รักร้ายหักสวาท ปฐมบท
8.3
เขียนโดย RosenLa
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.47 น.
57 chapter
69 วิจารณ์
64.47K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 21.47 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) ดอกบัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ฟางเดินเข้ามาในคฤหาสอย่างเหนื่อยอ่อน
"เป็นอย่างไงบ้างค่ะคุณหนู..ที่ทำงานคนเยอะรึป่าวค่ะ"
คนรับใช้พูดก่อนจะเดินออกมาถือของ
"เยอะสิเยอะจนขายแทบไม่ทันเลยค่ะ"
"อ้าว ฟางกลับมาหรอมาทานข้าวก่อนสิ"
แม่ฟางพูด
"ฟางทานมาแล้วค่ะแล้วคุณแม่ล่ะค่ะ"
"ทานแล้วจ๊ะ เอ่อ..ฟาง คุณภานุเขากลับมาจากต่างประเทศแล้วน่ะ"
"แล้วยังไงค่ะ"
ฟางทำหน้าเฉยๆ
"แล้วยังไงอะไร แกก็ต้องไปพบพี่เขาน่ะสิ"
พ่อฟางพูดพลางเดินเข้ามา
"พ่อค่ะฟางไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกค่ะฟางต้องขายของน่ะค่ะ"
ฟางพูดความจริงเพราะลูกค้าประจำมักจะมาตอนเช้าๆ
"โอ้ย! ปิดซักวันสองวันจะมีคนระเบิดร้านแกหรอเลิกทำตัวบ้างานซักที"
พ่อฟางเดือด
"ใจเย็นๆน่ะค่ะคุณ..ฟางลูกก็ควรทำตามที่พ่อสั่งน่ะเพราะคุณภานุเป็นว่าที่คู่หมั้นลูกน่ะ"
"แม่!"
"ยังไงก็ช่าง พรุ่งนี้แกต้องไปบ้านจิระคุณกับชั้น"
พ่อฟางพูดก่อนที่จะเดินขึ้นบรรได
"ได้ค่ะ ถ้ามันเป็นความต้องการของพ่อแม่..ฟางก็จะทำตามค่ะแม้ว่าฟางจะทรมานแค่ใหนก็ตาม"
ฟางพูดก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบรรไดแล้งเข้าห้องปล่อยให้ผู้เป็นมารดามองตามด้วยความสงสาร
"ไม่ยุติธรรมเลย!"
ฟางนั่งพักซักพักก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ
"ท่านชาย....."
เสียงหญิงสาวดังก้องในขณะที่ป๊อปปี้กำลังหลับ
"ฟ้าคิดถึงท่านชาย.."
"ใคร...ใครกัน..เธอเป็นใคร.."
ป๊อปปี้ละเมอ
"ท่านชาย...ฮือๆ ฟ้าเจ็บเหลือเกิน.."
เสียงยังคงดังก้องก่อนที่ป๊อปปี้จะตื่นลืมตาขึ้นแล้วมองไปรอบๆห้อง
"เสียงผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว.."
'ก๊อกๆ"
เสียงประตูหน้าเรือนไทยดังขึ้น
"ค่ะๆ จะไปเปิดแล้วค่ะ"
คนรับใช้รีบวิ่งไปเปิดประตูพลางหาวไปด้วยก่อนจะชงัก
"คะ..คุณป๊อปปี้"
"ท่านยายทวดนอนยัง"
"ยะ..ยังค่ะคุณท่านกำลังสวดมนตร์ค่ะ"
ป๊อปปี้เดินเข้าไปในห้อง
"นอนไม่หลับอีกแล้วสิหรือไม่ก็นอนแล้วฝันร้าย"
ทวดพูด ป๊อปปี้มองซักพักก่อนจะเหลียบไปเห็นภาพของหญิงชุดโบราณคนหนึ่ง
"เอ๊ะ..นี้ใครครับไม่ใช่รูปท่านทวดนี้"
ป๊อปปี้พูดแล้วหยิบรูปขึ้นมาดู
"นี้คือคุณหญิงแม่ของทวดเอง"
"คุณหญิงแม่...ท่านทวดไม่เคยพูดถึงเลยนิครับ"
"อาจเป็นเพราะว่า..ทวด..จำไม่ค่อยได้น่ะแก่แล้ว"
ทวดพูดพลางยิ้ม
"เธอช่างสวยมากเลยครับ"
"ใช่ สวยมากสวยที่สุดในพระนคร"
ณ เรือนไทยที่ใหญ่ที่สุดในย่านน้ำเป็นเรือนของท่านคุณพระอนันธรณ์ ศิลานันท์ ท่านมีลูกสาวอยู่2คน
"รีรี ข้าวสาร สองขนาน ข้าวเปลือก เลือกท้อง ใบลาน เก็บเบี้ย ใต้ถุนร้าน ทานคน ข้างหลังไว้"
เสียงแจ้วแจ่วของหญิงสาวในวัย 16 ปี ดังขึ้นในสวนดอกกุหลาบ
"โหย คุณหญิงสายฝนช่างเก่งยิ่งนักข้าล่ะหนีออกวงแทบไม่ทัน"
หญิงสาวพูดพลางทำหน้าหงิก
"คิกๆ ก็เจ้าเดินช้าแถมอยู่ข้างหลังสุดเจ้าก็ต้องโดน"
สายฝนพูดก่อนจะเริ่มเล่นใหม่โดยมีสายตาของใครบ้างคนจ้องมองมาจากบนเรือน
"คุณหญิงสายฝนนี้ชอบทำตัวเกือกกั่วกับพวกลูกทาสจังน่ะเพค่ะ"
คนรับใช้พูดพลางเยียดมองหญิงสาวที่เล่นอยู่กับลูกทาส
"น้องสายฝนเป็นคนที่เงียบแต่พอถึงเวลาสนุกก็มักจะสนุกจนเกินเลย"
หญิงสาววัย 18 ปี พูดพลางมอง
"ไม่เหมือนกับท่านหญิงแพรวดาวที่เพรียบพร้อม เก่งวิชาเป็นหลัก กล้าพูดกล้าแสดงออก ชายใดที่ได้เป็นออกเรือนด้วยเป็นต้องโชคดี"
คนรับใช้พูดยกหยอเจ้านาย
"คุณหญิงๆ คุณหญิงเพค่ะ"
คนใช้อีกคนวิ่งมาพร้อมกับตะโกน
"นี้! เงียบๆก็ได้ค่อยๆมามันเสียมารยาท"
คนรับใช้ว่า
"ขอประทานโทษเพค่ะพอดีว่า..แฮ่กๆ"
คนรับใช้พูดพลางหอบ
"อ้าวๆ เหนื่อยอยู่นั้นแหละมีอะไรเล่า"
"ทะ..ท่านชาย..ท่านภานุมาเพค่ะ"
เมื่อแพรวดาวได้ยินก็รีบเดินออกไปทันที
"ดีมากท่านชายภานุต้องมาหาคุณหญิงเป็นแน่ รีบตามมาเร็วเข้า"
คนรับใช้พูดพลางวิ่งตามแพรวดาวไป
"นั้นดอกบัวนิ"
ในขณะที่สายฝนกำลังจะเดินกลับเรือนหลังเล็กก็เหลือบไปเห็นคลองน้ำที่มีดอกบัวขึ้นเต็ม
"ใอ้เผือกมันได้รับคำสั่งให้นำดอกบัวมาปลูกเพค่ะเพราะเห็นว่าคุณหญิงสายฝนชอบดอกบัวและดอกแก้ว"
คนรับใช้พูดพลางยิ้ม
"เราอยากได้"
สายฝนพูดแล้วเดินเข้าไปใกล้สระน้ำ
"ม่ะ..ไม่ได้น่ะเพค่ะเดี่ยวคุณหญิงตกน้ำตกท่า บัวจะไปตามใอ้เผือกมาเก็บให้น่ะเพค่ะ"
บัวพูดก่อนจะรีบเดินออกไปหาเผือก
'ว้าย'
'ตู้ม'
ด้วยตรงที่สายฝนยืนอยู่มีแต่ตะไคร้น้ำทำให้ผลัดตกลงไป
"คะ..คุณหญิงสายฝน! ใครก็ได้! ช่วยที คุณหญิงตกน้ำ!"
บัวพูดพลางร้องตะโกนทำให้ชายหนุ่มซึ่งออกมาเดินเล่นรีบวิ่งเข้าไปหา
"เกิดอะไรขึ้น"
"คะ..คุณหญิง..คุณหญิงสายฝนตกน้ำเพค่ะ"
'ตู้ม'
ชายหนุ่มรีบกระโดดลงไปช่วยทันทีก่อนที่จะนำร่างของหญิงสาวขึ้นมาได้ สายฝนมองหน้าคนที่ช่วยเหลือตนเองใว้ซักพักก่อนจะสติจะดับวูบไป
"น้องหญิงๆ น้องหญิง!"
ชายหนุ่มพูดแล้วอุ้มหญิงสาวขึ้น
"ไปที่เรือนหลังเล็กก่อนเพค่ะ"
บัวพูดก่อนจะเดินนำไป
"อ้าว ลูกหญิงมาพอดี"
แพรวดาวคลานคุกเข่าเข้าไปใกล้ๆผู้เป็นมารดา
"ช่างงดงามสมกับคำล่ำลือจริงๆน่ะ แม่แพรวดาว"
ท่านหญิงสร้อยผู้เป็นแม่ของท่านชายภานุพูดอย่างเอ็นดู
"ไม่ผิดหวังน่ะที่จองตัวใว้ตั้งแต่ยังเยาว์"
ท่านชายวรพงษ์พูดทำให้ทางครอบครัวของแพรวดาวยิ้ม
"แล้วท่านชายภานุล่ะเพค่ะ"
"ท่านชายออกไปเดินเล่นเพค่ะรับสั่งว่าอีกซักพักจักกลับมา"
"อ่อๆ ง้นเรามาคุยเรื่องงานแต่งงานกันดีกว่า"
ณ เรือนไทยหลังเล็กซึ่งเป็นเรือนของสายฝน
"ท่านชายตัวเปียกเช่นนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนน่ะเพค่ะ"
คนรับใช้พูดก่อนจะรีบวิ่งไปทางเรือนใหญ่
"คุณหญิงฟื้นแล้ว"
บัวพูดพลางประคองสายฝนลุกขึ้น
"เหตุใดข้าถึงมาอยู่ที่นี้..ข้าจำได้ว่า..."
"คุณหญิงพลัดตกคลองน้ำโชคดีที่ท่านชายภานุมาช่วยได้ทัน"
"ท่านชาย..ภานุ.."
"เพค่ะ"
สายฝนคว้าเอาผ้าคลุมซึ่งตอนนี้ตนไม่ได้ใส่สะไบแต่เป็นผ้าเกราะอกสีชมพู
"ท่านชายเพค่ะ ท่านชายวรพงษ์เรียกหาเพค่ะ"
คนรับใช้พูด
"อืม งั้นฝากดูแลน้องหญิงด้วยน่ะ"
"เพค่ะ"
ภานุเดินออกไปโดยสวนกับสายฝนที่เพิ่งลงบรรไดมา
"ท่านชายล่ะ"
"ท่านชายภานุกลับไปเรือนใหญ่แล้วเพค่ะ"
สายฝนมองตามเส้นทางที่ท่านชายกลับไป
"ฝากไปบอกท่านชายว่าเราขอบพระทัยที่ท่านชายช่วยเรา"
สายฝนพูดก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนเรือน
"ท่านชายมาแล้วเพค่ะ"
"ตายแล้ว! เหตุใดจึงเปียกเช่นนี้"
ท่านหญิงรู้สีกตกใจเมื่อเห็นสภาพลูกชาย
"เอ่อ..คุณหญิงสายฝนพลัดตกน้ำเพค่ะโชคดีที่ท่ายชายลงไปช่วยได้ทัน"
คนรับใช้พูดยิ่งทำให้ทุกคนตกใจ
"แล้วหญิงสายฝนเป็นอย่างไรบ้าง"
"ปลอดภัยดีแล้วเพค่ะ"
"อืม ดีแล้วล่ะที่ไม่เป็นไรมาก"
"หม่อมชั้นต้องกราบขอบพระทัยแทนลูกสาวคนเล็กของหม่อมชั้นด้วยน่ะเพค่ะที่ท่านชายโปรดช่วยใว้ได้"
"ไม่เป็นไรขอรับถือว่าเป็นโชคดีของน้องหญิงขอรับ"
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วครอบครัวของกระผมขอกลับก่อนน่ะขอรับมานานล่ะ"
"ลูกหญิงแพรวดาว..ไปส่งพี่เขาด้วยน่ะ"
"เพค่ะท่านพ่อ"
สายฝนนั่งมองดอกบัวในแจกันแล้วคิดถึงเมื่อกลางวัน
"คิดถึงท่านชายรึเพค่ะ"
บัวถามทำให้สายฝนชะงัก
"บ้ารึ ข้าเป็นหญิง เป็นนาง จักคิดถึงชายได้เช่นไร"
สายฝนแก้ตัวด้วยความเขิน
"เพค่ะ"
คนรับใช้แกล้งตอบสายฝนรีบมองไปทางอื่นก่อนเหม่อมองท้องฟ้าที่มีดวงดาวเป็นคู่
ฉับบบบบบบบบบ วันนี้ลงสองตอนพอน่ะพรุ่งนี้ลงอีก3ตอนเลย ดีไมๆๆๆๆๆๆ ติดตามเยอะๆน่ะ
"เป็นอย่างไงบ้างค่ะคุณหนู..ที่ทำงานคนเยอะรึป่าวค่ะ"
คนรับใช้พูดก่อนจะเดินออกมาถือของ
"เยอะสิเยอะจนขายแทบไม่ทันเลยค่ะ"
"อ้าว ฟางกลับมาหรอมาทานข้าวก่อนสิ"
แม่ฟางพูด
"ฟางทานมาแล้วค่ะแล้วคุณแม่ล่ะค่ะ"
"ทานแล้วจ๊ะ เอ่อ..ฟาง คุณภานุเขากลับมาจากต่างประเทศแล้วน่ะ"
"แล้วยังไงค่ะ"
ฟางทำหน้าเฉยๆ
"แล้วยังไงอะไร แกก็ต้องไปพบพี่เขาน่ะสิ"
พ่อฟางพูดพลางเดินเข้ามา
"พ่อค่ะฟางไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกค่ะฟางต้องขายของน่ะค่ะ"
ฟางพูดความจริงเพราะลูกค้าประจำมักจะมาตอนเช้าๆ
"โอ้ย! ปิดซักวันสองวันจะมีคนระเบิดร้านแกหรอเลิกทำตัวบ้างานซักที"
พ่อฟางเดือด
"ใจเย็นๆน่ะค่ะคุณ..ฟางลูกก็ควรทำตามที่พ่อสั่งน่ะเพราะคุณภานุเป็นว่าที่คู่หมั้นลูกน่ะ"
"แม่!"
"ยังไงก็ช่าง พรุ่งนี้แกต้องไปบ้านจิระคุณกับชั้น"
พ่อฟางพูดก่อนที่จะเดินขึ้นบรรได
"ได้ค่ะ ถ้ามันเป็นความต้องการของพ่อแม่..ฟางก็จะทำตามค่ะแม้ว่าฟางจะทรมานแค่ใหนก็ตาม"
ฟางพูดก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบรรไดแล้งเข้าห้องปล่อยให้ผู้เป็นมารดามองตามด้วยความสงสาร
"ไม่ยุติธรรมเลย!"
ฟางนั่งพักซักพักก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ
"ท่านชาย....."
เสียงหญิงสาวดังก้องในขณะที่ป๊อปปี้กำลังหลับ
"ฟ้าคิดถึงท่านชาย.."
"ใคร...ใครกัน..เธอเป็นใคร.."
ป๊อปปี้ละเมอ
"ท่านชาย...ฮือๆ ฟ้าเจ็บเหลือเกิน.."
เสียงยังคงดังก้องก่อนที่ป๊อปปี้จะตื่นลืมตาขึ้นแล้วมองไปรอบๆห้อง
"เสียงผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว.."
'ก๊อกๆ"
เสียงประตูหน้าเรือนไทยดังขึ้น
"ค่ะๆ จะไปเปิดแล้วค่ะ"
คนรับใช้รีบวิ่งไปเปิดประตูพลางหาวไปด้วยก่อนจะชงัก
"คะ..คุณป๊อปปี้"
"ท่านยายทวดนอนยัง"
"ยะ..ยังค่ะคุณท่านกำลังสวดมนตร์ค่ะ"
ป๊อปปี้เดินเข้าไปในห้อง
"นอนไม่หลับอีกแล้วสิหรือไม่ก็นอนแล้วฝันร้าย"
ทวดพูด ป๊อปปี้มองซักพักก่อนจะเหลียบไปเห็นภาพของหญิงชุดโบราณคนหนึ่ง
"เอ๊ะ..นี้ใครครับไม่ใช่รูปท่านทวดนี้"
ป๊อปปี้พูดแล้วหยิบรูปขึ้นมาดู
"นี้คือคุณหญิงแม่ของทวดเอง"
"คุณหญิงแม่...ท่านทวดไม่เคยพูดถึงเลยนิครับ"
"อาจเป็นเพราะว่า..ทวด..จำไม่ค่อยได้น่ะแก่แล้ว"
ทวดพูดพลางยิ้ม
"เธอช่างสวยมากเลยครับ"
"ใช่ สวยมากสวยที่สุดในพระนคร"
ณ เรือนไทยที่ใหญ่ที่สุดในย่านน้ำเป็นเรือนของท่านคุณพระอนันธรณ์ ศิลานันท์ ท่านมีลูกสาวอยู่2คน
"รีรี ข้าวสาร สองขนาน ข้าวเปลือก เลือกท้อง ใบลาน เก็บเบี้ย ใต้ถุนร้าน ทานคน ข้างหลังไว้"
เสียงแจ้วแจ่วของหญิงสาวในวัย 16 ปี ดังขึ้นในสวนดอกกุหลาบ
"โหย คุณหญิงสายฝนช่างเก่งยิ่งนักข้าล่ะหนีออกวงแทบไม่ทัน"
หญิงสาวพูดพลางทำหน้าหงิก
"คิกๆ ก็เจ้าเดินช้าแถมอยู่ข้างหลังสุดเจ้าก็ต้องโดน"
สายฝนพูดก่อนจะเริ่มเล่นใหม่โดยมีสายตาของใครบ้างคนจ้องมองมาจากบนเรือน
"คุณหญิงสายฝนนี้ชอบทำตัวเกือกกั่วกับพวกลูกทาสจังน่ะเพค่ะ"
คนรับใช้พูดพลางเยียดมองหญิงสาวที่เล่นอยู่กับลูกทาส
"น้องสายฝนเป็นคนที่เงียบแต่พอถึงเวลาสนุกก็มักจะสนุกจนเกินเลย"
หญิงสาววัย 18 ปี พูดพลางมอง
"ไม่เหมือนกับท่านหญิงแพรวดาวที่เพรียบพร้อม เก่งวิชาเป็นหลัก กล้าพูดกล้าแสดงออก ชายใดที่ได้เป็นออกเรือนด้วยเป็นต้องโชคดี"
คนรับใช้พูดยกหยอเจ้านาย
"คุณหญิงๆ คุณหญิงเพค่ะ"
คนใช้อีกคนวิ่งมาพร้อมกับตะโกน
"นี้! เงียบๆก็ได้ค่อยๆมามันเสียมารยาท"
คนรับใช้ว่า
"ขอประทานโทษเพค่ะพอดีว่า..แฮ่กๆ"
คนรับใช้พูดพลางหอบ
"อ้าวๆ เหนื่อยอยู่นั้นแหละมีอะไรเล่า"
"ทะ..ท่านชาย..ท่านภานุมาเพค่ะ"
เมื่อแพรวดาวได้ยินก็รีบเดินออกไปทันที
"ดีมากท่านชายภานุต้องมาหาคุณหญิงเป็นแน่ รีบตามมาเร็วเข้า"
คนรับใช้พูดพลางวิ่งตามแพรวดาวไป
"นั้นดอกบัวนิ"
ในขณะที่สายฝนกำลังจะเดินกลับเรือนหลังเล็กก็เหลือบไปเห็นคลองน้ำที่มีดอกบัวขึ้นเต็ม
"ใอ้เผือกมันได้รับคำสั่งให้นำดอกบัวมาปลูกเพค่ะเพราะเห็นว่าคุณหญิงสายฝนชอบดอกบัวและดอกแก้ว"
คนรับใช้พูดพลางยิ้ม
"เราอยากได้"
สายฝนพูดแล้วเดินเข้าไปใกล้สระน้ำ
"ม่ะ..ไม่ได้น่ะเพค่ะเดี่ยวคุณหญิงตกน้ำตกท่า บัวจะไปตามใอ้เผือกมาเก็บให้น่ะเพค่ะ"
บัวพูดก่อนจะรีบเดินออกไปหาเผือก
'ว้าย'
'ตู้ม'
ด้วยตรงที่สายฝนยืนอยู่มีแต่ตะไคร้น้ำทำให้ผลัดตกลงไป
"คะ..คุณหญิงสายฝน! ใครก็ได้! ช่วยที คุณหญิงตกน้ำ!"
บัวพูดพลางร้องตะโกนทำให้ชายหนุ่มซึ่งออกมาเดินเล่นรีบวิ่งเข้าไปหา
"เกิดอะไรขึ้น"
"คะ..คุณหญิง..คุณหญิงสายฝนตกน้ำเพค่ะ"
'ตู้ม'
ชายหนุ่มรีบกระโดดลงไปช่วยทันทีก่อนที่จะนำร่างของหญิงสาวขึ้นมาได้ สายฝนมองหน้าคนที่ช่วยเหลือตนเองใว้ซักพักก่อนจะสติจะดับวูบไป
"น้องหญิงๆ น้องหญิง!"
ชายหนุ่มพูดแล้วอุ้มหญิงสาวขึ้น
"ไปที่เรือนหลังเล็กก่อนเพค่ะ"
บัวพูดก่อนจะเดินนำไป
"อ้าว ลูกหญิงมาพอดี"
แพรวดาวคลานคุกเข่าเข้าไปใกล้ๆผู้เป็นมารดา
"ช่างงดงามสมกับคำล่ำลือจริงๆน่ะ แม่แพรวดาว"
ท่านหญิงสร้อยผู้เป็นแม่ของท่านชายภานุพูดอย่างเอ็นดู
"ไม่ผิดหวังน่ะที่จองตัวใว้ตั้งแต่ยังเยาว์"
ท่านชายวรพงษ์พูดทำให้ทางครอบครัวของแพรวดาวยิ้ม
"แล้วท่านชายภานุล่ะเพค่ะ"
"ท่านชายออกไปเดินเล่นเพค่ะรับสั่งว่าอีกซักพักจักกลับมา"
"อ่อๆ ง้นเรามาคุยเรื่องงานแต่งงานกันดีกว่า"
ณ เรือนไทยหลังเล็กซึ่งเป็นเรือนของสายฝน
"ท่านชายตัวเปียกเช่นนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนน่ะเพค่ะ"
คนรับใช้พูดก่อนจะรีบวิ่งไปทางเรือนใหญ่
"คุณหญิงฟื้นแล้ว"
บัวพูดพลางประคองสายฝนลุกขึ้น
"เหตุใดข้าถึงมาอยู่ที่นี้..ข้าจำได้ว่า..."
"คุณหญิงพลัดตกคลองน้ำโชคดีที่ท่านชายภานุมาช่วยได้ทัน"
"ท่านชาย..ภานุ.."
"เพค่ะ"
สายฝนคว้าเอาผ้าคลุมซึ่งตอนนี้ตนไม่ได้ใส่สะไบแต่เป็นผ้าเกราะอกสีชมพู
"ท่านชายเพค่ะ ท่านชายวรพงษ์เรียกหาเพค่ะ"
คนรับใช้พูด
"อืม งั้นฝากดูแลน้องหญิงด้วยน่ะ"
"เพค่ะ"
ภานุเดินออกไปโดยสวนกับสายฝนที่เพิ่งลงบรรไดมา
"ท่านชายล่ะ"
"ท่านชายภานุกลับไปเรือนใหญ่แล้วเพค่ะ"
สายฝนมองตามเส้นทางที่ท่านชายกลับไป
"ฝากไปบอกท่านชายว่าเราขอบพระทัยที่ท่านชายช่วยเรา"
สายฝนพูดก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนเรือน
"ท่านชายมาแล้วเพค่ะ"
"ตายแล้ว! เหตุใดจึงเปียกเช่นนี้"
ท่านหญิงรู้สีกตกใจเมื่อเห็นสภาพลูกชาย
"เอ่อ..คุณหญิงสายฝนพลัดตกน้ำเพค่ะโชคดีที่ท่ายชายลงไปช่วยได้ทัน"
คนรับใช้พูดยิ่งทำให้ทุกคนตกใจ
"แล้วหญิงสายฝนเป็นอย่างไรบ้าง"
"ปลอดภัยดีแล้วเพค่ะ"
"อืม ดีแล้วล่ะที่ไม่เป็นไรมาก"
"หม่อมชั้นต้องกราบขอบพระทัยแทนลูกสาวคนเล็กของหม่อมชั้นด้วยน่ะเพค่ะที่ท่านชายโปรดช่วยใว้ได้"
"ไม่เป็นไรขอรับถือว่าเป็นโชคดีของน้องหญิงขอรับ"
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วครอบครัวของกระผมขอกลับก่อนน่ะขอรับมานานล่ะ"
"ลูกหญิงแพรวดาว..ไปส่งพี่เขาด้วยน่ะ"
"เพค่ะท่านพ่อ"
สายฝนนั่งมองดอกบัวในแจกันแล้วคิดถึงเมื่อกลางวัน
"คิดถึงท่านชายรึเพค่ะ"
บัวถามทำให้สายฝนชะงัก
"บ้ารึ ข้าเป็นหญิง เป็นนาง จักคิดถึงชายได้เช่นไร"
สายฝนแก้ตัวด้วยความเขิน
"เพค่ะ"
คนรับใช้แกล้งตอบสายฝนรีบมองไปทางอื่นก่อนเหม่อมองท้องฟ้าที่มีดวงดาวเป็นคู่
ฉับบบบบบบบบบ วันนี้ลงสองตอนพอน่ะพรุ่งนี้ลงอีก3ตอนเลย ดีไมๆๆๆๆๆๆ ติดตามเยอะๆน่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ