Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา

9.6

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.

  43 chapter
  860 วิจารณ์
  67.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7) - Chlorine - ( คลอรีน )

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

- Chlorine - 

( คลอรีน )

 

“เฮ้ย! นี่มันอะไรเนี่ยพิมพ์!”

 

 

       ฟาง พูดแล้วรีบหันมาดูฉันทันทีเพราะตอนนี้น้ำกระเจี๊ยบเลอะทั้งผมทั้งหน้าแล้วก็ เสื้อผ้านักเรียนไปหมดแล้ว ยังดีที่มีเสื้อสูทนักเรียน ฉันจึงจัดการจับมันมาคลุมตัวทันที เพื่อไม่ให้มันหวือหวามากจนเกินไป

 

 

      นี่มันอะไรกันเนี่ย? ทำไมพิมพ์ทำแบบนี้กับฉัน ฉันไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรืออย่างไร?

 

 

 

      เท่าที่ผ่านมาฉันจำได้ว่าไม่เคยพบเจอกับพวกเธอมาก่อน...แล้วทำไม...

 

 

 

“ถามเพื่อนแกสิว่าไปทำอะไรไว้!”  

 

 

      พิมพ์ พูดตะคอกใสแล้วชี้มาที่ฉัน เสียงดังๆแหลมๆของเธอนั้นมันสร้างเสียงเรียกร้องความสนใจให้พวกนักเรียนที่ กำลังนั่งทานข้าวอย่างสบายอารมณ์กับพวกที่อยู่รวบๆพากันมามุงดูอยู่ห่างๆ และนั่นมันทำให้ฉันอึดอัดเอามากๆ

 

 

“ฉันไม่ได้ทำอะไรนะฟาง” ฉันหันไปบอกฟางขณะที่มือยังคงไม่ยอมปล่อยจากเสื้อสูทที่กระชับเข้ามาปิดบังส่วนหน้าของเสื้อนักเรียนที่เปียก

 

 

“ตอแหล!” พิมพ์ตะคอกใส่ฉันก่อนที่เธอจะก้าวเท้ามาหาแล้วกระชากมือที่ฉันจับเสื้อสูทอยู่แรงๆแล้วก็ผลักฉันลงพื้นอย่างแรง

 

 

พลั่ก!

 

 

 

ตุ้บ!

 

 

 

      นี่มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ!

 

 

      ตอน นี้ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมต้องทำกันแบบนี้ด้วยเพราะฉันไม่รู้ อะไรเลย แต่ที่รู้แน่ๆคือตอนนี้หัวเข่าของฉันเป็นแผลถลอกจนเลือดไหลออกมาแล้ว แล้วมันก็เจ็บจี๊ดๆแซบๆเลยด้วย

 

 

“เฮ้ย! นี่หยุดนะเว้ย! แกจะทำอะไรเพื่อนฉัน >O<!” ฟางพูดแล้วพยายามจะจับให้พิมพ์ออกจากตัวฉัน

 

 

“อย่ายุ่ง! จินนี่ เฟื้องฟ้า จับยัยนี่ไว้สิ!” พิมพ์บอกให้เพื่อนของเธออีกสองคนมาช่วยกันลากตัวฟางออกไป ฟางก็ดิ้นรนแต่สองคนนั้นช่วยกันจับรัดฟางเอาไว้ซะแน่นเลย

 

 

 

“เฮ้ย! ปล่อยนะเว้ย! ปล่อยช้านนนนนน ปล่อยเด้! >O<!!”

 

 

“ทำไมแกไปอยู่กับโทโมะ! ฮะ?!”

 

 

      เมื่อ ฉันกำลังมองฟางที่กำลังดิ้นรนจากการรัดกุมของจินนี่และเฟื้องฟ้า พิมพ์ก็จับให้ฉันลุกขึ้นอย่างกระสับกระส่ายจากนั้นก็เอามือมาบีบแก้มฉันให้ หันกลับไปมองเธอ ขณะที่เธอก็ยก I Phone แล้วมันก็คือรูปที่โทโมะจับมือฉันในตอนที่เราเดินกลับบ้านเมื่อเย็นวานนี้

 

 

      และนั่นก็ทำให้ฉันเบิกต้องตากว้างทันที!

 

 

“...!!”

 

 

“ในรูปนี้เป็นแกใช่มั้ย?! ตอบฉันมาสินังบ้า!”

 

     ตอน นี้ฉันทั้งกลัวและสั่นไปทั้งตัวจนไม่กล้าที่จะพูดอะไรทั้งนั้น ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้เลยนะ พอมาเจอกับตัวแล้วมันทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ถ้าตอบไปว่า ‘ไม่ใช่’ ฉันคงจะโดนข้อหาโกหกอีกกระทงหนึ่งเพราะในรูปมันก็เห็นๆกันอยู่ว่าคือฉัน

 

 

 

“แล้วเธอไปยุ่งอะไรด้วยวะ!” ฟางตะโกน

 

 

 

“ฉันไม่ได้ถามแกอย่ามายุ่ง! นังนี่นิ ฉันถามทำไมไม่ตอบ!”

 

 

 

“...”  

 

 

“แกเป็นอะไรกับโทโมะถึงได้เดินจับมือกับเขา!?! ตอบสิ! ฉันบอกให้ตอบ!” พิมพ์ตวาดใส่ฉันจนฉันถึงกับสะดุ้ง

 

 

เพี๊ยะ!!

 

 

      ดู เหมือนว่าพิมพ์รำคาญที่ฉันไม่ตอบอะไรเธอเลย เธอจึงใช้ฝ่ามือของตัวเองตบมาทีใบหน้าของฉันอย่างแรงจนหน้าฉันหันไปอีกทาง และไม่ใช่เพียงแก้มที่แดงก่ำไปด้วยรอยมือแล้ว มุมปากของฉันก็ยังสัมผัสได้ถึงคาวเลือดด้วย

 

 

 

       ใช่! พิมพ์ตบฉันจนเลือดกบปาก!

 

 

      ตอนนี้ฉันเจ็บไปหมดทั่วร่างกายจนอยากจะร้องไห้ออกมาแต่ก็ต้องเก็บมันเอาไว้ข้างใน...

 

 

“ทำไมโทโมะถึงไปเดินจับมือกับแกตอบฉันมาเดี๋ยวนี้นะ!!”

 

 

 

“เรา...”

 

 

“ตอบ! หูหนวกหรือไง? ฉันบอกให้ตอบได้ยินมั้ย! หรือแกอยากโดนตบอีกที!”

 

 

       ก็เธอพูดแทรกแบบนี้ฉันจะตอบได้ยังไงเล่า! >O<!!!

 

 

       ให้ตายเหอะ! ใครก็ได้หยุดผู้หญิงบ้าคนนี้เท๊!!!

 

 

            เธอเขย่าตัวฉันเพื่อต้องการคำตอบให้ฉันตอบ แต่ฉันจะตอบเธอว่ายังไงล่ะในเมื่อตอบไปก็โดนตบอยู่ดีหรือว่าอาจจะโดนมากกว่า นั้นด้วยซ้ำ คนที่กำลังโมโหจนเลือดขึ้นหน้าแบบนี้พูดอะไรไปก็ไม่เข้าหูหรอกหรือไม่ก็อาจจะโดนเละมากกว่าเดิมเลยด้วย!

 

 

 

             โธ่! ใครก็ได้ช่วยด้วยยยยยยยยยยยย

 

 

 

“สงสัยคงอยากโดนตบอีกทีสินะ? ได้!”

 

 

หมับ!

 

 

 

“พอได้แล้ว!”

 

 

 

“!!!”  

 

 

 

 

       ฉัน เบิกตากว้างเมื่อฝ่ามือของพิมพ์กำลังจะตบเข้าที่ใบหน้าฉันจู่ๆก็มีผู้หญิงคน หนึ่งมาคว้าข้อมือของพิมพ์เอาไว้ได้ทัน  ฉันหันไปมองเธอก็พบว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาสวยกับผมยาวไว้หน้าม้าสี น้ำตาลและการแต่งกายที่ดูเป็นระเบียบมากๆมันทำให้ฉันคิดว่าเธออาจจะเป็น กรรมการนักเรียนก็ได้

 

 

“อย่ามายุ่งดีกว่า ‘คลอรีน’ มันไม่ใช่เรื่องของเธอ”

 

 

“ฉันไม่ยุ่งไม่ได้หรอก ในเมื่อเธอกำลังทำเรื่องไม่ดีอยู่ในสถานศึกษา” ผู้หญิงที่ชื่อคลอลีนบอกกับพิมพ์ด้วยสีหน้าแววตาที่จริงจังมากๆ

 

 

“ฉันก็แค่สั่งสอนยัยนี่ ไม่ได้ถึงกับตายซักหน่อย!” พิมพ์สะบัดมือออกจากมือของคลอรีนก่อนจะชี้หน้าฉัน

 

 

 

“แล้วเขาไปทำอะไรให้เธอล่ะ เธอถึงได้ทำกับเขาแบบนี้”     

 

 

“ก็มันดันไปยุ่งกับโทโมะของฉันน่ะสิ! นี่! มันกำลังเดินจับมือกับโทโมะไม่เห็นรึไง?” พิมพ์พูดแล้วชู I Phone ให้คลอรีนดูรูป แต่คำพูดของคลอรีนนั้นกลับทำให้พิมพ์ถึงกับหน้าซีดเลยทีเดียว

 

 

“แต่ดูจากรูปแล้วโทโมะเป็นคนจับมือผู้หญิงนี้ไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ไปจับมือโทโมะก่อนไม่ใช่เหรอ?”    

 

 

“!!!”

 

 

“แล้วถ้าเขาสองคนจะคบกันมันจะผิดอะไรเพราะเธอไม่ใช่แฟนโทโมะนี่นาพิมพ์”

 

 

“แต่ฉันจองโทโมะอยู่เธอก็รู้ ทุกคนเขาก็รู้กันทั้งโรงเรียน! แต่อีนังเด็กใหม่เนี่ยมันไม่รู้!”

 

 

 

“ก็เขาเป็นเด็กใหม่จะรู้ได้ยังไงล่ะ”

 

 

เพล้ง!!

 

 

       ตอนนี้ฉันได้ยินเสียงพิมพ์หน้าแตกยับเยินเลยแหละ ( แอบสะใจอยู่ลึกๆ )

 

 

 

“นะ...นี่! ><!”

 

 

 

“ถ้า เธอไม่หยุด ฉันจะรายงานฝ่ายปกครองเกี่ยวกับพฤติกรรมแบบนี้ของเธอ เมื่อก่อนเธออาจจะแก้ตัวด้วยข้ออ้างหรือเหตุผลล้านแปดได้ที่ทำกับนักเรียนคน อื่นแต่คราวนี้เธออาจจะโดนไล่ออกเลยก็ได้” คลอรีนชี้หน้าพิมพ์เป็นทำนองบอกว่า‘ฉันเอาจริง!’

 

 

“ยัยคลอรีน!”

 

 

“เธอคงไม่อยากให้ครอบครัวของเธอต้องอับอายเพราะว่าเธอโดนไล่ออกเพราะเรื่องไร้สาระหรอกนะ”

 

 

 

“ยัย...ฮึ่ย! > <!”

 

 

      พิมพ์มีสีหน้าที่แลหงุดหงิดและไม่พอใจอย่างมากกับคำพูดของคลอรีนแต่ก็ ต้องยอมถอยแต่โดยดี โดยไม่มีท่าทีค้านอะไรใดๆแต่ก็ยังมิวายหันมามองค้อนฉันจนฉันต้องหลบสายตาลง ต่ำ ( มองค้อนแบบนั้นไม่กลัวลูกตาหลุดออกจากเบ้ารึไงกันนะ = =;;; )

 

 

“ที่ฉันยอมให้ตอนนี้ไม่ใช่ว่าคราวหน้าฉันจะยอมอีกถ้าเธอยังไม่ได้เป็นอะไรกับโทโมะก็จงจำใส่หัวเอาไว้เลยว่าควรจะ‘เจียมตัว!’เพราะผู้หญิงอย่างเธอโทโมะไม่มีทางจริงจังด้วยหรอก! อีกไม่นานเขาก็เขี่ยเธอทิ้งแล้วยัยเด็กใหม่”

 

 

      ฉันเจียมตัวเสมอแหละ...และคำนี้มันสมควรที่เอากลับไปใช้กับเธอมากกว่ามั้ย? นี่ ถ้าฉันเป็นคนที่ไม่กลัวการมีเรื่องกับใครฉันคงสวนกลับด้วยปากไปแล้ว ไม่ต้องมาพูดด่าในใจหรอก แต่ฉันจะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานไม่อยากจะมีเรื่องหรือมีปัญหากับใคร

 

 

 

“...”

 

 

 

“เออ! เงียบเป็นใบ้แบบนี้ให้ได้ตลอดเถอะแม่คุณ พ่อแม่เธอนี่คงสั่งสอนมาดีสินะที่เลี้ยงให้...”

 

 

 

“พอได้รึยัง”

 

 

 

         เมื่อพิมพ์กำลังจะพูดอะไรที่มันเป็น‘ขยะปาก’ออก มาต่อหน้าฉันคลอรีนเลยพูดขัดขึ้นเสียก่อน ตามจริงเรื่องพ่อแม่นี่จะเอามาพูดเหยียดหยามกันแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องเลยนะ เพราะมันไม่เกี่ยวกับพวกท่านเลย ฉันเองอยากจะตอบโต้บ้างแต่ด้วยความที่อยากให้เรื่องจบจึงได้แต่เงียบอยู่ ข้างใน

 

 

        พิมพ์เหยียดยิ้มให้ฉันก่อนทีเธอจะเดินออกไป จากตรงนี้ เมื่อเฟื้องฟ้ากับจินนี่เห็นพิมพ์ถอยบอกเธอก็ปล่อยฟาง พอฟางถูกปล่อยก็รีบวิ่งมาหาฉันทันทีเลย

 

 

 

“โหย เลือดออกเลยอ่ะแก้ว TOT” ฟางมองมาที่แผลตรงมุมปากฉันที่มันมีเลือดไหลออกมา  

 

 

“แยกย้ายได้แล้วทุกคน หมดเรื่องแล้ว” คลอรีนพูดบอกเมื่อเห็นว่ายังมีคนยืนดูอยู่

 

 

“ขอบใจนะคลอลีน ถ้าเธอไม่มาช่วยเพื่อนฉันเละแน่เลย” ฟางหันไปบอกคลอรีน คลอรีนก็พยักหน้าแล้วหันมามองฉันที่ตอนนี้สภาพแทบจะดูไม่ได้เลย

 

 

“ฟาง ฟางขึ้นเรียนเมื่อไหร่”

 

 

“อีกประมาณ 15 นาทีอ่ะ”

 

“โอเคงั้นฟางขึ้นไปห้องก่อนเลยเอากระเป๋าเพื่อนฟางไปด้วย เดี๋ยวฉันจะพาเพื่อนฟางไปล้างหน้าแล้วเปลี่ยนชุด”

 

 

“อื้มงั้นฝากแก้วด้วยนะ  แก้วเอากระเป๋าแกมา”

 

 

       เมื่อฟางพูดกับคลอรีนเสร็จก็หันมาขอกระเป๋าเป้ของฉัน ฉันก็ถอดมันแล้วเอาให้ฟางก่อนที่ฟางจะเดินไป แล้วฉันก็อยู่กับคลอรีน

 

 

“ป่ะ เดี๋ยวฉันพาไปเปลี่ยนชุด” คลอรีนพูดอย่างเป็นมิตรก่อนจะพาฉันเดินอ้อมไปหลังโรงอาหารเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจมากนัก

 

 

“ขอบใจนะที่มาช่วยเรา” ฉันพูดบอกคลอรีนเมื่อมาถึงจุดที่ไม่ค่อยมีคนแล้ว

 

 

“เป็นเพื่อนมนุษย์ก็ต้องช่วยเหลือกันสิถึงแม้ไม่รู้จักกันก็ตาม ^^”

 

 

          คลอรีนพูดแล้วหันมายิ้มบางๆให้ฉัน ฉันก็ยิ้มตอบ ในใจรู้เลยว่าได้รับความอบอุ่นและเป็นมิตรมากมายจากเธอ และฉันรู้ว่าเธอเป็นคนดีคนหนึ่งที่หาได้ยากในโรงเรียนเลยล่ะ

 

 

( ช่วงของเคโอติค )

 

 

“เฮ้ยๆๆๆๆ ข่าวด่วนๆๆๆ ><!!”

 

 

“อะไรของแกวะไอ้เขื่อน วิ่งเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้ = =?”

 

 

      ป๊อปปี้ถามหลังจากที่เขื่อนที่บอกว่าจะย้อนกลับไปซื้อน้ำที่โรงอาหารตอนกำลังจะเดิน ขึ้นห้อง กลับต้องวิ่งกลับมาใหม่พร้อมกับหน้าตาตื่นตระหนกและรีบร้อนชอบกล

 

 

“เออ มีอะไรวะอ้าว? แล้วไหนน้ำแกอ่ะ”

 

 

“เรื่องน้ำเอาไว้ก่อนเว้ยเคนตะ ตอนนี้ฉันมีข่าวเกี่ยวกับไอ้โทโมะเว้ย”

 

 

“??? เกี่ยวกับฉัน?” โทโมะที่ตอนแรกๆนั่งอ่านกการ์ตูนอยู่เฉยๆกลับต้องเงยหน้าขึ้นมามองเขื่อนด้วยความสงสัยทันที

 

“แล้วมันเรื่องอะไรวะรีบๆเล่ามาดิวะ ><!” จองเบดูท่าทางอยากจะรู้ซะเหลือเกินเลยรีบถามให้เขื่อนเข้าประเด็นเร็วๆ

 

 

“ก็สาวข้างบ้านไอ้โทโมะโดนยัยพิมพ์เล่นงานอ่ะดิ”

 

 

“เฮ้ย แล้วยัยนั่นไปทำอะไรให้พิมพ์วะOoO?” จองเบถาม

 

 

 “สาวน้อยคนนั้นไม่ได้ทำหรอกเว้ย แต่ไอ้คนที่ทำอ่ะ...”   

 

 

     เขื่อนหันหน้ามามองโทโมะ ที่ตอนนี้สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และเมื่อเห็นว่าเพื่อนๆหันมามองเขาก็เลยปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างที่เขา ชอบทำเพื่อเก็บความรู้สึก

 

 

“ฉันไปทำอะไร - -+” โทโมะพูด

 

 

“เออน่า แต่แกอ่ะตัวต้นตอเลย”

 

 

“เฮ้ยๆๆ เล่าต่อๆๆ ><!” ป๊อปปี้เขย่าชายเสื้อเร่งเขื่อนเพราะความอยากรู้

 

 

“คือฉันดันไปเห็นช็อตที่พิมพ์ชูรูปใน I Phone แล้ว พูดบอกว่าแกกับสาวน้อยข้างบ้านแกเดินจับมือกันเมื่อวานตอนกลับบ้าน เค้นคอให้เธอตอบ พอเธอไม่พูดก็โดนผลักลงพื้นแล้วดึงขึ้นมาตบไปฉาดนึงเต็มๆ ไม่แค่นั้น ฉันได้ยินมาว่าพิมพ์สาดน้ำกระเจี๊ยบใส่สาวข้างบ้านของแกด้วย”

 

 

“โหย ป่านนี้เธอคนนั้นจะเป็นยังไงนะ ” ป๊อปปี้ออกตัวด้วยความเป็นห่วง แต่ยังคงไม่ทิ้งความล้อเลียนโทโมะไปพลางๆ  

 

 

“แค่นี้?” เคนตะเค้นเสียงถาม

 

 

“ไม่ใช่แค่นี้ ”

 

 

“แล้วที่เด็ดกว่านั้นคืออะไรวะ” จองเบถาม

 

 

“ตอนที่สาวน้อยนั่นจะโดนตบรอบสอง พวกแกรู้มั้ยว่าใครมาห้ามทัน...” เขื่อนถามแล้วเพื่อนก็ส่ายๆหน้ายกเว้นโทโมะที่เอาแต่มองเขื่อนนิ่งๆ จากนั้นเขื่อนหันหน้าไปมองโทโมะก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “คลอรีน...”

 

 

         ตอนนี้ทุกคนต่างเงียบไปพร้อมกันแล้วมองมาที่โทโมะ แต่โทโมะก็ไม่มีท่าไม่สนใจอะไรก็จัดการเก็บหนังสือการ์ตูนของตัวเองลงใต้โต๊ะ พร้อมกับลุกขึ้นยืนและทำท่าว่าจะเดินออกไปไหน จนป๊อปปี้ต้องออกปากถาม

 

 

“ไปไหนวะโทโมะ”

 

 

“ไปหาหนมกิน” โทโมะหันมาตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ

 

 

“ไม่ใช่ว่าจะไปหาสาวน้อยที่มีนามว่า‘แก้ว’เหรอวะ”

 

 

“ทำไมถึงคิดว่าฉันจะไปหายัยนั่น - -?”

 

 

“ก็เมื่อวานแกเดินจับมือกับเขาไม่ใช่?”

 

 

“ก็ใช่ แต่ฉันไม่คิดอะไร”

 

 

“แล้วถ้าเกิดอีกฝ่ายเขาคิดอ่ะ”

 

 

“...” โทโมะเงียบ

 

 

“แล้วแกไปจับมือเขาทำไมวะ เริ่มสนใจ?”

 

 

“พวกแกหยุดคิดอะไรเพ้อเจ้อเหอะว่ะ”

 

 

      โทโมะพูดเหมือนไม่ใส่ใจแล้วเดินออกจากห้องไปทั้งๆที่ในใจรู้ดีเลยว่าป๊อปปี้เดาออกตรงเป๊ะ! อ่าห้ะ! เขา จะไปดูว่าตอนนี้แก้วเป็นยังไงบ้าง แต่ใครจะยอมรับให้เสียฟอร์มกันล่ะ โดยเฉพาะคนอย่างโทโมะน่ะ  มีเพียงคนเดียวเท่านั้นแหละที่เขาสามารถแสดงออกให้เห็นความรู้สึกของเขาได้ ตรงๆ

 

 

       คือ...ผู้หญิงที่มีนามว่า...‘คลอรีน’

 

 

           โทโมะหลงรักคลอรีนมานานตั้งแต่ ม.1 มันนานมาก เขาพยายามควบคุมความรู้สึกอยู่ตลอดเวลาที่เจอเธอ พอถึงเวลาที่เขาคิดว่าคลอรีนคงจะไม่ปฏิเสธเขาแน่เพราะว่าเขาคงจะมีสิ่งที่ดี พอให้เธอ

 

 

           เขาจึงเลือกที่จะสารภาพรักกับเธอเมื่อเทอมที่แล้วนี้เอง!

 

 

           แต่ด้วยความที่หวังมากเกินไปกลับทำให้โทโมะต้องเก็บความรู้สึกเสียใจเอาไว้และ พยายามยอมรับความจริงทั้งๆที่เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม่คลอรีนถึงไม่ รับรักเขา เขามีอะไรที่ผิดพลาดหรืออย่างไร...

 

 

         และคำถามนั้นก็ยังคงค้างคาใจมาจนถึงทุกวันนี้...

 

 

         ถึงแม้ปากโทโมะจะบอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แต่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงต้องพูดแบบนั้นเพื่อปกปิด ความรู้สึกตัวเองด้วย เพราะลึกๆแล้วโทโมพก็ยังคงชอบคลอรีนอยู่ แต่คนปากแข็งก็ยังคงปากแข็งอยู่วันยังค่ำ

 

 

         ขนาดบอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว เขายังคงแอบเพื่อนๆไปแอบดูคลอรีนที่โดมฝ่ายกิจกรรมตลอดว่าคลอรีนกำลังทำอะไร อยู่  แต่จนกระทั่ง...

 

 

         ผู้หญิงที่ชื่อ‘แก้ว’เดิน เข้ามาในชีวิตเขา...สิ่งเหล่านั้นที่เขามีให้กับคลอรีนก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ จนบางครั้งภาพที่เห็นแต่คลอรีนกลับกลายเป็นภาพของแก้วขึ้นมาแทน

 

 

     ทุกๆ วันคงไม่มีใครรู้ว่าหน้าต่างห้องนอนที่อยู่ติดกันทำให้โทโมะชอบแอบมองแก้ว บ่อยๆ ผ่านผ้าม่านของตัวเอง แต่โทโมะก็ยังคงไม่รู้ตัวหรอก...ว่าหัวใจของเขากำลังจะเปลี่ยนไปเพราะ ‘สาวข้างบ้านคนหนึ่ง...’

 

( จบช่วงของเคโอติค )

 

 

ห้องพยาบาล

 

 

“เสร็จแล้วจ้ะ ^^”

 

 

“ขอบคุณค่ะ”

 

 

      อาจารย์ ที่ทำแผลให้ฉันบอกหลังจากที่ฉันนั่งแล้วให้เธอทำแผลให้ คลอรีนก็เป็นผู้ช่วยจัดอุปกรณ์ให้อาจารย์ด้วยขณะที่อาจารย์ทำแผล เธอทั้งเอาใจใส่ความสะอาดว่ากลัวแผลฉันติดเชื้อโรคมากเลยล่ะ

 

 

 

 

      แต่ก็ต้องขอบคุณเธอ ^__^

 

 

 

      หลัง จากที่ฉันล้างหน้าล้างตาล้างผมที่เลอะน้ำกระเจี๊ยบเสร็จคลอรีนก็หาเสื้อผ้า ให้ฉันเปลี่ยนซึ่งเป็นเสื้อผ้าสำรองของเธอเองด้วย  เธอบอกว่าฉันใส่ได้พอดีและให้ฉันใส่ไปก่อนแล้วค่อยซักมาคืนเธอทีหลัง ส่วนเสื้อผ้าฉันเธอให้คุณป้าแม่บ้านเอาไปซักแห้งให้เย็นนี้ก่อนกลับบ้านก็ไป เอาได้ที่ห้องพักป้าแม่บ้าน

 

 

 

“คลอรีนเดี๋ยวหนูช่วยครูเอาอุปกรณ์ไปล้างหน่อยได้มั้ยลูก ^^”

 

 

“ได้ค่ะ แก้วเธอเดินกลับอาคารเองได้มั้ย?”

 

 

 

“ได้ๆ ขอบใจนะที่พาเรามาทำแผล และขอบคุณอีกครั้งสำหรับเสื้อผ้า ^_^”

 

 

 

“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ค่อยเอามาคืนฉันก็ได้ ถามฟางอ่ะ ฟางรู้ว่าต้องเจอฉันที่ไหน ^^”  

 

 

 

“อื้ม ^ ^

 

 

      ฉัน ตอบคลอรีนไปก่อนจะค่อยๆลงมาจากเตียงคนไข้ แล้วค่อยๆใส่รองเท้านักเรียนแล้วเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดมันออกอย่างช้าๆ แต่ก็ยังมิวายหันไปยิ้มแล้วก็บ๊ายบายให้คลอรีนก่อนจะปิดประตูลง

 

“โอย เจ็บชะมัด TOT” ฉันพูดออกมาเบาๆพลางเอามือแตะที่ริมฝีปากที่แตกที่ตอนนี้ถูกทายาแดงไว้แล้วแต่มันแสบมาก นี่ยังไม่รวมที่หัวเข่าด้วยนะ Y_Y

 

 

“ทำแผลเสร็จแล้วเหรอ”

 

 

กึก!

 

 

ขวับ!

 

 

       ฉันจำต้องหยุดจากการเดินก้าวไปเมื่อมีเสียงทักนิ่งๆเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลัง พอฉันหันไปก็พอว่าต้นเสียงของคนๆนั้นก็คือ...โทโมะ! ขะ...เขามาทำอะไรตรงนี้อ่ะ

 

 

       แต่เขายืนอยู่หน้าห้องพยาบาลเหมือนว่ารอให้ใครสักคนออกมา ไม่อยากจะคิดว่าเป็นตัวเองแต่ทำไมมันรู้สึกแบบนี้ล่ะ?

 

      ‘ ทำแผลเสร็จแล้วเหรอ

 

 

      คำถามนี้...เขามารอเหรอ? โอ๊ยยยยยยยย ไม่อยากคิดไปเอง ใครก็ได้บอกทีว่าเขามาเพื่อ???

 

 

          ตึกตักๆๆๆ

 

 

         โอ๊ยยย หัวใจจ๋าอย่าเต้นแรงสิ! >//////<

 

 

“O_O/////”

 

 

อาการใบ้กำเริบอีกแล้วรึไง ฉันถามทำไมไม่ตอบ - -! ”

 

______________________________________

 

อัพแล้วค่าาาาา เม้นโหวตกันหน่อยยยย

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา