หนี้รัก พันธะหัวใจ
-
2) หนี้รัก 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคาสิโนเป็นหนึ่งที่ที่คุณหญิงมักจะมาในทุกเย็น และไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย หล่อนแค่ต้องการที่คลายความเครียดในหัว นับวันธุรกิจที่ทำก็ขาดทุนลงเต็มที รายได้ที่เข้ามาก็ไม่มากพอที่หล่อนต้องการ และนี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ช่วยหล่อนได้ แน่นอนว่าคนเรามันก็ต้องมีได้มีเสียแต่ช่วงหลังๆนี้หล่อนเสียเยอะมากจริงๆ แต่ยังไงหล่อนก็เลิกเล่นไม่ได้..เอาง่ายๆตอนนี้คุณหญิงติดมันจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ
“ว้าย!คุณหญิงมินตรา คราวที่แล้วไม่เข็ดอีกหรอคะถึงได้มาอีกเนี่ย” คุณหญิงอีกท่านเอ่ยทักขึ้น
“คราวนี้ฉันมั่นใจว่าฉันต้องได้แน่นอนค่ะ ฉันขอเดิมพันสองแสน” คุณหญิงว่าปุ้บก็ตั้งเงินดังกล่าวไว้ด้านหน้า แต่ไม่ทันได้เริ่มกลับมีชายร่างท้วมสองคนเดินเข้ามาล็อกแขนของหล่อนไว้ทั้งสองข้าง
“ว้าย!!พวกแกเป็นใครเนี่ย!” คุณหญิงหวีดร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่ผู้ชายสองคนนั้นจะลากหล่อนออกมายังอีกห้องหนึ่ง
“ได้ตัวมาแล้วครับคุณนภดล” ชายสองคนปล่อยคุณหญิงอย่างแรงจนหล่อนล้มลงไปกับพื้น เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับชายแปลกหน้าอีกคน ร่างสูงใหญ่ไว้หนวดเคราจนน่าขนลุก แต่ถ้าดูรวมๆแล้วอายุคงจะรุ่นราวคราวเดียวกับหล่อนไม่น้อย
“คุณเป็นใคร” คุณหญิงถาม
“ฉันหรอ หึ มันไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญคือเงินของฉันมากกว่า! เมื่อไหร่ฉันจะได้เงินจากแกห้ะ!”
“เงิน…นี่ คุณเป็นเจ้าของที่นี่หรอ” คุณหญิงมองหน้าผู้ชายดั่งกล่าวหล่อนจำได้ว่าเจ้าของที่นี่ไม่ใช่เขาคนนี้ เขาแสยะยิ้มก่อนจะเอื้อมมือจับคางคุณหญิงแล้วพูดขึ้น
“ตอบไม่ตรงคำถาม…ฉันถามว่าเงินจะได้เมื่อไหร่!”
“ทำไมฉันต้องให้คุณ!คุณไม่ใช่เจ้าของที่นี่!...โอ้ย!” หลังจากที่คุณหญิงลั่นวาจาออกไป ฝ่ามือหนาก็ตบเข้าที่หน้าอย่างจัง คุณหญิงหน้าหันไปอีกทาง ก่อนที่เลือดจะซึมข้างปาก
“คุณผู้ชายเป็นพ่อของคุณภานุเจ้าของที่นี่! แกอย่าริอาจขึ้นเสียงใส่ท่าน” ผู้ชายร่างท้วมเอ่ยขึ้น ก่อนที่คุณหญิงจะเริ่มกระจ่างขึ้น คุณหญิงมินตราเงยหน้าสบตาคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของเจ้าของคาสิโน เขาแบมือรอเงินจากหล่อน
“ฉัน…ฉันเป็นหนี้คุณเท่าไหร่”
“เหอะ! ยังจะถามอีกหรอ! สิบล้าน! แกเป็นหนี้ฉันสิบล้านบาท แล้วไหน..ไหนเงินของฉัน” คุณผู้ชายจับคางหล่อนแล้วบีบจนคนที่ถูกกระทำร้องโอดครวญด้วยความเจ็บ
“ตอนนี้ฉันไม่มีเงิน ฉันขอเวลา..”
“เวลาอะไรไม่มี! แกผลัดมากี่ครั้งแล้วห้ะ! เอาเงินมาซะดีๆ” เขาสะบัดหน้าคุณผู้หญิงอย่างแรง “เอากระเป๋าตังแกมาให้ฉัน!”
คำสั่งของเขาเหมือนเป็นสิทธิ์ขาด ลูกน้องสองคนเดินเข้ามาแล้วจับตัวหล่อนไว้คนนึงอีกคนก็ล้วงกระเป๋าตัง คุณหญิงดิ้นทุรนทุรายไม่อยากให้พวกมันถูกเนื้อต้องตัวซะด้วยซ้ำ เมื่อลูกน้องได้กระเป๋าตังมามันเลยยื่นไปให้คุณผู้ชายที่ยืนรออยู่แล้ว
“ฉันจะดูสิ ว่าแกยังมีเงินอยู่เท่าไหร่”
เขาจัดการเปิดกระเป๋าตังคุณผู้หญิง เงินที่มีอยู่ก็รอมร่ออยู่เต็มที เขาส่ายหน้าเอือมระอาแต่ครั้นมือกำลังจะปิดกระเป๋าสายตากลับมองเห็นรูปใบเล็กที่อยู่ในกระเป๋าเช่นเดียวกัน…รูปของหญิงสาวสองคนที่ยืนขนาบข้างคุณผู้หญิง คนนึงดูเป็นคุณหนูไฮโซแต่งหน้าจัดปากแดงผมยาวสละสลวยต่างกับอีกคนอย่างชัดเจนเธอใส่เสื้อผ้าธรรมดามัดผมหางม้าไม่ได้แต่งหน้าแต่ใบหน้าเธอกลับดูสวยและเป็นธรรมชาติมากกว่าอีกคนเสียอีก
“หึ คุณหญิงผู้หญิงในรูปนี่คือใคร” เขาว่าพลางหยิบรูปขึ้นมาให้คุณผู้หญิงดู เพียงเท่านั้นหล่อนถึงกับเบิกตาด้วยความตกใจ
“นั่น…ลูกสาวฉัน แกห้ามยุ่งกับเธอนะ!” หล่อนพยายามเข้าไปยื้อแย่งรูปพวกนั้น แต่กลับถูกลูกน้องสองคนจับตัวไว้
“นี่คุณหญิง…ผมมีข้อเสนอดีๆให้คุณ…ถ้าคุณยอมทำตามข้อเสนอของผมผมรับรองว่าหนี้สิบล้านของคุณจะถือเป็นโมฆะทันที”
ข้อเสนอ?...คุณหญิงชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยถามกลับไป
“ข้อเสนออะไร?”
ในทุกๆวันธนันธรณ์ มักจะมาซื้อของที่ตลาดเพื่อไปทำอาหารค่ำที่บ้าน ฟางเดินมาซื้อผักบวบที่เป็นของชอบของคุณหญิง แต่เหลือถุงสุดท้ายพราวถอนหายใจที่มาได้ทันพอดี แต่ทันทีที่ยื่นมือเพื่อหยิบถุงกลับมีมือของใครอีกคนมาหยิบเช่นกันส่งผลให้มือของเขาจับกับมือของเธอ
“ขอโทษครับ”
ผู้ชายคนนั้นชักมือกลับแล้วพูดขอโทษเธออย่างรวดเร็ว แต่ทันทีที่เราหันหน้ามาเจอกันเท่านั้นล่ะ…ผู้ชายผิวขาว จมูกโด่ง ริมฝีปากแดงอีกทั้งความสูงที่โดดเด่นและรอยยิ้มที่ดึงดูดผู้หญิงให้ละลายได้ในเวลาเดียวกัน
เธอเคยเจอเขาแล้ว…
“คุณ…” ฟางทักผู้มาใหม่ด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็เหมือนจะจำเธอได้แล้ว เขาเองที่เคยช่วยฟางเอาไว้จากนั้นก็พาไปส่งที่บ้านจนทำให้เธอกับเฟย์ทะเลาะกัน
“ผมจำได้แล้ว เราเคยเจอกัน” เขาเองก็ทักตอบ
“บังเอิญจังเลยนะคะ ฉันไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่”
“ครับ คุณจะซื้อผักบวบหรอ” ทันทีที่เขาถาม ฟางจึงพยักหน้าเป็นคำตอบ
ไม่รู้ว่าเธอจะรู้บ้างไหมว่ารอยยิ้มของเธอกำลังทำให้ใจของเขาหลอมละลายไปตรงนี้…น่าแปลกที่เราเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวแต่เขาไม่สามารถละสายตาจากหญิงสาวคนนี้ได้เลยสักวินาทีเดียว ความจริงเขาเห็นผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เธอเดินมาเลือกผักแล้ว เขาก็แค่แกล้งเข้ามาโดยบังเอิญแล้วแอบจับมือเธอก็แค่นั้น เขาเองก็ไม่คิดว่าเธอจะจำเขาได้
“ใช่ คุณจะซื้อด้วยหรอคะ”
“ครับ แต่มันเหลือถุงสุดท้ายนั้นคุณเอาไปเถอะ” ชายหนุ่มเลยยื่นถุงผักบวบให้กับพราว หากแต่เธอก็ไม่ยอมรับไว้
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณเอาไปเถอะ ฉันค่อยไปซื้ออย่างอื่นก็ได้” ฟางเลยไม่ขอรับไว้ ด้วยความที่เกรงใจและเธอก็อยากตอบแทนน้ำใจที่ช่วยเธอเอาไว้
“คุณเอาไปเถอะครับ” หากแต่ชายหนุ่มยังคงยื่นให้เธออยู่อย่างเดิม
“ถือว่าผักบวบเป็นการตอบแทนที่คุณเคยช่วยฉันไว้ก็แล้วกันนะคะ รับไว้เถอะค่ะ”
ฟางพูดแล้วยิ้ม สุดท้ายเขาก็ยอมซื้อผักบวบมาเอง ทั้งที่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะซื้อสักหน่อย แต่พอได้ยินคำพูดของฟางเขาก็ยอมซื้อมาในที่สุด แต่ก่อนที่ฟางจะเดินออกไป เขาก็แค่อยากทำความรู้สึกสักหน่อย
“เอ่อ แล้วคุณชื่ออะไร…”
“ฉันชื่อ ธนันธรณ์ค่ะ เรียกว่าฟางก็ได้ ขอตัวนะคะ” ฟางรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่เขายังไม่ได้แนะนำตัวเลย แต่ถึงอย่างนั้นเขาได้รู้จักชื่อก็พอใจแล้วล่ะ
“ผมชื่อ ภานุ นะครับ” เอ่ยออกไปทั้งๆที่คนฟังก็ไม่อยู่แล้ว ก็แค่หวังว่าสายลมจะพาให้เราได้มาเจอกันอีก มันไม่บ่อยหรอกนะที่นรภัทรจะเจอใครที่ถูกใจและผู้หญิงคนนั้นคือนภาพราว จะปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆก็คงไม่ได้ และอย่ามองเขาเจ้าชู้นะ เขาไม่ใช่คนประเภทนั้น…
“ผมหวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะฟาง”
ภายในสองมือสวยหิ้วของพะรุงพะรังหลังจากเธอกลับจากตลาดเธอก็กลับบ้านทันที ก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรทำให้เธอรู้สึกดีขนาดนี้ตลอดทางที่กลับมาภาพของผู้ชายคนนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวแล้วทุกครั้งที่นึกถึงมันก็ทำให้เธอยิ้มได้เสมอหรือบางทีเขาอาจจะเป็นคนแรกที่ทำให้เธอยิ้มออกมาก็ได้
“นี่นังฟาง แกได้ซื้อของที่ฉันสั่งรึยังย่ะ” พรปวีณ์เดินพุ่งตรงปรี่เข้าหาธนันธรณ์ในชุดสายเดียวกางเกงขาสั้น
“ฟางซื้อแล้วค่ะ เอ๊ะ แล้วนี่คุณเฟย์จะไปไหนหรอคะ”
“ฉันจะไปไหนก็ไม่ได้เกี่ยวกับขี้ข้าอย่างหล่อนเป็นแค่กาฝากอย่าเสนอหน้าถามนาย”
“ขอโทษค่ะ” ฟางก้มหน้ารับ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในครัว วางข้าวของที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะอาหาร
“คุณฟางคะ ทีหลังไม่ต้องไปจ่ายตลาดก็ได้นะคะ ป้าเกรงใจคุณฟางจะแย่อยู่แล้ว” ป้าณีเอ่ยขึ้น ฟางหันไปยิ้มแล้วส่ายหน้าเชิงไม่เป็นไร
“แล้วคุณฟางไม่ได้ซื้อผักบวบมาหรอคะเนี่ย” ป้าณีถาม หลังจากที่ดูของที่ซื้อมาทั้งหมด
“เอ่อ พอดีมันหมดน่ะจ้ะป้า ฟางไปซื้อไม่ทัน” ปากก็ว่าไปอย่างนั้นแต่ในใจกลับเต้นรัวอย่างแปลกประหลาด นภาพราวเบี่ยงสายตาไปทางอื่น เพราะเธอรู้ว่าป้าณีกำลังจับผิดเธออยู่
“จริงหรอคะคุณฟาง”
“จ..จริงสิจ้ะป้า ทำไมป้าพูดเหมือนไม่เชื่อฟางเลย” ฟางทำสีหน้าน้อยใจ
“ก็แหม่ เวลาคุณฟางโกหกใครๆก็ดูออกนี่คะ คุณฟางน่ะโกหกไม่เก่งตั้งแต่เด็กแล้วป้ารู้” ฟางยิ้มอย่างเขินอาย เธอรู้ดีว่าป้าณีจับผิดเธอเก่ง ก็จริงอย่างที่ป้าบอกฟางโกหกไม่เก่ง หรือโกหกไม่เป็นเลยก็ได้ แต่แล้วเสียงหัวเราะจำต้องหยุดลงเมื่อคุณหญิงเดินเข้ามาด้วยใบหน้าซีดเผือกและเลือดที่ซึมอยู่ข้างปาก ฟางมองคุณหญิงด้วยความตกใจ
“ฟาง ฉันขอคุยด้วยหน่อย”
“คุณหญิง…คุณหญิงไปโดนอะไรมาคะ” ฟางรีบเข้าไปหาคุณหญิงด้วยความเป็นห่วง คุณหญิงเบือนหน้าหนีแล้วทำสีหน้านิ่ง ก่อนที่หล่อนจะขึ้นเสียงใส่ลูกเลี้ยงของตัวเอง
“เลิกถาม!แล้วขึ้นมาหาฉันบนห้อง!”
เมื่อสิ้นเสียงฟางเลยถอยห่างจากคุณหญิงก่อนจะน้อมรับคำสั่ง ฟางหันไปมองป้าณีที่ตกใจไม่ต่างกัน เธอเดินตามหลังคุณหญิงอย่าช้าๆ คุณหญิงไม่เคยโมโหใครขนาดนี้มาก่อน แล้วยิ่งกับฟางยิ่งแล้วใหญ่…เธอได้แต่คิดอย่างนั้นอยู่คนเดียวจนเดินมาถึงในห้อง เธอนั่งคุกเข้าส่วนคุณหญิงก็นั่งขอบเตียง ภายในห้องเกิดความเงียบระหว่างทั้งสอง มีเพียงเสียงสะอื้นของคุณหญิงที่ฟางได้ยิน
“คุณหญิง ร้องไห้ทำไมคะ” ฟางเข้าใกล้คุณหญิงช้าๆ แต่หล่อนกลับถอยห่างแล้วยังผลักไสฟางอย่างที่ไม่เคยเป็น
“เธอเลิกทำดีกับฉันได้แล้วฟาง”
“คุณหญิง…ทำไมคุณหญิงพูดแบบนี้คะ” ฟางถามออกไปอย่างอดกลั้น เธอรู้สึกใจไม่ดีเลยเมื่อคุณหญิงเย็นชาใส่เธอแบบนี้
“ฉันขอร้อง ฉันอยากให้เธอเกลียดฉัน เกลียดฉันนับจากนี้ไป”
“เกลียด? ทำไมคะ ทำไมฟางต้องเกลียดคุณหญิงด้วยคะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฟางจะต้องเกลียดคุณ”
“มีสิ เพราะสิ่งที่ฉันจะทำต่อจากนี้มันเลวร้ายสำหรับเธอมากน่ะสิฟาง และเธอต้องไม่มีวันให้อภัยฉันแน่”
ฟางได้แต่นั่งสงสัยกับคำพูดของคุณหญิง ทำไมเธอถึงต้องไม่ให้อภัยคุณหญิง เรื่องอะไรที่เลวร้ายเธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ แล้วจะให้เธอมาเกลียดผู้มีพระคุณของตัวเองมันใช้ได้ซะทีไหน ฟางไม่เคยคิดเลย ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องเกลียดคุณหญิง แล้วเธอก็จะไม่มีวันเกลียดหล่อนแน่
“คุณหญิงหมายความว่ายังไงคะ ฟางไม่เข้าใจ”
“ตอนนี้เธอไม่ต้องเข้าใจก็ได้แต่ไม่นานเธอก็จะเข้าใจมัน…ฟางฉันขอเถอะนะ เธออย่าทำให้ฉันรู้สึกผิดไปมากกว่านี้เลย”
ยิ่งพูดยิ่งไม่เข้าใจ ฟางรู้สึกอึดอัดมากในเวลานี้ คุณหญิงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ทำให้เธอเข้าใจ…แล้วเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องยอมเกลียดคุณหญิง
“คุณหญิง…บอกฟางมาเถอะค่ะ ฟางยินดีรับฟัง”
“…ไม่ พอล่ะ เธอออกไปได้แล้ว”
“คุณหญิง…”
“ออกไปซะ!”
ฟางจึงทำได้แค่เดินออกจากห้องด้วยคำถามมากมายที่อยู่ในหัว เธอแค่อยากจะรับฟังคำพูดเหล่านั้น แค่อยากจะรู้ว่าคุณหญิงต้องการอะไร แล้วทำไมต้องอยากให้เธอเกลียดมากขนาดนี้
“อีกแล้วหรอพ่อ! ทำไมพ่อไปคาสิโนของผมโดยที่ไม่บอกผมก่อนครับ!” ภานุกระแทกเสียงใส่คนเป็นพ่อที่นั่งพลอดรักกับสาวสวยสองคนอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“แล้วแกจะโมโหอะไร ฉันก็แค่อยากจะช่วยแกจัดการลูกหนี้โง่ๆพวกนั้น” พูดในขณะที่สายตากลับมองแต่ผู้หญิงพวกนั้น
“ผมขอบคุณในความหวังดีของพ่อนะ! แต่ขอโทษ!ที่ผมไม่ต้องการมัน!” คนพูดตะวาดใส่อย่างเหลืออด
ทุกครั้งเลยที่พ่อเขามักจะไปจัดการพวกลูกหนี้ของเขา ทั้งที่ไม่ใช่ธุระอะไรของท่าน แน่นอนว่าคาสิโนนั่นเมื่อก่อนเคยเป็นของท่าน แต่ท่านก็ยกที่นั่นให้เขาไปแล้ว ถึงยังไงทางกฎหมายท่านก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งของของเขา
“อย่าทำเป็นหวงไปหน่อยเลย ที่ฉันยกคาสิโนนั่นให้แก ก็แค่คิดว่าแกจะดูแลมันดี แต่ที่ไหนได้…กลับไปพลอดรักกับผู้หญิงจนๆนอกบ้าน แล้วปล่อยให้พวกลูกหนี้ค้างเงินเรากี่สิบคน”
“พ่อหมายความว่าไง”
“หึ แกไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า วันนี้ฉันจัดการลูกหนี้ของแกไปหนึ่งคนแล้ว ถือว่าฉันช่วยแกก็แล้วกัน”
จัดการ?
“พ่อคิดจะทำอะไร!”
“เดี๋ยวแกก็รู้ ไม่กี่ชั่วโมงนี้หรอก หึ” เมื่อพูดจบ คนเป็นพ่อก็โอบเอวสาวสวยทั้งสองก่อนจะเดินขึ้นไป ปล่อยให้คำถามมากมายอยู่ในหัวของป๊อปอย่างนั้น
“คุณป๊อปใจเย็นๆก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าจะเอานมร้อนๆให้ดื่มนะคะ”
ป้าน้อมที่เห็นคุณหนูของตัวเองกำลังเครียดจึงอยากจะช่วยให้คุณหนูผ่อนคลายลงได้บ้าง แต่เหมือนความหวังดีของป้าน้อมจะไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลยสักนิด ภานุปฏิเสธป้าน้อมก่อนจะขอตัวขึ้นไปด้านบน เขากำลังเครียดและอยากจะหาคำตอบพวกนั้นให้ได้…
“อย่าทำเป็นหวงไปหน่อยเลย ที่ฉันยกคาสิโนนั่นให้แก ก็แค่คิดว่าแกจะดูแลมันดี แต่ที่ไหนได้…กลับไปพลอดรักกับผู้หญิงจนๆนอกบ้าน แล้วปล่อยให้พวกลูกหนี้ค้างเงินเราอยู่กี่สิบคน”
พ่อคิดจะทำอะไรกันแน่!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ