Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา
9.6
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.
43 chapter
860 วิจารณ์
67.52K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5) - You & Me - ( เธอและฉัน )
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ- You & Me -
( เธอและฉัน )
หมับ!
“กรี๊ดดดดดดดด”
ฉัน ร้องลั่นออกมาเมื่อทนไม่ไหวเพราะอยู่ดีๆข้อมือของตัวเองก็ถูกมือของใครมาจับ เอาไว้แล้วดึงเข้าหาตัวของอีกฝ่าย ฉันดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนแผ่นหน้าอกของใครก็ไม่รู้ แต่หลังจากที่กรี๊ดนั้นออกมาแล้ว ฉันก็กรี๊ดต่อไม่ออกเพราะตกใจสุดๆ จนกระทั่ง...
ปิ๊ง!
เหมือนว่าพระเจ้าจงใจแกล้งกันชัดๆ! ที่อยู่ดีๆ ไฟก็เปิดขึ้นมาราวกับมีพลังงานบางอย่างอยู่ ณ ที่นี้ และแล้ว! ฉันก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้งและอีกคร้างงงงงง >O<!!!!
เมื่อคนที่ฉันกำลังตกอยู่ในอ้อมแขนคือ...ทะ...โทโมะ!?!
อ้าว? แล้วเขามาทำอะไรที่นี่?! เอาขยะลงมาทิ้ง?! หรืออะไรยังไง?
ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก โทโมะมองหน้าฉันนิ่งๆแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันนิดๆ ( อีกและ! ขมวดอะไรนักฮะ? ฉันทำอะไรผิด!? ) เมื่อฉันตั้งสติได้ฉันจึงผละตัวออกจากเขาแล้วทำหน้าตาให้เป็นปกติ โดยทำหน้านิ่งไม่รู้โลกอะไร ( ทั้งๆที่ใจเต้นแทบระเบิด >/////////< )
โทโมะ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างกับฉัน แต่เขาก็ไม่พูดแต่ก้มลงยกกล่องลังที่มีแต่ถุงขนมขึ้นมาโยนใส่ลงไปในถังขยะ ด้วยท่าทางเก๊กๆ
แหม เมื่อกี้ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าเขาจะดึงฉันเข้าไปหาเพื่อ??? ฉันตกใจจนแทบจะระเบิด แล้วดูเขาสิ! ยังคงทำท่าเก๊กๆเหมือนครั้งแรกที่เราพบกันอยู่จนกระทั่งวันนี้
ทำไมนะ? เขา ถึงชอบทำให้ฉันตกใจอยู่เรื่อยเลย วันแรกที่เจอกันเขากระโดดลงมาจากต้นไม้จนฉันกรี๊ดแตกไปแล้วรอบหนึ่ง วันนี้เขายังทำฉันตกใจอีก บังเอิญจังเล้ย!
อ่าห้ะ! ใช่! รู้ครับผมว่าคุณหล่อมากกกกกกก จนฉันเองก็อดที่จะไม่มองไม่ได้ = =;;;
“...”
“...”
เมื่อ ฉันแน่ใจแล้วว่าโทโมะคงไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ ฉันจึงเดินออกมา แต่ทว่าเดินผ่านตัวเขามาไม่กี่ก้าว วีก็เอ่ยคำพูดหนึ่งที่ทำให้ฉันต้องหยุดชะงัก
“เป็นใบ้เหรอ”
กึก!
คำ พูดจี้ใจดำที่เป็นคำพูดแรกที่เขาพูดกับฉันนั้นทำให้ฉันต้องหันไปมองหน้าโทโมะ นิ่งๆ โทโมะเองก็มองฉันอยู่เช่นกัน แต่ฉันก็ไม่รู้นะว่าหมอนี่เป็นคนยังไงกันแน่ แต่จากการที่เขาพูดแบบนั้นคงเพราะรำคาญหรือปล่าวที่ดันมาเจอฉันโดยบังเอิญแต่ ฉันก็กลับเงียบไม่ทักไม่ทายเขาทั้งๆที่เป็นเพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายเข้ามา
แต่...จะให้ฉันพูดอะไรล่ะ? และที่สำคัญนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนด่าว่า ‘ฉันเป็นใบ้’ ด้วย = =;;;
‘แก๊งเคโอติคน่ะแต่ละคน ‘ไม่ธรรมดา’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...โทโมะ...’
คำพูดของฟางทำให้ฉันชักจะรู้สึกไม่ไว้วางใจเขาแล้วล่ะสิ ไอ้ที่ว่า ‘ไม่ธรรมดา’ นี่มันลึกลับซับซ้อนจริงๆเลยแฮะ = =;;;
“เราไม่ได้เป็นใบ้...แต่เราแค่ไม่มีอะไรจะพูด”
ฉันตัดสินใจพูดออกไปแบบกล้าๆกลัวๆเพราะ ด้วยความที่เดาทางไม่ออกว่าต่อไปเราจะพูดอะไรกันต่อ แต่โทโมะมองฉันนิ่งๆเท่านั้นแล้วเขาก็กลอกตาขึ้นลงเหมือนกับจะบอกว่า 'เธอเนี่ยนะ' ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหมายความว่าอย่างนี้รึปล่าวแต่เซนส์มันบอก และเมื่อฉันเห็นว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่ จึงตัดสินใจเดินออกมาจะที่นั่นอย่างรวดเร็ว
การสบตาโทโมะเป็นอะไรที่ยากลำบากมากกกกกกกกกก @/////////@
ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำที่โรงขยะเขาจงใจหรือไม่อย่างไรที่จะต้องดึงให้ฉัน ไปซบที่อก เขารู้ว่าเป็นฉันแน่นอนเพราะเราเพิ่งเดินลงมาเจอที่บันไดและฉันถือกล่องลัง ขยะอยู่ ที่เขาทำแบบนี้เพราะอยากจะแกล้งฉันใช่มั้ย? หรือเพื่อนๆในกลุ่มบอกให้เขามาแกล้ง?
เฮ้อ...ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ
เลิกเรียนวันนั้น
ห้องสมุด
วันนี้ห้อง 5/2 ของฉันเลิกเรียนตั้งแต่ 3 โมงครึ่ง ฉันกับฟางก็ยังกลับบ้านไม่ได้เพราะมีเวรทำความสะอาดจัดห้องสมุดอีก แค่ 2 คน เท่านั้น! โหดอะไรเยี่ยงนี้นิ Y__Y
และ ฉันก็ชักจะไม่แน่ใจแล้วสิว่าพระเจ้าต้องการกลั่นแกล้งอะไรฉันอีก เพราะพวกห้อง 5/7 ดันมีเรียนวิชาห้องสมุด พวกนั้นจึงนั่งเรียนทำรายงานบลาๆๆๆ ฉันกับฟางก็จัดหนังสือไปไม่ได้สนใจพวกเคโอติคที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรง นี้เท่าไหร่
ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าพวกนั้นได้เกรดติดระดับ TOP กัน ได้ยังไงนะ เพราะขนาดชั่วโมงเรียนยังไม่สนใจที่จะเรียนอะไรเท่าไหร่เลย ฉันได้ยินอาจารย์สั่งให้พวกเขาไปหาหนังสือมาเล่มหนึ่งแล้วจดสรุปความไม่ใช่ เหรอ แล้วไหงมานั่งคุยกันแบบนี้ล่ะ = =;;;
“ยัยฟางมัดข้าว นิสัยแมนเกินผู้หญิง ถ้าบอกได้เธอหน้านั้นเหมือนลิง อยากหัวเราะให้กลิ้งกับใบหน้าของเธอ ฮ่าๆๆๆๆ ^O^//”
“...”
เมื่อ ฉันหันไปก็พบว่าคนที่พูดคือป๊อปปี้ แถมการพูดของเขาเหมือนกำลังเยาะหยอกฟางพอฉันหันไปมองฟาง ฟางก็ยืนถอนหายใจแล้วกัดฟันตัวเองขณะที่จัดหนังสือไปด้วย
พวกนี้นี่! ฉันว่าถ้าฟางตอกกลับไปล่ะเรื่องยาวแน่ๆ แต่มันน่าตะหงิดๆนะ ที่ฟางกับป๊อปปี้เหมือนคนที่เคยมีประเด็นอะไรกันมาก่อน
แต่เมื่อฉันคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วนั้นฉันคิดผิด! เพราะฟาง...
“เก็บปากไว้เคี้ยวข้าวดีกว่าไหม ถ้าไม่อยากให้เท้าฉันลอยไปหา นายเองก็รู้อยู่นี่นา ว่าตีนฉันเป็นยังไง”
จบ คำกลอนนั้นฟางหันไปแลบลิ้นใส่ป๊อปี้ ก่อนจะจูงมือฉันให้ไปทำล็อคต่อไป ถ้าให้ฉันเดาตอนนี้ป๊อปปี้คงอยากจะเข้ามาขย้ำคอฟางเต็มทนแล้วล่ะมั้งน่ะ เพราะแอบเห็นแว๊บๆว่าเขาจะลุกขึ้นมาแต่เพื่อนๆจับให้นั่งลงตามเดิม
เอ๊ะๆ คู่นี้ชักยังไงๆนะเนี่ย ^^
“ไหนบอกว่าไม่อยากยุ่งกับพวกนั้นไง” ฉันพูดเมื่อฟางพาฉันมายังชั้นหนังสืออีกมุม
“ก็ไม่อยากจะอะไรนะแต่มันอดไม่ได้ว่ะ” ฟางพูดแล้วถอนหายใจฮึดฮัดเพราะยังคงอารมณ์เสียอยู่
“เคยมีประเด็นกันมาก่อนล่ะสิท่า”
ฉันเดาไม่ผิดจริงๆด้วย! เพราะฟางพยักหน้ารับจริงๆ ว่าแล้วว่าทำไมป๊อปปี้ถึงได้หยอดแกล้งฟางบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าฉันไม่สังเกตนะ แต่ ‘โมเม้นต์’ คู่นี้มีบ่อยมากกกกกกกก
ฉันล่ะสังเกตตั้งแต่ตอนที่ฟางกับฉันยืนซื้อข้าวกันอยู่แล้วป๊อปปี้เดินมาเอาโพสอิทที่เขียนว่า ‘จีบได้! ยัยฟางมัดข้าวแฟนไม่มี!’ มาแปะที่หลังฟางตอนที่ฟางไม่รู้ตัว
ตอนนั้นฉันไม่อยากเห็นฟางมีเรื่องกับเขาจึงแอบดึงโพสอิทนั่นออกจาก หลังฟางอย่างไวเลย = =;;;;
ป๊อปปี้ก็นะ! แกล้งฟางต่อหน้าต่อฉันเลยนะเนี่ย!
“ฉัน กับหมอนั่นเคยมีเรื่องกันเมื่อตอน ม.ต้น น่ะ เวลาฉันไปไหนคนเดียวแล้วเจอพวกนั้น อีตาบ้านั่นจะชอบพูดจิกฉันตลอด ที่ฉันตอบกลับไปยังน้อยไปด้วยซ้ำกับที่ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันน่ะ >^<!”
“เอาน่า ใจเย็น”ฉัน พูดแล้วตบที่บ่าของฟางเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเอาหนังสือที่พวกนักเรียนจะเอามาคืนกันใน ช่วงเย็นเอามาเก็บไว้ตามหมวดต่างๆ
โรงเรียนนี้จะรับคือหนังสือตอนเย็นเท่านั้นเพราะตอนกลางวันจะไม่รับคืนเพราะ จะเป็นเวลาพักของฝ่ายบริการในห้องสมุด แต่ต้องเอามาคืนก่อน 6 โมงเย็นเท่านั้น ไม่งั้นจะโดนปรับเงินนาทีละบาท
เมื่อฉันเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ก็พบกับรุ่นน้องสาวแว่นใสมัดเปียสองข้าง (หน้าตาน่ารักดีนะฉันว่าถึงเธอจะใส่แว่นกรอบใหญ่หนาเตอะแค่ไหนก็ตาม ^__^) ที่กำลังจัดหนังสือที่มีเด็กมาคืนเอายกมันมาวางไว้บนโต๊ะ
“นี่ค่ะ หนูจัดไว้ให้หมดแล้ว ^__^”
“จ้ะ ขอบคุณนะ ^^” ฉันบอกยิ้มๆ
“พี่เพิ่งย้ายมาใหม่เหรอ? หนูไม่คุ้นหน้าเลยพี่ชื่ออะไรเหรอคะ?” น้องคนนั้นถามแล้วดันแว่นขึ้นเล็กน้อย
“พี่ชื่อแก้วจ้ะ เพิ่งย้ายเข้ามาได้สองอาทิตย์”
“อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่แก้ว หนูชื่อแต้งกิ้ว ^_^”
“เช่นกันจ้ะ งั้นพี่ไปก่อนนะ”
“ค่า ^O^//”
ฉัน ยกกองหนังสือที่หนักเอาการไปยังหมวดประวัติศาสตร์ ( น้องแต้งกิ้วจัดไว้ให้เป็นหมวดๆแล้วน่ะ ) ซึ่งอ่านป้ายดูแล้วมันอยู่ลึกด้านในของห้องสมุดเลย แล้วมันก็เงียบมากเสียด้วย ฉันเดินเข้ามาทางด้านในสุดแล้ววางหนังสือเอาไว้ที่พื้นแล้วหยิบขึ้นมาเล่ม หนึ่งพลางมองหน้าหมายเลขของหนังสือ
“ทำไมต้องอยู่ชั้นบนด้วยน้า”
ฉัน จำต้องปาดเหงื่อซะแล้วเพราะชั้นหนังสือของเล่มที่ฉันต้องจัดมันดันอยู่สูงไป นิดนึงจนฉันจำต้องเขย่งสุดปลายเท้า และความพยายามของฉันก็ไม่ศูนย์เปล่าเพราะมันก็สำเร็จจนได้! เย่! แต่เหงื่อที่ไหลลงมาเนี่ยสิ เฮ้อ...
( ช่วงเล็กน้อยของเคโอติค )
ตื๊ด...ตื๊ด...
โทโมะที่กำลังนั่งคุยกันกับเพื่อนๆในกลุ่มเคโอติคก็จำเป็นต้องหยุดคุยแล้วหยิบ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงนักเรียนขึ้นมาดู แต่เบอร์นั้นไม่มีชื่อแสดงว่าไม่ใช่เบอร์คนรู้จักอย่างแน่นอน
“ใครโทรมาวะ” เขื่อนเงยหน้าจากหนังสือรายงานขึ้นมาถาม
“ไม่รู้ว่ะ” โทโมะบอกก่อนที่เขาจะกดรับสายนั้น “ฮัลโหลครับ”
“ O_o ???” >>>> สีหน้าความอยากรู้ของเพื่อนในกลุ่ม ( อยากรู้กันจริงๆ = =;;; )
“เห็นอยู่ครับน้ามีอะไรรึปล่าวครับ”
[@#$&*(&%$##4@#$%^&8 ]
“อ๋อ งั้นรอสักครู่นะครับ”
เมื่อโทโมะคุยกับปลายสายเสร็จแต่ยังไม่ได้กดวางสายเขาก็ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ จนเพื่อนต้องออกปากถามเพราะความสงสัยมันคาอยู่ เพราะปกติโทโมะไม่ได้โทรหาใครและไม่ค่อยมีใครโทรมาเลยนอกจากพ่อกับแม่แล้วก็ เพื่อนในกลุ่มกันเองแค่นั้น
“ไปไหนวะ” เคนตะถาม
“เดี๋ยวมา” โ?โมะพูดแล้วเดินออกไปจากตรงนี้ เพื่อนก็มองหน้ากันแล้วพากันยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจอะไรเพราะนั่น‘ไม่ใช่คำตอบ’
“ฉันรู้ว่ามันไปไหน”
ขวับ!
“ไปไหนวะเขื่อน???” ป๊อปปี้รีบถามทันทีเมื่อเขื่อนพูดขึ้นมา
“ไม่บอก ปล่อยให้งง :P”
“พ่องงง - -!”
( จบช่วงเล็กน้อยของเคโอติค )
เมื่อเวลาผ่านไปจนฉันกำลังจะวางหนังสือเสร็จและเหลือเล่มสุดท้ายพอดี และขณะที่ฉันกำลังจะก้มลงไปหยิบหนังสือ อยู่ดีๆก็มีเท้าที่สวมผ้าใบสีดำมายืนอยู่ตรงหน้าทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไป มองเขา แต่ทว่าพอเงยขึ้นมองเท่านั้นแหละฉันถึงกับทำตัวไม่ถูกเลย =/////=
โทโมะยืนมองฉันก่อนจะยื่นโทรศัพท์ I Phone สีดำของเขามาให้ฉัน ฉันก็ทำหน้างงๆโทโมะจึงบอกสาเหตุที่ทำให้เขามายืนตรงหน้าฉัน ณ ตอนนี้
“พ่อเธออยากคุยด้วย”
“พ่อเราเหรอ? O_O?” ฉันถามพลางชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างงงๆ
“รีบรับสิ - -+”
เมื่อโทโมะบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดนิดๆ ( ทำไมต้องหงุดหงิดด้วย >^<! ) ฉันจึงต้องรับโทรศัพท์ของเขามาอย่างงงๆ โทโมะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยืนพิงชั้นหนังสือไม่มีท่าทีว่าจะสนใจอะไรฉันจึงรีบคุย
“ฮัลโหลค่ะ?”
[ ฮัลโหลลูกพ่อโทรหาตั้งหลายสายเลยแน่ะ ทำไมไม่รับโทรศัพท์ ]
“อ๋อ หนูเอาโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าน่ะค่ะพ่อ พอดีจัดหนังสืออยู่เลยไม่ได้เอามาด้วย” ฉันพูดบอกพ่อไปแบบรวบๆแต่ได้ใจความที่พอดี “แล้วพ่อโทรมามีอะไรเหรอคะ?”
[ พ่อจะบอกลูกว่าถ้าเลิกเรียนแล้วไม่ได้ไปไหนให้รีบกลับบ้านนะลูกเพราะวันนี้พ่อกลับบ้านเย็น พ่อไม่อยากให้ตูนิสอยู่คนเดียว ]
“ค่ะ แล้วหนูจะรีบกลับ”
ติ๊ด!
ฉัน พูดบอกพ่อก่อนจะกดวางสายแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้โทโมะ โทโมะหันมามองฉันนิ่งๆก่อนที่เขาจะมองมือฉันที่ถือโทรศัพท์ยื่นให้อย่างยากจะ คาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
แต่สิ่งที่ฉันสงสัยคือ...พ่อมีเบอร์โทโมะได้ยังไงนะ?
“พ่อเธอไปเอาเบอร์ฉันมาจากพ่อฉัน”โทโมพูดแล้วหยิบโทรศัพท์ไปจากมือฉัน
มะ...หมอนี่จะฉลาดไปแล้วนะ! ฉันยังไม่ทันจะพูดอะไรเลยซักคำ O_O!
“เรายังไม่ได้ถามอะไรเลย”
“ไม่ถามแต่ก็ใช่ว่าจะไม่คิดนิ”
เพล้ง!
หน้าแตกขึ้นมาทันทีทันใดเลย T_T
“พ่อเธอขอร้องว่าเย็นนี้และจนกว่าจะได้จักรยานให้เธอเดินกลับบ้านพร้อมฉัน”
“ฮะ?”
“ลูกสาวคนเดียวเดินกลับบ้านคนเดียวเย็นๆ พ่อก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา”
“...”
“จัดห้องหนังสือหรือทำอะไรเสร็จแล้วก็ไปเจอฉันที่หน้าโรงเรียน”
“แล้วนายเลิกเรียนกี่โมงล่ะ ถ้านายเลิกก่อนก็กลับก่อนก็ได้ เผื่อเรา...”
“ฉันขี้เกียจตอบคำถามพ่อเธอว่าทำไมเธอไม่กลับมาด้วย”
อะ...โอเค สรุปคือฉันต้องกลับกับนายว่างั้น?
โทโมะ มองหน้านิ่งๆก่อนที่เขาจะเดินทำท่าเก๊กๆออกไปจากตรงนี้ ฉันเองก็ใจเต้นตึกตักไม่น้อยเลยที่ได้คุยกับเขา เฮ้อ...โทโมะนี่ออกแนวพูดน้อยต่อยหนักจริงๆ ถึงฉันจะพูดน้อยแต่ก็ไม่เคยต่อยหนักอะไรแบบนี้เลยนะ = =;;;;
6 โมงเย็น
“ฉันบอกแล้วว่าเซ้นส์ฉันน่ะไม่เคยพลาดหรอก ^^”ฟางพูดเมื่อฉันบอกไปว่าโทโมะคือลูกชายลุงอากิโอะจริงๆ เพราะเมื่อเช้าฉันเจอเขาตอนออกจากบ้าน “แล้วเมื่อเช้าหมอนั่นว่าไงตอนเจออ่ะ”
“ก็แค่มองนิ่งๆ” ฉันตอบ
“เนี่ยนะเจ้าชายเย็นชา แล้วสรุปเย็นนี้เดินกลับกับโทโมะ?”
ฉันพยักหน้ารับเมื่อฟางถาม ฉันก็บอกฟางไปว่าพ่อฉันเป็นห่วงที่ฉันต้องเดินกลับบ้านเย็นๆ เลยโทรมาหาโทโมะบอกให้รอกลับบ้านพร้อมฉันด้วย
“กลับดีๆล่ะ ถ้ามีอะไรโทรหาฉันเลยนะสนแล้วระวังตัวด้วยล่ะ” ฟางบอกอย่างเป็นห่วง
“โทโมะคงไม่ทำอะไรฉันหรอกมั้ง”
“หมอนั่นน่ะไม่น่าห่วงเท่ากับพวกโบว์ลิ่งหรอก พวกนั้นมีคนรู้จักเยอะ ถ้าเกิดเห็นแกกับวีเข้า ฉันไม่อยากจะนึกเลย”
“อื้ม แล้วฉันจะระวังนะ”
เมื่อฉันส่งฟางที่โรงรถเสร็จก็เดินออกมาหน้าโรงเรียนที่ตอนนี้ก็เริ่มมืด แล้วเพราะ 6 โมงกว่าๆแล้วด้วย และเมื่อฉันเดินออกมาก็เห็นว่าวีกำลังยืนสวมหูฟัง ฟังเพลงเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงในมือเขากดเลื่อนๆกดโทรศัพท์ของเขา ไปด้วย
และเหมือนว่าเขาจะได้ยินเสียงฉันเดินมาหรืออย่างไร เขาก็เงยหน้าจากโทรศัพท์หันมามองฉัน เพียงเท่านั้นเขาเห็นว่าฉันมาแล้วจึงเดินไปเลย ฉันก็เดินตามเขาไปเรื่อยๆ
โทโมะเดินช้าลงเมื่อมาถึง ร้านขายตุ๊กตาที่ตอนนั้นฉันมา แล้วได้ตุ๊กตามาจากคุณยาย และดูเหมือนว่าโทโมะจะหยุดดูอะไรซักอย่างหน้าร้านนั้น
เขามองดูตุ๊กกตาเหรอ...แล้วฉันก็สังเกตได้ว่าโทโมะขมวดคิ้วนิดๆเหมือนว่าสงสัย อะไรบางอย่าง เท่านั้นแหละ!
“รอนี่” เมื่อโทโมะหันมาบอกด้วยสีหน้านิ่งฉันจึงพยักหน้ารับแล้ววีก็เดินเปิดประตูเข้าไปในร้านนั้น
ฉันเห็นว่าเขากำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับคุณยายฉันเองก็มองไปทางอื่นเพราะ ไม่อยากถูกกล่าวหาว่าออยากรู้อยากเห็นอะไรทำนองนั้น พอสักพักเขาก็ออกมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วท่าทางเขาก็เหมือนกับว่าไม่เห็น ว่าฉันยืนอยู่หรือยังไงจึงเดินผ่านไปเฉยๆเลย = =;;;
มาอัพแล้ววว โทโมะหลอกแต๊ะอั่งแก้วป่ะเนี่ยยย อยากให้อัพก็เม้นเยอะๆๆ
( เธอและฉัน )
หมับ!
“กรี๊ดดดดดดดด”
ฉัน ร้องลั่นออกมาเมื่อทนไม่ไหวเพราะอยู่ดีๆข้อมือของตัวเองก็ถูกมือของใครมาจับ เอาไว้แล้วดึงเข้าหาตัวของอีกฝ่าย ฉันดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนแผ่นหน้าอกของใครก็ไม่รู้ แต่หลังจากที่กรี๊ดนั้นออกมาแล้ว ฉันก็กรี๊ดต่อไม่ออกเพราะตกใจสุดๆ จนกระทั่ง...
ปิ๊ง!
เหมือนว่าพระเจ้าจงใจแกล้งกันชัดๆ! ที่อยู่ดีๆ ไฟก็เปิดขึ้นมาราวกับมีพลังงานบางอย่างอยู่ ณ ที่นี้ และแล้ว! ฉันก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้งและอีกคร้างงงงงง >O<!!!!
เมื่อคนที่ฉันกำลังตกอยู่ในอ้อมแขนคือ...ทะ...โทโมะ!?!
อ้าว? แล้วเขามาทำอะไรที่นี่?! เอาขยะลงมาทิ้ง?! หรืออะไรยังไง?
ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก โทโมะมองหน้าฉันนิ่งๆแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันนิดๆ ( อีกและ! ขมวดอะไรนักฮะ? ฉันทำอะไรผิด!? ) เมื่อฉันตั้งสติได้ฉันจึงผละตัวออกจากเขาแล้วทำหน้าตาให้เป็นปกติ โดยทำหน้านิ่งไม่รู้โลกอะไร ( ทั้งๆที่ใจเต้นแทบระเบิด >/////////< )
โทโมะ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างกับฉัน แต่เขาก็ไม่พูดแต่ก้มลงยกกล่องลังที่มีแต่ถุงขนมขึ้นมาโยนใส่ลงไปในถังขยะ ด้วยท่าทางเก๊กๆ
แหม เมื่อกี้ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าเขาจะดึงฉันเข้าไปหาเพื่อ??? ฉันตกใจจนแทบจะระเบิด แล้วดูเขาสิ! ยังคงทำท่าเก๊กๆเหมือนครั้งแรกที่เราพบกันอยู่จนกระทั่งวันนี้
ทำไมนะ? เขา ถึงชอบทำให้ฉันตกใจอยู่เรื่อยเลย วันแรกที่เจอกันเขากระโดดลงมาจากต้นไม้จนฉันกรี๊ดแตกไปแล้วรอบหนึ่ง วันนี้เขายังทำฉันตกใจอีก บังเอิญจังเล้ย!
อ่าห้ะ! ใช่! รู้ครับผมว่าคุณหล่อมากกกกกกก จนฉันเองก็อดที่จะไม่มองไม่ได้ = =;;;
“...”
“...”
เมื่อ ฉันแน่ใจแล้วว่าโทโมะคงไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ ฉันจึงเดินออกมา แต่ทว่าเดินผ่านตัวเขามาไม่กี่ก้าว วีก็เอ่ยคำพูดหนึ่งที่ทำให้ฉันต้องหยุดชะงัก
“เป็นใบ้เหรอ”
กึก!
คำ พูดจี้ใจดำที่เป็นคำพูดแรกที่เขาพูดกับฉันนั้นทำให้ฉันต้องหันไปมองหน้าโทโมะ นิ่งๆ โทโมะเองก็มองฉันอยู่เช่นกัน แต่ฉันก็ไม่รู้นะว่าหมอนี่เป็นคนยังไงกันแน่ แต่จากการที่เขาพูดแบบนั้นคงเพราะรำคาญหรือปล่าวที่ดันมาเจอฉันโดยบังเอิญแต่ ฉันก็กลับเงียบไม่ทักไม่ทายเขาทั้งๆที่เป็นเพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายเข้ามา
แต่...จะให้ฉันพูดอะไรล่ะ? และที่สำคัญนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนด่าว่า ‘ฉันเป็นใบ้’ ด้วย = =;;;
‘แก๊งเคโอติคน่ะแต่ละคน ‘ไม่ธรรมดา’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...โทโมะ...’
คำพูดของฟางทำให้ฉันชักจะรู้สึกไม่ไว้วางใจเขาแล้วล่ะสิ ไอ้ที่ว่า ‘ไม่ธรรมดา’ นี่มันลึกลับซับซ้อนจริงๆเลยแฮะ = =;;;
“เราไม่ได้เป็นใบ้...แต่เราแค่ไม่มีอะไรจะพูด”
ฉันตัดสินใจพูดออกไปแบบกล้าๆกลัวๆเพราะ ด้วยความที่เดาทางไม่ออกว่าต่อไปเราจะพูดอะไรกันต่อ แต่โทโมะมองฉันนิ่งๆเท่านั้นแล้วเขาก็กลอกตาขึ้นลงเหมือนกับจะบอกว่า 'เธอเนี่ยนะ' ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหมายความว่าอย่างนี้รึปล่าวแต่เซนส์มันบอก และเมื่อฉันเห็นว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่ จึงตัดสินใจเดินออกมาจะที่นั่นอย่างรวดเร็ว
การสบตาโทโมะเป็นอะไรที่ยากลำบากมากกกกกกกกกก @/////////@
ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำที่โรงขยะเขาจงใจหรือไม่อย่างไรที่จะต้องดึงให้ฉัน ไปซบที่อก เขารู้ว่าเป็นฉันแน่นอนเพราะเราเพิ่งเดินลงมาเจอที่บันไดและฉันถือกล่องลัง ขยะอยู่ ที่เขาทำแบบนี้เพราะอยากจะแกล้งฉันใช่มั้ย? หรือเพื่อนๆในกลุ่มบอกให้เขามาแกล้ง?
เฮ้อ...ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ
เลิกเรียนวันนั้น
ห้องสมุด
วันนี้ห้อง 5/2 ของฉันเลิกเรียนตั้งแต่ 3 โมงครึ่ง ฉันกับฟางก็ยังกลับบ้านไม่ได้เพราะมีเวรทำความสะอาดจัดห้องสมุดอีก แค่ 2 คน เท่านั้น! โหดอะไรเยี่ยงนี้นิ Y__Y
และ ฉันก็ชักจะไม่แน่ใจแล้วสิว่าพระเจ้าต้องการกลั่นแกล้งอะไรฉันอีก เพราะพวกห้อง 5/7 ดันมีเรียนวิชาห้องสมุด พวกนั้นจึงนั่งเรียนทำรายงานบลาๆๆๆ ฉันกับฟางก็จัดหนังสือไปไม่ได้สนใจพวกเคโอติคที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรง นี้เท่าไหร่
ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าพวกนั้นได้เกรดติดระดับ TOP กัน ได้ยังไงนะ เพราะขนาดชั่วโมงเรียนยังไม่สนใจที่จะเรียนอะไรเท่าไหร่เลย ฉันได้ยินอาจารย์สั่งให้พวกเขาไปหาหนังสือมาเล่มหนึ่งแล้วจดสรุปความไม่ใช่ เหรอ แล้วไหงมานั่งคุยกันแบบนี้ล่ะ = =;;;
“ยัยฟางมัดข้าว นิสัยแมนเกินผู้หญิง ถ้าบอกได้เธอหน้านั้นเหมือนลิง อยากหัวเราะให้กลิ้งกับใบหน้าของเธอ ฮ่าๆๆๆๆ ^O^//”
“...”
เมื่อ ฉันหันไปก็พบว่าคนที่พูดคือป๊อปปี้ แถมการพูดของเขาเหมือนกำลังเยาะหยอกฟางพอฉันหันไปมองฟาง ฟางก็ยืนถอนหายใจแล้วกัดฟันตัวเองขณะที่จัดหนังสือไปด้วย
พวกนี้นี่! ฉันว่าถ้าฟางตอกกลับไปล่ะเรื่องยาวแน่ๆ แต่มันน่าตะหงิดๆนะ ที่ฟางกับป๊อปปี้เหมือนคนที่เคยมีประเด็นอะไรกันมาก่อน
แต่เมื่อฉันคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วนั้นฉันคิดผิด! เพราะฟาง...
“เก็บปากไว้เคี้ยวข้าวดีกว่าไหม ถ้าไม่อยากให้เท้าฉันลอยไปหา นายเองก็รู้อยู่นี่นา ว่าตีนฉันเป็นยังไง”
จบ คำกลอนนั้นฟางหันไปแลบลิ้นใส่ป๊อปี้ ก่อนจะจูงมือฉันให้ไปทำล็อคต่อไป ถ้าให้ฉันเดาตอนนี้ป๊อปปี้คงอยากจะเข้ามาขย้ำคอฟางเต็มทนแล้วล่ะมั้งน่ะ เพราะแอบเห็นแว๊บๆว่าเขาจะลุกขึ้นมาแต่เพื่อนๆจับให้นั่งลงตามเดิม
เอ๊ะๆ คู่นี้ชักยังไงๆนะเนี่ย ^^
“ไหนบอกว่าไม่อยากยุ่งกับพวกนั้นไง” ฉันพูดเมื่อฟางพาฉันมายังชั้นหนังสืออีกมุม
“ก็ไม่อยากจะอะไรนะแต่มันอดไม่ได้ว่ะ” ฟางพูดแล้วถอนหายใจฮึดฮัดเพราะยังคงอารมณ์เสียอยู่
“เคยมีประเด็นกันมาก่อนล่ะสิท่า”
ฉันเดาไม่ผิดจริงๆด้วย! เพราะฟางพยักหน้ารับจริงๆ ว่าแล้วว่าทำไมป๊อปปี้ถึงได้หยอดแกล้งฟางบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าฉันไม่สังเกตนะ แต่ ‘โมเม้นต์’ คู่นี้มีบ่อยมากกกกกกกก
ฉันล่ะสังเกตตั้งแต่ตอนที่ฟางกับฉันยืนซื้อข้าวกันอยู่แล้วป๊อปปี้เดินมาเอาโพสอิทที่เขียนว่า ‘จีบได้! ยัยฟางมัดข้าวแฟนไม่มี!’ มาแปะที่หลังฟางตอนที่ฟางไม่รู้ตัว
ตอนนั้นฉันไม่อยากเห็นฟางมีเรื่องกับเขาจึงแอบดึงโพสอิทนั่นออกจาก หลังฟางอย่างไวเลย = =;;;;
ป๊อปปี้ก็นะ! แกล้งฟางต่อหน้าต่อฉันเลยนะเนี่ย!
“ฉัน กับหมอนั่นเคยมีเรื่องกันเมื่อตอน ม.ต้น น่ะ เวลาฉันไปไหนคนเดียวแล้วเจอพวกนั้น อีตาบ้านั่นจะชอบพูดจิกฉันตลอด ที่ฉันตอบกลับไปยังน้อยไปด้วยซ้ำกับที่ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันน่ะ >^<!”
“เอาน่า ใจเย็น”ฉัน พูดแล้วตบที่บ่าของฟางเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเอาหนังสือที่พวกนักเรียนจะเอามาคืนกันใน ช่วงเย็นเอามาเก็บไว้ตามหมวดต่างๆ
โรงเรียนนี้จะรับคือหนังสือตอนเย็นเท่านั้นเพราะตอนกลางวันจะไม่รับคืนเพราะ จะเป็นเวลาพักของฝ่ายบริการในห้องสมุด แต่ต้องเอามาคืนก่อน 6 โมงเย็นเท่านั้น ไม่งั้นจะโดนปรับเงินนาทีละบาท
เมื่อฉันเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ก็พบกับรุ่นน้องสาวแว่นใสมัดเปียสองข้าง (หน้าตาน่ารักดีนะฉันว่าถึงเธอจะใส่แว่นกรอบใหญ่หนาเตอะแค่ไหนก็ตาม ^__^) ที่กำลังจัดหนังสือที่มีเด็กมาคืนเอายกมันมาวางไว้บนโต๊ะ
“นี่ค่ะ หนูจัดไว้ให้หมดแล้ว ^__^”
“จ้ะ ขอบคุณนะ ^^” ฉันบอกยิ้มๆ
“พี่เพิ่งย้ายมาใหม่เหรอ? หนูไม่คุ้นหน้าเลยพี่ชื่ออะไรเหรอคะ?” น้องคนนั้นถามแล้วดันแว่นขึ้นเล็กน้อย
“พี่ชื่อแก้วจ้ะ เพิ่งย้ายเข้ามาได้สองอาทิตย์”
“อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่แก้ว หนูชื่อแต้งกิ้ว ^_^”
“เช่นกันจ้ะ งั้นพี่ไปก่อนนะ”
“ค่า ^O^//”
ฉัน ยกกองหนังสือที่หนักเอาการไปยังหมวดประวัติศาสตร์ ( น้องแต้งกิ้วจัดไว้ให้เป็นหมวดๆแล้วน่ะ ) ซึ่งอ่านป้ายดูแล้วมันอยู่ลึกด้านในของห้องสมุดเลย แล้วมันก็เงียบมากเสียด้วย ฉันเดินเข้ามาทางด้านในสุดแล้ววางหนังสือเอาไว้ที่พื้นแล้วหยิบขึ้นมาเล่ม หนึ่งพลางมองหน้าหมายเลขของหนังสือ
“ทำไมต้องอยู่ชั้นบนด้วยน้า”
ฉัน จำต้องปาดเหงื่อซะแล้วเพราะชั้นหนังสือของเล่มที่ฉันต้องจัดมันดันอยู่สูงไป นิดนึงจนฉันจำต้องเขย่งสุดปลายเท้า และความพยายามของฉันก็ไม่ศูนย์เปล่าเพราะมันก็สำเร็จจนได้! เย่! แต่เหงื่อที่ไหลลงมาเนี่ยสิ เฮ้อ...
( ช่วงเล็กน้อยของเคโอติค )
ตื๊ด...ตื๊ด...
โทโมะที่กำลังนั่งคุยกันกับเพื่อนๆในกลุ่มเคโอติคก็จำเป็นต้องหยุดคุยแล้วหยิบ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงนักเรียนขึ้นมาดู แต่เบอร์นั้นไม่มีชื่อแสดงว่าไม่ใช่เบอร์คนรู้จักอย่างแน่นอน
“ใครโทรมาวะ” เขื่อนเงยหน้าจากหนังสือรายงานขึ้นมาถาม
“ไม่รู้ว่ะ” โทโมะบอกก่อนที่เขาจะกดรับสายนั้น “ฮัลโหลครับ”
“ O_o ???” >>>> สีหน้าความอยากรู้ของเพื่อนในกลุ่ม ( อยากรู้กันจริงๆ = =;;; )
“เห็นอยู่ครับน้ามีอะไรรึปล่าวครับ”
[@#$&*(&%$##4@#$%^&8 ]
“อ๋อ งั้นรอสักครู่นะครับ”
เมื่อโทโมะคุยกับปลายสายเสร็จแต่ยังไม่ได้กดวางสายเขาก็ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ จนเพื่อนต้องออกปากถามเพราะความสงสัยมันคาอยู่ เพราะปกติโทโมะไม่ได้โทรหาใครและไม่ค่อยมีใครโทรมาเลยนอกจากพ่อกับแม่แล้วก็ เพื่อนในกลุ่มกันเองแค่นั้น
“ไปไหนวะ” เคนตะถาม
“เดี๋ยวมา” โ?โมะพูดแล้วเดินออกไปจากตรงนี้ เพื่อนก็มองหน้ากันแล้วพากันยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจอะไรเพราะนั่น‘ไม่ใช่คำตอบ’
“ฉันรู้ว่ามันไปไหน”
ขวับ!
“ไปไหนวะเขื่อน???” ป๊อปปี้รีบถามทันทีเมื่อเขื่อนพูดขึ้นมา
“ไม่บอก ปล่อยให้งง :P”
“พ่องงง - -!”
( จบช่วงเล็กน้อยของเคโอติค )
เมื่อเวลาผ่านไปจนฉันกำลังจะวางหนังสือเสร็จและเหลือเล่มสุดท้ายพอดี และขณะที่ฉันกำลังจะก้มลงไปหยิบหนังสือ อยู่ดีๆก็มีเท้าที่สวมผ้าใบสีดำมายืนอยู่ตรงหน้าทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไป มองเขา แต่ทว่าพอเงยขึ้นมองเท่านั้นแหละฉันถึงกับทำตัวไม่ถูกเลย =/////=
โทโมะยืนมองฉันก่อนจะยื่นโทรศัพท์ I Phone สีดำของเขามาให้ฉัน ฉันก็ทำหน้างงๆโทโมะจึงบอกสาเหตุที่ทำให้เขามายืนตรงหน้าฉัน ณ ตอนนี้
“พ่อเธออยากคุยด้วย”
“พ่อเราเหรอ? O_O?” ฉันถามพลางชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างงงๆ
“รีบรับสิ - -+”
เมื่อโทโมะบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดนิดๆ ( ทำไมต้องหงุดหงิดด้วย >^<! ) ฉันจึงต้องรับโทรศัพท์ของเขามาอย่างงงๆ โทโมะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยืนพิงชั้นหนังสือไม่มีท่าทีว่าจะสนใจอะไรฉันจึงรีบคุย
“ฮัลโหลค่ะ?”
[ ฮัลโหลลูกพ่อโทรหาตั้งหลายสายเลยแน่ะ ทำไมไม่รับโทรศัพท์ ]
“อ๋อ หนูเอาโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าน่ะค่ะพ่อ พอดีจัดหนังสืออยู่เลยไม่ได้เอามาด้วย” ฉันพูดบอกพ่อไปแบบรวบๆแต่ได้ใจความที่พอดี “แล้วพ่อโทรมามีอะไรเหรอคะ?”
[ พ่อจะบอกลูกว่าถ้าเลิกเรียนแล้วไม่ได้ไปไหนให้รีบกลับบ้านนะลูกเพราะวันนี้พ่อกลับบ้านเย็น พ่อไม่อยากให้ตูนิสอยู่คนเดียว ]
“ค่ะ แล้วหนูจะรีบกลับ”
ติ๊ด!
ฉัน พูดบอกพ่อก่อนจะกดวางสายแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้โทโมะ โทโมะหันมามองฉันนิ่งๆก่อนที่เขาจะมองมือฉันที่ถือโทรศัพท์ยื่นให้อย่างยากจะ คาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
แต่สิ่งที่ฉันสงสัยคือ...พ่อมีเบอร์โทโมะได้ยังไงนะ?
“พ่อเธอไปเอาเบอร์ฉันมาจากพ่อฉัน”โทโมพูดแล้วหยิบโทรศัพท์ไปจากมือฉัน
มะ...หมอนี่จะฉลาดไปแล้วนะ! ฉันยังไม่ทันจะพูดอะไรเลยซักคำ O_O!
“เรายังไม่ได้ถามอะไรเลย”
“ไม่ถามแต่ก็ใช่ว่าจะไม่คิดนิ”
เพล้ง!
หน้าแตกขึ้นมาทันทีทันใดเลย T_T
“พ่อเธอขอร้องว่าเย็นนี้และจนกว่าจะได้จักรยานให้เธอเดินกลับบ้านพร้อมฉัน”
“ฮะ?”
“ลูกสาวคนเดียวเดินกลับบ้านคนเดียวเย็นๆ พ่อก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา”
“...”
“จัดห้องหนังสือหรือทำอะไรเสร็จแล้วก็ไปเจอฉันที่หน้าโรงเรียน”
“แล้วนายเลิกเรียนกี่โมงล่ะ ถ้านายเลิกก่อนก็กลับก่อนก็ได้ เผื่อเรา...”
“ฉันขี้เกียจตอบคำถามพ่อเธอว่าทำไมเธอไม่กลับมาด้วย”
อะ...โอเค สรุปคือฉันต้องกลับกับนายว่างั้น?
โทโมะ มองหน้านิ่งๆก่อนที่เขาจะเดินทำท่าเก๊กๆออกไปจากตรงนี้ ฉันเองก็ใจเต้นตึกตักไม่น้อยเลยที่ได้คุยกับเขา เฮ้อ...โทโมะนี่ออกแนวพูดน้อยต่อยหนักจริงๆ ถึงฉันจะพูดน้อยแต่ก็ไม่เคยต่อยหนักอะไรแบบนี้เลยนะ = =;;;;
6 โมงเย็น
“ฉันบอกแล้วว่าเซ้นส์ฉันน่ะไม่เคยพลาดหรอก ^^”ฟางพูดเมื่อฉันบอกไปว่าโทโมะคือลูกชายลุงอากิโอะจริงๆ เพราะเมื่อเช้าฉันเจอเขาตอนออกจากบ้าน “แล้วเมื่อเช้าหมอนั่นว่าไงตอนเจออ่ะ”
“ก็แค่มองนิ่งๆ” ฉันตอบ
“เนี่ยนะเจ้าชายเย็นชา แล้วสรุปเย็นนี้เดินกลับกับโทโมะ?”
ฉันพยักหน้ารับเมื่อฟางถาม ฉันก็บอกฟางไปว่าพ่อฉันเป็นห่วงที่ฉันต้องเดินกลับบ้านเย็นๆ เลยโทรมาหาโทโมะบอกให้รอกลับบ้านพร้อมฉันด้วย
“กลับดีๆล่ะ ถ้ามีอะไรโทรหาฉันเลยนะสนแล้วระวังตัวด้วยล่ะ” ฟางบอกอย่างเป็นห่วง
“โทโมะคงไม่ทำอะไรฉันหรอกมั้ง”
“หมอนั่นน่ะไม่น่าห่วงเท่ากับพวกโบว์ลิ่งหรอก พวกนั้นมีคนรู้จักเยอะ ถ้าเกิดเห็นแกกับวีเข้า ฉันไม่อยากจะนึกเลย”
“อื้ม แล้วฉันจะระวังนะ”
เมื่อฉันส่งฟางที่โรงรถเสร็จก็เดินออกมาหน้าโรงเรียนที่ตอนนี้ก็เริ่มมืด แล้วเพราะ 6 โมงกว่าๆแล้วด้วย และเมื่อฉันเดินออกมาก็เห็นว่าวีกำลังยืนสวมหูฟัง ฟังเพลงเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงในมือเขากดเลื่อนๆกดโทรศัพท์ของเขา ไปด้วย
และเหมือนว่าเขาจะได้ยินเสียงฉันเดินมาหรืออย่างไร เขาก็เงยหน้าจากโทรศัพท์หันมามองฉัน เพียงเท่านั้นเขาเห็นว่าฉันมาแล้วจึงเดินไปเลย ฉันก็เดินตามเขาไปเรื่อยๆ
โทโมะเดินช้าลงเมื่อมาถึง ร้านขายตุ๊กตาที่ตอนนั้นฉันมา แล้วได้ตุ๊กตามาจากคุณยาย และดูเหมือนว่าโทโมะจะหยุดดูอะไรซักอย่างหน้าร้านนั้น
เขามองดูตุ๊กกตาเหรอ...แล้วฉันก็สังเกตได้ว่าโทโมะขมวดคิ้วนิดๆเหมือนว่าสงสัย อะไรบางอย่าง เท่านั้นแหละ!
“รอนี่” เมื่อโทโมะหันมาบอกด้วยสีหน้านิ่งฉันจึงพยักหน้ารับแล้ววีก็เดินเปิดประตูเข้าไปในร้านนั้น
ฉันเห็นว่าเขากำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับคุณยายฉันเองก็มองไปทางอื่นเพราะ ไม่อยากถูกกล่าวหาว่าออยากรู้อยากเห็นอะไรทำนองนั้น พอสักพักเขาก็ออกมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วท่าทางเขาก็เหมือนกับว่าไม่เห็น ว่าฉันยืนอยู่หรือยังไงจึงเดินผ่านไปเฉยๆเลย = =;;;
มาอัพแล้ววว โทโมะหลอกแต๊ะอั่งแก้วป่ะเนี่ยยย อยากให้อัพก็เม้นเยอะๆๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ