The Older...โตขึ้นฉันจะรักเธอ
10.0
เขียนโดย yimNUTtic
วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.05 น.
5 บท
5 วิจารณ์
7,698 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558 08.45 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) ความจริง...ของพี่ต่อ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบท4...ความจริง ของพี่ต่อ
ฉันอยู่บ้านคนเดียวถึงจะไม่เหงาแต่ก็รู้สึกเซ็งๆเล็กน้อย เพราะวันๆนั่งๆนอนๆอยู่กับหนังสือ นี่ฉันอ่านจบไปสองสามรอบแล้ว อยากทำอย่างอื่นบ้าง แต่ก็คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี
ฉันหยิบสมุดบัญชีมาเปิดดูตัวเลขในบัญชี หืม!!!ในบัญชีมีอยู่หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นสี่พันสามร้อยหกสิบสองบาท(174362บาท) นี่เป็นบัญชีเงินเก็บส่วนตัวของฉันเอง ฉันอยากเอาเงินจำนวนนี้ไปต่อยอดทำอะไรที่มันเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำอะไร เฮ้อ!!!ฉันถอนหายใจพลางวางสมุดบัญชีลงแล้วเดินไปชงกาแฟ รู้สึกว่าตัวเองเริ่มเป็นคนติดกาแฟแล้วละ
เปิดร้านกาแฟ...ใช่แล้ว...ฉันอยากเปิดร้านกาแฟเล็กๆเป็นของตัวเอง เอาแค่แบบเป็นเคาท์เตอร์เล็กๆก็พอ ตอนกลางวันทำร้านกาแฟ ตอนกลางคืนอ่านหนังสือกับพี่ๆ แค่นี้ก็น่าจะหายเซ็งแล้ว แถมยังมีเงินเข้ากระเป๋าอีก เริ่มต้นพรุ่งนี้เลยละกัน เดี๋ยวถ้าพี่ท็อปกลับมาจะให้พี่ท็อปพาไปซื้อของเพื่อมาทำกาแฟขายในวันพรุ่งนี้ ฉันว่าไม่น่าจะลงทุนอะไรเยอะแยะนะ เพราะที่บ้านฉันก็มีอุปกรณ์ทำกาแฟอยู่บ้างแล้ว ไม่น่าจะลงทุนเกินหมื่น
"พี่ท็อป พลอยจะทำร้านกาแฟ"ฉันรีบเอ่ยปากบอกพี่ท็อปทันทีที่พี่ท็อปก้าวขาเข้าบ้าน
"อืม!!!เอาสิ"พี่ท็อปตอบฉันพร้อมกับหยิบถ้วยมาม่าไปเติมน้ำร้อน ฉันสงสัยจริงว่ากินมาม่าเยอะๆแล้วมันจะฉลาดขึ้นรึไง เห็นพี่ท็อปกินแต่มาม่า
"เห้ย!!!จะเปิดเมื่อไรอ่ะ เดี๋ยวพี่ประเดิมแก้วแรกเอง"พี่ต่อเดินตามหลังพี่ท็อปมาติดๆ
"ว่าจะเปิดพรุ่งนี้ค่ะ แต่ยังไม่มีอะไรเลย"ฉันบอกกับพี่ต่อ ด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นัก เพราะดูเหมือนพี่ท็อปจะไม่เห็นด้วยกับการลงทุนครั้งนี้...แต่พี่ท็อปก็ไม่คัดค้านฉัน
"โอ๋ๆๆเดี๋ยวพี่พาไปช็อปปิ้งเอง"พี่ต่อเสนอตัวว่าจะพาฉันไปช็อปปิ้ง ฉันรีบวางแก้วกาแฟที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะ แล้ววิ่งไปหยิบกุญแจรถที่พี่ท๊อปเพิ่งเอาไปวางไว้บนหลังตู้เย็นเมื่อกี้มาส่งให้พี่ต่อ
"ต่อ เดี๋ยวพี่พาไปเอง"พี่ท็อปเดินมาแย่งกุญแจรถจากมือฉันขณะที่ฉันกำลังส่งมันให้กับพี่ต่อ พี่ต่อมองหน้าพี่ท็อปแล้วพยักหน้า เขาสองคนน่าจะเข้าใจกันเองแหระ ส่วนฉันขอแค่ได้ไปซื้อของก็พอ ตื่นเต้นที่จะได้มีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง...แม้จะเป็นแค่ร้านเล็กๆก็เหอะ
พี่ท็อปพาฉันไปเลือกซื้อของอย่างใจเย็นและรอบคอบมาก
"ชอบต่อจริงๆเหรอ"จู่ๆพี่ท็อปก็พูดขึ้นขณะที่ฉันกำลังเลือกซื้อของเพื่อไปตกแต่งป้ายหน้าร้านอยู่
"ก็จริงสิพี่ พลอยเคยทำอะไรเล่นๆซะที่ไหนละ"ฉันตอบพี่ท็อปแต่ก็ยังคงก้มหน้าก้มตาเลือกของต่อไป
"ก็เพราะแบบนี้ไง ไม่ว่าพลอยจะทำอะไรพี่ถึงไม่คัดค้าน แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยก็ตาม"พี่ท็อปว่าต่อ พี่ท็อปของฉันน่ารักที่สุด แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่เคยคัดค้านในสิ่งที่ฉันจะทำ ถึงจะไม่สนับสนุนแต่ก็คอยเป็นกองหนุนให้ฉันตลอด นี่ฉันโชคดีมากเลยนะที่มีพี่ท็อปเป็นพี่ชาย ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่ทนฉันมาถึงทุกวันนี้หรอก
"แล้วเรื่องพี่ต่ออ่ะ จะคัดค้านพลอยไหม"ฉันถามเล่นๆไม่คิดว่าจะได้คำตอบจากพี่ท็อปด้วยซ้ำ
"ถ้าพี่จะค้าน พี่ค้านไปนานแล้ว"พี่ท็อปกล่าวพร้อมกับหันมามองหน้าฉันที่กำลังเลือกของอยู่อย่างไม่หยุดนิ่ง นี่หมายความว่าพี่ท็อปรู้ตั้งนานแล้วเหรอว่าฉันชอบพี่ต่อ พี่ท็อปรู้ได้ไงอ่ะ ฉันก็ไม่เคยแสดงอาการอะไรเลยนะ(เหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า)
หลังจากซื้อของกันเสร็จเรียบร้อยแล้วพี่ท็อปก็ขี่มอเตอร์ไซค์พาฉันกลับบ้าน ฉันอยากกอดขอบคุณพี่ท็อปจัง แต่ไม่มีมือจะกอดแล้วเพราะในมือเต็มไปด้วยของที่ซื้อมาเมื่อกี้ แต่พลอยอยากได้อะไรต้องได้ อยากทำอะไรต้องทำให้ได้ ฉันกอดพี่ท็อปทั้งๆที่มือเต็มไปด้วยของพะลุงพะลัง
ฉันวางของที่ซื้อมาทั้งหมดลงกลางห้องรับแขกทันทีที่ถึงบ้าน นี่ก็เป็นเวลาดึกพอสมควร ฉันจะให้พี่ต่อกับพี่ท็อปช่วยเตรียมร้านก็ยังไงอยู่ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ค่อยมาเตรียมตอนเช้าก็แล้วกัน พี่ต่อกับพี่ท็อปต้องมาช่วยฉันอยู่แล้วเพราะพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ถ้ามานั่งอ่านหนังสือให้ฉันเห็นนะ ฉันจะยึดหนังสือให้หมดเลย
วันนี้พวกเราไม่ได้ไปวิ่งออกกำลังกายเหมือนทุกวัน เพราะทุกคนต้องมาช่วยฉันตกแต่งเคาท์เตอร์ร้านเล็กๆที่ตั้งอยู่หน้าบ้าน พี่ท็อปกับพี่ต่อช่วยกันต่อเค้าท์เตอร์ ส่วนฉันนั่งออกแบบป้ายและลงมือทำป้ายร้านอยู่ที่พื้นที่ว่างหน้าประตูบ้านจนเสร็จ พี่ๆทั้งสองคนก็ต่อเคาท์เตอร์เสร็จพอดี ฉันเดินเอาป้ายไปแขวนหน้าเคาท์เตอร์และนำอุปกรณ์มาวางเพื่อเตรียมขาย แต่นี่ก็เย็นพอดี ฉันจึงยังไม่ได้เปิดร้าน ค่อยเปิดพรุ่งนี้ก็คงยังไม่สายเกินไป
"เฮ้อ!!!"พี่ท็อปกับพี่ต่อถอนหายใจหลังจากทำร้านเสร็จเรียบร้อย แล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวประจำ ทั้งคู่นอนอยู่บนโซฟาคนละตัวด้วยท่าทางที่อ่อนล้าเต็มที
ฉันจะทำอะไรตอบแทนพี่ๆทั้งสองดีนะ ต้มมาม่าดีไหม หรือ หม้อแกงดีละ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันรู้สึกผิดนะเนี่ยที่ทำให้พี่ๆทั้งสองไม่ได้อ่านหนังสือเลยสักกะตัว แถมยังต้องมานอนหลับบนโซฟา...สภาพนี่ดูไม่ได้เลย อิอิ
ฉันค่อยๆหยิบมือถือฉันมาเปิดกล้องแล้วแอบถ่ายรูปพี่ๆทั้งสองคนตอนหลับ
'แชะ!!!'เอิ่ม...ฉันลืมปิดเสียงมือถืออ่ะ และดูเหมือนว่าพี่ต่อจะเริ่มรู้ตัวแล้วด้วย
"ส่งมือถือมาให้พี่นะ"พี่ต่อลุกจากโซฟาโผลเข้ามาแย่งมือถือจากฉัน เรื่องอะไรจะให้ละ ภาพพวกนี้หาดูยากจะตาย
ฉันวิ่งหนีพี่ต่อออกไปยังสนามหญ้าหน้าบ้าน เพราะในตัวบ้านพื้นที่แคบมาก มีหวังโดนจับได้แน่ๆ
"เรื่องอะไรจะให้ละ"ฉันแลบลิ้นหลอกล่อพี่ต่อ พี่ต่อวิ่งไล่ฉันจนในที่สุดฉันก็จนมุม พี่ต่อโผลเข้ามาจับฉัน แต่ฉันก็ยังคงดื้อไม่ส่งมือถือให้พี่ต่อ ฉันดิ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ จนพี่ต่อไม่สามารถจับฉันไว้มือเดียวได้ พี่ต่อจึงนำแขนสองข้างมาโอบกอดฉันไว้แน่นเพื่อที่จะล็อคฉันให้อยู่แล้วแย่งมือถือไป ฉันหยุดดิ้นแต่ก็ยังกำมือถือไว้แน่น อร้าย!!!พี่ต่อกอดฉัน พี่ต่อกอดฉัน ทำไงดี ทำไงดี ฉันไม่รู้จะทำตัวยังไงต่อ เพราะตอนนี้หัวใจฉันมั้นชักเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วนะสิ
"ต่อ"พี่ท็อปเดินงัวเงียออกมาจากตัวบ้านแล้วเห็นพี่ต่อกำลังกอดฉันอยู่ จึงเรียกพี่ต่อด้วยเสียงที่หนักแน่นและดุดันมาก พี่ต่อสะดุ้งจึงปล่อยฉันออกมา
"มันไม่มีอะไรนะคะ"ฉันรีบเข้าไปห้ามพี่ท็อปที่กำลังกำหมัดเดินตรงมาที่พี่ต่อ ดูจากสีหน้าและท่าทางพี่ท็อปแล้ว พี่ท็อปน่าจะโกรธพี่ต่อมากพอสมควร หวังว่าคงไม่ถึงขั้นบ้านแตกสาแหรกขาดนะ
ฉันรู้ว่าที่พี่ต่อกอดฉันเนี่ย...พี่ต่อแค่ต้องการจะแย่งมือถือในมือฉันเท่านั้นแหระ พี่ต่อไม่ได้คิดอะไรหรอก...แต่ฉันคิดนะ
"ผมขอโทษครับพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจ"พี่ต่อบอกกับพี่ท็อป
"อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกนะ"พี่ท็อปชี้หน้าพี่ต่อก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
"พลอยขอโทษนะคะพี่ต่อ แต่รูปอ่ะ...พลอยขอ"ฉันเดินเข้าไปคุยกับพี่ต่อที่ยืนอยู่กับที่
"พี่ก็ต้องขอโทษพลอยนะ ที่พี่ทำอะไรไม่คิดอ่ะ"พี่ต่อกล่าวอย่างซึ้ง แต่ฉันเซ็ง โอ๊ย!!!ทำอะไรไม่คิด....พลอยรบกวนพี่ต่อช่วยคิดหน่อยได้ไหม(พลอยอยากให้คิดค่ะ)
นี่ยังโชคดีของฉันนะที่พี่ต่อพูดคำว่าขอโทษแล้วพี่ท็อปหายโกรธ ไม่งั้นฉันคงไม่ได้เจอพี่ต่ออีกแน่ๆ
หลังจากที่พี่ท็อปหายโกรธพี่ต่อ ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม พวกเราก็เล่นกันเหมือนเดิมทำอะไรเหมือนเดิมทุกอย่าง(นี่พี่ท็อปรักฉันจริงไหมเนี่ย)
อีกแค่ไม่กี่วันมหาลัยของพี่ก็จะปิดเทอมแล้ว ฉันนี่นั่งค้นคว้าหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวแล้วเขียนเป็นรายการไว้ทั้งหมดสองหน้ากระดาษเอสี่(นี่ปิดเทอมแค่สองเดือนนะ ที่ฉันจดไว้ก็ประมาณสองร้อยรายการได้ กะจะไม่ขายกาแฟกันเลยทีเดียว ฮ่าฮ่าฮ่า)
ส่วนพี่ต่อกับพี่ท็อปก็นั่งอ่านหนังสือกันอย่างเอาจริงเอาจังกับการสอบปลายภาคเรียนมาก เฮ้อ!!!นี่ขนาดพี่ท็อปเก่งอยู่แล้วนะยังอ่านหนังสือกองท่วมหัวเลย นี่ถ้าเปิดเทอมแล้วฉันไปเรียนเนี่ย สอบทีหนึ่งฉันไม่ต้องอ่านหนังสือกองท่วมบ้านเหรอ
เออลืมไปเลยว่า...ฉันมีร้านกาแฟที่ต้องรับผิดชอบอยู่นี่นา ฉันคงไปเที่ยวไหนบ่อยๆไม่ได้หรอก เมื่อฉันไปไม่ได้พี่ๆทั้งสองคนก็ไปไม่ได้เหมือนกัน พี่ๆทั้งสองคนต้องมาช่วยฉันขายกาแฟที่ร้าน (ทำเหมือนลูกค้าเยอะจนขายคนเดียวไม่ไหวงั้นแหระ ฮ่าฮ่าฮ่า) ฉันวางกระดาษเอสี่ที่จดรายการเที่ยวไว้บนโต๊ะแล้วไปยกคุกกี้กับนมมาให้พี่ท็อปกับพี่ต่อ แล้วก็ขึ้นนอน
"เย้!!!ปิดเทอมแล้ว"เสียงพี่ท็อปกับพี่ต่อเฮกันอยู่ในบ้าน หลังจากสอบเสร็จตั้งแต่บ่ายสาม ประกอบด้วยช่วงสอบก็ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไร จึงกลับบ้านเร็วเป็นพิเศษ
"สอบเสร็จแล้วก็มาช่วยพลอยขายกาแฟเลย"ฉันตะโกนจากเค้าท์เตอร์ร้านกาแฟหน้าบ้าน
"โอ๋ๆ!!!เด็กน้อย"พี่ต่อเดินมาหาฉันที่เคาท์เตอร์ร้านกาแฟแล้วเอามือทั้งสองข้างมาหยิกแก้มฉัน ไม่ได้โกรธที่โดนหยิกแก้มนะ แต่โกรธที่เรียกฉันว่าเด็กน้อยต่างห่าง แก่กว่าฉันแค่ปีเดียวก็ยังจะเรียกอยู่นั่นแหระ เด็กน้อย เด็กน้อย เด็กน้อย หึๆ ตัวเองโตตายแหระ
"ช่วยขายเลย"ฉันบอกพี่ต่อด้วยสีหน้างอนๆ
"ก็มาช่วยแล้วนี่ไง ยังจะงอนอีก"พี่ต่อพูดพลางทำหน้าทะเล้นๆใส่ฉัน หึๆ สอบเสร็จแล้วดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีเลยนะ
ฉันกับพี่ต่อช่วยกันปิดร้านกาแฟหลังจากที่พี่ต่อมาช่วยขายสักพัก เสร็จแล้วก็พากันเดินเข้าไปในบ้าน
ฉันมองไปบนโต๊ะรับแขกซึ่งมันเต็มไปด้วยซองมาม่าที่ยังไม่ได้แกะ แสดงว่าพี่ท็อปยังไม่ได้ทำอะไร...โล่งใจ
"พี่ท็อปจะทำอะไรอ่ะ"ฉันถามพี่ท็อปที่กำลังหั่นผักอยู่ในครัว
"ก็ฉลองสอบเสร็จไง"พี่ท็อปยังคงหั่นผักต่อไป นี่พี่ท็อปจะรู้ตัวไหมเนี่ยว่ามันมีอย่างอื่นที่สามารถเอามาฉลองได้ที่ไม่ใช่มาม่าเนี่ย โอ๊ย!!!ปวดหัวจัง ไม่รู้ว่าจะกินมาม่าบำรุงสมองกันไปถึงไหน นี่ก็ปิดเทอมแล้วยังต้องใช้สมองกันอีกเหรอ
จะทำอะไรก็ตามใจพี่ท็อปเลยละกัน ฉันจะไม่คัดค้าน เหมือนที่พี่ท็อปไม่ค้านฉันเวลาที่ฉันตัดสินใจจะเรียนหมอ ตัดสินใจจะเปิดร้านกาแฟ หรือแม้กระทั่งเรื่องพี่ต่อก็ตาม
"พี่ต่อนั่งกินมาม่าที่พี่ท็อปต้มให้อย่างเอร็ดอร่อย ไม่รู้ว่าไปอดอยากที่ไหนมา หรือว่าฉันใช้พี่ต่อขายกาแฟหนักไป ไม่น่าใช่นะแค่สองชั่วโมงกว่าๆเองและขายกาแฟก็ไม่ได้ใช้พลังงานเยอะขนาดนั้นด้วย
"พี่ต่อไม่ได้กินข้าวกลางวันเหรอคะ"ฉันว่าต้องใช่แน่ๆ ถ้ากินเอาๆขนาดนี้นะ ถึงแม้ว่าพี่ท็อปจะต้มมาม่าได้อร่อยมาก แต่ฉันก็ไม่ได้กินด้วยท่าทางหิวโหยแบบพี่ต่อนี่
"ข้าวกลางวันน่ะกิน แต่ต่อเขาไม่เคยกินอาหารบ้านๆแบบเราหรอก"พี่ท็อปตอบแทนพี่ต่อที่ยังกินมาม่าอยู่
ไม่เคยกินมาม่าเนี่ยนะ มาม่านี่หาซื้อง่ายมาก แค่เดินไปร้านสะดวกซื้อก็มีขายเยอะแยะ พี่ต่อไปอยู่ที่ไหนมาเนี่ยถึงไม่เคยกิน บอกตรงๆว่าไม่เข้าใจที่พี่ท็อปพูด
หลังจากที่พี่ต่อกลับบ้านไปพี่ท็อปก็เล่าเรื่องพี่ต่อให้ฉันฟัง พี่ท็อปบอกฉันว่า 'บ้านต่อคือหลังที่ใหญ่ที่สุดในซอยนี้ บ้านต่อทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ บ้านเขาไม่ได้มากินอะไรแบบที่บ้านเรากินหรอก ขนาดข้าวที่มหาลัยคุณแม่ต่อยังไม่ให้กินเลย ต้องมีคนคอยเอาข้าวไปส่งให้ที่มหาลัยตลอด' เท่าที่พี่ท็อปเล่ามาเนี่ย...พี่ต่อก็ดูคุณชายใช่ย่อย แต่ทำไมฉันไม่เห็นพี่ต่อแสดงท่าทางหรือนิสัยอะไรที่แสดงว่าตัวเองเป็นคุณชายเลยสักนิด แต่ก็ดีแล้วแหระ เพราะถ้าพี่ต่อถือตัวนะ...ป่านนี้ฉันก็คงไม่ได้มาสนิทสนมกับพี่ต่อหรอก และนี่ก็คืออีกหนึ่งความโชคดีของฉัน สรุปแล้วพี่ต่อนี่ก็เป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็คเลยนะเนี่ย หล่อ รวย นิสัยก็ใช้ได้ เรียนก็เก่ง ใครได้เป็นแฟนนะโชคดีตายเลย และคนๆนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากฉัน
จะทำยังไงนะให้คู่ควรกับเขาให้ได้ ตอนนี้ก็สอบเข้าเรียนแพทย์ได้แล้ว...ถือว่าเก่งพอสมควร ผิวพรรณหน้าตาของฉันก็โอเคแล้ว จะเหลือก็แต่รวยเนี่ยแหระ ขายกาแฟต่อไปละกัน...ทำไงได้ละ
ฝากติดตามบทต่อไปด้วยนะคะ สนุก/ไม่สนุก...ยังไง ฝากแสดงความคิดเห็นและโหวตให้ด้วยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ