{Fic Naruto} Behind The Scene Konoha Love Story
-
เขียนโดย LadyTyrell
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.59 น.
26 ตอน
0 วิจารณ์
25.73K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 02.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9) เนี่ยนะคู่หูที่ต้องทำงานด้วย!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ อายากะตัดสินใจที่จะไปที่แท่นจารึกก่อนที่จะออกเดินทางไปซึนะ ระหว่างทางไปหญิงสาวจึงแวะไปซื้อดอกไม้จากร้านของตระกูลยามานากะ
“รับอะไรดีคะพี่อายากะ?” เด็กสาวผมบลอนด์ถามหล่อนด้วยท่าทางร่าเริง
“เหมือนเดิมจ้ะ เอ…ว่าแต่ยูกิไม่อยู่เหรอจ๊ะอิโนะจัง?”
“ใช่ค่าพี่ออกไปทำภารกิจกับกลุ่มคุณไรโดคุณเก็นมะน่ะค่ะ”
“แหมเจ้าเก็นมะนี่นะ ช่วยเปิดโอกาสให้วันนั้นแปปเดียวเองความสัมพันธ์คืบหน้าไปถึงไหนแล้วเนี่ย” แอบบ่นกับตัวเองเบา ๆ แต่ก็ไม่รอดพ้นจากการได้ยินของอิโนะ
“เอ๋…เปิดโอกาสอะไรเหรอคะพี่อายากะ” เด็กสาวถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
อิโนะและยูกินี่นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหวจริง ๆ อายากะคิดในใจ พี่สาวนั้นอ่อนหวานอ่อนโยนไม่ค่อยชอบจะอยากรู้เรื่องของชาวบ้านสักเท่าไหร่ ออกจะขี้เกรงใจคนด้วยซ้ำและอีกไม่พอเหมือนจะไม่ชอบสู้กับใครสักเท่าไหร่นอกเสียจากการทำภารกิจสมแล้วที่ยูกิเลือกที่จะเป็นนินจาแพทย์ ส่วนน้องสาวอย่างอิโนะนั้นถึงจะดูอ่อนหวานอ่อนโยนแต่เด็กคนนี้ก็ดูท่าทางจะสู้คนมากกว่าพี่สาว ‘นี่ฉันมาคิดวิเคราะห์เรื่องของคนอื่นทำไมเนี่ยห๊า!’
“ปะเปล่าจ้าไม่มีอะไรหรอก พี่ขอตัวก่อนนะเดี๋ยวต้องรีบไปทำภารกิจต่อแล้ว”
แท่นจารึกเงียบปราศจากผู้คนแต่อายากะก็พบว่ามีช่อดอกไม้วางอยู่ คนที่มาก่อนหน้านี้คงจะเพิ่งกลับไปอย่างแน่นอน ว่าแล้วเธอจึงรีบนำดอกไม้ไปวางและย่อตัวลงพร้อมกับหลับตาเพื่อระลึกถึงพี่ชายและนินจาหลาย ๆ คนที่จากไป
“ช่วยอวยพรให้ฉันทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จด้วยนะคะ” หล่อนพูดออกมาเบา ๆ ก่อนที่จะยืนมองแท่นจารึกได้ประมาณสามนาทีแล้วจึงตัดสินใจเดินทางไปซึนะ
การเดินทางไปซึนะครั้งนี้ค่อนข้างเร็วกว่าที่คิดเพราะว่าอายากะเดินทางไปเพียงแค่คนเดียว หล่อนจึงตัดสินใจใช้เวลากลางวันทั้งหมดให้หมดไปกับการเดินทางโดยไม่หยุดพักถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาเที่ยงหล่อนก็เลือกที่จะหยิบขนมปังในกระเป๋าออกมากัดกินไปด้วยและเดินทางไปด้วย
“ให้ตายสิจะมาตกทำพระแสงอะไรตอนนี้ฟะ” โจนินสาวบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าใกล้ค่ำและกำลังมองหากิ่งไม้ใหญ่เพื่อขึ้นไปนอนบนนั้น สายฝนเม็ดเล็ก ๆ ก็กลับโปรยปรายลงมา จนทำให้คนที่อยู่ข้างล่างรู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย สุดท้ายเลยตัดสินใจเดินทางไปอีกนิดเพื่อที่จะเข้าพักในโรงแรมเล็ก ๆ
“มาคนเดียวใช่มั้ยคะ?” พนักงานสาวที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์เอ่ยถามโจนินสาวที่มีสภาพเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำ
“ค่ะ” พูดจบอายากะก็รับกุญแจห้องมาจากพนักงานสาวพร้อมกับรีบวิ่งไปยังห้องพักทันทีเพื่อที่จะชำระล้างร่างกาย
“เนี่ยนะโฉมหน้าว่าที่คู่หูของเรา อะไรกันเนี่ยหน้าก็ไม่ยักจะเห็นชัด อายุก็ปาไปสามสิบแก่ซะยิ่งกว่าเจ้าคาคาชิซะอีก” หญิงสาวมุ่ยหน้าด้วยความหงุดหงิดที่เห็นหน้าค่าตาของคู่หูตัวเองไม่ชัด ถ้าหากเกิดว่าไปถึงซึนะแล้วมีแต่คนแต่งตัวแบบนี้หล่อนจะหาผู้ชายคนนั้นเจอได้ยังไงกัน!
การเดินทางมาซึนะใช้เวลาไปสามวันเต็ม ๆ พอไปถึงหน้าทางเข้าอายากะจึงนำจดหมายจากโฮคาเงะให้นินจาที่เฝ้าทางเข้าหมู่บ้านดู เธอเดินไปเรื่อย ๆ ตามคำบอกของนินจาที่อยู่ทางเข้าหมู่บ้าน
“เหมือนกันไปซะหมดแล้วฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะยะว่าไอ้ตึกรับมอบภารกิจมันไปทางไหน!” หล่อนตะโกนออกมาด้วยความโมโหอย่างสุดขีด ป้าซึนาเดะนะป้าซึนาเดะปล่อยให้ผู้หญิงบอบบางน่าทะนุถนอมอย่างหล่อนมาทำภารกิจที่นี่คนเดียวได้ยังไงกัน (บอบบางจริงเรอะ?//ไรท์จ่อไมค์ถาม) (ว่าไงนะ! // อายากะโหมดนางยักษ์) (เผ่นดีกว่า>< // ไรท์)
“ระวัง!” เสียงทุ้มห้าวของชายหนุ่มดังขึ้นหลังจากที่เห็นว่าพายุทรายที่สูงเท่าตัวคนกำลังก่อตัวขึ้นและหมุนไปทางนินจาสาวที่มาจากต่างแคว้น
“อะไรกัน…อุ๊บ!” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรร่างของอายากะก็ถูกใครบางคนกระโดดเข้ามารวบตัวแล้วดึงออกให้พ้นวิถีของพายุทรายหย่อมนั้น
แต่มันใช่แค่กระโดดแล้วรวบตัวที่ไหนกันเล่า! ถึงจะเป็นแค่เพียงแวบเดียว แวบเดียวเท่านั้นแต่โจนินสาวก็สัมผัสได้ว่าปากของเขาและหล่อนสัมผัสกันเมื่อตะกี้นี้!
“นี่…นาย!” หล่อนรีบดันตัวเขาให้ออกห่างพร้อมกับลุกพรวดด้วยความรวดเร็ว เท่าที่สังเกตดูหมอนี่คงจะอายุไล่เลี่ยกับเธอหรืออาจจะมากกว่าปีสองปีและก็คงเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาแต่ว่าความเร็วและการกระโดดเมื่อกี้…หมอนี่ต้องเป็นนินจาของซึนะแน่ ๆ
“คนเขาอุตส่าห์ช่วยแล้วยังไม่พูดขอบคุณอีกเนี่ยน่ะเรอะนินจาของโคโนฮะ” ชายหนุ่มมองหญิงสาวผมสีส้มที่ปล่อยให้มันยาวสลวยกลางหลังด้วยท่าทางพินิจพิเคราะห์
“หน็อยฉันขอบคุณก็ได้เรื่องที่ช่วยจากพายุทรายนั่น! แต่ขออัดสักเปรี้ยงให้หายแค้นกับที่จูบเมื่อกี้!” พูดจบอายากะก็รีบเตรียมตัวง้างหมัดจู่โจมแทบจะทันทีแต่มือของผู้ชายคนนั้นก็รีบคว้าข้อมือเธอไว้ด้วยความรวดเร็ว
“อะไรกัน…จะว่าไปแล้วนะ ไม่อยากจะพูดเลยว่านินจาของโคโนฮะนี่ช่างป่าเถื่อนจริง ๆ เล้ย”
“นี่ปากเหรอยะ พูดออกมาได้แต่ละคำมันช่างทำให้บาทากระตุกซะจริง”
“อา…ก็ปากน่ะสิเมื่อกี้ก็เพิ่งจะสัมผัสกับปากเธอไปไม่ใช่รึไง? ว่าแต่กำลังจะไปไหนงั้นเหรอดูท่าทางคงกำลังจะหลงทางนี่”
“หยุดพูดจาทุเรศแบบนี้ซะทีเจ้าบ้า ฉันจะไปที่ไหนก็ช่างเถอะอย่าสอดน่า!” ว่าจบหญิงสาวก็รีบเดินหันหน้าไปทางอื่นทันทีแต่ทว่าก็ลืมทางที่นินจาที่หน้าหมู่บ้านบอกมาเรียบร้อย
“แต่ดูท่าว่าคงต้องสอดซะหน่อยแล้วล่ะ ทำหน้าแบบนี้ให้หาทั้งวันก็คงหาไม่เจอ เธอคงกำลังจะไปตึกที่รับมอบภารกิจสินะ?” ผมสีชมพูเข้มของชายหนุ่มปลิวไสวไปตามลมแววตาของเขาดูอ่อนลงกว่าเมื่อกี้อยู่มากโข
“ก็อะไรเทือกนั้น นายรู้ทางรึไง?” เมื่อเห็นว่าจนมุมก็ต้องยอมสงบลงอย่างช่วยไม่ได้ อยู่ต่างบ้านนี่นะคงต้องระวังตัวหน่อยจะอาละวาดหนักเหมือนตอนอยู่โคโนฮะก็คงจะไม่ดี
“กำลังจะไปที่นั่นพอดี ไปด้วยกันไหมล่ะ?”
“เฮอะฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่านายจะไปที่นั่นจริง ๆ ชุดนินจาก็ไม่ได้ใส่สัญลักษณ์นินจาอีก”
หลังจากที่ได้ยินหญิงสาวว่าที่คู่หูพูดออกมาชายหนุ่มก็รีบดึงพาพันคอลงเผยให้เห็นถึงสัญลักษณ์ของนินจาแห่งซึนะที่ผูกไว้รอบคอของเขาก่อนที่จะดึงผ้าพันคอให้ขึ้นไปปกปิดเหมือนเดิม สงสัยแม่นี่คงจะไม่รู้สินะ ลืมไปซะสนิทเลยว่ารูปที่ติดไปนั้นช่างอำพรางหน้าตาของเขาจนเหลือแค่ลูกตา
“ถ้างั้นก็รีบนำไปซะที ฉันมาทำภารกิจชิงตัวลูกชายไดเมียว”
ประตูห้องรับมอบภารกิจถูกเปิดออกด้วยฝีมือของชายหนุ่มผมสีชมพูเข้มที่ผิวพรรณและหน้าตาของเขาดูอ่อนวัยกว่าอายุจริงอย่างมาก ร่างสูงเดินนำหญิงสาวในชุดโจนินของโคโนฮะเข้าไปข้างใน
“คุณฟูจิวาระ อายากะจากโคโนฮะสินะ” ผู้รับมอบภารกิจเอ่ยขึ้น
“ใช่ค่ะว่าแต่ไหนล่ะคะโจนินที่ฉันต้องทำงานร่วมด้วย?” หญิงสาวถามด้วยหน้าตาเหลอหลาเพราะคิดไว้ว่าคนแก่อายุสามสิบคนนั้นคงจะต้องมารออยู่ก่อนแล้วหากรู้ว่าหล่อนจะมา
ผู้รับมอบภารกิจเงยหน้ามองโซซิโร่อย่างต้องการคำตอบ เพราะเห็นว่าเดินมาด้วยกันแท้ ๆ แต่ทำไมโจนินสาวถึงได้ไม่รู้เลยว่าคนที่หล่อนเดินตามมานั่นแหละคือผู้ร่วมงานในครั้งนี้
“เธอคงไม่รู้สินะว่าเขาก็ยืนอยู่ในห้องนี้” โซซิโร่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปนขำ
“ฉันจะรู้ได้ยังไงก็ในห้องนี้ไม่เห็นมีคนแต่งตัวแบบหมอนั่นซักคนเดียวแล้วอีกอย่างหมอนั่นน่ะคงจะดูมีอายุหน่อย ๆ สามสิบแล้วนี่นะ…แล้วนายก็หยุดขำซะทีมันไม่ตลกนะ!”
“ใจเย็น ๆ ก่อนครับคุณอายากะ คนที่คุณหมายถึงน่ะเขาก็คือคนที่พาคุณเข้ามาในห้องนี้นั่นแหละ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้รับมอบภารกิจพูด หญิงสาวอึ้งไปแทบจะทันทีพร้อมกับรีบหยิบกระดาษข้อมูลของผู้ร่วมงานออกมา เธอจ้องมองภาพในกระดาษแผ่นนั้นสลับกับชายผมสีชมพูเข้มที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง
“นะ…นี่นะเหรอคนอายุสามสิบ ทำไม! หน้านายถึงได้ดูอ่อนกว่าวัยขนาดนี้!”
“ช่วยไม่ได้มันเป็นแบบนี้ของมันเอง” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนที่จะหันไปฟังผู้รับมอบภารกิจที่อ้าปากพะงาบ ๆ จะพูดอะไรบางอย่าง
“ภารกิจครั้งนี้เป็นภารกิจระดับA คุณอายากะคงจะทราบรายละเอียดมาพอแล้ว ตอนนี้ผมอยากจะให้คุณและโซซิโร่เตรียมตัวออกเดินทางไปยังซึจิโนะคุนิในวันรุ่งขึ้น ถึงทางไดเมียวจะบีบบังคับให้เราเร่งปฏิบัติภารกิจนี้มากแค่ไหนก็ตามแต่ผมก็ต้องคำนึงถึงผู้รับภารกิจเป็นสำคัญ คุณเพิ่งจะมาถึงผมอยากจะให้คุณทำความรู้จักและวางแผนกับคู่หูของคุณก่อน”
“ค่ะฉันทราบแล้ว” โจนินสาวตอบด้วยท่าทางเอาการเอางาน หลังจากนั้นเธอจึงเดินตามคู่หูชั่วคราวอย่างโซซิโร่ออกมาจากห้องรับภารกิจ
“นายเนี่ยนะที่เป็นคู่หูในภารกิจครั้งนี้ของฉัน ให้ตายซี่!” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปด
“หมายความว่ายังไง? เธอกลัวว่าฉันจะทำให้ภารกิจครั้งนี้ล้มเหลวงั้นเหรอ หรือว่ากลัวว่าจะได้จูบกับฉันอีก?” เขาอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคู่หูคนใหม่หน้าแดงขึ้นมานิด ๆ อาจจะแดงด้วยความโกรธหรือเขินก็ไม่อาจรู้ได้
“หน็อยใครจะกลัวกันล่ะยะ ฉันไม่ได้กลัวเลยสักนิด!” อายากะชูกำปั้นขึ้นมาด้วยความโมโหอีกครั้ง
“งั้นถ้าเธอไม่กลัวเราก็ลองทำแบบเมื่อกี้อีกทีดีไหม คราวนี้ฉันสัญญาว่าจะไม่ใช่แค่ปากแตะปากก็แล้วกัน”
“นายนี่มันแก่แล้วยังหื่นอีก อี๋!”
“ช่วยไม่ได้นี่นะ ฉันก็เป็นผู้ชายคนนึงมันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา…เอาล่ะเธอคงอยากจะพักฉันจะพาเธอไปส่งที่พักที่ทางซึนะเตรียมไว้ให้ ให้เวลาเธอพักสองชั่วโมงแล้วหลังจากนั้นฉันจะไปหาเธอเพื่อคุยเรื่องภารกิจ”
ห้องพักที่ทางซึนะจัดเตรียมไว้ให้พันธมิตรอย่างนินจาสาวจากโคโนฮะนั้นไม่ได้ใหญ่และก็ไม่ได้เล็กมาก ห้องพักนี้มีห้องอาบน้ำอยู่ในตัวพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ที่ทำให้คนเข้าพักรับรู้ได้ถึงความสะดวกสบายอยู่พอควร
อายากะวางกระเป๋าเป้ไว้บนเตียงพร้อมกับทรุดนั่งลงและเปิดค้นหาเสื้อผ้าที่จะใส่ในวันรุ่งขึ้น “ภารกิจชิงตัวคงจะไปอย่างเอิกเกริกไม่ได้สินะ” หล่อนพูดพลางหยิบเลือกเสื้อผ้าที่นำมาเพียงแค่สองชุดขึ้นมาพิจารณาว่าสมควรที่จะใส่ตัวไหน
ผ่านไปได้ไม่ถึงสิบนาทีหญิงสาวจึงเลือกชุดที่จะใส่ในการเดินทางวันพรุ่งนี้ได้ เมื่อทุกอย่างลงตัวจึงตัดสินใจงีบพักเอาแรงก่อนที่โซซิโร่จะมาหาเพื่อพูดคุยกันถึงเรื่องภารกิจ
“นี่เธอ…เปิดประตูหน่อยสิ” ชายหนุ่มวัยสามสิบผู้มีเรือนผมสีชมพูและหน้าตาอันอ่อนกว่าวัยหอบม้วนภารกิจพร้อมกับใช้มือเคาะประตูห้องพักของคู่หูคนใหม่แต่ก็กลับไร้เสี่ยงตอบรับ
“ถ้ายังไม่มาเปิดฉันจะเข้าไปละนะ”
“ไม่มีมารยาท!” เจ้าของห้องชั่วคราวรีบเปิดพรวดพราดออกมาทันทีตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเธออยู่ในชุดนอนตัวหลวมโพรกเพราะเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จมาหมาด ๆ โชคดีนะที่รีบมาเปิดทันถ้าเจ้าหื่นนี่เปิดเข้ามาเองล่ะก็คงจะต้องเห็นอะไรต่อมิอะไรของหล่อนแน่ ๆ
“ฉันไม่มีมารยาทตรงไหนไม่ทราบ? ยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด ดูสิไม่ยักรู้ว่าสาวโคโนฮะน่ะช่างปากร้ายซะจริง” ใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัยนั้นช่างแสนจะยั่วยวนปลุกบาทากระทืบมารให้ทำงาน อายากะพยายามควบคุมสติอารมณ์ให้ถึงที่สุด
“ก็จู่ ๆ นายก็บอกว่าจะเข้ามาเองนี่”
“ฉันก็แค่ว่าไปอย่างนั้นเอง ฉันจะเข้าไปได้ยังไงล่ะกุญแจก็ไม่ได้มี”
“เออขอโทษก็ได้ที่เข้าใจผิด”
“ว่าแต่เธอน่ะ ไม่มีมารยาทจริง ๆ เล้ย ไม่รู้ว่าทันได้ใส่ชุดชั้นในรึเปล่า” โซซิโร่พูดด้วยท่าทางอารมณ์ดีแต่กลับทำให้คู่สนทนาอย่างอายากะโมโหจนหน้าแดง
“หน็อย! ไอ้หื่นอย่าอยู่เลย!” หญิงสาวรีบเตะตัดขาคนตรงหน้าทั้งที่เขายังไม่ทันตั้งตัวทำให้โซซิโร่ล้มลงไปกองกับพื้นแทบจะทันที จากนั้นล่ะก็บิงโก!
“อะไรเนี่ยปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะยายคนโหด!” ชายหนุ่มที่นอนอยู่ในท่าคว่ำหน้าลงกับพื้นรีบตะโกนออกมาทันทีหลังจากที่ถูกหล่อนเตะขัดขาอีกไม่พอตอนนี้ยังมานั่งทับหลังและล็อคคอเขาไว้จนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
“นายบังอาจมาพูดจาแทะโลมฉันก่อนนี่ ฉันไม่ยอมหรอกย่ะให้ตายยังไงก็ไม่ยอม!”
“เฮ้ยหยุดเถอะน่า เรากำลังจะไปทำภารกิจด้วยกันนะ”
“จนกว่านายจะยอมขอโทษฉันดี ๆ ไอ้คนหื่น! หรือถ้านายไม่ยอมขอโทษฉันล่ะก็ ฉันคงต้องใช้คาถาแปลงร่างให้นายกลายเป็นหนูซักหนึ่งคืน!”
“เอ้าก็ได้ ๆ” ชายหนุ่มผมสีชมพูเข้มถอนหายใจพร้อมกับยอมจำนน ไม่คิดว่าผู้ร่วมงานจากโคโนฮะครั้งนี้จะหัวดื้อหัวรั้นไม่ยอมคนและดูจะงี่เง่าไม่มีเหตุผลขนาดนี้
โจนินสาวยิ้มกริ่มด้วยความชอบใจที่ครั้งนี้ตนเองกำลังจะกำชัยชนะ แต่ขณะที่เธอกำลังรอให้ร่างหนาที่อยู่ใต้การควบคุมของเธอเอ่ยคำขอโทษนั้น ร่างของชายหนุ่มก็กลับสลายไปดังบ๊อง! “อะไรเนี่ย!” หล่อนอุทานด้วยความตกใจก่อนที่จะทันได้รู้ตัวก็ถูกแรงกอดอันมหาศาลของโซซิโร่จากด้านหลัง
“ใครจะยอมง่าย ๆ กันเล่า มีเพื่อนร่วมงานหัวดื้อแบบนี้ต้องจัดการให้อยู่หมัดไม่งั้นภารกิจคงล้มเหลวแน่ ๆ” เขากระซิบข้างหูทำให้อายากะรู้สึกจั๊กกะจี้ขึ้นมา ในหัวสมองตอนนี้กำลังคิดหาแผนเอาตัวรอดแต่ทว่ามันดูช่างจะยากเย็นเสียเหลือเกินเพราะตอนนี้หล่อนไม่สามารถประสานอินได้อย่างตามใจชอบ!
“คนอะไรทั้งแก่ทั้งหื่นทั้งเจ้าเล่ห์!” พึมพำออกมาด้วยความโมโห
“อย่าคิดว่าฉันไม่ได้ยินนะแม่สาวน้อย อ๊ะจะว่าไปแล้วควรเรียกเธอว่ายายเจ๊โหดคงจะเหมาะกว่าสินะ”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” โจนินสาวพยายามดิ้นทุรนทุรายแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการได้
“จะเอายังไงดีล่ะทีนี้ ฉันจะยอมปล่อยก็ต่อเมื่อเธอยอมตั้งสติแล้วก็ตั้งใจหารือกับฉันเรื่องงาน” น้ำเสียงห้าวและทุ้มนั้นพูดออกมาด้วยความจริงจังจึงทำให้อายากะฉุกคิดขึ้นมาถึงเรื่องภารกิจได้แทบจะทันที
‘นี่เรากำลังทำอะไรกันอยู่นะ เรามาทำภารกิจนี่แล้วหมอนี่ก็เป็นคู่หูในการทำภารกิจครั้งนี้ ไม่น่าเลยเราทำตัวงี่เง่าไปได้’ หล่อนคิดในใจก่อนที่จะตัดสินใจเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา
“เออก็ได้ฉันจะไม่พูดจาหาเรื่องนายในช่วงที่เราคุยเรื่องภารกิจ”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นะแต่ก่อนที่จะเข้าถึงเรื่องภารกิจฉันขอทำอย่างอื่นก่อนจะได้มั้ย?” พูดจบชายหนุ่มก็รีบพลิกตัวหญิงสาวตัวเล็กให้หันหน้ามาหาเขาแทบจะทันที
ตุ้บ! เสียงหมัดต่อยเข้าที่หน้าท้องของโซซิโร่ด้วยความรวดเร็ว ชายหนุ่มกุมท้องด้วยความเจ็บปวด ยายนี่โหดจริง ๆ กะจะแค่แกล้งเล่นเฉย ๆ ทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวไปได้ ทีสาว ๆ ซึนะยังไม่ทำแบบนี้กับเขาเลยสักคน
“หน็อยนายนี่มันหื่นเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ! แต่ก็เอาเถอะฉันจะลืม ๆ ไปซะแล้วเราจะได้คุยเรื่องภารกิจกันซักที”
“ก็แค่จะแกล้งเล่นเฉย ๆ น่า นี่เธอก็ทำเป็นจริงจังไปได้” ชายหนุ่มลุกขึ้นมาพร้อมกับเดินนำหญิงสาวตรงไปยังโต๊ะทำงานที่อยู่ติดกับหน้าต่าง
“ฮึ เนี่ยนะคนที่เราจะต้องทำงานด้วยจริง ๆ อยากจะให้มันเป็นแค่ฝันร้าย!” อายากะพึมพำด้วยความหงุดหงิดพร้อมกับเดินตามโซซิโร่ไปอย่างช่วยไม่ได้
“รับอะไรดีคะพี่อายากะ?” เด็กสาวผมบลอนด์ถามหล่อนด้วยท่าทางร่าเริง
“เหมือนเดิมจ้ะ เอ…ว่าแต่ยูกิไม่อยู่เหรอจ๊ะอิโนะจัง?”
“ใช่ค่าพี่ออกไปทำภารกิจกับกลุ่มคุณไรโดคุณเก็นมะน่ะค่ะ”
“แหมเจ้าเก็นมะนี่นะ ช่วยเปิดโอกาสให้วันนั้นแปปเดียวเองความสัมพันธ์คืบหน้าไปถึงไหนแล้วเนี่ย” แอบบ่นกับตัวเองเบา ๆ แต่ก็ไม่รอดพ้นจากการได้ยินของอิโนะ
“เอ๋…เปิดโอกาสอะไรเหรอคะพี่อายากะ” เด็กสาวถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
อิโนะและยูกินี่นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหวจริง ๆ อายากะคิดในใจ พี่สาวนั้นอ่อนหวานอ่อนโยนไม่ค่อยชอบจะอยากรู้เรื่องของชาวบ้านสักเท่าไหร่ ออกจะขี้เกรงใจคนด้วยซ้ำและอีกไม่พอเหมือนจะไม่ชอบสู้กับใครสักเท่าไหร่นอกเสียจากการทำภารกิจสมแล้วที่ยูกิเลือกที่จะเป็นนินจาแพทย์ ส่วนน้องสาวอย่างอิโนะนั้นถึงจะดูอ่อนหวานอ่อนโยนแต่เด็กคนนี้ก็ดูท่าทางจะสู้คนมากกว่าพี่สาว ‘นี่ฉันมาคิดวิเคราะห์เรื่องของคนอื่นทำไมเนี่ยห๊า!’
“ปะเปล่าจ้าไม่มีอะไรหรอก พี่ขอตัวก่อนนะเดี๋ยวต้องรีบไปทำภารกิจต่อแล้ว”
แท่นจารึกเงียบปราศจากผู้คนแต่อายากะก็พบว่ามีช่อดอกไม้วางอยู่ คนที่มาก่อนหน้านี้คงจะเพิ่งกลับไปอย่างแน่นอน ว่าแล้วเธอจึงรีบนำดอกไม้ไปวางและย่อตัวลงพร้อมกับหลับตาเพื่อระลึกถึงพี่ชายและนินจาหลาย ๆ คนที่จากไป
“ช่วยอวยพรให้ฉันทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จด้วยนะคะ” หล่อนพูดออกมาเบา ๆ ก่อนที่จะยืนมองแท่นจารึกได้ประมาณสามนาทีแล้วจึงตัดสินใจเดินทางไปซึนะ
การเดินทางไปซึนะครั้งนี้ค่อนข้างเร็วกว่าที่คิดเพราะว่าอายากะเดินทางไปเพียงแค่คนเดียว หล่อนจึงตัดสินใจใช้เวลากลางวันทั้งหมดให้หมดไปกับการเดินทางโดยไม่หยุดพักถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาเที่ยงหล่อนก็เลือกที่จะหยิบขนมปังในกระเป๋าออกมากัดกินไปด้วยและเดินทางไปด้วย
“ให้ตายสิจะมาตกทำพระแสงอะไรตอนนี้ฟะ” โจนินสาวบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าใกล้ค่ำและกำลังมองหากิ่งไม้ใหญ่เพื่อขึ้นไปนอนบนนั้น สายฝนเม็ดเล็ก ๆ ก็กลับโปรยปรายลงมา จนทำให้คนที่อยู่ข้างล่างรู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย สุดท้ายเลยตัดสินใจเดินทางไปอีกนิดเพื่อที่จะเข้าพักในโรงแรมเล็ก ๆ
“มาคนเดียวใช่มั้ยคะ?” พนักงานสาวที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์เอ่ยถามโจนินสาวที่มีสภาพเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำ
“ค่ะ” พูดจบอายากะก็รับกุญแจห้องมาจากพนักงานสาวพร้อมกับรีบวิ่งไปยังห้องพักทันทีเพื่อที่จะชำระล้างร่างกาย
“เนี่ยนะโฉมหน้าว่าที่คู่หูของเรา อะไรกันเนี่ยหน้าก็ไม่ยักจะเห็นชัด อายุก็ปาไปสามสิบแก่ซะยิ่งกว่าเจ้าคาคาชิซะอีก” หญิงสาวมุ่ยหน้าด้วยความหงุดหงิดที่เห็นหน้าค่าตาของคู่หูตัวเองไม่ชัด ถ้าหากเกิดว่าไปถึงซึนะแล้วมีแต่คนแต่งตัวแบบนี้หล่อนจะหาผู้ชายคนนั้นเจอได้ยังไงกัน!
การเดินทางมาซึนะใช้เวลาไปสามวันเต็ม ๆ พอไปถึงหน้าทางเข้าอายากะจึงนำจดหมายจากโฮคาเงะให้นินจาที่เฝ้าทางเข้าหมู่บ้านดู เธอเดินไปเรื่อย ๆ ตามคำบอกของนินจาที่อยู่ทางเข้าหมู่บ้าน
“เหมือนกันไปซะหมดแล้วฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะยะว่าไอ้ตึกรับมอบภารกิจมันไปทางไหน!” หล่อนตะโกนออกมาด้วยความโมโหอย่างสุดขีด ป้าซึนาเดะนะป้าซึนาเดะปล่อยให้ผู้หญิงบอบบางน่าทะนุถนอมอย่างหล่อนมาทำภารกิจที่นี่คนเดียวได้ยังไงกัน (บอบบางจริงเรอะ?//ไรท์จ่อไมค์ถาม) (ว่าไงนะ! // อายากะโหมดนางยักษ์) (เผ่นดีกว่า>< // ไรท์)
“ระวัง!” เสียงทุ้มห้าวของชายหนุ่มดังขึ้นหลังจากที่เห็นว่าพายุทรายที่สูงเท่าตัวคนกำลังก่อตัวขึ้นและหมุนไปทางนินจาสาวที่มาจากต่างแคว้น
“อะไรกัน…อุ๊บ!” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรร่างของอายากะก็ถูกใครบางคนกระโดดเข้ามารวบตัวแล้วดึงออกให้พ้นวิถีของพายุทรายหย่อมนั้น
แต่มันใช่แค่กระโดดแล้วรวบตัวที่ไหนกันเล่า! ถึงจะเป็นแค่เพียงแวบเดียว แวบเดียวเท่านั้นแต่โจนินสาวก็สัมผัสได้ว่าปากของเขาและหล่อนสัมผัสกันเมื่อตะกี้นี้!
“นี่…นาย!” หล่อนรีบดันตัวเขาให้ออกห่างพร้อมกับลุกพรวดด้วยความรวดเร็ว เท่าที่สังเกตดูหมอนี่คงจะอายุไล่เลี่ยกับเธอหรืออาจจะมากกว่าปีสองปีและก็คงเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาแต่ว่าความเร็วและการกระโดดเมื่อกี้…หมอนี่ต้องเป็นนินจาของซึนะแน่ ๆ
“คนเขาอุตส่าห์ช่วยแล้วยังไม่พูดขอบคุณอีกเนี่ยน่ะเรอะนินจาของโคโนฮะ” ชายหนุ่มมองหญิงสาวผมสีส้มที่ปล่อยให้มันยาวสลวยกลางหลังด้วยท่าทางพินิจพิเคราะห์
“หน็อยฉันขอบคุณก็ได้เรื่องที่ช่วยจากพายุทรายนั่น! แต่ขออัดสักเปรี้ยงให้หายแค้นกับที่จูบเมื่อกี้!” พูดจบอายากะก็รีบเตรียมตัวง้างหมัดจู่โจมแทบจะทันทีแต่มือของผู้ชายคนนั้นก็รีบคว้าข้อมือเธอไว้ด้วยความรวดเร็ว
“อะไรกัน…จะว่าไปแล้วนะ ไม่อยากจะพูดเลยว่านินจาของโคโนฮะนี่ช่างป่าเถื่อนจริง ๆ เล้ย”
“นี่ปากเหรอยะ พูดออกมาได้แต่ละคำมันช่างทำให้บาทากระตุกซะจริง”
“อา…ก็ปากน่ะสิเมื่อกี้ก็เพิ่งจะสัมผัสกับปากเธอไปไม่ใช่รึไง? ว่าแต่กำลังจะไปไหนงั้นเหรอดูท่าทางคงกำลังจะหลงทางนี่”
“หยุดพูดจาทุเรศแบบนี้ซะทีเจ้าบ้า ฉันจะไปที่ไหนก็ช่างเถอะอย่าสอดน่า!” ว่าจบหญิงสาวก็รีบเดินหันหน้าไปทางอื่นทันทีแต่ทว่าก็ลืมทางที่นินจาที่หน้าหมู่บ้านบอกมาเรียบร้อย
“แต่ดูท่าว่าคงต้องสอดซะหน่อยแล้วล่ะ ทำหน้าแบบนี้ให้หาทั้งวันก็คงหาไม่เจอ เธอคงกำลังจะไปตึกที่รับมอบภารกิจสินะ?” ผมสีชมพูเข้มของชายหนุ่มปลิวไสวไปตามลมแววตาของเขาดูอ่อนลงกว่าเมื่อกี้อยู่มากโข
“ก็อะไรเทือกนั้น นายรู้ทางรึไง?” เมื่อเห็นว่าจนมุมก็ต้องยอมสงบลงอย่างช่วยไม่ได้ อยู่ต่างบ้านนี่นะคงต้องระวังตัวหน่อยจะอาละวาดหนักเหมือนตอนอยู่โคโนฮะก็คงจะไม่ดี
“กำลังจะไปที่นั่นพอดี ไปด้วยกันไหมล่ะ?”
“เฮอะฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่านายจะไปที่นั่นจริง ๆ ชุดนินจาก็ไม่ได้ใส่สัญลักษณ์นินจาอีก”
หลังจากที่ได้ยินหญิงสาวว่าที่คู่หูพูดออกมาชายหนุ่มก็รีบดึงพาพันคอลงเผยให้เห็นถึงสัญลักษณ์ของนินจาแห่งซึนะที่ผูกไว้รอบคอของเขาก่อนที่จะดึงผ้าพันคอให้ขึ้นไปปกปิดเหมือนเดิม สงสัยแม่นี่คงจะไม่รู้สินะ ลืมไปซะสนิทเลยว่ารูปที่ติดไปนั้นช่างอำพรางหน้าตาของเขาจนเหลือแค่ลูกตา
“ถ้างั้นก็รีบนำไปซะที ฉันมาทำภารกิจชิงตัวลูกชายไดเมียว”
ประตูห้องรับมอบภารกิจถูกเปิดออกด้วยฝีมือของชายหนุ่มผมสีชมพูเข้มที่ผิวพรรณและหน้าตาของเขาดูอ่อนวัยกว่าอายุจริงอย่างมาก ร่างสูงเดินนำหญิงสาวในชุดโจนินของโคโนฮะเข้าไปข้างใน
“คุณฟูจิวาระ อายากะจากโคโนฮะสินะ” ผู้รับมอบภารกิจเอ่ยขึ้น
“ใช่ค่ะว่าแต่ไหนล่ะคะโจนินที่ฉันต้องทำงานร่วมด้วย?” หญิงสาวถามด้วยหน้าตาเหลอหลาเพราะคิดไว้ว่าคนแก่อายุสามสิบคนนั้นคงจะต้องมารออยู่ก่อนแล้วหากรู้ว่าหล่อนจะมา
ผู้รับมอบภารกิจเงยหน้ามองโซซิโร่อย่างต้องการคำตอบ เพราะเห็นว่าเดินมาด้วยกันแท้ ๆ แต่ทำไมโจนินสาวถึงได้ไม่รู้เลยว่าคนที่หล่อนเดินตามมานั่นแหละคือผู้ร่วมงานในครั้งนี้
“เธอคงไม่รู้สินะว่าเขาก็ยืนอยู่ในห้องนี้” โซซิโร่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปนขำ
“ฉันจะรู้ได้ยังไงก็ในห้องนี้ไม่เห็นมีคนแต่งตัวแบบหมอนั่นซักคนเดียวแล้วอีกอย่างหมอนั่นน่ะคงจะดูมีอายุหน่อย ๆ สามสิบแล้วนี่นะ…แล้วนายก็หยุดขำซะทีมันไม่ตลกนะ!”
“ใจเย็น ๆ ก่อนครับคุณอายากะ คนที่คุณหมายถึงน่ะเขาก็คือคนที่พาคุณเข้ามาในห้องนี้นั่นแหละ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้รับมอบภารกิจพูด หญิงสาวอึ้งไปแทบจะทันทีพร้อมกับรีบหยิบกระดาษข้อมูลของผู้ร่วมงานออกมา เธอจ้องมองภาพในกระดาษแผ่นนั้นสลับกับชายผมสีชมพูเข้มที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง
“นะ…นี่นะเหรอคนอายุสามสิบ ทำไม! หน้านายถึงได้ดูอ่อนกว่าวัยขนาดนี้!”
“ช่วยไม่ได้มันเป็นแบบนี้ของมันเอง” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนที่จะหันไปฟังผู้รับมอบภารกิจที่อ้าปากพะงาบ ๆ จะพูดอะไรบางอย่าง
“ภารกิจครั้งนี้เป็นภารกิจระดับA คุณอายากะคงจะทราบรายละเอียดมาพอแล้ว ตอนนี้ผมอยากจะให้คุณและโซซิโร่เตรียมตัวออกเดินทางไปยังซึจิโนะคุนิในวันรุ่งขึ้น ถึงทางไดเมียวจะบีบบังคับให้เราเร่งปฏิบัติภารกิจนี้มากแค่ไหนก็ตามแต่ผมก็ต้องคำนึงถึงผู้รับภารกิจเป็นสำคัญ คุณเพิ่งจะมาถึงผมอยากจะให้คุณทำความรู้จักและวางแผนกับคู่หูของคุณก่อน”
“ค่ะฉันทราบแล้ว” โจนินสาวตอบด้วยท่าทางเอาการเอางาน หลังจากนั้นเธอจึงเดินตามคู่หูชั่วคราวอย่างโซซิโร่ออกมาจากห้องรับภารกิจ
“นายเนี่ยนะที่เป็นคู่หูในภารกิจครั้งนี้ของฉัน ให้ตายซี่!” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปด
“หมายความว่ายังไง? เธอกลัวว่าฉันจะทำให้ภารกิจครั้งนี้ล้มเหลวงั้นเหรอ หรือว่ากลัวว่าจะได้จูบกับฉันอีก?” เขาอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคู่หูคนใหม่หน้าแดงขึ้นมานิด ๆ อาจจะแดงด้วยความโกรธหรือเขินก็ไม่อาจรู้ได้
“หน็อยใครจะกลัวกันล่ะยะ ฉันไม่ได้กลัวเลยสักนิด!” อายากะชูกำปั้นขึ้นมาด้วยความโมโหอีกครั้ง
“งั้นถ้าเธอไม่กลัวเราก็ลองทำแบบเมื่อกี้อีกทีดีไหม คราวนี้ฉันสัญญาว่าจะไม่ใช่แค่ปากแตะปากก็แล้วกัน”
“นายนี่มันแก่แล้วยังหื่นอีก อี๋!”
“ช่วยไม่ได้นี่นะ ฉันก็เป็นผู้ชายคนนึงมันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา…เอาล่ะเธอคงอยากจะพักฉันจะพาเธอไปส่งที่พักที่ทางซึนะเตรียมไว้ให้ ให้เวลาเธอพักสองชั่วโมงแล้วหลังจากนั้นฉันจะไปหาเธอเพื่อคุยเรื่องภารกิจ”
ห้องพักที่ทางซึนะจัดเตรียมไว้ให้พันธมิตรอย่างนินจาสาวจากโคโนฮะนั้นไม่ได้ใหญ่และก็ไม่ได้เล็กมาก ห้องพักนี้มีห้องอาบน้ำอยู่ในตัวพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ที่ทำให้คนเข้าพักรับรู้ได้ถึงความสะดวกสบายอยู่พอควร
อายากะวางกระเป๋าเป้ไว้บนเตียงพร้อมกับทรุดนั่งลงและเปิดค้นหาเสื้อผ้าที่จะใส่ในวันรุ่งขึ้น “ภารกิจชิงตัวคงจะไปอย่างเอิกเกริกไม่ได้สินะ” หล่อนพูดพลางหยิบเลือกเสื้อผ้าที่นำมาเพียงแค่สองชุดขึ้นมาพิจารณาว่าสมควรที่จะใส่ตัวไหน
ผ่านไปได้ไม่ถึงสิบนาทีหญิงสาวจึงเลือกชุดที่จะใส่ในการเดินทางวันพรุ่งนี้ได้ เมื่อทุกอย่างลงตัวจึงตัดสินใจงีบพักเอาแรงก่อนที่โซซิโร่จะมาหาเพื่อพูดคุยกันถึงเรื่องภารกิจ
“นี่เธอ…เปิดประตูหน่อยสิ” ชายหนุ่มวัยสามสิบผู้มีเรือนผมสีชมพูและหน้าตาอันอ่อนกว่าวัยหอบม้วนภารกิจพร้อมกับใช้มือเคาะประตูห้องพักของคู่หูคนใหม่แต่ก็กลับไร้เสี่ยงตอบรับ
“ถ้ายังไม่มาเปิดฉันจะเข้าไปละนะ”
“ไม่มีมารยาท!” เจ้าของห้องชั่วคราวรีบเปิดพรวดพราดออกมาทันทีตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเธออยู่ในชุดนอนตัวหลวมโพรกเพราะเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จมาหมาด ๆ โชคดีนะที่รีบมาเปิดทันถ้าเจ้าหื่นนี่เปิดเข้ามาเองล่ะก็คงจะต้องเห็นอะไรต่อมิอะไรของหล่อนแน่ ๆ
“ฉันไม่มีมารยาทตรงไหนไม่ทราบ? ยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด ดูสิไม่ยักรู้ว่าสาวโคโนฮะน่ะช่างปากร้ายซะจริง” ใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัยนั้นช่างแสนจะยั่วยวนปลุกบาทากระทืบมารให้ทำงาน อายากะพยายามควบคุมสติอารมณ์ให้ถึงที่สุด
“ก็จู่ ๆ นายก็บอกว่าจะเข้ามาเองนี่”
“ฉันก็แค่ว่าไปอย่างนั้นเอง ฉันจะเข้าไปได้ยังไงล่ะกุญแจก็ไม่ได้มี”
“เออขอโทษก็ได้ที่เข้าใจผิด”
“ว่าแต่เธอน่ะ ไม่มีมารยาทจริง ๆ เล้ย ไม่รู้ว่าทันได้ใส่ชุดชั้นในรึเปล่า” โซซิโร่พูดด้วยท่าทางอารมณ์ดีแต่กลับทำให้คู่สนทนาอย่างอายากะโมโหจนหน้าแดง
“หน็อย! ไอ้หื่นอย่าอยู่เลย!” หญิงสาวรีบเตะตัดขาคนตรงหน้าทั้งที่เขายังไม่ทันตั้งตัวทำให้โซซิโร่ล้มลงไปกองกับพื้นแทบจะทันที จากนั้นล่ะก็บิงโก!
“อะไรเนี่ยปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะยายคนโหด!” ชายหนุ่มที่นอนอยู่ในท่าคว่ำหน้าลงกับพื้นรีบตะโกนออกมาทันทีหลังจากที่ถูกหล่อนเตะขัดขาอีกไม่พอตอนนี้ยังมานั่งทับหลังและล็อคคอเขาไว้จนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
“นายบังอาจมาพูดจาแทะโลมฉันก่อนนี่ ฉันไม่ยอมหรอกย่ะให้ตายยังไงก็ไม่ยอม!”
“เฮ้ยหยุดเถอะน่า เรากำลังจะไปทำภารกิจด้วยกันนะ”
“จนกว่านายจะยอมขอโทษฉันดี ๆ ไอ้คนหื่น! หรือถ้านายไม่ยอมขอโทษฉันล่ะก็ ฉันคงต้องใช้คาถาแปลงร่างให้นายกลายเป็นหนูซักหนึ่งคืน!”
“เอ้าก็ได้ ๆ” ชายหนุ่มผมสีชมพูเข้มถอนหายใจพร้อมกับยอมจำนน ไม่คิดว่าผู้ร่วมงานจากโคโนฮะครั้งนี้จะหัวดื้อหัวรั้นไม่ยอมคนและดูจะงี่เง่าไม่มีเหตุผลขนาดนี้
โจนินสาวยิ้มกริ่มด้วยความชอบใจที่ครั้งนี้ตนเองกำลังจะกำชัยชนะ แต่ขณะที่เธอกำลังรอให้ร่างหนาที่อยู่ใต้การควบคุมของเธอเอ่ยคำขอโทษนั้น ร่างของชายหนุ่มก็กลับสลายไปดังบ๊อง! “อะไรเนี่ย!” หล่อนอุทานด้วยความตกใจก่อนที่จะทันได้รู้ตัวก็ถูกแรงกอดอันมหาศาลของโซซิโร่จากด้านหลัง
“ใครจะยอมง่าย ๆ กันเล่า มีเพื่อนร่วมงานหัวดื้อแบบนี้ต้องจัดการให้อยู่หมัดไม่งั้นภารกิจคงล้มเหลวแน่ ๆ” เขากระซิบข้างหูทำให้อายากะรู้สึกจั๊กกะจี้ขึ้นมา ในหัวสมองตอนนี้กำลังคิดหาแผนเอาตัวรอดแต่ทว่ามันดูช่างจะยากเย็นเสียเหลือเกินเพราะตอนนี้หล่อนไม่สามารถประสานอินได้อย่างตามใจชอบ!
“คนอะไรทั้งแก่ทั้งหื่นทั้งเจ้าเล่ห์!” พึมพำออกมาด้วยความโมโห
“อย่าคิดว่าฉันไม่ได้ยินนะแม่สาวน้อย อ๊ะจะว่าไปแล้วควรเรียกเธอว่ายายเจ๊โหดคงจะเหมาะกว่าสินะ”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” โจนินสาวพยายามดิ้นทุรนทุรายแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการได้
“จะเอายังไงดีล่ะทีนี้ ฉันจะยอมปล่อยก็ต่อเมื่อเธอยอมตั้งสติแล้วก็ตั้งใจหารือกับฉันเรื่องงาน” น้ำเสียงห้าวและทุ้มนั้นพูดออกมาด้วยความจริงจังจึงทำให้อายากะฉุกคิดขึ้นมาถึงเรื่องภารกิจได้แทบจะทันที
‘นี่เรากำลังทำอะไรกันอยู่นะ เรามาทำภารกิจนี่แล้วหมอนี่ก็เป็นคู่หูในการทำภารกิจครั้งนี้ ไม่น่าเลยเราทำตัวงี่เง่าไปได้’ หล่อนคิดในใจก่อนที่จะตัดสินใจเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา
“เออก็ได้ฉันจะไม่พูดจาหาเรื่องนายในช่วงที่เราคุยเรื่องภารกิจ”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นะแต่ก่อนที่จะเข้าถึงเรื่องภารกิจฉันขอทำอย่างอื่นก่อนจะได้มั้ย?” พูดจบชายหนุ่มก็รีบพลิกตัวหญิงสาวตัวเล็กให้หันหน้ามาหาเขาแทบจะทันที
ตุ้บ! เสียงหมัดต่อยเข้าที่หน้าท้องของโซซิโร่ด้วยความรวดเร็ว ชายหนุ่มกุมท้องด้วยความเจ็บปวด ยายนี่โหดจริง ๆ กะจะแค่แกล้งเล่นเฉย ๆ ทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวไปได้ ทีสาว ๆ ซึนะยังไม่ทำแบบนี้กับเขาเลยสักคน
“หน็อยนายนี่มันหื่นเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ! แต่ก็เอาเถอะฉันจะลืม ๆ ไปซะแล้วเราจะได้คุยเรื่องภารกิจกันซักที”
“ก็แค่จะแกล้งเล่นเฉย ๆ น่า นี่เธอก็ทำเป็นจริงจังไปได้” ชายหนุ่มลุกขึ้นมาพร้อมกับเดินนำหญิงสาวตรงไปยังโต๊ะทำงานที่อยู่ติดกับหน้าต่าง
“ฮึ เนี่ยนะคนที่เราจะต้องทำงานด้วยจริง ๆ อยากจะให้มันเป็นแค่ฝันร้าย!” อายากะพึมพำด้วยความหงุดหงิดพร้อมกับเดินตามโซซิโร่ไปอย่างช่วยไม่ได้
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ