รักร้ายหักสวาท ปฐมบท
8.3
เขียนโดย RosenLa
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.47 น.
57 chapter
69 วิจารณ์
64.61K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 21.47 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
6) รักแรกพบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"เธอคงไม่อยากจะหมั้นกับชั้นใช่ไม"
ป๊อปปี้พูด ทำให้ฟางที่ทำเค้กอยู่เงยหน้าขึ้นมา
"ใช่"
ฟางพูดพลางก้มทำต่อ
"ชั้นก็รู้อยู่แล้วว่าเธอทรมานแค่ใหนที่ต้องหมั้นต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักชั้นจึงอยากจะขอ..ให้เราแต่งงานกันได้1ปีจากนั้นค่อยเลิกจะได้ไม"
ป๊อปปี้พูดทำให้ฟางชะงัก
"ทำไมล่ะ ในเมื่อนายก็ไม่ได้รักชั้นทำไมเราต้องแต่งงานต้องเสียเวลาด้วยแค่เรายกเลิกงานแต่งบ้าๆนี้ไปมันจะไม่ดีกว่าหรอ"
ฟางพูดตามความจริงก่อนที่ป๊อปปี้จะส่ายหน้า
"นี้เธอคงยังไม่รู้สิน่ะ"
ป๊อปปี้พูด ฟางทำหน้าสงสัย
"ยังไม่รู้..ไม่รู้อะไร"
"ก็พ่อกับแม่ชั้นจับเธอกับชั้นแต่งงานกันเพราะอยากให้ธุรกิจทั้งสองครอบครัวมีฐานะที่ดีขึ้นกว่าเดิมถ้าเธอไม่แต่งหรือชั้นไม่แต่งเรื่องงานหมั้นที่ประกาศไปตั้งแต่เราสองคนยังเด็กก็มีสิทธิถูกนินทาได้และมันจะส่งผลเสียต่อกิจการทั้งสองครอบครัวอย่างรุนแรงเพราะไม่มีความเชื่อถือในด้านสัญญา"
ป๊อปปี้อธิบายทำเอาฟางแทบช็อค
"ชั้นไม่รู้มาก่อนเลยน่ะว่ามันมีผลแบบนี้ด้วย"
"ก็เธอมัวแต่ทำขนมเค้ก มันแต่อยู่ในครัว มันจะไปรู้อะไร"
ป๊อปปี้แหย่ฟางทำให้ฟางชะงัก 'จริงสิน่ะเรามัวแต่ทำแต่งานของเราเลยไม่รู้ว่ากิจการของคุณพ่อเป็นอย่างไร'
"ก็ได้ ชั้นตกลงภายใน1ปีเท่านั้นน่ะ"
ฟางพูดก่อนจะเอาขนมเค้กเข้าไปอบในตู้
"ถึงตอนนั้นเธอก็หลงรักเข้าเต็มเปาแล้วล่ะ"
ป๊อปปี้พูดเบาๆแล้วเดินออกไป
"ไม่มีวันซ่ะหรอกชั้นจะไม่มีวันรักผู้ชายที่พ่อแม่หาให้เด็ดขาด!"
ฟางพูดก่อนจะสลัดความคิดแล้วตั้งสมาธิทำเค้กต่อ
3 ชั่วโมงผ่านมา
"เค้กเสร็จแล้วค่ะ"
ฟางพูดพลางเดินถือเค้กไปที่โต๊ะอาหาร
"น่าอร่อยจังเป็นรสช็อกโกแล็กซ่ะด้วย ตาป๊อปชอบค่ะ"
แม่ป๊อปปี้พูด ฟางเหลียบมองป๊อปปี้ที่ป๊อปปี้จ้องมองแต่ฟาง
"ตาป๊อป ตาป๊อป"
แม่ป๊อปปี้เขย่าตัวก่อนที่ป๊อปปี้จะตื่นจากผวังทำเอาทุกคนหัวเราะ
"จ้องหนูฟางอยู่นั้นแหละ 55"
แม่ป๊อปปี้แซวทำให้ป๊อปปี้หน้าแดงแล้วลุกขึ้น
"ผมไปเคลียงานที่ห้องหนังสือก่อนน่ะครับถึงมื้อเย็นแล้วผมจะลงมา"
ป๊อปปี้รีบเดินออกไป
"ตาป๊อปนี้เขินน่ารักจังน่ะค่ะ คิกคิก"
แม่ฟางพูด
"เอ่อ..หนูฟางจ๊ะคือแม่อยากให้หนูเอาเค้กไปให้ตาป๊อปหน่อยจ๊ะ"
แม่ป๊อปปี้พูด
"ค่ะ คุณป้า"
"ไม่ต้องเรียกคุณป้าหรอกจ๊ะ เรียกแม่เหอะ"
"นี้คุณ ออกตัวแรงเกินไปรึป่าวเนี้ยงั้นหนูก็เรียกลุงว่าพ่อด้วยน่ะ"
เสียงหัวเราะดังขึ้นก่อนที่ฟางจะยกเอาขนมเค้กเดินไปที่ห้องหนังสือ
'ก๊อกๆ'
"เข้ามาเลยครับ"
เสียงป๊อปปี้ดังขึ้นก่อนที่ฟางจะเปิดประตูเข้ามาหาคนตัวสูงที่นั่งทำงานอยู่
"ชั้นเอาเค้กมาให้ค่ะ"
ฟางเดินมาใกล้ๆก่อนจะวางเค้กลง
"ชั้นจะตายไมเนี้ย"
ป๊อปปี้พูดแกล้ง
"งั้นอยากตายไมล่ะค่ะชั้นจะได้ไปเอายาพิษมาเทใส่"
ฟางพูด
"ถ้าชั้นตายชั้นจะเอาเธอไปอยู่ด้วย"
ป๊อปปี้พูดขู่ก่อนจะตักเค้กเข้าปาก
"ก็อร่อยดี"
ป๊อปปี้พูดก่อนจะตักคำแล้วคำเล่าเข้าปาก
"คุณ! ค่อยๆกินก็ได้เห็นไมเลอะหมดแล้ว"
ฟางมองป๊อปปี้ที่กินเลอะเทอะก่อนจะเดินไปหยิบทิชชู่มาเช็ดปากคนตรงหน้า
'ตึก ตัก ตึก ตัก'
เสียงหัวใจของป๊อปปี้เต้นแรงพลางจู่ๆก็หน้าแดง
"คุณ..เป็นอะไรรึป่าวทำไมหน้าแดง"
ฟางพูดก่อนจะเอาหลังฝ่ามือไปทับกับหน้าผากป๊อปปี้
"ปะ..ป่าว..เสร็จแล้วใช่ไม ออกไปเถอะชั้นจะทำงาน"
ป๊อปปี้พูดกุกกักก่อนจะก้มลงทำทีเซ็นเอกสารฟางมองซักพักก่อนจะเดินออกไป
"ยัยบ้า เพราะเธอนั้นแหละ"
ป๊อปปี้พูดก่อนจะนั่งมองไปที่เค้ก
"ทำไมกันน่ะ ทำไมชั้นรู้สีกว่าชั้นเคยรักเธอมาก่อน"
ณ โรงดนตรีไทย
"สวัสดีขอรับท่านชายภานุ"
เจ้าของโรงดนตรีไทยพูดต้อนรับภานุ
"สวัสดีขอรับท่านครู..งานไปด้วยดีน่ะขอรับ"
ภานุพูดก่อนจะมองไปรอบๆ
"ขอรับอีกประเดี่ยวจะมีการแสดงระนาดแล้วขอรับขอเชิญท่านชายไปประทับด้านหน้าก่อนน่ะขอรับ"
ผู้หญิงมากหน้าหลายตาต่างจ้องมองมาที่ภานุด้วยความสนใจก่อนที่ภานุจะนั่งลงที่โซฟาซึ่งเป็นด้านหน้าของเวที
'พรึ่บ'
ไฟทุกดวงในโรงดับลงก่อนจะฉ่ายไปที่หญิงสาวผมยาวในชุดไทยสีน้ำตาล
เสียงระนาดดังขึ้นอย่างไพเราะรอบล้อมไปด้วยคนฟังนับร้อย ภานุจ้องมองไปที่หญิงสาวโดยไม่วางตาเพราะด้วยเสียงที่ไพเราะจับใจทำให้ร่างกายหยุดนิ่ง เพลงทำเนินไปประมาณ20นาทีก่อนที่เสียงดนตรีจะจบลงด้วยความตราตรึงใจในเสียงเพลง
'แปะๆๆๆๆ'
เสียงปรบมือดังขึ้นเป็นจำนวนมากหญิงสาวลุกขึ้นแล้วเดินออกจากเวที
"ผู้หญิงผู้นั้น..เป็นผู้ใดกันน่ะ"
ภานุพูด
"เจ้าเล่นได้ไพเราะมากๆเลยเฟื่องฟ้า"
เพื่อนๆต่างชื่นชมในการเล่นระนาดของหญิงสาว
"ข้าเล่นไม่เก่งเท่าใดดอกแค่ฝึกฝนให้ชำนาญก็เล่นได้พอฟัง"
"มิจริงดอก เจ้ารู้รึไม่ว่าวันนี้มีท่านชายจากวังนฤบดีมางานวันนี้ด้วย"
"วังนฤบดี.."
"ใช่..เห็นว่าชื่อ..ชื่ออะไรน่าาาา"
"ข้ามิอยากรู้ดอก...ข้าไปเก็บดอกแก้วก่อนซักพักจักนำมาถวายพระครูที่ช่วยให้เราได้จัดงานอย่างราบรื่น"
เฟื่องฟ้าพูดก่อนจะเดินออกไปทางหลังโรง
"ท่านชายจักกลับเลยรึไม่ขอรับ"
เจ้าของโรงพูดก่อนจะเดินตามหลังภานุออกมา
"คงยังดอกข้าว่าจักไปคุยธุระทางตึกโน้นก่อนซักพักจักกลับ"
"ขอรับ"
ภานุเดินลัดมาทางสวนดอกไม้เพื่อไปคุยงานที่ตึกใหญ่ถัดมาจากโรงดนตรี
"มีใครอยู่ข้างล่างรึไม่"
เสียงหญิงสาวดังมาจากบนต้นไม้ก่อนที่ภานุจะเงยหน้าขึ้นไปก็ถึงกับผงะ
"เจ้าขึ้นไปทำอะไรบนนั้น"
ภานุมองก่อนจะขำนิด
"ข้า..ข้าขึ้นมาเก็บดอกแก้วแล้วลงมิได้..ท่านได้โปรดช่วยข้าที"
หญิงสาวพูด ภานุเดินมาดูใกล้ๆก็หมดความอดทนที่จะกลั้นขำ
"ฮ่าๆๆ"
"เจ้าหัวเราะอะไร"
"ก็เจ้าน่ะสิ ฮ่าๆ คนรึลิงกันแน่"
ภานุหัวเราะทำให้อีกฝ่ายถึงกับหน้าหงิก
"หากมิคิดจะช่วยก็จงไปซ่ะมิต้องมาหัวเราะเยาะข้า"
ภานุยังคงหัวเราะต่อไปจนหญิงสาวทนไม่ไหวกระโดดลงจากต้นไม้ทันที
'เห้ย!!'
'ตุ้บ'
หญิงสาวหลับตาปี๋ด้วยความกลัวก่อนจะรู้สึกถึงร่างกายกำยำของใครบางคน
"นี้! ลืมตาสิเจ้ายังมิตายดอก"
ภานุสั่งเมื่อกำลังนอนกอดหญิงสาวอยู่ หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะตรงเข้ากับสายตาของร่างสูง
"เอ่อ...เจ้าลุกขึ้นก่อนได้รึไมข้าหนัก"
ภานุพูดก่อนที่หญิงสาวจะรีบลุกขึ้นทันที
"ข้า..ขอบน้ำใจท่าน..ที่ช่วยข้าใว้"
หญิงสาวพูดพลางเหลียบมองนิดๆ
"ขืนข้ามิช่วยเจ้าใว้เจ้าโดดลงมาเช่นนี้เดี่ยวก็ได้แขนขาหักกันพอดี"
ภานุพูดแล้วเอามือไปไขว้หลังทั้งสองข้าง
"ข้าคือท่านชาย ภานุ นฤบดี แล้วเจ้าล่ะ"
ภานุถามก่อนที่อีกฝ่ายจะเงยหน้าตอบ
"ฟะ..เฟื่องฟ้า..เพค่ะ"
เฟื่องฟ้าตอบแล้วลงท้ายด้วยคำศัพท์เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นถึงท่านชาย
"ข้าไปก่อนน่ะเพค่ะ"
เฟื่องฟ้าพูดก่อนจะรีบวิ่งออกไปทำเอาชายหนุ่มชะงัก
"เดี่ยว! เดี่ยวสิ เฟื่องฟ้า.."
ภานุตะโกนเรียกแต่ก็ไม่ทันก่อนจะเดินกลับไปตามเส้นทางแล้วคิดถึงผู้หญิงคนนั้นอย่างเต็มใจ
มาแล้ววววววววว อีกตอนจะลงประมาณค่ำๆน่าาาาา ติดตามกันด้วยน่ะ
ป๊อปปี้พูด ทำให้ฟางที่ทำเค้กอยู่เงยหน้าขึ้นมา
"ใช่"
ฟางพูดพลางก้มทำต่อ
"ชั้นก็รู้อยู่แล้วว่าเธอทรมานแค่ใหนที่ต้องหมั้นต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักชั้นจึงอยากจะขอ..ให้เราแต่งงานกันได้1ปีจากนั้นค่อยเลิกจะได้ไม"
ป๊อปปี้พูดทำให้ฟางชะงัก
"ทำไมล่ะ ในเมื่อนายก็ไม่ได้รักชั้นทำไมเราต้องแต่งงานต้องเสียเวลาด้วยแค่เรายกเลิกงานแต่งบ้าๆนี้ไปมันจะไม่ดีกว่าหรอ"
ฟางพูดตามความจริงก่อนที่ป๊อปปี้จะส่ายหน้า
"นี้เธอคงยังไม่รู้สิน่ะ"
ป๊อปปี้พูด ฟางทำหน้าสงสัย
"ยังไม่รู้..ไม่รู้อะไร"
"ก็พ่อกับแม่ชั้นจับเธอกับชั้นแต่งงานกันเพราะอยากให้ธุรกิจทั้งสองครอบครัวมีฐานะที่ดีขึ้นกว่าเดิมถ้าเธอไม่แต่งหรือชั้นไม่แต่งเรื่องงานหมั้นที่ประกาศไปตั้งแต่เราสองคนยังเด็กก็มีสิทธิถูกนินทาได้และมันจะส่งผลเสียต่อกิจการทั้งสองครอบครัวอย่างรุนแรงเพราะไม่มีความเชื่อถือในด้านสัญญา"
ป๊อปปี้อธิบายทำเอาฟางแทบช็อค
"ชั้นไม่รู้มาก่อนเลยน่ะว่ามันมีผลแบบนี้ด้วย"
"ก็เธอมัวแต่ทำขนมเค้ก มันแต่อยู่ในครัว มันจะไปรู้อะไร"
ป๊อปปี้แหย่ฟางทำให้ฟางชะงัก 'จริงสิน่ะเรามัวแต่ทำแต่งานของเราเลยไม่รู้ว่ากิจการของคุณพ่อเป็นอย่างไร'
"ก็ได้ ชั้นตกลงภายใน1ปีเท่านั้นน่ะ"
ฟางพูดก่อนจะเอาขนมเค้กเข้าไปอบในตู้
"ถึงตอนนั้นเธอก็หลงรักเข้าเต็มเปาแล้วล่ะ"
ป๊อปปี้พูดเบาๆแล้วเดินออกไป
"ไม่มีวันซ่ะหรอกชั้นจะไม่มีวันรักผู้ชายที่พ่อแม่หาให้เด็ดขาด!"
ฟางพูดก่อนจะสลัดความคิดแล้วตั้งสมาธิทำเค้กต่อ
3 ชั่วโมงผ่านมา
"เค้กเสร็จแล้วค่ะ"
ฟางพูดพลางเดินถือเค้กไปที่โต๊ะอาหาร
"น่าอร่อยจังเป็นรสช็อกโกแล็กซ่ะด้วย ตาป๊อปชอบค่ะ"
แม่ป๊อปปี้พูด ฟางเหลียบมองป๊อปปี้ที่ป๊อปปี้จ้องมองแต่ฟาง
"ตาป๊อป ตาป๊อป"
แม่ป๊อปปี้เขย่าตัวก่อนที่ป๊อปปี้จะตื่นจากผวังทำเอาทุกคนหัวเราะ
"จ้องหนูฟางอยู่นั้นแหละ 55"
แม่ป๊อปปี้แซวทำให้ป๊อปปี้หน้าแดงแล้วลุกขึ้น
"ผมไปเคลียงานที่ห้องหนังสือก่อนน่ะครับถึงมื้อเย็นแล้วผมจะลงมา"
ป๊อปปี้รีบเดินออกไป
"ตาป๊อปนี้เขินน่ารักจังน่ะค่ะ คิกคิก"
แม่ฟางพูด
"เอ่อ..หนูฟางจ๊ะคือแม่อยากให้หนูเอาเค้กไปให้ตาป๊อปหน่อยจ๊ะ"
แม่ป๊อปปี้พูด
"ค่ะ คุณป้า"
"ไม่ต้องเรียกคุณป้าหรอกจ๊ะ เรียกแม่เหอะ"
"นี้คุณ ออกตัวแรงเกินไปรึป่าวเนี้ยงั้นหนูก็เรียกลุงว่าพ่อด้วยน่ะ"
เสียงหัวเราะดังขึ้นก่อนที่ฟางจะยกเอาขนมเค้กเดินไปที่ห้องหนังสือ
'ก๊อกๆ'
"เข้ามาเลยครับ"
เสียงป๊อปปี้ดังขึ้นก่อนที่ฟางจะเปิดประตูเข้ามาหาคนตัวสูงที่นั่งทำงานอยู่
"ชั้นเอาเค้กมาให้ค่ะ"
ฟางเดินมาใกล้ๆก่อนจะวางเค้กลง
"ชั้นจะตายไมเนี้ย"
ป๊อปปี้พูดแกล้ง
"งั้นอยากตายไมล่ะค่ะชั้นจะได้ไปเอายาพิษมาเทใส่"
ฟางพูด
"ถ้าชั้นตายชั้นจะเอาเธอไปอยู่ด้วย"
ป๊อปปี้พูดขู่ก่อนจะตักเค้กเข้าปาก
"ก็อร่อยดี"
ป๊อปปี้พูดก่อนจะตักคำแล้วคำเล่าเข้าปาก
"คุณ! ค่อยๆกินก็ได้เห็นไมเลอะหมดแล้ว"
ฟางมองป๊อปปี้ที่กินเลอะเทอะก่อนจะเดินไปหยิบทิชชู่มาเช็ดปากคนตรงหน้า
'ตึก ตัก ตึก ตัก'
เสียงหัวใจของป๊อปปี้เต้นแรงพลางจู่ๆก็หน้าแดง
"คุณ..เป็นอะไรรึป่าวทำไมหน้าแดง"
ฟางพูดก่อนจะเอาหลังฝ่ามือไปทับกับหน้าผากป๊อปปี้
"ปะ..ป่าว..เสร็จแล้วใช่ไม ออกไปเถอะชั้นจะทำงาน"
ป๊อปปี้พูดกุกกักก่อนจะก้มลงทำทีเซ็นเอกสารฟางมองซักพักก่อนจะเดินออกไป
"ยัยบ้า เพราะเธอนั้นแหละ"
ป๊อปปี้พูดก่อนจะนั่งมองไปที่เค้ก
"ทำไมกันน่ะ ทำไมชั้นรู้สีกว่าชั้นเคยรักเธอมาก่อน"
ณ โรงดนตรีไทย
"สวัสดีขอรับท่านชายภานุ"
เจ้าของโรงดนตรีไทยพูดต้อนรับภานุ
"สวัสดีขอรับท่านครู..งานไปด้วยดีน่ะขอรับ"
ภานุพูดก่อนจะมองไปรอบๆ
"ขอรับอีกประเดี่ยวจะมีการแสดงระนาดแล้วขอรับขอเชิญท่านชายไปประทับด้านหน้าก่อนน่ะขอรับ"
ผู้หญิงมากหน้าหลายตาต่างจ้องมองมาที่ภานุด้วยความสนใจก่อนที่ภานุจะนั่งลงที่โซฟาซึ่งเป็นด้านหน้าของเวที
'พรึ่บ'
ไฟทุกดวงในโรงดับลงก่อนจะฉ่ายไปที่หญิงสาวผมยาวในชุดไทยสีน้ำตาล
เสียงระนาดดังขึ้นอย่างไพเราะรอบล้อมไปด้วยคนฟังนับร้อย ภานุจ้องมองไปที่หญิงสาวโดยไม่วางตาเพราะด้วยเสียงที่ไพเราะจับใจทำให้ร่างกายหยุดนิ่ง เพลงทำเนินไปประมาณ20นาทีก่อนที่เสียงดนตรีจะจบลงด้วยความตราตรึงใจในเสียงเพลง
'แปะๆๆๆๆ'
เสียงปรบมือดังขึ้นเป็นจำนวนมากหญิงสาวลุกขึ้นแล้วเดินออกจากเวที
"ผู้หญิงผู้นั้น..เป็นผู้ใดกันน่ะ"
ภานุพูด
"เจ้าเล่นได้ไพเราะมากๆเลยเฟื่องฟ้า"
เพื่อนๆต่างชื่นชมในการเล่นระนาดของหญิงสาว
"ข้าเล่นไม่เก่งเท่าใดดอกแค่ฝึกฝนให้ชำนาญก็เล่นได้พอฟัง"
"มิจริงดอก เจ้ารู้รึไม่ว่าวันนี้มีท่านชายจากวังนฤบดีมางานวันนี้ด้วย"
"วังนฤบดี.."
"ใช่..เห็นว่าชื่อ..ชื่ออะไรน่าาาา"
"ข้ามิอยากรู้ดอก...ข้าไปเก็บดอกแก้วก่อนซักพักจักนำมาถวายพระครูที่ช่วยให้เราได้จัดงานอย่างราบรื่น"
เฟื่องฟ้าพูดก่อนจะเดินออกไปทางหลังโรง
"ท่านชายจักกลับเลยรึไม่ขอรับ"
เจ้าของโรงพูดก่อนจะเดินตามหลังภานุออกมา
"คงยังดอกข้าว่าจักไปคุยธุระทางตึกโน้นก่อนซักพักจักกลับ"
"ขอรับ"
ภานุเดินลัดมาทางสวนดอกไม้เพื่อไปคุยงานที่ตึกใหญ่ถัดมาจากโรงดนตรี
"มีใครอยู่ข้างล่างรึไม่"
เสียงหญิงสาวดังมาจากบนต้นไม้ก่อนที่ภานุจะเงยหน้าขึ้นไปก็ถึงกับผงะ
"เจ้าขึ้นไปทำอะไรบนนั้น"
ภานุมองก่อนจะขำนิด
"ข้า..ข้าขึ้นมาเก็บดอกแก้วแล้วลงมิได้..ท่านได้โปรดช่วยข้าที"
หญิงสาวพูด ภานุเดินมาดูใกล้ๆก็หมดความอดทนที่จะกลั้นขำ
"ฮ่าๆๆ"
"เจ้าหัวเราะอะไร"
"ก็เจ้าน่ะสิ ฮ่าๆ คนรึลิงกันแน่"
ภานุหัวเราะทำให้อีกฝ่ายถึงกับหน้าหงิก
"หากมิคิดจะช่วยก็จงไปซ่ะมิต้องมาหัวเราะเยาะข้า"
ภานุยังคงหัวเราะต่อไปจนหญิงสาวทนไม่ไหวกระโดดลงจากต้นไม้ทันที
'เห้ย!!'
'ตุ้บ'
หญิงสาวหลับตาปี๋ด้วยความกลัวก่อนจะรู้สึกถึงร่างกายกำยำของใครบางคน
"นี้! ลืมตาสิเจ้ายังมิตายดอก"
ภานุสั่งเมื่อกำลังนอนกอดหญิงสาวอยู่ หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะตรงเข้ากับสายตาของร่างสูง
"เอ่อ...เจ้าลุกขึ้นก่อนได้รึไมข้าหนัก"
ภานุพูดก่อนที่หญิงสาวจะรีบลุกขึ้นทันที
"ข้า..ขอบน้ำใจท่าน..ที่ช่วยข้าใว้"
หญิงสาวพูดพลางเหลียบมองนิดๆ
"ขืนข้ามิช่วยเจ้าใว้เจ้าโดดลงมาเช่นนี้เดี่ยวก็ได้แขนขาหักกันพอดี"
ภานุพูดแล้วเอามือไปไขว้หลังทั้งสองข้าง
"ข้าคือท่านชาย ภานุ นฤบดี แล้วเจ้าล่ะ"
ภานุถามก่อนที่อีกฝ่ายจะเงยหน้าตอบ
"ฟะ..เฟื่องฟ้า..เพค่ะ"
เฟื่องฟ้าตอบแล้วลงท้ายด้วยคำศัพท์เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นถึงท่านชาย
"ข้าไปก่อนน่ะเพค่ะ"
เฟื่องฟ้าพูดก่อนจะรีบวิ่งออกไปทำเอาชายหนุ่มชะงัก
"เดี่ยว! เดี่ยวสิ เฟื่องฟ้า.."
ภานุตะโกนเรียกแต่ก็ไม่ทันก่อนจะเดินกลับไปตามเส้นทางแล้วคิดถึงผู้หญิงคนนั้นอย่างเต็มใจ
มาแล้ววววววววว อีกตอนจะลงประมาณค่ำๆน่าาาาา ติดตามกันด้วยน่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ