Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา
9.6
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.
43 chapter
860 วิจารณ์
67.54K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
41) - I Will Protect You - ( ผมจะปกป้องคุณ )
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ- I Will Protect You -
( ผมจะปกป้องคุณ )
คืนนั้น
ประมาณทุ่มกว่าๆ
“...โทโมะ”
ฉัน เอ่ยเรียกชื่อโทโมะขึ้นมาหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่ซุปเปอร์มาเก็ตนั่นที่เจอ กับไฟท์ โทโมะก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น จนกระทั่งเขาได้ปั่นจักรยานพาฉันมาจนถึงหน้าบ้านของตัวเองแล้วในเวลาประมาณ ทุ่มกว่าๆ และที่ฉันเรียกโทโมะไปเมื่อกี๊ก็แค่อยากรู้ว่าทำไมเขาถึงได้เงียบไป
เขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจอย่างงั้นเหรอ...
“ถึงบ้านแล้ว เธอเข้าบ้านเถอะ”โทโมะลงมาจากจักรยานแล้วฉันก็เอามือจับตรงแฮนด์ที่สองด้านของจักรยานเอาไว้ แต่เมื่อกี๊เขาได้ยินฉันเรียกรึปล่าวเนี่ย = =?
ต้องได้ยินสิ แต่ทำบอกปัดเสียมากกว่า ว่ามั้ย?
“โทโมะ...นายเป็นอะไรรึปล่าว”ฉันถามอย่างเป็นห่วงเพราะว่าสังเกตดูจากสีหน้าแววตาของโทโมะแล้วเขาแลดูเหมือนว่าเขากำลังกังวลอะไรอยู่ในใจ
โทโมะเขาจะ...รู้สึกกังวลแบบเดียวกันกับฉันรึปล่าวนะ เพราะว่าไฟท์น่ะเขาพูดว่า... ‘เอาคืน’ ละแล้ว...ทำไมเขาจะต้องทำทีเป็นเข้ามาหาเรื่องฉันแบบนั้นด้วยล่ะ
มันจะเกี่ยวกับฉันมั้ยนะ...
ยอมรับเลยนะว่าฉันเองก็กังวลไม่น้อยเลย แต่ที่ไม่แสดงออกไปเพราะทุกคนก็คงจะรู้ดีว่าฉันน่ะไม่ค่อยชอบให้ใครเป็นห่วง เลยชอบเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจ และถ้าฉันแสดงออกไปว่ากำลังกังวลอยู่ล่ะก็...โทโมะก็คงจะไม่สบายใจแน่ๆที่เห็น ว่าฉันดูกลัวๆคำพูดของไฟท์
“ไม่ได้เป็นอะไรนี่ เธอเข้าบ้านเหอะ ดึกแล้ว”โทโมะส่ายหน้าแล้วบอกฉันพร้อมกับใบหน้าที่มันแลดูฝืนยิ้ม
โกหกเห็นๆเลย!
ถึงฉันจะไม่ค่อยรู้อะไรมากมาย เออจะอึนๆ ซื่อบื้อ ในบางครั้ง ( มั้ง? ) แต่ก็ใช่ว่าฉันจะไม่รู้นะว่าโทโมะเขากำลังฝืนยิ้มอยู่น่ะ ถึงแม้เขาพยายามจะทำหน้าให้ดูเรียบเฉยแต่ดวงตามันก็บ่งบอกอยู่อ่ะว่ามันไม่ ปกติ
“1 ทุ่มกว่าๆเนี่ยนะดึก?”ฉันเค้นเสียงถามเมื่อก้มลงมองนาฬิกาข้อมือแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองโทโมะจนโทโมะถึงกับนิ่งไป
“...” เขาเงียบ
“โทโมะ...นายกำลังกังวลเรื่องที่ไฟท์พูดใช่มั้ย”
เมื่อ ฉันถามแบบนั้นโทโมะที่พยายามเลี่ยงสายตาจากฉันก็หันมามองสบตากับฉันตรงๆ สายตาของเราสบประสานกันจนฉันนั้นเห็นได้ชัดเลยว่าดวงตาของโทโมะนั้นมันแต่ดู หมองๆยังไงไม่รู้สิ เมื่อเห็นแบบนั้นฝ่ามือเล็กๆของฉันจึงเอื้อมมือของตัวเองข้างหนึ่งไปจับมือ โทโมะเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ใช้จับแฮนด์จักรยานอยู่
พอได้จับมือโทโมะแล้วฉันเองก็แปลกใจเหมือนกันเพราะว่ามือของเขามันเย็นมากเลย แต่ว่าเหงื่อออกนะ
โทโมะเขากำลังไม่สบายใจใช่มั้ย?
“แก้ว”โทโมะเอ่ยแล้วมองจ้องฉันไม่กระพริบตา
“อะไรเหรอ O_O?”
“...”
“???”
“ตอนที่ฉันยังไม่มาไอ้เวรนั่นมันทำอะไรเธอรึปล่าว”โทโมะเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากที่เขาเงียบไปสักพัก
จริงสิ! ก็ตอนนั้นหลังจากเกือบจะมีเรื่องกับนายไฟท์นั่นโทโมะเขาก็เอาแต่เงียบนี่นา และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาถามแบบนี้ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้น
เออ...จะบอกดีมั้ยนะ เฮ้อ! บอกๆไปเหอะ โทโมะคงไม่...ของขึ้นหรอก...มั้ง? >O<!
“หมอ นั่น...เดินมาชนเรา แล้ว...เขาทำเหมือนว่าอยากจะรู้ชื่อเรา พอเราบอกว่าขอตัวก่อน ผู้ชายคนนั้นก็เดินมาดักหน้าเราไม่ให้เราไปแล้วก็เอามือมาจับลูบตรงปลายผม เราด้วย แล้วนายก็...มาพอดี...”ฉันบอกโทโมะไปตามตรงอย่างไม่ปิดบังเพราะว่ารู้ว่าโทโมะน่ะจับโกหกเก่งมากเลยถ้าเขาตั้งใจฟังจนจับได้นี่ฉันก็โดนดุอีกน่ะสิ Y^Y
“จับปลายผม? ><!”โทโมะเบิกตากว้างแล้วกัดฟันจนดังกรอด
ให้ตายสิไม่น่าบอกฉากนี้เลย ><!
“เอ่อแต่เราโอเคนะ ไม่ได้เป็นอะไรเลย”ฉันรีบบอกเพราะกลัวว่าโทโมะจะโมโหจนถึงกระทั่งที่ว่าถ้าเขาเจอกับไฟท์อีกครั้งเขาอาจจะบุกเข้าไปต่อยหน้าหมอนั่นได้เลยล่ะ
เพราะว่าโทโมะน่ะเป็นผู้ชายประเภทแค้นฝังหุ่น ใครทำอะไรไว้อย่าคิดว่าเขาจะไม่เอาคืนนะ อย่าได้คิดแบบนั้นเด็ด! ><! เพราะ หมอนี่น่ะแผนสูงจะตายไป แถมหาวิธีแก้แค้นได้เจ็บแสบม๊าก เพื่อนๆในกลุ่มเขาน่ะโดนกันมาหมดแล้ววววว จุ๊ๆๆ อย่าไปบอกโทโมะนะว่าฉันนินทาเขาให้ฟังอ่ะ ฮ่าๆๆ >*<
“ปากบอกโอเค แต่ในใจกังวลอะไรอยู่รึปล่าวก็ไม่รู้”
เดาเก่งไปไหน?
“ตอนแรกเราก็กังวลนะที่ไฟท์ทิ้งท้ายไว้แบบนั้น แต่...ตอนนี้เราโอเคขึ้นแล้ว นายไม่ต้องเป็นห่วงจนมือเย็นแบบนี้ก็ได้”ฉันยิ้มหน่อยๆ แต่โทโมะเนี่ยสิเขาเล่นไม่ยิ้มเลยอ่ะแถมยังทำหน้าสุขุมนุ่มลึกอีก
“ก็เธอเป็นแฟนฉันเน๊อะ แถมคู่อริของกลุ่มก็มาทำอะไรแบบนั้น ไม่ให้กังวลได้ไงวะ”โทโมะทำหน้าเซ็งแล้วเอามือข้างที่ว่างเกาหัว ส่วนมือที่ฉันใช้จับมือโทโมะอยู่นั้นก็ยังไม่ได้ปล่อยเลย
“...”
“แก้ว...รับปากฉันนะว่าอย่าไปไหนคนเดียวเด็ดขาด”โทโมะบอก
“อื้ม”ฉันพยักหน้าบอกโทโมะอย่างว่าง่ายเพราะรู้ว่าเขาเป็นห่วง “นายเองก็อย่ากังวลมากเกินไปจนพรุ่งนี้ไม่เป็นอันเรียนล่ะ”
“ก็โดดดิ ไม่เห็นยาก งานถนัดเลยนะนั่น”โทโมะฉีกยิ้ม แต่ฉันเนี่ยสิที่กำลังมองเขาตาเขียวเป็นเชิงตำหนิ ><!
แหม๋ รู้หรอกนะว่าก่อนที่เราสองคนจะมาเจอกันเนี่ยเขาชอบโดดเรียนไปนั่งเล่นกับพวก เพื่อนเคโอติคอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่โดนดุเพราะสอบทีไรเกรดดีติด TOP ของโรงเรียนทุกทีดั่งคำล้ำลือของนักเรียนแฟนคลับของพวกเคโอติคทั้งหลายยยย
ก็ใช่เซ่! หัวสมองดีๆกันทั้งนั้นนี่ แต่ดูฉันสิ! ><! เข้าเรียนบางทียังเรียนไม่เข้าใจเล้ยยยยย แต่โชคดีที่เวลาสอบคะแนนก็โอเคอยู่
“ก็ลองโดดดูสิ เราจะเหลาไม้หวายตามฟาดก้นนายให้ลายเลย”ฉันปล่อยมือออกจากมือโทโมะก่อนจะชี้หน้าเขาเป็นการเตือน!
“โหดๆ ทีนั่นทำกลัวฉันจนไม่กล้ามองหน้า อะเด่อออ”
“ตอนไหน?”
“ตอน แรกๆเลยแหละ เธอน่ะกลัวฉัน เอะอะอะไรก็ก้มหน้า พูดทีก็อึกอักๆ พอมาเป็นแฟนฉันแล้วก็ทำมาสายโหด อย่าๆ นั่นมันคาแร็คเตอร์ฉันอย่ามาแย่งซีน >^<!”มาเป็นชุดเลยครับทุกท่าน =[]=;;;;
ดู๊ดู!!! นายเซ่!!! >O<!
“ก็ตอนนั้นนายน่ากลัวยิ่งกว่าผีอีกเราเลยไม่พูดอะไร แต่ตอนนี้เรารู้ธาตุแท้นายแล้ว นายโทโมะ แบร่ๆ :P”
“อะก็แล้วแต่เลยครับ แม่อึนของผม”โทโมะพูดแล้วทำท่าถอนสายบัวให้อย่างกวนๆ
“ใครอึน = =?”
“เธอไง ^^”เขาพูดแล้วก็อมยิ้มแล้วยกมือข้างที่ฉันจับมือเขาอยู่ขึ้นมาตรงหน้าฉัน “แล้วเนี่ย จะจับไว้เงี๊ยทั้งคืนเลยป่ะ? ถ้าจับฉันก็อยู่ได้นะ ‘ ทั้งคืนนนนนนน ’ เลย ^^”
“โทโมะบ้า! ทะลึ่ง ><!”ฉันรีบปล่อยมือออกทันทีเพราะว่าตัวเองกำลังหน้าแดง =/////=
“อะไร ยังไม่ได้คิดอะไรเลย”โทโมะบอกพรางหรี่ตามองฉันอย่างงงๆ มาอีกแล้วความรู้สึกนี้เขาหรี่ตามองมาทีไรฉันรู้สึกประหม่าทุกทีเลยเชียว “ดูหน้าดิแดงเป็นลูกตำลึงแล้ว”
อ๊าก!!! จริงอ๊ะ?
ฉันรีบเอามือลูบหน้าของตัวเองทันทีแล้วมองโทโมะตาเขียว
“ก็มาพูดให้เราคิดลึกทำไมล่ะ >O<!”
“ฉันปล่าวเลย เธอคิดเองทั้งนั้นอ่ะ”เขาส่ายหน้าปฏิเสธทั้งๆที่เขาเองก็รู้ตัวดีว่าเขาน่ะจงใจพูดให้ฉันคิดลึกเอง >O<!
“=///////=”
“นี่ จะหน้าแดงทำไมกับคำพูดแค่นี้ ฮึ?”
“หมายความว่าไง”ฉันมองโทโมะอย่างไม่วางใจที่เขาเล่นมองฉันด้วยสายยั่วกันแบบนั้น อัลไลเนี่ยยยยยยยยยย มองงั้นคือ???
“ก็...ถ้าเรื่องแค่นี้หน้าแดง แล้วถ้าอีก 10 ปีข้างหน้าถึงวัน ‘เข้าหอ’ ของเรา เธอจะเป็นยังไงนะอยากรู้ว่ะ ฮ่าๆๆ ”
“งั้นถ้าถึงวันนั้นเราจะแยกเตียงนอนกับนาย >O<!”
“บ้าเรอะ ผัวเมียที่ไหนเขานอนแยกเตียงกัน - -+”
ผะ...ผัวเมีย!?
โอ้โห...ไม่อยากนึกสภาพตัวเองเลยอ่ะว่าฉันจะเจออะไรบ้างถ้าถึงวันนั้นจริงๆน่ะ YOY!!!!
“เยอะแยะ”
“ไม่เอา ไม่แยก ฉันไม่มีทางแยกเตียงนอนกับเธอหรอกจะบอกให้”โทโมะบอกพลางกอดอกแล้วเชิดหน้าอย่างเอาแต่ใจ แต่นั่นมันกลับทำให้ฉันอมยิ้มขึ้นมา “และ ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะว่าสาวข้างบ้านจอมอึนอย่างเธอน่ะ อย่าริอาจมาเอาแต่ใจกับฉัน ไม่งั้นถึงวันที่เธอแต่งกับฉันเมื่อไหร่ ฉันจะคิดบัญชีให้หนักเลยคอยดูดิ”
โห้ยยยยยยยยย พูดแบบนี้ฉันไม่กล้าแต่งกับเขาหรอก! ขู่ดีนักนะ! ไม่แต่งเด็ดขาดแบบนี้ ><!
“งั้นเราไม่ตกลงแต่งกับนายหรอกถ้านายขอจริงๆอ่ะ เพราะเราจะไม่ยอมให้นายรังแกเราหรอกจะบอกให้”ฉันเชิดหน้าขึ้นบ้างสองมือก็จับที่แฮนด์จักรยานเอาไว้แน่น
เอาดิๆๆ ดูซิว่าจะมาไม้ไหนต่อ เห๊อะ!
“พูดแบบนี้เชื่อดิ ‘ ไม่รอด ’ หรอก คริ คริ ”
อ๊าก!!!! >O<///////
“นายโทโมะ!”
“อย่านะ! ถ้าเธอตีแขนฉัน ฉันจะจับเธอจูบมันหน้าบ้านนี่แหละ”เมื่อโทโมะชี้นิ้วบอกขู่ฉัน ฉันจึงรีบชะงักมือที่กำลังจะฟาดลงบนแขนเขาอย่างรวดเร็วเหมือนมีคนมากดปุ่ม Stop เอาไว้เลยล่ะ
ให้ตายสิ =/////=
“น่ะ...ไหนว่าดึกแล้วไง กลับบ้านนายไปดิ เราจะได้เข้าบ้านเรา”ฉันทำพูดเปลี่ยนเรื่อง
“เธอเข้าก่อนดิ”
“นายก็เข้าบ้านนายไปก่อนสิ ><!”
“เธอนั่นแหละรีบเข้าบ้านไปเลยเดี๋ยวใครฉุด”
“จะเพ้อเหรอ? หน้าบ้านเราใครจะมาฉุด (O_o )?”
“เอ๊าก็ไม่แน่นะใครจะรู้ รีบๆเข้าบ้านไปเลย ไม่มีการบ้านก็อาบน้ำนอนซะ”โทโมะ บอกแล้วใช้มือดันหัวไหล่ของฉันฉันก็เบ้ปากใส่เขาแล้วหันหลังไปเปิดประตูรั้วไม้เล็กแล้วเดินไปเอาจักรยานเข้าบ้านไปและตอนที่หันหลังกลับมาจะปิดประตูรั้วก็เห็นว่าโทโมะก็ยังคงยืนมองฉันอยู่
“เข้าบ้านนายได้แล้ว”ฉันบอก
“คร้าบผม ส่งแฟนเข้าบ้านแล้วผมก็จะเข้าบ้านผมแล้วคร้าบ ฝันดีนะครับคุณแฟนนนน”ดูโทโมะโทโมะสิ กวนประสาทจริงๆเลยนะ
หึ ทำท่าทางกวนกันนักใช่มั้ย ได้!
ปึง!
กรึก!
“ฮ่าๆๆๆ”นี่ เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันขำปากกว้างได้ขนาดนี้เพราะว่าฉันนั้นปิดประตูรั้วใส่ หน้าโทโมะพร้อมกับล็อคทันทีน่ะสิ หน้าโทโมะตอนนี้คงเอ๋อไปเลยแหละ ฮ่าๆๆๆ
“เฮ้ยนี่ยัย...! เน่! แก้ว! เธอยังไม่ได้บอกฝันดีฉันเลยนะ ทำงี้ได้ไง แก้ววว >O<”
“หมั่นไส้!”ฉันตะโกนบอกไปแล้วยิ้มหน้าระรื่นเข็นจักรยานเข้าตัวบ้านไปอย่างไม่สนใจเสียงของโทโมะอีก
เห๊อะ แกล้งเขานี่สนุกดีจัง :D
วันต่อมา...
คาบว่าง
“ทุกคนๆๆๆ ฟังๆๆๆ หน่อยจ้า ”
ขวับ!
O_O? >>> เพื่อนทั้งห้อง
“อะไรอ่ะปัง OoO?”
ทุก คนต่างหันไปมองปังปอนด์เป็นตาเดียวเพราะว่าปังปอนด์ทำสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกระดาษสีขาวในมือเหมือนว่าเมื่อครู่นี้ที่เธอถูก ประกาศเรียกไปประชุมรวมหัวหน้าห้องของทุกระดับชั้นให้ไปประชุมกันคงจะเป็น เรื่องที่เธอกำลังจะพูดต่อจากนี้อย่างแน่อน
ส่วนฉันกับฟางก็จัดการถอดเอาสายหูฟังที่เมื่อกี๊เรากำลังนั่งฟังเพลง ด้วยกันออกเพื่อตั้งใจฟังปังปอนด์นั่นเอง ^O^//
“ก็...มีข่าวจะมาบอกกกกก”ปังปอนด์เดินมายืนอยู่กลางห้องเรียนแล้วยกกระดาษในมือขึ้นมาเหมือนว่าจะเป็นประกาศอะไรสักอย่าง
“ข่าวอะไรของแกย๊ะ”
“ก็จะมาบอกว่ากีฬาสีปีนี้ห้อง ม.5/2 ของเราอยู่สีฟ้านะจ๊ะ! ใครจะลงกีฬาอะไรก็เตรียมตัวฟิตร่างกายเอาไว้เลย อาทิตย์หน้าในวันพุธคาบกิจกรรมก็เตรียมไปลงชื่อกีฬาที่จะลงได้ที่รุ่นพี่ ม.6 มีอะไรสงสัยมากกว่านี้สอบถามคลอรีนประธานชั้น ม.5 ของเราได้เพราะว่าคลอรีนจะรู้เยอะกว่าฉัน”
“แหงอยู่แล้ว คลอรีนน่ะอย่างแจ่มเลย ฮ่าๆๆ”
“อย่าๆ นายอย่าได้คิดอะไร 18+ เชียวนะ - -+”ปังปอนด์ก้มหน้าลงไปดุเพื่อนผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะใกล้ๆกับตรงที่เธอยืนจนเพื่อนคนนั้นต้องรีบปิดปากเงียบทันที
“ปัง ถ้าลงชื่อแล้วก็เตรียมซ้อมไว้เลยช้ะ?”ฟางยกมือขึ้นข้างหนึ่งเพื่อให้ปังปอนด์หันมาสนใจฉันเองก็หันมองฟางสลับกับมองปังปอนด์เช่นกัน
“อื้อ! ลง ชื่อเสร็จก็ซ้อมไว้ล่วงหน้าเลยเพราะอีก 2 เดือนข้างหน้าจะมีการแข่งคัดตัวลงแข่งเป็นตัวจริงของสี ไม่รู้นะว่าเขาจะเอาตัวจริงกี่คนแต่ลงชื่อคัดเลือกไว้ก่อนก็ดี แล้วหลังจากได้ตัวจริงลงแข่งพี่เขาก็จะให้ลองซ้อมกับทีม 2 สัปดาห์ก่อนกีฬาสีวันจริงด้วยอ่ะ”
“แล้วปังจะลงไรป๊ะ”
“ปีนี้ฉันไม่ลงอ่ะ เดี๋ยวต้องไปช่วยพวกพี่ ม.6 คิดท่าซ้อมแสตนให้น้องด้วย”
“อีกตั้ง 2 เดือนจะรีบคิดท่าทำไมกันย๊ะ มีเวลาอีกถมเถไป”
“นี่พรีม ออกแบบท่ามันใช้ความคิดเยอะนะเพื่อความสร้างสรรค์ของสีอ่ะ เคลียร์นะ?”ปังปอนด์หันไปบอกพรีมสาวเอาแต่ใจที่สุดในห้องจนพรีมต้องเหยียดปากเชิดหน้าใส่ปังปอด์นที่หล่อนโดนตอกกลับ
พรีมน่ะ...เป็นแฟนคลับของกลุ่มพิมพ์ มีพิมพ์เป็นไอดอลด้วยแหละ เห๊อะ! ไอดอล? นี่ถ้าฟางไม่บอกฉันคงจะไม่รู้หรอก แต่ยัยนั่นน่ะเคยแขวะฉันด้วยตอนที่ฉันคบกับโทโมะแรกๆด้วย
‘ทางสะดวกแล้วสินะแก้ว ไม่มีพิมพ์ขวางคอแล้วนี่ ^^’
‘เอ่อ...เธอ’
‘ยินดี ด้วยนะที่เธอน่ะได้หนุ่มที่ไม่เคยมีข่าวกับใครในโรงเรียน แถมเป็นคนที่กลุ่มเคโอติคยกย่องให้เป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องรักๆใคร่ๆอย่างโทโมะ แต่สุดท้ายโทโมะเขาก็ได้มาเป็นแฟนกับผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเธอเนี่ยนะ? เห๊อะ’
‘นี่...ถึง แม้เราอาจจะไม่มีอะไรดีเหมือนผู้หญิงคนอื่น แต่สิ่งที่เรามีอยู่เราก็ไม่เคยคิดจะเอามันไปใช้กับใครแบบไร้ค่าเหมือน ผู้หญิงบางคนหรอกนะ’
‘!!!’
หลังจากวันนั้นที่ฉันพูดไปพรีมก็ไม่มายุ่งอะไรกับฉันเลยเพราะว่าพิมพ์ลาออกไป แล้ว ก็เหมือนกับว่าไอดอลที่เธอยกย่อง ( ในทางที่ผิด ) นั้นได้หายจากไปเธอจึงไม่มี ‘พวก’ ยังไงล่ะ อีกอย่างโทโมะก็เคยประกาศให้ทุกคนได้ยินชัดๆไปแล้วว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องของเขากับฉัน ไม่งั้นจะหาว่าเขาใจร้ายไม่ได้
ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่าโทโมะไปพูดตอนไหน มารู้อีกทีคือข่าวนี้กระจายไปทั่วโรงเรียนจนไม่มีใครกล้ามาแวะฉันเลย ฟางเองก็เลยโล่งใจไปที่เห็นว่าชีวิตฉันได้รับความปลอดภัยแล้ว
“อ้อ! อีกข้อ ใครที่อยากเป็นเชียร์หลีดของสี ให้รีบเช็คหุ่นเช็คร่างกายแล้วไปลงชื่อกับรุ่นพี่ ม.6 ได้ในวันพุธหน้านะจ๊ะ โอเค! ไม่มีอะไรถามแล้วใช่มั้ย?”
“เดี๋ยวๆๆๆ ยัยปัง แล้ว...ห้องเราได้อยู่กับกลุ่มเคโอติคป่ะ?”
“ใช่ๆๆๆ ได้อยู่มั้ยอ่าาาา =[]=???”เมื่อเพื่อนสาวกลุ่มหนึ่งเอ่ยขึ้นทุกคนในห้องก็แลจะดูสนใจกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษจนตั้งใจฟังกันมากๆเลยทีเดียวเชียว
“ถ้าให้ตอบตามตรงฝันของพวกเธอคงสลายเพราะว่าเคโอติคหนุ่มฮอตของโรงเรียนอยู่สีเหลืองจ้ะ อิ อิ ^^”ปังปอนด์ฉีกยิ้มตาหยีใส่พวกนั้นอย่างซะใจที่ได้เห็นพวกเพื่อนสาวในห้องต่างพากันอกจะแตกตายที่ไม่ได้อยู่สีเดียวกับเคโอติค
เอิ่ม...พวก เขาคงคลั่งเคโอติค และหลงเอยๆแต่เคโอติคจริงๆล่ะมั้งเนี่ย ขนาดฉันที่เป็นแฟนกับโทโมะไม่ได้อยู่สีเดียวกันยังไม่ทุกข์ไม่ร้อนเท่าพวกนั้น เลย =[]=;;;;
“โหยยยยย เสียดายอ่ะ YOY”
“นั่นดิ อยากอยู่กับเขื่อนกี้อ่าาาาา >O<!”
“ฉันอยากอยู่กับพี่เคนนนน >O<!!!”
“ย้ายห้องไปอยู่ ม.5/7 กับพวกนั้นเลยมั้ยล่ะ จะได้อยู่สีเดียวกัน = =!”
“อียศ! แกเงียบไปเลยนะ หล่อสู้พี่จองเบของฉันไม่ได้อย่าออกความเห็นย่ะ! ><!”
“อีนี่ พูดซะหน้าฉันดูทุเรศมากเลยอ่ะ =[]=;;;” ยศเพื่อผู้ชายในห้องถึงกับหน้าเสียที่โดนว่าแบบนั้นแต่หมอนี่น่ะเป็นคนเฮฮาจะตายแถมชอบเล่นกับเพื่อนสาวทุกคนในห้องแต่ไม่ใช่เกย์นะ! อย่าๆ อย่าเข้าใจผิด 5555+
“โอเค! หมดคำถามแล้วใช่มั้ย?”ปัง ปอด์นพูดแล้วมองไปรอบๆห้องก็เห็นว่าไม่มีใครยกมือขึ้นถามอะไรเธอแล้วเธอจึง พยักหน้าแล้วเดินออกกนอกห้องไป สงสัยจะไปประชุมเรืองกีฬาสีอะไรนี่แน่ๆแต่ก็ยังมิวายยื่นหัวเข้ามาในห้อง อีกรอบ “เน่! แล้วพวกแกห้ามออกไปนอกโรงเรียนกันนะ ห้ามโดดวิชาอาจารย์ผ่องใสด้วย ไม่งั้นคอขาดตายทั้งห้องแน่! ><!”
อื้อ หือออออ ใครจะกล้ากันล่ะ อาจารย์ผ่องใสนะโหดที่สุดในโรงเรียนนี้แล้วนะจะบอกให้ คำล่ำลือเขามีไปถึงรุ่นพ่อรุ่นแม่เลยแหละเพราะพ่อโทโมะก็เคยเรียนกับอาจารย์ผ่องใสแล้วเล่าให้ฉันฟังตอนที่ชวนฉันกับพ่อแล้วก็พิชชี่ไปทานข้าวที่บ้าน
แต่ถึงแม้ว่าอาจารย์เขาจะโหดเพียงไหนก็คงจะมีอยู่กลุ่มเดียวใน โรงเรียนที่ไม่มีการเกรงกลัวอ่านคนนี้แน่ๆ เห๊อะๆ คงไม่ต้องบอกนะว่าเป็นกลุ่มไหน ก็รู้ๆกันอยู่นี่เน๊อะ ^^
“อ่ะโด่วววว กะอีแค่อาจารย์ผ่องใสเอ๊ง”
“หรือว่าแกกล้าโดดล่ะ?”
“ไม่ - -+”
ปาบ!
“แล้วจะพูดหา Your Daddy เหรอวะ โว๊ะ!” เพื่อนผู้ชายห้องฉันนี่เอะอะก็ใช้ฝ่ามือตบหัวเพื่อน แต่...มองไปแล้วมันก็ขำดีนะฉันว่า คิกคิก ^^
เลิกเรียน
ประมาณ 17.30 น.
“เราเลิกเรียนแล้วกำลังจะเดินกลับกับฟางน่ะวันนี้ฟางไม่ได้เอารถมาด้วย”ฉัน เดินคุยโทรศัพท์กับโทโมะขณะที่กำลังเดินออกมาจากโรงเรียนกับฟางหลังจากที่หลัง จากที่เลิกเรียนวิชาอาจารย์ผ่องใสแล้วฉันกับฟางจึงได้อยู่ทำเวรห้องส่วน เพื่อนๆคนื่นก็รีบพากันกลับบ้านไปกันหมดจนโรงเรียนเงียบเลยล่ะ = =;;;
[ ตอนนี้ฉันอยู่สนามแข่งไอ้จองเบมันเนี่ย ให้ไปรับตอนนี้เลยป่าว ]
โทโมะถาม เพราะว่าเมื่อกลางวันเขาเลิกเรียนตั้งแต่เที่ยงแล้วฉันจึงไม่อยากให้เขารอ เลยบอกว่าให้กลับก่อนเลยก็ได้เพราะว่าฉันเลิกตั้ง 5 โมงครึ่ง โทโมะก็บอกว่าเดี๋ยวเขาจะไปเล่นสเก็ตบอร์ดกับเพื่อนเขาแล้วจะไปที่สนามแข่งจิองเบเพราะว่าดูเหมือนจองเบจะมีแข่งนะวันนนี้
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเรากับฟางว่าจะแวะกินอะไรกันก่อนกลับบ้านน่ะ”
[ จะไปกินที่ไหนอ่ะ กินเสร็จแล้วโทรหาฉันให้ไปรับก็ได้ เดี๋ยวยืมรถไอ้จองเบไปรับ ] โทโมะ บอกเพราะว่าวันนี้ฉันไม่ได้เอาจักรยามาด้วยน่ะสิเพราะวันนี้มันเข้าเรียนสาย ประมาณ 9 โมง ฉันเลยไม่ต้องรีบต้องรีบตื่นเช้าปั่นจักรยานมา ก็เลยเดินมาโรงเรียนเองเพราะว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศเดินสบายๆบ้างน่ะ ^O^//
“ไม่เป็นไรๆ เรากลับเองดีกว่า นายก็ดูจองเบแข่งรถเถอะ”
[ เฮ้อ รู้งี้ฉันรอเธอก็ดี ไม่อยากให้กลับคนเดียวอ่ะ ]
“อย่าพูดแบบนั้นสิ นายใช้เวลาอยู่กับเพื่อนบ้างก็ดีแล้ว เราไม่เป็นไรหรอก”
[ อ่าๆ งั้นอย่ากลับบ้านดึกนะ ถ้ามีอะไรผิดปกติรีบโทรหาฉันเลยเข้าใจมั้ย ]
“รับทราบเจ้าค่ะ ^^”เมื่อฉันตอบแบบนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะของโทโมะที่ดูเหมือนจะขำก่อนที่ฉันจะกดตัดสายไป
“วันนี้พวกเคโอติคไปอยู่สนามแข่งจองเบใช่ม๊ะ”ฟางที่เดินอยู่ข้างๆเอ่ยถามขึ้นมา
“อื้ม”
“ว่าและ เห็นสาวๆแต่ละห้องรีบพากันออกจากโรงเรียนเหลือเกิ๊น ><!”
“แล้วทำไมครั้งนี้ไม่ไปเหมือนครั้งนั้นล่ะ ไม่อยากเจอป๊อปปี้เหรอ?”ฉันถามฟางยิ้มๆ
“ไอ้แก้ว เดี๊ยะ! อย่าพูดถึงหมอนั่น คิดแล้วหมั่นไส้ >^<! ”ฟางพูดแล้วกรอกตาขึ้นลงอย่างเซ็งๆ เห๊อะ! เชื่อว่าฟางนี่คงไม่ชอบหน้าป๊อปปี้อย่างแรง
“เออลืมถาม ทำไมวันนี้ไม่เอาได้เอารถมาอ่ะ?”
“ก็ฟ้าขอยืมไปใช้อ่ะดิ”
“อ๋อ...อ้าว? มิณท์ OoO//”
ตอน นั้นนั่นเองที่ฉันดันเหลือบตาไปเห็นว่ามิณท์นั้นกำลังเดินนำหน้าอยู่ไม่ ไกลนักจากตรงที่ฉันกับฟางกำลังจะเดินไปพอดีฉันก็เลยเรียกทักเขาสักหน่อย เมื่อมิณท์ได้ยินก็หยุดเดินแล้วหันมามองฉันกับฟางจากนั้นเขาก็ขยับแว่นของ เขานิดหน่อยก่อนจะส่งยิ้มมาให้
“อ้าว ไม่ได้ไปดูเคโอติคแข่งรถกันเหรอ ^^?”
“ไม่ได้ไปอ่ะ แล้วนายอ่ะทำไมไม่ไป”
“ขี้เกียจอยากกลับไปทำงานต่อ อาจารย์สั่งซะเยอะเลยเนี่ย”มิณท์พูดบอกกับฟางแล้วเลื่อนสายตามามองที่ฉันก่อนจะพูดยิ้มๆ “แล้วนี่ทำไมไม่ดูโทโมะแข่งสักหน่อยล่ะ”
“พอดีเรามีงานน่ะว่าจะแวะกินข้าวกับฟางแล้วก็กลับบ้านเลย”ฉันตอบมิณท์ก็พยักหน้าแล้วยิ้มบางๆ
“แลดูชีวิตสดใสขึ้นเยอะเลยนะเนี่ยตั้งแต่มีคนมาดูแลหัวใจน่ะ”
“แซวเพื่อนฉันแล้วนายเองอ่ะ มีใครเข้ามาดูแลรึยัง”ฟางถามกลับมิณท์ก็อมยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา
“ยังไม่มีหรอก อกหักอยู่จะมีได้ไง”
“โหย / โหย” ฉันพูดพร้อมกับฟางเมื่อมิณท์บอกแบบนั้น แต่ฉันรู้หรอกว่าเขาคงไม่ได้อะไรแล้วเพียงแต่พูดเอาขำๆไปงั้นแหละ
“พูดเอาขำนะอย่าซีเรียส”เขาบอกก่อนจะหัวเราะออกมาหน่อยๆ
“ไม่หรอก แล้ว...มิณท์รีบกลับมั้ย? ไปกินอะไรด้วยกันก่อนกลับมั้ยล่ะ”
“ถ้าชวนก็ไป ^^”นั่น! เขายิ้มอีกแล้ว
โอ๊ยยยยย อยากจะรู้จังว่าผู้หญิงคนไหนจะได้มาเป็นแฟนกับผู้ชายชายเด็กเรียนห้อง ม.5/1 นิสัยน่ารักแบบเขากันเนี่ย ฉันว่าเธอคนนั้นน่ะต้องโชดดีมากแน่ๆเลย ></////
“งั้น...”
เอี๊ยดดดด
ขวับ!
O_O????
“???” ตอนนั้นทั้งฉันฟางและมิณท์ถึงกับสะดุ้งตัวโหยงเพราะว่าอยู่ดีๆเราสามคน กำลังเดินๆกันอยู่ตรงฟุตบาทก็มีรถยนต์คันสีดำจากไหนก็ไม่รู้ขับมาจอดเทียบ อยู่กับริมฟุตบาท
“อะไรอ่ะ”ฟางถึงกับงงเมื่อจู่ๆก็มีผู้ชายที่เพิ่งลงมาจากรถทั้งหมด 4 คน เดินลงมาแล้วเดินมาดักหน้าพวกฉันเอาไว้
“จะไปไหนกันเหรอ?”หนึ่งในสี่คนนั้นเอ่ยถามจนฉันต้องรีบเขยิบไปยืนข้างๆฟางอย่างรวดเร็ว
“พวกคุณเป็นใคร”มิณท์เอ่ยถามแต่คำตอบที่ได้รับกลับมาก็คือรอยยิ้มของไอ้พวกบ้านั่น
“ไอ้แว่น อย่าเสล่อถามเลยดีกว่านะ ถ้าไม่อยากซวย”
“นี่! ถ้าพวกนายจะมาก่อกวนก็หลบไปซะ”ฟางบอกขณะที่เดินมาอยู่ข้างหน้าฉันแล้วพูดบอกพวกนั้น
“ถ้าไม่หลบแล้วจะทำไม?”พวกนั้นตอบกลับฟางก็ถอนหายใจก่อนจะจับมือของฉันแน่น
“มิณท์ แก้ว ไปกันเถอะ”
“ยังไปไม่ได้!”มันเดินมาดักหน้าฉันกับฟางขณะที่กำลังจะเดินออกไปจากตรงนี้เพื่อเลี่ยงกับพวกนั้น
ให้ตายสิ! พวกนี้เป็นบ้าอะไรกัน!
“ส่งตัวเพื่อนเธอมาสิแล้วฉันจะปล่อยให้ไป”คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเอ่ยแล้วมองมาที่ฉัน ตอนนั้นฉันเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
พะ...พวกนั้นหมายถึงฉันเนี่ยนะ!?
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันกันเนี่ยถามจริง >O<!
“แล้วเพื่อนฉันเกี่ยวอะไรกับพวกนายเล่า? ถอยไปซะ ไม่งั้นฉันจะ...ว๊าก!!!”
ปึก!
“เฮ้ยฟาง!”ฉัน กับมิณท์ตกใจมากที่เห็นว่าพวกนั้นจับฟางเหวี่ยงลงไปนอนกองอยู่กับพื้น อย่างแรงก่อนที่จะมีหนึ่งใน 4 คนนั้นมาฉุดแขนของเอาไว้ฉันขณะที่กำลังจะก้มลงไปช่วยฟาง “นี่ปล่อยนะ!”
“ปล่อยแก้วนะเว้ย!”มิณท์ก็จะเข้ามาช่วยแต่ทว่าเขาถูกอีกสองคนนั้นจับออกไปก่อนที่พวกนั้นจะต่อยเข้าไปที่ท้องของมิณท์อย่างแรงแบบไม่ยั้งมือเลย
ตุ้บ!
เท่า นั้นยังไม่พอเพราะมันยังต่อยเข้าใบที่ใบหน้าของมิณท์จนเต็มแรงอีกเป็นเหตุ ทำให้แว่นของมิณท์นั้นมันกระเด็นออกจากใบหน้าของเขาไป!
ผัวะ!
โอ๊ะ!
“มิณท์!”ฉัน เบิกตากว้างแล้วพยายามสลัดข้อมือให้หลุดพ้นจากไอ้บ้านี่ แต่มันก็ไม่เป็นผลใดๆเลยทั้งสิ้น แล้วพอฉันนั้นกวาดสายตามองไปรอบๆก็ไม่มีใครอยู่แถวนี้เลยด้วยซ้ำ
บ้าที่สุดเลย!
“พวกแก!”ฟาง ที่เพิ่งตั้งหลักได้จึงลุกขึ้นมาจะช่วยฉันแต่ทว่าก็กลับโดนพวกนั้นกระชากแขน ไปแล้วผลักไปทางมิณท์จนฟางกับมิณท์ล้มไปกองกับพื้นฟุตบาท “โอ๊ย!”
“มานี่!”ไอ้ คนที่มันจับข้อมือของฉันไว้พยายามลากให้ฉันไปขึ้นรถของมัน แต่ฉันก็พยายามใช้เรี่ยวแรงที่มีอยู่พยายามดึงรั้งตัวเองเอาไว้จนสุดฤทธิ์
“ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า!”
ปึก!
“โอ๊ย!”เมื่อมันโดนฉันเหยียบเท้าหมอนั่นจึงร้องออกมาเสียงดัง “ฤทธิ์เยอะนักใช่มั้ย ได้!”
“นี่จะทำอะ...อื้อ! อื้อ!”ฉันไม่สามารถตะโกนพูดอะไรอออกไปได้อีกเมื่อไอ้บ้านั่นมันหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงของมันมาโปะลงตรงจมูกกับปากของฉัน จนฉันเริ่มหายใจไม่ออก
ซึ่งพอเผลอสูดดมเข้าไปนั้นมันก็เป็นกลิ่นแปลกปลอมที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อน พอได้สูดดมแบบไม่ทันตั้งตัวภาพคนตรงหน้ากับสิ่งรอบข้างนั้นก็ค่อยๆจางลง พร้อมกับเสียงของฟางที่ร้องตะโกนเรียกชื่อฉัน แล้วพอมารู้ตัวอีกทีร่างของฉันก็ถูกจับเข้ามาอยู่ในรถจนสำเร็จ ดวงตาก็พล่ามัวไปหมดเสียงรอบกายก็อื้อจนฉันนั้นไม่ได้ยินอะไรอีกต่อไป
บะ...บ้าจริง ไอ้พวกนี้มันโปะยาสลบ ฉ...ฉัน...
บรื๊นนนนน
“แก้ว!!!! อะ...โอ๊ย” ฟางที่นอนล้มอยู่ที่พื้นกับมิณท์จึงพากันลุกขึ้นอย่างไมมีแรง แต่ในที่สุดก็ลุกขึ้นมาจนได้ “มิณท์ลุกขึ้นเร็ว” ฟางรีบก้มลงไปช่วยดึงมิณท์ที่โดนต่อยจนหน้าช้ำไปหน่อยและมุมปากของเขานั้นก็มีเลือดออกเพราะโดนต่อย
“พะ...พวกนั้นจับแก้วไปแล้ว”มิณท์พูดแล้วเอามือจับที่ริมฝีปากของเขาเพราะความเจ็บ “ฟาง ฉันมองไม่ค่อยเห็น”
แน่ล่ะ เพราะว่าแว่นของเขาหลุดออกไปตอนที่โดนต่อยนี่นา
“แว่น! แว่นอยู่ไหน?!”ตอน นั้นฟางรีบมองหาแว่นของมิณท์ในทันทีจนเจอแล้วก็จับมันมาใส่ให้มิณท์ อย่างรวดเร็วเพราะว่าตอนนี้ใจของเธอนั้นเป็นห่วงแก้วที่โดนใครก็ไม่รู้จับ ตัวไป “เดี๋ยวๆๆๆ โทรศัพท์ๆๆ ”
“จะโทรเรียกตำรวจเหรอ?”มิณท์ถามฟางขณะที่เขาเอาหลังมือยกขึ้นเช็ดเลือดตรงมุมปาก
“นั่นคงไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้”ฟางบอกขณะเลื่อนๆดูเบอร์ในโทรศัพท์มือถือของเธอ
“แล้วจะทำไง”
“พวกนั้นเจาะจงที่จะจับแก้วไป ฉันว่ามันจะต้องเกี่ยวกับโทโมะแน่ๆ เดานะ = =;;;”ฟางเงยหน้ามาพูดกับมิณท์แล้วก้มลงไปกดโทรหาโทโมะทันทีขณะที่เธอกำลังเขย่งขาแล้วก็เม้นริมฝีปากไปด้วยเพราะความกังวล “รับสิๆๆๆๆๆ รับสิโทโมะ!”
กรึก
[ ฮัลโหลว่าไงฟาง? ]
“โทโมะ! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว แก้วโดนใครไม่รู้จับตัวไป!”
[ อะ...อะไรนะ!? ]
“ฉัน แก้วแล้วก็มิณท์เดินอยู่ตรงริมฟุตบาทแล้วมีรถที่ไหนไม่รู้มาจอดเทียบ แล้วพวกนั้นมันมา 4 คนแล้วจับแก้วไป ฉันช่วยแก้วเอาไว้ไม่ได้ มิณท์ก็โดนต่อยอีก” ฟางเล่าเสียงสั่น
[ ฟางๆๆๆ ตั้งสติแล้วบอกฉันว่ามัน ‘เจาะจง’ เล็งที่แก้วใช่มั้ย ] โทโมะถามแล้วเสียงของโทโมะก็สั่นด้วยเช่นกันเพราะว่าเขาได้ฟังสิ่งที่มันไม่น่าฟังเอาเสียเลยที่ว่า...
แฟนของเขาโดนจับตัวไป!
“เจาะจง! ฉันมั่นใจ พวกนั้นมันมองแก้วแล้วบอกให้ฉันส่งตัวแก้วให้พวกมัน โทโมะแล้วพวกมันเป็นใครอ่ะ!?”
อีกฝั่ง
สักพักต่อมา...
สนามแข่งของจองเบ
[ บันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
“อะไรวะไอ้โทโมะทำไมดูเครียดๆ” ไอ้จองเบเอ่ยถามทันทีเมื่อมันเห็นว่าผมคุยโทรศัพท์ด้วยท่าทางร้อนรนแบบนั้น เพื่อนๆในกลุ่มก็หันมามองที่ผมเป็นตาเดียวเช่นกัน
ให้ตายสิ! เมื่อกี้ผมได้ข่าวร้ายสุดๆไปเลยว่ะ
“นั่นดิ ใครอะไร เจาะจง?”เขื่อนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาเอ่ยถามแล้วมองสีหน้าของผมที่เป็นอยู่ในตอนนี้อย่างเป็นห่วง แน่ล่ะ! ใบหน้าของผมตอนนี้มันคงจะมีความโกรธอยู่มากที่ผมได้ยินฟางบอกแบบนั้นว่ามีคนมาจับตัวแก้วไป
ว่าแล้วเชียวว่าทำไมผมมีลางสังหรณ์แปลกๆอยากโทรหาแก้วอีกรอบนึง ก็...ในตอนที่ผมกำลังจะกดโทรหาแก้วฟางก็โทรแทรกเข้ามาพอดียังไงล่ะ จนผมได้ยินเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น!
“เมื่อวาน...ฉันเจอไอ้ไฟท์”ผมเอ่ยขึ้นแล้วหันไปมองหน้ากับเพื่อนๆเคโอติคที่กำลังรอฟังอยู่ จองเบก็หันมองหน้ากับป๊อปปี้ที่กำลั่งนั่งอยู่ข้างๆแล้วหันมาผมอีกรอบ
“ไฟท์? คนที่เป็นคู่อริจองเบใช่ป่ะโทโมะ”เขื่อนถามผมก็พยักหน้า
“แล้ว?” >> ไอ้จองเบ
“มัน มายุ่งกับแก้ว พอฉันเห็นก็เกือบจะมีเรื่องกับมัน แถมมันยังบอกทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยว่าเรื่องตอนนั้นที่ฉันแข่งชนะคนในกลุ่มมัน มันยังไม่ได้เอาคืน”
“แล้วที่แกคุยเมื่อกี้...”
“มันส่งพวกมันมาจับแก้วไป”
“อะ...ฮะ!? อะไรนะ? ไอ้ไฟท์ส่งพวกมันมาจับแก้ว?”ไอ้ป๊อปปี้มันแลดูตกใจมากที่ได้ยินผมพูดแบบนั้นเพื่อนๆในกลุ่มก็เริ่มมองหน้ากันหงึกหงัก “แล้วเมื่อกี๊ยัย...ยัยฟางมัดข้าวนั่นโทรมาบอกแกไง๊”
“ใช่ บอกด้วยว่าพวกนั้นเจาะจงจับแต่แก้ว ฉันเลยมั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือของพวกไอ้ไฟท์แน่ๆ”
ใช่! ผม มั่นใจมากเพราะว่ามันไม่น่าจะมีใครอีกแล้ว เพราะว่าผมไม่ได้มีเรื่องกับใครนอกจากมันที่เมื่อวานมันมายุ่งกับแก้วน่ะ มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆที่ไอ้ห่านั่นจะแว๊ะมาซุปเปอร์มาเก็ตแล้วเจอ กับแก้วโดนบังเอิญหรอก เพราะว่าแก้วบอกผมว่าไอ้ไฟท์มันทำเหมือนจะเข้าหาเธอ
นั่นล่ะ! ผมคิดเลยว่ามันต้องแอบตามผมกับแก้วมาแน่ๆ! แล้วพอผมฟังที่แก้วเล่าให้ผมฟังผมที่แบบ...ของขึ้น!
ยิ่งได้มารู้ว่าแฟนของตัวเองโดนจับไปของยิ่งขึ้นใหญ่ ระยำเอ๊ย!!!
“พวกแม่งเล่น เชี่_อะไรกันวะ”ป๊อปปี้พูดแล้วหันไปมองหน้ากันกับเขื่อนก่อนจะหันมามองผมอีกรอบ “แล้วแกจะเอาไง”
“ฉันจะไปชะ...”
ตื๊ด...ตื๊ด...ตื๊ด...
ผมยังเอ่ยปากพูดไม่ทันจบเสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของผมมันก็ดังขึ้นเสีย ก่อนคราวนี้เพื่อนๆจึงให้ความสนใจกันมาที่เจ้าโทรศัพท์ของผมเป็นพิเศษ ผมก็ก้มลงไปมองหน้าจอที่ขึ้นโชว์เบอร์อยู่เมื่อผมเห็นผมก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน ทันทีที่ได้เห็นเบอร์ที่มันขึ้นโชว์อยู่ ซึ่งมันเป็นเบอร์ของ...
+ Kaew +
ติ๊ด!
ไม่ รอช้าอะไรใดๆครับเพราะว่าผมรีบกดรับสายนั้นเลยทันทีแล้วจัดการก็เปิด สปีคเกอร์โฟนเพื่อจะให้เพื่อนๆได้ฟังด้วยเพราะว่าลางสังหรณ์แปลกๆที่เหมือน ว่าแก้วคงไม่ได้เป็นคนโทรมาเองแน่
แล้วลางสังหรณ์ของผมมันก็เป็นจริงเมื่อ!
[ หวัดดีนายโทโมะแห่งกลุ่มเคโอติคคคค ] นั่นมันเสียงไอ้ไฟท์จริงๆด้วย! ว่าแล้ว!
“...”ผมเงียบแล้วมองหน้ากับไอ้จองเบที่มันเดินมาอยู่ใกล้ๆผมแล้วยกนิ้วชี้ขึ้นมาไว้ตรงปากเพื่อบอกให้เพื่อนๆเคโอติคเงียบๆ แน่ล่ะ! ห้อง นี้เป็นห้องส่วนตัวของไอ้จองเบในสนามแข่งก็มีแต่พวกเราส่วนคนของไอ้จองเบก็อยู่ ข้างนอกเพื่อจะทำการเปิดสนามแข่งในค่ำคืนนี้เพราะไอ้จองเบเริ่มแข่ง 1 ทุ่ม
[ เงียบมัยล่ะคร้าบบบ ตกใจเหรอ? ไม่ใช่เสียงแฟนตัวเองคุยแล้วถึงกับช็อคเลยเหรอ? เห๊อะ! ]ตอนนั้นผมกำหมัดในมือแน่นเลยครับมือที่ถือโทรศัพท์อยู่นั้นผมก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบเพราะว่าแรงบีบจากความโมโหมันมาเหลือเกิน
“...”
[ แกคงจำเสียงฉันได้นะโทโมะ หึ แกรู้มั้ย? ว่าตอนนี้ผู้หญิงของแกน่ะ ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงของฉันเลยน้า ]
ไม่ทนเงียบแล้วเว้ย!!!
“พ่อมึงตาย!”
____________________________________________อัพแล้วนะค่ะ อัพช้าหน่อย โทษน้าาา^^
( ผมจะปกป้องคุณ )
คืนนั้น
ประมาณทุ่มกว่าๆ
“...โทโมะ”
ฉัน เอ่ยเรียกชื่อโทโมะขึ้นมาหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่ซุปเปอร์มาเก็ตนั่นที่เจอ กับไฟท์ โทโมะก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น จนกระทั่งเขาได้ปั่นจักรยานพาฉันมาจนถึงหน้าบ้านของตัวเองแล้วในเวลาประมาณ ทุ่มกว่าๆ และที่ฉันเรียกโทโมะไปเมื่อกี๊ก็แค่อยากรู้ว่าทำไมเขาถึงได้เงียบไป
เขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจอย่างงั้นเหรอ...
“ถึงบ้านแล้ว เธอเข้าบ้านเถอะ”โทโมะลงมาจากจักรยานแล้วฉันก็เอามือจับตรงแฮนด์ที่สองด้านของจักรยานเอาไว้ แต่เมื่อกี๊เขาได้ยินฉันเรียกรึปล่าวเนี่ย = =?
ต้องได้ยินสิ แต่ทำบอกปัดเสียมากกว่า ว่ามั้ย?
“โทโมะ...นายเป็นอะไรรึปล่าว”ฉันถามอย่างเป็นห่วงเพราะว่าสังเกตดูจากสีหน้าแววตาของโทโมะแล้วเขาแลดูเหมือนว่าเขากำลังกังวลอะไรอยู่ในใจ
โทโมะเขาจะ...รู้สึกกังวลแบบเดียวกันกับฉันรึปล่าวนะ เพราะว่าไฟท์น่ะเขาพูดว่า... ‘เอาคืน’ ละแล้ว...ทำไมเขาจะต้องทำทีเป็นเข้ามาหาเรื่องฉันแบบนั้นด้วยล่ะ
มันจะเกี่ยวกับฉันมั้ยนะ...
ยอมรับเลยนะว่าฉันเองก็กังวลไม่น้อยเลย แต่ที่ไม่แสดงออกไปเพราะทุกคนก็คงจะรู้ดีว่าฉันน่ะไม่ค่อยชอบให้ใครเป็นห่วง เลยชอบเก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจ และถ้าฉันแสดงออกไปว่ากำลังกังวลอยู่ล่ะก็...โทโมะก็คงจะไม่สบายใจแน่ๆที่เห็น ว่าฉันดูกลัวๆคำพูดของไฟท์
“ไม่ได้เป็นอะไรนี่ เธอเข้าบ้านเหอะ ดึกแล้ว”โทโมะส่ายหน้าแล้วบอกฉันพร้อมกับใบหน้าที่มันแลดูฝืนยิ้ม
โกหกเห็นๆเลย!
ถึงฉันจะไม่ค่อยรู้อะไรมากมาย เออจะอึนๆ ซื่อบื้อ ในบางครั้ง ( มั้ง? ) แต่ก็ใช่ว่าฉันจะไม่รู้นะว่าโทโมะเขากำลังฝืนยิ้มอยู่น่ะ ถึงแม้เขาพยายามจะทำหน้าให้ดูเรียบเฉยแต่ดวงตามันก็บ่งบอกอยู่อ่ะว่ามันไม่ ปกติ
“1 ทุ่มกว่าๆเนี่ยนะดึก?”ฉันเค้นเสียงถามเมื่อก้มลงมองนาฬิกาข้อมือแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองโทโมะจนโทโมะถึงกับนิ่งไป
“...” เขาเงียบ
“โทโมะ...นายกำลังกังวลเรื่องที่ไฟท์พูดใช่มั้ย”
เมื่อ ฉันถามแบบนั้นโทโมะที่พยายามเลี่ยงสายตาจากฉันก็หันมามองสบตากับฉันตรงๆ สายตาของเราสบประสานกันจนฉันนั้นเห็นได้ชัดเลยว่าดวงตาของโทโมะนั้นมันแต่ดู หมองๆยังไงไม่รู้สิ เมื่อเห็นแบบนั้นฝ่ามือเล็กๆของฉันจึงเอื้อมมือของตัวเองข้างหนึ่งไปจับมือ โทโมะเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ใช้จับแฮนด์จักรยานอยู่
พอได้จับมือโทโมะแล้วฉันเองก็แปลกใจเหมือนกันเพราะว่ามือของเขามันเย็นมากเลย แต่ว่าเหงื่อออกนะ
โทโมะเขากำลังไม่สบายใจใช่มั้ย?
“แก้ว”โทโมะเอ่ยแล้วมองจ้องฉันไม่กระพริบตา
“อะไรเหรอ O_O?”
“...”
“???”
“ตอนที่ฉันยังไม่มาไอ้เวรนั่นมันทำอะไรเธอรึปล่าว”โทโมะเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากที่เขาเงียบไปสักพัก
จริงสิ! ก็ตอนนั้นหลังจากเกือบจะมีเรื่องกับนายไฟท์นั่นโทโมะเขาก็เอาแต่เงียบนี่นา และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาถามแบบนี้ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้น
เออ...จะบอกดีมั้ยนะ เฮ้อ! บอกๆไปเหอะ โทโมะคงไม่...ของขึ้นหรอก...มั้ง? >O<!
“หมอ นั่น...เดินมาชนเรา แล้ว...เขาทำเหมือนว่าอยากจะรู้ชื่อเรา พอเราบอกว่าขอตัวก่อน ผู้ชายคนนั้นก็เดินมาดักหน้าเราไม่ให้เราไปแล้วก็เอามือมาจับลูบตรงปลายผม เราด้วย แล้วนายก็...มาพอดี...”ฉันบอกโทโมะไปตามตรงอย่างไม่ปิดบังเพราะว่ารู้ว่าโทโมะน่ะจับโกหกเก่งมากเลยถ้าเขาตั้งใจฟังจนจับได้นี่ฉันก็โดนดุอีกน่ะสิ Y^Y
“จับปลายผม? ><!”โทโมะเบิกตากว้างแล้วกัดฟันจนดังกรอด
ให้ตายสิไม่น่าบอกฉากนี้เลย ><!
“เอ่อแต่เราโอเคนะ ไม่ได้เป็นอะไรเลย”ฉันรีบบอกเพราะกลัวว่าโทโมะจะโมโหจนถึงกระทั่งที่ว่าถ้าเขาเจอกับไฟท์อีกครั้งเขาอาจจะบุกเข้าไปต่อยหน้าหมอนั่นได้เลยล่ะ
เพราะว่าโทโมะน่ะเป็นผู้ชายประเภทแค้นฝังหุ่น ใครทำอะไรไว้อย่าคิดว่าเขาจะไม่เอาคืนนะ อย่าได้คิดแบบนั้นเด็ด! ><! เพราะ หมอนี่น่ะแผนสูงจะตายไป แถมหาวิธีแก้แค้นได้เจ็บแสบม๊าก เพื่อนๆในกลุ่มเขาน่ะโดนกันมาหมดแล้ววววว จุ๊ๆๆ อย่าไปบอกโทโมะนะว่าฉันนินทาเขาให้ฟังอ่ะ ฮ่าๆๆ >*<
“ปากบอกโอเค แต่ในใจกังวลอะไรอยู่รึปล่าวก็ไม่รู้”
เดาเก่งไปไหน?
“ตอนแรกเราก็กังวลนะที่ไฟท์ทิ้งท้ายไว้แบบนั้น แต่...ตอนนี้เราโอเคขึ้นแล้ว นายไม่ต้องเป็นห่วงจนมือเย็นแบบนี้ก็ได้”ฉันยิ้มหน่อยๆ แต่โทโมะเนี่ยสิเขาเล่นไม่ยิ้มเลยอ่ะแถมยังทำหน้าสุขุมนุ่มลึกอีก
“ก็เธอเป็นแฟนฉันเน๊อะ แถมคู่อริของกลุ่มก็มาทำอะไรแบบนั้น ไม่ให้กังวลได้ไงวะ”โทโมะทำหน้าเซ็งแล้วเอามือข้างที่ว่างเกาหัว ส่วนมือที่ฉันใช้จับมือโทโมะอยู่นั้นก็ยังไม่ได้ปล่อยเลย
“...”
“แก้ว...รับปากฉันนะว่าอย่าไปไหนคนเดียวเด็ดขาด”โทโมะบอก
“อื้ม”ฉันพยักหน้าบอกโทโมะอย่างว่าง่ายเพราะรู้ว่าเขาเป็นห่วง “นายเองก็อย่ากังวลมากเกินไปจนพรุ่งนี้ไม่เป็นอันเรียนล่ะ”
“ก็โดดดิ ไม่เห็นยาก งานถนัดเลยนะนั่น”โทโมะฉีกยิ้ม แต่ฉันเนี่ยสิที่กำลังมองเขาตาเขียวเป็นเชิงตำหนิ ><!
แหม๋ รู้หรอกนะว่าก่อนที่เราสองคนจะมาเจอกันเนี่ยเขาชอบโดดเรียนไปนั่งเล่นกับพวก เพื่อนเคโอติคอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่โดนดุเพราะสอบทีไรเกรดดีติด TOP ของโรงเรียนทุกทีดั่งคำล้ำลือของนักเรียนแฟนคลับของพวกเคโอติคทั้งหลายยยย
ก็ใช่เซ่! หัวสมองดีๆกันทั้งนั้นนี่ แต่ดูฉันสิ! ><! เข้าเรียนบางทียังเรียนไม่เข้าใจเล้ยยยยย แต่โชคดีที่เวลาสอบคะแนนก็โอเคอยู่
“ก็ลองโดดดูสิ เราจะเหลาไม้หวายตามฟาดก้นนายให้ลายเลย”ฉันปล่อยมือออกจากมือโทโมะก่อนจะชี้หน้าเขาเป็นการเตือน!
“โหดๆ ทีนั่นทำกลัวฉันจนไม่กล้ามองหน้า อะเด่อออ”
“ตอนไหน?”
“ตอน แรกๆเลยแหละ เธอน่ะกลัวฉัน เอะอะอะไรก็ก้มหน้า พูดทีก็อึกอักๆ พอมาเป็นแฟนฉันแล้วก็ทำมาสายโหด อย่าๆ นั่นมันคาแร็คเตอร์ฉันอย่ามาแย่งซีน >^<!”มาเป็นชุดเลยครับทุกท่าน =[]=;;;;
ดู๊ดู!!! นายเซ่!!! >O<!
“ก็ตอนนั้นนายน่ากลัวยิ่งกว่าผีอีกเราเลยไม่พูดอะไร แต่ตอนนี้เรารู้ธาตุแท้นายแล้ว นายโทโมะ แบร่ๆ :P”
“อะก็แล้วแต่เลยครับ แม่อึนของผม”โทโมะพูดแล้วทำท่าถอนสายบัวให้อย่างกวนๆ
“ใครอึน = =?”
“เธอไง ^^”เขาพูดแล้วก็อมยิ้มแล้วยกมือข้างที่ฉันจับมือเขาอยู่ขึ้นมาตรงหน้าฉัน “แล้วเนี่ย จะจับไว้เงี๊ยทั้งคืนเลยป่ะ? ถ้าจับฉันก็อยู่ได้นะ ‘ ทั้งคืนนนนนนน ’ เลย ^^”
“โทโมะบ้า! ทะลึ่ง ><!”ฉันรีบปล่อยมือออกทันทีเพราะว่าตัวเองกำลังหน้าแดง =/////=
“อะไร ยังไม่ได้คิดอะไรเลย”โทโมะบอกพรางหรี่ตามองฉันอย่างงงๆ มาอีกแล้วความรู้สึกนี้เขาหรี่ตามองมาทีไรฉันรู้สึกประหม่าทุกทีเลยเชียว “ดูหน้าดิแดงเป็นลูกตำลึงแล้ว”
อ๊าก!!! จริงอ๊ะ?
ฉันรีบเอามือลูบหน้าของตัวเองทันทีแล้วมองโทโมะตาเขียว
“ก็มาพูดให้เราคิดลึกทำไมล่ะ >O<!”
“ฉันปล่าวเลย เธอคิดเองทั้งนั้นอ่ะ”เขาส่ายหน้าปฏิเสธทั้งๆที่เขาเองก็รู้ตัวดีว่าเขาน่ะจงใจพูดให้ฉันคิดลึกเอง >O<!
“=///////=”
“นี่ จะหน้าแดงทำไมกับคำพูดแค่นี้ ฮึ?”
“หมายความว่าไง”ฉันมองโทโมะอย่างไม่วางใจที่เขาเล่นมองฉันด้วยสายยั่วกันแบบนั้น อัลไลเนี่ยยยยยยยยยย มองงั้นคือ???
“ก็...ถ้าเรื่องแค่นี้หน้าแดง แล้วถ้าอีก 10 ปีข้างหน้าถึงวัน ‘เข้าหอ’ ของเรา เธอจะเป็นยังไงนะอยากรู้ว่ะ ฮ่าๆๆ ”
“งั้นถ้าถึงวันนั้นเราจะแยกเตียงนอนกับนาย >O<!”
“บ้าเรอะ ผัวเมียที่ไหนเขานอนแยกเตียงกัน - -+”
ผะ...ผัวเมีย!?
โอ้โห...ไม่อยากนึกสภาพตัวเองเลยอ่ะว่าฉันจะเจออะไรบ้างถ้าถึงวันนั้นจริงๆน่ะ YOY!!!!
“เยอะแยะ”
“ไม่เอา ไม่แยก ฉันไม่มีทางแยกเตียงนอนกับเธอหรอกจะบอกให้”โทโมะบอกพลางกอดอกแล้วเชิดหน้าอย่างเอาแต่ใจ แต่นั่นมันกลับทำให้ฉันอมยิ้มขึ้นมา “และ ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะว่าสาวข้างบ้านจอมอึนอย่างเธอน่ะ อย่าริอาจมาเอาแต่ใจกับฉัน ไม่งั้นถึงวันที่เธอแต่งกับฉันเมื่อไหร่ ฉันจะคิดบัญชีให้หนักเลยคอยดูดิ”
โห้ยยยยยยยยย พูดแบบนี้ฉันไม่กล้าแต่งกับเขาหรอก! ขู่ดีนักนะ! ไม่แต่งเด็ดขาดแบบนี้ ><!
“งั้นเราไม่ตกลงแต่งกับนายหรอกถ้านายขอจริงๆอ่ะ เพราะเราจะไม่ยอมให้นายรังแกเราหรอกจะบอกให้”ฉันเชิดหน้าขึ้นบ้างสองมือก็จับที่แฮนด์จักรยานเอาไว้แน่น
เอาดิๆๆ ดูซิว่าจะมาไม้ไหนต่อ เห๊อะ!
“พูดแบบนี้เชื่อดิ ‘ ไม่รอด ’ หรอก คริ คริ ”
อ๊าก!!!! >O<///////
“นายโทโมะ!”
“อย่านะ! ถ้าเธอตีแขนฉัน ฉันจะจับเธอจูบมันหน้าบ้านนี่แหละ”เมื่อโทโมะชี้นิ้วบอกขู่ฉัน ฉันจึงรีบชะงักมือที่กำลังจะฟาดลงบนแขนเขาอย่างรวดเร็วเหมือนมีคนมากดปุ่ม Stop เอาไว้เลยล่ะ
ให้ตายสิ =/////=
“น่ะ...ไหนว่าดึกแล้วไง กลับบ้านนายไปดิ เราจะได้เข้าบ้านเรา”ฉันทำพูดเปลี่ยนเรื่อง
“เธอเข้าก่อนดิ”
“นายก็เข้าบ้านนายไปก่อนสิ ><!”
“เธอนั่นแหละรีบเข้าบ้านไปเลยเดี๋ยวใครฉุด”
“จะเพ้อเหรอ? หน้าบ้านเราใครจะมาฉุด (O_o )?”
“เอ๊าก็ไม่แน่นะใครจะรู้ รีบๆเข้าบ้านไปเลย ไม่มีการบ้านก็อาบน้ำนอนซะ”โทโมะ บอกแล้วใช้มือดันหัวไหล่ของฉันฉันก็เบ้ปากใส่เขาแล้วหันหลังไปเปิดประตูรั้วไม้เล็กแล้วเดินไปเอาจักรยานเข้าบ้านไปและตอนที่หันหลังกลับมาจะปิดประตูรั้วก็เห็นว่าโทโมะก็ยังคงยืนมองฉันอยู่
“เข้าบ้านนายได้แล้ว”ฉันบอก
“คร้าบผม ส่งแฟนเข้าบ้านแล้วผมก็จะเข้าบ้านผมแล้วคร้าบ ฝันดีนะครับคุณแฟนนนน”ดูโทโมะโทโมะสิ กวนประสาทจริงๆเลยนะ
หึ ทำท่าทางกวนกันนักใช่มั้ย ได้!
ปึง!
กรึก!
“ฮ่าๆๆๆ”นี่ เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันขำปากกว้างได้ขนาดนี้เพราะว่าฉันนั้นปิดประตูรั้วใส่ หน้าโทโมะพร้อมกับล็อคทันทีน่ะสิ หน้าโทโมะตอนนี้คงเอ๋อไปเลยแหละ ฮ่าๆๆๆ
“เฮ้ยนี่ยัย...! เน่! แก้ว! เธอยังไม่ได้บอกฝันดีฉันเลยนะ ทำงี้ได้ไง แก้ววว >O<”
“หมั่นไส้!”ฉันตะโกนบอกไปแล้วยิ้มหน้าระรื่นเข็นจักรยานเข้าตัวบ้านไปอย่างไม่สนใจเสียงของโทโมะอีก
เห๊อะ แกล้งเขานี่สนุกดีจัง :D
วันต่อมา...
คาบว่าง
“ทุกคนๆๆๆ ฟังๆๆๆ หน่อยจ้า ”
ขวับ!
O_O? >>> เพื่อนทั้งห้อง
“อะไรอ่ะปัง OoO?”
ทุก คนต่างหันไปมองปังปอนด์เป็นตาเดียวเพราะว่าปังปอนด์ทำสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกระดาษสีขาวในมือเหมือนว่าเมื่อครู่นี้ที่เธอถูก ประกาศเรียกไปประชุมรวมหัวหน้าห้องของทุกระดับชั้นให้ไปประชุมกันคงจะเป็น เรื่องที่เธอกำลังจะพูดต่อจากนี้อย่างแน่อน
ส่วนฉันกับฟางก็จัดการถอดเอาสายหูฟังที่เมื่อกี๊เรากำลังนั่งฟังเพลง ด้วยกันออกเพื่อตั้งใจฟังปังปอนด์นั่นเอง ^O^//
“ก็...มีข่าวจะมาบอกกกกก”ปังปอนด์เดินมายืนอยู่กลางห้องเรียนแล้วยกกระดาษในมือขึ้นมาเหมือนว่าจะเป็นประกาศอะไรสักอย่าง
“ข่าวอะไรของแกย๊ะ”
“ก็จะมาบอกว่ากีฬาสีปีนี้ห้อง ม.5/2 ของเราอยู่สีฟ้านะจ๊ะ! ใครจะลงกีฬาอะไรก็เตรียมตัวฟิตร่างกายเอาไว้เลย อาทิตย์หน้าในวันพุธคาบกิจกรรมก็เตรียมไปลงชื่อกีฬาที่จะลงได้ที่รุ่นพี่ ม.6 มีอะไรสงสัยมากกว่านี้สอบถามคลอรีนประธานชั้น ม.5 ของเราได้เพราะว่าคลอรีนจะรู้เยอะกว่าฉัน”
“แหงอยู่แล้ว คลอรีนน่ะอย่างแจ่มเลย ฮ่าๆๆ”
“อย่าๆ นายอย่าได้คิดอะไร 18+ เชียวนะ - -+”ปังปอนด์ก้มหน้าลงไปดุเพื่อนผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะใกล้ๆกับตรงที่เธอยืนจนเพื่อนคนนั้นต้องรีบปิดปากเงียบทันที
“ปัง ถ้าลงชื่อแล้วก็เตรียมซ้อมไว้เลยช้ะ?”ฟางยกมือขึ้นข้างหนึ่งเพื่อให้ปังปอนด์หันมาสนใจฉันเองก็หันมองฟางสลับกับมองปังปอนด์เช่นกัน
“อื้อ! ลง ชื่อเสร็จก็ซ้อมไว้ล่วงหน้าเลยเพราะอีก 2 เดือนข้างหน้าจะมีการแข่งคัดตัวลงแข่งเป็นตัวจริงของสี ไม่รู้นะว่าเขาจะเอาตัวจริงกี่คนแต่ลงชื่อคัดเลือกไว้ก่อนก็ดี แล้วหลังจากได้ตัวจริงลงแข่งพี่เขาก็จะให้ลองซ้อมกับทีม 2 สัปดาห์ก่อนกีฬาสีวันจริงด้วยอ่ะ”
“แล้วปังจะลงไรป๊ะ”
“ปีนี้ฉันไม่ลงอ่ะ เดี๋ยวต้องไปช่วยพวกพี่ ม.6 คิดท่าซ้อมแสตนให้น้องด้วย”
“อีกตั้ง 2 เดือนจะรีบคิดท่าทำไมกันย๊ะ มีเวลาอีกถมเถไป”
“นี่พรีม ออกแบบท่ามันใช้ความคิดเยอะนะเพื่อความสร้างสรรค์ของสีอ่ะ เคลียร์นะ?”ปังปอนด์หันไปบอกพรีมสาวเอาแต่ใจที่สุดในห้องจนพรีมต้องเหยียดปากเชิดหน้าใส่ปังปอด์นที่หล่อนโดนตอกกลับ
พรีมน่ะ...เป็นแฟนคลับของกลุ่มพิมพ์ มีพิมพ์เป็นไอดอลด้วยแหละ เห๊อะ! ไอดอล? นี่ถ้าฟางไม่บอกฉันคงจะไม่รู้หรอก แต่ยัยนั่นน่ะเคยแขวะฉันด้วยตอนที่ฉันคบกับโทโมะแรกๆด้วย
‘ทางสะดวกแล้วสินะแก้ว ไม่มีพิมพ์ขวางคอแล้วนี่ ^^’
‘เอ่อ...เธอ’
‘ยินดี ด้วยนะที่เธอน่ะได้หนุ่มที่ไม่เคยมีข่าวกับใครในโรงเรียน แถมเป็นคนที่กลุ่มเคโอติคยกย่องให้เป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องรักๆใคร่ๆอย่างโทโมะ แต่สุดท้ายโทโมะเขาก็ได้มาเป็นแฟนกับผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเธอเนี่ยนะ? เห๊อะ’
‘นี่...ถึง แม้เราอาจจะไม่มีอะไรดีเหมือนผู้หญิงคนอื่น แต่สิ่งที่เรามีอยู่เราก็ไม่เคยคิดจะเอามันไปใช้กับใครแบบไร้ค่าเหมือน ผู้หญิงบางคนหรอกนะ’
‘!!!’
หลังจากวันนั้นที่ฉันพูดไปพรีมก็ไม่มายุ่งอะไรกับฉันเลยเพราะว่าพิมพ์ลาออกไป แล้ว ก็เหมือนกับว่าไอดอลที่เธอยกย่อง ( ในทางที่ผิด ) นั้นได้หายจากไปเธอจึงไม่มี ‘พวก’ ยังไงล่ะ อีกอย่างโทโมะก็เคยประกาศให้ทุกคนได้ยินชัดๆไปแล้วว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องของเขากับฉัน ไม่งั้นจะหาว่าเขาใจร้ายไม่ได้
ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่าโทโมะไปพูดตอนไหน มารู้อีกทีคือข่าวนี้กระจายไปทั่วโรงเรียนจนไม่มีใครกล้ามาแวะฉันเลย ฟางเองก็เลยโล่งใจไปที่เห็นว่าชีวิตฉันได้รับความปลอดภัยแล้ว
“อ้อ! อีกข้อ ใครที่อยากเป็นเชียร์หลีดของสี ให้รีบเช็คหุ่นเช็คร่างกายแล้วไปลงชื่อกับรุ่นพี่ ม.6 ได้ในวันพุธหน้านะจ๊ะ โอเค! ไม่มีอะไรถามแล้วใช่มั้ย?”
“เดี๋ยวๆๆๆ ยัยปัง แล้ว...ห้องเราได้อยู่กับกลุ่มเคโอติคป่ะ?”
“ใช่ๆๆๆ ได้อยู่มั้ยอ่าาาา =[]=???”เมื่อเพื่อนสาวกลุ่มหนึ่งเอ่ยขึ้นทุกคนในห้องก็แลจะดูสนใจกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษจนตั้งใจฟังกันมากๆเลยทีเดียวเชียว
“ถ้าให้ตอบตามตรงฝันของพวกเธอคงสลายเพราะว่าเคโอติคหนุ่มฮอตของโรงเรียนอยู่สีเหลืองจ้ะ อิ อิ ^^”ปังปอนด์ฉีกยิ้มตาหยีใส่พวกนั้นอย่างซะใจที่ได้เห็นพวกเพื่อนสาวในห้องต่างพากันอกจะแตกตายที่ไม่ได้อยู่สีเดียวกับเคโอติค
เอิ่ม...พวก เขาคงคลั่งเคโอติค และหลงเอยๆแต่เคโอติคจริงๆล่ะมั้งเนี่ย ขนาดฉันที่เป็นแฟนกับโทโมะไม่ได้อยู่สีเดียวกันยังไม่ทุกข์ไม่ร้อนเท่าพวกนั้น เลย =[]=;;;;
“โหยยยยย เสียดายอ่ะ YOY”
“นั่นดิ อยากอยู่กับเขื่อนกี้อ่าาาาา >O<!”
“ฉันอยากอยู่กับพี่เคนนนน >O<!!!”
“ย้ายห้องไปอยู่ ม.5/7 กับพวกนั้นเลยมั้ยล่ะ จะได้อยู่สีเดียวกัน = =!”
“อียศ! แกเงียบไปเลยนะ หล่อสู้พี่จองเบของฉันไม่ได้อย่าออกความเห็นย่ะ! ><!”
“อีนี่ พูดซะหน้าฉันดูทุเรศมากเลยอ่ะ =[]=;;;” ยศเพื่อผู้ชายในห้องถึงกับหน้าเสียที่โดนว่าแบบนั้นแต่หมอนี่น่ะเป็นคนเฮฮาจะตายแถมชอบเล่นกับเพื่อนสาวทุกคนในห้องแต่ไม่ใช่เกย์นะ! อย่าๆ อย่าเข้าใจผิด 5555+
“โอเค! หมดคำถามแล้วใช่มั้ย?”ปัง ปอด์นพูดแล้วมองไปรอบๆห้องก็เห็นว่าไม่มีใครยกมือขึ้นถามอะไรเธอแล้วเธอจึง พยักหน้าแล้วเดินออกกนอกห้องไป สงสัยจะไปประชุมเรืองกีฬาสีอะไรนี่แน่ๆแต่ก็ยังมิวายยื่นหัวเข้ามาในห้อง อีกรอบ “เน่! แล้วพวกแกห้ามออกไปนอกโรงเรียนกันนะ ห้ามโดดวิชาอาจารย์ผ่องใสด้วย ไม่งั้นคอขาดตายทั้งห้องแน่! ><!”
อื้อ หือออออ ใครจะกล้ากันล่ะ อาจารย์ผ่องใสนะโหดที่สุดในโรงเรียนนี้แล้วนะจะบอกให้ คำล่ำลือเขามีไปถึงรุ่นพ่อรุ่นแม่เลยแหละเพราะพ่อโทโมะก็เคยเรียนกับอาจารย์ผ่องใสแล้วเล่าให้ฉันฟังตอนที่ชวนฉันกับพ่อแล้วก็พิชชี่ไปทานข้าวที่บ้าน
แต่ถึงแม้ว่าอาจารย์เขาจะโหดเพียงไหนก็คงจะมีอยู่กลุ่มเดียวใน โรงเรียนที่ไม่มีการเกรงกลัวอ่านคนนี้แน่ๆ เห๊อะๆ คงไม่ต้องบอกนะว่าเป็นกลุ่มไหน ก็รู้ๆกันอยู่นี่เน๊อะ ^^
“อ่ะโด่วววว กะอีแค่อาจารย์ผ่องใสเอ๊ง”
“หรือว่าแกกล้าโดดล่ะ?”
“ไม่ - -+”
ปาบ!
“แล้วจะพูดหา Your Daddy เหรอวะ โว๊ะ!” เพื่อนผู้ชายห้องฉันนี่เอะอะก็ใช้ฝ่ามือตบหัวเพื่อน แต่...มองไปแล้วมันก็ขำดีนะฉันว่า คิกคิก ^^
เลิกเรียน
ประมาณ 17.30 น.
“เราเลิกเรียนแล้วกำลังจะเดินกลับกับฟางน่ะวันนี้ฟางไม่ได้เอารถมาด้วย”ฉัน เดินคุยโทรศัพท์กับโทโมะขณะที่กำลังเดินออกมาจากโรงเรียนกับฟางหลังจากที่หลัง จากที่เลิกเรียนวิชาอาจารย์ผ่องใสแล้วฉันกับฟางจึงได้อยู่ทำเวรห้องส่วน เพื่อนๆคนื่นก็รีบพากันกลับบ้านไปกันหมดจนโรงเรียนเงียบเลยล่ะ = =;;;
[ ตอนนี้ฉันอยู่สนามแข่งไอ้จองเบมันเนี่ย ให้ไปรับตอนนี้เลยป่าว ]
โทโมะถาม เพราะว่าเมื่อกลางวันเขาเลิกเรียนตั้งแต่เที่ยงแล้วฉันจึงไม่อยากให้เขารอ เลยบอกว่าให้กลับก่อนเลยก็ได้เพราะว่าฉันเลิกตั้ง 5 โมงครึ่ง โทโมะก็บอกว่าเดี๋ยวเขาจะไปเล่นสเก็ตบอร์ดกับเพื่อนเขาแล้วจะไปที่สนามแข่งจิองเบเพราะว่าดูเหมือนจองเบจะมีแข่งนะวันนนี้
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเรากับฟางว่าจะแวะกินอะไรกันก่อนกลับบ้านน่ะ”
[ จะไปกินที่ไหนอ่ะ กินเสร็จแล้วโทรหาฉันให้ไปรับก็ได้ เดี๋ยวยืมรถไอ้จองเบไปรับ ] โทโมะ บอกเพราะว่าวันนี้ฉันไม่ได้เอาจักรยามาด้วยน่ะสิเพราะวันนี้มันเข้าเรียนสาย ประมาณ 9 โมง ฉันเลยไม่ต้องรีบต้องรีบตื่นเช้าปั่นจักรยานมา ก็เลยเดินมาโรงเรียนเองเพราะว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศเดินสบายๆบ้างน่ะ ^O^//
“ไม่เป็นไรๆ เรากลับเองดีกว่า นายก็ดูจองเบแข่งรถเถอะ”
[ เฮ้อ รู้งี้ฉันรอเธอก็ดี ไม่อยากให้กลับคนเดียวอ่ะ ]
“อย่าพูดแบบนั้นสิ นายใช้เวลาอยู่กับเพื่อนบ้างก็ดีแล้ว เราไม่เป็นไรหรอก”
[ อ่าๆ งั้นอย่ากลับบ้านดึกนะ ถ้ามีอะไรผิดปกติรีบโทรหาฉันเลยเข้าใจมั้ย ]
“รับทราบเจ้าค่ะ ^^”เมื่อฉันตอบแบบนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะของโทโมะที่ดูเหมือนจะขำก่อนที่ฉันจะกดตัดสายไป
“วันนี้พวกเคโอติคไปอยู่สนามแข่งจองเบใช่ม๊ะ”ฟางที่เดินอยู่ข้างๆเอ่ยถามขึ้นมา
“อื้ม”
“ว่าและ เห็นสาวๆแต่ละห้องรีบพากันออกจากโรงเรียนเหลือเกิ๊น ><!”
“แล้วทำไมครั้งนี้ไม่ไปเหมือนครั้งนั้นล่ะ ไม่อยากเจอป๊อปปี้เหรอ?”ฉันถามฟางยิ้มๆ
“ไอ้แก้ว เดี๊ยะ! อย่าพูดถึงหมอนั่น คิดแล้วหมั่นไส้ >^<! ”ฟางพูดแล้วกรอกตาขึ้นลงอย่างเซ็งๆ เห๊อะ! เชื่อว่าฟางนี่คงไม่ชอบหน้าป๊อปปี้อย่างแรง
“เออลืมถาม ทำไมวันนี้ไม่เอาได้เอารถมาอ่ะ?”
“ก็ฟ้าขอยืมไปใช้อ่ะดิ”
“อ๋อ...อ้าว? มิณท์ OoO//”
ตอน นั้นนั่นเองที่ฉันดันเหลือบตาไปเห็นว่ามิณท์นั้นกำลังเดินนำหน้าอยู่ไม่ ไกลนักจากตรงที่ฉันกับฟางกำลังจะเดินไปพอดีฉันก็เลยเรียกทักเขาสักหน่อย เมื่อมิณท์ได้ยินก็หยุดเดินแล้วหันมามองฉันกับฟางจากนั้นเขาก็ขยับแว่นของ เขานิดหน่อยก่อนจะส่งยิ้มมาให้
“อ้าว ไม่ได้ไปดูเคโอติคแข่งรถกันเหรอ ^^?”
“ไม่ได้ไปอ่ะ แล้วนายอ่ะทำไมไม่ไป”
“ขี้เกียจอยากกลับไปทำงานต่อ อาจารย์สั่งซะเยอะเลยเนี่ย”มิณท์พูดบอกกับฟางแล้วเลื่อนสายตามามองที่ฉันก่อนจะพูดยิ้มๆ “แล้วนี่ทำไมไม่ดูโทโมะแข่งสักหน่อยล่ะ”
“พอดีเรามีงานน่ะว่าจะแวะกินข้าวกับฟางแล้วก็กลับบ้านเลย”ฉันตอบมิณท์ก็พยักหน้าแล้วยิ้มบางๆ
“แลดูชีวิตสดใสขึ้นเยอะเลยนะเนี่ยตั้งแต่มีคนมาดูแลหัวใจน่ะ”
“แซวเพื่อนฉันแล้วนายเองอ่ะ มีใครเข้ามาดูแลรึยัง”ฟางถามกลับมิณท์ก็อมยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา
“ยังไม่มีหรอก อกหักอยู่จะมีได้ไง”
“โหย / โหย” ฉันพูดพร้อมกับฟางเมื่อมิณท์บอกแบบนั้น แต่ฉันรู้หรอกว่าเขาคงไม่ได้อะไรแล้วเพียงแต่พูดเอาขำๆไปงั้นแหละ
“พูดเอาขำนะอย่าซีเรียส”เขาบอกก่อนจะหัวเราะออกมาหน่อยๆ
“ไม่หรอก แล้ว...มิณท์รีบกลับมั้ย? ไปกินอะไรด้วยกันก่อนกลับมั้ยล่ะ”
“ถ้าชวนก็ไป ^^”นั่น! เขายิ้มอีกแล้ว
โอ๊ยยยยย อยากจะรู้จังว่าผู้หญิงคนไหนจะได้มาเป็นแฟนกับผู้ชายชายเด็กเรียนห้อง ม.5/1 นิสัยน่ารักแบบเขากันเนี่ย ฉันว่าเธอคนนั้นน่ะต้องโชดดีมากแน่ๆเลย ></////
“งั้น...”
เอี๊ยดดดด
ขวับ!
O_O????
“???” ตอนนั้นทั้งฉันฟางและมิณท์ถึงกับสะดุ้งตัวโหยงเพราะว่าอยู่ดีๆเราสามคน กำลังเดินๆกันอยู่ตรงฟุตบาทก็มีรถยนต์คันสีดำจากไหนก็ไม่รู้ขับมาจอดเทียบ อยู่กับริมฟุตบาท
“อะไรอ่ะ”ฟางถึงกับงงเมื่อจู่ๆก็มีผู้ชายที่เพิ่งลงมาจากรถทั้งหมด 4 คน เดินลงมาแล้วเดินมาดักหน้าพวกฉันเอาไว้
“จะไปไหนกันเหรอ?”หนึ่งในสี่คนนั้นเอ่ยถามจนฉันต้องรีบเขยิบไปยืนข้างๆฟางอย่างรวดเร็ว
“พวกคุณเป็นใคร”มิณท์เอ่ยถามแต่คำตอบที่ได้รับกลับมาก็คือรอยยิ้มของไอ้พวกบ้านั่น
“ไอ้แว่น อย่าเสล่อถามเลยดีกว่านะ ถ้าไม่อยากซวย”
“นี่! ถ้าพวกนายจะมาก่อกวนก็หลบไปซะ”ฟางบอกขณะที่เดินมาอยู่ข้างหน้าฉันแล้วพูดบอกพวกนั้น
“ถ้าไม่หลบแล้วจะทำไม?”พวกนั้นตอบกลับฟางก็ถอนหายใจก่อนจะจับมือของฉันแน่น
“มิณท์ แก้ว ไปกันเถอะ”
“ยังไปไม่ได้!”มันเดินมาดักหน้าฉันกับฟางขณะที่กำลังจะเดินออกไปจากตรงนี้เพื่อเลี่ยงกับพวกนั้น
ให้ตายสิ! พวกนี้เป็นบ้าอะไรกัน!
“ส่งตัวเพื่อนเธอมาสิแล้วฉันจะปล่อยให้ไป”คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเอ่ยแล้วมองมาที่ฉัน ตอนนั้นฉันเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
พะ...พวกนั้นหมายถึงฉันเนี่ยนะ!?
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันกันเนี่ยถามจริง >O<!
“แล้วเพื่อนฉันเกี่ยวอะไรกับพวกนายเล่า? ถอยไปซะ ไม่งั้นฉันจะ...ว๊าก!!!”
ปึก!
“เฮ้ยฟาง!”ฉัน กับมิณท์ตกใจมากที่เห็นว่าพวกนั้นจับฟางเหวี่ยงลงไปนอนกองอยู่กับพื้น อย่างแรงก่อนที่จะมีหนึ่งใน 4 คนนั้นมาฉุดแขนของเอาไว้ฉันขณะที่กำลังจะก้มลงไปช่วยฟาง “นี่ปล่อยนะ!”
“ปล่อยแก้วนะเว้ย!”มิณท์ก็จะเข้ามาช่วยแต่ทว่าเขาถูกอีกสองคนนั้นจับออกไปก่อนที่พวกนั้นจะต่อยเข้าไปที่ท้องของมิณท์อย่างแรงแบบไม่ยั้งมือเลย
ตุ้บ!
เท่า นั้นยังไม่พอเพราะมันยังต่อยเข้าใบที่ใบหน้าของมิณท์จนเต็มแรงอีกเป็นเหตุ ทำให้แว่นของมิณท์นั้นมันกระเด็นออกจากใบหน้าของเขาไป!
ผัวะ!
โอ๊ะ!
“มิณท์!”ฉัน เบิกตากว้างแล้วพยายามสลัดข้อมือให้หลุดพ้นจากไอ้บ้านี่ แต่มันก็ไม่เป็นผลใดๆเลยทั้งสิ้น แล้วพอฉันนั้นกวาดสายตามองไปรอบๆก็ไม่มีใครอยู่แถวนี้เลยด้วยซ้ำ
บ้าที่สุดเลย!
“พวกแก!”ฟาง ที่เพิ่งตั้งหลักได้จึงลุกขึ้นมาจะช่วยฉันแต่ทว่าก็กลับโดนพวกนั้นกระชากแขน ไปแล้วผลักไปทางมิณท์จนฟางกับมิณท์ล้มไปกองกับพื้นฟุตบาท “โอ๊ย!”
“มานี่!”ไอ้ คนที่มันจับข้อมือของฉันไว้พยายามลากให้ฉันไปขึ้นรถของมัน แต่ฉันก็พยายามใช้เรี่ยวแรงที่มีอยู่พยายามดึงรั้งตัวเองเอาไว้จนสุดฤทธิ์
“ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า!”
ปึก!
“โอ๊ย!”เมื่อมันโดนฉันเหยียบเท้าหมอนั่นจึงร้องออกมาเสียงดัง “ฤทธิ์เยอะนักใช่มั้ย ได้!”
“นี่จะทำอะ...อื้อ! อื้อ!”ฉันไม่สามารถตะโกนพูดอะไรอออกไปได้อีกเมื่อไอ้บ้านั่นมันหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงของมันมาโปะลงตรงจมูกกับปากของฉัน จนฉันเริ่มหายใจไม่ออก
ซึ่งพอเผลอสูดดมเข้าไปนั้นมันก็เป็นกลิ่นแปลกปลอมที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อน พอได้สูดดมแบบไม่ทันตั้งตัวภาพคนตรงหน้ากับสิ่งรอบข้างนั้นก็ค่อยๆจางลง พร้อมกับเสียงของฟางที่ร้องตะโกนเรียกชื่อฉัน แล้วพอมารู้ตัวอีกทีร่างของฉันก็ถูกจับเข้ามาอยู่ในรถจนสำเร็จ ดวงตาก็พล่ามัวไปหมดเสียงรอบกายก็อื้อจนฉันนั้นไม่ได้ยินอะไรอีกต่อไป
บะ...บ้าจริง ไอ้พวกนี้มันโปะยาสลบ ฉ...ฉัน...
บรื๊นนนนน
“แก้ว!!!! อะ...โอ๊ย” ฟางที่นอนล้มอยู่ที่พื้นกับมิณท์จึงพากันลุกขึ้นอย่างไมมีแรง แต่ในที่สุดก็ลุกขึ้นมาจนได้ “มิณท์ลุกขึ้นเร็ว” ฟางรีบก้มลงไปช่วยดึงมิณท์ที่โดนต่อยจนหน้าช้ำไปหน่อยและมุมปากของเขานั้นก็มีเลือดออกเพราะโดนต่อย
“พะ...พวกนั้นจับแก้วไปแล้ว”มิณท์พูดแล้วเอามือจับที่ริมฝีปากของเขาเพราะความเจ็บ “ฟาง ฉันมองไม่ค่อยเห็น”
แน่ล่ะ เพราะว่าแว่นของเขาหลุดออกไปตอนที่โดนต่อยนี่นา
“แว่น! แว่นอยู่ไหน?!”ตอน นั้นฟางรีบมองหาแว่นของมิณท์ในทันทีจนเจอแล้วก็จับมันมาใส่ให้มิณท์ อย่างรวดเร็วเพราะว่าตอนนี้ใจของเธอนั้นเป็นห่วงแก้วที่โดนใครก็ไม่รู้จับ ตัวไป “เดี๋ยวๆๆๆ โทรศัพท์ๆๆ ”
“จะโทรเรียกตำรวจเหรอ?”มิณท์ถามฟางขณะที่เขาเอาหลังมือยกขึ้นเช็ดเลือดตรงมุมปาก
“นั่นคงไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้”ฟางบอกขณะเลื่อนๆดูเบอร์ในโทรศัพท์มือถือของเธอ
“แล้วจะทำไง”
“พวกนั้นเจาะจงที่จะจับแก้วไป ฉันว่ามันจะต้องเกี่ยวกับโทโมะแน่ๆ เดานะ = =;;;”ฟางเงยหน้ามาพูดกับมิณท์แล้วก้มลงไปกดโทรหาโทโมะทันทีขณะที่เธอกำลังเขย่งขาแล้วก็เม้นริมฝีปากไปด้วยเพราะความกังวล “รับสิๆๆๆๆๆ รับสิโทโมะ!”
กรึก
[ ฮัลโหลว่าไงฟาง? ]
“โทโมะ! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว แก้วโดนใครไม่รู้จับตัวไป!”
[ อะ...อะไรนะ!? ]
“ฉัน แก้วแล้วก็มิณท์เดินอยู่ตรงริมฟุตบาทแล้วมีรถที่ไหนไม่รู้มาจอดเทียบ แล้วพวกนั้นมันมา 4 คนแล้วจับแก้วไป ฉันช่วยแก้วเอาไว้ไม่ได้ มิณท์ก็โดนต่อยอีก” ฟางเล่าเสียงสั่น
[ ฟางๆๆๆ ตั้งสติแล้วบอกฉันว่ามัน ‘เจาะจง’ เล็งที่แก้วใช่มั้ย ] โทโมะถามแล้วเสียงของโทโมะก็สั่นด้วยเช่นกันเพราะว่าเขาได้ฟังสิ่งที่มันไม่น่าฟังเอาเสียเลยที่ว่า...
แฟนของเขาโดนจับตัวไป!
“เจาะจง! ฉันมั่นใจ พวกนั้นมันมองแก้วแล้วบอกให้ฉันส่งตัวแก้วให้พวกมัน โทโมะแล้วพวกมันเป็นใครอ่ะ!?”
อีกฝั่ง
สักพักต่อมา...
สนามแข่งของจองเบ
[ บันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
“อะไรวะไอ้โทโมะทำไมดูเครียดๆ” ไอ้จองเบเอ่ยถามทันทีเมื่อมันเห็นว่าผมคุยโทรศัพท์ด้วยท่าทางร้อนรนแบบนั้น เพื่อนๆในกลุ่มก็หันมามองที่ผมเป็นตาเดียวเช่นกัน
ให้ตายสิ! เมื่อกี้ผมได้ข่าวร้ายสุดๆไปเลยว่ะ
“นั่นดิ ใครอะไร เจาะจง?”เขื่อนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาเอ่ยถามแล้วมองสีหน้าของผมที่เป็นอยู่ในตอนนี้อย่างเป็นห่วง แน่ล่ะ! ใบหน้าของผมตอนนี้มันคงจะมีความโกรธอยู่มากที่ผมได้ยินฟางบอกแบบนั้นว่ามีคนมาจับตัวแก้วไป
ว่าแล้วเชียวว่าทำไมผมมีลางสังหรณ์แปลกๆอยากโทรหาแก้วอีกรอบนึง ก็...ในตอนที่ผมกำลังจะกดโทรหาแก้วฟางก็โทรแทรกเข้ามาพอดียังไงล่ะ จนผมได้ยินเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น!
“เมื่อวาน...ฉันเจอไอ้ไฟท์”ผมเอ่ยขึ้นแล้วหันไปมองหน้ากับเพื่อนๆเคโอติคที่กำลังรอฟังอยู่ จองเบก็หันมองหน้ากับป๊อปปี้ที่กำลั่งนั่งอยู่ข้างๆแล้วหันมาผมอีกรอบ
“ไฟท์? คนที่เป็นคู่อริจองเบใช่ป่ะโทโมะ”เขื่อนถามผมก็พยักหน้า
“แล้ว?” >> ไอ้จองเบ
“มัน มายุ่งกับแก้ว พอฉันเห็นก็เกือบจะมีเรื่องกับมัน แถมมันยังบอกทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยว่าเรื่องตอนนั้นที่ฉันแข่งชนะคนในกลุ่มมัน มันยังไม่ได้เอาคืน”
“แล้วที่แกคุยเมื่อกี้...”
“มันส่งพวกมันมาจับแก้วไป”
“อะ...ฮะ!? อะไรนะ? ไอ้ไฟท์ส่งพวกมันมาจับแก้ว?”ไอ้ป๊อปปี้มันแลดูตกใจมากที่ได้ยินผมพูดแบบนั้นเพื่อนๆในกลุ่มก็เริ่มมองหน้ากันหงึกหงัก “แล้วเมื่อกี๊ยัย...ยัยฟางมัดข้าวนั่นโทรมาบอกแกไง๊”
“ใช่ บอกด้วยว่าพวกนั้นเจาะจงจับแต่แก้ว ฉันเลยมั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือของพวกไอ้ไฟท์แน่ๆ”
ใช่! ผม มั่นใจมากเพราะว่ามันไม่น่าจะมีใครอีกแล้ว เพราะว่าผมไม่ได้มีเรื่องกับใครนอกจากมันที่เมื่อวานมันมายุ่งกับแก้วน่ะ มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆที่ไอ้ห่านั่นจะแว๊ะมาซุปเปอร์มาเก็ตแล้วเจอ กับแก้วโดนบังเอิญหรอก เพราะว่าแก้วบอกผมว่าไอ้ไฟท์มันทำเหมือนจะเข้าหาเธอ
นั่นล่ะ! ผมคิดเลยว่ามันต้องแอบตามผมกับแก้วมาแน่ๆ! แล้วพอผมฟังที่แก้วเล่าให้ผมฟังผมที่แบบ...ของขึ้น!
ยิ่งได้มารู้ว่าแฟนของตัวเองโดนจับไปของยิ่งขึ้นใหญ่ ระยำเอ๊ย!!!
“พวกแม่งเล่น เชี่_อะไรกันวะ”ป๊อปปี้พูดแล้วหันไปมองหน้ากันกับเขื่อนก่อนจะหันมามองผมอีกรอบ “แล้วแกจะเอาไง”
“ฉันจะไปชะ...”
ตื๊ด...ตื๊ด...ตื๊ด...
ผมยังเอ่ยปากพูดไม่ทันจบเสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของผมมันก็ดังขึ้นเสีย ก่อนคราวนี้เพื่อนๆจึงให้ความสนใจกันมาที่เจ้าโทรศัพท์ของผมเป็นพิเศษ ผมก็ก้มลงไปมองหน้าจอที่ขึ้นโชว์เบอร์อยู่เมื่อผมเห็นผมก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน ทันทีที่ได้เห็นเบอร์ที่มันขึ้นโชว์อยู่ ซึ่งมันเป็นเบอร์ของ...
+ Kaew +
ติ๊ด!
ไม่ รอช้าอะไรใดๆครับเพราะว่าผมรีบกดรับสายนั้นเลยทันทีแล้วจัดการก็เปิด สปีคเกอร์โฟนเพื่อจะให้เพื่อนๆได้ฟังด้วยเพราะว่าลางสังหรณ์แปลกๆที่เหมือน ว่าแก้วคงไม่ได้เป็นคนโทรมาเองแน่
แล้วลางสังหรณ์ของผมมันก็เป็นจริงเมื่อ!
[ หวัดดีนายโทโมะแห่งกลุ่มเคโอติคคคค ] นั่นมันเสียงไอ้ไฟท์จริงๆด้วย! ว่าแล้ว!
“...”ผมเงียบแล้วมองหน้ากับไอ้จองเบที่มันเดินมาอยู่ใกล้ๆผมแล้วยกนิ้วชี้ขึ้นมาไว้ตรงปากเพื่อบอกให้เพื่อนๆเคโอติคเงียบๆ แน่ล่ะ! ห้อง นี้เป็นห้องส่วนตัวของไอ้จองเบในสนามแข่งก็มีแต่พวกเราส่วนคนของไอ้จองเบก็อยู่ ข้างนอกเพื่อจะทำการเปิดสนามแข่งในค่ำคืนนี้เพราะไอ้จองเบเริ่มแข่ง 1 ทุ่ม
[ เงียบมัยล่ะคร้าบบบ ตกใจเหรอ? ไม่ใช่เสียงแฟนตัวเองคุยแล้วถึงกับช็อคเลยเหรอ? เห๊อะ! ]ตอนนั้นผมกำหมัดในมือแน่นเลยครับมือที่ถือโทรศัพท์อยู่นั้นผมก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบเพราะว่าแรงบีบจากความโมโหมันมาเหลือเกิน
“...”
[ แกคงจำเสียงฉันได้นะโทโมะ หึ แกรู้มั้ย? ว่าตอนนี้ผู้หญิงของแกน่ะ ตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียงของฉันเลยน้า ]
ไม่ทนเงียบแล้วเว้ย!!!
“พ่อมึงตาย!”
____________________________________________อัพแล้วนะค่ะ อัพช้าหน่อย โทษน้าาา^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ