Conquerhearts ปฏิบัติการพิชิตหัวใจ
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 19.31 น.
แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559 15.37 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
7) ซวยสนิท ซวยแบบกู้ไม่กลับ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 6 ซวยสนิท ซวยแบบกู้ไม่กลับ
“ เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับฉันสักที” จู่ๆ โทโมะก็ถามประโยคนี้ขึ้นมาซึ่งๆ หน้าทำให้ฉันที่นั่งคิดแผนหนีออกไปอยู่ถึงกับทรุดทันที
“ง่ายมาก…นายก็รีบเลิกกับแฟนนาย แล้วรีบมาเป็นแฟนฉันให้ไวเลย”‘ง่ายจริงๆ อย่างที่ฉันบอกใช่มั๊ยล่ะทุกคน ^O^
“-_-” หมอนี่จะรู้ตัวรู้เปล่าว่าหน้าเขานิ่งมาก
“>_<”
“-_-” นิ่งได้อีกค่ะ
“^O^”
“-_-” ก็ยังนิ่ง…
“=_=?”
หรือหน้าฉันมีอะไรติดหว่า…
ฉันรีบยกมือขึ้นมาลูบๆ คลำๆ ใบหน้าตัวเองทันทีเพราะไม่รู้ว่ามีอะไรแปลกปลอมติดอยู่หรือเปล่าโทโมะถึงได้จ้องไม่ยอมวางตา
“-_-”
“จ้องอะไรอยู่ได้ อยากเป็นแฟนฉันแล้วล่ะสิ =.,=” ฉันตัดสินใจถามออกไปในที่สุด นี่เขาคิดว่าตัวเองนั่งเล่นเกมจับผิดอยู่หรือไงนะ ดูสิเนี่ย จ้องจนฉันคิดไม่ออกแล้วว่าจะหนีเขาออกไปยังไงดี นี่ก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มกว่าแล้วแต่ก็ยังไม่มีแม้แต่เงาของพี่ขนมเข่งที่จะกลับมาบ้านเลย T_T
“ห้องน้ำอยู่ไหน”
“ตรงไปโน่นเลี้ยวซ้าย รีบไปเลย” ฉันชี้นิ้วบอกทางเขาอย่างกระดี้กระด้าทันที พอเขาไปเข้าห้องน้ำ ฉันก็จะได้รีบวิ่งหนีออกจากบ้านทันที! ดีล่ะจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดอุบายให้เสียเวลาและปวดสมองเล่น
ยะฮู้!!! ^O^
“หึ! คิดจะหนีไปริกกี้อยู่ล่ะสิ…” เขาหัวเราะหึในลำคอแล้วเอ่ยถามพร้อมกับส่งสายตามองมาที่ฉันอย่างคนรู้ทัน ฉันจึงหุบยิ้มทันที เกลียดสายตาแบบนั้นชะมัดเลย!
ฉันย่นจมูกอย่างขัดใจพลางมองโทโมะที่กำลังหันซ้ายหันขวาเหมือนหาอะไรบางอย่างอยู่ ก่อนที่สายตาอันคมกริบของเขาจะไปหยุดอยู่ที่โต๊ะวางของซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก แล้วเจ้าตัวก็ลุกไปหยิบอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น และมันก็คือ…
เนกไท!
ใช่แล้วล่ะ โทโมะเดินไปหยิบเนกไทสีน้ำเงินเข้มของพี่ขนมเข่งที่วางพาดอยู่บนโต๊ะมาถือ ไว้ในมือก่อนที่จะยิ้มกรุ้มกริ่มพลางแก้เนกไทออก
“เวลานี้ยังจะมีหน้ามาอยากหล่อ…พี่เข่งกำลังออยู่ในอันตรายนะ!-0-” ฉันทำหน้าไม่สบอารมณ์ทันที หมอนี่มันเอาแต่ใจตัวเองชะมัดเลย
“เปล่า…” เขาพูดแค่นั้นก่อนที่จะเดินตรงดิ่งมาที่ฉันแล้วทำสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด…
“เฮ้ย! O[]O” ฉันแหกปากโวยวายทันทีเมื่อโทโมะเอาเนกไทที่เขาผูกเป็นห่วงโดยใช้เงื่อนตามแบบลูกเสือแล้วนำมามัดข้อมือฉันกับเขาให้ติดกัน!
“ทีนี้ก็ไปเข้าห้องน้ำกันเถอะ ” เขาเงยหน้าจากมือที่ผูกเนกไทจนเป็นปมซับซ้อนดูท่าทางแล้วจะแก้ออกลำบากขึ้นมายิ้มหวานให้ฉัน…หล่อชะมัดเลย -///-
ไม่สิ!
นี่ไม่ใช่เวลามาชมเขานะ ฉันต้องรีบแก้มัดเดี๋ยวนี้!!!
“นายจะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำ!” พูดพลางมือก็พยายามดึงเนกไทที่พันอยู่รอบข้อมือออกไปแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะดูเหมือนยิ่งดึงมันก็จะยิ่งแน่นขึ้น บวกกับที่ปลายเนกไททั้งสองด้านไม่ได้ถูกผูกไว้ที่ข้อมือฉัน แต่ผูกไว้ที่ข้อมือของโทโมะต่างหาก TTvTT
“ถ้าฉันไปเข้าคนเดียว เธอก็หนีออกไปสิ…ฉันไม่ได้โง่นะ” เขาพูดหน้าตายก่อนที่จะลากฉันให้เดินตามเขามาแล้วเราสองคนก็มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำจนได้
“ที่อย่างนี้ล่ะฉลาดจริงๆ เลยนะ” ฉันบ่นอุบ พลางมือก็ยังพยายามทำให้ตัวเองเป็นอิสระ
“ว่าไงนะ”
“ฉันบอกว่า ที่อย่างนี้ล่ะฉลาดจังเลยนะ! เรื่องอื่นไม่เห็นฉลาดแบบนี้เลย!!! -0-” ฉันเงยหน้าขึ้นไปตะโกนใส่หน้าเขา แต่คนฟังก็ไม่ได้มีสีหน้าต่างไปจากเดิมเท่าไหร่ เพียงแต่หัวคิ้วสองข้างของเขาขยับมาใกล้กันมากกว่าเดิมนิดหน่อย
“เรื่องอะไร”
“ก็เรื่องแฟนนายไง ยัยนั่นน่ะ…”
“หุบปากของเธอซะ…ถ้าจะว่าร้ายอะไรพิมล่ะก็ เสียใจด้วย…เธอไม่มีสิทธิ์นั้น” เขาพูดเสียงเย็น ก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินเข้าห้องน้ำ โดยไม่สนว่าข้อมือฉันกับเขาผูกติดกันอยู่!
“นายจะทำอะไร!” ฉันเบิกตาโตทันทีเมื่อเขาทำท่าเหมือนจะรูดซิปกางเกง แล้วประเด็นก็คือ…มือของฉันมันถูกดึงไปด้วย!
ยะ…อย่าทำอะไรบ้าๆ นะเว้ย -*-
“ขัดดาบมั้ง…หึหึ”
“TOT” ฉันรีบหันหลังชนกับเขาทันทีโดยมีมือที่ถูกมัดอยู่ไขว่ผ่านไปด้านหลังของฉันหรือด้านหน้าของโทโมะนั่นแหละ…กำลังนึกภาพตามกันอยู่ใช่มั๊ย ฉันแนะนำว่าหยุดคิดเลย! สงสารฉันเถอะ
“ถ้ามือฉันเป็นอะไรไปนะ ฉันจะบีบคอนายให้ตายเลยคอยดู!>O<” ฉันหลับตาปี๋แล้วก็ตะโกนลั่นห้องน้ำ ถึงแม้ว่าจะหันหลังชนหลังโทโมะอยู่ก็เถอะ ฉันก็ไม่อยากจะรับรู้บรรยากาศในนี้สักเท่าไหร่…เกิดมาไม่เคยเข้าห้องน้ำกับผู้ชายคนอื่นเลยนอกจากพี่ชายตัวเอง แต่นั่นมันก็ตั้งแต่เด็กๆ ที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร โฮกกก~
“มือเธอ?...คิดอะไรทะลึ่งอยู่สินะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ก่อนที่เขาจะทำมือยุกยิกๆ อะไรก็ไม่รู้ แล้วฉันก็ได้ยินเสียง…เอ่อ ข้ามมันไปล่ะกัน เอาเป็นว่าสุดท้ายมือฉันก็ไม่ได้สัมผัสโดนอะไรที่ไม่พึงประสงค์ทั้งนั้น(?) นอกจากขอบกางเกงและหัวเข็มขัดของเขา…ฟู่ววว~
แค่นั้นจริงๆ นะ ฉันสาบานได้เลย (_ _|||)
“เสร็จหรือยังเนี่ย ฉันอยากออกไปจากที่นี่แล้ว!” ฉันถามคนข้างหลังในขณะที่ตัวเองเพิ่งจะลืมตาขึ้นมากลอกตามองเพดานห้องน้ำ
“อืม” โทโมะตอบเบาๆ ก่อนที่จะหมุนตัวแล้วเดินมายืนอยู่ข้างฉันพร้อมกับทำหน้านิ่งตามปกติแล้ว เอ่ยถามบางอย่างออกมา…
“เธออยากทำธุระบ้างหรือเปล่า”
“ห๊ะ!? ไอ้ลามก!” ฉันวีนแตกแล้วใช้เข่ากระแทกไปที่ขาของเขาหนึ่งทีก่อนที่จะเดินจ้ำอ้าวออกมา จากห้องน้ำทันที โดยที่โทโมะก็ยอมเดินตามออกมาติดๆ ฉันจึงไม่เสียพลังงานในการลากเขา…ดูเหมือนมันจะสลับกันหรือเปล่า? ตอนแรกเขายังลากฉันอยู่เลย -_-^
“ลามกบ้าบออะไรล่ะ ถ้าเธออยากเข้าฉันจะได้แก้มัดให้ แล้วเดี๋ยวจะยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำไง”
“กลับไปยืนเฝ้าแฟนจอมลวงโลกของนายเถอะ!-0-”
“…”
ดูเหมือน…ฉันจะเผลอพูดอะไรไม่เข้าหูของเขาอีกแล้วล่ะนะ แย่แล้วยัยใจแก้ว เอ๊ย! ยัยแก้วใจ~ ฉันไม่เคยใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ จนเรียกชื่อตัวเองผิดแบบนี้เลยนะ! แต่ว่าหมอนี่มันเหมือนมีพลังงานอะไรบางอย่างก็ไม่รู้ที่ทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูกเลย แถมตอนนี้ดูเหมือนเขาจะโกรธอยู่ด้วยล่ะ! ผู้ชายอะไรเปลี่ยนอามรณ์ได้เร็วขนาดนี้เนี่ย เมื่อกี้ยังแกล้งฉันอยู่เลย TTvTT
“ว่าคนอื่นเขา…ตัวเองดีนักหรือไง”
“ไม่ได้ว่า ฉันแค่พูดความจริง”
“ไม่ใช่เพราะเธออยากได้ฉันเป็นแฟน จนต้องหาเรื่องมายุให้ฉันกับพิมเลิกกันเหรอ” ไอ้บ้านี่มันฉลาดไม่เข้าเรื่องจริงๆ เลย ฉันยอมรับว่าฉันเป็นแบบที่เขาพูดนะ แต่เรื่องที่ฉันพูดมันก็เป็นเรื่องจริงที่ฉันไม่ได้แต่งขึ้นมา!
“นายหลงยัยนั่นจนโงหัวไม่ขึ้นรู้ตัวหรือเปล่า”
“…”โทโมะมองหน้าฉันด้วยความไม่เข้าใจพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะแก้มัดเนกไทออกแล้วฉันก็ได้เป็นอิสระ แต่ดูเหมือนเขาเองก็จะเดินเข้าใกล้ฉันมากกว่าเดิมทุกทีๆ
“นายจะเดินเข้ามาทำไม”
“ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันไม่อยากทำร้ายผู้หญิง...แต่ถ้าเธอทำอะไรพิม ฉันก็จะไม่สนอะไรทั้งนั้น…”
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แค่พูดเฉยๆ เอง =.,=” ฉันแค่พูดจริงๆ นะ ทุกคนก็รู้ใช่มั๊ย T^T
“พูดก็เหมือนทำทางอ้อม” ลึกซึ้งเนอะ! ฉันยังคิดไม่ถึงเลยบอกตรงๆ
“โดนทำเสน่ห์ใส่มาเหรอ ทำไมถึงได้รักหัวปักหัวปำหัวคะมำทิ่มบ่อแบบนี้เนี่ย” มันน่าคิดนะว่าโทโมะจะโดนยัยพม่าหน้าตุ๊กตาจอมลวงโลกนั่นทำเสน่ห์ใส่มาหรือเปล่า รักกันปานจะกลืนกินซะขนาดนี้ ชิ! น่าหมั่นไส้ชะมัดเลย
“แล้ว ทำไมเธอถึงชอบว่าร้ายให้คนอื่นนัก อิจฉาเขามากหรือไง” โทโมะมีสีหน้าขรึมขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า สายตาคู่สวยนั่นกำลังจ้องฉันอยากกับจะดูดฉันเข้าไปในเรตินา…เอ่อ พอเถอะ เอาเป็นว่าตาเขาน่ากลัวมาก ณ จุดนี้!
“ถ้าพี่เข่งรู้ว่านายพูดกับฉันแบบนี้นะ…”
“ทำไม! ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าดึงคนดีๆ อย่างพี่หนมเข่งเข้ามาเกี่ยวน่ะ!!!” จู่ๆ โทโมะก็ขึ้นเสียงพร้อมกับกระโจนเข้าใส่ฉันแล้วใช้มือยึดไหล่ทั้งสองข้างของฉันเอาไว้แน่น
เฮือก!!! ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้อารมณ์ร้ายแบบนี้นะ!
“…”
“เธอมันก็แค่ตัวอิจฉาที่เห็นคนอื่นเขารักกันไม่ได้เลยต้องยุแยงให้เขาเลิกกัน!” เขาพูดด้วยความโมโหพลางออกแรงบีบไหล่ฉันมากขึ้น ตอนนี้ฉันชาไปหมดทั้งร่างกายไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมฉันถึงไม่แกะมือของเขาออกไป ฉันรู้สึกเหมือนคนกำลังจะหมดแรงน่ะสิ!
“จำคำพูดของนายเอาไว้เลย แล้วนายจะต้องเสียใจ!” ฉันพูดอย่างเคืองๆ พลันความอยากจะเอาชนะเขาก็เพิ่มมากขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว
“ฉันจะเสียใจแน่ถ้าต้องไปเป็นแฟนของผู้หญิงขี้อิจฉาอย่างเธอน่ะ ”
นายจะดูถูกฉันเกินไปแล้วนะโทโมะ!
“คำก็อิจฉา สองคำก็ผู้หญิงขี้อิจฉา…ฉันก็แค่…” ถ้าบอกกความจริงกับเขาไปว่าที่ฉันทำแบบนี้เพราะดวงตกยี่สิบปีเขาจะหัวเราะเยาะฉันมั๊ยน่ะ…เผลอๆ นอกจากคำว่าขี้อิจฉาแล้ว ฉันอาจจะได้คำว่าเห็นแก่ตัวเพิ่มมาด้วยก็ได้ ฮึ่ย!
“ก็แค่เห็นแก่ตัว ทำอะไรไม่แคร์ว่าใครจะเจ็บปวดเพราะเธอบ้าง…” เขาใช้โอกาสที่ฉันเงียบไปกลางคันเอ่ยเสียงรอดไรฟันพลางจ้องหน้าฉันนิ่ง
“…ไม่กลัวบาปกรรมเหรอ?”
นี่ฉันทำผิดมากเลยใช่มั๊ย?
“แฟนนายดีเลิศเลอกว่าฉันมากนักสิ! ฉันจะบอกอะไรให้เอาบุญนะ ยัยนั่นน่ะ…อุ๊บ! OxO” คำพูดของฉันมีอันต้องติดขัดทันทีเมื่อจู่ๆ คนตรงหน้าก็โน้มตัวลงมาใกล้แล้วจูบฉัน!
“อื้อ อื้อ!” ฉันพยายามจะดันเขาออกไปแต่ก็ทำได้แต่ทุบตีที่ตามแผงอกของเขาเท่านั้นเพราะ ตอนนี้มือทั้งสองข้างของเขาเปลี่ยนมาล็อกหัวของฉันเอาไว้แทนไหล่แล้ว ฉันเบิกตาโตด้วยความตกใจรู้สึกว่าร่างกายจะไหววูบอย่างประหลาด! ยิ่งพยามขัดขืนก็ยิ่งหมดแรง สัมผัสที่รวดเร็วและรุนแรงจากปากของเขาที่จู่โจมมามันเหมือนสูบพลังงานของ ฉันออกไปจนเกือบหมด ฉันไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่รู้สึกเหมือนว่ามันนานมากจนฉันแทบจะล้มทั้งยืน และโทโมะเองก็ยังไม่ยอมปล่อยฉัน ตอนนี้สมองของฉันว่างเปล่าไปหมด ไม่รู้ว่าเขาทำแบบนี้เพราะอะไรแต่ฉันไม่ชอบเลย ความรู้สึกที่เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจแล้วก็เจ็บไปพร้อมๆ กัน…
แล้วก็เหมือหนังเก่ารีรัน เพราะจู่ๆ ภาพเมื่อตอนที่ฌอนลวนลามฉันก็แวบเข้ามาในสมอง ทำให้ฉันเริ่มกลัวคนตรงหน้ามากกว่าเดิม…กลัวว่าเขาจะทำอะไรเกินกว่านี้…ฉัน พยายามรวมรวมแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่ทั้งหมดแล้วดิ้นให้มากขึ้นกว่าเดิมพลาง มือก็ยังคงทุบตีเขาไม่หยุดแล้วในที่สุดโทโมะก็ปล่อยฉันจนได้!
เผี๊ยะ!!!
“ฉัน เกลียด นาย…”
ทันทีที่เป็นอิสระ มือของฉันก็เงื้อขึ้นไปตบหน้าเขาด้วยความรวดเร็วเหมือนระบบอัตโนมัติพร้อม กับน้ำตาของฉันที่ค่อยๆ ไหลออกมา คนถูกตบหน้ายกยิ้มมุมปากเล็กน้อยพร้อมกับจ้องหน้าฉันนิ่ง ฉันเองก็จ้องกลับด้วยความไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เกิดมาฉันยังไม่เคยมีแฟน…ยังไม่เคยจูบกับใคร…
แล้วเขาเป็นใครกันถึงมาทำแบบนี้กับฉัน!!!
จริงอยู่ที่ฉันอยากได้เขามาเป็นแฟน แต่นั่นมันก็เพราะฉันดวงตกแล้วต้องการแก้ดวงเท่านั้น ฉันไม่ได้มีใจหลงไหลได้ปลื้มกับคนตรงหน้าเลยสักนิด!
“ฉันก็เกลียดเธอเหมือนกัน…หึ!”
“เกลียดฉันแล้วนายทำแบบนี้ทำไม!”
“ก็นึกว่าเธอจะชอบซะอีก…อยากเป็นแฟนฉันนักไม่ใช่เหรอ ไม่คิดว่าเธอจะเกลียดฉันนี่ ”
หมับ!
ทันทีที่โทโมะพ่นคำพูดดูถูกออกมาฉันก็เงื้อมือขึ้นหมายจะตบหน้าเขาอีกครั้ง แต่ด้วยความที่เขาไวกว่าจึงยกมือขึ้นมาล็อกข้อมือของเอาฉันไว้ได้ทันพร้อม กับออกแรงบีบจนฉันเกรงว่าตอนนี้เลือดอาจจะเดินไปไม่ถึงปลายนิ้วฉันก็เป็นได้
“ทีไอ้ฌอนมันจูบมันไซร้ เธอไม่เห็นต่อต้านแบบนี้เลย หึ” ประโยคนี้ทำเอาความร้อนจากทุกส่วนของร่างกายพุ่งขึ้นมารวมกันอยู่ที่ใบหน้าของฉันทันที…ไม่ต่อต้านอย่างนั้นเหรอ ไปเอาที่ไหนมาพูด!
“เขาไม่ได้…” ฉันชะงักไปกะทันหันเพราะพูดไปเขาก็คงไม่เชื่ออยู่ดี ถึงแม้ว่าไอ้บ้าฌอนจะทำเกินกว่านี้ก็เถอะแต่ใครจะเชื่อฉันล่ะว่าหมอนั่นไม่ได้ทำกับฉันแบบที่โทโมะทำเมื่อกี้น่ะ
นี่ฉันโดนผู้ชายสองคนลวนลามติดๆ กันเลยเหรอ?
น่าอายที่สุด…
เหอะ! เธอมันน่าสมเพชชะมัดเลยแก้วใจ…คนนึงก็จะใช้เป็นเครื่องมือ อีกคนนึงก็ดูถูกเหยียดหยาม…
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกับชีวิตฉันกันแน่!
“ปกป้องมันเหรอ? ฉันชักจะสงสัยแล้วสิว่าฉันกับพี่หนมเข่งเข้าไปช่วยเธอ หรือขัดจังหวะเธอกันแน่”
“ถ้านายยังไม่หยุดพูดจาดูถูกฉันล่ะก็ ฉันจะ…”
“จะทำไมเหรอ ฟ้องพี่หนมเข่งอย่างนั้นสินะ…เธอไม่สงสารเขาเหรอ เขารักเธอ ปกป้องเธออย่างเต็มที่ แต่เธอดันชอบทำตัวไม่น่ารัก ทำแต่เรื่องน่าปวดหัวสร้างแต่ปัญหาให้เขาน่ะ นี่น่ะเหรอที่เธอตอบแทนให้เขา”
ทำไมเขาต้องพูดเหมือนว่าฉันไม่ได้รักพี่ขนมเข่งแบบนั้นด้วย!
ถ้าฉันไม่รักพี่ชายตัวเองแล้วฉันจะอยากออกไปช่วยเขาแบบนี้เหรอ หมอนี่ใช้อะไรคิดกันนะ แล้วฉันก็ไม่ได้ชอบสร้างปัญหาอย่างที่เขาว่าสักหน่อย ที่เขาพูดมันหมายความว่าฉันเป็น ตัวปัญหา ของพี่ขนมเข่งชัดๆ
“นายไม่มีสิทธิ์มาว่าฉันแบบนี้นะ!”
“ทำไมล่ะ ในเมื่อฉันเคารพพี่ชายเธอเหมือนพี่ชายแท้ๆ ของตัวเอง แล้วฉันจะทำให้เขามีความสุขโดยการเตือนให้เธอหยุดก่อเรื่องไม่ได้หรือไง” พูดแบบนี้ทำไมไม่มาเกิดเป็นน้องแท้ๆ ของเขาเลยล่ะ! ฉันผิดมากใช่มั๊ย!? ฉันมันเป็นตัวปัญหาชอบก่อเรื่องในสายตานายมากขนาดนั้นเลยเหรอโทโมะ
“เตือนตัวเองเถอะ…นายมันโง่อย่างที่ฌอนว่าไม่มีผิด”
“หึ ติดใจอะไรมันเหรอถึงได้เข้าข้างกันนัก…ไม่ไปบอกมันให้เป็นแฟนเธอเลยล่ะ มาเสียเวลาแย่งแฟนชาวบ้านทำไม”
“เรื่องของฉัน! ฉันจะทำให้นายเลิกกับแฟนจอมลวงโลกนั่นให้ได้ แล้วนายจะต้องขอบคุณฉัน”
ฉันหวังว่านายจะเป็นคนที่แม่หมอบอกจริงๆนะโทโมะ เพราะคำว่า ผู้ชายคนนั้น ที่ออกมาจากปากของพิม มันทำให้ฉันมั่นใจว่ายัยนั่นไม่ได้รักคนที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับฉันตอนนี้จริงๆ…กล้าพนันกับฉันมั๊ยล่ะ? ยัยนั่นต้องคบเพื่อหวังผลประโยชน์แน่ๆ อย่างน้อยก็ไม่อายใครเพราะมีแฟนหล่อ อย่างมากก็อาจจะหวังปอกลอก จริงสินะ…คบเพื่อนเงิน หึหึ ฉันจะต้องเปิดโปงยัยนั่นให้ได้เลย!
“ไม่ต้องหวังดีกับฉัน…คนที่ฉันเลือกเขาดีมากจนฉันคงไม่เลิกกับเขาง่ายๆ แล้วมาคบกับคนอย่างเธอหรอก”
รู้มั๊ยว่ายิ่งได้ยินโทโมะชมยัยพม่าหน้าตุ๊กตานั่นเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งเกลียดยัยนั่นมากขึ้นทุกที หรือฉันอาจจะอิจฉาอย่างที่โดนว่าจริงๆ กันนะ เหอะ!
“…” ฉันไม่พูดอะไร เพียงแต่จ้องหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมฟังคนอื่นบ้าง อะไรจะรักจะหลงขนาดนั้น คอยดูเถอะ! แล้วนายจะรู้ว่าคนที่นายกำลังพยายามกันไม่ให้ฉันเข้าไปยุ่งนั้นไม่ได้ดีมากมายไปกว่าแก้วใจคนนี้เลย!
ถ้าพูดกันตามตรงฉันก็อยากจะรามือจากเรื่องนี้ แล้วปล่อยให้โทโมะโง่อยู่กับผู้หญิงคนนั้นต่อไปนะ เพราะเขาเอาแต่พูดจาดูถูกฉัน ว่าฉันต่างๆ นานา จนฉันไม่อยากจะช่วยทำให้เขาตาสว่างเลย แต่มันก็ติดที่ว่าถ้าฉันไม่ช่วยเขา ฉันเองก็จะซวยอยู่อย่างนี้เหมือนกัน ไม่เข้าใจจริงๆ ว่ามันไม่มีวิธีแก้ดวงอันอื่นที่ดีและง่ายกว่านี้แล้วหรือไงนะ หรือเพราะดวงตกระยะยาวเลยต้องมาทำเรื่องอะไรบ้าๆ บอๆ ลำบากยากแค้นแบบนี้ ฮึ่ย!
ฉันล้มเลิกความคิดที่จะหนีโทโมะกลับไปที่ริกกี้ เพราะดูท่าทางแล้วเขาคงไม่ปล่อยให้ฉันหนีออกไปง่ายๆ ฉันก็เลยเดินหนีขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์ ในเมื่อเขาอยากอยู่คุมตัวฉันตามคำสั่งพี่ขนมเข่งนักก็เชิญอยู่เฝ้าข้างล่างไปเลย! ฉันขอพักผ่อนสมองก่อนก็แล้วกัน วันนี้มันแต่เรื่องแย่ๆ จนฉันลำดับไม่ถูกแล้วว่าเรื่องไหนมันแย่ที่สุด…
“ขอให้พี่เข่งปลอดภัยด้วยเถอะค่ะ U.U”
หลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียบร้อย ฉันก็มานั่งที่เตียงนอนแล้วยกมือขึ้นมาพนมเพื่อขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง หลายให้ช่วยคุ้มครองพี่ชายของฉัน เขาต้องไม่เป็นอะไร เขาต้องปลอดภัยกลับมาหาน้องสาวคนนี้…เขาเป็นพี่ชายที่ดีและฉันก็ภูมิใจมากที่เป็นน้องสาวของเขา
ฉันเอนหลังลงนอนบนเตียงในที่สุด แต่ฉันก็ไม่ได้หลับหรอก ไม่สบายใจแบบนี้คงยังหลับไม่ลง…นายมันบ้าที่สุดเลยโทโมะ! ไม่ คิดเลยว่าคนอย่างนายจะหลงมารยาหญิงจนหูหนวกตาบอดแล้วก็โงหัวไม่ขึ้นแบบนี้ แค่นี้ก็ดูไม่ออกหรือไงว่าแฟนตัวเองมันเสแสร้งแกล้งตีหน้าซื่อหน้าใสขนาดไหน…
บรึ้นนน~ บรึ้นนน~ บรึ้นนน~
เอี๊ยด!
ความคิดของฉันหยุดลงทันทีพร้อมกับหัวใจของฉันที่เต้นแรงขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่คุ้นหูมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
“พี่เข่ง!” ฉันตะโกนชื่อของพี่ชายสุดที่รักคนเดียวออกมาพลางกระเด้งตัวให้ลุกขึ้นจาก เตียงแล้วรีบวิ่งลงมายังชั้นล่างด้วยความเร็วสูง แต่ก็ต้องเบรกอยู่ตรงหน้าประตูบ้านเพราะโทโมะเดินมาถึงตรงนี้พอดีเหมือนกัน ฉันมองเขาอย่างขัดใจก่อนที่จะรีบชิงเดินนำเขาออกมาจากบ้าน
“พี่เข่ง!!! >O<” ฉันกระโดดกอดคนตัวสูงทันทีที่เขาลงมาจากรถ ให้ตายสิ! ฉันนึกว่าเขาจะไม่รอดกลับมาหาฉันซะแล้ว
“โอยๆ ใจเย็นๆ” เสียงแปล่งของคนที่ฉันกอดอยู่ดังขึ้นก่อนที่จะยกมือขึ้นมากอดตอบแล้วลูบหลัง เบาๆ ฉันเอะใจเล็กน้อยกับน้ำเสียงของเขาและความอุ่นวาบจากมือนั้นที่รู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่เพราะปกติพี่เข่งจะไม่ลูบหลังน่ะสิแต่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรจน กระทั่ง…
“ก็เหี้ยแล้ว!...ไอ้แก้วฉันอยู่ฝั่งนี้เว้ยเฮ้ย!” เสียงตะโกนดังลั่นที่คุ้นหูทำให้ฉันเบิกตาโตและรีบผลักคนที่เพิ่งกระโดดกอดเขาเมื่อกี้ออกทันที พร้อมกับหันไปตามเสียงเรียก
“หวั่นไหวนะฮะ กอดมาแบบไม่ทันตั้งตัวเลยอะ” คนโดนผลักออกเซไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะแกล้งเอ่ยเสียงอายๆ แล้วยกมือขึ้นมาลูบท้ายทอยตัวเองแต่หน้าของเขาไม่ได้อายเหมือนเสียงเลย มันดูเจ้าเล่ห์น่ะสิ!
“ไม่ใช่พี่เข่งทำไมไม่บอก เดี๋ยวปั๊ด! -0-” ฉันกัดฟันกรอดพร้อมกับยกมือขึ้นมากำหมัดขู่เขาทำให้เขื่อนอมยิ้มแบบกลั้น หัวเราะขึ้นมาทันที ผู้ชายหน้าทะเล้นคนนี้มันร้ายกาจชะมัดเลย TTvTT
“พี่เข่ง โฮ~ ดีใจจังที่พี่ปลอดภัย TOT” ฉันรีบจ้ำอ้าวเดินไปอีกฝั่งของรถแล้วโผเข้ากอดพี่ชายตัวจริงของตัวเองทันที เขาเองก็ยกมือขึ้นมาลูบหัวฉันเหมือนอย่างที่เคยทำพร้อมกับส่ายตัวไปมาเบาๆ
“โอ๋ๆ เด็กน้อย >_<”
“แกไม่เป็นอะไรนะ” เสียงนิ่งๆ ของโทโมะเอ่ยถามเพื่อนสนิทพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินมายืนข้างเขื่อน ฉันเหลือบตามองเขาเล็กน้อยแล้วก็เบ้ปากใส่เขา เมื่อเห็นว่าเขาเองก็กำลังหันมามองทางนี้เหมือนกัน
“พี่หนมเข่งไม่เป็นอะไรมากนะครับ” เอ่อ…เขาอาจจะไม่ได้มองฉันก็ได้ เขาคงมองพี่ขนมเข่งมากกว่าสินะ -0-
“จิ๊บๆ เบาๆ ไม่ค่อยเจ็บ ฮ่าๆๆ…เออ! แว่นฉันล่ะ >.<”
“อยู่ในรถครับ แปบนึงนะ” โทโมะชี้นิ้วไปทางรถของเขาที่จอดอยู่ข้างๆ กัน ก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูรถแล้วหยิบแว่นของพี่ชายฉันออกมา
“ไปๆ เข้าไปนั่งคุยกันในบ้านก่อนดีกว่า” พี่ขนมเข่งดันฉันออกจากตัวก่อนที่จะเดินไปรับแว่นคืนมาจากโทโมะแล้วโบกไม้โบกมือไล่ทุกคนเข้าไปในบ้าน
“พรุ่งนี้ค่อยคุยได้มั๊ยครับ ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า” โทโมะถามขึ้น
“กลับหรือรีบไปหาใคร?” พี่ชายฉันทำหน้ารู้ทัน ฉันเองก็คิดเหมือนพี่ขนมเข่งนะ…โทโมะคงยังไม่กลับบ้านหรอก แต่น่าจะแวะไปปรับความเข้าใจกับยัยพม่าน่าไสหัวไปไกลๆ นั่นก่อน ชิ!
“เอ่อ…ก็คงงั้นมั้งครับ” เขาตอบแล้วค้อมหัวลงเล็กน้อย
“งั้นพรุ่งนี้เจอกันก็ได้ ขอบใจแกมากที่ช่วยดูน้องฉันให้ แกด้วยเขื่อนที่ตามคนมาช่วยแล้วก็อาสาเป็นสารถีให้ฉันเนี่ย”
“ยินดีครับ! กลับก่อนล่ะ บ๊ายบายครับพี่หนมเข่ง แก้วใจ” เขื่อนทำท่าตะเบะเหมือนตำรวจก่อนที่จะโบกมือร่ำลาแล้วหันไปทำหน้าอ้อนใส่ เพื่อนของตัวเอง
“ไปส่งฉันด้วยน้า~ >3<”
“อืม” โทโมะพยักหน้าลงเล็กน้อยแล้วเดินนำไปขึ้นรถจากนั้นเขื่อนจึงรีบวิ่งไป นั่งยังที่นั่งข้างคนขับ ไม่นานรถคันที่ฉันนั่งกลับมาบ้านก็แล่นออกไปในที่สุด…รู้มั๊ยว่าโทโมะไม่แม้แต่จะหันมามองฉันเลยสักนิดตอนที่เขายังยืนอยู่เมื่อกี้เขาคงเกลียดฉันมากสินะ
“เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อนนอนนะไอ้น้อง” พี่ขนมเข่งพูดเป็นเชิงบังคับกลายๆ พร้อมกับกอดคอฉันแล้วพาเดินเข้ามาในบ้าน เราสองคนทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาภายในห้องรับแขกบวกนั่งเล่น(ห้องเดิมและห้อง เดียว)
“ไอ้บ้านั่นมันยังไม่ตายใช่มั๊ย”
“แค่กระอัก ตำรวจมาซะก่อนวงก็เลยแตก…นี่ฉันยังกระทืบมันไม่สะใจเลย” พี่ขนมเข่งพูดพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่ยี่หระก่อนที่จะทำหน้าเสียดายเล็กน้อย
“วงแตกก็ดีแล้ว ฉันไม่อยากไปเยี่ยมพี่ที่คุกหรอกนะ -0-” ฉันบ่นอุบพี่ชายฉันนี่ใช้ชีวิตเฉียดคุกเฉียดตารางมาหลาบรอบแล้ว แต่เขาก็เอาตัวรอดมาได้ตลอด
“ก็ฉันมีน้องคนเดียวนี่หว่า ไอ้สารเลวนั่นมันดันสะเออะมาทำร้ายแกก่อนทำไม”
“ถ้าอย่างนั้นพี่คงต้องจัดการโทโมะด้วยอีกคนเพราะหมอนั่น…” ฉันหยุดพูดกระทันหันเมื่อคิดได้ว่าสิ่งที่กำลังจะพูดออกไปมันอาจทำให้พี่ชายฉันไม่พอใจก็เป็นได้
“ไอ้โมะมันทำอะไรเหรอ”
“ก็..”
“ก็อะไรวะ!” พี่ขนมเข่งขมวดคิ้วหนักขึ้นกว่าเดิมด้วยความสงสัย ฉันรู้สึกกระอึกกระอักอย่างบอกไม่ถูกถ้าต้องพูดออกไป
“เขา…เขาจูบฉันน่ะ” ฉันก้มหน้าแล้วพูดออกไปในที่สุด
“เออก็ดี…จะได้ลบๆ รอยปากสกปรกของไอ้ฌอนไปซะ =.,=” นี่เขาไม่โกรธโทโมะเลยอย่างนั้นเหรอ? แถมยังเหมือนจะสนับสนุนด้วย!? นี่มันอะไรกัน ฉันเป็นผู้ถูกกระทำแท้ๆ T^T
“พี่เข่ง!”
“ทำไมล่ะ”
“ไอ้บ้าฌอนไม่ได้ทำแบบนั้นน่ะสิ…”
“ห๊ะ…อ๋อ~ ฉันเข้าใจแล้ว ไอ้โมะขโมยเฟิร์สคิสสินะ ฮ่าๆๆๆๆ กร๊ากๆๆ ” พี่ขนมเข่งทำหน้าถึงบางอ้อพร้อมกับพยักหน้าก่อนที่จะหัวเราะร่วน
“เงียบน่า! ฮึ่ย!”
“แกจะฟึดฟัดทำไมว้า~ ไม่ดีเหรอ บางทีหลังจากนี้ไอ้โมะมันอาจจะติดใจแก แล้วเริ่มสนใจแกขึ้นมาบ้างก็ได้ =.,=”
“ไม่มีทาง เขาเกลียดฉันแล้วฉันก็เกลียดเขาด้วย เขาทำไปเพราะดูถูกแล้วก็เหยียดหยามฉัน หมอนั่นมันนิสัยไม่ดี เขาไม่ต่างอะไรกับไอ้บ้าฌอนนั่นเลย” ฉันพูดอย่างเจ็บแค้น คิดว่าเป็นผู้ชายแล้วจะมารังแกผู้หญิงได้ง่ายๆ แบบนี้หรือไง ฉันแค้นฝังหุ่นนะจะบอกให้! =*=
“เกลียดกันแบบนี้แล้วแกจะแก้ดวงตกยังไงวะเนี่ย มันคงเป็นแฟนแกได้หรอกแบบนี้”
“ไม่รู้ เอาไว้ฉันจะปรึกษายัยฟางอีกที…ยังไงซะถ้าตอนนี้ยังทำให้เขายอมเป็นแฟนฉันไม่ได้ ก็ต้องทำให้เขาเลิกกัยยัยพม่าก่อน จริงสิ! พี่รู้มั๊ยว่าฉันเห็นธาตุแท้ของยัยนั่นแล้ว!” ฉันเบิกตาโตทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ถึงเหตุการณ์ก่อนที่ฌอนจะทำร้ายฉัน
“ธาตุแท้อะไรเหรอ”
“ยัยนั่นมันเสแสร้ง ลวงโลก แล้วก็ตอแหลที่สุด มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียน ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นให้เป็นคนผิด แล้วก็ทำตัวอ่อนแอน่าสงสาร เห็นแล้วมันน่าตบให้จมดินสักหลายล้านรอบ!” ฉันพูดเร็วและรัวจนแทบลืมหายใจ แต่ทำไงได้ ก็ยัยพม่านั่นมันเป็นแบบนั้นจริงๆ นี่ โทโมะก็เป็นผู้ชายที่โง่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย
“อย่างนั้นเหรอ…”
“พี่ไม่เชื่อฉันเหรอ T^T”
“ไม่ใช่ไม่เชื่อแค่ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกัน แล้วแกไปทำอีท่าไหนเขาถึงร้ายใส่น่ะ”
“ก็ไปร้ายใส่ก่อนไง…แต่ ว่านะ ยัยนั่นมันไม่ร้ายธรรมดา แต่มันร้ายสุดๆ ร้ายจนลืมไม่ลง” ฉันพูดแล้วก็นึกถึงสีหน้าเสแสร้งแกล้งบีบน้ำตาของยัยพม่าด้วยความหมั่นไส้
“จริงๆ แล้วน้องฉันก็ร้ายไม่แพ้คนอื่นหรอกนะฉันว่า แล้วใครที่ไหนจะอยู่นิ่งถ้ารู้ว่าจะโดนแย่งแฟนน่ะ”
“พี่เข่งพูดเหมือนไม่เชื่อฉันว่ายัยนั่นมันเป็นคนไม่ดี T^T”
“ไอ้โมะมันชอบคนน่ารัก นิสัยดีๆ แฟนมันก็ต้องดีไม่ใช่เหรอ?”
“ก็หมอนั่นมันโง่ไง!”
“ถ้าพิมไม่ดีอย่างที่แกว่า พูดไปไอ้โมะก็ไม่เชื่อหรอก ต้องมีหลักฐาน…เอางี้ดิ วันหลังแกก็ถ่ายคลิปตอนพิมตบแก หรือไม่ก็อัดเสียงตอนเขาด่าแกมาสิ”
“ตลกน่า! คิดว่าน้ำหน้าอย่างนั้นจะตบคนอย่างแก้วใจได้ง่ายๆ เหรอ…จะว่าไปยัยนั่นคงไม่ได้รักโทโมะจริงๆ หรอกพี่เข่งว่ามั๊ย”
“ก็ดูรักดีนี่ ไม่งั้นเขาจะหวงจนแกบอกว่านิสัยไม่ดีเหรอ”
“นี่สรุปพี่ไม่เชื่อฉันใช่มั๊ย? ใช่สิ! ฉันมันร้ายกาจ นิสัยไม่ดี ขี้อิจฉา ใส่ร้ายคนอื่น ยุแยงแย่งแฟนชาวบ้าน! T^T” ฉันเบ้ปากทันทีเมื่อเห็นว่าพี่ขนมเข่งเอาแต่พูดเหมือนว่าฉันใส่ร้ายยัยพิม พี่ชายฉันก็เหมือนโทโมะไม่มีผิด! พูดอะไรก็ไม่ฟัง
“บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ก็แค่ให้หาหลักฐานเท่านั้น เรื่องอย่างนี้พูดมาลอยๆ ใครจะบ้าเชื่อวะ ไปพูดกับไอ้โมะมันยิ่งไม่เชื่อใหญ่เลย เผลอๆ จะกระโจนเข้ามาบีบคอแกด้วย”
“ก็พูดไปแล้วไงถึงได้โดนจูบจนเจ็บปากอยู่นี่ แถมยังพูดจาต่อว่าดูถูกอีกสาระพัด ฮึ่ย!”
“เอาล่ะๆ จบเรื่องนี้ก่อนดีกว่ามั๊ย ฉันว่าพิมร้ายขนาดไหนก็คงไม่เท่าไอ้ฌอนหรอก นี่ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรของมันกันแน่ถึงได้มาทำร้ายแก…”
“ฉันรู้…หมอนั่นจะปั่นหัวพี่เข่งไง แล้วถ้าพี่มีเรื่องกับมันนะ โทโมะต้องอยู่ข้างพี่แล้วมีเรื่องไปด้วยแน่…ไอ้บ้านั่นมันคิดการใหญ่”
“แล้วแกรู้ได้ไงวะ มันบอกเลยเหรอ?”
“เออดิ…จุดประสงค์ชัดเจน นึกถึงสายตาที่มันมองฉันแล้วขนลุกว่ะ เหมือนจ้องจะข่มขืนฉันอะ”
“มันไม่อยากปล้ำแกเลยมั้ง คากระโปรงรถขนาดนั้นน่ะ คิดจะเล่นท่ายากล่ะมั้งเนี่ย ไอ้ชั่วเอ๊ย -0-”
“พี่เข่งหยุดพูดเลย! =*=” พูดจาล่อแหลมชะมัดเลยพี่ชายฉันเนี่ย ฮึ่ย! แล้วที่นี้ฉันจะทำยังไงล่ะ สมมติถ้าเดินๆ อยู่คนเดียวแล้วจะโดนฉุดไปทำไม่ดีไม่ร้ายหรือเปล่า TOT
“แกเริ่มนะเว้ย”
“จบเถอะตอนนี้…เพราะไปดูดวงกับยัยฟางแท้ๆ เลยดวงฉันถึงได้ตกเนี่ย นี่จิตฉันก็เริ่มจะตกตามไปติดๆ กันแล้วนะ”
“จะว่าไป โดนไอ้ฌอนไล่ปล้ำนี่มันน่าจะเป็นเรื่องซวยจริงๆ แล้วล่ะ” พี่ขนมเข่งพูดติดตลก แต่ฉันตลกไม่ออกเลยสักนิด!
“ชีวิตฉันมันมีซวยไม่จริงด้วยหรือไง”
“ฉันหมายถึงซวยแบบกู้ไม่กลับอะ อย่างโดนหมาวิ่งไล่มันแค่ซอฟต์ๆ อะไรทำนองนั้นไง =.,=” พี่ชายตัวดีพยายามอธิบายให้ฉันเข้าใจ แต่สำหรับฉันไม่ว่าเรื่องไหนมันก็เรียกว่า ซวยสนิท ด้วยกันทั้งนั้น!
“เหอะ!”
------------------------------------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป---------------------------------------------------------
นางเอกโดนทำร้ายตลอดเวลา =___=ผู้ชายเรื่องนี้มัน...เฮ้อ! แต่ละคน 555555
1 ตอน 1 คอมเม้นท์ = 1 กำลังใจดีๆ ที่ส่งให้กันนะคะ :)
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ