ขอบคุณความบังเอิญ
6.3
เขียนโดย zeeto
วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.36 น.
17 ตอน
0 วิจารณ์
19.86K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 22.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5) คณิตคิดในใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หลังจากมื้อเย็นที่แสนจะอร่อยเรียบร้อยแล้ว ผมกับพัทธ์ก็พากันเดินขึ้นห้องมาติวหนังสือ
ตามเดิมความจริงผมก็ไม่ได้เรียนแย่หรอก แค่หาโอกาสที่ใกล้ชิดใครบางคนก็เท่านั้น ยิ่งเวลาเห็น
พัทธ์ทำท่าทางหงุดหงิดใส่ยิ่งชอบ สงสัยผมจะบ้าอย่างที่พัทธ์ว่าจริงๆแล้วมั่งเนี้ย ผมค่อยๆทิ้งตัว
นั่งลงที่พื้นห้อง ที่เดิมที่ทุกๆวันผมจะมานั่งติวอยู่ตรงนี้ พัทธ์หันไปจับนู้นนี้มาวางก่อนจะหยิบ
หนังสือวิชาคณิตมาเปิดกางออก
"วันนี้ติวคณิตศาสตร์ก็แล้วกันกูเห็นมึงดูไม่เข้าใจเท่าไร?" ผมพยักหน้าก่อนจะหยิบสมุดและดินสอ
เพื่อทำการจด พัทธ์ค่อยๆสอนไปทีละจุดๆ ก่อนจะส่งให้ผมคิดเอง ผมก็ยอมรับน่ะว่าผมแย่วิชาเลข
มากๆ
"ให้เราคิดเองหรอพัทธ์?"
"อือ...ทำตามโจทย์ที่กูตั้งให้แล้วก็เอาสมการสูตรอะไรที่สอนน่ะมาใส่ด้วย"
"แต่เรายังไม่เข้าใจเลยน่ะ"
"มึงก็คิดออกมาก็ได้ ถูกผิดกูจะได้บอกคิดอยู่แต่ในใจกูจะเข้าใจอะไรกับมึงไหม"
"ก็คนมันคิดนอกใจไม่เป็นนี่หว่า" ผมแกล้งพูดก่อนจะค่อยๆปรายตามองคนที่นั่งข้างๆที่หันมามอง
หน้าผมเช่นกัน
"มึงกล้าเล่นมุขนี้เนอะ ทำไปเลยไปไม่ได้ตรงไหนก็ถาม"
"งั้นถามตรงนี้ก่อนได้ป่ะไม่ค่อยแน่ใจ" ผมแกล้งทำเป็นถามขึ้น
"ตรงไหน?"
"นี่ไง...สมการอันนี้มันแก้แบบนี้ใช่ป่ะว่าแต่ถ้าจะแก้อย่างอื่นต้องทำไง" ไม่มีเสียงตอบกลับมาแต่
กลายเป็นฝ่ามือที่ฟาดเข้ากับหัวผมเต็มๆ
"เจ็บน่ะเนี้ย สองครั้งแล้วน่ะพัทธ์ ทำไมชอบเล่นอะไรแรงๆว่ะ"
"ช่วยไม่ได้อยากทะลึ้งเองทำๆไปเลย" ผมหันไปยิ้มพร้อมกับหยักคิ้วใส่คนที่สอนก่อนนั่งแก้โจทย์
ต่อจนเสร็จ เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ผมค่อยๆบิดขี้เกียจไปมา ก่อนหันไปหาคนที่นั่งอ่านหนังสือ
อยู่เมื่อกี้ที่ตอนนี้เหมือนจะเป็นหนังสืออ่านเสียมากกว่า ยิ่งได้ดูหน้าใกล้ๆยิ่งน่ารักผมค่อยๆคาน
เข้าไปนั่งมองหน้าใกล้ๆเหมือนคนที่หลับตาจะรู้ตัว อยู่ๆก็ลืมตาขึ้นมาหน้าผมกับพัทธ์อยู่ห่างกันแค่
นิดเดียว ผมคิดว่าถ้าเป็นพัทธ์คงผลักผมออกไม่ก็กระโดดหนีแน่นอน แต่คนที่พึ่งตื่นกับมองหน้า
ผมแปลกเลยกลายเป็นผมเองที่ใจเต้นแรงซ่ะอย่างนั้น
"มึงจะลวนลามกูหรอ?" ผมหลุดจากภวังค์ก่อนจะผละใบหน้าออกเอง
"ป่าวก็เห็นว่าหลับ"
"แค่พักผ่อนสายตาเฉยๆแก้โจทย์เสร็จรึยัง"
"อือ...เสร็จแล้ว" ผมยื่นสมุดที่ทำแบบฝึกหัดให้พัทธ์ดูแม้จะไม่หมั่นใจเท่าไร แต่ก็มีถูกบ้างผิดบ้าง
ไปตามประสา
"ก็เข้าใจขึ้นแล้วนี่..วันนี้แค่นี้ก่อนแล้วกันกูจะไปดูพ่อกับแม่ก่อนไม่รู้จะไปตอนไหน" ผมเก็บหนังสือ
จนเสร็จก็เดินตามพัทธ์ลงไปที
ผมเดินลงมาข้างล่างเห็นพ่อกับแม่เตรียมของที่จะเดินทางไปไตหวัน ก็เข้าไปกอดแม่
"มาอ้อนแบบนี้อยากได้ของฝากล่ะซิ?"
"เปล่าซ่ะหน่อยก็แม่ไปตั้งหลายวันผมก็ต้องกอดนิดนึงซิ แม่ไม่อยู่ผมจะไปกอดใครได้"
"อย่ามาปากหวานเลยนู้นไงๆถ้าไม่มีคนให้กอดก็กอดธัญแทนไปก่อน ได้ไหมธัญให้พัทธ์กอดแทน
แม่ได้ไหมฮาๆๆๆๆ"
"ได้ครับด้วยความยินดี" เห็นดีเห็นงานจริงๆเลยน่ะแม่ผมอยากจะรู็จริงๆถ้ารู้ว่าไอ้ธัญมาตามจีบลูกตัว
เองแม่กับพ่อจะยังปล่อยแบบนี้ไหมน่ะ
"กอดแต่แม่ไม่เห็นกอดพ่อเลย"
"โอ้ๆๆกอดครับผมคิดถึงพ่อเหมือนกันน่ะ"
"ปากดีน่ะเรา...เอาล่ะๆเดี๋ยวพ่อกับแม่ต้องไปสนามบินแล้วปิดบ้านให้ดีๆล่ะอย่าดื้อถ้าพ่อรู้ว่าเราดื้อ
กับมาพ่อจะลงโทษฝากพัทธ์ด้วยน่ะธัญ"
"ครับคุณพ่อ" พ่อกับแม่ผมและผมสองคนช่วยกันลากกระเป๋าเดินทางมาส่งพ่อและแม่ของผมขึ้นรถ
แท๊กซ๊่ที่หน้าบ้านก่อนจะโบกมือส่งเมื่อสุดสายตา ที่จะมองเห็นรถได้ผมก็ปิดประตูรั้วหน้าบ้านเดินข้า
บ้านตามด้วยไอ้ธัญที่เดินตามหลังเข้าบ้านมา
"มึงไปนอนก่อนไปเดี่ยวกูจะดูทีวีก่อน" ผมหันไปบอกไอ้ธัญที่ยืนอยู่ตรงบันได้ก่อนที่ผมจะเดินไป
กดเปิดทีวีแล้วนั่งลงที่โซฟาเลื่อนหาช่องรายการทีวีไปเรื่อยๆ
"เฮ้ยยย!!" ผมตกใจสะดุ้งทันทีก็อยู่ๆไอ้ธัญก็มานอนหนุนตักผม
"อยากนอนก็ขึ้นไปนอนบนห้องดิว่ะ ออกไปเลย"
"ไม่เอาไม่อยากนอนคนเดียวนอนตรงนี้แหล่ะ"
"จะนอนก็ไปนอนคนเดียวดิมาหนุนตักกูทำไม" ผมพยายามจะดันไอ้ธัญที่นอนหนุนตัก ที่ตอนนี้กับ
สวมกอดเอวผมไว้แน่น แบบนี้ต่อให้เป็นผู้ชายด้วยกันมันก็ต้องมีตกใจเป็นเรื่องธรรมดาใช่ไหมครับ
ผมรู้สึกใบหน้าที่ร้อนชาบวกกับเสียงหัวใจที่เต้นแรง จนแทบจะหลุดออกมาจากอกข้างซ้ายอยู่แล้ว
"ใจเต้นแรงจังไม่สบายหรอพัทธ์"
"เปล่า...มึงไปนอนที่ห้องดิว่ะ"
"ไม่เอานอนตรงนี้แหล่ะเดี๋ยวพัทธ์จะนอนตอนไหนก็ปลุกแล้วกัน" เมื่อแกะไม่ได้ก็ต้องปล่อยเลย
ตามเลยผู้ชายด้วยกันมันจะไปเสียหายอะไรว่ะ ผมเปิดรายการเพลงดูอย่างเพลิดเพลินจนรายการ
จบผมก็ก้มมองคนที่หลับอยู่บนตักเหมือนเด็ก ก่อนจะค่อยๆเอามือพยายามจะประคองหัวออก ว่า
แต่ทำไมผมไม่ปลุกมันล่ะ มือผมที่จับหัวคนหนุนตักค่อยๆยกขึ้นอยู่ๆตาที่ปิดก็ลืมขึ้นมาซ่ะอย่างนั้น
ด้วยมือที่ประคองใบหน้าไว้ผมก้มมองตากับไอ้ธัญที่ยิ้มให้
"จะไปนอนแล้วหรอ?" คนที่หลับเพิ่งตื่นถามขึ้น
"เออ...ลุกได้แล้วเหน็บกินขากูจนเหมื่อยหมดแล้วเนี้ย"
"ให้นวดให้ป่ะ..."
"ไม่ต้อง" ผมดันคนที่ตื่นแล้วให้ลุกก่อนเดินขึ้นห้องไป คนที่เดินตามขึ้นมาทีหลังค่อยๆทิ้งตัวลงนอน
ข้างๆก่อนกดปิดสวิทต์ไฟ
"ฝันดีน่ะพัทธ์"
"อื้อฝันดี" อย่างน้อยก็ดีว่ะที่มันไม่ทำเรื่องบ้าๆชวนฟ้าผ่าผมค่อยๆแอบผ่อนลมหายใจหลับตานอน
โดยปกติเช้าวันหยุดแบบนี้ผมก็ไม่ค่อยลุกจากเตียงนอนหรอก แต่วันนี้ผมไม่ได้นอนที่บ้าน
ของตัวเองนี่หน่าจะให้นอนกินบ้านกินเมืองก็เกรงใจเจ้าของบ้านเขา ถึงแม้มันจะเป็นบ้านของแฟน
ผมก็เถอะ (บ้านแฟน?) ผมคิดว่าผมตื่นเช้าแล้วน่ะแต่คนที่นอนด้วยกันเมื่อคืนตื่นก่อนแล้ว ว่าแต่ไป
ไหนล่ะ ระหว่างที่สมองกำลังประมวลความคิดกับสายตาที่กระพริบเพืื่อปรับสายตากับแสงยามเช้า
ผมก็ได้ยินเสียงน้ำที่ตกกระทบกับพื้น แน่นอนว่าพัทธ์กำลังอาบน้ำอยู่
"ตื่นเช้าจังว่ะ" ผมนอนกอดหมอนมองไปที่ประตูห้องน้ำไม่นานคนในห้องน้ำก็ออกมา พร้อมกับ
ภาพที่เห็นชวนให้สยิวและหน้าแกล้งที่สุด ผ้าเช็ดตัวที่พันเพียงท่อนล่างกับไลน้ำและกลิ่นสบู่หอมๆ
ผมนอนมองเจ้าของห้องเดินไปมาระหว่างโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้า
"หอมจัง"
"เฮ้ยยย!!...ตื่นตั้งแต่เมื่อไร"
"ก็ตื่นตั้งแต่ได้กลิ่นแฟนตัวเองนี่แหล่ะ"
"เชี้ย..พูดให้ดีๆใครแฟนมึงตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำดิ จะนอนให้หนอนขึ้นคาเตียงกูรึไงสกปรกว่ะ"
"คร๊าบๆๆๆ...ไปก็ได้แหม๋ดุขนาดนี้ไปอาบน้ำให้เลยซิจะได้สะอาดๆ"
"ทะลึ้งแล้วมึง" พูดเสร็จพัทธ์ก็คว้าผ้าเช็ดตัวขว้างใส่ผมทันที ผมหยิบผ้าเช็ดตัวก่อนจะแกล้งหันไป
ส่งจูบแล้วเดินไปอาบน้ำ ถ้าตื่นมาทุกเช้าแล้วเจอหน้าคนข้างๆเป็นพัทธ์แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆก็ดีซิ
บางทีผมก็แอบเผลอคิดไม่ได้ว่าถ้าวันหนึ่งพ่อกับแม่ของพัทธ์รู้ เขาจะยังเฟรนลี่ใจดีกับผมแบบนี้อีก
ไหม แต่ช่างเถอะอะไรที่มันยังไม่เกิดอย่าพึ่งไปคิดเลย ตอนนี้มีโอกาสก็เก็บเกี่ยวความสุขให้มาก
ที่สุดแล้วกัน พออาบน้ำเสร็จออกมาก็ไม่เห็นเจ้าของห้องแล้วสงสัยจะลงไปข้างล่าง แต่ก็อดแอบ
ยิ้มไม่ได้ทำเป็นดุแต่ก็จัดเสื้อผ้าออกมาวางไว้ให้ผม
"ว่าที่เมียกูนี่น่ารักจริงๆ" ขอคิดเอาเองแล้วกันฮาๆๆๆ ผมหยิบเสื้อผ้ามาใส่ก่อนจะเดินตามลงมาข้าง
ล่าง
"เสร็จแล้วหรอว่ะ มากินข้าวดิ" ผมมองหน้าเจ้าของบ้านที่เทน้ำใส่แก้วก่อนจะเดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร
"ทำเองหรอ?"
"เออ...ทำไมมึงมีปัญหาอะไรกับอาหารที่กูทำอีก"
"เปล่าดีใจตั้งหากแฟนทำให้กินทั้งที"
"นี่ยังไม่เลิกเพ้อเจ้ออีกน่ะ กินๆไปเลยไป"
"คร๊าบที่รัก" ผมค่อยๆเดินมานั่งก่อนจะจัดการกินข้าวเช้ากับเมนูอาหารง่ายๆอย่างแกงจืดกับไข่เจียว
ที่พัทธ์ทำแต่ขอบอกน่ะครับแฟนผมฝีมือดีน่ะเมนูง่ายๆก็อร่อย
"เหมาะเป็นแม่ศรีเรือนจัง" ผมแกล้งพูดตอนที่กำลังกินข้าวทำให้คนที่นั่งตรงข้ามถึงกับสำลักยกน้ำ
ขึ้นดื่มแทบไม่ทัน
"เชี้ยธัญพูดมาได้น่ะมึงข้าวเกือบติดคอกูตายเลยเนี้ย"
"ฮาๆๆๆ...จริงๆน่ะเนี้ยน่ารักเหมาะเป็นแม่ศรีเรือนของเราจริงๆ"
"ยังไม่เลิกพูดจาเพ้อเจออีกน่ะมึง" พัทธ์ตักไข่เจียวยัดใส่ปากผมทันทีผมค่อยๆเคี้ยวพร้อมกับมอง
คนที่ตักข้าวเข้าปากอย่างไม่สนใจผม
"อยากจูบบอกดีๆก็ได้แหม๋ๆๆๆ...ทำมาป้อนไข่จะได้จูบทางอ้อมอะดิ"
"เดี๋ยวเถอะพูดมากไม่ต้องแดกแล้ว"
"โอเคๆ...ไม่แกล้งแล้วก็ได้"
ตามเดิมความจริงผมก็ไม่ได้เรียนแย่หรอก แค่หาโอกาสที่ใกล้ชิดใครบางคนก็เท่านั้น ยิ่งเวลาเห็น
พัทธ์ทำท่าทางหงุดหงิดใส่ยิ่งชอบ สงสัยผมจะบ้าอย่างที่พัทธ์ว่าจริงๆแล้วมั่งเนี้ย ผมค่อยๆทิ้งตัว
นั่งลงที่พื้นห้อง ที่เดิมที่ทุกๆวันผมจะมานั่งติวอยู่ตรงนี้ พัทธ์หันไปจับนู้นนี้มาวางก่อนจะหยิบ
หนังสือวิชาคณิตมาเปิดกางออก
"วันนี้ติวคณิตศาสตร์ก็แล้วกันกูเห็นมึงดูไม่เข้าใจเท่าไร?" ผมพยักหน้าก่อนจะหยิบสมุดและดินสอ
เพื่อทำการจด พัทธ์ค่อยๆสอนไปทีละจุดๆ ก่อนจะส่งให้ผมคิดเอง ผมก็ยอมรับน่ะว่าผมแย่วิชาเลข
มากๆ
"ให้เราคิดเองหรอพัทธ์?"
"อือ...ทำตามโจทย์ที่กูตั้งให้แล้วก็เอาสมการสูตรอะไรที่สอนน่ะมาใส่ด้วย"
"แต่เรายังไม่เข้าใจเลยน่ะ"
"มึงก็คิดออกมาก็ได้ ถูกผิดกูจะได้บอกคิดอยู่แต่ในใจกูจะเข้าใจอะไรกับมึงไหม"
"ก็คนมันคิดนอกใจไม่เป็นนี่หว่า" ผมแกล้งพูดก่อนจะค่อยๆปรายตามองคนที่นั่งข้างๆที่หันมามอง
หน้าผมเช่นกัน
"มึงกล้าเล่นมุขนี้เนอะ ทำไปเลยไปไม่ได้ตรงไหนก็ถาม"
"งั้นถามตรงนี้ก่อนได้ป่ะไม่ค่อยแน่ใจ" ผมแกล้งทำเป็นถามขึ้น
"ตรงไหน?"
"นี่ไง...สมการอันนี้มันแก้แบบนี้ใช่ป่ะว่าแต่ถ้าจะแก้อย่างอื่นต้องทำไง" ไม่มีเสียงตอบกลับมาแต่
กลายเป็นฝ่ามือที่ฟาดเข้ากับหัวผมเต็มๆ
"เจ็บน่ะเนี้ย สองครั้งแล้วน่ะพัทธ์ ทำไมชอบเล่นอะไรแรงๆว่ะ"
"ช่วยไม่ได้อยากทะลึ้งเองทำๆไปเลย" ผมหันไปยิ้มพร้อมกับหยักคิ้วใส่คนที่สอนก่อนนั่งแก้โจทย์
ต่อจนเสร็จ เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ผมค่อยๆบิดขี้เกียจไปมา ก่อนหันไปหาคนที่นั่งอ่านหนังสือ
อยู่เมื่อกี้ที่ตอนนี้เหมือนจะเป็นหนังสืออ่านเสียมากกว่า ยิ่งได้ดูหน้าใกล้ๆยิ่งน่ารักผมค่อยๆคาน
เข้าไปนั่งมองหน้าใกล้ๆเหมือนคนที่หลับตาจะรู้ตัว อยู่ๆก็ลืมตาขึ้นมาหน้าผมกับพัทธ์อยู่ห่างกันแค่
นิดเดียว ผมคิดว่าถ้าเป็นพัทธ์คงผลักผมออกไม่ก็กระโดดหนีแน่นอน แต่คนที่พึ่งตื่นกับมองหน้า
ผมแปลกเลยกลายเป็นผมเองที่ใจเต้นแรงซ่ะอย่างนั้น
"มึงจะลวนลามกูหรอ?" ผมหลุดจากภวังค์ก่อนจะผละใบหน้าออกเอง
"ป่าวก็เห็นว่าหลับ"
"แค่พักผ่อนสายตาเฉยๆแก้โจทย์เสร็จรึยัง"
"อือ...เสร็จแล้ว" ผมยื่นสมุดที่ทำแบบฝึกหัดให้พัทธ์ดูแม้จะไม่หมั่นใจเท่าไร แต่ก็มีถูกบ้างผิดบ้าง
ไปตามประสา
"ก็เข้าใจขึ้นแล้วนี่..วันนี้แค่นี้ก่อนแล้วกันกูจะไปดูพ่อกับแม่ก่อนไม่รู้จะไปตอนไหน" ผมเก็บหนังสือ
จนเสร็จก็เดินตามพัทธ์ลงไปที
ผมเดินลงมาข้างล่างเห็นพ่อกับแม่เตรียมของที่จะเดินทางไปไตหวัน ก็เข้าไปกอดแม่
"มาอ้อนแบบนี้อยากได้ของฝากล่ะซิ?"
"เปล่าซ่ะหน่อยก็แม่ไปตั้งหลายวันผมก็ต้องกอดนิดนึงซิ แม่ไม่อยู่ผมจะไปกอดใครได้"
"อย่ามาปากหวานเลยนู้นไงๆถ้าไม่มีคนให้กอดก็กอดธัญแทนไปก่อน ได้ไหมธัญให้พัทธ์กอดแทน
แม่ได้ไหมฮาๆๆๆๆ"
"ได้ครับด้วยความยินดี" เห็นดีเห็นงานจริงๆเลยน่ะแม่ผมอยากจะรู็จริงๆถ้ารู้ว่าไอ้ธัญมาตามจีบลูกตัว
เองแม่กับพ่อจะยังปล่อยแบบนี้ไหมน่ะ
"กอดแต่แม่ไม่เห็นกอดพ่อเลย"
"โอ้ๆๆกอดครับผมคิดถึงพ่อเหมือนกันน่ะ"
"ปากดีน่ะเรา...เอาล่ะๆเดี๋ยวพ่อกับแม่ต้องไปสนามบินแล้วปิดบ้านให้ดีๆล่ะอย่าดื้อถ้าพ่อรู้ว่าเราดื้อ
กับมาพ่อจะลงโทษฝากพัทธ์ด้วยน่ะธัญ"
"ครับคุณพ่อ" พ่อกับแม่ผมและผมสองคนช่วยกันลากกระเป๋าเดินทางมาส่งพ่อและแม่ของผมขึ้นรถ
แท๊กซ๊่ที่หน้าบ้านก่อนจะโบกมือส่งเมื่อสุดสายตา ที่จะมองเห็นรถได้ผมก็ปิดประตูรั้วหน้าบ้านเดินข้า
บ้านตามด้วยไอ้ธัญที่เดินตามหลังเข้าบ้านมา
"มึงไปนอนก่อนไปเดี่ยวกูจะดูทีวีก่อน" ผมหันไปบอกไอ้ธัญที่ยืนอยู่ตรงบันได้ก่อนที่ผมจะเดินไป
กดเปิดทีวีแล้วนั่งลงที่โซฟาเลื่อนหาช่องรายการทีวีไปเรื่อยๆ
"เฮ้ยยย!!" ผมตกใจสะดุ้งทันทีก็อยู่ๆไอ้ธัญก็มานอนหนุนตักผม
"อยากนอนก็ขึ้นไปนอนบนห้องดิว่ะ ออกไปเลย"
"ไม่เอาไม่อยากนอนคนเดียวนอนตรงนี้แหล่ะ"
"จะนอนก็ไปนอนคนเดียวดิมาหนุนตักกูทำไม" ผมพยายามจะดันไอ้ธัญที่นอนหนุนตัก ที่ตอนนี้กับ
สวมกอดเอวผมไว้แน่น แบบนี้ต่อให้เป็นผู้ชายด้วยกันมันก็ต้องมีตกใจเป็นเรื่องธรรมดาใช่ไหมครับ
ผมรู้สึกใบหน้าที่ร้อนชาบวกกับเสียงหัวใจที่เต้นแรง จนแทบจะหลุดออกมาจากอกข้างซ้ายอยู่แล้ว
"ใจเต้นแรงจังไม่สบายหรอพัทธ์"
"เปล่า...มึงไปนอนที่ห้องดิว่ะ"
"ไม่เอานอนตรงนี้แหล่ะเดี๋ยวพัทธ์จะนอนตอนไหนก็ปลุกแล้วกัน" เมื่อแกะไม่ได้ก็ต้องปล่อยเลย
ตามเลยผู้ชายด้วยกันมันจะไปเสียหายอะไรว่ะ ผมเปิดรายการเพลงดูอย่างเพลิดเพลินจนรายการ
จบผมก็ก้มมองคนที่หลับอยู่บนตักเหมือนเด็ก ก่อนจะค่อยๆเอามือพยายามจะประคองหัวออก ว่า
แต่ทำไมผมไม่ปลุกมันล่ะ มือผมที่จับหัวคนหนุนตักค่อยๆยกขึ้นอยู่ๆตาที่ปิดก็ลืมขึ้นมาซ่ะอย่างนั้น
ด้วยมือที่ประคองใบหน้าไว้ผมก้มมองตากับไอ้ธัญที่ยิ้มให้
"จะไปนอนแล้วหรอ?" คนที่หลับเพิ่งตื่นถามขึ้น
"เออ...ลุกได้แล้วเหน็บกินขากูจนเหมื่อยหมดแล้วเนี้ย"
"ให้นวดให้ป่ะ..."
"ไม่ต้อง" ผมดันคนที่ตื่นแล้วให้ลุกก่อนเดินขึ้นห้องไป คนที่เดินตามขึ้นมาทีหลังค่อยๆทิ้งตัวลงนอน
ข้างๆก่อนกดปิดสวิทต์ไฟ
"ฝันดีน่ะพัทธ์"
"อื้อฝันดี" อย่างน้อยก็ดีว่ะที่มันไม่ทำเรื่องบ้าๆชวนฟ้าผ่าผมค่อยๆแอบผ่อนลมหายใจหลับตานอน
โดยปกติเช้าวันหยุดแบบนี้ผมก็ไม่ค่อยลุกจากเตียงนอนหรอก แต่วันนี้ผมไม่ได้นอนที่บ้าน
ของตัวเองนี่หน่าจะให้นอนกินบ้านกินเมืองก็เกรงใจเจ้าของบ้านเขา ถึงแม้มันจะเป็นบ้านของแฟน
ผมก็เถอะ (บ้านแฟน?) ผมคิดว่าผมตื่นเช้าแล้วน่ะแต่คนที่นอนด้วยกันเมื่อคืนตื่นก่อนแล้ว ว่าแต่ไป
ไหนล่ะ ระหว่างที่สมองกำลังประมวลความคิดกับสายตาที่กระพริบเพืื่อปรับสายตากับแสงยามเช้า
ผมก็ได้ยินเสียงน้ำที่ตกกระทบกับพื้น แน่นอนว่าพัทธ์กำลังอาบน้ำอยู่
"ตื่นเช้าจังว่ะ" ผมนอนกอดหมอนมองไปที่ประตูห้องน้ำไม่นานคนในห้องน้ำก็ออกมา พร้อมกับ
ภาพที่เห็นชวนให้สยิวและหน้าแกล้งที่สุด ผ้าเช็ดตัวที่พันเพียงท่อนล่างกับไลน้ำและกลิ่นสบู่หอมๆ
ผมนอนมองเจ้าของห้องเดินไปมาระหว่างโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้า
"หอมจัง"
"เฮ้ยยย!!...ตื่นตั้งแต่เมื่อไร"
"ก็ตื่นตั้งแต่ได้กลิ่นแฟนตัวเองนี่แหล่ะ"
"เชี้ย..พูดให้ดีๆใครแฟนมึงตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำดิ จะนอนให้หนอนขึ้นคาเตียงกูรึไงสกปรกว่ะ"
"คร๊าบๆๆๆ...ไปก็ได้แหม๋ดุขนาดนี้ไปอาบน้ำให้เลยซิจะได้สะอาดๆ"
"ทะลึ้งแล้วมึง" พูดเสร็จพัทธ์ก็คว้าผ้าเช็ดตัวขว้างใส่ผมทันที ผมหยิบผ้าเช็ดตัวก่อนจะแกล้งหันไป
ส่งจูบแล้วเดินไปอาบน้ำ ถ้าตื่นมาทุกเช้าแล้วเจอหน้าคนข้างๆเป็นพัทธ์แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆก็ดีซิ
บางทีผมก็แอบเผลอคิดไม่ได้ว่าถ้าวันหนึ่งพ่อกับแม่ของพัทธ์รู้ เขาจะยังเฟรนลี่ใจดีกับผมแบบนี้อีก
ไหม แต่ช่างเถอะอะไรที่มันยังไม่เกิดอย่าพึ่งไปคิดเลย ตอนนี้มีโอกาสก็เก็บเกี่ยวความสุขให้มาก
ที่สุดแล้วกัน พออาบน้ำเสร็จออกมาก็ไม่เห็นเจ้าของห้องแล้วสงสัยจะลงไปข้างล่าง แต่ก็อดแอบ
ยิ้มไม่ได้ทำเป็นดุแต่ก็จัดเสื้อผ้าออกมาวางไว้ให้ผม
"ว่าที่เมียกูนี่น่ารักจริงๆ" ขอคิดเอาเองแล้วกันฮาๆๆๆ ผมหยิบเสื้อผ้ามาใส่ก่อนจะเดินตามลงมาข้าง
ล่าง
"เสร็จแล้วหรอว่ะ มากินข้าวดิ" ผมมองหน้าเจ้าของบ้านที่เทน้ำใส่แก้วก่อนจะเดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร
"ทำเองหรอ?"
"เออ...ทำไมมึงมีปัญหาอะไรกับอาหารที่กูทำอีก"
"เปล่าดีใจตั้งหากแฟนทำให้กินทั้งที"
"นี่ยังไม่เลิกเพ้อเจ้ออีกน่ะ กินๆไปเลยไป"
"คร๊าบที่รัก" ผมค่อยๆเดินมานั่งก่อนจะจัดการกินข้าวเช้ากับเมนูอาหารง่ายๆอย่างแกงจืดกับไข่เจียว
ที่พัทธ์ทำแต่ขอบอกน่ะครับแฟนผมฝีมือดีน่ะเมนูง่ายๆก็อร่อย
"เหมาะเป็นแม่ศรีเรือนจัง" ผมแกล้งพูดตอนที่กำลังกินข้าวทำให้คนที่นั่งตรงข้ามถึงกับสำลักยกน้ำ
ขึ้นดื่มแทบไม่ทัน
"เชี้ยธัญพูดมาได้น่ะมึงข้าวเกือบติดคอกูตายเลยเนี้ย"
"ฮาๆๆๆ...จริงๆน่ะเนี้ยน่ารักเหมาะเป็นแม่ศรีเรือนของเราจริงๆ"
"ยังไม่เลิกพูดจาเพ้อเจออีกน่ะมึง" พัทธ์ตักไข่เจียวยัดใส่ปากผมทันทีผมค่อยๆเคี้ยวพร้อมกับมอง
คนที่ตักข้าวเข้าปากอย่างไม่สนใจผม
"อยากจูบบอกดีๆก็ได้แหม๋ๆๆๆ...ทำมาป้อนไข่จะได้จูบทางอ้อมอะดิ"
"เดี๋ยวเถอะพูดมากไม่ต้องแดกแล้ว"
"โอเคๆ...ไม่แกล้งแล้วก็ได้"
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ