fic kuroko no basket แฟนธ่อมตัวที่หก

7.0

เขียนโดย zusuran

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.38 น.

  17 ตอน
  1 วิจารณ์
  24.65K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2565 19.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

12) ขึ้นชื่อว่าปาฏิหาริย์ มันไม่มีใครปกติหรอก!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บนเรือสำราญ จะเรียกให้ถูกก็น่าจะเป็นเรือผีสิง ....(ก็นะ...มีแต่พวกผีพนันทั้งนั้นนี่นา)
นอกจากผี(พนัน)พวกนั้นแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีพวกที่มันไม่ปกติอยู่ด้วย
(ดิฉันจะถูกจับโยนทะเลมั้ยล่ะเนี่ย =___=)
 
ครืด...ครืดดดดด
 
"นี่ คิโยจิน~~~ มีขนมมั้ย"
เสียงยานๆเหมือนคนง่วงนอนดังขึ้น ในขณะที่กำลังเดินไปกับอีกคนที่ส่วนสูงไม่ค่อยต่างกันมา
"หา...อืม นี่อันสุดท้ายแล้ว เอ้า"
ขนมมายุโบถูกยื่นมาให้อันหนึ่ง
"อ่า....." ร่างสูงกว่าสองเมตรอ้าปากรอรับอย่างเดียวเพราะตอนนี้มือไม่ว่าง จนอีกคนต้องแกะและยื่นไปยัดปากให้แทน
"ขอบใจนะ"
"ว่าแต่....นายจะลากพวกนี้ไปด้วยทำไม มุราซากิบาระ"
สาเหตุที่ทำให้มือไม่ว่างมาแกะขนมกินเอง คือเจ้าพวกบอดี้การ์ดสามคนนี่ที่เจอระหว่างทาง ตอนนี้หมดมาดกลายเป็นอะไรซักอย่างให้เด็กโข่งผมม่วงรวบขาติดกันลากมาครืดๆ
ไม่รู้ว่ากระดูกหักไปกี่ท่อนแล้ว=___='
"อ๋า~...ก็มันไม่บอกว่าอาคาจินอยู่ไหนนี่นา"
"แล้วนายลากพวกมันมาด้วยแล้วจะช่วยอะไรได้เหรอ"
"ช่างฉันน่า~ คิโยจินก็ช่วยมองทางหน่อยเถอะ ประตู...."
โป๊กกกกกกกก!!!!
บอกช้าไปหน่อยมั้ยท่าน=___='
บานประตูที่ถูกเปิดออกมาขวางทางอยู่ถูกบางอย่างชนจนบุบ
"เจ็บมั้ยคิโยจิน"
คนถูกถามไม่พูดนอกจากนั่งยองๆกุมหน้าตัวเองตัวสั่นงกๆ
คิโยชิ เทปเปย์ เซ็นเตอร์ของเซย์ริน เป็นคนที่ค่อนข้างเก็บกดเอาไว้คนเดียวแฮะ... ซะเมื่อไหร่ล่ะ
เจ็บโคตรรรรรรรรรรรรร!!!!!
"ไอ้ประตูเฮงซวย~"
อสุรกายออกมาแล้ว! =____=!
คิโยชิลุกขึ้นยกแขนเช็ดเลือดกำเดาที่ไหล และ
"ไปตายซะ!!!!!!!!!"
ปึงงงงงงงงงงงงง!!!!
พลัวะ!!!!!
"อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!!!"
คิโยชิถีบประตูบานนั้นเต็มเหยียด และพละกำลังระดับกอลิล่าก็ทำให้บานประตูนั้นหลุดลอยละลิ่วไปข้างหน้า ประจวบเหมาะกับพวกบอดี้การ์ดที่โผล่มาอีกสี่คนพอดิบพอดี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเสียงร้องหลงโลกของพวกมันกับบานประตูที่กองอยู่ตรงหน้านั่นบอกได้ดีอยู่แล้ว
"คิโยจิน...ทำลายข้าวของไม่ดีนะ"
"เอ๊ะ? แหะๆๆ โทษทีๆ" ^___^'
ได้เอาคืนแล้วก็อารมณ์ดีขึ้นน่ะ
(ฉันจะไม่เข้าใกล้นายเวลานายโกรธ คิโยชิ!!!!)
ไม่อยากจะคิดเลยว่าเจ้าพวกที่ถูกประตูปลิวไปทับนั่นจะเป็นยังไง แน่นิ่งเชียว
"อ่ะเระ มีทางไปด้วย"
"งั้นก็ไปทางนี้ละกัน ปล่อยพวกนี้ไว้ที่นี่ล่ะ ทางมันแคบเดินลำบาก"
"อืม"
แล้วมุราซากิบาระก็โยนพวกสามคนที่งอมพระรามไปไว้ข้างๆทางเดิน ก่อนจะตามคิโยชิไป
 
อีกด้านหนึ่ง.....
 
"ทำไมฉันต้องมาอยู่กับนายด้วยเนี่ย"
"พูดยังกะฉันอยากจะมากับนายนักล่ะ"
แว่นปะทะแว่น เซย์รินปะทะชูโตคุ!
พูดไปนั่น ก็แค่ถูกจับได้เลยแยกกันหนี พอรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นอย่างนี้
ฮิวงะ จุนเปย์ มองมิโดริมะที่ยังสวมหน้ากากเท็นกุไว้บนหัว
"ถามหน่อย นายจะใส่หน้ากากนั่นมาด้วยทำไม มิโดริมะ"
"ไอเท่มนำโชคตั้งแต่เมื่อวาน"
"อ้อ"
ใช่ เมื่อวาน...หลังจากที่อาคาชิกับคุโรโกะถูกจับตัวไป พวกเขาก็ตามมาที่ท่าเรือตามสัญญาณโทรศัพท์ของริโกะที่ถูกจับไปเหมือนกัน พอมาถึงแล้วก็แอบขึ้นเรือแต่ก็ถูกเจอเพราะความโดดเด่น(จริงง่ะ)จนต้องแยกกันหนีไปคนละทิศละทาง
ฮิวงะที่หนีลงมาที่ห้องเครื่องใต้ท้องเรือก็เจอกับมิโดริมะ แถมมันยังสวมหน้ากากเท็นกุทำเอาพวกบอดี้การ์ดช็อกตาตั้งน้ำลายฟูมปากไปเป็นสิบ!
บุญเท่าไหร่แล้วที่ไม่หัวใจวายไปอีกคน
นี่ถ้าเป็นคิโยชิที่ค่อนข้างขวัญอ่อนก็คงไม่เหลือ
(แน่ใจเหรอ)
แถมยังต้องหาที่หลับนอนอยู่กับเจ้าบ้าของนำโชคนี่ทั้งคืน
"แล้วนี่จะไปทางไหนต่อละเนี่ย ประตูก็มีเหมือนๆกันหมดเลย"
จะไปทางไหนก็เจอแต่พวกบอดี้การ์ดที่มีทั้งมีดทั้งปืน ขืนทะเล่อทะล่าออกไปส่งเดชมีหวังถูกมันจับแน่
"จากเซ้นต์ของฉันบอกว่าไปทางนี้จะโชคดี"
พูดง่ายทำง่ายขนาดหนัก มิโดริมะเดินไปเปิดประตูทางซ้ายมืออย่างไม่รออะไร
พลัวะ!
พรึ่บ!
ปืนเป็นสิบ =___=''''
v__________v'''/พูดไม่ออก
.............................
......
"โชคดีมาก~"=___=+++
 
ฮิวงะกัดฟันพูด แน่นอนว่าประชด
ไอ้บ้าหัวเขียวมันพามาลงหลุมชัดๆ!! อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!!!
 
 
การแข่งยังมีต่อถึงแต้มจะห่างกันลิบลับแต่ความสนุกมันไม่ได้อยู่ที่แต้มนั่นหรอก จุดเด่นที่เรียกเสียงโห่กระหึ่มก็คือการเล่นที่มันสะใจทั้งคนเล่นแล้วก็คนดูนั่นต่างหาก
ตึงงงงง!!! คึงงงงงงงง!!!!
เสียงทุ่มบาสของอาโอมิเนะสะเทือนไปทั้งสนาม
การเลี้ยงของอาคาชิที่ไม่มีใครตามทัน และการชู้ตลูกไร้ทิศทางของคุโรโกะมันเรียกเสียงโห่ร้องได้พอๆกับอีกฝ่ายที่ถือทั้งมีดทั้งสนับมือไล่ฟาดฟันเข้ามานั่นแหละ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีทางจะทำอะไรสามปาฏิหาริย์นี่ได้เลย
 
แต่ก็นะ...
"มีตัวประกันมาเพิ่มแล้วสิ"
"หา?....!!!!"
ฮิวงะ! มิโดริมะ!
ถูกคุมตัวเข้ามาสมทบกับพวกคางามิ
คิเคียวยะมองลงมายิ้มอย่างผู้ชนะ
แต่อาคาชิที่เนื้อตัวเปื้อนเลือดตวัดสายตามองกลับมาเพียงนิดเดียวก็ทำเอาพวกมันถึงกับหน้าซีดใจเต้นไม่เป็นส่ำแล้ว
ในสนามตอนนี้ไม่ต่างไปจากสนามรบหรือไม่ก็สถานที่ฆาตกรรมอะไรซักอย่าง และคนที่จัดการกับพวกนั้นอย่างทารุณก็คืออาคาชิ
"เจ้าบ้าอาคาชิ..."
มิโดริมะงึมงำ ถึงจะไม่ผิดไปจากความคาดหมายเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้คิดเผื่อถึงสภาพแบบนี้ไว้ด้วยเลย
อาคาชิไม่ใช่คนที่ทำอะไรโดยไม่ไต่ตรอง และมักจะใช้ความฉลาดระดับเนตรราชันย์จัดการทุกอย่างให้หมอบอยู่แทบเท้าเสมอ แต่ดูตอนนี้สิ อะไรกันที่ทำให้ราชาถึงกับลดตัวลงไปเกลือกกลิ้งอยู่กับสิ่งสกปรกแบบนั้น
 
คุโรโกะ เท็ตสึยะ...อ้อ นั่นสินะ
 
"นี่มันเกมบ้าอะไรกัน...แล้วนั่นคุโรโกะไม่ใช่เหรอ เจ้านั่นไปตรงนั้นได้ยังไง"
ฮิวงะพึมพำออกมาอีกคน มองลงไปที่คนตัวเล็กที่กำลังหมุนลูกบาสชุ่มเลือดสีแดงอยู่บนนิ้วชี้ของตัวเอง โดยที่มีทั้งอาโอมิเนะแล้วก็อาคาชิประกบอยู่ซ้ายขวา
พวกที่พลาดท่านอนจมกองเลือดไม่ก็กระดูกหักหลายท่อน ถูกลากออกไปจากสนาม ก่อนที่จะพวกใหม่ลงมาเทน
"จะเอาไงล่ะ เซย์จูโร่คุง ถ้าไม่แข่งต่อฉันไม่รับประกันลมหายใจของเพื่อนเธอนะ"
 
ไอ้สารเลวนี่มันตั้งใจจะใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือพนัน และจะให้หมดแรงไปเอง
แต่ว่า คิดตื้นไปแล้ว
ปาฏิหาริย์น่ะ ไม่มีทางจะมอดดับง่ายๆหรอก หรือจะพูดกันง่ายๆก็คือ มันไม่ใครปกติซักคน!
อาคาชิเงยหน้าขึ้นมองแสยะยิ้มกลับไป
รอยยิ้มซาตานนั่นทำเอาผู้ที่มองเห็นอึ้งจนไม่กล้าพูดออกมา
"โว้ย~เมื่อไหร่มันจะจบซะทีวะ ไอ้พวกเวรนี่"
 
อีกคนที่เก็บกดมานานกำลังเหมือนหม้อน้ำเดือดปุดๆอยู่ตอนนี้ก็คือคางามิ
"นี่นาย ถูกจับมาทันทีเลยเหรอคางามิ อ่อนหัดชะมัด"
คู่กัดตลอดกาลอย่างมิโดริมะก็ดันมาย้ำหัวตะปูเข้าไปอีก
"แกมันก็พอๆกันนั่นแหละไอ้แว่นบ้าเครื่องราง!"
"หึ..." ทำทีเป็นดันแว่นขึ้นแก้เก้อ
"น่าๆ ยังเหลือคิโยชิกับมุราซากิบาระอยู่นะ พวกนั้นคงจะหาทางช่วยพวกเราได้อยู่หรอก"
"แน่ใจเหรอที่พูดน่ะ ฉันว่าสองคนนั่นมันปัญญาอ่อนทั้งคู่นั่นแหละ"
เด็กโข่งสติไม่เต็มบาทสองคนนั่น ไปที่ไหนก็สะดุดตาเอะอะมะเทิ่งจะตาย ถ้าลองได้อยู่ด้วยกันละก็ ความบรรลัยติดปีกมาเป็นแพ็คคู่แน่
 
ตึงงงงงงง!!!
 
ปังงงงงงงงงงงง!!!!
 
มานั่นแล้ว...รึเปล่านะ =___='
เหมือนมีบางอย่างกำลังเดินทะลุกำแพงมาทีละชั้นๆ ทั้งสนามกับที่นั่งคนดูรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจนทุกอย่างต้องเงียบกริบ รอลุ้นว่าอะไรจะโผล่มา
 
ปังงงงงงงงง!!!!
โครมมมมมมมมมมม!!!!!
เอื้อกกกกกกกก~~ /เสียงกลืนน้ำลายของแต่ละคน
และประตูบานหนึ่งไม่ไกลจากที่นั่งของคิเคียวยะ
ตึงงงงงงงงง!!!!
=[]=!�
=___='''
O[]O!!!!!!!
=()=???????????
ประตูเหล็กนะนั่น มันนูนออกมาได้ไง๊!!!!!!!!!!!!
"ไปดูซิว่าอะไรมันกระแทกประตู"
คิเคียวยะสั่งลูกน้อง บอดี้การ์ดสามคนวิ่งไปที่ประตูพร้อมปืนครบมือ แต่ว่า....
พวกแกผิดแล้วล่ะ อสูรกายมาเยือนแล้วรู้มั้ย
ตัวประกันนึกพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย และมันก็เห็นผลในพริบตา
"ไอ้ประตูเฮงซวย~ไปตายซ้าาาาาาาาาาา!!!!!"
พลัวะ!!!!!
=[]=!!!!!!!!!!!!
V________V'''''''
ประตูหลุดออกมาทั้งบานอัดพวกบอดี้การ์ดที่กำลังไปยืนตรงนั้นเต็มๆ และมันก็ลอยละลิ่วลงไปที่สนามเบื้องล่างทั้งคนทั้งประตูนั่นแหละ
ว้ากกกกกกกกกกก!!!!
โครมมมมมมมมมมม!!!!
บานประตูบิดเบี้ยวร่วงลงมาทับคนที่กำลังเข้ามาจะกระซวกพุงของพวกคุโรโกะอย่างแม่นยำ
พินาศย่อยยับอยู่แทบเท้าปีศาจทั้งสามตัว
ไม่มีใครทำอย่างนี้ได้ นอกจาก...
"อ่าระระ...คิโยจิน~~ นี่อันที่สิบแล้วน้า~"
มาแล้วหนึ่ง =___='
"โทษทีๆ ลืมตัวไปนิดหน่อยน่ะ"
นี่ก็ตัวที่สอง........ หน่อยเหรอ ไม่หน่อยเลยนะแก!
ไอ้พวกปาฏิหาริย์!!!!
"คิโยชิ! มุราซากิบาระ!!"
"หา?...."
"อ้าว! พวกนายเองเหรอ"
คิโยชิทักมาหน้าระรื่น
ยิ้มแก้มปริเชียวนะแก แล้วไอ้หัวโนๆกับเลือดกำเดานั่น อย่าบอกนะว่ามันเดินชนผนังกำแพงประตูมาเรื่อยน่ะ=___=
"บอกแล้วว่าสองคนนี้ปัญญาอ่อน"
ขนาดหนักเลยล่ะ
คิเคียวยะแทบจะนั่งไม่ติดที่
ครบคน พร้อมหน้า และไม่ได้มีแต่พวกปาฏิหาริย์ซะด้วย ทั้งราชาไร้บัลลังก์ อัจฉริยะก็อยู่ ทั้งๆที่อยากได้แค่คุโรโกะกับอาคาชิ เท่านั้นเอง
แต่ก็เอาเถอะ ตอนนี้อยู่กลางทะเล ไม่ว่าพวกมันจะทำอะไร สุดท้ายคนที่จะได้ของล้ำค่าก็คือเขาคนนี้ โดยเฉพาะการได้เชยชมสมบัติล้ำค่าอย่างแฟนธ่อมตัวที่หก
"อ่า...อาคาจินนี่"
ตาปรือๆมองลงไปที่สนามซึ่งตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าเละ
"อาคาจิน กำลังสนุกอยู่เลย"
"อัตสึชิ"
"หืม อะไรเหรอ อาคาจิน"
"อยู่ตรงนั้นก่อน อย่าไปไหนล่ะ"
"โอเค..."
ทำไมฟระ!!!!!!/ ทุกคนตะโกนออกมาในใจ
 
 
ปั่บ!
มือกร้านเปื้อนเลือดตบลงบนไหล่บางทีหนึ่ง
"อาคาชิคุง"
"อิ่มกับชัยชนะรึยัง เท็ตสึยะ"
"....ยังครับ ....รู้สึกว่ามันยังไม่พอ"
"กินจุจังนะ แต่ก็เอาเถอะ อยากได้เท่าไหร่ก็ไปเอามันมาตามใจ"
ปีศาจที่นานๆจะตื่นมาซักหนต้องกระหายและอยากกินให้พอเป็นธรรมดา คงต้องปล่อยให้กินจนอิ่มแล้วค่อยหยุดก็แล้วกัน
"ไดกิ"
"เออ รู้ล่ะ แค่หักกระดูกคนมันง่ายกว่าปอกกล้วยซะอีก"
 
"ใจร้าย ฮือออออออ~~~~ อาโอมิเนจจิ คุโรโกจจิ อาคาชิจจิ ทำไมผมต้องเป็นคนนั่งดูด้วยฟระ"
คิเสะน้ำตาตกน้อยอกน้อยใจ
 
ในบรรดาผู้เข้าแข่งแต่ละชุดที่เข้ามาและถูกลากออกไปในสภาพที่ไม่สมประกอบมีแค่ไฮซากิคนเดียวที่ยังเหลือ
เขาไม่ได้บ้าระห่ำเข้าชาร์ตเหมือนคนอื่น แต่หลบหลีกอยู่รอบนอกและหาทางทำแต้ม
ก็นะ..ถึงจะเข้าไปก็จะถูกอาคาชิใช้เนตรราชันย์สวนกลับทันที หรือไม่ก็ถูกอาโอมิเนะกระแทกจนลอยละลิ่วตกพื้นกระดูกหักหลายท่อน
ไม่ได้ จะต้องให้พวกมันหมดแรง จากนั้นก็จัดการกับเจ้าแฟนธ่อมตัวทำแต้มนั่นซะ
จัดการกับคุโรโกะ เท็ตสึยะ!
 
300-48 แต้ม
ห่างกันลิบลับราวฟ้ากับเหว และการเล่นแบบไร้กติกาก็เรียกเสียงเชียร์กระหึ่ม
"คุโรโกะ... หมอนั่นไม่สมควรจะไปอยู่ในที่แบบนั้นนะ"
ฮิวงะพึมพำ
"ไม่ใช่หมอนั่น"
"พูดอะไรน่ะ คางามิ"
"ปล่อยให้มันซักวันเถอะครับ รุ่นพี่"
!!!!!!????
แฟนธ่อมตัวที่หกแห่งทีมปาฏิหาริย์ที่นานๆจะตื่นขึ้นมา ปล่อยให้มันอาละวาดหาชัยชนะกินซะให้พอ เดี๋ยวมันก็กลับไปเอง กลับไปสู่เงาที่ๆมันควรจะอยู่
 
เจ็บใจรึเปล่า ใช่!...เจ็บใจ
เจ็บใจที่ไม่ได้ไปลิ้มลองชัยชนะกับมัน ไม่ได้ไปอยู่ใกล้ๆมัน
แต่ก็อย่างที่รู้อยู่แก่ใจ เขายังอ่อนหัดนัก แฟนธ่อมแห่งทีมปาฏิหาริย์ ผู้ที่เลี้ยงและควบคุมมันได้ก็มีแต่ทีมปาฏิหาริย์เท่านั้น
โดยเฉพาะผู้ที่มองเห็นมันตั้งแต่ที่มันอยู่ในเงา เรียกมันออกมาและสอนวิธีกางเขี้ยวเล็บให้
 
อย่างราชาแห่งปาฏิหาริย์
 
อาคาชิ เซย์จูโร่ คนนั้น!
______________________________________________-

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา