Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา

9.6

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.

  43 chapter
  860 วิจารณ์
  67.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) - Heart Palpitation- ( ใจที่สั่นระรัว )

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

- Heart Palpitation -

( ใจที่สั่นระรัว )

 

สักพักต่อมา...

 

 

            ฉันเดินตามโทโมะมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงปากทางเข้าหมู่บ้านพอดี ฉันไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองรึปล่าวเพราะตลอดทางที่เดินกลับ โทโมะเหมือนจะชะลอการเดินตลอดเวลาเหมือนๆกับจะให้ฉันเดินให้ทันเขาหรืออย่างไร

 

 

            เอ่อ...คือฉันไม่อยากคิดไปเองและก็เข้าข้างตัวเองหรอกนะแต่มันรู้สึกได้ จริงๆนะ

 

 

กึก!

 

 

      ไม่ รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอันใดโทโมะถึงได้หยุดเดินแล้วหันมามองฉันก่อนที่เขาจะถอน หายใจออกมาเหมือนไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไหร่ ( อะไรของเขาอีกเนี่ย? ทำไมชอบทำหน้าตาหงุดหงิดกับฉันอยู่เรื่อยเลย ฉันไปทำอะไรให้? = =;;; )

 

 

“นะ...นายหยุดเดินทำไมเหรอ O_O?”

 

 

“ขอถามอะไรหน่อย”

 

 

      โทโมะ พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆและแลดูจริงจังแต่นั่นทำให้ฉันเกิดอาการกลัวหน่อยๆ เพราะไม่พูดปล่าวโทโมะยังเดินเข้ามาหาฉันช้าๆจนฉันต้องถอยออกมาจากเขาก้าวหนึ่ง เพื่อไม่ให้ใกล้จนเกินไป

 

 

          แต่นั่นเหมือนทำให้โทโมะหงุดหงิดกว่าเดิมเสียอีกโดยการสาวเท้าเข้ามาหา โดยที่ฉันไม่ทันตั้งด้วยอีกแล้ว แถมยังมาคว้ามือฉันให้เขาไปหาเขาใกล้ๆอีกต่างหากจนฉันตกใจกว่าเดิมกับการ กระทำของเขา

 

 

หมับ!

 

 

เฮือก!

 

 

O//////O!!

 

 

“...”

 

 

“จะ...จะทำอะไร”

 

 

      ฉัน ถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆพลางมองไปรอบๆว่ามีใครอยู่แถวนี้มั้ย เพราะถ้าเกิดโทโมะทำอะไรฉันขึ้นมาจะได้ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครเลยสักคน! มันเงียบเชียบไปหมดเลย ขนาดใบไม้ยังไม่กระดิกสักใบลมก็ไม่พัด หลอนนะเนี่ย! >O<!

 

 

“เธอ...” โทโมะเริ่มมีสีหน้าที่จริงจังเมื่อกระตุกข้อมือฉันว่าให้สนใจเขาในสิ่งที่เขาจะพูด ( ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้นด้วย =[]=??? ) “...กลัวฉันจับกินรึไงฮะ?”

 

 

“หา?” ฉันพูดด้วยสีหน้างงๆ แต่โทโมะก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยมือฉันเลย   

 

 

“เดินเร็วๆหน่อยได้มั้ยอุตส่าห์เห็นใจที่เห็นว่าขาเธอสั้นเลยเดินช้าๆให้เธอตามทันแต่สุดท้ายก็ยังช้าเหมือนเดิม - -!”

 

 

“แล้วนายจะมาสนใจทำไมเล่า นายก็เดินของนายไปสิ...”

 

 

“พ่อเธอฝากเธอไว้กับฉัน  ขืนเดินห่างกันแบบนี้  ถ้าเธอโดนฉุดแล้วฉันไม่รู้ จะทำไง?”

 

 

             แปลกแห๊ะ! หมอ นี่ถ้าเย็นชาก็แทบไม่พูดเลย แต่พอพูดทีนี่เป็นบ่นยาวเลยเหอะ ให้ตาย เขานี่ประหลาดอย่างที่เปาบอกจริงๆด้วย ตามจริงไอ้เรื่องเดินนี่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลยนะ

 

       แต่หมอนี่นิ = =;;;;

 

 

“งั้นให้เราเดินไปก่อนมั้ย” ฉันออกความเห็น เพราะถ้าเขามีปัญหาที่ฉันเดินช้า ให้ฉันเดินไปก่อนเลยฉันจะได้เดินนำไปก่อน จะได้หมดเรื่อง!

 

 

      แต่คำตอบทีได้คือ...

 

 

“ไม่ต้อง เดินไปด้วยกันนี่แหละ” โทโมะพูดพร้อมกับพาฉันเดินแต่เขายังไม่ปล่อยมือฉันเล้ย! นี่มันเป็นแผนแกล้งให้ฉันเขินอาย หรืออย่างไร ทำไมต้องจับมือด้วยเล่า เดี๋ยวก็มีคนเข้าใจผิดหรอก =////////=

 

 

“ตามจริงนายควรปล่อยมะ...”

 

 

“เงียบเหอะน่า”

 

 

       โทโมะ พูดขัดขึ้นก่อนที่ฉันจะพูดจบ และจังหวะที่เราเดินเข้ามาจนถึงสวนหน้าหมู่บ้านฉันก็สังเกตเห็นว่ามีพวก กลุ่มวัยรุ่นในเครื่องแบบนักเรียนมัธยมโรงเรียนอื่นที่มารวมตัวอะไรกันไม่ รู้แล้วก็กำลังมองมาทางนี้

 

 

             วินาทีนั้นโทโมะเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจ แต่ทว่า...เขากลับจับมือที่จับมือฉันอยู่ให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

 

 

ตึกตักๆๆๆๆๆ

 

 

            ตอนนั้นรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองกำลังร้อนวาบแล้วก็มีเหงื่อซิบๆตรงหน้าผาก ด้วยนะ ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ฉันเริ่มหายใจไม่ออก อาจจะเป็นเพราะว่าได้เดินกับคนที่ตัวเองกำลังชอบเขาอยู่ลางๆและมันก็เริ่ม มากขึ้นๆก็เมื่อตอนที่เขาจับมือฉันแล้ว

 

 

           เราเดินกันมาจนถึงร้านขายน้ำโทโมะก็หยุดเดินแล้วหันมาถามฉันว่า...

 

 

“เอาน้ำอะไรรึปล่าว”

 

 

      คำถามโทโมะทำฉันสตั๊นไปหนึ่งวิแต่ฉันก็ส่ายหน้าเป็นอันบอก‘ไม่เอา’

 

 

      ฉันว่า...เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่นาแค่เย็นชา ขี้เก๊ก ขี้บ่น หยิ่งบ้างในบางครั้ง ( นี่คือไม่เลวร้ายเท่าไหร่นะ = =;;; ) แต่ในโรงเรียนทำไมเขาต้องทำท่าทางหาเรื่องๆอย่างนั้นด้วยนะไม่เข้าใจเลย

 

 

“อ้าว วันนี้เดินกลับกับแฟนเหรอโทโมะ ^^”

 

 

ขวับ!

 

 

 

      ฉัน หันไปตามเสียงนั้นก็พบว่าลุงคนขายน้ำพูดขึ้นขณะที่โทโมะกำลังจะจ่ายเงิน ลุงคนนั้นมองมาที่ฉันยิ้มๆ ฉันก็ยิ้มตอบไป และหันหน้าไปทางอื่นช้าๆเพราะรู้สึกว่าคำพูดของลุงคนนั้นทำให้ฉันทำตัวไม่ ถูกจนต้องกำมือสองข้างแล้วยืนตัวเกร็งเลยทีเดียว Y_Y  

 

 

        แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นฉันก็พยายามแอบฟังอยู่เหมือนกันว่าโทโมะจะตอบลุงคนขายน้ำนั้นว่าอะไร...

 

 

“แฟนน่ารักนะน่ะ”

 

 

“ไม่ใช่แฟนหรอกครับ เพื่อนบ้านกัน เธอเพิ่งย้ายเข้ามา”

 

 

      อ่า...รู้สึกโล่งทันทีที่โทโมะตอบออกไป ไม่งั้นฉันคงอึดอัดอยู่แบบนี้แหละนะ บางทีถ้าอึดอัดมากๆก็จะเก็บไปฝันเอาได้เลยล่ะ = =;;;;

 

 

      และ เมื่อฉันรู้สึกได้ว่าเสียงฝีเท้าของโทโมะกำลังเดินออกจากร้านมาฉันจึงทำตัวให้ ดูปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะฉันไม่อยากให้เขาสังเกตเห็นว่าฉันกำลังรู้สึกแปลกๆอยู่

 

 

“ไม่ต้องกังวลนะว่าฉันจะคิดอะไร” คำพูดของโทโมะทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเขาด้วยความสงสัยนิดๆ และโทโมะก็หันมามองฉันพร้อมกับคำพูดต่อไป “ฉะนั้น...เธอสบายใจได้เลย”

 

 

      เมื่อ โทโมะพูดจบเขาก็เดินไปเลยและปล่อยให้ฉันยืนมองแผ่นหลังที่กำลังเดินไกลออกไป คำพูดนั้น...เฮ้อ...ฉันควรจะเสียใจมั้ยนะเพราะไม่รู้จริงๆ โทโมะเดินห่างออกไปแล้วทิ้งความเงียบงันไว้ให้ฉันแล้วดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจ กันอีกเลย

 

 

“เราก็ไม่ได้หวังเลยสักนิด...” ฉันพูดกับตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา เพราะคำพูดฉันโทโมะไม่มีทางได้ยินหรอกเพราะเขาเดินห่างไปพอสมควรแล้ว จากนั้นแหละฉันจึงเริ่มเดินตามไป

 

 

          ‘ ไม่ต้องกังวลนะว่าฉันจะคิดอะไร...ฉะนั้น...เธอสบายใจได้เลย

 

 

      คำ พูดขวานผ่าซากของเขานั้นทำให้ฉันหมดหวังไปเรียบเลย โทโมะเขาทำเหมือนไม่รู้ แต่ฉันว่าเขารู้แน่ๆเพราะท่าทางเขาฉลาดหลักแหลมสุดๆ เขาต้องมองออกถึงแม้ฉันไม่พูดว่าฉันกำลังรู้สึกอะไร เขาเลยพูดเข้าตรงจุดเหมือนกับตัดความคิดของฉันไปเลย

 

 

          เมื่อฉันเดินมาจนถึงหน้าบ้านของตัวเองและกำลังจะเข้าบ้าน สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นว่าโทโมะกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้หินอ่อนหน้าบ้านของเขา และเมื่อเขาเห็นฉันเดินมาถึงหน้าบ้านแล้วเขาก็เดินไปเปิดประตูแล้วก้าวเข้า บ้านของตัวเองไปอย่างไม่พูดอะไร ส่วนฉันเองก็ก้มหน้าก้มตาไขกุญแจเข้าบ้านไปเช่นกัน...

 

 

 

วันต่อมา...

 

 

“เมื่อวานหมอนั่นทำอะไรแกรึปล่าว?”ฟางถามทันทีที่ฉันมาถึงโรงอาหารโต๊ะประจำที่นั่งกินข้าวด้วยกัน ทุกครั้งที่มีเรียนสายเราจะมาเจอกันที่นี่ก่อน

 

 

        เมื่อคืนฉันนอนไม่หลับเลยทั้งคืนมันกึ่งหลับกึ่ง ตื่นไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร พลิกตัวนอนไปมันก็ไม่หลับเลย ใบหน้าโทโมะมันยังคงวนเวียนอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์เมื่อวานมันทำให้ฉันเก็บเอาไปคิดจริงๆจากที่ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้ มาก่อน

 

 

“ปล่าว ไม่ได้ทำอะไร” ฉันตอบฟางไปขณะนั่งลงฝั่งตรงกันข้าม

 

 

“แน่ใจนะ”

 

 

“แน่สิ เพราะมันไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่เราต้องคุยกันนี่นา” ฉันตอบฟางไปอย่างแนบเนียนฟางก็พยักหน้ารับ ตามจริงฉันก็อยากจะบอกนะว่าโทโมะทำอะไร แต่ไม่รู้สิ...มันเหมือนกับไม่อยากจะพูดออกมา “ฉันจะไปซื้อไอติม เอาด้วยป่าว?”     

 

 

“เลี้ยงหรา ^O^”

 

 

“อื้ม ^^”

 

 

“เฮ้ย เลี้ยงจริงดิ O_o?”

 

 

“ก็จริงน่ะสิไม่เห็นแปลกเลย” ฉันพูดแล้วขำไปด้วยหน่อยๆ ดูท่าทางฟางจะแปลกใจที่มีคนเลี้ยงไอติม? แต่ก็น่ารักใช่ย่อยนะ ^^ “เอารสอะไรว่ามา”

 

 

“ขอช็อคโกแลต ขอบใจมากที่เลี้ยง ^^”

 

 

“ไม่เป็นไรหรอกเพื่อนกัน ^^”

 

 

      ฉัน บอกฟางก่อนจะเดินตรงไปยังร้านขายไอศกรีมที่อยู่ติดกับร้านขายเครื่องเขียน ของโรงเรียน ตอนนี้ก็มีนักเรียนกำลังทานข้าวกันอยู่เป็นกลุ่มๆและท่าทางดูวุ่นวาย เมื่อมาถึงร้านขายไอศกรีมฉันก็ยืนต่อแถวรอคิวที่ยาวพอสมควร

 

 

           สักพักต่อมาจู่ๆก็มีคนมาสะกิดที่หัวไหล่ พอฉันหันไปก็พบว่าเป็นผู้ชายใส่แว่นคนนั้นอีกแล้ว เขาชื่ออะไรนะ? จำได้ลางๆว่าตอนนั้นเขาบอกกับฉันว่าเขาชื่อ...มะ...อ๋อ!

 

 

“มะ…มิณท์”

 

 

“ฮ่าๆ นึกว่าจะจำกันไม่ได้ซะแล้ว ^O^//” มิณท์พูดยิ้มๆแล้วใช้มือขยับแว่นของเขาให้เข้าที่

 

 

“มีอะไรเหรอ?”

 

 

“ปล่าวเราแค่ทักเฉยๆ”

 

 

           มิณท์พูดแล้วเกาคอตัวเอง เขาขาวมากๆจนสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่าหูของเขากำลังแดงแต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไร ต่อเพียงแค่ยิ้มให้เขานิดๆ จากนั้นเราก็ไม่ได้พูด อะไรกันต่อจนกระทั่งฉันซื้อไอติมเสร็จแล้วฉันกำลังจะเดินกลับที่แต่มิณท์ บอกว่าให้รอเขาก่อนเพราะมีเรื่องจะคุยด้วย

 

 

“รอนานมั้ย?” เมื่อมิณท์ซื้อไอติมรสมะนาวเสร็จเขาเลยรีบวิ่งมาถามฉันที่ยืนรออยู่ตรงต้นเสาใกล้ๆ

 

 

“ไม่นานหรอก ว่าแต่...มีเรื่องอะไรจะคุยกับเราเหรอ?”

 

 

 “เอ่อคือ...พรุ่งนี้วันเสาร์...เธอว่างมั้ย?”

 

 

“ว่าง ปกติเราอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว”

 

 

“งั้นพรุ่งนี้...ถ้าเราจะชวนเธอไป...”

 

 

       ฟิ้ว!

 

 

       ตุ้บ!

 

 

      มิณท์ยังพูดไม่ทันจบจู่ๆก็มีขวดน้ำที่ถูกปาผ่านหน้าของฉันกับมิณท์ไปตกลง ตรงถังที่อยู่ใกล้ๆเราสองคนจนฉันกับมิณท์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองต้นทางที่ขวดน้ำถูกปามาก็พบว่าคนที่ปาคงหนีไม่พ้นใครคนใดคนหนึ่งในกลุ่มที่ได้ ขึ้นชื่อว่า‘มีอิทธิพล’ที่สุดในโรงเรียนแน่ๆ  

 

 

      ใช่! พวกกลุ่มเคโอติคทั้งกลุ่ม ย้ำ! ทั้งกลุ่ม! กำลัง มองมาที่ฉันกับมิณท์ด้วยสีหน้าแววตาแปลกๆ ไม่เว้นแม้แต่โทโมะที่ก็มองมาด้วย ฉันเองก็ไม่ได้สังเกตว่าพวกนั่งอยู่ตรงนั้นเพราะคิดว่ารีบซื้อแล้วรีบกลับดี กว่า

 

 

          แล้วทำไมวันนี้พวกเขาไม่นั่งที่ประจำของพวกเขาล่ะ?

 

 

“นายมีคนนั่งคนนั่งกินข้าวด้วยมั้ย...”

 

 

     ไม่ รู้เป็นเพราะอะไรที่ทำให้มิณท์หน้าซีดแล้วไม่สดใสหลังจากที่ฉันหันกลับมา มองเขา ฉันจึงเอ่ยปากถามออกไป เหตุการณ์เมื่อกี้เหมือนทำนองหาเรื่องยังไม่รู้ ฉันเองก็ติดใจตั้งแต่วันนั้นแล้ว ที่ฉันเจอมิณท์ครั้งแรกแล้วกลุ่มเคโอติคถีบรถจักรยานจนล้มเป็นแถว

 

 

      พวกเขาไม่พอใจอะไรมิณท์รึปล่าวนะ? ถ้าแค่ไม่ถูกชะตาก็ไม่เห็นต้องทำกันขนาดนี้เลยนี่นา

 

 

“เรา...”

 

 

“ถ้านั่นไปนั่งกับเราแล้วก็ฟางก็ได้นะ” ฉันพูดอย่างเป็นห่วง

 

 

“ขอบคุณนะแต่ไม่เป็นไรหรอก” ถึงเขาจะพูดแบบนั้นแต่ดูจากสีหน้าแล้วเป็นแน่ๆ “ไว้เราค่อยคุยกับเธอวันหลังนะ” พอพูดจบมิณท์ก็เดินออกไปเลย ฉันยืนมองเขาอยู่สักพักก่อนที่จะเดินกลับที่ไป

 

 

         ท่าทางเขาแปลกๆนะ แลดูเขากลัวกลุ่มโทโมะมากๆเลย แต่ฉันเองก็ไม่พอใจเหมือนกันนะที่ฉันกำลังคุยกับมิณท์ยู่แล้วพวกนั้นปา ขวดน้ำผ่านหน้ามันแลดูจงใจมาก

 

 

     กลุ่มเคโอติคไม่พอใจอะไรมิณท์ขนาดนั้นนะ...

 

 

“เป็นไรป่าวเนี่ยสีหน้าเซ็งมาเชียว” ฟางถามทันทีเมื่อฉันมาถึงที่โต๊ะ ฉันก็นั่งลงฝั่นตรงข้ามแล้วไอติมให้เปาก่อนจะถอนหายใจ

 

 

“รู้จักคนที่ชื่อมิณท์รึปล่าว"ฉันถามขณะมองฟางไปด้วย ฟางทำท่าครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้า

 

 

“รู้จักสิ หมอนั่นอยู่ห้อง 5/1 ทำไมเหรอ”

 

 

“คือฉันไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองรึปล่าว แต่เหมือนเขาจะไม่ค่อยถูกกับกลุ่มบังโทโมะหรือว่ายังไงเลย”

 

 

“ทำไม ไปเห็นอะไรมา O_O?”

 

 

           คราวนี้ฟางทำท่าเหมือนจะตกใจนิดๆ ฉันก็เลยเล่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอมิณท์กลุ่มเคโอติคทำอะไรจนมาถึงเหตุการณ์ที่โรงอาหารฟางจึงตัดสินใจเล่าให้ฉันฟัง

 

 

“มิณท์อ่ะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวเหมือนกับฉันเนี่ยแหละ คือ ไม่ค่อยมีเพื่อนเยอะ ถึงมีก็ไม่ผูกมัดอะไรทำนองนี้แต่ว่าเขาเป็นคนดีนะ เวลาไปไหนเท่าที่ฉันสังเกตเขาจะไปคนเดียวตลอดแถมเรียนเก่งขั้นเทพทำงานอะไร ก็ไม่เคยทำให้อาจารย์ผิดหวังถือว่าเขาเป็นผู้ชายเพอร์เฟคคนหนึ่งล่ะ อาจจะเป็นไปได้ว่าพวกเคโอติคคิดว่าเขาอยากโชว์ความเจ๋งละมั้งเลยหมั่นไส้”

 

 

“แต่มันต้องทำท่าทีหาเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย มันไม่เกินไม่หน่อยเหรอ”

 

 

“โรงเรียนนี้ไม่มีอะไรที่เกินไปสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะกับพวกเคโอติค”  

 

 

อีกฝั่ง

 

 

“นี่ๆๆๆๆพวกแก๊! ฉันมีอะไรเด็ดๆมาให้พวกแกดูล่ะ><!”

 

 

“อะไรของแกเนี่ยจินนี่”

 

 

          ‘พิมพ์’สาวสวยลูกครึ่งอเมริกันผู้มีเรือนผมสีแดงละจากการมองใบหน้าอันสง่างามของเธอจากกล้อง I Phone สีทองของเธอมามองจินนี่ที่วิ่งมาด้วยสีหน้ารีบร้อนพร้อมกับคำพูดชวนลุ้นนั่น

 

 

“ถ้าไม่เด็ดแกตายแน่”  ‘เฟื้องฟ้า’ สาว สวยเรือนผมน้ำตาลทองเริ่ดเชิดลูกครึ่งอังกฤษเอ่ยบอก

 

      ขณะที่จินนี่ก็ตื่นเต้น จนเวอร์ ขณะที่โชว์รูปถ่ายในโทรศัพท์ให้พิมพ์กับพิ้งดู แล้วสองคนนั้นก็เบิกตากว้างทันทีที่เห็นมัน

 

 

“นี่มันอะไรเนี่ย!?!” >>> พิมพ์

 

 

“โทโมะเดินจับมือกับใครอ่ะ?” >>> พิ้ง

 

 

“บอกแล้วไงว่าเด็ด ^^”

 

 

“อีผู้หญิงในรูปคนนี้เป็นใครกัน? บอกมา!”

 

 

      พิมพ์ตะโกนใส่หน้าจินนี่จนจินนี่สะดุ้งเพราะอาการแรงหึงและหวงโทโมะอย่างมาก! กลุ่มนี้น่ะจ้องจะจับเคโอติคทั้งกลุ่มแต่คนที่หมายตามีเพียง 1 เดียว และพิมพ์ก็ ‘จ้อง’ โทโมะไว้แล้วด้วยพอเห็นรูปนี้เธอถึงโมโหขึ้นมา

 

 

“ฉันถามคนที่รู้จักเขาบอกว่าเป็นเด็กใหม่ห้อง 5/2 ที่เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว” จินนี่พูดอย่างกล้าๆกลัว

 

 

“ฉันว่าหล่อนก็หน้าตาไม่ได้ขี้เหร่อะไร บางทีโทโมะอาจจะควงเล่นๆเฉยๆก็ได้” เฟื้องฟ้าพูด

 

 

“แต่โทโมะไม่เคยควงใคร! เขาไม่เคยมีข่าวคบหรือควงใครเลยด้วยซ้ำ ถ้าจะควงหรือว่าคบ ฉันต้องเป็นคนแรก!”

 

 

“แต่ยัยนี่มันโดนควงก่อนแกซะแล้วสิ” เฟื้องฟ้าพูดแต่แฝงไปด้วยคำยุยงให้พิมพ์โมโหขึ้นไปอีก

 

 

“ฮึ่ย!...!!”

 

 

      จังหวะ นั้นนั่นเองที่สายตาของพิมพ์ก็ดันไปสะดุดเข้ากับผู้หญิงหน้าไม่คุ้นตาคนหนึ่ง ที่กำลังลุกขึ้นสะพายเป้แล้วกำลังจะเดินออกจากโรงอาหารกับเพื่อนสาวอีกคน และเมื่อพิมพ์มองเทียบผู้หญิงคนนั้นในโทรสัพท์ I Phone ของจินนี่แล้ว

 

 

             มันก็คือคนๆเดียวกัน!!!

 

 

“จินนี่ เฟื้องฟ้า ”

 

 

“ว่า?” จินนี่กับเฟื้องฟ้าพูดพร้อมกับพร้อมกับให้ความสนใจกับใบหน้าของพิมพ์ว่าเหมือนว่าคิดอะไรดีๆออกแล้วหน้าถึงได้เผยรอยยิ้มออกมา

 

 

“ยัยนั่นเป็นเด็กใหม่...ฉันว่า...เรามารับน้องใหม่กันซักหน่อยมั้ย?” พิมพ์พูดขณะที่สายตายังคงมองผู้หญิงที่เธอกำลังจะทำการ ‘รับน้องใหม่’ที่อยู่ไม่ไกลนัก จินนี่กับเฟื้องฟ้าก็มองตามสายพิมพ์ไปก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วยิ้ม

 

 

 

“จัดไปสิ” เฟื้องฟ้าว่า  

 

 

 

“จินนี่ น้ำกระเจี๊ยบถ้าแกไม่เอาแล้ว...ฉันขอ!” พิมพ์พูดจบก็ลุงขึ้นจากเก้าอี้ตัวเองแล้วคว้าแก้วน้ำกระเจี๊ยบก่อนจะเดินมุ่งตรงไปที่เป้าหมายทันที

 

 

 

“งานนี้สนุกแน่” จินนี่กับเฟื้องฟ้าพูดก่อนจะลุกตามพิมพ์ไป

 

 

 

 

 “แกว่าไงแก้วมันโอเคป๊ะ ฮ่าๆๆๆ”

 

 

 

“ก็โออยู่นะ ฮ่าๆๆน่ารักดี”

 

 

 

“เห้ยยย ประชดปล่าวเนี่ย เอาดีๆเด้ >O<//”

 

 

 

“นี่เธอ!”

 

 

 

       ฉัน กำลังเดินคุยยิ้มๆกับฟางอยู่ขณะเดินออกจากโรงอาหาร จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาเรียกไว้ พอฉันหันไปเธอคนนั้นก็เหยียดยิ้มให้ฉันแล้วมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะทำ ในสิ่งที่ฉันไม่ทันตั้งตัวเพราะอยู่ๆเธอก็สาดน้ำกระเจี๊ยบที่อยู่ในมือเธอมาใส่หน้าฉันเต็มๆ!

 

 

 

ซ่า!!

 

 

 

 

อุ๊ย! ตายแล้ว! Sorry มากๆนะ เผอิญว่า...ฉันตั้งใจ!”

 

 

 

 

 

 

________________________________________

ไรต์มาอัพแล้วฮ่ะ อยากให้อัพไวๆก็เม้น โหวตสักนิดน้าาา ><

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา