[ FIC EXO ] CHANBAEK : I'M WANT YOU ความต้องการ
-
เขียนโดย chanlian
วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 18.26 น.
13 EP
0 วิจารณ์
16.89K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2559 18.29 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
12) EP:09 (100%)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความEP:09เกลียด!!!!!
เขาเกลียดปารค์ ชานยอลเขาเกลียดคนอย่าหมอนี้!ไม่สิคนแบบนี้ทุกคนต่างหากคนที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่คำนึงถึงใครผลเสียอะไรที่มันได้สะท้อนกับมาสู่คนรอบข้างนอกจากตัวเองที่ได้รับผลประโยชน์เพียงคนเดียว!!!
ดังเช่นที่แม่เขาต้องตายเพราะคนพันธุ์นั้นคนที่มันเห็นแก่ตัวที่เห็นเพียงผลประโยชน์ของตนเองหวังเพียงมีคนสืบทอดตระกลูโดยไม่ถามความคิดเห็นจากใครหรือแม้แต่ตัวเขาว่าต้องการการเป็นใหญ่หรือไม่รอยยิ้มที่มารดาของคนร่างเล็กส่งให้ก่อนจากลากันไปโดยไม่อาจหวนกลับคืนมาได้นั้นมันยังคงติดตรึงอยู่ในใจเขาตลอดมา
เสียงปืนที่ดังราวกับเสียงสายฟ้าฟาดที่ยังคงดังอยู่ในหัวเขาตลอดมาหลังจากที่มารดาเขาตายไป
เสียงลมหายใจสุดท้ายสุดที่ดับลงไปมันราวเสียงหัวเราะของมัจจุราชที่จะมากระชากวิญญาณของเขาไปเสียแทนมารดาของตนเอง
!!!!และเสียงสุดท้าย!!!!
มันคือเสียงของคนที่เขาเกลียดมากที่สุดในชีวิตตั้งแต่วันนั้นตลอดมาจนถึงวันนี้'บยอน แพคฮยอน'บิดาของเขาผู้พรากเขากับมาดารด้วยความ'ตาย'!!และยิ่งคนร่างเล็กได้รับบทจูบอันร้อนแรงราวกับจะฆ่ากันให้ด้วยการหมดอากาศหายใจจากคนตรงหน้าคนร่างเล็กก็ยิ่งเจ็บ!เจ็บ!เจ็บจนอยากจะตายจริงๆ!!!!!
เขาไม่เข้าใจหรอกนะว่าเหตุใดโชคฉะตาถึงลิขิตเส้นทางชีวิตเขาออกมาได้เลวร้ายนักเพราะยิ่งหมอนี้รุกไล้เขาก็ยิ่งโอนอ่อนยิ่งหมอนี้กอดรัดร่างกายของเขาเขาก็ยิ่งตอบสนองแม้สมองของเขาจะปฏิเสธแล้วก็ตามเขาไม่เคยเข้าใจแม้แต่เรื่องราวหลายๆสิ่งหลายๆอย่างในชีวิตเขาว่ามันเดินทางมาจบในแบบนี้ได้ยังไงทั้งๆที่ก่อนหน้านั่นมันยังดูอยู่แบบปกติสุขอยู่เลย
รวมทั้งเรื่องที่มารดาเขาถูกพรากไปเขาก็ยังไม่เข้าใจทั้งที่ก่อนวันเกิดเหตุคนๆนั้นยังดูรักและเป็นห่วงมารดาเขาอยู่แท้ๆแต่วันต่อมากับ.....
ยิ่งคิดจิตใจของคนร่างเล็กก็ยิ่งอ่อนล้าเขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดมันจึงทำให้สวรรค์จงเกลียดจงชังเขาขนาดนี้กันยิ่งใจเขาอยากหนีหนทางแห่งประตูทางออกที่ว่าแทบไม่มีก็ยิ่งมืดมนเข้าไปอีก
แต่เพียงเวลาผ่านไปได้ไม่นานในระหว่างที่เขากำลังนึกน้อยเนื้อตํ่าใจกับโชคชตาของตนไอคนตรงหน้าเขามันกับเริ่ม'อ่อนโยน'กับเขาขึ้นมา
เขาไม่อาจจะแน่ใจได้หรอกนะว่าการกระทำของมันน่ะเขาจะเรียกว่าอ่อนโยนได้หรือไม่แต่สิ่งที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้หลังจากที่หมอนี้ถอนจูบออกมาแล้วทำเพียงแค่โอบกอดเขาไว้คือการหลบซ่อนดวงตาของเขาที่มันเริ่มเอ่อคลอด้วยนํ้าตา
แบคฮยอนเริ่มกอดรัดคนตรงหน้าแน่นมากขึ้นเมื่อเริ่มรู้สึกได้ถึงหยาดนํ้าตาของตนเองที่เอ่อคลอมารวมกันจนไหลเป็นสายและยิ่งสายนํ้าแห่งความเจ็บปวดที่ถูกกลั่นกลองมาจากดวงใจที่เจ็บชํ้าไหลออกมามากเท่าไรเขาก็ยิ่งกอดรัดแล้วฝังหน้าลงไปกับอกของอีกคนมากเท่านั้น
ยิ่งหมอนี้ปล่อยให้เขาร้องไห้แล้วมาคอยยืนลูปหัวให้กับเขาราวกับปลอบใจกันราวกับเขาเป็นเด็กน้อยขี้แยมันก็ยิ่งทำให้เขาร้องไห้หนักกว่าเดิม
ความรู้สึกของคนร่างเล็กในตอนนี้มันเหมือนกับตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานและต้องเก็บหลายๆสิ่งหลายๆอย่างไว้ในใจคนเพียงเดียวมันถูกพังทลายออกมาผ่านทางนํ้าตาจนหมดสิ้น
"......"
ไร้เสียงแห่งความเสียใจแต่กับถูกแทนที่ด้วยหยาดนํ้าตาสีใสที่หลั่งไหลออกมาแทน
"..."
"..."
"..."
"…"
หลังจากร้องไห้อยู่อย่างนั้นมาได้ซักพักสติของผมก็เริ่มเลือนลางขึ้นมากทุกที...มันมากขึ้น...มากขึ้น...มากซะจนในที่สุดก็.....
:ปารค์ ชานยอล:
หลังจากไอเตี้ยตรงหน้ามันหลับคาอกผมไปผมก็กอดเอวมันไว้แน่นขึ้นแล้วหันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาว่าตอนนี้มันดึกมาแล้ว
จึงทำให้คนตรงหน้าเผลอหลับไปหรืออาจจะเป็นเพราะปัจจัยหลายๆอย่างในตัวหมอนี้ที่ทำให้ทนรับความหนักอึ้งของหัวสมองไม่ไหวจนระบบร่างกายมนุษย์เวลาที่อ่อนล้ามากๆหลับพักผ่อนเพื่อพักสมองไปเสีย
ร่างสูงอุ้มร่างของคนตัวเล็กขึ้นมาในท่าเจ้าสาวก่อนจะเดินอุ้มเข้ามาในห้องนอนของเขาแล้วว่างลงบริเวณที่ว่างข้างๆจุดที่เขานอนเป็นประจำแล้วดึงผ้านวมสีขาวสะอาดแบบเดียวกับเตียงและหมอนมาห่มผ้าให้ถึงอกของอีกคนก่อนจะเดินกลับมานั่งฝั่งของตัวเอง
"...อ...อือ~..."
เสียงร่างตรงหน้าครางขึ้นเมื่อขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนท่านอนให้สบายขึ้นโดยนอนตะแคงข้างหันหน้ามาทางเขามันเลยทำให้เขาคิดและเริ่มที่จะสำรวจหมอนี้ได้อย่างสะดวก
ปากสี่เชอร์รี่ที่แดงสดแบบธรรมชาติโดยไร้การเติมแต่งจมูกรันๆที่บอกความดื้อลั้นของเจ้าของได้อย่างดีแก้มที่มีสีเลือดฝาดแม้ยามหลับก็ยังคงอยู่ไม่จางหายทำให้รู้ว่าเป็นคนสุขภาพดีเพียงไรแม้ในยามนี้ที่เจ้าตัวมีเรื่องหนักใจก็ตามดวงตาที่ในยามนี้ถูกปิดบังไว้เขาจึงไม่อาจพิจารณาดูได้ว่ามันสวยเพียงไร
แต่เขาก็เคยสบดวงตาคู่นี้ในระยะใกล้ๆมาแล้วล่ะดวงตาของหมอนี้ในตอนนั้นมันสวยจนสามารถหยุดสายตาเขาไว้ได้เลยล่ะและมันจะดูสวยกว่านี้ถ้าหมอนี้ไม่ใช่.....ตระกูลบยอน!
"เฮ้อ!คิดอะไรของแกเนี่ยชานยอล"
เขาลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวอาบนํ้าและเข้า...น....
ก๊อก!!ก๊อก!!ก๊อก!!
เมื่อไรเขาจะได้นอนวะ!!!มีเรื่องไม่จบไม่สิ้นซะทีวันนี้เนี่ย
เขาเดินมาเปิดประตูห้องด้วยอารมณ์กรุ่นๆเพียงนิดที่คาดว่าตอนนี้ไอพวกข้างนอกมันคงปลดกลอนให้ผู้มาเยือนใหม่ของเขาแล้วและก็เป็นไปตามคาดเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เปิดออกมาเขาก็พบกับความเย็นเฉียบของปลายกระบอกปืนที่จ่อมาที่หน้าผากของเขาทันที
"สวัสดีครับคุณปารค์ ชานยอล"
"…"
"หึ!ไม่ตอบ...เย่อหยิ่งไม่เปลี่ยนเลยนะครับคุณชานยอล"
"เห็นท่าว่าวันนี้มึงคงจะดวงไม่ดี"
"เห~ทำไมละครับ"
"เพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้มึงจะโดนตีนกูทาบปากครับ...คุณอู๋ อี้ฟาน"
"อะไรวะเพื่อนมาหาทำอย่างกับว่ากูจะหาขี้มาให้แดก!"
"กับคนอื่นกูพอเข้าใจแต่กับมึง..เฮ้อ!"
"อ้าวเชี่ยถอนหายใจใส่กูกับอีเรื่องแค่กูมาหาเนี่ยนะ!!"
"...เก็บปืนซะสัส"
"อย่าเปลี่ยนเรื่องดิสัส...เฮ้ย!...."
ผมไม่ยืนรออยู่ฟังที่มันพูดโดยผมทำเพียงแค่เดินหันหลังกับมาในห้องโดยนั่งรอมันที่โซฟารับแขกเพียงเท่านั้นมันเดินตามเข้ามาก่อนจะกระแทกตัวลงตรงโซฟาฝั่งตรงข้ามกับผมก่อนที่มันจะเริ่มพูดขึ้นมา
"คือ...เรื่องมันมีอยู่ว่า..."
"มึงจะมาดูหน้าไอเตี้ย?"
"ก็ส่วนหนึ่ง..."
"แล้วอีกส่วน?"
"..."
"..."
"..."
"..."
"กู...ยังบอกไม่ได้จริงๆวะ"
"..."
"พร้อมเมื่อไร...กูจะบอก...แต่เมื่อถึงวันนั้นมึงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกูเองไม่ว่ายังไง...มึงก็ต้องไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยกู"
"..."
"ชานยอล"
"...อืม..."
"ขอบคุณ"
"..."
"..."
"..."
"แล้วของเล่นของมึงอยู่ไหนวะ"
"ห้องนอน"
"รักษาดีไปไหม?"
"ก็ตอนมากูเผลอกระทืบมันซะเกือบพัง..."
"..."
"แล้วอีกอย่างพี่ยูราก็บอกให้กูถนอมนิดหน่อยเดี๋ยวมันจะพังไปซะก่อน"
"นิดจริงๆ...หึ!แม่งเกือบพังแต่ยังไม่พังสินะ!"
"..."
ร่างสูไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่ทำเพียงยักไหล่นิด
"แล้วเมื่อไรจะกลับ?"เขาถามเสียงนิ่ง"นี้กูพึ่งมาเองนะเว้ย!!แล้วก็ยังไม่ได้ดูสภาพของเล่นมึงเลย"
"..."
"งั้นกูขอเข้า...ป..."
"...กลับไป!..."นํ้าเสียงเย็นยะเยือกราวกับพายุหิมะนับพันปีพัดผ่านถูกเอ่ยออกมาโดยปารค์ ชานยอล
"อะไรวะกูยัง...."
"..กลับไป.."
"เฮ้ย!แต่..."
"กูเหนื่อยอยากพักผ่อน!"
"เออๆ!...กลับก็ได้"
"อืม..กูขอไม่เดินไปส่งล่ะ"
"อืมงั้นไว้กูจะมาดูสภาพของเล่นมึงวันหลังก็ได้แต้กูหวังว่าสภาพเขาคงไม่เป็นเหมือนวันนี้นะ"
"...กูไม่รับปาก..."
หลังจากที่ได้ยินเสียงประตูปิดไปพร้อมกับเป็นสัญญาณบอกว่าอู๋อี้ฟานได้กลับไปแล้วร่างสูงของชานยอลก็ทิ้งตัวนั่งลงกับโซฟาทันที
เขายกมือสองข้างขึ้นมาลูบหน้าตัวเองช้าๆอย่างเหนื่อยอ่อนกับเรื่องราวในวันทั้งวันนี้นี่ขนาดวันแรกนะเขายังปั่นป่วนกับการกระทำของตัวเขาเองขนาดนี้แล้ววันต่อๆไปนี่เขาไม่ต้องประสาทกินกับการกระทำของตัวเองเลยเหรอไง
"เฮ้อ!!"
เขาถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดใจนิดๆก็จะลุกขึ้นไปอาบนํ้าเตรียมเข้านอนอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรกอย่างในตอนที่ลากคนตัวเตี้ยออกมาจากโต๊ะอาหารเพื่อที่จะแกล้งให้อีกคนมาถูหลังให้เขาถ้าไม่เกิดมีปากเสียงกันเสียงก่อน
แต่เมื่อเขาเดินออกมาจากห้องนํ้าเพื่อที่จะไปนอนเขาต้องคิดหนักอีกทีเมื่อเขาดันลืมคิดอีกว่าถ้าเขาเอาคนตัวเล็กอย่างแบคฮยอนไปนอนไว้บนเตียงของเขาแล้วตัวเขาจะนอนยังไง?
"หรือเราจะนอนโซฟาดีวะ?เฮ้ย!แต่เราเป็นเจ้าเตียงนะเว้ย!"
ร่างสูคิดช่างใจอยู่ซักพักก่อนจะตัดสินใจเดินไปที่หน้าประของตน
"ก็แค่คืนเดียวละวะทนๆเอาดีกว่านอนโซฟาละกัน!"
ชานยอลยืนมือออกไปจับลูกบิตก่อนที่จะ...
แกร๊ก!แกร๊ก!แกร๊กๆๆ!!!!
"ไอตัวแสบ!!!"
เขาก็อยากจะบ้าตายเสียจริงๆก็จะอะไรซะีกล่ะก็ในเมื่อเขาหมุนลูกบิตประตูแล้วพบว่าประตูถูกล็อกจากข้างในน่ะสิ!!!!
อ๊ากกกกก!!จบแล้วหลังจากที่หลงทิศไปนานก็กับมาได้ซะทีอันนี้ของบอกตามตรงเลยนะค่ะว่าตอนนี้เป็นตอนที่ไรท์บอกได้เลยว่าลากเลือดที่สุดเพราะไรท์ต้องดึงอิมเมจของชานยอลให้เป็นคนเงียบๆเหมือนเดิมค่ะเพราะเดียวมันจะไม่เป็นไปตามที่ไรท์อยากฟินบอกแล้วนะค่ะว่าไรท์แต่งเพื่อสนอง"ความต้องการ"ในการอ่านฟิคแนวนี้ของไรท์เองนะค่ะแต่ถึงอย่างใดถ้ามีคนค่อยติดตามค่อยเป็นกำลังใจให้ไรท์ว่ามันจะต้องมีแรงในการแต่งต่อจนจบแน่ๆค่ะPS.สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณแฟนๆทุกๆคนที่ค่อยติดตามคอยเป็นกําลังใจให้ไรท์นะค่ะ
เขาเกลียดปารค์ ชานยอลเขาเกลียดคนอย่าหมอนี้!ไม่สิคนแบบนี้ทุกคนต่างหากคนที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่คำนึงถึงใครผลเสียอะไรที่มันได้สะท้อนกับมาสู่คนรอบข้างนอกจากตัวเองที่ได้รับผลประโยชน์เพียงคนเดียว!!!
ดังเช่นที่แม่เขาต้องตายเพราะคนพันธุ์นั้นคนที่มันเห็นแก่ตัวที่เห็นเพียงผลประโยชน์ของตนเองหวังเพียงมีคนสืบทอดตระกลูโดยไม่ถามความคิดเห็นจากใครหรือแม้แต่ตัวเขาว่าต้องการการเป็นใหญ่หรือไม่รอยยิ้มที่มารดาของคนร่างเล็กส่งให้ก่อนจากลากันไปโดยไม่อาจหวนกลับคืนมาได้นั้นมันยังคงติดตรึงอยู่ในใจเขาตลอดมา
เสียงปืนที่ดังราวกับเสียงสายฟ้าฟาดที่ยังคงดังอยู่ในหัวเขาตลอดมาหลังจากที่มารดาเขาตายไป
เสียงลมหายใจสุดท้ายสุดที่ดับลงไปมันราวเสียงหัวเราะของมัจจุราชที่จะมากระชากวิญญาณของเขาไปเสียแทนมารดาของตนเอง
!!!!และเสียงสุดท้าย!!!!
มันคือเสียงของคนที่เขาเกลียดมากที่สุดในชีวิตตั้งแต่วันนั้นตลอดมาจนถึงวันนี้'บยอน แพคฮยอน'บิดาของเขาผู้พรากเขากับมาดารด้วยความ'ตาย'!!และยิ่งคนร่างเล็กได้รับบทจูบอันร้อนแรงราวกับจะฆ่ากันให้ด้วยการหมดอากาศหายใจจากคนตรงหน้าคนร่างเล็กก็ยิ่งเจ็บ!เจ็บ!เจ็บจนอยากจะตายจริงๆ!!!!!
เขาไม่เข้าใจหรอกนะว่าเหตุใดโชคฉะตาถึงลิขิตเส้นทางชีวิตเขาออกมาได้เลวร้ายนักเพราะยิ่งหมอนี้รุกไล้เขาก็ยิ่งโอนอ่อนยิ่งหมอนี้กอดรัดร่างกายของเขาเขาก็ยิ่งตอบสนองแม้สมองของเขาจะปฏิเสธแล้วก็ตามเขาไม่เคยเข้าใจแม้แต่เรื่องราวหลายๆสิ่งหลายๆอย่างในชีวิตเขาว่ามันเดินทางมาจบในแบบนี้ได้ยังไงทั้งๆที่ก่อนหน้านั่นมันยังดูอยู่แบบปกติสุขอยู่เลย
รวมทั้งเรื่องที่มารดาเขาถูกพรากไปเขาก็ยังไม่เข้าใจทั้งที่ก่อนวันเกิดเหตุคนๆนั้นยังดูรักและเป็นห่วงมารดาเขาอยู่แท้ๆแต่วันต่อมากับ.....
ยิ่งคิดจิตใจของคนร่างเล็กก็ยิ่งอ่อนล้าเขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดมันจึงทำให้สวรรค์จงเกลียดจงชังเขาขนาดนี้กันยิ่งใจเขาอยากหนีหนทางแห่งประตูทางออกที่ว่าแทบไม่มีก็ยิ่งมืดมนเข้าไปอีก
แต่เพียงเวลาผ่านไปได้ไม่นานในระหว่างที่เขากำลังนึกน้อยเนื้อตํ่าใจกับโชคชตาของตนไอคนตรงหน้าเขามันกับเริ่ม'อ่อนโยน'กับเขาขึ้นมา
เขาไม่อาจจะแน่ใจได้หรอกนะว่าการกระทำของมันน่ะเขาจะเรียกว่าอ่อนโยนได้หรือไม่แต่สิ่งที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้หลังจากที่หมอนี้ถอนจูบออกมาแล้วทำเพียงแค่โอบกอดเขาไว้คือการหลบซ่อนดวงตาของเขาที่มันเริ่มเอ่อคลอด้วยนํ้าตา
แบคฮยอนเริ่มกอดรัดคนตรงหน้าแน่นมากขึ้นเมื่อเริ่มรู้สึกได้ถึงหยาดนํ้าตาของตนเองที่เอ่อคลอมารวมกันจนไหลเป็นสายและยิ่งสายนํ้าแห่งความเจ็บปวดที่ถูกกลั่นกลองมาจากดวงใจที่เจ็บชํ้าไหลออกมามากเท่าไรเขาก็ยิ่งกอดรัดแล้วฝังหน้าลงไปกับอกของอีกคนมากเท่านั้น
ยิ่งหมอนี้ปล่อยให้เขาร้องไห้แล้วมาคอยยืนลูปหัวให้กับเขาราวกับปลอบใจกันราวกับเขาเป็นเด็กน้อยขี้แยมันก็ยิ่งทำให้เขาร้องไห้หนักกว่าเดิม
ความรู้สึกของคนร่างเล็กในตอนนี้มันเหมือนกับตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานและต้องเก็บหลายๆสิ่งหลายๆอย่างไว้ในใจคนเพียงเดียวมันถูกพังทลายออกมาผ่านทางนํ้าตาจนหมดสิ้น
"......"
ไร้เสียงแห่งความเสียใจแต่กับถูกแทนที่ด้วยหยาดนํ้าตาสีใสที่หลั่งไหลออกมาแทน
"..."
"..."
"..."
"…"
หลังจากร้องไห้อยู่อย่างนั้นมาได้ซักพักสติของผมก็เริ่มเลือนลางขึ้นมากทุกที...มันมากขึ้น...มากขึ้น...มากซะจนในที่สุดก็.....
:ปารค์ ชานยอล:
หลังจากไอเตี้ยตรงหน้ามันหลับคาอกผมไปผมก็กอดเอวมันไว้แน่นขึ้นแล้วหันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาว่าตอนนี้มันดึกมาแล้ว
จึงทำให้คนตรงหน้าเผลอหลับไปหรืออาจจะเป็นเพราะปัจจัยหลายๆอย่างในตัวหมอนี้ที่ทำให้ทนรับความหนักอึ้งของหัวสมองไม่ไหวจนระบบร่างกายมนุษย์เวลาที่อ่อนล้ามากๆหลับพักผ่อนเพื่อพักสมองไปเสีย
ร่างสูงอุ้มร่างของคนตัวเล็กขึ้นมาในท่าเจ้าสาวก่อนจะเดินอุ้มเข้ามาในห้องนอนของเขาแล้วว่างลงบริเวณที่ว่างข้างๆจุดที่เขานอนเป็นประจำแล้วดึงผ้านวมสีขาวสะอาดแบบเดียวกับเตียงและหมอนมาห่มผ้าให้ถึงอกของอีกคนก่อนจะเดินกลับมานั่งฝั่งของตัวเอง
"...อ...อือ~..."
เสียงร่างตรงหน้าครางขึ้นเมื่อขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนท่านอนให้สบายขึ้นโดยนอนตะแคงข้างหันหน้ามาทางเขามันเลยทำให้เขาคิดและเริ่มที่จะสำรวจหมอนี้ได้อย่างสะดวก
ปากสี่เชอร์รี่ที่แดงสดแบบธรรมชาติโดยไร้การเติมแต่งจมูกรันๆที่บอกความดื้อลั้นของเจ้าของได้อย่างดีแก้มที่มีสีเลือดฝาดแม้ยามหลับก็ยังคงอยู่ไม่จางหายทำให้รู้ว่าเป็นคนสุขภาพดีเพียงไรแม้ในยามนี้ที่เจ้าตัวมีเรื่องหนักใจก็ตามดวงตาที่ในยามนี้ถูกปิดบังไว้เขาจึงไม่อาจพิจารณาดูได้ว่ามันสวยเพียงไร
แต่เขาก็เคยสบดวงตาคู่นี้ในระยะใกล้ๆมาแล้วล่ะดวงตาของหมอนี้ในตอนนั้นมันสวยจนสามารถหยุดสายตาเขาไว้ได้เลยล่ะและมันจะดูสวยกว่านี้ถ้าหมอนี้ไม่ใช่.....ตระกูลบยอน!
"เฮ้อ!คิดอะไรของแกเนี่ยชานยอล"
เขาลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวอาบนํ้าและเข้า...น....
ก๊อก!!ก๊อก!!ก๊อก!!
เมื่อไรเขาจะได้นอนวะ!!!มีเรื่องไม่จบไม่สิ้นซะทีวันนี้เนี่ย
เขาเดินมาเปิดประตูห้องด้วยอารมณ์กรุ่นๆเพียงนิดที่คาดว่าตอนนี้ไอพวกข้างนอกมันคงปลดกลอนให้ผู้มาเยือนใหม่ของเขาแล้วและก็เป็นไปตามคาดเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เปิดออกมาเขาก็พบกับความเย็นเฉียบของปลายกระบอกปืนที่จ่อมาที่หน้าผากของเขาทันที
"สวัสดีครับคุณปารค์ ชานยอล"
"…"
"หึ!ไม่ตอบ...เย่อหยิ่งไม่เปลี่ยนเลยนะครับคุณชานยอล"
"เห็นท่าว่าวันนี้มึงคงจะดวงไม่ดี"
"เห~ทำไมละครับ"
"เพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้มึงจะโดนตีนกูทาบปากครับ...คุณอู๋ อี้ฟาน"
"อะไรวะเพื่อนมาหาทำอย่างกับว่ากูจะหาขี้มาให้แดก!"
"กับคนอื่นกูพอเข้าใจแต่กับมึง..เฮ้อ!"
"อ้าวเชี่ยถอนหายใจใส่กูกับอีเรื่องแค่กูมาหาเนี่ยนะ!!"
"...เก็บปืนซะสัส"
"อย่าเปลี่ยนเรื่องดิสัส...เฮ้ย!...."
ผมไม่ยืนรออยู่ฟังที่มันพูดโดยผมทำเพียงแค่เดินหันหลังกับมาในห้องโดยนั่งรอมันที่โซฟารับแขกเพียงเท่านั้นมันเดินตามเข้ามาก่อนจะกระแทกตัวลงตรงโซฟาฝั่งตรงข้ามกับผมก่อนที่มันจะเริ่มพูดขึ้นมา
"คือ...เรื่องมันมีอยู่ว่า..."
"มึงจะมาดูหน้าไอเตี้ย?"
"ก็ส่วนหนึ่ง..."
"แล้วอีกส่วน?"
"..."
"..."
"..."
"..."
"กู...ยังบอกไม่ได้จริงๆวะ"
"..."
"พร้อมเมื่อไร...กูจะบอก...แต่เมื่อถึงวันนั้นมึงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกูเองไม่ว่ายังไง...มึงก็ต้องไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยกู"
"..."
"ชานยอล"
"...อืม..."
"ขอบคุณ"
"..."
"..."
"..."
"แล้วของเล่นของมึงอยู่ไหนวะ"
"ห้องนอน"
"รักษาดีไปไหม?"
"ก็ตอนมากูเผลอกระทืบมันซะเกือบพัง..."
"..."
"แล้วอีกอย่างพี่ยูราก็บอกให้กูถนอมนิดหน่อยเดี๋ยวมันจะพังไปซะก่อน"
"นิดจริงๆ...หึ!แม่งเกือบพังแต่ยังไม่พังสินะ!"
"..."
ร่างสูไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่ทำเพียงยักไหล่นิด
"แล้วเมื่อไรจะกลับ?"เขาถามเสียงนิ่ง"นี้กูพึ่งมาเองนะเว้ย!!แล้วก็ยังไม่ได้ดูสภาพของเล่นมึงเลย"
"..."
"งั้นกูขอเข้า...ป..."
"...กลับไป!..."นํ้าเสียงเย็นยะเยือกราวกับพายุหิมะนับพันปีพัดผ่านถูกเอ่ยออกมาโดยปารค์ ชานยอล
"อะไรวะกูยัง...."
"..กลับไป.."
"เฮ้ย!แต่..."
"กูเหนื่อยอยากพักผ่อน!"
"เออๆ!...กลับก็ได้"
"อืม..กูขอไม่เดินไปส่งล่ะ"
"อืมงั้นไว้กูจะมาดูสภาพของเล่นมึงวันหลังก็ได้แต้กูหวังว่าสภาพเขาคงไม่เป็นเหมือนวันนี้นะ"
"...กูไม่รับปาก..."
หลังจากที่ได้ยินเสียงประตูปิดไปพร้อมกับเป็นสัญญาณบอกว่าอู๋อี้ฟานได้กลับไปแล้วร่างสูงของชานยอลก็ทิ้งตัวนั่งลงกับโซฟาทันที
เขายกมือสองข้างขึ้นมาลูบหน้าตัวเองช้าๆอย่างเหนื่อยอ่อนกับเรื่องราวในวันทั้งวันนี้นี่ขนาดวันแรกนะเขายังปั่นป่วนกับการกระทำของตัวเขาเองขนาดนี้แล้ววันต่อๆไปนี่เขาไม่ต้องประสาทกินกับการกระทำของตัวเองเลยเหรอไง
"เฮ้อ!!"
เขาถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดใจนิดๆก็จะลุกขึ้นไปอาบนํ้าเตรียมเข้านอนอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรกอย่างในตอนที่ลากคนตัวเตี้ยออกมาจากโต๊ะอาหารเพื่อที่จะแกล้งให้อีกคนมาถูหลังให้เขาถ้าไม่เกิดมีปากเสียงกันเสียงก่อน
แต่เมื่อเขาเดินออกมาจากห้องนํ้าเพื่อที่จะไปนอนเขาต้องคิดหนักอีกทีเมื่อเขาดันลืมคิดอีกว่าถ้าเขาเอาคนตัวเล็กอย่างแบคฮยอนไปนอนไว้บนเตียงของเขาแล้วตัวเขาจะนอนยังไง?
"หรือเราจะนอนโซฟาดีวะ?เฮ้ย!แต่เราเป็นเจ้าเตียงนะเว้ย!"
ร่างสูคิดช่างใจอยู่ซักพักก่อนจะตัดสินใจเดินไปที่หน้าประของตน
"ก็แค่คืนเดียวละวะทนๆเอาดีกว่านอนโซฟาละกัน!"
ชานยอลยืนมือออกไปจับลูกบิตก่อนที่จะ...
แกร๊ก!แกร๊ก!แกร๊กๆๆ!!!!
"ไอตัวแสบ!!!"
เขาก็อยากจะบ้าตายเสียจริงๆก็จะอะไรซะีกล่ะก็ในเมื่อเขาหมุนลูกบิตประตูแล้วพบว่าประตูถูกล็อกจากข้างในน่ะสิ!!!!
อ๊ากกกกก!!จบแล้วหลังจากที่หลงทิศไปนานก็กับมาได้ซะทีอันนี้ของบอกตามตรงเลยนะค่ะว่าตอนนี้เป็นตอนที่ไรท์บอกได้เลยว่าลากเลือดที่สุดเพราะไรท์ต้องดึงอิมเมจของชานยอลให้เป็นคนเงียบๆเหมือนเดิมค่ะเพราะเดียวมันจะไม่เป็นไปตามที่ไรท์อยากฟินบอกแล้วนะค่ะว่าไรท์แต่งเพื่อสนอง"ความต้องการ"ในการอ่านฟิคแนวนี้ของไรท์เองนะค่ะแต่ถึงอย่างใดถ้ามีคนค่อยติดตามค่อยเป็นกำลังใจให้ไรท์ว่ามันจะต้องมีแรงในการแต่งต่อจนจบแน่ๆค่ะPS.สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณแฟนๆทุกๆคนที่ค่อยติดตามคอยเป็นกําลังใจให้ไรท์นะค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ