Conquerhearts ปฏิบัติการพิชิตหัวใจ
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 19.31 น.
แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559 15.37 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) ความต้องการของฌอน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 5 ความต้องการของฌอน
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ถ้านายไม่อยากเจ็บตัวอีก” ฉันหันไปจ้องหน้าฌอนด้วยแววตาไม่เป็นมิตรทันทีบวกกับไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด
เขากับโทโมะไม่ถูกกันแล้วมาเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ?
“เห็นทีคงจะอยากเจ็บตัวอีกมั้งครับ…เหอะ! วันนั้นฉันก็แค่ไม่ทันตั้งตัว แต่วันนี้…หึหึ ” เขาพูดพร้อมกับกระชากแขนฉันอย่างแรงจนเซถลาหันกลับไปแล้วเขาก็จับแขนอีกข้างของฉันไว้จนได้ทำไมพวกผู้ชายมันถึงได้แรงเยอะแล้วก็บ้าพลังแบบนี้เนี่ย!
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า!>[]<” ฉันพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุมของฌอน แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งบีบแขนฉันแรงขึ้นกว่าเดิม! แถวนี้ก็ไม่มีใครอยู่ช่วยฉันได้เลย เพราะเมื่อกี้ฉันเดินหนียัยพม่าออกมาไกลจากบริเวณผู้คนมาก อีกทั้งตรงนี้ยังมีแสงไฟสลัวๆ เท่านั้น
อ๊ากกก! ทำยังไงดีเนี่ย
“ฉันต้องทำตามที่เธอบอกด้วยเหรอ ฮะๆๆ” เขาถามกลั้วหัวเราะ สายตาเป็นประกายของเขากำลังจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของฉันเหมือนต้องการค้นหา อะไรบางอย่างซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ แต่ฉันเองก็จ้องเขากลับไปเช่นกัน
“นายต้องการอะไร”
“ต้องการปั่นหัวไอ้โมะไง”
ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่มั๊ย?
“โอ๊ย! นาย นี่มันโง่ชะมัดเลย คิดว่าทำอะไรฉันแล้วนายนั่นจะรู้สึกอะไรอย่างนั้นเหรอ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับไอ้บ้านั่นสักหน่อย” นี่ไอ้บ้าฌอนใช้อะไรคิดเนี่ย โทโมะอยากให้ฉันไปพ้นๆ จากชีวิตเขาจะตาย โถ่!
“เธอไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหนเหรอ หึ!”
“จากไหนก็ช่าง…ฉัน ว่านายไปสนใจพิมจะดีกว่านะ เพราะนายคงจะสะใจที่ปั่นหัวโทโมะได้เพราะเรื่องเรื่องยัยนั่นมากกว่าฉัน” ฉันเสนอทางเลือกให้แก่คนตรงหน้า…จะว่าฉันร้ายก็ได้นะ แต่ดีซะอีก ถ้าฌอนแย่งพิมไปจากโทโมะได้ ฉันเองก็ไม่ต้องเหนื่อยอะไรมากในการทำให้สองคนนั้นเลิกกัน…
เพราะมาถึงตอนนี้ฉันก็รู้แล้วว่ายัยพม่าหน้าตุ๊กตาแอ๊บแบ๊วนั่นไม่ใช่คนดีอะไร!
แล้วก็คงไม่ได้ดีไปกว่าฉันสักเท่าไหร่ เหอะๆ
“ฉันชอบยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวมากกว่า…และเธอก็เป็นน้องสาวของคนที่มันเคารพนักหนา จะว่าไปแล้วเนี่ย…พี่ชายเธอเองก็ไม่ชอบฉันเหมือนกันนะ ใช่มั๊ยล่ะ? และใครก็ตามที่ตั้งตัวอยู่ฝั่งเดียวกับศัตรูของฉัน มันก็คือศัตรูของฉันด้วย!”
“นี่นาย…” ฉันยื่นนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ หมอนี่ต้องการใช้ฉันเป็นเครื่องมือในการทำร้ายโทโมะสินะ…และก็ยังใช้เป็นข้อต่อรองกับพี่ขนมเข่งได้ด้วย อย่างเช่นทำให้พี่ชายฉันมาเป็นพวกเดียวกับเขา! ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ โทโมะตกที่นั่งลำบากเลยล่ะ
“ฉันว่าเธอมาเป็นของฉันดีกว่านะ…คนอย่างฉันมันน่าตื่นเต้นกว่าไอ้โมะเยอะเลยเธอไม่คิดอย่างนั้นเหรอ…” ฌอนเอ่ยเสียงเนิบพลางค่อยๆ เลื่อนใบหน้าสวยราวกับผู้หญิงของเขาเข้ามาใกล้ฉันจนตอนนี้หน้าของเราสองคนอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ!
“คิดสิ! คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่านายจะใช้ฉันเป็นข้อต่อรองกับพี่เข่งให้ร่วมมือกับนายทำร้ายโทโมะน่ะ >[]<”
“ฉลาดแฮะ…ฉันว่าเธอนี่สวยดีเหมือนกันนะ…ทั้งสวย ทั้งฉลาด เธอไม่เหมาะกับคนโง่ๆ หยิ่งยะโสอย่างไอ้โมะหรอก ” ฌอนเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากกว่าเดิมจนฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขาที่ปะทะเข้ากับใบหน้าของฉันอย่างแผ่วเบา
ปึก!!!
“แล้วฉันก็ไม่เหมาะกับคนหลงตัวเองแถมยังขี้อิจฉาอย่างนายด้วย!” ฉันใช้โอกาสที่เขากำลังเผลออยู่นั้นกระทืบเท้าเขาไปเต็มแรง
รู้จักแก้วใจน้อยไปซะแล้ว!
“โอ๊ย! ยัยบ้า!” คนเจ็บร้องโวยวายพร้อมกับปล่อยแขนทั้งสองข้างของฉันให้เป็นอิสระ ฉันจึงเตรียมหันหลังจะเดินหนีเขาทันที แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น…
ตุ้บ!!!
“โอ๊ย!!!” จังหวะที่ฉันกำลังจะก้าวเท้าออกไปนั้นแรงกระชากจากฝ่ามือของฌอนที่พุ่งเข้า มายึดไหล่ข้างหนึ่งของฉันเอาไว้ก็ทำให้ฉันเซถลากลับไปแล้วก็หมุนคว้างเมื่อ รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของฉันก็กระแทกเข้ากับฝากระโปรงหน้ารถคันหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ นี้ ความเจ็บจากแรงกระแทกที่กำลังแผ่ไปทั่วร่างกายทำให้เหมือนว่าฉันโดนสะกดให้ ร่างกายหยุดนิ่งไม่ยอมขยับตามที่ต้องการ แล้วสายตาของฉันก็เห็นว่าคนที่ทำให้ฉันมาแปะติดกับฝาประโปรงหน้ารถตอนนี้ กำลังย่างสามขุมเข้ามาใกล้เรื่อยๆ พร้อมกับยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ใบหน้าของเขาหวานน้อยไปกว่าเดิมเลย ฉันบอกเลยนะว่าหมอนี่มันมีนิสัยกับหน้าตาที่ขัดกันสุดฤทธิ์!
อย่ามัวมาชมคนอื่นอยู่เลยยัยแก้วใจ ตะโกนให้ใครช่วย หรือไม่ก็วิ่งหนีไปจากตรงนี้สักทีสิ!!!
ตะโกนอย่างนั้นเหรอ?...มันเจ็บจนพูดไม่ออกเลยตอนนี้!
วิ่งหนีอย่างนั้นเหรอ…จะก้าวขายังก้าวไม่ออก!
“แสบนักนะ” ฌอนเดินเข้ามาประชิดตัวฉันแล้วเอื้อมมือมาล็อกข้อมือฉันทั้งสองข้างให้ตรึง ไว้กับฝากระโปรงรถพร้อมกับตัวเขาที่ค่อยๆ โน้มลงมาใกล้เรื่อยๆ ทำให้ฉันเบือนหน้าหนีทันที
“ปล่อย…ฉัน” ฉันพยายามเปล่งคำพูดออกมาให้ชัดเจนที่สุด แต่ฌอนก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วหัวเราะอยู่ในลำคอเท่านั้น
“…หึ” เขาซุกใบหน้าเข้ามาที่ซอกคอของฉันจากนั้นก็ส่งสัมผัสที่ทำให้ฉันขยะแขยงอย่างบอกไม่ถูก! ปลาย ลิ้นอุ่นของเขากำลังไล้เลียตามซอกคอไปเรื่อยๆ พร้อมกับส่งเสียงครางออกมาเบาๆ อย่างพึงพอใจ ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนคนที่กำลังจะหมดแรงลงเรื่อยๆ ยิ่งพยายามดิ้นและผลักเขาออกไปเท่าไหร่ก็ยิ่งหมดแรง…
พี่เข่ง…ช่วยแก้วด้วย…
“กลัวเหรอ?” ฌอนกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะใช้ลิ้นแตะเบาๆ ที่ติ่งหูของฉันก่อนที่จะไล่ต่ำลงไปยังซอกคอตามเดิม
“ปะ…ปล่อย…” จู่ๆ น้ำตาของฉันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ในหัวของฉันว่างเปล่ายิ่งกว่าห้วงอวกาศด้วยซ้ำ!
“ตัวสั่นขนาดนี้…พี่ชายเธอคงดูแลมาดีสินะ คงยังไม่เคย…”
“เฮ้ย!!!”
พลั่ก!!!
น้ำเสียงอู้อี้ของฌอนแต่ทว่าฉันได้ยินมันชัดเจนถูกขัดขึ้นจากเสียงตะโกนของใคร บางคนที่วิ่งเข้ามาหาเราสองคน และในขณะที่ตาฉันกำลังจะปิดลงนั้นการที่ร่างของฌอนถูกดึงออกไปจากฉันก็เป็นการเรียกสติของฉันกลับมาได้เป็นอย่างดี!
ฉันรอดแล้ว!!! >_<
เขาช่วยฉันเอาไว้…โทโมะ
ฉันเบิกตาโตเมื่อเห็นหน้าของคนที่มาช่วยฉัน ก่อนที่จะค่อยๆ ทรงตัวเองให้ยืนตรงเป็นปกติ ตอนนี้ฌอนกำลังเดินเซไปตามแรงที่โทโมะดึงและผลักเขาออกไปบวกกับหมัดหนักๆ ที่ตามไปติดๆ นั่นคงทำให้เขามึนอยู่ไม่น้อย
“ไอ้เลวเอ๊ย!!!”
พลั่ก!!!
ด้วยความที่ฉันกำลังดีใจที่รอดจากเงื้อมมือของฌอนอยู่นั้น เสียงตะโกนที่สองซึ่งฉันจำเจ้าของเสียงได้ดีก็ดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวที่ วิ่งพุ่งเข้ามาผลักโทโมะออกให้พ้นจากรัศมีของเขาก่อนที่จะปล่อยหมัดเข้าไป ที่ใบหน้าของฌอนซึ่งยังไม่ทันตั้งตัวดีทำให้หมอนั่นเซถลาไปอีกรอบ…
พี่ขนมเข่ง! มาช่วยฉันแล้ว >_<
“เมื่อกี่ที่ฉันผลักแกน่ะ ขอโทษทีนะ…ดีที่มาทันเวลา” พี่ชายคนเก่งของฉันหันไปขอโทษโทโมะตอนนี้ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มของเขาดูขรึมและจริงจังจนเหมือนเป็นคนละคน…เวลาพี่ชายฉันโกรธ เขาก็ดูน่ากลัวแบบนี้แหละ
“ครับ”
“พี่เข่งระวัง!” ฉันตะโกนบอกออกไปทันทีเมื่อเห็นว่าฌอนกำลังเดินกลับมาหาพี่ขนมเข่ง สายตาของเขาที่มองมานั้นมันเหมือนจะถลนออกมาก็ไม่ปาน ที่มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมาเป็นทางยาวจนถึงลำคอ นี่ขนาดโดนไปแค่สองหมัดนะเนี่ย
พลั่ก!!!
“อ๊อก!”
ตุ๊บ!!!
ด้วยความเร็วของพี่ขนมเข่ง เขาจึงเล่นท่าจระเข้ฟาดหางใส่คนที่ประทุร้ายทันทีโดยไม่หันไปดูตำแหน่งของ เป้าหมายเลยสักนิดและจระเข้ก็ฟาดหางเข้าที่กลางลำตัวของฌอนอย่างเต็มรักด้วย ความแม่นยำจนเจ้าตัวลงไปกองอยู่กับพื้น!
“เฮ้ยนั่นมันไอ้ฌอน!” เสียงตะโกนเรียกชื่อของคนกองกับพื้นดังมาจากด้านหนึ่งทำให้ฉัน พี่ขนมเข่ง แล้วก็โทโมะหันไปมองทันทีจึงได้เห็นกลุ่มวัยรุ่นร่วมสิบชีวิตที่น่าจะเป็นเพื่อนของฌอนกำลังวิ่งพากันวิ่งมาทางนี้
“ไอ้โมะ ฝากน้องสาวฉันด้วย…พาไปส่งที่บ้านแล้วแกก็อยู่คุมตัวไว้ที่นั่นจนกว่าฉันจะกลับ! อย่าปล่อยให้หนีออกมาที่นี่เด็ดขาด!!!”
“ครับ” โทโมะพยักหน้าลงพร้อมกับรับคำด้วยใบหน้านิ่งๆ ที่ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่ แต่ฉันนี่สิ…
“ไม่นะพี่เข่ง! จะกลับก็กลับด้วยกันสิ พี่อยากโดนไอ้พวกนั้นกระทืบตายหรือไง!!!” ฉันพูดพร้อมกับพุ่งเข้าไปประชิดตัวพี่ชายแล้วกระชับมือของเขาเอาไว้แน่น แต่แล้วก็ถูกเขาสะบัดออกจนได้
“แกคิดว่าฉันกลัวไอ้พวกนั้นเหรอวะ…ไอ้คนชั่วๆ มันต้องได้รับการสั่งสอน หึ!” พี่ขนมเข่งหันมาพูดกับฉันก่อนที่จะประโยคสุดท้ายจะปรายตาไปมองฌอนที่กำลังพยายามจะลุกขึ้นมาจากพื้น
“พี่ไม่กลับฉันก็ไม่กลับ!” ฉันยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเองด้วยเสียงแข็งกร้าว เรื่องอะไรฉันจะปล่อยให้พี่ชายตัวเองสู้อยู่คนเดียวแล้วตัวเองหนีกลับบ้านอย่างปลอดภัยล่ะ
“แกมันดื้ออย่างนี้ไง…ไอ้โมะ! เอาแว่นฉันกลับไปด้วย…แล้วก็พาไอ้แก้วออกไปเดี๋ยวนี้เลย! ไปสิวะ!” พี่ขนมเข่งถอดแว่นแล้วส่งให้โทโมะ พร้อมกับชี้นิ้วมาที่ฉัน
“ไม่กลับ!!!” สิ้นประโยคคำสั่งจากพี่ชายของฉันโทโมะก็เข้ามาคว้าข้อมือของฉันเอาไว้แน่น ฉันพยายามแกะออกเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
“อย่าลืมที่ฉันสั่ง”
“ครับพี่หนมเข่ง” โทโมะพยักหน้าลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะออกแรงลากให้ฉันเดินตามออกมาจาตรงนั้น…เรื่องอะไรฉันจะกลับล่ะ!
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”
“…” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากคนที่เดินจ้ำอ้าวอยู่ข้างหน้าอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“นี่นายไม่เป็นห่วงพี่ชายฉันบ้างหรือไง เขามีบุญคุณกับนายนะโทโมะ! นายทำอย่างนี้ได้ยังไง ทิ้งเขาไว้แบบนั้นได้ยังไง!?” ฉันตะโกนออกไปไม่หยุด หวังว่าเขาจะหยุดเดินแล้วหันกลับมาบ้างเพราะว่าฉันยิ่งพยายามไม่เดินตามเขา และต้านทานแรงดึงเท่าไหร่เขาก็จะออกแรงมากกว่าเดิมจนดูเหมือนตัวฉันจะเบามาก สำหรับเขาที่ไม่ว่าจะฉุด กระชาก หรือลากถูก็ทำได้อย่างสบายๆ
“หุบปากซะยัยบ้า!” เขาตะโกนตอบกลับมา ใช่สิ…พี่ขนมเข่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของฉันนี่ ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ของเขา เขาจะมาสนใจอะไรล่ะ!
“เกิดอะไรขึ้นวะไอ้โมะ!” ฉันมัวแต่ต่อว่าโทโมะอยู่ในใจ รู้ตัวอีกทีเขาก็ลากฉันมาหยุดอยู่ที่กลุ่มเพื่อนของเขาแล้ว เขื่อนถามด้วยเสียงตกใจก่อนที่จะหันมามองหน้าฉันอย่างงุนงง แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเขามากนักหรอก เพราะตอนนี้สายตาของฉันกำลังหันไปมองใครบางคนที่กำลังจ้องฉันด้วยสายตาไม่ ไว้วางใจ…พิม ใช่แล้วล่ะ ยัยนั่นกำลังมองมาที่ฉันอย่างคนหวงของ! แน่ล่ะ ก็ตอนนี้โทโมะจับข้อมือฉันไว้ไม่ปล่อยเลยนี่
“แกรีบไปตามเพื่อนพี่เข่งแล้วไปช่วยเขาทางด้านหลังโน่นเร็วเข้า” โทโมะตอบกลับเสียงเย็น
“ห๊ะ!” เขื่อนยกมือขึ้นมาเกาหัวทันทีด้วยความไม่เข้าใจ
“ไม่ห๊ะแล้ว ไปสิวะ!”
“เออๆ เกิดเรื่องสินะ!” คนโดนสั่งพยักหน้ารัวก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปด้วยสีหน้าเหลอหลา
“พี่หนมเข่งมีเรื่องกับใคร” ป๊อปปี้เอ่ยถามขึ้นทันทีที่เขื่อนวิ่งออกไปหลังจากที่เขายืนฟังอยู่เงียบๆ นิ่งๆ เหมือนบุคลิกของเขาที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าระหว่างโทโมะกับป๊อปปี้ใครนิ่งกว่ากัน
“ไอ้ฌอน”
“ไอ้บ้านั่นก่อเรื่องอีกแล้วเหรอ” คนที่ได้คำตอบแล้วเลิกคิ้วสูงทันที
“อืม…วานแกไปส่งพิมที่หอหน่อยนะ ฉันมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ” โทโมะตอบป๊อปปี้ก่อนที่เหลือบมองฉันด้วยหางตา…หมอนี่มันดูหยิ่งยะโสอย่างว่าจริงๆ นั่นแหละ
“ทำไม โมะไปส่งพิมไม่ได้คะ แล้วเรื่องสำคัญที่ว่ามันเรื่องอะไร” พิมถามขึ้นอย่างขัดใจ สีหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อกี้
“คือผม…” คนโดนถามถึงกับทำเสียงอ่อนอึกอักทันที ฉันจึงฉวยโอกาสที่เขาอาลัยอาวรณ์กันอยู่นี้บิดข้อมือออกจากพันธนาการของโทโมะแล้ววิ่งหนีเขาออกมาทันที ฉันวิ่งกลับมาตามทางเดิมที่โดนเขาลากมาเมื่อกี้…พี่เข่งกำลงตกอยู่ในวงล้อมอันตราย! ฉันกลับไปต้องช่วยพี่ชายฉัน!!!
“ยัยบ้าเอ๊ย!” โทโมะสบถดังลั่นพร้อมกับวิ่งตามฉันมาแล้วคว้าตัวฉันไว้จนได้ คราวนี้เขาไม่ได้จับข้อมือฉันไว้ แต่แบกฉันขึ้นพาดไหล่เขาน่ะสิ!
“ปล่อยช้านนน~”
“เธออย่าทำอะไรงี่เง่าสิ้นคิดได้มั๊ยยัยโง่!”
“นายนั่นแหละที่เป็นไอ้โง่!”
“…”
“ไอ้โง่ๆๆ…ไอ้โง่! ปล่อยฉันไปช่วยพี่เข่งเดี๋ยวนี้นะ!>[]<” ฉันพยายามเอามือทุบตีไปที่แผ่นหลังของเขาแต่ดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย อีกทั้งยังเดินแบกฉันกลับมาหาป๊อปปี้แล้วก็ยัยพม่าจอมเสแสร้งด้วยความรวดเร็ว…ความจริงก็ไม่เร็วหรอก แต่ฉันยังวิ่งไม่ทันถึงไหนก็โดนจับตัวได้แล้วน่ะสิ! TTvTT
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะโมะ” พิมถามขึ้นทันทีที่เรากลับมาถึง ฉันไม่เห็นสีหน้าของเธอหรอกนะเพราะโทโมะยังคงไม่ยอมปล่อยฉันลง
“เอาเป็นว่าพิมกลับไปกับไอ้ป๊อปนะ แล้วผมจะเล่าให้นะครับ”
“แต่…”
"นะครับคนดี”
คนดี!? ฉันขอคัดค้านคำตัดสินของศาลและให้พิจารณาจำเลยใหม่อย่างถี่ถ้วน!!!
“ฉันจะอ้วกใส่หลังนายอยู่แล้วนะ ปล่อยฉันลงสักทีสิ!” ฉันบ่นขึ้นด้วยความหมั่นไส้ นี่ขนาดได้ยินแค่เสียงนะเนี่ย ถ้าเห็นหน้าสองคนนี้ด้วยฉันคงปวดอึอยากเข้าห้องน้ำ!
“แกรีบไปเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งพิมให้” เสียงป๊อปปี้เอ่ยขึ้นเพื่อตัดบทสนทนา แล้วฉันก็ไม่ได้ยินเสียงของใครพูดขึ้นมาอีกเลย คิดว่าคงใช้สัญลักษณ์ทางหน้าตกลงกันตามประสาคนนิ่งล่ะมั้ง เพราะตอนนี้โทโมะกำลังเดินออกมาจากตรงนั้นแล้ว และจังหวะที่เขาเดินพ้นสองคนนั้นมา ฉันจึงเงยหน้าขึ้นทำให้เห็นว่าป๊อปปี้กำลังใช้นิ้วสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์ไปมาก่อนที่จะยกขึ้นแนบหู เขาคงโทรหาใครสักคนนั่นแหละ ส่วนพิมนี่ก็จ้องฉันตาเขียว ด้วยความที่อัธยาสัยค่อนข้างดี ฉันก็เลยยิ้มหวานให้เธอพร้อมกับชูสองนิ้วให้ ฮิฮิ สะใจชะมัด!
โทโมะแบกฉันมาเรื่อยๆ จนมาถึงรถก่อนที่เขาจะเปิดประตูออกแล้วจับฉันยัดลงนั่งที่เบาะข้างคนขับด้วยความรวดเร็วและรุนแรงไร้ซึ่งความปราณีที่ผู้ชายควรมีต่อผู้หญิง TOT
โป๊ก!
“โอ๊ย! มันเจ็บนะ!” ฉันร้องโวยขึ้น เพราะเมื่อกี้หัวของฉันกระแทกกับรถเล็กน้อยจังหวะที่เขาเอาฉันลงจากบ่า
“เหรอ…อืม”
ปัง!
โทโมะเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจก่อนที่เขาจะปิดประตูใส่หน้าฉันอย่างแรงและเพียงไม่กี่วินาทีเขาก็เข้ามานั่งอยู่ในรถตรงตำแหน่งคนขับข้างๆ กับฉันแล้วสตาร์ทรถทันที เสียงเครื่องยนต์ที่ถูกแต่งเพื่อใช้ในการแข่งรถดังกระหึ่มขึ้นเพียงไม่นานรถ ก็เคลื่อนตัวออกจากริกกี้เวย์อย่างรวดเร็วเหมือนเหาะได้! ฉันรีบดึงเบลท์มาคาดทันทีด้วยความหวาดเสียว ความจริงฉันก็ชินกับความเร็วแบบนี้นะ เพราะพี่ขนมเข่งก็ขับแบบนี้ประจำ แต่เพราะฉันเพิ่งเคยนั่งกับโทโมะล่ะมั้งเลยรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เมื่อกี้ตอนที่เขายังไม่ขึ้นรถ ฉันน่าจะรีบเปิดประตูแล้ววิ่งหนีกลับไปช่วยพี่ขนมเข่ง…
เฮ้อ! ก็ตอนนั้นมัวแต่เจ็บหัวอยู่เลยไม่ทันคิดน่ะสิ TTvTT
ครึ่งชั่วโมงต่อมา…
“เอากุญแจบ้านเธอมาให้ฉัน” โทโมะบอกเสียงนิ่งพร้อมกับแบมือมาตรงหน้าฉัน
ตอนนี้เขาขับรถพาฉันมาถึงหน้าบ้านแล้วล่ะ TOT แต่ฝันไปเถอะว่าฉันจะให้กุญแจกับนายน่ะ ฉันไม่ให้นายพาฉันเข้าไปกักขังไว้ในบ้านหรอกย่ะ! พาฉันกลับไปหาพี่ชายเดี๋ยวนี้นะไอ้คนเย็นชา! โฮกกก~
“ไม่!...นายพาฉันกลับไปริกกี้เดี๋ยวนี้นะ -0-”
“จะเอากุญแจมาให้ฉันดีๆ หรือจะลงไปเปิดเอง”
“ไม่ทำอะไรทั้งนั้น!”
“ตามใจ” เขายักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่จะเปิดประตูแล้วลงไปจากรถ จากนั้นสิ่งที่เขาทำต่อมามันทำให้ฉันมองจนตาเกือบจะถลนออกมานอกเบ้า!
โทโมะเดินไปหยุดอยู่ที่รั้วดอกไม้สีขาวที่สูงขึ้นมาจากพื้นประมาณหนึ่งฟุตซึ่ง อยู่ริมกำแพงบ้าน ก่อนที่เขาจะดึงรั้วท่อนที่อยู่ช่วงแรกขึ้นมาจากดินแล้วนำขึ้นมาชูไว้ตรงหน้า ตอนนี้มีเชือกที่ใช้ผูกเชื่อมระหว่างฐานของรั้วส่วนที่จมอยู่ในดินกับกล่อง พลาสติกสี่เหลี่ยมใบเล็กๆ กำลังห้อยต่องแต่งอยู่ตรงหน้าของเขา โทโมะฉีกยิ้มกว้างอย่างผู้ชนะ แล้วหันมายักคิ้วเยาะเย้ยฉัน!
เขารู้ที่ซ่อนกุญแจบ้านของฉันได้ยังไง!?
หรือว่า…ไอ้พี่เข่งเฮงซวย! ไปบอกคนอื่นทำไมว่าซ่อนกุญแจเอาไว้ที่ไหน อย่างนี้ถ้าโจรรู้ก็สามารถไขประตูเข้ามาปล้นบ้านได้แบบชิวๆ เลยสิ! ไอ้พี่บ้าเอ๊ย! ป่านนี้ไม่รู้ยังมีแรงสู้ไหวหรือเปล่าเนี่ย T^T
ฉันนั่งเซ็งอยู่ในรถมองารกระทำของโทโมะอย่างไม่ชอบใจ เขาเอากุญแจบ้านออกมาจากกล่อง แล้วนำกล่องฝังกลับลงไปในดินเหมือนเดิมแล้วเอารั้วเสียบไว้ทุกอย่างเป็นได้ ด้วยความเรียบร้อยเหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้ทั้งกุญแจรั้วและกุญแจบ้านอยูในมือของโทโมะแล้ว ย้ากก! TTvTT
บรึ้นนน!~ เอี๊ยด!
โทโมะเปิดประตูรั้วเองเสร็จสรรพ แล้วกลับมาขับรถเข้าไปจอดในโรงจอดรถตามอำเภอใจ เสียงเครื่องยนต์ดับลงไปได้สักพักแล้วล่ะ เจ้าของรถก็ลงไปไขประตูบ้านเปิดเข้าไปแล้วด้วย แต่เจ้าของบ้านอย่างฉันยังคงนั่งอยู่ในรถตามเดิม…จนโทโมะเดินกลับออกมาจากบ้านด้วยความสงสัย
“จะ นั่งอยู่ในนี้จนเช้าเลยมั๊ย” โทโมะเปิดประตูรถฝั่งฉันออกแล้วยกมือขึ้นกอดอกถาม สีหน้าของเขาดูจะยุ่งๆ เหมือนรำคาญฉันประมาณนั้นแหละ
“เรื่องของฉัน!” ฉันเชิดหน้าขึ้นเผชิญหน้ากับเขาด้วยความไม่พอใจ
“แต่นี่มันรถฉัน”
“แล้วไงห๊ะ!? ทีบ้านฉันนายยังเปิดประตูเข้าไปเองตามใจเลย”
“ฉันไม่อนุญาตให้เธอนั่งในนี้จนถึงเช้า…ลง มาได้แล้ว” เขาทำหน้าไม่สนใจที่ฉันพูดแล้วเอ่ยเสียงเรียบตามแบบฉบับของตัวเอง ก่อนที่จะโน้มตัวเข้ามาปลดเบลท์ออกแล้วอุ้มฉันออกมาจากรถทันทีแล้วใช้แผ่น หลังของตัวเองดันประตูรถให้ปิดลง…ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว เร็วจนฉันไม่ทัน…
“เฮ้ย! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ!O[]O”
ตุ๊บ!!!
“ปล่อยแล้ว” โทโมะทุ่มฉันลงบนโซฟาอย่างไม่ยั้งมือจนฉันถึงกับจุก! วันนี้ฉันโดนทำร้ายตลอดเลยนะ ทำไมมันซวยอย่างนี้เนี่ย! (<ไปถามหมอดูสิ)
“ไอ้บ้าเอ๊ย!”
“…” เขาทำหน้าตายพลางเดินไปล็อกประตูบ้าน แล้วกลับมานั่งลงที่โซฟาตัวเล็กใกล้ๆ กับฉันพร้อมกับจ้องหน้าฉันนิ่ง
“ล็อกประตูทำไม พี่เข่งกลับมาจะเข้ายังไงล่ะ =.,=” ฉันแกล้งพูดพลางลุกขึ้นเนียนๆ จะเดินไปเปิดประตู…แล้วฉันก็จะวิ่งออกจากบ้านเรียกแท็กซี่ไปที่ริกกี้น่ะสิ! ฮูเร่~ >O<
หมับ~
ตุ๊บ!
“ฉันคงไม่ต้องถึงกับมัดเธอไว้ใช้มั๊ย…คิดว่าไม่รู้เหรอว่าเธอจะกลับไปริกกี้น่ะ” โทโมะเอื้อมมือมาคว้าตัวฉันเอาไว้แล้วเหวี่ยงกลับไปยังโซฟาตามเดิม
เจ็บนะเฮ้ย!
“บ้า จริง” ฉันสบถเบาๆ อย่างหัวเสียแล้วเอามือลูบหลังไปมา พลางในหัวก็กำลังคิดว่าจะหลอกโทโมะยังไงให้เขาเผลอแล้วฉันถึงหนีออกไปได้ หมอนี่มันเหมือนผีดิบหน้าตาย! แถมยังบ้าพลังด้วย ถ้าฉันเป็นแฟนกับเขามันจะทำให้ฉันหายดวงตกได้อย่างนั้นจริงๆ น่ะเหรอ?
เอะอะก็เหวี่ยง…เอะอะจับทุ่มเนี่ยนะ?
บรึ๋ย~
------------------------------------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป---------------------------------------------------------
1 ตอน 1 คอมเม้นท์ = 1 กำลังใจดีๆ ที่ส่งให้กันนะคะ :)
สงสารแก้วใจ เหมือนกันนะเนี่ย ดวงตกไม่พอ ต้องมาโดนจ้องข่มขื่นอีก =_= เมื่อไหร่โทโมะจะเห็นใจ หึหึ แต่ท่าจะยากนะ...เจ้าที่อย่างพิมแรงซะ!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ