None

10.0

เขียนโดย katem

วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.29 น.

  10 ตอน
  2 วิจารณ์
  12.86K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 21.32 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

---------------------------------

ขนตางอนแพหนากระพริกถี่ตื่นจากการหลับสนิท ขยับตัวแต่ละครั้งปวดล้าไปหมด ค่อยๆดึงมือหนาที่โอบกอดออกช้าๆ แต่กลับถูกสวมกอดแน่น

“ตื่นแล้วเหรอ .... หึ” กระซิบแผ่วเบาข้างหู ก่อนจะฝากรอยรักไว้บริเวณลำคอระหง

“ปล่อย” เสียงหวานแหบพร่าแผ่วเบา บอกความต้องการของตน

“พูดดีๆก่อนแล้วจะปล่อย หรือพูดให้เหมือนที่พูดกับพี่ชายคนสนิท ทำได้ไหม” กระชากน้ำเสียงแข็งกร้าว ดึงร่างบางกอดแน่นกว่าเดิม

ลำแขกแกร่งที่โอบกอด ส่งผลให้ร่างบางทวีความอ่อนล้า ปวดหนึบไปทั้งกายจำต้องยอมร่างสูงเอาแต่ใจ อ่อนแอทั้งกาย อ่อนแอทั้งใจ จำยอมทำในสิ่งที่เค้าบัญชา

“ปล่อยแก้วก่อน” ผืนใจบอกเสียงหวานทุ้มต่ำ

“หือ แก้วพูดอย่างนี้น่ารักจัง แต่จะดีกว่านี้ถ้าพูดออกมาจากตรงนี้” ยกมือหนาที่โอบกอดวางมือแผ่วเบาใจกลางอกหยุ่น ส่งผ่านความรู้สึกและความต้องการ

“.........” เลือกที่จะไม่ตอบ นิ่งเงียบปล่อยสมองคิดเรื่องราวที่เกิดเพียงข้ามคืน ค่อยๆยกมือบางจับมือชายหนุ่มที่ทาบทับอยู่บนอบหยุ่น พยายามแกะให้หลุดพ้นจากสัมผัสแต่ก็โดนรวบไปกอดกุมไว้แนบอกอีกครั้ง

“รังเกียจพี่มากใช่ไหม ถึงพยายามผลักไสกันแบบนี้” กระซิบข้างลำคอระหง น้ำเสียงตัดพ้อหญิงสาวในอ้อมกอด

“........”

“ตอบมาสิ แก้วเกลียดพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“........”

“พี่รู้สิ่งที่พี่ทำมันเลวพี่ขอโทษ แต่ถึงย้อนเวลากลับไปได้พี่ก็จะทำเหมือนเดิม” น้ำเสียงทุ้ม บอกความรู้สึกจากใจ ไม่ได้หวังให้เธออภัย แต่อย่างน้อยถ้าจะเกลียดก็ขอให้เธอได้รู้ถึงสาเหตุที่ผมต้องทำ

“.......”

“พี่ทนไม่ได้ พี่เสียแก้วไปไม่ได้” ทั้งน้ำเสียงและการกระทำบ่งบอกว่าเค้ายอมแพ้ให้สาวร่างบางหมดสิ้น

“.......”

“ยิ่งพี่เห็นข่าวพี่ยิ่งทรมาน ทุกรอยยิ้ม ทุกภาพ ทุกการกระทำ แก้วไม่รู้หรอกว่ามันมีผลกับพี่มากแค่ไหน ทำไมแก้ว ทำไม พี่สู้มันไม่ได้ตรงไหน” เอ่ยถามเสียงหนักแน่น ดึงคนสวยกอดแนบอกหลังนวลเนียนแนบสนิทกับอกแกร่งไร้ช่องว่าง

-------------------------------------------

ได้ยินเสียงนุ่มตัดพ้อ อยากจะโกรธอยากจะเกลียด แต่กลับทำไม่ได้ทุกคำพูดเหมือนใบมีดกรีดลึกกับเธอเช่นกัน หยดน้ำใสๆ ไหลรินจากตาคู่สวย นี่เค้าไม่รู้จริงๆหรอกหรือที่เธอต้องทำแบบนี้เพราะใคร ใครกันที่ทำให้เธอต้องเปิดใจให้พี่ชายคนสนิท ใครกันที่ทำให้เพื่อนสาวอีกคนกล้าเดินเข้ามาขอ ..... ใครกัน

ข่มอารมณ์ถึงขีดสุดปล่อยให้หยดน้ำตารินไหล อาการสะอื้นทำให้ร่างที่ก่ายกอดค่อยๆคลายวงแขน ก่อนที่มือแกร่งจะซับน้ำตา ชะโงกหน้ามองคนสวยแสนรัก ก่อนจะดึงเข้ามากอดอีกครั้ง

“ร้องไห้ทำไมครับ ไม่ร้องนะคนดี รู้ไหมน้ำตาแก้วกำลังจะฆ่าพี่”

“........”

“ถ้าแก้วจะทรมานพี่แบบนี้ ฆ่าพี่ให้ตายเลยดีกว่าครับ” เห็นแฟนสาวไม่พูดยิ่งทรมาน ถ้าจะโกรธเกลียดกันก็พูดหรือด่าเค้าก็ยังดี แต่ถ้าทำอย่างนี้ก็ฆ่าผมเถอะ จับมือเรียวตบหน้าตัวเองหนักหน่วงจนมือบางสะท้านตามแรง หันมองหน้าคนบ้าเอาก่อนจะดึงมือไว้เพื่อหยุดการกระทำ

---------------------------------------------

หันมองหน้าชายหนุ่มที่กอดแน่น น้ำใสไหลอาบเต็มสองแก้ม จับมือแกร่งแน่น

“ขอร้องอย่าทำอย่างนี้ แก้วง่วง” บอกเสียงเรียบ ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ มือเรียวยังคงยึดมือชายหนุ่มไว้แน่น ไม่อยากคิดอะไรอีกต่อไป ตอนนี้เธอเหนื่อยล้าเต็มที

ได้ยินเสียงหวาน อาการท้อแท้สิ้นหวังเมื่อครู่หายหมดสิ้น จับสาวนอนหงายบนลำแขนของตนแทนหมอน จัดท่าเหยียดยาวตามความสูงหวังให้ร่างบางนอนสบาย ก่อนจะนอนตะแคงกดจมูกโด่งสัมผัสกับแก้มขาวนวล ประสานนิ้วเรียวเข้ากับนิ้วขาวนวลที่หยุดการกระทำของเค้าเมื่อครู่วางทาบทับบนหน้าท้องแบนราบกระชับกอดแน่น ชีวิตนี้ผมขอแค่นี้ก็เพียงพอ

---------------------------------------------

ช่วงเวลาแห่งความสุขช่างแสนสั้น แสงสีนวลของเช้าวันใหม่สาดส่องเข้ามาเพื่อปลุกร่างสูงบนเตียง ส่งเสียงนุ่มทุ้มต่ำเอ่ยบอกคนรักที่นอนกอดตลอดคืน

“ตื่นได้แล้วครับที่รัก”

แล้วก็ต้องสะดุ้งรีบลุกขึ้นในเมื่อในอ้อมกอดไร้ร่างคนรัก ลนลานตะโกนลั่นห้อง รีบเดินลิ่วไปด้านนอก ก่อนจะเดินไปถามพี่ชายที่นอนแน่นิ่งบนโซฟาเสียงดังลั่น

“พี่เคนจิ เมียผมล่ะ”

ได้ยินเสียงโวยวายของน้องชายตัวแสบ ค่อยๆลุกขึ้นสะบัดหัวไล่ความงัวเงีย ทำไงได้ในเมื่อ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบ ตี 3 เพราะคุณกิ่งนี่แหละลากให้นั่งเฝ้าหน้าห้อง หลับสบายเลยสิแก ตื่นมาไม่เจอแฟนทำโวยวาย

“ออกไปตั้งแต่ ตี 5 แล้ว วันนี้น้องเค้ามีงาน”

“แล้วทำไมพี่ไม่บอกผม”

“จะไปบอกได้ไงวะก็หลับเหมือนกัน ไงเมื่อคืนหลับสบายสิ เช้ามาไม่เจอน้องเค้าหน่อยโวยวาย นอกจากไม่ห่วงฉันแล้วแกยังกวนฉันอีกนะไอ้โมะ คนจะหลับจะนอน”

“แล้วพี่รู้ได้ไงว่าแก้วไปทำงาน” ถามหน้านิ่ง คิ้วผูกเป็นปมอีกแล้วน้องชายผม

“กิ่งโทรมาบอกว่าฝากล็อคห้องด้วยเข้าใจรึยังแล้ววันนี้แกไม่มีงานรึไง” ตอบคำถามเสียงเบื่อหน่าย เมื่อไหร่แกจะเป็นโทโมะคนเดิมสักที ไอ้อาการใจร้อนนี่ไม่รู้เอามาจากไหน

“มี ........ โธ่เว้ยแล้วอย่างนี้แก้วจะยอมเจอผมอีกไหม” กระแทกตัวนั่งบนโซฟาตัวยาว บ่นผู้เป็นพี่ชายเสียงหงุดหงิด สรุปวันนี้ผมไม่ต้องนอนกันครับไอ้น้องชายตัวดีก่อกวนเหลือเกิน

“ไอ้บ้าฉันว่าแกห่วงงานแกก่อนดีกว่า วันนี้ตอนบ่ายมีงานที่พารากอนไม่ใช่รึไง เรื่องน้องแก้วเดี๋ยวฉันคุยกับกิ่งให้”

“......”

“เห้อ! .... เลิกกังวลได้แล้ว เอ้าวันนี้แกขับ” ตบบ่าน้องชายเจ้าปัญหา ก่อนจะโยนกุญแจรถส่งให้ ลากเจ้าตัวดีกลับคอนโด ขืนปล่อยไว้มันก็นั่งอยู่อย่างนี้แหละครับ มันไม่กลับแน่

-------------------------------------

ใช้เวลาไม่นานก็ถึงคอนโด กว่าจะลากมันอาบน้ำกว่าจะลากมันแต่งตัว เล่นเอาเหนื่อย ไม่รู้จะโทรไปหาน้องแก้วทำไมนัก น้องเค้าไม่รับก็โวยวาย แต่สุดท้ายงานก็คืองานครับ ผมไม่ยอมให้มันทิ้งหน้าที่แน่ๆ ขับรถคู่ใจไปส่งมันที่หน้าบริษัทไม่พอ เห็นสภาพมัน สุดท้ายผมต้องนั่งเฝ้าอีกแต่ก็ยังดีครับสนิทกับไอ้พวกลิงแสบพวกนี้อยู่แล้ว มีพี่ชายตามไปอีกคนคงไม่ว่าอะไร

“สวัสดีครับพี่เคนจิ วันนี้มาไงถึงได้มาเฝ้าโทโมะได้ครับ” เสียงบอสใหญ่เดินยิ้มแก้มปริทักทายพี่ชายอีกคนที่เดินเข้ามาพร้อมน้องชายหน้าบูดคิ้วผูกเป็นเพื่อนร่วมทีมตัวแสบ

“สวัสดีครับป๊อป วันนี้พี่ต้องเฝ้าครับไม่งั้นพวกเคโอไม่ได้ทำงานแน่ ดูหน้ามันสิ”

“ใครทำมันอารมณ์เสียแต่เช้าครับ แต่ป๊อปว่าคงเป็นธรรมชาติแล้วแหละตั้งแต่น้อง ... มีข่าวหน้ามันไม่เคยยิ้ม” กล่าวเสียงอารมณ์ดี ที่ผมพูดน่ะเรื่องจริง ไม่เชื่อลองถามคนในบริษัทดูก็ได้ แต่ถ้าวันนี้จะแปลกก็ตรงที่มันอารมณ์เสียกว่าทุกวันนี่แหละครับ

เดินเข้ามาให้ห้องพักรอเวลาก็เจอเจ้าพวกลิงแสบเพื่อนน้องชายนั่งรออยู่เต็ม แสดงว่าวันนี้มันสาย เจ้าน้องชายตัวแสบผมก็ช่างเหลือเกินเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่ทักทายใคร หลบไปนั่งกดโทรศัพท์คนเดียวมุมห้องรอเวลา

“พี่เคนจิ ไอ้โมะมันเป็นอะไรอ่ะครับ ทุกทีเขื่อนเห็นมันเข้ามามันยังทักอ่ะ แต่วันนี้นอกจากไม่ทักแล้วหน้ามันน่ากลัวสุดๆ”

“มีเรื่องไม่ได้ดั่งใจครับเขื่อน”

“แล้ววันนี้งานตอนเย็นจะสนุกเหรอครับ” หนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นเอ่ยถาม

“วันนี้มีงานอะไรครับเคนตะ ไม่เห็นไอ้โมะมันบอกพี่”

“อ้อ วันนี้ที่บริษัทจัดงานเลี้ยงขอบคุณเฉพาะคนในบริษัทครับ”

“อ้าวแล้วงานเราพี่พารากอนหล่ะ พี่รู้แค่นี้อ่ะไอ้โมะมันไม่ได้บอก”

“ก็พอขึ้นคอนที่พารากอนเสร็จก็ต้องมาร่วมงานที่นี่ต่อครับ วันนี้พี่เคนจิดึกแน่” เสียงหนุ่มเกาหลีบอกสำเนียงเปล่งๆ

“ทุกคน..... งั้นก็มากันหมดใช่ป่าว งั้นแฟนป๊อปก็ต้องมาหล่ะสิ” เอ่ยแซวหนุ่มหล่ออารมณ์ดี

“พี่เคนจิอ่ะ FFK มากันหมดครับ วันนี้ฟางเฟย์มีเรียนคงเจอตอนเย็นเลย ส่วนอีกคน .... ถ่ายละครครับ” เอ่ยบอกอายๆ แต่อาการอายต้องหมดสิ้นเมื่อต้องพูดถึงเพื่อนหญิงมาดเท่ห์ ก็แน่แหละในเมื่อคนที่ผมกลัวนั่งกดโทรศัพท์หน้ามุ่ยอยู่ตรงนั้น

“เอ้า ... พวกเด็กๆรถพร้อมแล้วหน้าบริษัทเดี๋ยวจะสาย”

เสียงพี่สตาฟในทีมกล่าวบอก ทำให้เหล่าชายหนุ่มลุกขึ้น เหลือเพียงคนเดียวที่นั่งนิ่งไม่สะทบสะท้าน สายตาเหยี่ยวยังคงจับจ้องโทรศัพท์ในมือ

“โทโมะไปได้แล้ว เดี๋ยวถามกิ่งให้” คนเป็นพี่อดรนทนไม่ไหว เดินดุ่มๆเข้ามาลากให้ลุกไป ไม่บอกก็รู้ว่าตอนนี้มันคิดจะทำอะไร แต่ในเมื่องานก็คืองาน ยังไงผมไม่มีทางยอมให้มันเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง กว่าจะลากมันให้มาเตรียมตัว สุดท้ายก็ต้องยึดโทรศัพท์ของมันมาเก็บไว้ ไม่งั้นมันไม่ยอมทำอะไรแน่ครับ เห็นมันเป็นอย่างนี้แล้วอดห่วงไม่ได้ ผมจะเฝ้ามันได้สักกี่วันในเมื่อผมก็มีงานเหมือนกัน สุดท้ายต้องเป็นผมที่กดเบอร์หาผู้หญิงอีกคน ยังไงลงเรือลำเดียวกันแล้วเธอก็ต้องช่วยผม

-----------------------------------------------

“ว่าไงเคนจิ นายลากเจ้าน้องชายตัวดีออกจากห้องฉันแล้วใช่ไหม” เห็นเบอร์ คนรับสายก็รีบถามคำถามคาใจ โดยที่ยังไม่ทันฟังอีกฝ่ายว่าโทรมาด้วยสาเหตุใด

“โห่จะไม่ฟังกันหน่อยเลยรึไง”

“นายตอบไม่ตรงคำถาม ตอบมาก่อน”

“เคนพามันออกมาหลังกิ่งออกไปไม่นาน ตอนนี้ห้องอยู่ในสภาพปกติเรียบร้อยครับ”

“ดีมาก งั้นแค่นี้นะ ฉันสบายใจแล้ว”

“เห้ย ยัยกิ่งอย่าวางนะ นี่จะไม่ฟังฉันเลยใช่ไหมหะ” เสียงตะคอกหน้านิ่ว ยัยนี้ได้ของที่พอใจก็ทิ้งกันเลย

“มีอะไรหล่ะยะ แค่พวกนายออกจากห้องฉันได้ฉันก็ดีใจแล้ว” สวนกลับทันควัน ในเมื่อวันนี้เธอต้องนั่งเฝ้าน้องสาวอยู่แล้วก็ขอหาอะไรทำแก้เซ็งหน่อยแล้วกัน

“มีแน่ หนักกว่าเมื่อวานด้วย ไอ้โมะมันหงุดหงิดจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ที่น้องแก้วไม่รับโทรศัพท์มัน แล้วเธอเดาออกใช่ไหมว่าถ้ามันบ้ามากๆ มันจะทำอะไร” น้ำเสียงหนักแน่น อธิบายเหตุการณ์ให้ปลายสายฟัง ดูซิยัยกิ่งตัวแสบได้รู้อาการน้องชายผม ยังจะอารมณ์ดีอยู่อีกไหม

แล้วก็เป็นจริงตามคาด หน้าหวานปลายสายนิ่งงันขึ้นทันที สายตาครุ่นคิด คิ้วขมวดเป็นปมอีกครั้ง

“แล้วจะทำไงอ่ะ ซวยแล้วยัยแก้ว”

“นั้นนะสิ ยังจะมีหน้าอารมณ์ดีอีกนะเธอ ตอนนี้อยู่ไหนเดี๋ยวไอ้โมะขึ้นคอนแล้วจะแอบหลบไปหา”

“ถ่ายละครอยู่สวนจตุจักรอ่ะ แต่ฉันว่านายไม่ต้องมาหรอกมั้งคงไม่น่ามีอะไรเดี๋ยวฉันพาน้องกลับบ้านเลย ยังไงป๊ากับม๊าอยู่ โทโมะคงไม่กล้า อีกอย่างนายก็พาน้องนายกลับบ้านไปสิไม่เห็นจะยาก เซ่อจริงๆ”

“เธอนั้นแหละเซ่อยัยป๊อง ไม่รู้รึไงว่าวันนี้ที่RSมีงาน ศิลปินทุกคนต้องไปร่วม นั่นหมายถึงไอ้โมะอาระวาดแน่ ว่าไงยังจะไม่ให้ฉันไปหาอยู่ไหม”

“หาจริงสิซวยแล้ว งานเริ่มกี่โมงเนี๊ยะ”

“1 ทุ่ม ว่าไงยัยแสบ”

“งั้นนายรีบมาเลย เร็วๆนะ”

---------------------------------------------------

นึกว่าวันนี้จะสงบแต่กลับงานเข้าซวยแล้วไงยัยกิ่ง เห็นน้องสาวคนสวยยิ่งสงสาร ยิ่งแค้นคนกระทำ แต่ทำไงได้ในเมื่อน้องสาวเธอเสียหาย ยังไงก็ต้องปกป้องให้ถึงที่สุด และเรื่องนี้จะให้ใครคนใดรับรู้ไม่ได้ แต่นึกถึงคำพูดอีกฝั่งแล้วหวั่นใจไม่หาย เพราะสิ่งที่เค้าพูดเป็นเรื่องจริงทุกคำ ภาวะนาอย่างเดียว นายอย่าทำอะไรบ้าๆนะไอ้โทโมะ นั่งกระวนกระวายใจรอผู้มาเยื่อน

“นายทำไมมาช้าจังหะ จะรอให้งานเริ่มก่อนรึไง” เห็นหน้าชายหนุ่มที่วิ่งกระหืดกระหอบก็ใส่ไม่ยั้ง ในเมื่อความกังวลของเธอมีมากกว่า

“ไม่ถามสักคำว่าเหนื่อยไหม แต่ช่างเถอะ เราจะเอายังไง” ยืนงอบสักพัก ก่อนจะนั่งลงข้างๆ สายตากังวลไม่ต่างกัน

“นายว่าฉันจะพายัยแก้วหลบดีไหม ให้แก้วอยู่ใกล้ๆ เฮียกับซ้ออ่ะ”

“ยัยโง่ ถ้าไอ้โมะมันบ้าระห่ำหล่ะ งานนี้ความแตกแน่ ไม่ต้องกลัวว่าเฮียหรือซ้อจะรู้หรอก รู้กันทั้งงานแน่”

“นายก็คุมไว้ดิ น้องชายนายนะ”

“เธอว่าฉันคุมมันอยู่ไหมยัยบ๊อง” หันบอกสาวเจ้าความคิด ช่างไม่ฉลาดเลยเธอนี่เป็นพี่น้องแก้วได้ไง

“ไม่อยู่ เฮ่อจะทำไงดี จะทำไงดี คิดสิ คิด คิด”

“เห่อ.... มันนะจะดีกว่านี้ ถ้าน้องแก้วรับโทรศัพท์ไอ้โมะ ฉันก็ยังจะพอกล่อมมันอยู่บ้าง” พึมพำกับตัวเองพอให้คนข้างๆได้ยิน อย่างน้อยถ้าแก้วรับโทรศัพท์เจ้าน้องชายมันคงจะอารมณ์ดีอยู่บ้าง

“แก้วไม่รับหรอก .... เพราะโทรศัพท์แก้วอยู่นี่” ยื่น I Phone สีขาวให้ชายหนุ่มข้างๆ เห็นสายเรียกเข้าแล้วอึ้งเกือบ 60 สาย แค่คู่กรณีคนเดียวก็ 50 กว่าสายแล้ว

“เธอนี่มัน ..... โห่ไอ้โมะมันโทรมาขนาดนี้เลยเหรอ” รับมือถือน้องสาวอีกคนมาดูก็ต้องตกใจในจำนวนMiss call ที่ปรากฏ แต่ที่ทำให้ร่างสูงตาโตยิ่งกว่า เมื่อเจอกับข้อความที่เจ้าน้องชายตัวดีทิ้งไว้

 

“ไม่รับโทรศัพท์ไม่เป็นไร ยังไงวันนี้ฉันก็หาเธอเจอ บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามหนี เธอยังกล้าทำ เก่งมากนะ แก้วใจเก่งให้ตลอดครับแล้วเราจะได้เห็นดีกัน”

 

ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ส่งข้อความให้สาวข้างๆ อ่าน ทำเอาร่างบางอึ้งไม่แพ้กัน ก่อนจะหน้านิ่มคิ้วขมวดอีกครั้ง

“ทำไงดีหล่ะเคนจิ”

“ไม่รู้ ... แล้วอีกนานไหมกว่าน้องแก้วจะเลิกกอง”

“อีกสักพักอ่ะ ทำไมเหรอ”

“เราต้องบอกเรื่องนี้ให้น้องเค้ารู้ตัวก่อน ยังไงวันนี้ฉันจะกันมันให้ถึงที่สุด เธอก็เหมือนกันเวลาเห็นหน้ามันก็สงบปากสงบคำไว้ ไม่ใช่เพราะมันคือน้องชายฉันแต่เพราะฉันกลัวคำพูดเธอจะทำให้มันระเบิดเร็วขึ้น เข้าใจใช่ไหม” บอกเสียงดุดัน กังวลกับอนาคตข้างหน้า

“แล้วฉันจะต้องทำไงหล่ะเคนจิ”

“ไม่ต้องทำไง แล้วแต่น้องแก้วแล้วกัน ฉันว่าน้องแก้วเค้าตัดสินใจได้ดีกว่าเธอ ฉันไปก่อนนะ ตอนเย็นก่อนจะเข้างานก็โทรบอกก่อนฉันจะได้เตรียมตัว” บอกแค่นั้นก่อนเดินหน้านิ่วออกไป

โอ้ย.....ยัยกิ่งนะยัยกิ่ง ยัยบ้าเอ้ยเอาโทรศัพท์น้องมาเก็บไว้ยังจะปิดเสียงให้อีก งานเข้าแล้วทีนี้ทำไงดี เห้อ!ยัยแก้ว พี่สงสารแกจัง

นั่งรอน้องสาวสักพัก ก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะเดินออกมาช้าๆ เพราะเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้วันนี้ทำอะไรยากลำบากไปหมด เห็นพี่สาวหน้านิ่วคิ้วขมวดก็รู้ว่าคงกังวลเรื่องเธอ

“พี่กิ่ง รอนานไหมตอนนี้แก้วเสร็จงานแล้ว” มือเรียวสะกิดพี่สาวเบาๆเพื่อให้หลุดจากภวังค์

“ไม่นานหรอก แก้วเป็นไงบ้างเหนื่อยไหม เจ็บอยู่รึป่าว”

“ก็นิดหน่อยแต่ไม่เป็นไรแล้ว กลับบ้านเถอะ” บอกพร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่ตอบไปแบบนั้นก็เพราะไม่อยากให้พี่สาวเป็นห่วง แต่ความจริงช่างตรงข้าม .... เจ็บจะตาย

“วันนี้ RS มีงานแก้วลืมแล้วเหรอ”

“นั่นสิ แก้วลืมเลย งั้นเดี๋ยวแก้วโทรนัดเฟย์ ฟางก่อนนะ”

“อะนี่โทรศัพท์ แต่เจ๊ว่าแก้วอ่านข้อความก่อนก็ดีนะ”

รับโทรศัพท์จากมือพี่สาว เห็นข้อความถึงกับตลึง หน้าหวานวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด หันมองหน้าพี่สาวขอความช่วยเหลือ แต่ก็ได้รับการส่ายหน้าเป็นคำตอบ

“แก้วกลัว” น้ำเสียงร้อนรนกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“เจ๊ก็กลัว แต่ไม่ต้องกังวลนะเมื่อกี้พี่เคนจิมาที่นี่บอกว่าจะช่วยแก้วให้ถึงที่สุด” มือเรียวยกลูบเหงื่อที่พุดบนใบหน้าหวาน สงสารคนเป็นน้องจับใจ

“.....”

“แก้ว เจ๊ถามอะไรหน่อยได้ไหม” ถ้าจะแก้ แก้วต้องตอบคำถามพี่

“ได้สิ แก้วไม่มีความลับกับเจ๊หรอก” หันตอบพี่สาวหน้านิ่ว

“แก้วรักโทโมะไหม”

“เจ๊ทำไมถามอย่างนี้หล่ะ”

“เจ๊แค่อยากรู้ จะได้แก้ปัญหาถูก”

“รักหรือไม่รักก็ไม่มีผลแล้ว เพราะตอนนี้เค้ามีคนที่เค้ารัก แล้วอีกอย่างแก้วก็ยังมีพี่เค้า”

“มันไม่ใช่ประเด็นแก้ว ตอนนี้ประเด็นจริงๆก็คือเรื่องเมื่อคืน” เลี่ยงที่จะไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและไม่ต้องการจะตอกย้ำน้องสาว แต่มันเป็นทางเดียวที่จะทำให้เรื่องที่เกิดจบง่ายขึ้น

“.......”

“เจ๊รู้ว่าแก้วไม่เต็มใจแต่โทโมะไม่ได้คิดอย่างนั้น ในความคิดโทโมะตอนนี้แก้วคือ ....... เข้าใจใช่ไหม”

“......” พยักหน้าเป็นคำตอบ ตอนนี้หน้าหวานดวงตาแดงกล่ำอีกครั้ง พร้อมการกลับมาของน้ำใสๆ ที่พร้อมจะเอ่อล้นได้ทุกเวลา

“แต่ไม่ต้องห่วงนะ วันนี้เจ๊จะกันแก้วให้ถึงที่สุด แต่แก้วก็ต้องระวังตัวด้วย พยายามอย่างทำให้โทโมะโกรธ เจ๊ไม่ได้บอกให้แก้วยอม เจ๊รู้ว่าน้องสาวเจ๊ฉลาดพอที่จะเอาตัวรอดได้ใช่ไหม” บอกน้องสาวก่อนจะดึงเข้ามากอด ยังไงเรื่องนี้ไม่เกิดวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องเกิด เลือกที่จะพูดตรงๆกับน้องสาวให้เตรียมใจกับเหตุการณ์ข้างหน้า ปล่อยให้น้องสาวนั่งตัดสินใจก่อนจะคว้าข้อมือบางให้ลุกขึ้น .... เป็นไงเป็นกัน

-----------------------------------------------------

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา