None

10.0

เขียนโดย katem

วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.29 น.

  10 ตอน
  2 วิจารณ์
  12.65K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 21.32 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

















--------------------------------------------------------
รอสายเรียกเข้าอยู่พักใหญ่ก่อนจะได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสาย
“ฮัลโหล ว่าไงเจอน้องชายตัวดีของนายแล้วสิ” น้ำเสียงปลายสายยังคงความขุ่นเคืองอย่างชัดเจน
“เจอแล้ว ขอคุยกับแก้วหน่อย” ตอบเสียงเรียบไม่สะทบสะท้าน แต่ทุกคำพูดเล่นเอาคนฟังที่ปลายสายควันออกหู
“ไอ้โทโมะแกยังจะมีหน้ามาคุยกับน้องฉันอีกเหรอ ฉันไม่ฆ่าแกก็บุญเท่าไหร่แล้ว” น้ำเสียงโมโหจัดตอบกลับไม่ลดละ
“จะให้คุยดีๆ หรือให้เรื่องนี้ดังก่อนหะอีกอย่างถ้าฉันไม่แน่ฉันไม่กล้าทำหรอก” ตอบกลับไม่สนใจอาการของคนอีกฝั่ง แต่ทุกคำพูดทำเอาพี่ชายอ้าปากค้าง หน้าซีดไม่คิดว่าเจ้าน้องชายตัวดีจะกล้าบ้าระห่ำได้ขนาดนี้
“ไอ้บ้าโทโมะ แก้วหลับแกจะคุยไหม” ทั้งโกรธ ทั้งกลัวกลับคำพูดไร้การกลั่นกรองที่ได้ยิน ตอบกลับเสียงแผ่ว กลัวน้องสาวที่หลับใหลจะตื่นเนื่องจากอารมณ์ของตน
“ไปปลุก ถ้าไม่ไปฉันจะไปปลุกเอง เร็วๆ” ตอบกลับไม่ลดละ ดูก็รู้ว่าอารมณ์มันตอนนี้คงเริ่งคุอีกแล้วแน่ๆ คิ้วจะผูกโบว์ได้อีกแล้วครับ ไอ้นี่เวลามันโกรธน่ากลัวชะมัด ยอมเถอะครับคุณกิ่งเคนขอร้อง
“นายคิดว่านายแน่มาจากไหน ฉันไม่ทำ”
“ได้ไม่ทำใช่ไหม งั้นอีกสักพักเราคงได้พบกัน” สิ้นเสียง มือแกร่งยกมือหมายจะปาโทรศัพท์ทิ้งเพราะความไม่ได้ดั่งใจ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมีอีกมือ ของอีกคนดึงไว้
“ไอ้บ้า ใจเย็นๆสิวะ แล้วอีกอย่างโทรศัพท์ชั้นโว้ย ทำไมยัยกิ่งไม่ให้คุยอ่ะดิ หน้าถึงได้บูดขนาดนี้”
“ใช่ .... พี่เดี๋ยวผมมานะ จะไปหาเมีย” บอกเสียงเรียบก่อนจะคว้ากุญแจรถของตนเดินออกไปหน้าตาเฉย
“เห้ย ๆ เดี๋ยว แกรู้เหรอว่าแก้วอยู่ไหน มานี่เลยมานั่งนี่” ทุกการกระทำ เล่นเอาคนเป็นพี่ชายปวดหัวก่อนจะวิ่งไปคว้าตัวมันไม่ให้วู่วาม ไอ้บ้านี่เปลี่ยนเป็นคนอารมณ์ร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“พี่จะรั้งผมไว้ทำไม ผมรู้หรอกว่าเมียผมอยู่ไหนปล่อย”
“เค้าไม่อยู่ที่บ้านหรอกน่าเชื่อเถอะ แล้วแกก็ใจเย็นๆบ้างได้ไหม ยังไงตอนนี้แก้วก็ปลอดภัย”
กว่าจะลากให้มันสงบใช้เวลาเกือบชั่วโมง เห็นทีผมคงต้องขอพ่อกับแม่มาอยู่เป็นเพื่อนมัน ไม่งั้นงานนี้น้องแก้วไม่สงบแน่ เพราะไอ้น้องผมมันพูดจริงทำจริงเสียด้วย นั่งให้มันสงบสติอารมณ์สักพักเจ้าโทรศัพท์คู่ใจก็ร้องดังสนั่นเสียงจากหญิงสาวอีกฝั่ง ดูแล้วคงหวั่นใจไม่แพ้ผมแน่ๆ
“กิ่งว่าไงครับ เมื่อกี้ขอโทษแทนโทโมะด้วยนะ”
“ไม่ว่าไงอ่ะ เมื่อกี้น้องนายอยากคุยกับน้องสาวฉัน แต่ฉันไม่ให้คุยฉันกลัวว่าน้องนายจะทำอะไรบ้าๆ”
“เกือบครับแต่พอดีเคนห้ามมันทัน ตอนนี้ให้มันสงบสติอารมณ์อยู่ในห้อง แต่ทางที่ดีกิ่งให้มันคุยเถอะเพราะเคนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะคุมมันอยู่ได้นานแค่ไหน แล้วตอนนี้น้องแก้วเป็นไงบ้าง”
“หลับอยู่ กิ่งกลัว ใจนึงก็สงสารน้อง แต่อีกใจก็กลัวเคนจิเข้าใจใช่ไหม” ได้ยินเหตุผลที่ชายหนุ่มยกมาอ้างทำเอาความโกรธหายหมดสิ้นเปลี่ยนเป็นความกังวลเข้ามาแทนที่
“เข้าใจครับ แล้วนี่กิ่งจะเอาอย่างไงต่อไป เคนว่าทางที่ดีกิ่งต้องอยู่กับแก้วสักพัก เพราะตอนนี้เคนก็อยู่กับโทโมะที่คอนโด อย่างน้อยจะได้ช่วยดูเผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้น”
“คงไม่ต่างกันหรอก กิ่งอยู่กับน้องที่คอนโดเหมือนกันนั่นแหละ เดี๋ยวคงต้องบอกม๊าว่าให้แก้วอยู่คอนโดสักพัก” บอกตามจริงเพราะมีความเห็นไม่แตกต่างกัน ขืนปล่อยให้ม๊ารู้เรื่องมีหวังบ้านแตก ขึ้นหน้าหนึ่งแน่ๆ อีกอย่างก็กลัวอาการของคู่กรณี เอาว่ะไหนๆ อีกฝั่งมีพี่ชายคุม เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องปกป้องน้องสาวฉันเหมือนกัน
“ดีแล้วครับกิ่งอยู่กับน้องที่คอนโดนั่นแหละ เดี๋ยวเราค่อยๆหาทางบอกผู้ใหญ่ตอนนี้คงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน งั้นเราตกลงตามนี้แล้วกันครับ มีอะไรรีบโทรมาเลยนะ”
“ขอบคุณ งั้นแค่นี้ก่อนแล้วกัน ยัยแก้วรู้สึกตัวแล้ว” บอกกลับหน้าเครียส กดวางสายก่อนเดินไปดูน้องสาว
---------------------------------------------------
“แก้วอยู่คอนโดเหรอ” ทุกประโยคที่พี่ชายคุยโทรศัพท์เค้าได้ยินหมดแล้ว เพียงแค่ตอนนี้อยากมั่นใจว่า คนสวยอยู่ที่เดียวกับที่เค้าคิดไว้
“เห้ย แกมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ร้องถามเสียงหลง โกรธในความงี่เง่าของตน สุดท้ายไอ้น้องชายก็รู้จนได้ว่าคู่กรณีของมันอยู่ไหน ซวยแล้วครับกิ่ง เคนขอโทษนะ
“ตั้งแต่พี่คุยแล้ว สรุปเมียผมอยู่คอนโดใช่ไหม” ถามจ้องหน้าผู้เป็นพี่ชายนิ่ง นี่พี่เห็นคนอื่นดีกว่าน้องตัวเองตั้งแต่เมื่อไร
“เออ ใช่แล้วต่อไปนี้แกก็ต้องอยู่ที่นี่ห้ามไปไหน เพราะต่อไปนี้ฉันจะคุมความประพฤติแก”
“พี่คิดว่าพี่ทำได้เหรอ” ถามพี่ชายหน้านิ่งก่อนจะเดินเข้าหาไม่เกรงกลัว
“ไอ้โมะ แกใจเย็นก่อนได้ไหม ตอนนี้แกก็รู้แล้วว่าแก้วอยู่ไหน แล้วแกจะอะไรกันน้องเค้านักหนาว่ะ อีกอย่างแกได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้วไม่ใช่รึไง”
“.............”
“วันนี้ดึกมากแล้ว พี่ว่าแกนอนพักก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที” บอกเสียงเรียบพร้อมตบบ่าน้องชาย
“พี่ ขอคุยกับแก้วหน่อยได้ไหม” หันบอกพี่ชายอย่างจนปัญญา ในเมื่อสิ่งที่พี่ชายพูดนั้นถูกทุกคำ
“เห้อ! แกนี่นะ เอาเป็นพรุ่งนี้ได้ไหมวันนี้ดึกแล้ว ไม่ห่วงน้องเค้ารึไง”
“ก็เพราะห่วงไง ถึงอยากได้ยินเสียง ต่อให้แก้วด่าผมก็ยินดี พี่ช่วยผมหน่อยนะ”
“แกแน่ใจเหรอว่าแกจะไม่ตะคอกใส่เค้าเหมือนที่ทำกับกิ่งเมื่อกี้”
“ถึงผมจะตะคอกแต่ที่ผมทำก็เพราะผมรักเค้า พี่เคนจิช่วยผมหน่อยได้ไหม ไม่งั้นยังไงวันนี้ผมก็ต้องเจอแก้ว” บอกแค่นั้นก่อนจะคว้ากุญแจรถอีกครั้ง
“เออๆ แต่แกต้องสัญญาก่อนไม่ว่าแก้วจะคุยหรือไม่คุย วันนี้แกห้ามไปก่อกวนน้องเค้านะโว๊ย”
“ครับ” น้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง ทำให้คนพี่ชายส่ายหัวเอือมระอาในความดื้อรั้นเอาแต่ใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์คู่ใจโทรหาหญิงสาวที่คุยด้วยเมื่อคู่
------------------------------------------------
“ฮัลโหล เคนโทรมาดึกขนาดนี้มีอะไร อย่าบอกนะว่าน้องชายนายอาระวาท”
“ป่าวกิ่ง แค่จะถามว่าน้องแก้วเป็นไงบ้าง”
“ตื่นแล้วแหละ ตอนนี้กิ่งให้เข้าไปนอนในห้องสักพักแล้ว ทำไมเหรอ”
“เฮ่อ! …….” ได้แต่ถอนหายใจไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยความต้องการของน้องชาย ส่งผลให้เจ้าน้องชายหน้านิ่วคิ้วขมวด แสดงอาการหงุดหงิดออกมาอีกครั้ง
“ถอนหายใจมีเรื่องอะไรเคน บอกกิ่งมาเร็วๆ” ยิ่งเค้าไม่พูดเธอยิ่งกลัว กลัวใจของอีกคนจะเล่นอะไรแผลงๆ
“ไอ้โมะมันจะคุยกับแก้วให้ได้ ไม่งั้นมันจะไปหาถึงบ้าน ขอโทษนะกิ่ง” บอกเสียงแผ่วเบา หวั่นใจกับปลายสายแล้วก็คนตรงหน้า
“ไม่ได้นะ ให้ไปที่บ้านไม่ได้ ยังไม่ใช่ตอนนี้” ร้องเสียหลงอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะบ้าได้ขนาดนี้
“แล้วจะให้เคนทำไง นี่จับมันมัดได้ จับไปแล้ว ช่วยหน่อยนะกิ่งขอร้อง”
“เห่อ กิ่งจะลองดู ไม่รู้ว่าแก้วจะคุยด้วยหรือป่าว แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเคนต้องคุมน้องนายให้อยู่ ห้ามไปหาแก้วที่บ้านเข้าใจไหม”
“ตกลงกิ่ง ไอ้โมะมันสัญญาแล้ว”
“งั้น รอก่อนนะ” บอกเสียงเรียบหน้าเครียสกับประโยคของอีกฝ่ายเมื่อครู่ แต่ทำไงได้ในเมื่อไม่อยากให้เรื่องร้ายแรงมากไปกว่านี้ เดินไปเคาะประตูห้องน้องสาว
“แก้ว เจ๊เข้าไปได้ไหม”
“ได้คะ แก้วยังไม่หลับ”
เดินปรี่เข้าหาน้องสาว ก่อนจะนั่งลงข้างๆ มือเรียวลูบผมปลอบขวัญก่อนจะเอ่ยความต้องการของอีกฝ่ายอย่างยากลำบาก
“แก้ว โทโมะจะคุยด้วย”
พอได้ยินชื่อทำเอาอาการสะอื้นกลับมาอีกครั้ง ส่ายหน้าเป็นสัญลักษณ์
“แก้ว เจ๊รู้ว่าแก้วเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เจ๊ว่าแก้วคุยกับโทโมะเถอะ เพราะเจ๊ไม่อยากให้เรื่องบานปลายมากไปกว่านี้ อีกอย่างถ้าเราไม่คุยกับเค้างานนี้ม๊ารู้แน่ๆ แก้วไม่อยากให้ม๊าเสียใจใช่ไหม”
สิ้นคำพูดพี่สาว ทำเอาหญิงสาวน้ำตาตก ในเมื่อไม่มีทางเลือกให้เธอ จึงต้องจำใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ค่อยๆยันกายลุกขึ้น มือเรียวเช็ดน้ำตาลวกๆ พยักหน้าช้าๆ
เห็นอาการน้องสาว คว้าร่างบางมากอดแน่นสงสารจับใจ ก่อนจะยกโทรศัพท์บอกอีกฝั่ง
“แก้วยอมแล้ว แต่กิ่งให้เวลาแค่นาทีเดียวนะ”
“ขอบคุณครับ” ก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้น้องชาย
----------------------------------------
“แก้ว เจ๊รอข้างนอกนะ” ดึงน้องสาวมากอดอีกครั้ง ส่งโทรศัพท์ให้ก่อนเดินหน้านิ่งไปรออยู่หน้าห้อง
หญิงสาวรับโทรศัพท์จากพี่สาว ปล่อยเวลาสักพักก่อนจะยกขึ้นแนบหูฟังเสียงอีกฝั่ง
-----------------------------------------
“ฉันรู้ว่าเธอฟังอยู่ อย่าเล่นสงครามประสาทเพราะมันจะไม่หยุดแค่นี้แน่ เลือกเอาจะพูดหรือไม่พูดถ้าไม่พูดเราได้เจอกันอีกแน่แก้วใจ” บอกปลายสายเสียงดุดัน แต่ทุกสิ่งที่เค้าทำมันตรงข้ามกับหัวใจทั้งสิ้น ที่ทำทั้งหมดเพราะอยากได้ยินเสียงหวานๆเท่านั้น จะด่า จะโกรธอย่างไงก็ได้ ขออย่างเดียวแก้วต้องคุยกับผม
“.......”
“ไม่พูดใช่ไหมได้ อีกไม่เกินชั่วโมงเจอกันที่รัก” หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมในเมื่อเธอไม่คุยด้วยก็มีทางเดียว ยังไงวันนี้แก้วต้องคุยกับผม
“ต้องการอะไร” ได้ผล เพราะคำขู่หรือคำพูดจริงจังเมื่อครู่ส่งผลให้ร่างบางร้องถามเสียงหลง
“หึ หึ พูดได้แล้วเหรอ ถามมาได้ว่าต้องการอะไร .... หนีกลับบ้านไม่บอกเลยนะที่รัก”
“นายต้องการอะไรอีก”
“ต้องการเธอไงแก้วใจ เอาแหละเห็นว่าวันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน แถมเธอให้ในสิ่งที่ฉันต้องการฉันจะไม่กวนเธออีก แต่ถ้าพรุ่งนี้เธอหลบหน้าหรือหนีหน้าฉันเหมือนวันนี้ รับรองเรื่องที่เกิดมันจะไม่เป็นความลับระหว่างเราแน่ นอนซะแล้วอย่าให้รู้ว่าแอบร้องไห้หรือว่าแอบโทรหามัน เพราะถ้าเป็นอย่างงั้นรู้ใช้ไหมว่าเธอต้องเจอกับอะไร” บอกเสียงเด็ดขาดก่อนจะตัดสาย ไม่ใช่ไม่อยากคุยแต่ได้ยินเสียงสะอื้นที่เล็ดลอดมาเป็นระยะแล้วกลัวข่มใจไม่ได้ มีหวังคืนนี้ได้ทำผิดสัญญากับพี่ชายกันบ้าง
--------------------------------------------









 





 
“ฉันรู้ว่าเธอฟังอยู่ อย่าเล่นสงครามประสาทเพราะมันจะไม่หยุดแค่นี้แน่ เลือกเอาจะพูดหรือไม่พูดถ้าไม่พูดเราได้เจอกันอีกแน่แก้วใจ” บอกปลายสายเสียงดุดัน แต่ทุกสิ่งที่เค้าทำมันตรงข้ามกับหัวใจทั้งสิ้น ที่ทำทั้งหมดเพราะอยากได้ยินเสียงหวานๆเท่านั้น จะด่า จะโกรธอย่างไงก็ได้ ขออย่างเดียวแก้วต้องคุยกับผม
“.......”
“ไม่พูดใช่ไหมได้ อีกไม่เกินชั่วโมงเจอกันที่รัก” หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมในเมื่อเธอไม่คุยด้วยก็มีทางเดียว ยังไงวันนี้แก้วต้องคุยกับผม
“ต้องการอะไร” ได้ผล เพราะคำขู่หรือคำพูดจริงจังเมื่อครู่ส่งผลให้ร่างบางร้องถามเสียงหลง
“หึ หึ พูดได้แล้วเหรอ ถามมาได้ว่าต้องการอะไร .... หนีกลับบ้านไม่บอกเลยนะที่รัก”
“นายต้องการอะไรอีก”
“ต้องการเธอไงแก้วใจ เอาแหละเห็นว่าวันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน แถมเธอให้ในสิ่งที่ฉันต้องการฉันจะไม่กวนเธออีก แต่ถ้าพรุ่งนี้เธอหลบหน้าหรือหนีหน้าฉันเหมือนวันนี้ รับรองเรื่องที่เกิดมันจะไม่เป็นความลับระหว่างเราแน่ นอนซะแล้วอย่าให้รู้ว่าแอบร้องไห้หรือว่าแอบโทรหามัน เพราะถ้าเป็นอย่างงั้นรู้ใช้ไหมว่าเธอต้องเจอกับอะไร” บอกเสียงเด็ดขาดก่อนจะตัดสาย ไม่ใช่ไม่อยากคุยแต่ได้ยินเสียงสะอื้นที่เล็ดลอดมาเป็นระยะแล้วกลัวข่มใจไม่ได้ มีหวังคืนนี้ได้ทำผิดสัญญากับพี่ชายกันบ้าง
--------------------------------------------
ยื่นโทรศัพท์ให้พี่ชายหน้านิ่ง คิดถึงเสียงหวานเมื่อครู่จับใจ
“พี่ขอบคุณครับ แต่ผมขอโทษนะผมอยู่ไม่ได้”
“เห้ย แกจะทำอะไร แกสัญญากับพี่แล้วนะ” ร้องห้ามเสียงดังลั่น วิ่งมาขวางหน้าประตู เมื่อเห็นเจ้าน้องชายคว้ากุญแจรถคู่ใจ
“ผมอยากเจอเค้าพี่ ขอร้องพี่อย่าห้ามผมอีกเลย” เอ่ยบอกพี่ชายเสียงหนักแน่น ก่อนค่อยๆดันพี่ชายออกให้พ้นทางเดินก้าวยาวหน้านิ่งออกไป
“แกนี่เว้ย มันอะไรกันหนักหนาหะ เอาว่ะเป็นไงเป็นกัน ถ้าแกไปฉันไปด้วย” คว้ากุญแจจากมือแกร่งก่อนกึ่งวิ่งกึ่งเดินเจ้าน้องชายตัวดี
.ใช้เวลาไม่นานก็ถึงคอนโดหรูอีกแห่ง ก้าวยาวเดินลิ่วกดลิฟต์จุดมุ่งหมายคือห้องหรูด้านบน ชั่วอึดใจร่างสูงสองร่างยืนตระหง่านอยู่หน้าประตูบานโต เสียงเคาะประตูดังกึกก้อง ส่งผลให้สาวร่างบางที่นั่งคิดอะไรอยู่ใจกลางห้องกระเด้งตัวลุกขึ้นโดยเร็ว พร้อมเสียงบ่นถึงการถูกรบกวนยามวิกาล
“โอ้ย ใครนะมาป่านนี้จะตีหนึ่งอยู่แล้ว เจอเรื่องไม่ดีมาทั้งวัน นี่กะไม่ให้พักผ่อนกันเลยหรือไง ถ้าเป็นรูมเซอร์วิสนะแม่จะด่าให้” เดินบ่นน้ำเสียงหงุดหงิดมือเรียวเอื้อมเปิดประตูโดยไม่คิดแม้จะส่องมอง ก็แน่แหละในเมื่อคอนโดที่น้องสาวอยู่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยเป็นเลิศ นี่คงเป็นพนักงานที่ให้บริการผิดห้องแน่ๆ
----------------------------
เปิดประตูได้ก็ถึงกับผงะ ตกตลึงกับสองร่างตรงหน้าก่อนจะกระเด็นถอยหลังเมื่อโดนกระแทกจนตัวปลิว คู่กรณีของน้องสาวถือวิสาสะเดินนิ่งเข้ามาให้ห้อง สายตาเหยี่ยวหันมาจับจ้องหญิงเจ้าของห้องไม่เกรงกลัว
“แก้วอยู่ใช่ไหม”
“แก ไอ้โทโมะแกมาทำไม ..... นาย” ร้องโวยวายเสียงดัง แต่แล้วเสียงก็ถูกปิดด้วยมือแกร่งของคนผู้เป็นพี่ชายคู่กรณี
“กิ่ง เบาๆสิ เดี๋ยวก็เรื่องใหญ่หรอก เคนขอโทษห้ามมันไม่อยู่จริงๆ”
ทั้งดิ้นทั้งดัน ก่อนจะยอมแพ้แรงที่ถูกกระทำ ค่อยๆแกะมือที่ปิดปากออกช้าๆ ก่อนจะหันมองหน้านิ่ง
“มาทำไม ฉันก็ให้คุยแล้วไง นายจะเอาอย่างไงอีก”
“ไม่เอาไง แก้วอยู่นี่จริงๆ ห้องนี้สินะ” ตอบเสียงเรียบพร้อมรอยยิ้มที่ไม่มีผู้ใดเคยเห็น
“อยู่หรือไม่อยู่มันไม่เกี่ยวกับนาย”
“หึ หึ อยู่จริงๆ งั้นขอเวลา ผัว เมีย เค้าเป็นการส่วนตัวนะ” บอกแค่นั้นก่อนจะก้าวยาวเปิดประตูห้องเข้าไปโดยไม่สนใจเสียงคัดค้างของคนตรงหน้า
หญิงสาวยืนตาค้าง สะบัดตัวเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมหวังเพื่อกระชายผู้บุกลุก แต่ก็เท่านั้นในเมื่ออีกคนดึงเธอไว้แน่น พร้อมส่งสัญญาณว่าอย่าโวยวาย
“กิ่ง กิ่งพอเถอะเราทำอะไรไม่ได้แล้ว” เอ่ยบอกหญิงสาวที่ตนจับเสียงเรียบแสดงความรู้สึกผิด
“ฉันก็ให้คุยไปแล้ว นายยังพามาที่นี่อีกเหรอ” ถามน้ำเสียงดุดัน ก่อนจะผลักชายที่เกาะกุมกระเด็น
“แล้วจะให้ทำยังไง เธอจะยอมให้มันไปที่บ้านเหรอ” ตวาดกลับให้พอได้ยินแค่สองคน ในเมื่อไม่คิดจะฟังก็ต้องเสียงดังกันบ้าง
“.........”
“แล้วก็เพราะฉันเป็นห่วงน้องแก้วเหมือนกันถึงต้องเป็นคนพามันมาเอง ถ้าคืนนี้มันรังแกน้องแก้วอีกต่อให้เป็นน้องชาย ชั้นก็ไม่เว้น พอใจรึยัง” เอ่ยบอกความจริงเสียงดัง หวังให้หญิงสาวตรงหน้ามีสติบ้าง แค่นี้ปัญหาก็เยอะพออยู่แล้ว
“นายพูดเองนะ งั้นเราจะได้เห็นดีกันอีกอย่างถ้าน้องชายนายทำน้องชั้นร้องไห้อีกนายตายแน่” บอกคาดโทษก่อนเดินมานั่นจับจ้องประตูบานใหญ่นิ่ง ผู้บุกลุกอีกคนก็ทำเช่นเดียวกัน ความเงียบเข้าบกคลุมอีกครั้งหวั่นใจเหลือเกินกับคนที่อยู่ในห้อง
------------------------------------
เดินก้าวยาว มือแกร่งค่อยๆปิดประตูเบามือ เห็นคนสวยแสนรักนอนหลับสนิทบนเตียงใหญ่ ดวงตาและจมูกแดงกล่ำ นั่งลงด้านข้างแผ่วเบามือเรียวไล้ผมที่ปกปิดใบหน้าหวาน ก่อนจะจูบแผ่วเบาที่หน้าผากนวนเนียน
“ขอโทษนะที่รัก” บอกน้ำเสียงขาดๆหายๆ ทุ้มต่ำ ก่อนจะค่อยๆล้มตัวนอนด้านข้างจัดท่าทางร่างบางกระชับกอดแน่น แต่แรงกดทับบนเตียงนุ่มทำให้หญิงสาวในอ้อมกอดกระพริบตาช้าๆ ก่อนจะหันหน้ามาเจอคนที่สวมกอด ทั้งตื่นตระหนก ทั้งกลัว พยายามดิ้นลนสารพัดเพื่อให้หลุดจากการพันธนาการของร่างแกร่ง
“ไม่เข็ดใช่ไหม .......... นอนได้แล้วง่วง” สิ้นเสียงทุ้มต่ำคำราม ทำเอาร่างบางต้องชะงัก นอนแน่นิ่งตัวแข็ง
เมื่อเห็นคนสวยนอนนิ่ง จึงกระชับกอดให้แน่นขึ้น ดึงร่างบางกอดแนบอกฝังจมูกลงบนลำคอระหง ก่อนกระซิบเสียงหวานแผ่วเบา
“นี่โทโมะมีเมียหรือขอนไม้กันแน่ นอนนะครับที่รัก” กอดแน่นกว่าเดิม ฝังจูบบนคอระหงอีกครั้ง
----------------------------------
ตกใจกับหนุ่มอีกคนในห้องแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก หวาดกลัวไปหมดร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะรินไหล ปล่อยให้เขาก่ายกอดตามใจ ตั้งใจว่าจะรอเวลาที่เค้าหลับสนิทแล้วรีบหนีไปเหมือนเดิม แต่ก็ต้องผิดคาดในเมื่อร่างกายอ่อนแอ จำต้องยอมแพ้แล้วหลับสนิทในอ้อมกอดชายผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี
..............................


 
 




 






 
 

 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา