หนี้รัก พันธะหัวใจ
3) หนี้รัก 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
คาสิโนเป็นหนึ่งที่ที่คุณหญิงมักจะมาในทุกเย็น และไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย หล่อนแค่ต้องการที่คลายความเครียดในหัว นับวันธุรกิจที่ทำก็ขาดทุนลงเต็มที รายได้ที่เข้ามาก็ไม่มากพอที่หล่อนต้องการ และนี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ช่วยหล่อนได้ แน่นอนว่าคนเรามันก็ต้องมีได้มีเสียแต่ช่วงหลังๆนี้หล่อนเสียเยอะมากจริงๆ แต่ยังไงหล่อนก็เลิกเล่นไม่ได้..เอาง่ายๆตอนนี้คุณหญิงติดมันจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ
“ว้าย!คุณหญิงมินตรา คราวที่แล้วไม่เข็ดอีกหรอคะถึงได้มาอีกเนี่ย” คุณหญิงอีกท่านเอ่ยทักขึ้น
“คราวนี้ฉันมั่นใจว่าฉันต้องได้แน่นอนค่ะ ฉันขอเดิมพันสองแสน” คุณหญิงว่าปุ้บก็ตั้งเงินดังกล่าวไว้ด้านหน้า แต่ไม่ทันได้เริ่มกลับมีชายร่างท้วมสองคนเดินเข้ามาล็อกแขนของหล่อนไว้ทั้งสองข้าง
“ว้าย!!พวกแกเป็นใครเนี่ย!” คุณหญิงหวีดร้องด้วยความตกใจ ก่อนที่ผู้ชายสองคนนั้นจะลากหล่อนออกมายังอีกห้องหนึ่ง
“ได้ตัวมาแล้วครับคุณนภดล” ชายสองคนปล่อยคุณหญิงอย่างแรงจนหล่อนล้มลงไปกับพื้น เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับชายแปลกหน้าอีกคน ร่างสูงใหญ่ไว้หนวดเคราจนน่าขนลุก แต่ถ้าดูรวมๆแล้วอายุคงจะรุ่นราวคราวเดียวกับหล่อนไม่น้อย
“คุณเป็นใคร” คุณหญิงถาม
“ฉันหรอ หึ มันไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญคือเงินของฉันมากกว่า! เมื่อไหร่ฉันจะได้เงินจากแกห้ะ!”
“เงิน…นี่ คุณเป็นเจ้าของที่นี่หรอ” คุณหญิงมองหน้าผู้ชายดั่งกล่าวหล่อนจำได้ว่าเจ้าของที่นี่ไม่ใช่เขาคนนี้ เขาแสยะยิ้มก่อนจะเอื้อมมือจับคางคุณหญิงแล้วพูดขึ้น
“ตอบไม่ตรงคำถาม…ฉันถามว่าเงินจะได้เมื่อไหร่!”
“ทำไมฉันต้องให้คุณ!คุณไม่ใช่เจ้าของที่นี่!...โอ้ย!” หลังจากที่คุณหญิงลั่นวาจาออกไป ฝ่ามือหนาก็ตบเข้าที่หน้าอย่างจัง คุณหญิงหน้าหันไปอีกทาง ก่อนที่เลือดจะซึมข้างปาก
“คุณผู้ชายเป็นพ่อของคุณภานุเจ้าของที่นี่! แกอย่าริอาจขึ้นเสียงใส่ท่าน” ผู้ชายร่างท้วมเอ่ยขึ้น ก่อนที่คุณหญิงจะเริ่มกระจ่างขึ้น คุณหญิงมินตราเงยหน้าสบตาคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของเจ้าของคาสิโน เขาแบมือรอเงินจากหล่อน
“ฉัน…ฉันเป็นหนี้คุณเท่าไหร่”
“เหอะ! ยังจะถามอีกหรอ! สิบล้าน! แกเป็นหนี้ฉันสิบล้านบาท แล้วไหน..ไหนเงินของฉัน” คุณผู้ชายจับคางหล่อนแล้วบีบจนคนที่ถูกกระทำร้องโอดครวญด้วยความเจ็บ
“ตอนนี้ฉันไม่มีเงิน ฉันขอเวลา..”
“เวลาอะไรไม่มี! แกผลัดมากี่ครั้งแล้วห้ะ! เอาเงินมาซะดีๆ” เขาสะบัดหน้าคุณผู้หญิงอย่างแรง “เอากระเป๋าตังแกมาให้ฉัน!”
คำสั่งของเขาเหมือนเป็นสิทธิ์ขาด ลูกน้องสองคนเดินเข้ามาแล้วจับตัวหล่อนไว้คนนึงอีกคนก็ล้วงกระเป๋าตัง คุณหญิงดิ้นทุรนทุรายไม่อยากให้พวกมันถูกเนื้อต้องตัวซะด้วยซ้ำ เมื่อลูกน้องได้กระเป๋าตังมามันเลยยื่นไปให้คุณผู้ชายที่ยืนรออยู่แล้ว
“ฉันจะดูสิ ว่าแกยังมีเงินอยู่เท่าไหร่”
เขาจัดการเปิดกระเป๋าตังคุณผู้หญิง เงินที่มีอยู่ก็รอมร่ออยู่เต็มที เขาส่ายหน้าเอือมระอาแต่ครั้นมือกำลังจะปิดกระเป๋าสายตากลับมองเห็นรูปใบเล็กที่อยู่ในกระเป๋าเช่นเดียวกัน…รูปของหญิงสาวสองคนที่ยืนขนาบข้างคุณผู้หญิง คนนึงดูเป็นคุณหนูไฮโซแต่งหน้าจัดปากแดงผมยาวสละสลวยต่างกับอีกคนอย่างชัดเจนเธอใส่เสื้อผ้าธรรมดามัดผมหางม้าไม่ได้แต่งหน้าแต่ใบหน้าเธอกลับดูสวยและเป็นธรรมชาติมากกว่าอีกคนเสียอีก
“หึ คุณหญิงผู้หญิงในรูปนี่คือใคร” เขาว่าพลางหยิบรูปขึ้นมาให้คุณผู้หญิงดู เพียงเท่านั้นหล่อนถึงกับเบิกตาด้วยความตกใจ
“นั่น…ลูกสาวฉัน แกห้ามยุ่งกับเธอนะ!” หล่อนพยายามเข้าไปยื้อแย่งรูปพวกนั้น แต่กลับถูกลูกน้องสองคนจับตัวไว้
“นี่คุณหญิง…ผมมีข้อเสนอดีๆให้คุณ…ถ้าคุณยอมทำตามข้อเสนอของผมผมรับรองว่าหนี้สิบล้านของคุณจะถือเป็นโมฆะทันที”
ข้อเสนอ?...คุณหญิงชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยถามกลับไป
“ข้อเสนออะไร?”
ในทุกๆวันธนันธรณ์ มักจะมาซื้อของที่ตลาดเพื่อไปทำอาหารค่ำที่บ้าน ฟางเดินมาซื้อผักบวบที่เป็นของชอบของคุณหญิง แต่เหลือถุงสุดท้ายพราวถอนหายใจที่มาได้ทันพอดี แต่ทันทีที่ยื่นมือเพื่อหยิบถุงกลับมีมือของใครอีกคนมาหยิบเช่นกันส่งผลให้มือของเขาจับกับมือของเธอ
“ขอโทษครับ”
ผู้ชายคนนั้นชักมือกลับแล้วพูดขอโทษเธออย่างรวดเร็ว แต่ทันทีที่เราหันหน้ามาเจอกันเท่านั้นล่ะ…ผู้ชายผิวขาว จมูกโด่ง ริมฝีปากแดงอีกทั้งความสูงที่โดดเด่นและรอยยิ้มที่ดึงดูดผู้หญิงให้ละลายได้ในเวลาเดียวกัน
เธอเคยเจอเขาแล้ว…
“คุณ…” ฟางทักผู้มาใหม่ด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็เหมือนจะจำเธอได้แล้ว เขาเองที่เคยช่วยฟางเอาไว้จากนั้นก็พาไปส่งที่บ้านจนทำให้เธอกับเฟย์ทะเลาะกัน
“ผมจำได้แล้ว เราเคยเจอกัน” เขาเองก็ทักตอบ
“บังเอิญจังเลยนะคะ ฉันไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่”
“ครับ คุณจะซื้อผักบวบหรอ” ทันทีที่เขาถาม ฟางจึงพยักหน้าเป็นคำตอบ
ไม่รู้ว่าเธอจะรู้บ้างไหมว่ารอยยิ้มของเธอกำลังทำให้ใจของเขาหลอมละลายไปตรงนี้…น่าแปลกที่เราเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวแต่เขาไม่สามารถละสายตาจากหญิงสาวคนนี้ได้เลยสักวินาทีเดียว ความจริงเขาเห็นผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เธอเดินมาเลือกผักแล้ว เขาก็แค่แกล้งเข้ามาโดยบังเอิญแล้วแอบจับมือเธอก็แค่นั้น เขาเองก็ไม่คิดว่าเธอจะจำเขาได้
“ใช่ คุณจะซื้อด้วยหรอคะ”
“ครับ แต่มันเหลือถุงสุดท้ายนั้นคุณเอาไปเถอะ” ชายหนุ่มเลยยื่นถุงผักบวบให้กับพราว หากแต่เธอก็ไม่ยอมรับไว้
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณเอาไปเถอะ ฉันค่อยไปซื้ออย่างอื่นก็ได้” ฟางเลยไม่ขอรับไว้ ด้วยความที่เกรงใจและเธอก็อยากตอบแทนน้ำใจที่ช่วยเธอเอาไว้
“คุณเอาไปเถอะครับ” หากแต่ชายหนุ่มยังคงยื่นให้เธออยู่อย่างเดิม
“ถือว่าผักบวบเป็นการตอบแทนที่คุณเคยช่วยฉันไว้ก็แล้วกันนะคะ รับไว้เถอะค่ะ”
ฟางพูดแล้วยิ้ม สุดท้ายเขาก็ยอมซื้อผักบวบมาเอง ทั้งที่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะซื้อสักหน่อย แต่พอได้ยินคำพูดของฟางเขาก็ยอมซื้อมาในที่สุด แต่ก่อนที่ฟางจะเดินออกไป เขาก็แค่อยากทำความรู้สึกสักหน่อย
“เอ่อ แล้วคุณชื่ออะไร…”
“ฉันชื่อ ธนันธรณ์ค่ะ เรียกว่าฟางก็ได้ ขอตัวนะคะ” ฟางรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่เขายังไม่ได้แนะนำตัวเลย แต่ถึงอย่างนั้นเขาได้รู้จักชื่อก็พอใจแล้วล่ะ
“ผมชื่อ ภานุ นะครับ” เอ่ยออกไปทั้งๆที่คนฟังก็ไม่อยู่แล้ว ก็แค่หวังว่าสายลมจะพาให้เราได้มาเจอกันอีก มันไม่บ่อยหรอกนะที่นรภัทรจะเจอใครที่ถูกใจและผู้หญิงคนนั้นคือนภาพราว จะปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆก็คงไม่ได้ และอย่ามองเขาเจ้าชู้นะ เขาไม่ใช่คนประเภทนั้น…
“ผมหวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะฟาง”
ภายในสองมือสวยหิ้วของพะรุงพะรังหลังจากเธอกลับจากตลาดเธอก็กลับบ้านทันที ก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรทำให้เธอรู้สึกดีขนาดนี้ตลอดทางที่กลับมาภาพของผู้ชายคนนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวแล้วทุกครั้งที่นึกถึงมันก็ทำให้เธอยิ้มได้เสมอหรือบางทีเขาอาจจะเป็นคนแรกที่ทำให้เธอยิ้มออกมาก็ได้
“นี่นังฟาง แกได้ซื้อของที่ฉันสั่งรึยังย่ะ” พรปวีณ์เดินพุ่งตรงปรี่เข้าหาธนันธรณ์ในชุดสายเดียวกางเกงขาสั้น
“ฟางซื้อแล้วค่ะ เอ๊ะ แล้วนี่คุณเฟย์จะไปไหนหรอคะ”
“ฉันจะไปไหนก็ไม่ได้เกี่ยวกับขี้ข้าอย่างหล่อนเป็นแค่กาฝากอย่าเสนอหน้าถามนาย”
“ขอโทษค่ะ” ฟางก้มหน้ารับ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในครัว วางข้าวของที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะอาหาร
“คุณฟางคะ ทีหลังไม่ต้องไปจ่ายตลาดก็ได้นะคะ ป้าเกรงใจคุณฟางจะแย่อยู่แล้ว” ป้าณีเอ่ยขึ้น ฟางหันไปยิ้มแล้วส่ายหน้าเชิงไม่เป็นไร
“แล้วคุณฟางไม่ได้ซื้อผักบวบมาหรอคะเนี่ย” ป้าณีถาม หลังจากที่ดูของที่ซื้อมาทั้งหมด
“เอ่อ พอดีมันหมดน่ะจ้ะป้า ฟางไปซื้อไม่ทัน” ปากก็ว่าไปอย่างนั้นแต่ในใจกลับเต้นรัวอย่างแปลกประหลาด นภาพราวเบี่ยงสายตาไปทางอื่น เพราะเธอรู้ว่าป้าณีกำลังจับผิดเธออยู่
“จริงหรอคะคุณฟาง”
“จ..จริงสิจ้ะป้า ทำไมป้าพูดเหมือนไม่เชื่อฟางเลย” ฟางทำสีหน้าน้อยใจ
“ก็แหม่ เวลาคุณฟางโกหกใครๆก็ดูออกนี่คะ คุณฟางน่ะโกหกไม่เก่งตั้งแต่เด็กแล้วป้ารู้” ฟางยิ้มอย่างเขินอาย เธอรู้ดีว่าป้าณีจับผิดเธอเก่ง ก็จริงอย่างที่ป้าบอกฟางโกหกไม่เก่ง หรือโกหกไม่เป็นเลยก็ได้ แต่แล้วเสียงหัวเราะจำต้องหยุดลงเมื่อคุณหญิงเดินเข้ามาด้วยใบหน้าซีดเผือกและเลือดที่ซึมอยู่ข้างปาก พราวมองคุณหญิงด้วยความตกใจ
“พราว ฉันขอคุยด้วยหน่อย”
__________________________________________________________
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ