม ก็ได้"
"ดีมาก งั้นมา เอาเลยครับพี่ พวกผมพร้อมแล้ว"
เรายืนกันด้วยท่าที่หันตัวเข้าหากัน มือของฉันถือดอกไม้สีขาวไว้ช่วงหน้าอกมือข้างนึงของโทโมะถือช่อดอกไม้ช่อเดียวกับฉันและหันหน้าไปยิ้มหวานให้กล้อง และจู่ๆโทโมะก็เอื้อมมือข้างที่เหลือมาโอบเอวฉันดึงเข้าหาตัวจนฉันต้องหันมามองด้วยความตกใจ
ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก ใกล้จนเธอมองเห็นใบหน้าเนียนใสนั้นอย่างชัดเจน โทโมะหันมามองแก้วด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ที่ทำให้เธอเหมือนถูกมนต์สะกดทุกครั้งที่ได้เห็น
"แชะ"
ฉันไม่รู้เลยว่าพี่กรรณจะได้กดชัตเตอร์ไปเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาผ่านไปกี่นาทีในเมื่อตอนนี้คนตรงหน้าทำให้ฉันแทบหยุดลมหายใจ เราใกล้กันเกินไปแล้ว ใกล้กันจนฉันรู้สึกกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจที่มันเต้นระรัวอยู่ข้างใน โทโมะมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ เขาต้องได้ยินหรือไม่ก็สัมผัสถึงมันได้แน่ๆ แต่ฉันก็ไม่สามารถที่จะผละออกจากเขาได้เช่นกัน ทำไมกันนะ ทำไมรอยยิ้มของเขาถึงผลต่อฉันขนาดนี้ฉันเผลอยิ้มให้เขา
อยากหยุดเวลานี้ไว้จังเลย อยากให้นายยิ้มให้ฉัน อยากให้เรายืนยิ้มให้กันอย่างนี้นานๆ แต่แล้วความคิดของฉันก็ต้องหยุดลงเมื่อเสียงๆหนึ่งดังขึ้น
"โมะคะ"
โทโมะหันไปทางต้นเสียงและยิ้มกว้างเข้าไปอีก เขาผละออกจากฉันแทบจะทันทีเพื่อวิ่งไปหาเจ้าของเสียงนั้น
"เกล มาถึงพอดีเลยพี่กับแก้วถ่ายเสร็จสพอดี" เธอคนนั้นมองมาทางฉันด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ และแน่นอนโทโมะมองไม่เห็นสายตานั้นหรอก
"หรอคะ ดีจังเลย เกลอยากถ่ายรูปกับพี่โมะแล้วค่ะ เราไปถ่ายกันเลยมั้ย"
"ได้สิครับ ไป" พูดจบเบลก็รีบควงแขนโทโมะแล้วเดินมาหาฉัน
"อะฮึ่ม จะยืนอยู่ทำไมอีกละครับ"
"เอออ รู้แล้วน่า"
เมื่อเดินมาถึงเขาก็ออกปากไล่เธอทันที เธอจึงเดินออกมาปล่อยให้เขาอยู่กับคนที่เขารอโดยที่ไม่รู้เลยว่าระหว่างนั้นชายหนุ่มที่ทำหน้าที่เป็นตากล้องคอยจับตามองอยู่ตลอดเวลา
"แก้วมานี่มา เป็นไงมั่งร้อนมั้ย" ทันทีที่เดินมาถึงเฟย์ก็เดินมาหาเธอทันที และพาไปนั่งกับคนอื่นๆที่นั่งรอกันอยู่ในที่ร่ม
"แล้วไอโมะอ่ะ" เขื่อนถามขึ้นเมื่อไม่เห้นโทโมะมาด้วย
"ถ่ายรูปกับเกลอยู่น่ะ"
"เกลมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่อะ"
"ก็มาเมื่อกี้แหละพี่ฟาง มาถึงปุ๊บก็เบิ่งไปหาโทโมะทันที"
"เอ้า เขาก็ต้องไปหาคนของเขาสิเฟย์จะให้เขามาหาพวกเราหรือไง"
"ก็ควรจะเข้ามาทักทายก่อนมั้ยล่ะ" ระหว่างนั้นแก้วก็เดินไปที่รถเพื่อเก็บชุด ใช่แล้ววันนี้ไม่ได้มีแค่พวกเธอ 6 คนเท่านั้นแต่ยังมี เกล มาด้วยอีกคน
ผู้หญิงคนนั้นเป็นรุ่นน้องในคณะของพวกเธอและก็เป็น แฟนของโทโมะ ทั้งคู่คบกันมาได้เกือบจะปีแล้ว โดยที่โทโมะเป็นคนขอเกลเป็นแฟน เห็นโทโมะอย่างนี้จริงๆแล้วฮอตไม่เบาเลยนะ มีตำแหน่งเป็นถึงเดือนคณะพ่วงด้วยฐานะหนุ่มฮอตของรุ่น แทบจะทุกคนไม่มีใครไม่รู้จักเขาหรอกโดยเฉพาะสาวๆ ฉันเองที่เป็นเพื่อนสนิทยังไม่วายมีรุ่นน้องเข้ามาตีสนิทเพื่อหาทางเข้าใกล้พี่โทโมะ แต่โทโมะก็ไม่เคยคบใครจริงจังสักที คนที่คุยก็แค่คนคุยไม่เคยได้สถานะแฟน อยากจะเลิกคุยเมื่อไหร่ก็เลิกแบบดื้อๆ และฉันต้องเป็นคนเคลียร์ให้ตลอดแต่นั่นมันก็ไม่ทำให้ฉันวุ่นวายเท่ากับที่อยู่ๆโทโมะเดินมาบอกฉันว่าเขาได้ขอน้องเกลเป็นแฟนแล้วด้วยเหตุผลที่ว่าน้องเกลเคยช่วยเขาเอาไว้ ตอนนั้นยอมรับเลยว่าฉันรู้สึกชาไปทั้งใจ และจากนั้นไม่ว่าจะไปไหนหรือทำอะไรก็มักจะมีน้องเกลตามไปด้วยเสมอ
"บอกตามตรงเฟย์ไม่ค่อยชอบยัยเด็กนี่เลย "
"ทำไมหรอเฟย์" ป๊อบปี้เป็นคนถามเฟย์
"ก็เฟย์แอบสังเกตุเห็นน่ะสิ หลายครั้งที่ยัยนี่มองแก้วด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเลย และลับหลังโทโมะอะ ก็ชอบพูดกระแนะกระแหนแก้ว"
"ยังไง"
"ก็อารมณ์ไม่พอใจที่แก้วสนิทกับโทโมะนะสิคะ"
"แต่ว่าท่าทางน้องเกลเขาออกจะใสซื่อนะ"
"ก็แอพน่ะสิ ไม่เชื่อถามพี่ฟางเลย"
"จริงหรอคับฟาง ทำไมป๊อบไม่เคยเห็น" ชาบหนุ่มหันไปถามแฟนสาว
" ไม่แปลกหรอกที่จะไม่เคยเห็นก็ต่อหน้าทั้งสามคนน่ะ เกลเขาก็เป็นอย่างที่เราเห็นนั่นแหละ เพียงแต่ลับหลังชอบพูดจาใส่แก้วโดยอาศัยท่าทางซื่อๆนั่น"
ป๊อบปี้กับเขื่อนมองหน้ากันอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่พวกเขาทั้งสองคนรู้ดีว่าสองสาวไม่ใช่คนที่จะมาพูดจาโกหกหรือให้ร้ายผู้อื่นได้
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ