Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา

9.6

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.

  43 chapter
  860 วิจารณ์
  68.39K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

42) - This Is Battle! - ( นี่คือการปะทะ! )

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

- This Is Battle! -

( นี่คือการปะทะ! )

 

 

 

“พ่อมึงตาย!”

 

 

             ความเดือดดาลในใจมันทนไม่ไหวจริงๆจึงทำให้ผมเผลอพ่นคำด่าออกมาทั้งๆที่อยาก จะเงียบแล้วรอฟังมันต่อว่ามันจะเย้ยผมว่ายังไงต่อ แต่ไอ้ห่านี่ท่าจะบ้าว่ะ = =;;;  ผมไปทำอะไรให้มันนักหนาจนถึงขนาดที่ว่ามันจับแฟนผมไปเนี่ยนะ? เท่าที่รู้ก็คือแค่มันไม่ถูกกับไอ้จองเบแล้วก็เพื่อนๆกลุ่มเคโอติค

 

 

            แต่ไอ้จองเบแข่งชนะมันตั้งหลายครั้ง ผมแข่งกับพวกมันครั้งแรกแล้วชนะนี่มันแค้นฝังหุ่นผมขนาดนี้เลยเหรอ? ( มีเหตุผลโค – ตะ – ระ = =;;; )แต่ถ้าให้เดา...ผมว่าคงไม่ใช่แค่เรื่องนั้นแน่ๆ แต่ว่ามันจะต้องมีเหตุดลใจอะไรมัน‘มากกว่านั้น’ จึงได้จับแก้วแฟนผมไป! มันเล็งเธออ่ะ แถมเล็งผมด้วย

 

 

 

            สรุปคือ...อะไรของมันวะเนี่ยยยยย โอ๊ยยยย ประสาทจะกินนนนน >O<!!!!!!

 

 

 

       บ้าฉิบเลย! แม่งกำลังเล่นอะไรอยู่วะ! ไอ้...! ไอ้หัวเทา! โอ๊ย! โทโมะเครียดดดดด ><!  

 

 

 

[ ถึงกับด่าพ่อ? หึ คงของขึ้นมากงั้นสิน้า อิ อิ ]

 

 

 

“อิ อิ พ่อง - -+”  

 

 

 

       นั่นเป็นเสียงของไอ้ป๊อปปี้ที่กำลังนั่งฟังอยู่อย่างไม่สบอารมณ์นัก

 

 

 

       เออ ขอบใจที่ด่าแทนกันนะ

 

 

 

[ โห ท่าทางจะอยู่กันหลายคนเลยนะเนี่ย แหม่! แบบนี้ค่อยน่าสนุกหน่อย ^^]

 

 

 

       สนุกห่าอะไรล่ะ!

 

 

 

       ไฟท์นี่มันออกแนวร้ายโรคจิตนะผมว่า อายุแค่ 17 จะ 18 แล้ว แต่ความคิดนี่...เลวเลยเหอะ! บ่องตงเกิดมาไม่เคยอยากด่าใครเท่ามันอ่ะแล้วในตอนนี้ ><!

 

 

 

       กลุ่มเคโอติค ถึงแม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มที่อันตรายทั้งในและนอกโรงเรียน แต่กลุ่มเราก็ไม่เคยไปทำร้ายใครก่อน ไม่เคยไปเรื่องใครก่อน  จะมีก็แต่ไอ้พวกกลุ่มอื่นนั่นแหละที่มาหาเรื่องพวกผมจนมีเรื่องชกต่อยกันแต่ เรื่องก็ไม่ถึงหูผู้ปกครองหรอกจะมีก็แค่พวกนักเรียนเท่านั้นที่รู้

 

 

            มันเป็นเหมือนกับว่า‘เรื่องของพวกเราเคลียร์เองได้ผู้ใหญ่ไม่เกี่ยว’

 

 

 

แอ๊ด

 

 

 

“นี่ทะ...!”

 

 

 

ขวับ!

 

 

 

O/\O

 

 

 

“อุ๊บ! O*O”

 

 

 

        พวก ผมรีบหันไปแล้วยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปากบอกให้ฟางเงียบไว้ก่อนเพราะตอนนี้เธอ กำลังยืนอยู่ตรงประตูห้องด้วยความร้อนรน และเธอก็มากับไอ้แว่นมิณท์เน่านั่นเอ๊ง! ( โทษทีที่เรียกแบบนั้นแต่มันติดจริงๆครับ Y^Y ) ให้ตายสิ เห็นหมอนั่นแล้วสงสารว่ะ

 

 

 

       ผมว่ามันน่ะสู้คนไม่เป็นหรอกดูๆแล้วเด็กเรียนสุภาพซะขนาดนั้น แถมยังมาโดยต่อยจนหน้าช้ำแบบนี้อีก เฮ้อ!

 

 

 

“...”จังหวะ นั้นนั่นเองที่เขื่อนลุกจากขอบโต๊ะเดินไปเปิดประตูพาฟางกับมิณท์เข้ามาในห้องนี้ก่อนจะกดล็อคประตูเอาไว้เพื่อ ไม่ให้คนอื่นเข้ามาได้ยินเข้า

 

 

 

       ฟางก็เดินเข้ามายืนอยู่ตรงโซฟาตรงที่ไอ้ป๊อปปี้นั่ง เธอก้มลงมองหน้ากันกับป๊อปปี้ที่กำลังเงยหน้ามองเธอเช่นกัน แต่...อย่าได้คิดเชียวว่าฟางกับไอ้ป๊อปปี้จะมาสบตากันปิ๊งๆแบบพระเอกนางเอก ละครนะครับ เพราะว่ามันเรียกว่าเป็นการมองหน้าแบบคู่อริเจอกันเสียมากกว่า  อะไรประมาณนั้นน่ะ  =[]=;;;

 

 

       นั่น! คิดได้ไม่ทันไร เขื่อนก็รีบลุกขึ้นมาจับฟางออกไปห่างๆป๊อปปี้เพราะกลัวว่าจะทะเลาะกันอีกสาเหตุ คือเพราะว่าเมื่อกี้ไอ้ป๊อปปี้มันเพิ่งแลบลิ้นใส่ฟางไปจนฟางนั้นกำหมัดแน่น พร้อมกับกัดฟันไปด้วย ( ก็...ถ้าสองคนนี้มีเรื่องกันก็ไม่ต้องเดากันนะครับว่าใครเป็นคนเริ่ม = =;;; )

 

 

 

“แกกำลังจะเล่นเกมอะไรกับเพื่อนฉัน”ไอ้จองเบเอ่ยถามอย่างใจเย็นตามสไตล์ของมัน ที่ถึงแม้เรื่องนั้นจะเครียดแต่พยายามเย็นไว้ให้ดีที่สุด

 

 

 

       แต่ผมนี่ถ้านิ่งก็นิ่งนะครับ ไม่พูดคือไม่พูด แต่ถ้าโมโหขึ้นมาล่ะก็...ผมก็ขอไม่ไว้หน้าเลยละกัน!

 

 

 

[ อยากออกโรงแทนเพื่อนเหรอไอ้จองเบ? ] ฮึ่ย! เสียงแม่งกวนส้นเท้าฉิบ ( หาย )

 

 

 

“ฉันไม่สนใจเรื่องนั้น แต่ที่สนคือแกกำลังเล่นสกปรกอะไรอยู่ถึงได้จับแฟนเพื่อนฉันไป ไอ้โทโมะมันไปทำอะไรให้คุณมึงเหรอวะครับ?”

 

 

 

        เอาแล้วไง คนที่สุภาพที่สุดในกลุ่มอย่างไอ้จองเบก็เริ่มของขึ้นเช่นกันถึงได้พูดคำว่า‘มึง’ ออก มา ทั้งๆที่ปกติมันจะไม่พูดถ้าไม่โมโหจริงๆน่ะ เพราะว่าไอ้จองเบมันเป็นลูกคุณหนูแต่ชอบทำตัวติดดินน่ะครับ บ้านมันก็เป็นคฤหาสน์เสียด้วยสิ ( ในกลุ่มเคโอติคไอ้จองเบรวยสุดแล้ว ) มันอยู่ที่นั่นก็อยู่กับพ่อกับป้าแม่บ้านแค่นั้น

 

 

 

[ งั้นถ้าอยากรู้ก็มาที่สนามแข่งฉันสิเพราะว่าถ้ามาช้า...ยัยนี่ได้ไปถูกมัดโชว์ตัวอยู่กลางสนามเป็นของพนันฉันก็ไม่รู้ด้วยน้าาา คิก คิก ]

 

 

 

         เดี๋ยวนะ...เมื่อกี๊ไอ้ไฟท์มันพูดเกี่ยวกับเรื่อง‘ของพนัน’ อย่างงั้นเหรอ?

 

 

 

       นี่อย่าบอกนะว่ามันจะเอาแก้วไปเป็นของพนันให้ไอ้พวกนั้นถ้าผมไปช้าน่ะ บ้าแล้ว!

 

 

 

“นี่! หัวเราะให้แมนๆกว่านี้หน่อยก็ดีนะครับคุณไฟท์” ไอ้เคนตะเอ่ยขึ้นมาเสียงดังจนปลายสายเงียบไป หึ คงหน้าเสียล่ะสิที่เห็นว่าพวกผมไม่เครียดไปกับมันเท่าไหร่

 

 

 

       แน่สิ! พวกผมไม่กลัวมันหรอกจะบอกให้ แต่ที่กลัวคือ...แก้วเนี่ยสิ!

 

 

 

[โทโมะเพื่อนแกพูดแบบนั้น...หรือว่าฉันจะเปลี่ยนเวลาเปิดสนามแข่งดี? เผื่อแฟนแกจะได้ไปเป็นของพนันได้เร็วขึ้น ^^]

 

 

 

“ไอ้...!”ตอนนั้นไอ้จองเบหันมามองหน้าผมแล้วส่ายหน้าเพื่อไม่ให้ผมพ่นอะไรออกไป

 

 

        โอเคๆๆ ใจเย็นๆโทโมะ ใจเย็น! แก้วไม่เป็นอะไรหรอกน่าาาาา ปัดโถ่เว้ย!!!

 

 

 

        เพียง แค่ผมคิดถึงตอนที่แก้วไปอยู่กลางสนามแข่งใหญ่โตนั่นผมนี่ก็แทบบ้าแล้วว่ะ คิดดูสิว่ามันจะมีดวงตาแสนหื่นกี่คู่จ้องมาที่ยัยตัวเล็กนั่นน่ะ แถมที่นั่นน่ะบอกเลยว่า...เถื่อนกว่าสนามแข่งของไอ้จองเบเยอะ! พ่อไอ้ไฟท์เส้นใหญ่ไงรู้จักคนเยอะทำอะไรก็ได้ เห๊อะ!

 

 

 

         แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นสนามแข่งมันก็ยังเป็นรองสนามแข่งของเพื่อนผมอยู่ดีนั่นแหละวะ

 

 

 

 [ มาไม่มา มาไม่มาดีน้าาาา ]

 

 

 

“ฉันไปแน่”ผมพูดแล้วพยายามข่มเสียงต่ำเอาไว้เพื่อไม่ให้มันแลดูกังวลจนเกินไป

 

 

 

            ทำไมถึงต้องทำอย่างนั้นทั้งๆที่ผมห่วงแก้วมากน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าถ้าแสดงความรู้สึกออกไปมากๆเดี๋ยวไอ้บ้านั่นมันจะได้ใจแล้วทำให้ผมเดือดมากกว่าเก่าน่ะสิ ผมรู้! รู้ว่าไอ้ไฟท์น่ะมันฉลาด( ฉลาดแต่เรื่องบ้าๆ - -* )

 

 

 

[ อ๊ะๆๆๆ เดี๋ยวก่อน ]

 

 

 

“...”วินาทีนั้นผมกับเพื่อนๆทุกเงียบสนิทรอฟังว่ามันจะพูดอะไรต่อ “อะไร”ผมเอ่ยถามแล้วกำโทรศัพท์ I Phone สีดำที่ถืออยู่ในมือแน่น

 

 

 

[ ที่ฉันอยากเจอไม่ใช่ ‘เคโอติค’ ]

 

 

 

         ฮะ? ไม่ใช่เคโอติค? อะไรของมัน = =?

 

 

 

“...”

 

 

 

[ แต่เป็นแก...ไอ้โทโมะ ]

 

 

 

“...”

 

 

 

[ แล้วก็...มาคนเดียวนะครับ...คุณโทโมะ ^^ ]

 

 

 

ติ๊ด!

 

 

 

        ผม ชิงตัดสายทันทีเมื่อมันพูดจบ จากนั้นก็เงยหน้าจากจอมือถือแล้วมองหน้ากับเพื่อนๆในกลุ่มว่าจะเอายังไงกัน ดี เพราะว่าประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆสนามของไอ้จองเบก็จะเริ่มแข่งแล้วสนามไอ้ไฟท์ด้วยเช่นกัน และเมื่อผมก้มลงมองที่หน้าปัดนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่ามันปาไป 6 โมงกว่าแล้ว

 

 

 

       และถ้าผมพาแก้วกลับไม่ได้ เธอคงจะถูกไอ้ไฟท์พาไปเป็นของพนันอะไรบ้าบอนั่นแน่ๆ ซึ่งผมไม่ได้ของการให้เป็นแบบนั้นอย่างเด็ดขาด! ผมต้องช่วยเธอให้ได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!

 

 

“โทโมะ หมอนั่นมันเป็นใครอ่ะ แล้ว...ทำไมมันต้องจับแก้วไปด้วย?”ฟางถามทันทีแล้วมองหน้าผมอย่างสงสัย

 

 

 

“มันชื่อไฟท์ เป็นคู่อริกลุ่มเคโอติค”ผมบอกเพียงแค่นั้นฟางก็ทำสีหน้าเครียดทันทีแล้วยกมือเสยผมของเธอ “ถ้าเธอจำได้ตอนนั้นฉันเคยแข่งรถกับคนของมันด้วย”

 

 

 

“อ๋อออ จำได้ละ หมอนั่นใช่ป่ะที่ท้าแข่งอีกรอบอ่ะ”ฟางถามแล้วชี้นิ้วมหาผมผมก็พยักหน้าตอบแทนคำพูด “แล้วนี่พวกเราจะช่วยแก้วยังไงดี”เธอถาม

 

 

 

“ไอ้จองเบฉันขอยืมรถหน่อย”ผมหันไปหาไอ้จองเบที่กำลังมองผมอยู่แล้วแบมือขอยืมรถมัน เพราะว่าผมจะไปที่นั่น...ไปคนเดียวน่ะ

 

 

 

“...”

 

 

       มันไม่พูดเอ่ยปากอะไรแล้วล้วงเข้ากระเปาเสื้อกันหนาวที่สวมทับกับ เสื้อนักเรียนนั่นแล้วยื่นเอากุญแจรถรุ่น CBRมาวางไว้บนมือผมที่แบอยู่บนหน้ามัน( ที่บ้านมันมีรถหลายคนมากเลยขอบอก แถมแต่ละคันสีดำทั้งน้านนนน  )

 

 

 

“รู้นะว่าคิดอะไรอยู่...”เมื่อวางกุญแจลงบนมือผมแล้วมันก็พูดขึ้น “ไอ้โทโมะ...ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้แกไปลุยเดี่ยว”มันพูดบอกแล้วมองจ้องหน้าผม

 

 

 

“ใช่ พวกเราเคโอติคไม่เคยปล่อยให้เพื่อนลุยคนเดียวอยู่แล้ว”พวกเพื่อนผมพากันพูดมองก็หันไปมองหน้ากับพวกมันทุกคนที่คอยอยู่เคียงข้างกันในยามที่เพื่อนๆเดือดร้อนไม่ว่าจะยังก็ตามแต่

 

 

 

“ขอบใจพวกแกมาก แต่คราวนี้ฉันคงต้องไปคนเดียวว่ะ”ผมบอกกับพวกมันเพื่อให้มันนึกถึงสิ่งที่ไฟท์บอกว่าให้ผมไปคนเดียวเพราะถ้าผมไม่ทำตามที่มันบอก มันอาจจะเล่นบ้าอะไรของมันอีกก็ได้ใครจะรู้

 

 

 

       และถ้าเรื่องนี้มันมีผมเกี่ยวแค่คนเดียวอย่างที่ไอ้ไฟท์พูด ผมก็ไม่อยากจะให้เพื่อนไปเสี่ยงด้วยกันเท่าไหร่นัก

 

 

 

“พวกฉันไม่ยอมแกก็รู้”ไอ้จองเบบอกนั่นทำให้ผมขมวดคิ้วเข้าหากันจากนั้นมันก็หยักยิ้มมุมปากก่อนจะหันไปมองฟาง “ฟาง  เธอมีเบอร์พ่อแก้วมั้ย”

 

 

 

“มีๆ”ฟางรีบพยักหน้าตอบ

 

 

 

“งั้นโทรบอกพ่อแก้วว่าเย็นนี้แก้วอาจจะกลับบ้านดึกเพราะมีอะไร บลาๆๆ ก็ว่าไป เขาจะได้ไม่กังวลว่าทำไมแก้วยังไม่กลับบ้าน”

 

 

 

        จริงสิ! ถ้าพ่อของแก้วรู้ท่านคงจะกังวลสุดๆเลย ไม่มีทาง! ให้พวกเขารู้ไม่ได้เด็ดขาด พ่อแม่ผมก็ห้ามรู้ด้วย เดี๋ยวเรื่องมันใหญ่โตไปถึงตำรวจเอาได้

 

 

 

“ใช่ๆๆๆ โทรศัพท์ๆๆๆ เฮ้ยยย แบตหมด YOY!”เมื่อฟางหยิบโทรศัพท์ของเธออดมาดูปรากฏว่าแบตหมดเลยทำเอาเธอหน้าเสียเลย

 

 

 

“มัวแต่เอาไปเล่นยิงเกาะใครรึปล่าวแบตเลยหมด น่ะ :P”  

 

 

 

 

“นี่นาย!”

 

 

 

“งั้นฟางใช้โทรศัพท์ฉันก็ได้”มิณท์รีบเอาโทรศัพท์ของตัวเองยื่นให้ฟางทันทีที่เห็นว่าฟางกำลังจะทะเลาะกับป๊อปปี้ เออ ขอบใจมาก

 

 

 

        ฟางเห็นแบบนั้นก็รีบเอาโทรศัพท์ของมิณท์กดโทรเบอร์พ่อแก้วทันทีเลย แต่เธอคงคิดว่าพวกผมจะคุยกันเรื่องช่วยแก้วนี่แหละเลยเดินออกไปคุยโทรศัพท์ ข้างนอกห้องนี้มิณท์ก็เดินตามออกไปด้วยเช่นกัน

 

 

 

“เอาไงดี”ไอ้ป๊อปปี้ลุกขึ้นยืนจากโซฟาแล้วเดินเข้ามาหาไอ้จองเบกับผมพวกเพื่อนๆที่เหลือก็เดินเข้ามาด้วยเช่นกัน

 

 

 

“นั่นดิ”เขื่อนเอ่ย

 

 

 

“มันบอกให้ไอ้โทโมะไปคนเดียวด้วย แล้วถ้าเกิดมันเห็นพวกเราไปด้วยมันจะเล่นเกมอะไรต่อก็ไม่รู้ ไอ้ห่านี่มันต้องมีแผนสำรองอยู่แล้ว”เขื่อนบอกพลางคิดไปด้วย

 

 

 

“มันมีแผน เราก็ต้องมีแผน”

 

 

 

“แผนอะไรของแกวะไอ้จองเบ =[]=?”

 

 

 

“ไอ้เคนตะ แกเชื่อฉันเถอะ ไอ้ไฟท์น่ะอ่อนกว่าพวกเราเยอะ โดยเฉพาะความ‘เกรียน’ ” ป๊อปพูดบอกอย่างมั่นใจสุดๆ

 

 

 

“สรุป ง่ายๆเลยคือถ้าจะช่วยแก้ว...ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยก่อน 1 ทุ่ม เพราะนั่นคือเวลาที่เสี่ยงน้อยที่สุด เพราะ 1 ทุ่มพวกแกก็รู้ว่าสนามแข่งจะเปิดให้คนเข้าแล้ว และถ้าถึงเวลานั้นช่วยแก้วไม่ได้ไอ้ไฟท์ก็จะเล่นเกมแรงขึ้นแน่นอนไม่ต้อง ห่วงหรอก”  

 

 

 

 

“...”

 

 

 

“แต่ถ้าช่วยได้ก่อน 1 ทุ่มแล้วพวกเรากลับมาที่สนามแข่งฉันทันก็เป็นอันเรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าสงสัย”

 

 

 

        ใช่ ถ้าเป็นแบบที่ไอ้จองเบบอกมามันก็จะดีมากถ้าไอ้จองเบมันกลับมาที่นี่ทันเพราะว่า มันยกเลิกไม่ด้วยสิ เพราะนั่นจะทำให้หลายๆคนสงสัยว่ากลุ่มพวกผมไปไหนจนถึงขนาดที่ว่าไปสืบมาเลย แหละว่าทำไมพวกเขาบอกว่าจะลงแข่งวันนี้ทำไมถึงไม่มา แล้วถ้าพวกนั้นรู้ว่าพวกผมไปที่สนามแข่งไฟท์ข่าวมันก็จะต้องกระจายไปทั่ว แน่ๆเลยว่ากลุ่มเคโอติคไปมีเรื่อง

 

 

 

       ไม่ได้ห่วงภาพพจน์อะไรของกลุ่มหรอก แต่ห่วงยัยตัวเล็กมากกว่าที่จะต้องมาเครียดกับอะไรแบบนั้นทั้งๆที่ทุกอย่าง มันเริ่มดีขึ้นแล้ว

 

 

 

       เพราะฉะนั้น...เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ผมจะไม่มีทางให้คนภายนอกได้รู้เป็นอันขาด!

 

 

 

“แล้วแกมีแผนป๊ะล่ะ”ผมถามไอ้จองเบก็หันมามองหน้ากับผมแล้วมันก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ

 

 

 

“มี”

 

 

 

“มี? แผนอะไรว่ะ =[]=?” >> ป๊อปปี้

 

 

 

“พวกแกจำตอน ม.3 ที่กลุ่มเรามีเรื่องได้ป่ะ”เมื่อไอ้จองเบเอ่ยแบบนั้นพวกผมก็ครุ่นคิดถึงตอน ม.3 ทันที ที่ตอนนั้นมีเรื่องกับเด็กนักเรียนโรงเรียนอื่น น่ะ...นี่อย่าบอกนะว่ามันจะ ‘เล่นแบบนั้น’ อีกน่ะ เห๊อะ! นึกแล้วขำ ให้ตายสิ

 

 

 

“เอิ่มมมม นั่นมันตอน ม.3 แล้วนะเว้ยยยยย แกจะเอาแบบนั้นจริงอ่ะ ><?”เคนตะพูดแล้วมองหน้าไอ้จองเบ ไอ้จองเบก็ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้แล้วเงยหน้าขึ้นนิดๆเป็นเชิง  

 

 

 

 

“ก็ถ้าไอ้ไฟท์มันอยากเล่นอะไร‘สนุกๆ’ ฉันก็อยากจัดให้มันสักหน่อย หมั่นไส้เกิ๊น หรือว่าพวกแกไม่อยาก O_o?”

 

 

 

“ใครว่าไม่อยาก แต่ถ้าจะเล่นแผนนั้นมันต้องมี‘อุปกรณ์’ นะเว้ย” ป๊อปปี้พูดแล้วขำออกมา ให้ตายสิวะครับ เอาจริงดิ? แผนนั้นจริงอ้ะ? เฮ้ย คิดแล้วทำไมหายเครียดเลย ><!  

 

 

 

“หึ งานนี้ ‘รัง’ ไอ้ไฟท์สนุกแน่ แกว่ามั้ยโทโมะ”ไอ้จองเบหันมาถามผมอย่างขอความเห็น แล้วผมจะตอบอย่างอื่นได้งั้นเหรอครับถ้าไม่ใช่คำว่า...

 

 

“เห็นด้วยอย่างแรงเลยครับคุณเพื่อนจองเบ ^^”

 

 

เวลาตอนนี้ 6.30 น.

 

 

[ เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการช่วยแก้วออกจากที่นั่น! ]

 

 

อีกด้านหนึ่ง

 

 

“จะเอาไงต่อ”

 

 

“หึ ถามมาได้นะไอ้ดีโอ ก็ต้องรอมันมาสิวะ” ไฟท์พูดบอกกับดีโอแล้วหัวเราะออกมาทหน่อยๆ ดีโอก็เหยียดยิ้มแล้วส่ายหัวไปมาขณะที่กำลงยืนพิงกำแพงห้อง ส่วนไฟท์ก็นั่งอยู่ที่ปลายเตียงอย่างสบายอารมณณ์หลังจากที่เมื่อสักพักที่ ผ่านมาได้ใช้โทรศัพท์ของแก้วโทรไปหาโทโมะนั่นเอง

 

 

        และหลังจากที่เขาโทรเสร็จเขาก็ได้จัดการเอาโทรศัพท์ของแก้วไปเก็บเอาไว้ในกระเป๋าเป้ของเธอตามเดิม

 

 

“ฉันว่าอีกไม่นานมันก็คงมาถึงที่นี่แหละ ก็แกเล่นขู่มันซะขนาดนั้นนี่หว่า”

 

 

 “จะว่าไปแล้ว...แผนที่แกคิดนี่ก็สนุกดีว่ะ ฉันล่ะสะใจที่ได้เห็นไอ้พวกเคโอติคของขึ้นแบบนั้น หึสม”

 

 

“แล้ว...ยัยนั่นน่ะ แกว่าเป็นไง”

 

 

        เมื่อ ดีโอถามแบบนั้นไฟท์ก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วหันไปมองร่างบางในชุดเครื่องแบบนัก เรียนของโรงเรียนเธอที่มีเสื้อสูทคลุมเรียบร้อยกระโปรงไม่ได้สั้นเกินไปเสมอ แค่หัวเข่ากับรองเท้าผ้าใบและถุงเท้าสีขาว ผมสีน้ำตาลแอลมอนที่ถูกมัดเป็นเปียแกะสองข้างยาวลงมานั่นยิ่งทำให้ร่างบาง ที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงนั้นดูเป็นผู้หญิงที่อ่อนต่อโลกใน สายตาของไฟท์ไปเลยโดยปริยาย

 

 

       เพราะจากการแต่งตัวที่เรียบร้อยแบบนี้ดูก็รู้แล้วว่าแก้วน่ะเป็นคน ใสๆซื่อๆ ไม่ใช่ผู้หญิงแรงๆอย่างแน่นอน

 

 

“ก็ใช้ได้”ไฟท์พูดแต่ก็ไม่ละสายตาจากร่างของแก้วเลยเพราะเขากำลังประเมินรูปร่าง ( ภายนอก ) ของเธออยู่นั่นเอง หรือเรียกอีกอย่างว่า‘สแกน’“ไอ้โทโมะนี่ได้แฟนใสๆแบบนี้เหรอวะ หึ แต่ตอนที่ฉันไปดักก็ดูท่าทางรักเดียวใจเดียวจริงๆ”

 

 

“ทำไมวะ”

 

 

“ก็เพราะว่าถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเห็นฉันทำแบบนั้นมันก็ต้องมี  ‘อ่อย’ กันบ้างแต่กับยัยนี่ฉันไม่เห็นว่าจะมีอาการแบบนั้นกับฉันเลย หนำซ้ำยังเลี่ยงการคุยกับฉันอีก แถมพูดย้ำอีกด้วยนะเว้ยว่าตัวเอง‘มีแฟนแล้ว’ เห๊อะ! โคตรรักไอ้โทโมะอ่ะ”

 

 

“รักกันก็ดี แต่...ถ้าวันนี้ไอ้โทโมะมันมาช้า แฟนมันคงเป็น‘ของรัก’ ของคนอื่นแน่ๆอ่ะ”

 

 

“ก็ มาดูกันว่ามันจะมาถึงที่นี่ตอนไหน แต่ฉันว่าตอนนี้ไอ้หมอนั่นกับพวกเคโอติคมันก็คงเครียดจนหัวหดแล้วล่ะว่ะว่าจะ มาช่วยยัยนี่ยังไง แต่ที่แน่ๆฉันไม่มีทางยอมปล่อยยัยนี่เด็ดขาดจนกว่าไอ้โทโมะจะตอบตกลงมาอยู่ กลุ่มเราเพื่อหักหน้าไอ้จองเบ”

 

 

“ก็ดีนะถ้ามันตกลงเพราะนอกจากจะหักหน้าไอ้จองเบแล้ว มันก็ยังจะถูกตราหน้าด้วยนะว่าออกจากลุ่มเพราะผู้หญิงแค่คนเดียว หึ”

 

 

“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันล่ะโคตรสะใจอ่ะ”

 

 

        ไฟท์พูดแล้วใช้ลิ้นกระดุงกระพุ้งแก้มทั้งสองข้างก่อนจะแลบริมฝีปากล่างของตัวเองแล้วมองร่างของแก้วอีกครั้ง ด้วยความ ‘อยาก’ นิดๆ ( มั้ง ) และสุดท้ายเขาก็ได้หันไปมองดีโอที่กำลังยืนกอดอกมองเขาอยู่ก่อนเอ่ยพูดขึ้นว่า...

 

 

“แกออกไปก่อน”เมื่อไฟท์พูดจบดีโอก็หยักยิ้มอย่างรู้หน้าที่เลยว่าไฟท์จะทำอะไรกับร่างบางบนเตียงคนนั้น

 

 

ปึง

 

 

       ประตูของห้องนี้ได้ถูกปิดลงหลังจากที่ดีโอเดินออกไปแล้ว สายตาของไฟท์จ้องมองร่างบางก่อนจะลุกขึ้นจากปลายเตียงแล้วยืนเต็มความสูง เขายืนกอดอกมองร่างของแก้วตั้งแต่หัวจรดเท้าไปยังเท้าจรดหัวอย่างเชี่ยงช้า สายตาของเขานี่บ่งบอกได้ถึงความเจ้าเล่ห์ทันทีทันใด

 

 

“ท่าทางจะยังซิงอยู่”ไฟท์ พูดแล้วฉีกยิ้มออกมาก่อนจะเดินมาตรงหัวเตียงแล้วโน้มหน้าของเขาลงไปมองหน้า ของแก้วใกล้ๆแล้วใช้นิ้วมือไล่เลี่ยไปตามเปียที่ถูกถักเอาไว้ของเธอด้วย “ให้ตาย...หน้าซื่อเกิ๊น”

 

 

        ถึงแม้ว่าเขาจะพูดแบบนั้นแต่หากทว่าใบหน้าของเขาก็เริ่มโน้มลงต่ำลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆร้อนๆของแก้วที่กำลังหายใจรินรดอยู่บนปลายจมูก เขานั่นเอง บ้าที่สุด! เพราะว่าไฟท์เขากำลังจะทำเรื่องที่ไม่ดีกับแก้วน่ะสิ!

 

 

“ZzzZzzz”แก้วยังคงหลับเพราะฤทธิ์ยาสลบไม่รู้เรื่องอะไรเลยจึงทำให้ไฟท์หัวเราะออกมา

 

 

“บอกเลยนะ...ฉันจัดการเธอเสร็จก่อนไอ้โทโมะมาก็ยังได้เลย”เขาเอ่ยพูดกระซิบเบาๆแล้วเริ่มโน้มใบหน้าต่ำลงเรื่อยๆจนอีกไม่ถึงเซนริมฝีปากปากของเขากับแก้วก็จะโดนกันอยู่แล้ว!

 

 

         แต่หากทว่า...

 

 

ปึง! ปึง! ปึง!

 

 

“พี่ไฟท์ครับ! พี่ดีโอให้มาตามลงไปข้างล่างด่วนเลยครับ”

 

 

“Shit! เออ! กำลังจะลงไป”ไฟท์ รู้สึกอารมณ์เสียอย่างแรงเหมือนกับกำลังดูหนังฉากสำคัญแล้วไฟมาดับซะได้ที่ ได้ยินเสียงขัดแบบนั้นของลูกน้องที่อายุน้อยกว่า จากนั้นเขาก็ละใบหน้าออกห่างจากแก้วแล้วหันหลังเดินไปที่ประตูพร้อมกับเอ่ย ถ้อยคำหนึ่ง “มาแล้วสินะ...ไอ้โทโมะ”

 

 

บรื๊นนนนน

 

 

        เมื่อไฟท์เดินลงมาจากห้องส่วนตัวก็ได้เห็นว่ากำลังมีมอเตอร์ไซด์สีดำ CBR กำลัง ขับเข้ามาในนามแข่งของเขาที่ตอนนี้ยังไม่มีใครนอกจากพวกลูกน้องเขาเองเพราะ มันยังไม่เปิดให้เข้า จะต้องรอจนถึง 1 ทุ่มก่อน แต่ทว่านี่คือ ‘แขกพิเศษ’ จึงสามารถเข้ามาที่นี่ได้อย่างสบายๆ

 

 

 

        ตอนนี้คนที่กำลังขับขี่มอเตอร์ไซด์นั่นได้สวมชุดเครื่องแบบนักเรียนพร้อมกับ สวมใส่หมวกกันน็อคสีดำแล้วก็ถุงมือหนังสีดำสองข้างก็กำลังเร่งเครื่องรถมา ตรงจุดที่ไฟท์กับคนของเขานั้นกำลังยืนมองอยู่

 

 

 

       ไฟท์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเป็นการหยั่งเชิงเมื่อรถ CBR นั่นขับมาจนถึงจุดที่เขายืนแล้ว

 

 

 

บรืนนนน...

 

 

 

       เครื่องยนต์ได้ถูกดับลงก่อนที่เจ้าของรถนั่นจะลงมาจากรถ CBR คันนั้นแล้วถอดหมวกกันน็อคนั่นออก นั่นจึงทำให้ไฟท์พอใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นว่าคนที่เขาต้องการจะเจอมาที่นี่เพียง‘คนเดียว’ อย่างที่เขาได้พูดบอกเอาไว้

 

 

“แน่มากนะที่มาคนเดียว ไม่กลัวโดนรุมเหรอ ^^”ไฟท์เอ่ยแล้วมองร่างสูงของ‘โทโมะ ’ ที่กำลังยืนถอดถุงมือสีดำออกหลังจากที่ถอดหมวกกันน็อคอย่างใจเย็น

 

 

 

            แต่ท่าทีของโทโมะที่ทำให้ไฟท์งงคือ...เขาดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

 

           เพราะว่าตอนที่คุยโทรศัพท์เสียงของโทโมะนั้นแลดูห่วงแฟนของ เขาอย่างแก้วมากจนไฟท์นั้นแอบสะใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทำไมตอนนี้อารมณ์ของโทโมะมันดูไม่มีอะไรเลยล่ะ? เพราะว่าเขาดูใจเย็นสุดๆ  แบบเจ้าชายน้ำแข็งดั่งเดิมเหมือนกับที่เคยเป็นทั้งๆที่ปกติโทโมะน่ะเป็นคนอ่านความรู้สึกยากอยู่แล้ว ( ถ้าไม่สนิทจริงๆโทโมะจะไม่เผยตัวตน สังเกตได้จากตอนเริ่มรู้จักนางเอกแรกๆ โทโมะนางก็เก๊กเกิ๊น ^^ )

 

 

 

“ถ้ากลัวฉันคงไม่มาว่ะ”โทโมะพูดแล้วยิ้มตอบกลับไปจนไฟท์จากที่กำลังยิ้มอยู่รอยยิ้มนั้นก็ได้เจื่อนลงในทันที

 

 

       หึ! ก็เล่นกับใครไม่เล่นนะไฟท์ มาเล่นกับคนที่ ‘ไม่ธรรมดา’ ที่สุดแห่งกลุ่มเคโอติค นี่มันก็...เดาอารมณ์ยากหน่อยนะ ^^

 

 

 

[ บันทึกพิเศษ :โทโมะ]

 

 

 

 

          หึ! แปลกใจล่ะสิที่ว่าทำไมฉันถึงไม่ออกอาการกังวลกระวนกระวายอย่างที่แกอยากให้เป็นน่ะไอ้ไฟท์! ’

 

 

 

         ผม คิดขณะกำลังยืนมองหน้าไอ้ไฟท์ด้วยสายตาที่ว่างปล่าวไม่มีความกังวลแต่อย่าง ใดเลย มันช่างแตกต่างจากตอนที่ผมคุยโทรศัพท์กับมันมากที่แสดงออกไปว่าผมนั้นเครียด มากแค่ไหนที่รู้ว่ามันจับแก้วมาแบบนี้ แต่แหม๋! คิดจะเล่นกับกลุ่มเคโอติคนี่มันก็ต้องเจออะไรหลายๆมุมหน่อยนะ ^^

 

 

 

        และถ้าทุกคนคิดว่าผมมาเดี่ยว...มันไม่ใช่

 

 

             เพราะว่าไอ้จองเบได้บอกไว้ว่า‘พวกมันมีแผน เราก็ต้องมีแผน’ ที่ผมกับพวกเคโอติคกำลังทำอยู่นี่แหละคือ ‘แผน’  ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะเอาวิธีตอน ม.3 มาใช้น่ะ

 

 

           : ก่อนหน้านี้ :

 

 

           ‘ โห่ นี่แกจะเอาจริงดิ แล้วไปซื้อมาขนาดนี้จะใช้หมดเหรอวะ =[]=?’

 

 

           ‘ ไอ้เขื่อน นี่แกอย่ามาพูดแบบนี้เลย ตอนม.3 ฉันจำได้นะว่าแกน่ะใช้หมดเกลี้ยงจนไอ้พวกนั้นวิ่งหางจุกตูดน่ะ ฮ่าๆๆๆ

 

 

           ‘ ไอ้ป๊อปปี้! แกหยุดแซะฉันเลยนะเว้ย!’

 

 

           ‘ โอเคๆ แต่ทั้งหมดนี่ที่ฉันซื้อมา ฟาง แล้วก็มิณท์จะเป็นคนจัดการ ส่วนพวกเราคอยช่วยไอ้โทโมะตามที่ฉันบอกไว้ในแผน

 

 

           ‘ ไฟเย็นปะทัดพลุควัน พลุแท่งกระเทียม ลูกแก้ว? บลาๆๆ  นะ...นี่พวกนายจะใช้ของพวกนี้จัดการกับไฟท์จริงๆน่ะนะ O_o?’

 

 

            นี่ๆๆ อย่าได้ดูถูกของเล่นสมัยยังเอ๊าะๆ ของพวกฉันเชียวนะสาวน้อยฟางถ้าอยากช่วยแก้วเธอต้องเชื่อพวกฉันโอเคมั้ย?’

 

 

           ‘อะ...โอเค ฉันเชื่อ ’

 

 

       นั่นล่ะสิ่งที่พวกผมจดจำมาตลอดกับของเล่นสุดเจ๋งพวกนั้น ให้ตายสิ!   ได้กลับมาใช้มันอีกครั้งแล้วแลดูน่าสนุกยังไงไม่รู้สินะ แต่ผมไม่ได้ใช้หรอกเพราะหน้าที่ผมไม่ใช่คนใช้อุปกรณ์พวกนั้น น่าเสียดายจุง Y^Y เพราะของพวกนั้นตั้งแต่ตอน ม.3 พวกผมก็ไม่ได้เล่นมันอีกเลยล่ะ แต่อย่าได้ดูถูกเชียว ( แล้วห้ามทำเลียนแบบด้วย! )เพราะว่ามันใช้จัดการพวกนี้ได้จริงๆถ้ามันตุกติกผมน่ะพวกคุณรอดูได้เลย!

 

 

        และที่สำคัญนะ พวกกลุ่มผมน่ะได้รอผมอยู่ด้านนอกของสนามแข่งนี่โดยที่พวกไอ้ไฟท์มันไม่รู้ ไอ้จองเบกับพวกผมได้วางแผนกันเอาไว้ว่าให้ผมทำเป็นมาที่นี่คนเดียวแล้วกดเปิด โทรหาไอ้จองเบเอาไว้เพื่อให้มันได้ฟังเสียงตอนที่ผมนั้นคุยกับไอ้ไฟท์ถึง เหตุผลที่มันจับตัวของแก้วมายังไงล่ะ

 

 

        และถ้าไอ้ไฟท์มันมีเล่ห์เหลี่ยมนักล่ะก็พวกผมจะจัดการมันด้วยของเล่นเด็กๆ ของพวกผมเคโอติคนี่แหละ!

 

 

“โอเคๆ รู้แล้วว่าแน่”มัน ทำพูดแล้วยกมือสองข้างขึ้นเสมอบ่าแบบยอมๆ จนผมนี้ต้องแอบหมั่นไส้อยู่ข้างในห้ามแสดงออกเด็ดขาดถึงแม้จะอยากต่อยมันแค่ ไหน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเดี๋ยวแผนแตกก่อนได้คำตอบจากปากมัน

 

 

       และตอนนี้ผมก็เดาได้เลยว่าแก้วจะต้องอยู่บนห้องนอนของไอ้ไฟท์แน่นอน!

 

 

“อ่าห้ะ งั้นก็เข้าเรื่องเลยสิ”ผม พูดเป็นการหยั่งเชิงไอ้ไฟท์แล้วมองลูกน้องของมันทีละคนก่อนจะเลื่อนสายตามา สะดุดอยู่กับไอ้คนตัวเล็กๆที่ยืนข้างๆไอ้ไฟท์ที่ก็กำลังมองมาที่ผมเช่นเดียว กัน

 

 

 

             แต่เมื่อผมเห็นแบบนั้นผมก็เลื่อนสายตาจากหน้ามันไปมองที่อื่นช้าๆทำเหมือน กับว่ามันไม่มีตัวตนไปเลย

 

 

 

            และที่สำคัญนะผมก็อยากให้ไอ้ไฟท์มันรีบๆพูดเหตุผลของมันออกมา เร็วๆด้วยเพราะว่าไอ้จองเบบอกว่าทำยังไงก็ได้ให้มันพูดบอก เพราะเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมงที่จะช่วยแก้วแล้ว แล้วถ้าช่วยไม่ทัน ไอ้ไฟท์มันจะเล่นบ้าอะไรของมันต่อก็ไม่รู้

 

 

 

          เพราะว่ามันน่ะถ้าทำอะไรแล้วสนุกสะใจผมว่ามันก็คงจะต้องทำให้แรงขึ้นนั่น แหละครับ เฮ้อ...ให้ตายเหอะ = =;;;

 

 

 

“อยากรู้ขนาดนั้นเชียว”

 

 

 

“อย่าลีลาเหอะว่ะ - -!” ถามไม่ได้นะไอ้นี่ ถ้าผมไม่อยากรู้แล้วจะรีบถามทำไม = =;;;

 

 

 

“โอเค๊! จะบอกให้ก็ได้ว่าทำไมฉันถึงได้จับแฟนสาวสุดน่ารักน่าขย้ำของแกมา ^^”

 

 

 

        นะ...น่ารักน่าขย้ำงั้นเรอะ!?

 

 

 

         ช่วยบอกหน่อยสิว่ามันไม่ได้ตั้งใจพูดให้ผมโมโหจนเลือดขึ้นหน้าน่ะ! ( ใจเย็นๆๆๆ โทโมะ เย็นไว้เว้ยๆ ><! )

 

 

 

“อ่าห้ะ”ผมพยายามข่มเสียงให้ดูเฉยๆเข้าไว้ ( มันฝืนมากอ่ะ จริงๆ ( _ _)!! )

 

 

 “ก็...เผอิญว่าฉันอยากได้คนเข้ากลุ่มมาแข่งรถทำเงินให้กับสนามแข่งเพิ่ม ฉันก็เลยนึกถึงแกตอนที่แข่งกับเพื่อนฉันที่สนามแข่งไอ้จองเบฉันก็เลยจับยัยนี่มาเป็นข้อต่อรองชัดป่ะ...”

 

 

         อ๋อ...ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองงั้นสินะ = =!  

 

 

         นี่...ทะ...ที่มันจับแก้วมาที่นี่เพราะเรื่องขี้ประติ๋วแค่เนี๊ยะ? โอ้โห...ความคิดนี่ดีเป็นเลิศเลยว่ะ ( ผมประชดนะ =[]=;;; )  

 

 

“เพื่อให้ฉันตอบตกลงมาทำเงินให้สนามแข่งแกแค่นั้น?”ผู้พูดย้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เตือนตัวเองว่าไม่ได้ฟังอะไรผิดไปจากปากไอ้ไฟท์แน่ๆ

 

 

 “ใช่ และในความคิดของฉัน ฉันก็หวังว่าแกจะตอบได้ถูกใจฉันนะ” 

 

 

         หูยยยย มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอออ?  

 

 

“ตอบถูกใจ? อ้อ! พอดีว่า...ฉันมันเป็นพวกเดาทางยากซะด้วยสิ ^^”ผมพูดแล้วฉีกยิ้มให้มันเพราะว่าอยากจะดูว่าไอ้ไฟท์มันจะยังไงต่อที่เห็นผมไม่ของขึ้น ( ทั้งๆที่อยากจะต่อยมันมาก! )

“แต่ฉันคิดว่าแกคงไม่มีทางเลือกแล้วแหละนะ ^^”

 

 

        หึ พูดแบบนี้แสดงว่ามันคิดผมคงหมดทางจนต้องตอบคำว่า‘ตกลง’ สินะ

 

 

            แต่เสียใจด้วยว่ะ! เพราะคนอย่างผมคนนี้ไม่มีทางที่จะทิ้งเพื่อนที่อยู่ด้วยกันเพราะมิตรภาพมา นาน มาอยู่กลุ่มกับไอ้พวกนี้ด้วยเหตุผลของมันก็คืออยากได้เงินเพิ่มหรอกนะ และผมว่าคงไม่ใช่แค่นั้นหรอก เพราะเหตุของมันคงจะมีไอ้จองเบมาเกี่ยวด้วยแหงๆล่ะ เซ้นต์ข้างในมันบอกอยู่ลึกๆน่ะ

 

 

             และขอบอกเลยว่ามันเป็นเหตุผลที่...ปัญญาอ่อน! และผมจะไม่มีทางไปตอบอะไรปัญญาอ่อนๆแบบนั้นเด็ดขาด

 

 

“อืมมมม แต่มันก็ติดอยู่นิดนึงนะไฟท์”ผมพูดแล้วมองหน้ามันตรงๆจากนั้นก็หรี่ตาเป็นการคาดเดา “การ ที่แกจะเรียกเงินก้อนโตกลับมาเพราะเพิ่มคนเข้ากลุ่ม อืมมม  จะว่าไปแล้วประชากรบนโลกนี้มันมีตั้ง 7 พันล้านกว่าคนแล้วทำไมคุณมึงไม่ไปหาล่ะ ทำไมต้องมาเจาะจงคุณกูด้วยล่ะครับ ^^?” ผมเริ่มพูดจากวนตีนจนไอ้ไฟท์ต้องกำหมัดในมือแน่น

 

 

        เออดี! อยากเห็นมันของขึ้น!

 

 

“ไอ้โทโมะ แกรู้มั้ยว่าตอนนี้แกเป็นรองฉันอยู่ แกไม่มีสิทธิ์ถาม เพราะว่าแกมีสิทธิ์แค่อย่างเดียวคือตอบคำว่า ‘ตกลง’ ฉันรู้ว่าพวกแกน่ะคำไหนคำนั้นไม่เคยผิดคำพูดถ้าแกตกลงแกก็เอาแฟนแกกลับไป โอเค๊?”

 

 

        พูดเหมือนว่าจะให้แฟนฉันคืนง่ายๆอย่างงั้นแหละนะ รู้หรอกน่าว่าเล่ห์เหลี่ยมแกมันเยอะ! และถ้าฉันตอบตกลงพวกแกฉันก็ต้องเป็นรองพวกแกไปเลยดิ หึ ไม่มีทาง เพราะว่าฉันจะเอาแฟนของฉันกลับโดยที่ไม่มีการตกลงอะไรใดๆทั้งนั้น...ไอไฟท์!

 

 

“ง่ายขนาดนั้นเลย? งั้นก็พาแฟนฉันมาให้เห็นหน้าก่อนสิ”ผมบอกแล้วเอียงคอมองมันแล้วเอามือทั้งสองข้างล้วงเข้ากระเป๋ากางเกง

 

 

            และคำตอบที่ได้กลับมาก็คือ...!

 

 

“ตอนนี้แฟนแกอยู่บนเตียงของฉัน และถ้าแกไม่ตกลงก่อนเย็นนี้แกก็ไม่ได้เห็นหน้าแฟนแกหรอกว่ะ ฮ่าๆๆๆ”มันกับพวกจงใจหัวเราะเยาะผมเพราะคิดว่าผมกำลังมีทางตันแล้ว

 

 

            แต่ไม่ใช่...เพราะผมมี ‘เพื่อนที่เป็นครอบครัว’ รอให้ความช่วยเหลือผมอยู่!

 

 

ปังๆๆๆๆๆๆๆ!!!

 

 

ปังๆๆๆๆๆๆๆ!!!

 

 

ขวับ!

 

 

“เฮ้ย! เสียงอะไรวะ?!”ช่วง จังหวะนั้นนั่นเองที่ไอ้ไฟท์ตกใจเสียงบางอย่างที่อยู่ตรงอีกด้านหนึ่งของ สนามแข่ง จนพวกของมันที่ยืนอยู่ตรงนี้หันไปมองทางต้นตอของเสียงนั่นก่อนจะรีบพากัน วิ่งไปดูทันที ก็จะมีเหลือแค่ไอ้ไฟท์กับไอ้ตัวเล็กเนี่ย! แค่นั้น หึ เข้าทางล่ะ!

 

 

         เพราะว่าเสียงเมื่อกี้มันก็คือเสียง ‘ประทัด’ ที่ใช้จุดในวันตรุษจีนยังไงล่ะ!

 

 

แล้ว คนที่จุดก็คือไอ้เขื่อนกับไอ้ป๊อปปี้นั่นเอง เพราะเมื่อตอน ม.3 จำได้เลยว่าพวกมันใช้แผนนี้จนนักเรียนอีกโรงเรียนถึงกับวิ่งหนีกันกระเจิง เลย

 

 

“ไอ้โทโมะ เสียงนั่นมันอะไร นี่แกอย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือของเพื่อนแกน่ะ!”ไฟท์ชี้หน้าผมทันที เอิ่มมมมม รู้ช้าไปนะ นึกว่าจะรู้ไวกว่านี้ซะอีก ^^

 

 

“ม๊าย ไม่ใช่ ‘เพื่อน’  แต่เป็น‘ครอบครัว’ ของฉัน!”

 

 

ผัวะ!!!

 

 

        หมัดของผมได้ซัดเข้าใส่หน้าไอ้ไฟท์เข้าอย่างจังจนทำให้หน้ามันหันไปอีกทาง ใช่! แผนเมื่อกี๊ก็คือ ‘แผนล่อลูกเสือออกจากนายเสือ’ ให้ คนของไอ้ไฟท์ไปอยู่อีกที่ผมจะได้จัดการกับมันง่ายขึ้นยังไงล่ะ โอเค มาถึงแผนต่อไปที่จะทำให้ที่นี่เละตุ้มเป๊ะถ้าหากว่ามันยังไม่ยอมคืนแก้วให้ ผมดีๆ!

 

 

“ไอ้โทโมะ!”เมื่อ ไฟท์ตั้งหลักได้จึงจะตรงเข้ามาต่อยผมกลับ แต่ว่าผมก็หลบอ้อมทันไปทางด้านหลังมันก่อนจะใช้ฝ่าตีนอรหันต์ถีบเข้าบั้น ท้ายของมันจนมันหกล้มไปนอนกองอยู่กับพื้น

 

 

ผัวะ!!!

 

 

ตุ้บ!!

 

 

“โอ๊ย!! ไอ้เชี่_!”

 

 

“นี่แก! กล้าทำไอ้ไฟท์อย่างงั้นเหรอ”ไอ้คนตัวเล็กที่กำลังยืนมองด้วยควมมึนงงกับเหตุการณ์นี้เพราะคงไม่คาดคิดว่าผมจะมี ‘แผน’เหมือนกันงั้นสินะ หึ!

 

 

         ขอโทษทีนะ...ไม่ได้โง่ จบป๊ะ?

 

 

“เอ๋าไม่กล้าแล้วจะทำเหรอ?”ผมมองหน้ามันกวนตีนแล้วเลียลิ้นไปตามริมฝีปากของตัวเองด้วยที่เห็นว่ามันหน้าเสียจนซีดไปเลย ฮ่าๆๆ สะใจ!

 

 

“ไอ้ดีโอ! จัดการมันสิวะ!”ไอ้ไฟท์ที่กำลังนอนอยู่กับพื้นเอ่ยสั่งไอ้ดีโอนั่น โห รับฟังคำสั่งดีมากอ่ะสั่งปุ๊บ! แล้วกำลังจะตรงเข้ามาต่อยผมปั๊บ! แต่เสียใจ! เพราะแค่ส่วนสูงมันก็สู้ผมไม่ได้ละ!

 

 

หมับ!

 

 

“ตัวเล็กแล้วอย่าทำเก่งมันน่าจะดีกว่ามั้ย?”จังหวะ นั้นที่มันง้างหมัดจะต่อยเข้ามาที่หน้าผมผมก็ได้รับหมับของมันเอาไว้ได้ทัน แต่ที่ไม่คาดคิดไอ้ไฟท์มันกำลังใช้ของสู้จนผมไม่ทันตั้งตัว!

 

 

ผัวะ!

 

 

 “อั๊ก!”ผม ร้องเสียงหลงออกมาเพราะว่าแผ่นหลังรับรู้ได้ถึงแรงฟาดจากของบางสิ่ง ซึ่งพอหันไปมองก็พบว่าไอ้ไฟท์มันกำลังใช้ท่อแป๊ปสีฟ้าเป็นอาวุธในการทำร้าย ผมนั่นเอง

 

 

             ท่อแป๊ปงั้นเหรอ? งั้นเจอนี่หน่อยละกัน!

 

 

ผลั่ก!

 

 

        จังหวะ นั้นผมใช้แรงที่มีผลักไอ้ดีโอจนมันเซล้มไปกองอยู่กับพื้นอย่างแรงจากนั้นผม จะหันกลับไปมองไอ้ไฟท์ที่กำลังตรงเข้ามาแล้วกำลังจะเอาท่อแป๊ปฟาดเข้าที่ หน้าของผม 

 

 

“มึง!”

 

 

หมับ!

 

 

“ฉันต่างหากที่ต้องเรียกแกว่า‘มึง!’ ”เมื่อผมจับท่อแป๊ปได้ผมก็พยายามดันให้มันออกไปจากใบหน้าด้วยความโมโหที่มีอยู่ข้างใน “ไอ้ห่า! จับแฟนชาวบ้านมาเพราะเรื่องปัญญาอ่อนแค่เนี๊ยะ!? บอกตรงๆเลย ควายยังฉลาดมากกว่าแกด้วยซ้ำไอ้ไฟท์!”

 

 

         ผมพ่นคำด่าที่เก็บมานานด่ากราดใส่หน้าไอ้ไฟท์อย่างเจ็บแสบ แล้วจ้องมองมันด้วยสายตาโกรธเคืองแล้วแข็งกร้าวไปด้วย

 

 

ผัวะ!

 

 

“โอ๊ย!!”ที่มันร้องแบบนั้นเพราะว่าผมนั้นได้ใช้ตีนถีบเข้าที่ ‘เจ้าชายน้อย’ ของ มันนั่นเอง ก่อนจะแย่งท่อแป๊ปออกมาจากมือมันแล้วก็โยนไปทางอื่นให้ไกลๆจากตรงนี้ เพราะผมเกลียดการใช้อาวุธในการสู้แต่สิ่งที่พวกผมเคโอติคมีมันไม่เรียกว่า อาวุธอ่ะ เพราะมันเรียกว่า‘อุปกรณ์’

 

 

         เอาล่ะ คราวนี้ล่ะ ที่ผมกับพวกเพื่อนๆจะต้องจัดการกับมันสักที!

 

 

[ จบบันทึกพิเศษ : โทโมะ ]

 

 

อีกด้าน

 

 

“ไอ้จองเบพวกมันไปอยู่ฝั่งที่ไอ้เขื่อนกะไอ้ป๊อปจุดประทัดแล้วเว้ย เอาไงต่อ”เคนตะถามทันทีเพราะว่าแผนแรกเสร็จไปแล้วหนึ่งคือการล่อไอ้พวกนั้นให้ออกห่างจากโทโมะโทโมะจะได้จัดการไฟท์ง่ายขึ้นยังไงล่ะ

 

 

        และ ตอนนี้กลุ่มเคโอติคก็ได้แยกกระจายกันออกไป เขื่อนไปกับป๊อปปี้ไปอยู่ข้างสนามอีกฝั่งโดยปีนกำแพงเข้าไป แล้วเมื่อล่อพวกนั้นมาติดกับป๊อปปี้กับเขื่อนก็จะถ่วงเวลาเอาไว้ให้ทางนี้นั่น เอง แล้วตอนนี้เคนตะกับจองเบก็กำลังอยู่นอกสนามแข่งแล้วแอบมองเข้าไป ด้านในก็เห็นว่าหน้าประตูทางเข้านั้นยังมีพวกไอ้ไฟท์ยืนคุมอยู่

 

 

        แต่พวกมันก็คงไม่รู้หรอกว่าข้างในเกิดอะไรขึ้นบ้างน่ะ คราวนี้ล่ะ!

 

 

“เดี๋ยวๆๆๆ เคนตะๆๆ เอาพลุควันมาก่อน”จองเบ รีบดึงกระเป๋าของเคนตะเอาไว้เมื่อเห็นว่าเขื่อนกำลังจะลุกขึ้นกับฟาง จากนั้นจองเบก็รีบหยิบเอาพลุควันออกมาจากกระเป๋าก่อนจะทำการจุดมันจนควันขึ้น แล้วโยนเข้าไปด้านในอีกฝั่งจนควันสีชมพูลอยฟุ้งเต็มไปหมด

 

 

“เฮ้ย! ควันอะไรวะ! ”

 

 

“ไอ้พวกนั้นไปแล้ว ไปๆๆๆ เข้าไปเร็วๆ”จองเบ รีบบอกฟางและมิณท์จากนั้นพวกฟางก็เลยรีบวิ่งเข้าไปยังฝั่งที่มัน เป็นพวกห้องพักพนักงานของพวกไฟท์จากนั้นจองเบ เคนตะ ก็ไปยังอีกทางก็คือทางเข้าไปทางสนามแข่งนั่นเองเพื่อช่วยโทโมะ

 

 

“เฮ้ย เข้ามาได้ไงวะ”เมื่อ พวกจองเบเดินเข้ามาเรื่อยแล้วพวกลูกน้องของไฟท์ที่กำลังยืนอยู่แถวๆนั้นเห็น เข้าจึงรีบเดินตรงเข้ามาหาพวกเขาทันทีด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรแบบสุดๆ

 

 

“อ๋อ มาหาเพื่อนน่ะ ^^”จองเบทำเป็นแสแสร้งแกล้งพูดแต่แฝงไปด้วยความกวนประสาท

 

 

“เพื่อนอะไรวะ! ไม่มีหรอก! ที่นี่มีแต่พวกฉัน พวกแกกลับไปได้แล้ว”       

 

 

“จะไม่มีห่าอะไรล่ะก็เพื่อนกูอยู่ในน้านนนน ><!” เขื่อนพูดบอกอย่างกวนๆ

 

 

“ก็บอกว่าให้กลับไปไม่เข้าใจรึไงวะ”

 

 

ผัวะ!!

 

 

“อั่ก!”หน้าของเขื่อนหันไปยังอีกทางเมื่อไอ้คนพูดัมนต่อยเข้ามาที่ใบหน้าของเขื่อนอย่างแรงจนถึงกับเลือดออก

 

 

“เฮ้ย ทำเพื่อนฉันเหรอวะ”เมื่อป๊อปปี้เห็นแบบนั้นก็ถึงกับของขึ้น

 

 

“ทำพ่อมึงมั้ง”

 

 

“กวนตีนละ”

 

 

ผัวะ!!

 

 

        ป๊อปปี้ได้จังหวะก็ต่อยเข้าที่ใบหน้าก็ไอ้บ้านั่นทันที แถมมันยังมีมาอีกสองคนด้วยจนพวกเขาต้องใช้ไม้เด็ดออกมา!

 

 

“เฮ้ย ทำอะไรกันวะ!?”

 

 

“เจอนี่หน่อยยยยย”

 

 

โป๊ะ!

 

 

โป๊ะ!

 

 

โป๊ะ!

 

 

โป๊ะ!

 

 

“โอ๊ย!! อะไรวะเนี่ยยย”

 

 

“เอ้า ไม่รู้จักระเบิดกระเทียมเหรอเพ่!”เขื่อนเอ่ยปากบอกขณะที่จองเบกับป๊อปปี้ก็เล่นปาระเบิดกระเทียมใส่ตัวไอ้พวกนั้นจนพวก นั้นดันทำท่าแต๋วแตกออกมากันเลยทีเดียว เห็นแบนี้แล้วพวกเขาก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้“ดิ้น ดิ้น ดิ้นใหญ่”

 

 

 

โป๊ะ!

 

 

 

“โอ๊ย! ไอ้บ้านี่ พวกแกหยุดปานะเว้ย >O<!”

 

 

 

“ไม่หยุด! จะปาแม่งให้หมดซองนี่แหละ ร้ายกันดีนัก ร้ายยันเจ้านายถึงลูกน้อง โว๊ะ!”เขื่อนพูดแล้วก็ปาระเบิดกระเทียมใส่พวกนั้นรัวๆๆๆ จนกระทั่งหมดซองเลยทีเดียว

 

 

 

โป๊ะ!

 

 

 

ตุ้บ!

 

 

 

“เฮ้ยๆๆๆ พวกมันล้มแล้ว ไอ้ป๊อปเอาเชือกมาเร็ว!”เมื่อ เขื่อนเอ่ยบอกม่อนหลังจากที่พวกนั้นเอาแต่ดิ้นๆจนล้มลงพื้นม่อนก็ได้จัดการ เอาเชือกสีดำที่พกติดตัวมาด้วยมาจัดการมันเจ้าสามคนนั้นเข้าด้วยกัน “มัดๆๆๆเร็วๆเด้”

 

 

 

“ฉันมัดอยู่เว้ย ><!”

 

 

 

“เร็วๆๆ เดี๋ยวไอ้โทโมะแย่”จองเบบอกอย่างร้อนรนพลางมองไปที่โทโมะที่กำลังต่อยอยู่กับไฟท์แล้วก็ดีโอตั้งสองคนแหน่ะ

 

 

 

       แล้วเขาจะต้องรีบไปช่วยเพื่อนของเขาเดี๋ยวนี้!

 

 

 

“ไอ้โทโมะโว๊ยยยย ฉันมาแล้ววววว”

 

 

 

 

ในขณะเดียวกัน

 

 

 

ฝั่ง > ฟาง> มิณท์

 

 

 

ตึกๆๆๆ

 

 

 

“ฟางเบาๆสิ  พวกมันอยู่ข้างบนรึปล่าว?”มิณท์เอ่ยเตือนเมื่อเห็นฟางรีบวิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้นสองแล้วมิณท์ก็เดินตามขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆด้วย “ฟาง ถ้าเห็นใครรีบบอกเลยนะ”

 

 

 

“โอเค”ฟางบอกแล้วพยักหน้า

 

 

 

“แก้วอยู่ห้องไหนเนี่ย”เมื่อ ขึ้นมาถึงพวกเขาก็พากันดูรอบๆเพราะว่ามันมีหลายห้องมาบนชั้นนี้ และตอนนี้พวกเขาก็เดินมาถึงทางยาวชะเง้อมองห้องข้างๆแอบเปิดดูห้องต่างๆก็ ไม่เจอเลย

 

 

 

         จนกระทั่งมาเจอเข้ากับ!

 

 

 

“เฮ้ย! ขึ้นมาได้ยังไงกัน พวกแกเป็นใครวะ!” ขวับ! ( O_o)! ( OoO)!  

 

 

 

“เวร / เวร /”ฟาง > มิณท์

 

 

 

ฟิ้ว!

 

 

ตึกๆๆๆๆๆ

 

 

 

        ฟางและมิณท์รีบวิ่งหนีกันสุดตีนทันทีเพราะว่ายังไม่ทันได้ตั้งหลักอะไรเลยแถมพวกนั้นก็มีประมาณ 3 4 คนได้ ให้ตายสิ! อีกไม่ถึง 20 นาทีคนก็จะเริ่มมาสนามแข่งนี่แล้วนะ! ><!

 

 

 

“เอาไงดีๆๆๆ ><!”ฟางรีบพูดเพราะว่าพวกเขานั้นได้วิ่งมาหลบอยู่ข้างหลังกำแพงตรงทางลงบันไดขณะที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของไอ้พวกนั้นกำลังตามมา

 

 

 

“ใช้นี่ๆๆ อยากใช้”มิณท์พูดแล้วถอดกระเป๋าเป้ออกมาแล้วรีบหยิบถุงลูกแก้วขนาดกำลังดีขึ้นมา “ฟางถือเป้ให้หน่อย”เขารีบพูดบอกแล้วชะเง้อหน้าไปแอบดูก็เห็นว่าไอ้พวกนั้นกำลังวิ่งมาทางนี้แล้ว“เสร็จแน่ ฮ่าๆ ^O^//”

 

 

 

       จังหวะนี้ล่ะ!

 

 

 

กรวดดดดดดด

 

 

 

กรวดดดดดดด

 

 

 

“ย๊ากกกกกกกก”

 

 

 

ตุ้บ ตะ ลุบ ตุ้บ ตั้บ!!!( โปรดร้องเป็นจังหวะเพลง ฮ่าๆๆๆ )

 

 

 

“เจ๋ง!”มิณท์รู้สึกดีใจที่ได้เห็นไอ้พวกนั้นพากันล้มหน้าทิ่มเพราะว่าเหยียบลูกแก้วที่เขาเทมันหมดถุงจนลื่นไปตามๆกันเลยทีเดียว“ทางสะดวกแล้ว ไปกันเถอะ”

 

 

 

“ป่ะ ว๊ากกกกก”ฟางที่กำลังจะวิ่งตามมิณท์ไปจำต้องร้องออกมาเมื่อขาของเธอถูกจับดึงจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น

 

 

 

“ฟาง!”ตกใจมากเมื่อหันมาเห็นภาพนั้นแล้วกำลังวิ่งกลับมาช่วย

 

 

 

“ไป! ไปหาแก้วก่อนทางนี้ฉันจัดการได้!”

 

 

 

“แต่...”

 

 

“ไปสิเดี๋ยวไม่ทัน!”ฟางรีบตะโกนบอกทันทีมิณท์ก็เลยพากันวิ่งหาแก้วตามห้องต่างๆในนี้ อีกครั้ง“โอ๊ย!!ปล่อยขาฉันได้มั้ยวะเนี่ย>O<?” นี่ดีนะที่ไอ้คนที่จับขาฟางมีแค่คนเดียว เพราะอีกสองคนสลบคาที่ไปเรียบร้อย

 

 

 

“ไม่ปล่อยเว้ย!”มันตะโกนบอกแล้วจับดึงขาฟางแน่น

 

 

 

“ไม่ปล่อยใช่มั้ย? ได้!”

 

 

 

ปึก!!

 

 

 

“โอ๊ย! ยัย...!!! อั๊ก!!”ไอ้ บ้านั่นร้องออกมาเพราะว่าหน้าของมันนั้นอยู่ตรงส้นเท้าของฟางพอดิบพอดีฟาง จึงใช้เท้าถีบหน้ามันจนมันปล่อยมือออกจากขาฟางในที่สุด จังหวะนั้นเธอก็เลยลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบล้วงแท่งไฟเย็นขึ้นมาถือไว้พร้อม กับใช้ไฟแช็คที่จองเบได้ให้เอาไว้ขึ้นมาจุดเจ้าไฟเย็นนั่น

 

 

 

       ตอน นั้นนั่นเองเมื่อฟางได้จุดแท่งไฟเย็นได้แล้วเธอจึงเดินไปย่อตัวลงตรงขาของ ไอ้บ้านั่นที่พยายามจะตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาแต่ก็ยากเหลือเกินเพราะลูก แก้วอยู่เต็มไปหมด แต่ฟางเธอก็ยืนได้อย่างระวัง

 

 

 

“ฉันจำหน้าแกได้นะ! แกมันไอ้หมอนั่นที่ผลักฉันจนหัวทิ่ม”

 

 

 

“เออ แล้วจะทำไมวะ!”

 

 

 

 

“หึ จับเพื่อนฉันมาใช่มั้ย! พวกแก๊! ”ใช่! ที่ฟางขึ้นเสียงแบบนี้เพราะว่าไอ้พวกนี้แหละที่ผลักเธอจนหน้าทิ่มพื้นตอนที่พวกมันจับแก้วยังไงล่ะ “บอกเลยว่าแค้นเว้ย! ผลักฉันหน้าทิ่มพื้นตั้งสองรอบ งั้นเจอนี่หน่อย ย่า!!! >O<!”

 

 

 

จึก!

 

 

 

“อ๊ากกกกก  ร้อนๆๆๆๆ” สาเหตุ ที่ไอ้บ้านั่นร้องออกมาว่าร้อนแบบนั้นเพราะว่าฟางนั้นได้จัดการเอาไฟเย็น จิ้มเข้าที่รูก้นตรงกลางกางเกงของหมอนั่นเขาอย่างจังๆยังไงล่ะ!

 

 

“ร้อนทำไมชื่อมันก็บอกอยู่ว่าคือ‘ไฟเย็น’ แบร่ๆๆ สม! ไอ้บ้า!”ฟาง ลุกขึ้นยืนแล้วแลบลิ้นใส่ไอ้บ้านั่นที่กำลังเอามือถูก้นอยู่ก่อนจะรีบวิ่งไป ตามทางมิณท์วิ่งไปแล้วก็ปรากฏว่าเห็นว่ามิณท์ ออกมาจากห้องๆหนึ่งซึ่งอยู่ตรงด้านในสุดเดินออกมาพร้อมกับร่างของแก้วที่กำลังสลบอยู่ในอ้อมแขนของเขานั่นเอง!

 

 

 

“ฟางเจอแก้วแล้ว!!”มิณท์รีบตะโกนบอก

 

 

 

“โอเค งั้นไปหาพวกเคโอติคด่วนเลย! เราต้องรีบออกจากที่นี่ก่อนพวกคนดูจะมา! เร็วๆๆๆ”ฟาง รีบกวักมือมิณท์ก็รีบวิ่งมาพร้อมกับพยุงร่างของแก้วไปด้วยแล้วพวกเขาก็ รีบพากันวิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็วเพื่อไปเจอกับกลุ่มเคโอติค!

 

 

 

ตึกๆๆๆๆๆ

 

 

 

“ฟางผมโทรบอกเขื่อนกับป๊อปปี้แล้ว พวกเขาจัดการไอ้พวกนั้นเรียบร้อย เดี๋ยวจะไปเอารถมารับพวกเรา”เมื่อมิณท์บอกตอนที่เดินลงมาถึงชั้นล่างฟางก็พยักหน้าให้ และตอนนี้พวกเขาก็กำลังมองหน้ากลุ่มของจองเบที่แยกออกไปช่วยโทโมะนั่นเอง!

 

 

 

        แต่ตอนนี่พวกเขาอยู่ไหน!?

 

 

 

“อยู่ไหนอ่ะ”ฟางพูดขณะที่กำลังมองไปรอบ

 

 

“นั่นๆ อยู่ตรงนั้น”มิณท์พูดบอกฟางเพราะว่าเขาดันมองไปเห็นว่าโทโมะ จองเบ กับเคนตะกำลังยืนเคลียร์กับไฟท์อยู่นั่นเอง

 

 

 

[ บันทึกพิเศษ : โทโมะ ]

 

 

 

ผลั่ก!

 

 

 

“อย่าทำแบบนี้อีก”ไอ้ จองเบเอ่ยบอกหลังจากที่ช่วยผมรับมือกับไอ้ไฟท์จนไอ้ไฟท์นั้นสู้ไม่ไหว แต่พวกผมไม่ได้ทำอะไรมันจนหนักหนาสาหัสนะ ไม่ใช่แบบนั้น แต่พวกไอ้จองเบก็แค่ช่วยรั้งมันให้หยุดเข้ามาทำร้ายผมแค่นั้นเอง รวมถึงไอ้ดีโอด้วยที่ตอนนี้ก็กำลังยืนหมดแรงอยู่ข้างๆไอ้ไฟท์หลังจากที่พวก ผมจัดการผลักมันเข้าชิดกำแพง

 

 

 

          เอาล่ะ มาเคลียร์กันสักทีสินะ

 

 

 

“ไอ้ขี้โกง! ไหนว่ามาคนเดียวไงฮะ? ที่ไหนได้ พวกแกมันก็ขี้โกงนี่เอง!”ไฟท์ตะคอกใส่แล้วใช้สายตาอันโกรธเกรี้ยวนั่นมองพวกผมทีล่ะคน เห๊อะ ท่าทางแบบนี้มันเหมือนกับยัยพิมพ์ในร่างผู้ชายเลยว่ะ

 

 

 

“แกต่างหากที่โกง ฉันอยู่ของฉันดีๆแล้วมาทำแบบนี้ได้ไง ถ้าอยากได้คนเพิ่มเข้ากลุ่มก็ไปประกาศรับสมัครสิวะ ไม่ใช่ใช้วิธีสกปรกแบบนี้”ผมชี้หน้าด่ามันบ้าง เหลืออดแล้วจริงๆ

 

 

 

“ใช่ อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉัน  และอย่ามายุ่งกับพวกเรา ต่อจากนี้ต่างคนต่างอยู่”ไอ้เคนตะที่ยืนข้างๆผมก็พูดขึ้นเช่นกัน

 

 

 

“ง่ายไปมั้ง?”

 

 

 

“ไอ้ไฟท์ ถ้าขืนแกยังไม่จบฉัน จะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพ่อของแก อย่าลืมซี่ พ่อฉันกับพ่อรู้จักกัน ฉะนั้น...แกก็น่าจะรู้นะว่าถ้าเรื่องนี้ถึงหูพ่อแกมันจะเป็นยังไง เพราะครั้งนี้ฉันจะถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะมาเหยียบที่นี่”ไอ้จองเบร่ายมายาวเหยียดจนทำเอาไฟท์ทำได้แค่ถอนหายใจแต่สุดท้ายมันก็ยังจะ...

 

 

 

“อย่าเอาพ่อฉันมาขู่เลยดีกว่า”

 

 

 

“ไม่ได้ขู่ เพราะฉันเอาจริง”จองเบบอกเสียงเข้มผมกับเคนตะจึงมองหน้ากัน “ไอ้โทโมะน่ะ มันไม่เคยทำอะไรให้แก เพราะฉะนั้นอย่ามาทำแบบนี้ พวกฉันก็อยู่เฉยๆไม่เคยเข้าไปยุ่งอะไรแกและถ้าแกจะเอาข้ออ้างที่ว่าอยากจะชนะฉันเรื่องรถ ก็ขอบอกเลยว่าแกเป็นคนมาหาฉันถึงที่เอง”

 

 

 

“...”

 

 

 

“อย่ามาทำแบบนี้ เพราะเรื่องที่แกทำมันเป็นเพราะตัวแกเอง แกมาท้าฉัน ฉันแข่งโดยไม่มีการโกงแล้วชนะมันก็ถูกแล้วนี่? แล้วแกจะมาโทษฉันได้ไง เพราะถ้าแกไม่ท้าแข่งแกจะเสียเงินก้อนของแกให้ฉันมั้ย? ก็ไม่”

 

 

 

“เออๆๆๆ! ฉันยอม! พวกแกชนะเคป๊ะ!” ดูมัน  - -!

 

 

 

“นี่มันไม่ใช่การแข่งขันเพื่อชนะ”ผมเอ่ยขึ้นแล้วมองหน้าไอ้ไฟท์ “เพราะการแข่งขันคือสิ่งที่ไม่มีการปะปนกับเรื่องสกปรกแบบนี้ เพราะฉะนั้นขอร้อง อย่ามายุ่งกับชีวิตของฉันอีก หวังว่าแกคงจะเข้าใจนะ”

 

 

 

“Shit”

 

 

 

“โทโมะ!”จังหวะนั้นนั่นเองที่เสียงของฟางดังขัดขึ้นเสียก่อนพอโทโมะหันกลับไปมองเขาก็ยิ้มออกมาทันทีที่เห็นว่าพวกฟางช่วยแก้วได้แล้ว

 

 

 

บรื๊นนนนน

 

 

 

            แล้วในตอนนั้นป๊อปปี้กับเขื่อนก็ได้ขี่รถมอเตอร์ไซด์เข้ามาที่สนามแข่งนี้คนละ คันเพราะว่าพวกมันคงจะจัดการคนของไอ้ไฟท์ไปเรียบร้อยแล้วน่ะสิ

 

 

 

            จบแล้วสินะ...

 

 

 

“หวังว่าแกจะไม่ลืมนะไฟท์ ที่ฉันบอกน่ะ”ไอ้จองเบย้ำอีกครั้ง

 

 

 

“เออๆๆๆ เชิญพวกแกออกไปจากสนามแข่งของฉันได้แล้ว! แค่นี้คนของฉันก็เละพอแล้ว!”ไฟท์บอกแล้วเอามือยกขึ้นเสยผมสีควันบุหรี่ด้วยความอารมณ์เสียอย่างแรว๊ง

 

 

 

“เฮ้ย! เดี๋ยวๆๆๆ มีอีกอย่างที่ยังไม่ได้ใช้เลยอ่า”

 

 

 

“อะไรของแกวะไอ้เขื่อน =[]=?”พวกผมมองไอ้เขื่อนงงๆเพราะว่ามันวิ่งไปค้นกระเป๋าเป้ของมิณท์ก็พบว่ายังมีบางสิ่งที่ยังไม่ได้ใช้เลย

 

 

 

              อะไรของมันวะ?

 

 

 

“สายรุ้งไง๊ ^=^”

 

 

 

“พอเลย!! ออกไปจากสนามแข่งของฉันได้แล้ว!”ไอ้ไฟท์ไล่ เห๊อะ! ที่นั่นทำเป็นเหนือกว่า สุดท้ายเป็นไง อับอาย? ขายขี้หน้า? เยอะอ่ะ! เพราะสิ่งที่พวกผมทำมันก็คงทำให้ไอ้ไฟท์ไม่กล้าทำอะไรแบบนี้อีก

 

 

 

“งั้น...”

 

 

 

ฟึ่บ!

 

 

 

        จังหวะนั้นไอ้เขื่อนได้โยนขวดสายรุ้งนั่นมาที่ไฟท์ ไฟท์ก็รับมันแล้วทำหน้าตางงๆว่าไอ้เขื่อนมันต้องการจะสื่ออะไรของมันกันแน่?

 

 

 

“อะไรของแก”

 

 

 

“ฝากเอาสายรุ้งพ่นใส่หัวตัวแกเองด้วยนะ โทษฐานจับแฟนเพื่อนฉันมา :P”

 

 

 

“ไอ้สลัดผัก!”ไฟท์ด่าแล้วทำท่าจะเข้ามาหาเรื่องไอ้เขื่อนอีกรอบแต่ไอ้ดีโอก็ดึงคอเสื้อมันเอาไว้เป็นทำนองว่า‘อย่าดีกว่า’

 

 

 

“แกสิสลัด! ไม่ใช่สลัดที่กินได้นะแต่ฉันกำลังหมายถึง Animal ”

 

 

 

“พอแล้วไอ้เขื่อน จบเรื่องแล้ว กลับถิ่นกันเถอะ”

 

 

 

        เมื่อ ไอ้จองเบพูดจบมันก็มองไอ้ไฟท์เพียงนิดเดียวก่อนที่พวกผมจะพากันเดินออกมาจาก ตรงนั้น ส่วนผมก็เดินไปที่ไอ้มิณท์ที่มันกำลังอุ้มแก้วเอาไว้ในอ้อมแขน ในหัวผมในตอนนี้มันไม่ได้มีความหึงหวงหรือไม่พอใจอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่มันมีแต่คำว่า...

 

 

“ขอบใจนะ”ผม มองหน้ามิณท์แล้วเอ่ยบอก มิณท์ก็ยิ้มให้ผมนิดๆแล้วก็จัดการส่งร่างของแก้วเอามาไว้ในอ้อมแขนของผม แทน และตอนนี้แก้วเธอก็กำลังหลับปุยเพราะฤทธิ์ยาสลบนั่งเอง( ฟางบอกผมว่าเธอโดนโปะยาตอนเธอโดนพาตัวขึ้นรถ )

 

 

“จบเรื่องสักทีสิน่า เฮ้อ!”ไอ้ป๊อปปี้เอ่ยพูดขณะที่กำลังนั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์ซึ่งคันที่พวกมันเอามาเป็น รถของไอ้จองเบที่อยู่ที่สนามแข่งนั่นเอง มันก็ขับมาที่นี่ตั้งแต่ต้นแล้วล่ะครับ

 

 

“บททดสอบแกจบแล้วเพื่อน ครั้งนี้คงเป็นอุปสรรคสุดท้ายแล้วสำหรับแก ต่อจากนี้ก็ดูแลแก้วให้ดีนะเว้ย เพราะโชคดีไม่ได้มีเสมอไป”ไอ้จองเบเอามือขึ้นมาจับบ่าของผมเอาไว้แล้วเอ่ยบอกเพื่อนๆผมก็เดินมาอยู่ล้อมรอบตัวผมแล้วมองผมยิ้มๆผมก็ยิ้มตอบพวกมันเช่นกัน

 

 

“ฉันขอบใจพวกแกมากนะเว้ยที่ช่วย ถ้าไม่มีพวกแก...ฉันคง...”

 

 

“ไม่มีวันไหนที่แกจะไม่มีพวกฉันไอ้โทโมะ เพราะพวกเราเคโอติคจะเป็นเคโอติคที่เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือกันและกันตลอดไปชัดนะเว้ย”หัวหน้ากลุ่มอย่างป๊อปปี้เอ่ยขึ้นจนทำเอาผมพูดไม่ออกเลย

 

 

 

“โทโมะ เรื่องจบแล้วแกก็พาแก้วกลับไปบ้านซะ วันนี้แกไม่ต้องไปที่สนามแข่งฉันหรอก อยู่ดูแลแฟนแกเหอะ เพราะว่ายาสลบถ้าเกิดเพิ่งโดนเป็นครั้งแรกคนที่โดนจะมีผลข้างเคียงบ้างน่ะ”

 

 

 

“ข้างเคียง? ข้างเคียงยังไงอ่ะ? =[]=?”ฟางที่ยืนอยู่ข้างๆผมเอ่ยถามอย่างงงๆ

 

 

 

            นั่นสิข้างเคียงยังไงวะ = =?

 

 

 “โทโมะมี่งี่เง่าาาา นายต้องโดนเราเตะ ฮ๋าๆๆๆๆ”

 

 

“เย้ย!”พวกผมร้องขึ้นมาเมื่อแก้วดันละเมอพูดอะไรก็ไม่รู้อยู่ในอ้อมแขนของผมซะงั้น

 

 

        ให้ตายสิ! เมื่อกี๊อะไร? ‘ โทโมะมี่’ เนี่ยนะ?

 

 

        เอิ่มมม มันมาจากผลข้างเคียงใช่มั้ย = =?

 

 

“โทโมะมี่งั้นเหรอ? อ๊ากกกก ไอ้โทโมะเปลี่ยนชื่อแล้วเว้ยยย”

 

 

“นี่ พวกแกหยุดล้อฉันเลยนะเว้ยยย ><!” สาบาญได้เลยถ้าไม่ติดว่าพวกมันช่วยผมเอาไว้แล้วผมไม่ได้อุ้มแก้วอยู่ ผมกระโดดถีบพวกมันไปแล้ว ><!

 

 

        สุด ท้ายกลุ่มของพวกผมก็พากันออกมาจากสนามแข่งของไฟท์โดยที่ผมให้ฟางไปกับผมด้วย พวกไอ้จองเบก็กลับไปที่สนามแข่งกัน และฟางเธอบอกว่าเดี๋ยวคืนนี้จะไปนอนค้างที่บ้านแก้วเผื่อว่าแก้วละเมออะไร อีก ผมก็ว่าดีเธอจะได้มีคนดูแลเธอแถมพ่อแก้วจะได้ไม่ต้องสงสัยอะไรมาก

 

 

       และตลอดตั้งแต่ออกมาจากที่นั่น ที่สนามแข่งของไอ้ไฟท์มันทำให้ผมได้อะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน

 

 

       เพราะมันทำให้ผมได้รู้ว่าเพื่อนๆของผมเป็น‘ครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ’ และ เป็นเพื่อนที่ดีมาก และผมก็หวังว่าพวกเราจะรักกันมากขึ้นหลังจากนี้เพราะว่าอุปสรรคหลายๆอย่าง ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผมตั้งแต่ผมเจอกับแก้วมันก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จริงๆมันมีทั้ง ความรัก มิตรภาพ และอีกเยอะซึ่งผมเองก็บอกได้ไม่หมดหรอก

 

 

และสุดท้าย...ผมก็อยากจะพูดบอกกับทุกๆคนว่าขอบคุณมากๆนะครับที่อยู่ เคียงข้างผมมาตลอด จนถึงตอนนี้ ขอบคุณที่ช่วยผลักดันให้ผมได้รู้ถึงการใช้ชีวิตมากมาย และการเปิดใจลืมอดีตที่ผ่านมาแล้วพบกับเรื่องใหม่ๆ

 

 

       แล้วก็มีสิ่งหนึ่งที่ผมจะบอกกับทุกคนก็คือ... ทุกคนก็เป็นครอบครัวของผมเช่นกัน...รักมากมายนะครับ >_O!

 

___________________________________________________________พรุ่งนี้ตอบจบแล้วน้าาา ^^ เม้นกันหน่อยย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา