รักร้ายหักสวาท ปฐมบท

8.3

เขียนโดย RosenLa

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.47 น.

  57 chapter
  69 วิจารณ์
  64.61K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 21.47 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) รักแรกพบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
"เธอคงไม่อยากจะหมั้นกับชั้นใช่ไม"
 
                         ป๊อปปี้พูด ทำให้ฟางที่ทำเค้กอยู่เงยหน้าขึ้นมา
 
"ใช่"
 
                         ฟางพูดพลางก้มทำต่อ
 
"ชั้นก็รู้อยู่แล้วว่าเธอทรมานแค่ใหนที่ต้องหมั้นต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักชั้นจึงอยากจะขอ..ให้เราแต่งงานกันได้1ปีจากนั้นค่อยเลิกจะได้ไม"
 
                         ป๊อปปี้พูดทำให้ฟางชะงัก
 
"ทำไมล่ะ ในเมื่อนายก็ไม่ได้รักชั้นทำไมเราต้องแต่งงานต้องเสียเวลาด้วยแค่เรายกเลิกงานแต่งบ้าๆนี้ไปมันจะไม่ดีกว่าหรอ"
 
                         ฟางพูดตามความจริงก่อนที่ป๊อปปี้จะส่ายหน้า
 
"นี้เธอคงยังไม่รู้สิน่ะ"
 
                         ป๊อปปี้พูด ฟางทำหน้าสงสัย
 
"ยังไม่รู้..ไม่รู้อะไร"
 
"ก็พ่อกับแม่ชั้นจับเธอกับชั้นแต่งงานกันเพราะอยากให้ธุรกิจทั้งสองครอบครัวมีฐานะที่ดีขึ้นกว่าเดิมถ้าเธอไม่แต่งหรือชั้นไม่แต่งเรื่องงานหมั้นที่ประกาศไปตั้งแต่เราสองคนยังเด็กก็มีสิทธิถูกนินทาได้และมันจะส่งผลเสียต่อกิจการทั้งสองครอบครัวอย่างรุนแรงเพราะไม่มีความเชื่อถือในด้านสัญญา"
 
                         ป๊อปปี้อธิบายทำเอาฟางแทบช็อค
 
"ชั้นไม่รู้มาก่อนเลยน่ะว่ามันมีผลแบบนี้ด้วย"
 
"ก็เธอมัวแต่ทำขนมเค้ก มันแต่อยู่ในครัว มันจะไปรู้อะไร"
 
                         ป๊อปปี้แหย่ฟางทำให้ฟางชะงัก 'จริงสิน่ะเรามัวแต่ทำแต่งานของเราเลยไม่รู้ว่ากิจการของคุณพ่อเป็นอย่างไร'
 
"ก็ได้ ชั้นตกลงภายใน1ปีเท่านั้นน่ะ"
 
                         ฟางพูดก่อนจะเอาขนมเค้กเข้าไปอบในตู้
 
"ถึงตอนนั้นเธอก็หลงรักเข้าเต็มเปาแล้วล่ะ"
 
                         ป๊อปปี้พูดเบาๆแล้วเดินออกไป
 
"ไม่มีวันซ่ะหรอกชั้นจะไม่มีวันรักผู้ชายที่พ่อแม่หาให้เด็ดขาด!"
 
                         ฟางพูดก่อนจะสลัดความคิดแล้วตั้งสมาธิทำเค้กต่อ
 
3 ชั่วโมงผ่านมา
 
"เค้กเสร็จแล้วค่ะ"
 
                         ฟางพูดพลางเดินถือเค้กไปที่โต๊ะอาหาร
 
"น่าอร่อยจังเป็นรสช็อกโกแล็กซ่ะด้วย ตาป๊อปชอบค่ะ"
 
                         แม่ป๊อปปี้พูด ฟางเหลียบมองป๊อปปี้ที่ป๊อปปี้จ้องมองแต่ฟาง
 
"ตาป๊อป ตาป๊อป"
 
                         แม่ป๊อปปี้เขย่าตัวก่อนที่ป๊อปปี้จะตื่นจากผวังทำเอาทุกคนหัวเราะ
 
"จ้องหนูฟางอยู่นั้นแหละ 55"
 
                         แม่ป๊อปปี้แซวทำให้ป๊อปปี้หน้าแดงแล้วลุกขึ้น
 
"ผมไปเคลียงานที่ห้องหนังสือก่อนน่ะครับถึงมื้อเย็นแล้วผมจะลงมา"
 
                         ป๊อปปี้รีบเดินออกไป
 
"ตาป๊อปนี้เขินน่ารักจังน่ะค่ะ คิกคิก"
 
                         แม่ฟางพูด
 
"เอ่อ..หนูฟางจ๊ะคือแม่อยากให้หนูเอาเค้กไปให้ตาป๊อปหน่อยจ๊ะ"
 
                         แม่ป๊อปปี้พูด
 
"ค่ะ คุณป้า"
 
"ไม่ต้องเรียกคุณป้าหรอกจ๊ะ เรียกแม่เหอะ"
 
"นี้คุณ ออกตัวแรงเกินไปรึป่าวเนี้ยงั้นหนูก็เรียกลุงว่าพ่อด้วยน่ะ"
 
                         เสียงหัวเราะดังขึ้นก่อนที่ฟางจะยกเอาขนมเค้กเดินไปที่ห้องหนังสือ
'ก๊อกๆ'
 
"เข้ามาเลยครับ"
 
                         เสียงป๊อปปี้ดังขึ้นก่อนที่ฟางจะเปิดประตูเข้ามาหาคนตัวสูงที่นั่งทำงานอยู่
 
"ชั้นเอาเค้กมาให้ค่ะ"
 
                         ฟางเดินมาใกล้ๆก่อนจะวางเค้กลง
 
"ชั้นจะตายไมเนี้ย"
 
                         ป๊อปปี้พูดแกล้ง
 
"งั้นอยากตายไมล่ะค่ะชั้นจะได้ไปเอายาพิษมาเทใส่"
 
                         ฟางพูด
 
"ถ้าชั้นตายชั้นจะเอาเธอไปอยู่ด้วย"
 
                         ป๊อปปี้พูดขู่ก่อนจะตักเค้กเข้าปาก
 
"ก็อร่อยดี"
 
                         ป๊อปปี้พูดก่อนจะตักคำแล้วคำเล่าเข้าปาก
 
"คุณ! ค่อยๆกินก็ได้เห็นไมเลอะหมดแล้ว"
 
                         ฟางมองป๊อปปี้ที่กินเลอะเทอะก่อนจะเดินไปหยิบทิชชู่มาเช็ดปากคนตรงหน้า
 
'ตึก ตัก ตึก ตัก'
 
                         เสียงหัวใจของป๊อปปี้เต้นแรงพลางจู่ๆก็หน้าแดง
 
"คุณ..เป็นอะไรรึป่าวทำไมหน้าแดง"
 
                         ฟางพูดก่อนจะเอาหลังฝ่ามือไปทับกับหน้าผากป๊อปปี้
 
"ปะ..ป่าว..เสร็จแล้วใช่ไม ออกไปเถอะชั้นจะทำงาน"
 
                         ป๊อปปี้พูดกุกกักก่อนจะก้มลงทำทีเซ็นเอกสารฟางมองซักพักก่อนจะเดินออกไป
 
"ยัยบ้า เพราะเธอนั้นแหละ"
 
                         ป๊อปปี้พูดก่อนจะนั่งมองไปที่เค้ก
 
"ทำไมกันน่ะ ทำไมชั้นรู้สีกว่าชั้นเคยรักเธอมาก่อน"
 
 
 
 
 
 
 
 
 
          ณ โรงดนตรีไทย
 
"สวัสดีขอรับท่านชายภานุ"
 
                         เจ้าของโรงดนตรีไทยพูดต้อนรับภานุ
 
"สวัสดีขอรับท่านครู..งานไปด้วยดีน่ะขอรับ"
 
                         ภานุพูดก่อนจะมองไปรอบๆ
 
"ขอรับอีกประเดี่ยวจะมีการแสดงระนาดแล้วขอรับขอเชิญท่านชายไปประทับด้านหน้าก่อนน่ะขอรับ"
 
                         ผู้หญิงมากหน้าหลายตาต่างจ้องมองมาที่ภานุด้วยความสนใจก่อนที่ภานุจะนั่งลงที่โซฟาซึ่งเป็นด้านหน้าของเวที
 
'พรึ่บ'
          
          ไฟทุกดวงในโรงดับลงก่อนจะฉ่ายไปที่หญิงสาวผมยาวในชุดไทยสีน้ำตาล
          เสียงระนาดดังขึ้นอย่างไพเราะรอบล้อมไปด้วยคนฟังนับร้อย ภานุจ้องมองไปที่หญิงสาวโดยไม่วางตาเพราะด้วยเสียงที่ไพเราะจับใจทำให้ร่างกายหยุดนิ่ง เพลงทำเนินไปประมาณ20นาทีก่อนที่เสียงดนตรีจะจบลงด้วยความตราตรึงใจในเสียงเพลง
 
'แปะๆๆๆๆ'
 
                         เสียงปรบมือดังขึ้นเป็นจำนวนมากหญิงสาวลุกขึ้นแล้วเดินออกจากเวที
 
"ผู้หญิงผู้นั้น..เป็นผู้ใดกันน่ะ"
 
                         ภานุพูด
 
"เจ้าเล่นได้ไพเราะมากๆเลยเฟื่องฟ้า"
 
                         เพื่อนๆต่างชื่นชมในการเล่นระนาดของหญิงสาว
 
"ข้าเล่นไม่เก่งเท่าใดดอกแค่ฝึกฝนให้ชำนาญก็เล่นได้พอฟัง"
 
"มิจริงดอก เจ้ารู้รึไม่ว่าวันนี้มีท่านชายจากวังนฤบดีมางานวันนี้ด้วย"
 
"วังนฤบดี.."
 
"ใช่..เห็นว่าชื่อ..ชื่ออะไรน่าาาา"
 
"ข้ามิอยากรู้ดอก...ข้าไปเก็บดอกแก้วก่อนซักพักจักนำมาถวายพระครูที่ช่วยให้เราได้จัดงานอย่างราบรื่น"
 
                         เฟื่องฟ้าพูดก่อนจะเดินออกไปทางหลังโรง
 
"ท่านชายจักกลับเลยรึไม่ขอรับ"
 
                         เจ้าของโรงพูดก่อนจะเดินตามหลังภานุออกมา
 
"คงยังดอกข้าว่าจักไปคุยธุระทางตึกโน้นก่อนซักพักจักกลับ"
 
"ขอรับ"
 
                         ภานุเดินลัดมาทางสวนดอกไม้เพื่อไปคุยงานที่ตึกใหญ่ถัดมาจากโรงดนตรี
 
"มีใครอยู่ข้างล่างรึไม่"
 
                         เสียงหญิงสาวดังมาจากบนต้นไม้ก่อนที่ภานุจะเงยหน้าขึ้นไปก็ถึงกับผงะ
 
"เจ้าขึ้นไปทำอะไรบนนั้น"
 
                         ภานุมองก่อนจะขำนิด
 
"ข้า..ข้าขึ้นมาเก็บดอกแก้วแล้วลงมิได้..ท่านได้โปรดช่วยข้าที"
 
                         หญิงสาวพูด ภานุเดินมาดูใกล้ๆก็หมดความอดทนที่จะกลั้นขำ
 
"ฮ่าๆๆ"
 
"เจ้าหัวเราะอะไร"
 
"ก็เจ้าน่ะสิ ฮ่าๆ คนรึลิงกันแน่"
 
                         ภานุหัวเราะทำให้อีกฝ่ายถึงกับหน้าหงิก
 
"หากมิคิดจะช่วยก็จงไปซ่ะมิต้องมาหัวเราะเยาะข้า"
 
                         ภานุยังคงหัวเราะต่อไปจนหญิงสาวทนไม่ไหวกระโดดลงจากต้นไม้ทันที
 
'เห้ย!!'
 
'ตุ้บ'
 
                         หญิงสาวหลับตาปี๋ด้วยความกลัวก่อนจะรู้สึกถึงร่างกายกำยำของใครบางคน
 
"นี้! ลืมตาสิเจ้ายังมิตายดอก"
 
                         ภานุสั่งเมื่อกำลังนอนกอดหญิงสาวอยู่ หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะตรงเข้ากับสายตาของร่างสูง
 
"เอ่อ...เจ้าลุกขึ้นก่อนได้รึไมข้าหนัก"
 
                         ภานุพูดก่อนที่หญิงสาวจะรีบลุกขึ้นทันที
 
"ข้า..ขอบน้ำใจท่าน..ที่ช่วยข้าใว้"
 
                         หญิงสาวพูดพลางเหลียบมองนิดๆ
 
"ขืนข้ามิช่วยเจ้าใว้เจ้าโดดลงมาเช่นนี้เดี่ยวก็ได้แขนขาหักกันพอดี"
 
                         ภานุพูดแล้วเอามือไปไขว้หลังทั้งสองข้าง
 
"ข้าคือท่านชาย ภานุ นฤบดี แล้วเจ้าล่ะ"
 
                         ภานุถามก่อนที่อีกฝ่ายจะเงยหน้าตอบ
 
"ฟะ..เฟื่องฟ้า..เพค่ะ"
 
                         เฟื่องฟ้าตอบแล้วลงท้ายด้วยคำศัพท์เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นถึงท่านชาย
 
"ข้าไปก่อนน่ะเพค่ะ"
 
                         เฟื่องฟ้าพูดก่อนจะรีบวิ่งออกไปทำเอาชายหนุ่มชะงัก
 
"เดี่ยว! เดี่ยวสิ เฟื่องฟ้า.."
 
                         ภานุตะโกนเรียกแต่ก็ไม่ทันก่อนจะเดินกลับไปตามเส้นทางแล้วคิดถึงผู้หญิงคนนั้นอย่างเต็มใจ
 
 
 
 
               มาแล้ววววววววว อีกตอนจะลงประมาณค่ำๆน่าาาาา ติดตามกันด้วยน่ะ
          
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา