Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา
9.6
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.
43 chapter
860 วิจารณ์
67.51K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
29) - I Want To Closer You Again -
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ- I Want To Closer You Again -
( ผมต้องการใกล้ชิดคุณอีกครั้ง )
[ บันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
เช้าวันเสาร์
[ ไอ้ควายยยยยยยยยยยยยย ] >>> ป๊อปปี้
เสียงด่าของไอ้ป๊อปปี้ทำให้ผมต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูของตัวเองในทันที ทันใดที่ได้เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อคืนให้พวกมันพวกว่าแก้วโกรธผมมากกว่าเก่าเสียอีก ( แต่ผมไม่ได้บอกพวกมันว่าจูบแก้วไปนะ )ให้ตายเหอะ! เมื่อคืนผมกลับมาบ้านแม่ก็ตกใจเลยว่าไปทำอะไรมามือมีเลือด
ผมก็โกหกไปว่าฝนตกถนนลื่นสะดุดล้มและอีกบลาๆๆๆ = =;;;
และหลังจากแม่ทำแผลให้ผมเสร็จผมก็รีบวิ่งขึ้นห้องแล้วไปแอบส่องดูแก้วทันทีว่าเธอเป็นยังไงแต่ห้องเธอกลับปิดเงียบจนผมยิ่งรู้สึกผิดกับตัวเองมากๆว่าทำไมผมไม่พูดวะ!
ทำไมผมไม่บอกความในใจไป! >O<!
โกรธตัวเองฉิบ ><!
แต่ที่ผมไม่ได้พูดอะไรไปตอนนั้นเพราะผมเห็นว่าคนตรงหน้าผมกำลังร้องไห้หนักจนผมเห็นแล้วผมพูดอะไรไม่ออกเลยว่ะ เชื่อเลย! ถ้าตอนนั้นผมบอกชอบแก้วเธอต้องไม่เชื่อผมแน่ๆ ให้ตายเหอะ... ในตอนนั้นผมคิดจะทำคะแนนขอคืนดีโดยการไปรับแก้วให้กลับด้วยกันเพราะเห็นว่าฝนมันจะต้องตกแน่ๆ
แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้นอย่างที่ผมคิดเอาไว้เพราะว่าแก้วแทบไม่อยากเห็นหน้าผมเลยตอนนั้นผมสติแตกมากที่เธอวิ่งหนี และยิ่งสติแตกกว่าเมื่อเธอร้องไห้
[ โห่! พวกฉันอุตส่าห์ตื่นเช้ามาประชุมสายโทรหาแกหวังจะฟังข่าวดี ที่ไหนได้ ><! ] เขื่อนพูดขึ้น
ใช่! ผมรู้ว่าพวกมันคาดหวังกันมากเลยกับเรื่องนี้ แล้วก็หวังว่าผมจะทำมันสำเร็จ
“ก็เรื่องมันมาแบบนี้แล้วแกจะให้ฉันทำไง๊ ><?” ผมถามพวกมันที่ต่างก็ตื่นแต่เช้าเพื่อจะมาประชุมสายโทรหาผมฟังข่าวดี แต่ผมกลับทำให้พวกมันผิดหวัง
เฮ้อ...อยากขอโทษพวกมันหนักๆจริงๆ
[ ก็แกชอบใช้วิธีดราม่าเข้าง้ออ่ะ =O=;;; ] >>> เขื่อนบอก
“ยังไง = =;;;”
[ แบบง้อทีไรแก้วก็ร้องไห้ไง =[]=!] เสียงเคนตะดังแทรกขึ้นมาและนั่นแหละทำให้ผมถามมันสวนกลับไปทันที
“เอ๋าแล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าแบบไหนที่แก้วจะไม่ร้องไห้อ่ะ - -?” ผมถาม
และในตอนนั้นนั่นเองสายตาของผมที่กำลังเหม่อมองออกไปนอกระเบียงก็ดันไปเจอกับแก้วเข้า!
แล้วก็เห็นว่าตอนนี้แก้วเธอกำลังทำความสะอาดห้องนอนของตัวเองอยู่โดยไม่มีการ ที่จะหันมาสนใจห้องนอนผมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอนของเธอเลยแม้แต่นิด เดียว Y_Y เธอเห็นผมรึปล่าวเนี่ย? แกล้งเดินไปให้เห็นหน่อยดีมั้ยนะ? เมื่อผมคิดแบบนั้นผมก็ลุกขึ้นจากเตียงของตัวเองแล้วทำเดินไปเดินมาในห้องตัวเอง
กะว่าจะให้แก้วหันมาเห็นแล้วมองผมสักนิดก็ยังดี...
แต่ทว่า...
ครืด!!!
อ้าวเฮ้ย!!
ผิดแผนในทันทีทันใดเมื่อแก้วหันมามองทางผมเพียงแค่นิดเดียวก่อนที่เธอจะเดินมาเลื่อนผ้าม่านตรงระเบียงให้ปิดลง! และนั่นก็หมายความว่าผมนั้นหมดสิทธิ์ที่จะมองเห็นเธอแล้วอ่ะดิ!
อ๊าก!!! ยัยนั่นคงโกรธผมมากแน่ๆ>O<!!!
[ ไอ้โทโมะ!!!! ]
“เฮ้ย! ตกใจหมด ><!” ดูเหมือนว่าผมจะลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังคุยโทรศัพท์กับไอ้พวกนี้อยู่ พวกมันเลยเรียกผมซะเสียงดังจนผมสะดุ้งขึ้นมาเมื่อได้สติ “อะไรวะ?”
[ เมื่อกี้พวกฉันพูดแกได้ยินมั้ยเนี่ย? ]
“ฉันไม่เห็นได้ยินอะไรเลย= =?”
[ เอาแต่แอบมองสาวข้างบ้านอยู่ม้างงงง ]
“เงียบเลยไอ้ป๊อป = =;;;”
[ โว๊ะ! แซวก็ไม่ได้ กลัวเขินแก้มแดงเป็นลูกตำลึงรึไงวะ! ><!]
[ เฮ้ย! เงียบแบบไอ้จองเบบ้างดิ๊ฉันจะพูดกับไอ้โทโมะเว้ย>O<! ] >>> เขื่อน
[ นี่สรุปฉันประชุมสายมาฟังพวกแกทะเลาะกันรึไงวะ = =;;; ] ไอ้จองเบที่เงียบแล้วฟังพวกผมคุยอยู่นานถึงกับเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยใจ
“มีอะไรว่ามา”
[ เอางี้! แกลืมวีธีง้อแบบดราม่าๆไปเลย แล้วเอาวิธี ‘มุ้งมิ้ง’ เข้าแทรก! ] เมื่อเคนตะบอกผมถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันทันที
วะ...วิธีอะไรของมันนะ?
[ อะไรหมกมุ่นนะไอ้เคน =[]=? ]
[ หมกมุ่นบ้านป้าแกเด้! มุ้งมิ้งเว้ย! มุ้ง - มิ้งอ๊ะ! ]
“เดี๋ยวๆๆ มุ้งมิ้ง คืออะไรวะ = =?”
เพล้ง!!!
[ ... ]
ตอนนั้นหลังจากที่ผมพูดเหมือนผมได้ยินเสียงเพื่อนๆเคโอติคหลายคนหน้าแตกเป็นแถวแล้วเงียบกันไปราวกับจะบอกอะไรผมสักอย่าง เอ๋า! ก็ผมไม่รู้นี่หว่าว่ามันคืออะไร เพราะผมไม่ชอบเล่นพวกโซเชี่ยวอะไรพวกนี้ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ( วะ ) ครับ = =;;;
[ เอ่อ คุณเพื่อนโทโมะ คุณมึงนี่ก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยยยยย ] ไอ้เคนตะมันพูดบอกผมเป็นทำนองเพลงจนผมอดหมั่นไส้มันไม่ได้จนต้องกัดฟันตัวเอง
[ ไอ้โทโมะมันมึน! จะไปเอาอะไรกับม้านนนนน ] >>> ป๊อปปี้
“อะไรวะ แค่ไม่รู้นี่คือฉันผิดว่างั้น?”
[ ไอ้เขื่อน! มุ้งมิ้งนี่งานถนัดแก อธิบายให้ไอ้โทโมะมันฟังดิ๊ ] >>> ป๊อปปี้
[ มุ้งมิ้งมันก็คือความน่ารักอ่ะ ที่ไอ้เคนหมายถึงก็คืออยากให้มึงง้อแล้วก็ทำตัวน่ารักๆกับแก้วอ่ะ]
“โห...”
ผมถึงกับอุทานออกมาเมื่อเขื่อนอธิบายรวบรัดให้เสร็จสับ ในหัวตอนนั้นคิดเลยว่าคงจะยากอ่ะ เพราะว่าผมนี่ไม่ค่อยถูกกับไอ้ความน่ารักสักเท่าไหร่แล้วก็ตั้งแต่เกิดมานี่ ก็ยังไม่เคยทำซะด้วยสิ ><! ให้ตายเหอะ แล้ว...ผมจะต้องทำยังไงวะ =[]=?
ทำตาแบ๋วง้อแก้ว?
ยิ้มน่ารักๆ?
โอ๊ยยยยย แค่คิดภาพผมก็รู้สึกแปลกๆกับตัวเองแล้วอ่ะ >O<!!!
[ เดี๋ยว! ฉันขอถามอะไรไอ้โทโมะหน่อย พวกแกเงียบ! ] เขื่อนเอ่ยขึ้นอย่างทันควันจนผมกับเพื่อนๆที่เงียบต้องตั้งใจฟังมัน [ ไอ้โทโมะ แกไม่ต้องง้อแก้วแล้วแหละ ]
[ จะบ้าไง๊ไอเขื่อน!!! ] >>> เพื่อนที่เหลือ
[ ก็ฟังฉันก่อนดิเว้ย!! ] เขื่อนตะโกนบอกให้ไอ้พวกนั้นฟังในสิ่งที่มันจะพูดต่อไปนี้ [ ที่ฉันบอกไม่ให้แกง้ออ่ะเพราะว่าฉันอยากให้แก ‘จีบ’ แก้วมากกว่าว่ะ ]
“ฮะ?”
[ แกเคยจีบเขายัง? ]
“ยัง = =;;;”
[ งั้นแกจีบเลย! จีบด้วยวิธีที่ไม่ใช่การง้ออ่ะ เอาแบบนี้แหละ เชื่อฉัน!]
[ เออว่ะ ทำไมฉันไม่คิดแบบไอ้เขื่อนวะ =[]=! ]
[ เอิ่มมมม คือว่าฉันสมองดีกว่าแกป๊ะไอ้ป๊อป ]
[ ไอ้ห่านี่! เดี๋ยวฉันต่อยแกผ่านหน้าจอโทรศัพท์เลยดีมั้ยฮะ!? ]
[ ก็ลองเด้! ]
[ เฮ้ย! หยุดกัดกันได้มั้ยเนี่ย! ] ไอ้ จองเบพูดเสียงดังอย่างรำคาญจนไอ้เขื่อนกับไอ้ป๊อปปี้ต้องรีบหุบปากของตัวเองลงใน ทันใด เมื่อได้ยินไอ้จองเบพูดแบบนั้นก็อดที่จะขำออกมาหน่อยๆไม่ได้
[ ขำไรไอ้โทโมะ - -! ]
“ปล่าวๆ” ผมตอบไอ้เขื่อนแล้วพยายามกลั้นขำเอาไว้“เออ งั้นขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะเว้ย ^^”
[ ไม่เป็นไรเพื่อนกันมีอะไรก็ต้องช่วยกันดิวะ ]
“อืม แล้วฉันจะพยายามทำให้ได้ตามที่แกบอก”
[ ไม่จำเป็นต้องคิดว่าต้องทำให้ได้ก็ได้นะเว้ย แค่แกคิดว่าทำให้ดีเท่าที่แกจะทำได้ก็พอ >_O ]
[ บ๊ะ! คำคมเด็ดมาอีกแล้ว เดี๋ยวฉันหากระดาษจดแป๊ป ] ไอ้เคนตะพูดขึ้นหลังจากที่เขื่อนพูดจบและตอนนี้ผมก็คงเดาได้เลยว่ามันคงกำลังค้นหากระดาษขึ้นมาจดคำพูดของไอ้เขื่อนอยู่แหงๆ
ไอ้เคนตะก็เงี๊ยะ! ประจำแหละมันอ่ะ จดนู่นนี่นั่นเอาไว้หม้อสาว = =;;;
“ฉันไปแล้วนะเว้ย เชิญพวกแกประชุมสายเม้าท์มอยอะไรกันต่อไปเถอะนะ”
ติ๊ด!
ผมกดตัดสายก่อนจะโยนโทรศัพท์ของตัวเองลงบนเตียง แล้วคิดว่าจะทำไงดีนะเพราะว่าวันนี้แก้วต้องไปทำงานด้วยสิแล้วผมจะทำไงดีวะ เนี่ย ไม่รู้อ่ะ! แต่ผมก็ต้องงัดไม้เด็ดของตัวเองของมาให้จนด้แหละ! ><! ยิ่งคิดไปใจก็เต้นตุบตับไปเพราะกลัวว่าถ้าทำไปแล้วไม่ได้ผลล่ะ?
เฮ้อ... แต่อย่างว่า แก้วโกรธแบบนั้นคงยากอ่ะหากจะง้อ
ไม่สิ! ไอ้เขื่อนบอกให้ผมจีบแก้วนี่หว่า
จีบงั้นเหรอ...???
ตึกๆๆๆๆ
ฝีเท้าของผมที่วิ่งไปเปิดประตูห้องนอนตัวเองหลังจากที่คิดอะไรได้ใน หัวก่อนจะวิ่งลงบันไดไปยังชั้นล่างที่ตอนนี้แม่ก็ไปทำงานที่ร้านตัดเสื้อ แล้วส่วนพ่อก็ยังคงนั่งอ่านข่าวหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะกินข้าวและผมก็ตรง เข้าไปนั่งข้างๆบนทันที พร้อมกับสิ่งที่คิดอยู่ในหัวว่าเรื่องนี้แหละที่จะต้องถามพ่อ
เพราะพ่อเป็นผู้ชายที่น่าจะรู้เรื่องแบบนี้ได้ดีเลยแหละ ^^
“วันนี้ทำไมตื่นเช้าล่ะเนี่ย” พ่อผมถามยิ้มพลางพับหนังสือพิมพ์เก็บแล้วเอาวางไว้กับโต๊ะ “ปกติจะตื่นตอนที่พ่อกับแม่ไปทำงานแล้วนี่”
“ตื่นนานแล้วพ่อ แต่ผมคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่เลยไม่ได้ลงมา แล้วนี่...พ่อไม่ได้ไปทำงานเหรอ?”
“เนี่ยเดี๋ยวพ่อจะไปแล้ว” พ่อก้มดูนาฬิกาข้อมือแล้วเงยหน้าขึ้นมาบอกผมก่อนจะถามต่อ “แล้วนี่โทโมะมีอะไรจะคุยกับพ่อรึปล่าว?”พ่อผมถามแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ
ผมที่นั่งอยู่ใกล้ๆพ่อก็รู้สึกมือสั่นๆนิดหน่อยที่จะเอาเรื่องแบบนี้มาถาม พ่อ เพราะร้อยวันพันปีผมไม่เคยถามอะไรแบบนี้เลยเอาจริงๆ = =;;;
“เอ่อ...ผมมีเรื่องจะปรึกษาพ่ออ่ะ” พอผมบอกพ่อก็เลิกติ้วขึ้นนิดๆแล้วเอียงคอมองผมหน่อยๆ
“เรื่องอะไรล่ะ”
“คือ...ตอนที่พ่อจีบแม่ พ่อทำยังไงอ่ะ O_O?”
“โทโมะวันนี้ลูกเผลอไปกินยาผิดขนาดมารึปล่าวลูก???” พ่อผมพูดพลางมองผมอย่างไม่อยากเชื่อ
“ปล่าวครับพ่ออออ =[]=;;;”
“ก็เห็นร้อยวันพันปีไม่เคยถามพ่อเรื่องจีบสาวแล้วถามไปจะไปจีบใครเค้าล่ะ^^?”
“ก็...คนแถวนี้แหละครับ” ผมตอบไปแบบไม่ปิดบังจนพ่อถึงกับยิ้มล้อๆผม
เพราะคงรู้แหละว่าผมจะหมายถึงใครถ้าไม่ใช่...‘สาวข้างบ้านของตัวเอง’
“บ๊ะ! หนูแก้วเขาทำอะไรให้ลูกชอบเนี่ย แล้วนี่ชอบเขานานยัง? ทำไมพ่อดูไม่รู้เลยล่ะ O_O?”
“เอ่อ...ก็...”
“ชอบนานแล้วม้างแบบนี้ ^^”
“พ่ออย่าเพิ่งล้อดิ บอกผมก่อนว่าพ่อจีบแม่ยังไง ><!” ผมเอามือดึงแขนเสื้อพ่อให้บอกสักทีเมื่อพ่อเอาแต่มองผมยิ้มๆอยู่ได้><!
นี่ผมคิดถูกแล้วใช่มั้ยเนี่ยที่ถามพ่อ = =;;;
ใช่! ต้องถูกดิก็เขาเป็นพ่อผมนี่? ก็ต้องปรึกษาได้ดีอยู่แล้วใช่มั้ย?
“พ่อ เหรอ เอ่อตอนที่พ่อจีบแม่...พ่อก็...จะแอบตามแม่เขาเวลาที่เขาไปไหนแล้วพ่อก็จะ สังเกตว่าแม่เขาแวะซื้ออะไรบ่อยที่สุด สังเกตว่าเขาชอบอะไร แล้วพ่อก็จะซื้อของชิ้นนั้นไปวางไว้หน้าร้านแม่ทุกเช้าเลย ^^”
“แล้วไงต่อ”
“แล้วพ่อก็จะแอบมองแม่ว่าแม่เขาชอบของชิ้นนั้นรึปล่าว แต่พ่อไม่ได้ให้แม่เห็นพ่อนะ O_O!”
“อ้าว แล้วแม่เขาจะรู้ได้ไงว่าเป็นพ่ออ่ะ =[]=???”
“เพราะความรักของพ่อมันจะลอยไปบอกแม่เองไง ^^”
“พ่อ = =;;;”
“เอาน่า! ถ้าอยากจีบเขาก็ลองใช้วิธีพ่อดู แล้วจากนั้นวิธีของลูกมันก็จะมาเอง โตแล้วคิดเองบ้างสิ ตอนพ่อจีบแม่พ่อยังคิดเองเล้ย ><!” พ่อลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเอาแก้วกาแฟไปล้างก่อนจะเดินกลับมาตบหัวไหล่ผมเบาๆ “หนูแก้วน่ะน่ารักน้า ถ้าลูกจะลุยก็ลุยห้ามถอยเด็ดขาด เพราะพ่อเชียร์อยู่ ^^”
“แหม เชียร์กันจังนะ”ผมพูดออกมายิ้มๆก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าทำงานของพ่อที่วางอยู่ตรงโต๊ะนั่งเล่นหน้าทีวีแล้วเอามายื่นให้พ่อ“พ่อไปทำงานเถอะเดี๋ยวสาย”
“แหม พอได้วิธีการก็ไล่กันเลยนะ”พ่อผมบอกแล้วรับกระเป๋าที่ผมยื่นให้
“ไม่ได้ไล่ แต่ถ้าตรวจงานเสร็จช้าเดี๋ยวพ่อก็กลับมาไม่ทันกินข้าวเย็นกับแม่อ่ะดิ”
“อ่าๆๆ งั้นดูบ้านดีๆนะลูก จะไปไหนก็ล็อคบ้านด้วยนะ พ่อไปละ” “ครับผม”
แอ๊ด...ปึง...
หลังจากที่พ่อผมปิดประตูบ้านลงผมก็ยืนคิดอะไรอยู่สักพักก่อนจะหันหลังแล้ว รีบวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองในทันทีทันใดแล้วจากนั้นก็แอบมองไปยัง ห้องของแก้วที่ตอนนี้ยังคงไม่ยอมเปิดม่านตรงระเบียงเลย ให้ตายสิ นี่คิดจะปิดเป็นห้องปิดตายเลยรึไงกันนะ ><?
“เอาไงดีวะเนี่ย” ผมพูดแล้วเลื่อนประตูกระจกใสแล้วประตูเดินออกไปยืนนอกระเบียงพลางกวาดสายตามอง ไปยังด้านล่างแล้วมองข้ามรั้วบ้านตัวเองไปมองยังบ้านของแก้วและพอมองไปข้างล่างตรงสนามหญ้าที่เป็นสวนหลังบ้านของแก้ว
ผมก็เจอเธอจนได้!
วันนี้ร่างบางของเธออยู่ในชุดนอนลายมิกกี้เม้าส์เสื้อยีดกับกางเกงขาสั้นประมาณหัว เข่าอยู่เลยผมยาวๆสีน้ำตาลของเธอก็ถูกเอารวบขึ้นแล้วเหน็บด้วยกิ๊บหนีบผมแบบลวกๆและตอน นี้เธอก็เหมือนว่ากำลังจะมารดน้ำต้นไม้ล่ะมั้ง
“เอาวะ” ผมพูดบอกกับตัวเองแล้วคิดอย่างเด็ดขาดแล้วว่า
ครั้งนี้แหละ! ที่ผมจะทำให้ความรักของเธอกลับคืนมาหาผม และถ้ามันสำเร็จล่ะก็...ผมจะไม่ยอมปล่อยมันไปเด็ดขาด! ต่อให้แก้วจะมองว่าการกระทำของผมต่อจากนี้มันจะดูหน้าด้านกวนประสาทก็ตามทีเถ๊อะ!
แต่ขอบอกว่านิสัยแบบนั้นที่มันกำลังจะเกิดขึ้นนี้ของผม มันก็อยู่มานานแล้วแหละ เพียงแต่...ผมไม่ค่อยได้แสดงกิริยาอะไรแบบนั้นออกมาบ่อยนักเท่านั้นเอง แต่คราวนี้แหละ...
ผมจะปล่อยมันออกมาให้หมดเลย!
[ จบบันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
“พี่แก้วผมอยากรดน้ำต้นไม้ง่ะ =^=”
พิชชี่ที่กำลังยืนอยู่ตรงประตูหลังบ้านเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าฉันกำลังจะรดน้ำต้นไม้ที่สวนหลังบ้าน แต่ไม่มีทาง! คราวที่แล้วฉันจำได้เลยว่าให้พิชชี่ลองรดดูแล้วเจ้าตัวแสบนี่ดันฉีดน้ำเล่นจนฉันตัวเปียกไปหมด คราวนี้เลยเข็ดเลย= =;;;
“ไม่ต้องมาขอเลยพี่ไม่ให้สายยางนายหรอก”ฉันบอกอย่างเย็นชาก่อนจะเดินไปเปิดก๊อกน้ำใกล้ๆ
“ทำไมอ๊า >O<?”
“ก็ครั้งที่แล้วใครเล่นน้ำจนพี่ตัวเปียกกกกกก แต่เช้า?” ฉันหันไปบอกก่อนที่พิชชี่จะยืนกอดอกทำหน้ามุ่ยใส่
“แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ทำอีก สัญญาๆ ^O^//”
“พี่ไม่เชื่อ”
“โห่! พี่แก้วใจร้าย! ><!”
“เข้าบ้านไปเลยไป”
“ชิ! =^=”
พิชชี่ สะบัดหน้าแบบงอนๆก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านตามที่ฉันบอก ฉันก็ได้แต่มองตามหลังพิชชี่แล้วส่ายหัวเบาๆๆให้กับน้องชายจอมขี้งอนคนนี้ ก่อนจะเดินๆรดน้ำต้นไม้ดอกไม้หลังบ้านอย่างสบายใจคนเดียวเงียบๆพลางคิดอะไร ในหัวไปด้วยพลางๆ
และที่แน่ๆ ‘เรื่องเมื่อคืน’ มันอยู่ในหัวที่ฉันคิดด้วยสิ...
โชคดีที่พอกลับมาบ้านพ่อกับพิชชี่เข้านอนกันแล้วฉัน จึงไม่ต้องหาข้อแก้ตัวอะไรว่าทำไมถึงร้องไห้มาแบบนั้น และเรื่องเมื่อคืนก็ดันทำให้ฉันนอนไม่หลับเพราะขนาดอาบน้ำสระผมแล้วกินยาดัก ไข้เอาไว้แล้วนะ ยังไม่อยากจะนอนเลย คำพูดต่างๆของโทโมะมันอยู่ในหัวของฉันตลอดทั้งคืนจนถึงตอนนี้
มันก็ยังไม่จางหายไป...
สัมผัสนั้นที่โทโมะมอบให้ฉันล่ะสับสนจริงๆว่าเขาคิดอะไรอยู่ พอฉันถามก็ไม่ยอมตอบอะไรเลย นั่นแหละ! ที่ทำให้ฉันโกรธที่เขาไม่ยอมพูดอะไรให้ฉันเข้าใจเลยสักนิด เพราะฉันไม่อยากคิดไปเอง แล้วถ้าเขาคิดอะไรอยู่ทำไมถึงไม่พูดล่ะ
แต่ช่างเหอะ...
เพราะสรุปง่ายๆก็คือโทโมะไม่ได้คิดอะไรกับฉันเขาถึงไม่พูดอะไรยังไงล่ะ!
“เฮ้ๆๆๆ อย่าไปคิดถึงเขาสิ ><!” เมื่อตัวเองนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรคิดถึงโทโมะ ฉันจึงรีบเอามือขึ้นตีหัวตัวเองเบาๆแล้วรดน้ำต้นไม้ต่อด้วยความใจเย็น
แต่ทว่า...
“เฮ้!”
ขวับ!
จึก!
“...!”
ฉันถึงกับตกใจหน่อยๆเมื่อรดน้ำต้นไม้อยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกมา จากรั้วบ้านของโทโมะ และที่ตกใจไปกว่านั้นก็เพราะว่าเสียงนั้นก็คือโทโมะนั่นเอง และตอนนี้เขากำลังเกาะกำแพงรั้วบ้านสีขาวของตัวเองแล้วมองมาที่ฉันยิ้มๆ อะไรของเขา = =;;;
แล้วเขาเรียกฉันทำไมกันล่ะเนี่ย?
แต่ถึงกระนั้นฉันก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วหันไปสนใจกับการรดดอกกุหลาบกับ เบญจมาศต่อทำเหมือนว่าเมื่อกี้ไม่ได้เห็นโทโมะ ทำไมเหมือนเขาไม่มีตัวตนไปเล้ย! จะได้รู้ซะบ้างว่าการถูกเมินมันเป็นยังไง
ก็เหมือนตอนแรกๆที่เขาเมินฉันนั่นแหละ!
ตอนนั้นทำเย็นชาใสไม่สนใจ พอมาตอนนี้เหมือนอะไรก็ไม่รู้ นิสัยแปลกจนเดาไม่ออกจริงๆเลยผู้ชายคนนี้ เฮ้อ! อยากจะบ้าตาย! เก็บสายยางเดินหนีเข้าบ้านเลยดีมั้ย? แต่ไม่สิ...ทำแบบนั้นเดี๋ยวเขาจะหาว่าฉันงอนอะไรเขาและยังใส่ใจเขาอยู่น่ะสิ
ฉะนั้น! ทำเฉยๆไว้ดีกว่า
ก็เขารู้แล้วนี่ว่าฉันชอบเขา เห๊อะ! รู้แล้วไงต่ออ่ะ ฉันแพ้งั้นสิ? ที่ยอมรับว่าตัวเองชอบเขาและยังลืมเขาไม่ได้เพราะมันยากที่จะลืม โอ๊ย! ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นไปเลยจริงๆเพราะยิ่งทำให้วีได้ใจกว่าเก่าอยากจะเอาชนะฉันอีกน่ะสิ
“...”
“เฮ้! ฉันเรียกไม่ได้ยินรึไง?”
เขาเรียกฉันเหรอ? ไม่เห็นเอ่ยชื่อนิ?
แต่ถึงเอ่ยชื่อฉันก็ไม่สน! เพราะฉันไม่ขอให้เขามาปีนเกาะกำแพงเรียกฉันนี่นา ใช่มั้ย?
“...”
“นี่ถ้าเธอไม่พูดเพราะโกรธเรื่องเมื่อคืนที่ฉัน...!”
ขวับ!
“- -!” ฉันรีบหันไปมองโทโมะด้วยสายตาดุๆเพื่อไม่ให้เขาพูดถึงเรื่องเมื่อคืนเพราะดูเหมือนว่าเขาจะจงใจพูดเสียงดังกวนประสาทฉัน
แล้วถ้าพิชชี่ดันเดินมาหลังบ้านแล้วได้ยินแล้วเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพ่อเรื่อง มันต้องยาวแน่ๆ และฉันก็ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ด้วย แต่โทโมะเนี่ยสิทำไมต้องพูดเสียงดังด้วย เหมือนว่าเขาจงใจอยากจะให้ใครรู้เลยอย่างงั้นแหละ >O<!
“นี่! คุยกับฉันหน่อยสิ ><!” โทโมะบอกเมื่อเห็นว่าฉันเมินเขาอีกรอบ “แก้ว!”
“...”
พูดไปคนเดียวเถอะ! ชิ!
“แล้วปากเธอน่ะมีแผลรึปล่าวอ่ะที่ฉันจูบอ่ะ!”
“นาย...!!!” ฉันหันไปยังไม่ทันด่าโทโมะจู่ๆเสียงของพ่อก็ดังขึ้น!
“เสียงเอะอะอะไรล่ะแก้วเอ้ย”
เฮือก!!!
ซวยแล้วพ่อมา!
ซ่า!
“เฮ้ย!” โทโมะถึงกับตกกำแพงไปทันทีเมื่อฉันหันไปฉีดน้ำใส่เขาเพราะว่าพ่อกำลังเดินมาหลังบ้านแล้วไม่รู้ว่าโทโมะจะพูดอะไรบ้าๆอีกรึปล่าว
เขา...!!! ทำไมเขาถึงพูดแบบนั้นเนี่ย! ><///////
‘ แล้วปากเธอมีแผลรึปล่าวอ่ะที่ฉันจูบอ่ะ!’
แผลงั้นเหรอ?! โทโมะบ้า! ฉันไม่ได้คิดถึงจูบเขา อย่าคิดนะแก้วๆๆๆ อย่าคิ๊ดดดดดดดดด
“เมื่อกี้เสียงเอะอะอะไรอ่ะลูก O_O?” พ่อถามเมื่อเดินมาหลังบ้านแล้วชะเง้อมแงหาต้นตอของเสียง
“อ๋อ เสียงหมาเห่าน่ะพ่อ” ฉันบอก
แต่เหมือนกับมีความรู้สึกว่ามีคนกำลังแอบฟัง อยู่ด้วย และถ้าให้เดาโทโมะคงจะเจ็บใจที่ฉันหลอกด่าเขาอยู่แน่ๆ และตอนนี้ตัวของเขาก็คงจะเปียกโชกเลยล่ะ สม! ก็ถือว่าเป็นการแก้แค้นอะไรกลับคืนไปบ้างถึงแม้มันจะน้อยนิดกับที่โทโมะทำไว้กับฉันก็เถอะ!
“หมา?” พ่อถามแล้วขมวดคิ้วงงๆ
อ่าห้ะ! ก็เพราะปกติไม่เคยมีเสียงหมาเห่าแถวๆนี้ยังไงล่ะพ่อเลยงงๆ คิๆ ก็มันไม่ใช่หมาไงพ่อ! มันคือไอ้คนข้างบ้านเราเนี่ยแหละ ^^
“อื้ม! หมา ^^”
“อ่าๆๆ งั้นรถน้ำเสร็จก็ไปอาบน้ำอาบท่าซะนะเดี๋ยวเพื่อนมารับไปทำงานไม่ใช่เหรอ?”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้าบอกพ่อ พ่อจึงเดินเข้าบ้านไปเท่านั้นแหละฉันจึงชะเง้อหน้ามองไปยังกำแพงบ้านโทโมะที่ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาแล้ว
เห๊อะ! สงสัยโดนน้ำฉีดแล้วเข้าบ้านไปแล้วล่ะม้างงงงง
“คิก...”
“ขำอะไร = =?”
ขวับ!
O_O!!!
เย้ยยยยยยย นี่โทโมะเขาปีนมาเกาะกำแพงเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่อีกเนี่ย?
ให้ตายสิกำลังหัวเราะเยาะเลย ><!
“...”
“แล้วเมื่อกี้ด่าใครหมา?”
ด่านายไง :P
“...”ฉัน เงียบแล้วเดินทำรดน้ำสบายใจแต่ทว่าฝั่งสุดท้ายที่รดเป็นฝั่งตรงกำแพงบ้านโทโมะ เนี่ยสิฉันจึงต้องหันหน้าไปทางเขาแต่ก็ก้มหน้ารดน้ำต้นไม้ไม่สนใจโทโมะอยู่ดี
“ทำมึนใส่เหรอ?” เขาเค้นเสียงถาม
“...”
“นี่...ถ้าไม่พูดกับฉัน ฉันจะไปบอกพ่อเธอว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น”
“นี่!”
ดูเหมือนว่าคำพูดโทโมะมันกวนประสาทฉันจนฉันทนไม่ไหวกับสิ่งที่เขาพูด พอเงยหน้าขึ้นไปมองโทโมะก็ยิ้มกวนๆมาให้ในแบบที่ฉันไม่เคยมาก่อนแถมเขายังเอา มือเสยผมที่เปียกๆของเขาด้วยและนั่นแหละทำให้ฉันเห็นมือข้างหนึ่งของเขาที่ ถูกพันด้วยผ้าพันแผลแต่เห็นแบบนั้นฉันใจอ่อนพูดดีๆกับเขาไม่ลงหรอก
และวันนี้ทำไมเขากวนประสาทได้ดีจังนะ...
ฉันฉีดน้ำใส่เขาอีกรอบดีมั้ย?
“และถ้าเธอฉีดน้ำใส่ฉันอีก ฉันจะเล่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับ ‘เรื่องของเรา’ ให้หมดเลย”โทโมะพูดขู่พลางชี้นิ้วใส่ฉันที่กำลังจะฉีดน้ำใส่เขาอีกรอบเหมือนเป็นคำขาด “หรือจะฉีดก็ได้นะ^^ พ่อเธอจะได้รู้ไงว่าเธอคิดยังไงกับฉัน เธอว่าดีมั้ยล่ะ?.”
“กวนประสาท...” ฉันบ่นอุบอิบก่อนจะก้มลงรดน้ำต้นไม้เงียบๆ
แต่ในใจตอนนี้มันแปลกๆยังไม่รู้ที่อยู่ดีๆโทโมะมาทำแปลกๆใส่ แถมคำพูดของเขามัน...ยังไงๆอยู่นะ เฮ้อ! ใครก็ได้บอกทีว่าผู้ชายคนนี้เขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่ ทำไมเขาถึงต้องมากวนประสาทใส่ฉันแต่เช้าด้วย ไม่เข้าใจ!
ไม่ได้ชอบก็ไม่ต้องมาทำให้ฉันหวั่นไหวอีกครั้งจะได้มั้ย?
“ถึงฉันจะกวนประสาทแต่ยังไงซะ เธอก็บอกว่าชอบฉันจนยากที่จะลืมแล้ว ^^”
นั่น! เขากำลังพูดเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้ชนะอยู่ด้วย ><!
ฮึ่ย! รู้งี้ฉันไม่ยอมรับหรอกว่าตัวเองยังไม่สามารถลืมเขาได้ปล่อยให้โทโมะคิดไปคนเดียวจะดีกว่า อ๊าก! เจ็บใจ!
“...”
“นี่เงียบประชดหรือยังไง= =?” โทโมะถามเมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่เงียบ เงียบ แล้วก็เงียบ = =;;;
“...”
“นี่! ฉันบอกแล้วนะว่าถ้าเธอไม่พูดกับฉัน...”
“เราอยากรดน้ำต้นไม้เงียบๆ ถ้านายจะมากวนเราก็กลับเข้าบ้านนายไปเลยไป” ฉันเงยหน้าขึ้นไปบอกโทโมะอย่างเซ็งๆ
และนั่นแหละ! ที่ทำให้โทโมะถึงกับเหยียดยิ้มอย่างมีเลศนัยอะไรบางอย่าง อะไรของเขา = =;;; หรือว่าเมื่อคืนเขาตากฝนจนป่วยไข้ขึ้นแล้วก็ประสาทกินไปแล้ว เอ๊ะ? แต่อาจจะใช่ก็ได้นะ! ไม่งั้นเขาคงไม่มีท่าทีกวนกันแบบนี้หรอก ว่ามั้ย?
แต่ ว่าทำไมฉันเห็นรอยยิ้มของโทโมะแล้วมันทำให้ฉันต้องหลุบสายตาลงต่ำก็ไม่รู้ สิ คงจะเป็นเพราะ...ฉันไม่เคยเห็นเค้ายิ้มแบบนี้ล่ะมั้ง?
พอเห็นแล้วมันก็...ก็...ก็ไม่รู้สิ! >/////////<
“ไปหลงตัวเองไกลๆไป” ฉันไล่อย่างเย็นชาเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับโทโมะดี ในใจก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่
“หลงตัวเองที่ไหนก็พูดเรื่องจริง”เขาเถียงกลับมาก่อนจะพูดด้วยคำพูดต่อไปที่มันทำให้ฉันเริ่มหายใจติดขัด “แล้วที่เธอก้มหน้าอ่ะเธอกำลังเขินฉัน ^^”
“เราปล่าว” ฉันถียงไปอย่างทันควันแต่ก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองโทโมะอยู่ดี
“โกหก”
“จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะเพราะเราเบื่อที่จะคุยกับนายแล้ว”ฉันบอกไปอย่างสุดทนพร้อมกับถอนหายใจออกมาแรงๆ
แล้วก็อยากจะรู้นะว่าเขาเหนื่อยมั้ย? ที่อุตส่าห์ปีนมาเกาะกำแพงซึ่งมันก็สูงพออยู่เพื่อที่จะมาพูดกวนประสาทฉันเนี่ย = =?
“ถึงเธอไม่พูดกับฉัน ฉันก็จะพูดกับเธอแบบนี้แหละ” โทโมะบอกเสียงนิ่ง
“...”
“ฉันรู้น้า ว่าในใจเธอคิดถึงฉันตลอดเวลา”
“เข้าข้างตัวเอง” ฉันพูดพลางเบ้ปากอย่างหมั่นไส้โทโมะ
“ก็ฉันพูดถูก”
หลงตัวเอง!
“อย่ามาเถียงในใจเพราะเธอก็รู้ว่าฉันพูดถูก” คำพูดนั้นของโทโมะทำให้ฉันหยุดชะงักไปแต่ก็ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองเขาอยู่ดีและตอนนี้หัวใจของตัวเองก็เริ่มเต้นแรงขึ้นๆ “แถมฉันรู้หมดแล้วด้วยว่าฉันเป็น ‘รักแรก’ ของเธอ และที่สำคัญฉันก็ดีใจ...”
“...”
“...ที่ได้ครอบครองในสิ่งที่ไม่มีใครเคยได้...นั่นก็คือ...ริมฝีปากของเธอ...”
“...”
หลัง จากที่โทโมะพูดจบฉันก็เงยหน้าขึ้นมองดูแต่ทว่า...เขากลับไปได้เกาะอยู่ตรงกำแพง ของบ้านเขาแล้ว และแถมยังทิ้งคำพูดสุดท้ายเอาไว้ฉันยืนเงียบงันอยู่อย่างงั้นพร้อมกับหัวใจ ที่ตอนนี้มันเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง และจู่ๆเมื่อคิดถึงคำพูดของโทโมะฉันก็ยกมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเองเบาๆ พร้อมกับ...
‘ ยอมรับซะเถอะ.... ว่าเธอหลงรักฉันจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว...’
คำพูดเมื่อคืนนี้...
ทำไม...โทโมะเขาถึงพูดแบบนั้นนะ...
ตอนนี้มีหลายคำถามซึ่งฉันไม่รู้ว่ามันใช่อย่างที่ฉันเริ่มจะคิดในตอนนี้ มั้ย... แต่ฉันก็ยังไม่อยากปักใจเชื่อหรอกว่าโทโมะชอบฉันจริงๆ เพราะไม่อยากหวังเหมือนครั้งนั้นจนตัวเองเจ็บ แต่ให้ตายสิพระเจ้า! ท่านช่วยบอกให้ลูกรู้ทีเถอะว่าทำไมผ้ายคนนั้นเขาถึงทำแบบนี้ เขาคิดอะไรกับลูกกันแน่?
และถ้าเขารู้สึกอะไรกับลูกจริงๆทำไมเขาถึง...ไม่บอก...หรือว่าเขามีเหตุผลอะไรที่ไม่พูด
หรือว่า...ที่โทโมะไม่ยอมพูดออกมากับฉันตรงๆเพราะฉันเป็นคนที่ทำให้เขาไม่อยากจะพูดออกมารึปล่าวนะ? เฮ้อ! ช่างมันเถอะถ้ามันจะสับสนขนาดนี้ ><!
อย่าหวั่นไหวน้าแก้ววววววว เธอบอกตัวเองไว้แล้วไม่ใช่รึไง? ฉะนั้นเธอต้องทำให้ได้สิ!
...อย่าผิดสัญญากับตัวเองสิ...
___________________________________________________
อัพแล้วนะค่ะ อัพช้านิดนึงขอโทษนะ
เม้นกันหน่อยยย><
( ผมต้องการใกล้ชิดคุณอีกครั้ง )
[ บันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
เช้าวันเสาร์
[ ไอ้ควายยยยยยยยยยยยยย ] >>> ป๊อปปี้
เสียงด่าของไอ้ป๊อปปี้ทำให้ผมต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูของตัวเองในทันที ทันใดที่ได้เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อคืนให้พวกมันพวกว่าแก้วโกรธผมมากกว่าเก่าเสียอีก ( แต่ผมไม่ได้บอกพวกมันว่าจูบแก้วไปนะ )ให้ตายเหอะ! เมื่อคืนผมกลับมาบ้านแม่ก็ตกใจเลยว่าไปทำอะไรมามือมีเลือด
ผมก็โกหกไปว่าฝนตกถนนลื่นสะดุดล้มและอีกบลาๆๆๆ = =;;;
และหลังจากแม่ทำแผลให้ผมเสร็จผมก็รีบวิ่งขึ้นห้องแล้วไปแอบส่องดูแก้วทันทีว่าเธอเป็นยังไงแต่ห้องเธอกลับปิดเงียบจนผมยิ่งรู้สึกผิดกับตัวเองมากๆว่าทำไมผมไม่พูดวะ!
ทำไมผมไม่บอกความในใจไป! >O<!
โกรธตัวเองฉิบ ><!
แต่ที่ผมไม่ได้พูดอะไรไปตอนนั้นเพราะผมเห็นว่าคนตรงหน้าผมกำลังร้องไห้หนักจนผมเห็นแล้วผมพูดอะไรไม่ออกเลยว่ะ เชื่อเลย! ถ้าตอนนั้นผมบอกชอบแก้วเธอต้องไม่เชื่อผมแน่ๆ ให้ตายเหอะ... ในตอนนั้นผมคิดจะทำคะแนนขอคืนดีโดยการไปรับแก้วให้กลับด้วยกันเพราะเห็นว่าฝนมันจะต้องตกแน่ๆ
แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้นอย่างที่ผมคิดเอาไว้เพราะว่าแก้วแทบไม่อยากเห็นหน้าผมเลยตอนนั้นผมสติแตกมากที่เธอวิ่งหนี และยิ่งสติแตกกว่าเมื่อเธอร้องไห้
[ โห่! พวกฉันอุตส่าห์ตื่นเช้ามาประชุมสายโทรหาแกหวังจะฟังข่าวดี ที่ไหนได้ ><! ] เขื่อนพูดขึ้น
ใช่! ผมรู้ว่าพวกมันคาดหวังกันมากเลยกับเรื่องนี้ แล้วก็หวังว่าผมจะทำมันสำเร็จ
“ก็เรื่องมันมาแบบนี้แล้วแกจะให้ฉันทำไง๊ ><?” ผมถามพวกมันที่ต่างก็ตื่นแต่เช้าเพื่อจะมาประชุมสายโทรหาผมฟังข่าวดี แต่ผมกลับทำให้พวกมันผิดหวัง
เฮ้อ...อยากขอโทษพวกมันหนักๆจริงๆ
[ ก็แกชอบใช้วิธีดราม่าเข้าง้ออ่ะ =O=;;; ] >>> เขื่อนบอก
“ยังไง = =;;;”
[ แบบง้อทีไรแก้วก็ร้องไห้ไง =[]=!] เสียงเคนตะดังแทรกขึ้นมาและนั่นแหละทำให้ผมถามมันสวนกลับไปทันที
“เอ๋าแล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าแบบไหนที่แก้วจะไม่ร้องไห้อ่ะ - -?” ผมถาม
และในตอนนั้นนั่นเองสายตาของผมที่กำลังเหม่อมองออกไปนอกระเบียงก็ดันไปเจอกับแก้วเข้า!
แล้วก็เห็นว่าตอนนี้แก้วเธอกำลังทำความสะอาดห้องนอนของตัวเองอยู่โดยไม่มีการ ที่จะหันมาสนใจห้องนอนผมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอนของเธอเลยแม้แต่นิด เดียว Y_Y เธอเห็นผมรึปล่าวเนี่ย? แกล้งเดินไปให้เห็นหน่อยดีมั้ยนะ? เมื่อผมคิดแบบนั้นผมก็ลุกขึ้นจากเตียงของตัวเองแล้วทำเดินไปเดินมาในห้องตัวเอง
กะว่าจะให้แก้วหันมาเห็นแล้วมองผมสักนิดก็ยังดี...
แต่ทว่า...
ครืด!!!
อ้าวเฮ้ย!!
ผิดแผนในทันทีทันใดเมื่อแก้วหันมามองทางผมเพียงแค่นิดเดียวก่อนที่เธอจะเดินมาเลื่อนผ้าม่านตรงระเบียงให้ปิดลง! และนั่นก็หมายความว่าผมนั้นหมดสิทธิ์ที่จะมองเห็นเธอแล้วอ่ะดิ!
อ๊าก!!! ยัยนั่นคงโกรธผมมากแน่ๆ>O<!!!
[ ไอ้โทโมะ!!!! ]
“เฮ้ย! ตกใจหมด ><!” ดูเหมือนว่าผมจะลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังคุยโทรศัพท์กับไอ้พวกนี้อยู่ พวกมันเลยเรียกผมซะเสียงดังจนผมสะดุ้งขึ้นมาเมื่อได้สติ “อะไรวะ?”
[ เมื่อกี้พวกฉันพูดแกได้ยินมั้ยเนี่ย? ]
“ฉันไม่เห็นได้ยินอะไรเลย= =?”
[ เอาแต่แอบมองสาวข้างบ้านอยู่ม้างงงง ]
“เงียบเลยไอ้ป๊อป = =;;;”
[ โว๊ะ! แซวก็ไม่ได้ กลัวเขินแก้มแดงเป็นลูกตำลึงรึไงวะ! ><!]
[ เฮ้ย! เงียบแบบไอ้จองเบบ้างดิ๊ฉันจะพูดกับไอ้โทโมะเว้ย>O<! ] >>> เขื่อน
[ นี่สรุปฉันประชุมสายมาฟังพวกแกทะเลาะกันรึไงวะ = =;;; ] ไอ้จองเบที่เงียบแล้วฟังพวกผมคุยอยู่นานถึงกับเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยใจ
“มีอะไรว่ามา”
[ เอางี้! แกลืมวีธีง้อแบบดราม่าๆไปเลย แล้วเอาวิธี ‘มุ้งมิ้ง’ เข้าแทรก! ] เมื่อเคนตะบอกผมถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันทันที
วะ...วิธีอะไรของมันนะ?
[ อะไรหมกมุ่นนะไอ้เคน =[]=? ]
[ หมกมุ่นบ้านป้าแกเด้! มุ้งมิ้งเว้ย! มุ้ง - มิ้งอ๊ะ! ]
“เดี๋ยวๆๆ มุ้งมิ้ง คืออะไรวะ = =?”
เพล้ง!!!
[ ... ]
ตอนนั้นหลังจากที่ผมพูดเหมือนผมได้ยินเสียงเพื่อนๆเคโอติคหลายคนหน้าแตกเป็นแถวแล้วเงียบกันไปราวกับจะบอกอะไรผมสักอย่าง เอ๋า! ก็ผมไม่รู้นี่หว่าว่ามันคืออะไร เพราะผมไม่ชอบเล่นพวกโซเชี่ยวอะไรพวกนี้ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ( วะ ) ครับ = =;;;
[ เอ่อ คุณเพื่อนโทโมะ คุณมึงนี่ก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยยยยย ] ไอ้เคนตะมันพูดบอกผมเป็นทำนองเพลงจนผมอดหมั่นไส้มันไม่ได้จนต้องกัดฟันตัวเอง
[ ไอ้โทโมะมันมึน! จะไปเอาอะไรกับม้านนนนน ] >>> ป๊อปปี้
“อะไรวะ แค่ไม่รู้นี่คือฉันผิดว่างั้น?”
[ ไอ้เขื่อน! มุ้งมิ้งนี่งานถนัดแก อธิบายให้ไอ้โทโมะมันฟังดิ๊ ] >>> ป๊อปปี้
[ มุ้งมิ้งมันก็คือความน่ารักอ่ะ ที่ไอ้เคนหมายถึงก็คืออยากให้มึงง้อแล้วก็ทำตัวน่ารักๆกับแก้วอ่ะ]
“โห...”
ผมถึงกับอุทานออกมาเมื่อเขื่อนอธิบายรวบรัดให้เสร็จสับ ในหัวตอนนั้นคิดเลยว่าคงจะยากอ่ะ เพราะว่าผมนี่ไม่ค่อยถูกกับไอ้ความน่ารักสักเท่าไหร่แล้วก็ตั้งแต่เกิดมานี่ ก็ยังไม่เคยทำซะด้วยสิ ><! ให้ตายเหอะ แล้ว...ผมจะต้องทำยังไงวะ =[]=?
ทำตาแบ๋วง้อแก้ว?
ยิ้มน่ารักๆ?
โอ๊ยยยยย แค่คิดภาพผมก็รู้สึกแปลกๆกับตัวเองแล้วอ่ะ >O<!!!
[ เดี๋ยว! ฉันขอถามอะไรไอ้โทโมะหน่อย พวกแกเงียบ! ] เขื่อนเอ่ยขึ้นอย่างทันควันจนผมกับเพื่อนๆที่เงียบต้องตั้งใจฟังมัน [ ไอ้โทโมะ แกไม่ต้องง้อแก้วแล้วแหละ ]
[ จะบ้าไง๊ไอเขื่อน!!! ] >>> เพื่อนที่เหลือ
[ ก็ฟังฉันก่อนดิเว้ย!! ] เขื่อนตะโกนบอกให้ไอ้พวกนั้นฟังในสิ่งที่มันจะพูดต่อไปนี้ [ ที่ฉันบอกไม่ให้แกง้ออ่ะเพราะว่าฉันอยากให้แก ‘จีบ’ แก้วมากกว่าว่ะ ]
“ฮะ?”
[ แกเคยจีบเขายัง? ]
“ยัง = =;;;”
[ งั้นแกจีบเลย! จีบด้วยวิธีที่ไม่ใช่การง้ออ่ะ เอาแบบนี้แหละ เชื่อฉัน!]
[ เออว่ะ ทำไมฉันไม่คิดแบบไอ้เขื่อนวะ =[]=! ]
[ เอิ่มมมม คือว่าฉันสมองดีกว่าแกป๊ะไอ้ป๊อป ]
[ ไอ้ห่านี่! เดี๋ยวฉันต่อยแกผ่านหน้าจอโทรศัพท์เลยดีมั้ยฮะ!? ]
[ ก็ลองเด้! ]
[ เฮ้ย! หยุดกัดกันได้มั้ยเนี่ย! ] ไอ้ จองเบพูดเสียงดังอย่างรำคาญจนไอ้เขื่อนกับไอ้ป๊อปปี้ต้องรีบหุบปากของตัวเองลงใน ทันใด เมื่อได้ยินไอ้จองเบพูดแบบนั้นก็อดที่จะขำออกมาหน่อยๆไม่ได้
[ ขำไรไอ้โทโมะ - -! ]
“ปล่าวๆ” ผมตอบไอ้เขื่อนแล้วพยายามกลั้นขำเอาไว้“เออ งั้นขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะเว้ย ^^”
[ ไม่เป็นไรเพื่อนกันมีอะไรก็ต้องช่วยกันดิวะ ]
“อืม แล้วฉันจะพยายามทำให้ได้ตามที่แกบอก”
[ ไม่จำเป็นต้องคิดว่าต้องทำให้ได้ก็ได้นะเว้ย แค่แกคิดว่าทำให้ดีเท่าที่แกจะทำได้ก็พอ >_O ]
[ บ๊ะ! คำคมเด็ดมาอีกแล้ว เดี๋ยวฉันหากระดาษจดแป๊ป ] ไอ้เคนตะพูดขึ้นหลังจากที่เขื่อนพูดจบและตอนนี้ผมก็คงเดาได้เลยว่ามันคงกำลังค้นหากระดาษขึ้นมาจดคำพูดของไอ้เขื่อนอยู่แหงๆ
ไอ้เคนตะก็เงี๊ยะ! ประจำแหละมันอ่ะ จดนู่นนี่นั่นเอาไว้หม้อสาว = =;;;
“ฉันไปแล้วนะเว้ย เชิญพวกแกประชุมสายเม้าท์มอยอะไรกันต่อไปเถอะนะ”
ติ๊ด!
ผมกดตัดสายก่อนจะโยนโทรศัพท์ของตัวเองลงบนเตียง แล้วคิดว่าจะทำไงดีนะเพราะว่าวันนี้แก้วต้องไปทำงานด้วยสิแล้วผมจะทำไงดีวะ เนี่ย ไม่รู้อ่ะ! แต่ผมก็ต้องงัดไม้เด็ดของตัวเองของมาให้จนด้แหละ! ><! ยิ่งคิดไปใจก็เต้นตุบตับไปเพราะกลัวว่าถ้าทำไปแล้วไม่ได้ผลล่ะ?
เฮ้อ... แต่อย่างว่า แก้วโกรธแบบนั้นคงยากอ่ะหากจะง้อ
ไม่สิ! ไอ้เขื่อนบอกให้ผมจีบแก้วนี่หว่า
จีบงั้นเหรอ...???
ตึกๆๆๆๆ
ฝีเท้าของผมที่วิ่งไปเปิดประตูห้องนอนตัวเองหลังจากที่คิดอะไรได้ใน หัวก่อนจะวิ่งลงบันไดไปยังชั้นล่างที่ตอนนี้แม่ก็ไปทำงานที่ร้านตัดเสื้อ แล้วส่วนพ่อก็ยังคงนั่งอ่านข่าวหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะกินข้าวและผมก็ตรง เข้าไปนั่งข้างๆบนทันที พร้อมกับสิ่งที่คิดอยู่ในหัวว่าเรื่องนี้แหละที่จะต้องถามพ่อ
เพราะพ่อเป็นผู้ชายที่น่าจะรู้เรื่องแบบนี้ได้ดีเลยแหละ ^^
“วันนี้ทำไมตื่นเช้าล่ะเนี่ย” พ่อผมถามยิ้มพลางพับหนังสือพิมพ์เก็บแล้วเอาวางไว้กับโต๊ะ “ปกติจะตื่นตอนที่พ่อกับแม่ไปทำงานแล้วนี่”
“ตื่นนานแล้วพ่อ แต่ผมคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่เลยไม่ได้ลงมา แล้วนี่...พ่อไม่ได้ไปทำงานเหรอ?”
“เนี่ยเดี๋ยวพ่อจะไปแล้ว” พ่อก้มดูนาฬิกาข้อมือแล้วเงยหน้าขึ้นมาบอกผมก่อนจะถามต่อ “แล้วนี่โทโมะมีอะไรจะคุยกับพ่อรึปล่าว?”พ่อผมถามแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ
ผมที่นั่งอยู่ใกล้ๆพ่อก็รู้สึกมือสั่นๆนิดหน่อยที่จะเอาเรื่องแบบนี้มาถาม พ่อ เพราะร้อยวันพันปีผมไม่เคยถามอะไรแบบนี้เลยเอาจริงๆ = =;;;
“เอ่อ...ผมมีเรื่องจะปรึกษาพ่ออ่ะ” พอผมบอกพ่อก็เลิกติ้วขึ้นนิดๆแล้วเอียงคอมองผมหน่อยๆ
“เรื่องอะไรล่ะ”
“คือ...ตอนที่พ่อจีบแม่ พ่อทำยังไงอ่ะ O_O?”
“โทโมะวันนี้ลูกเผลอไปกินยาผิดขนาดมารึปล่าวลูก???” พ่อผมพูดพลางมองผมอย่างไม่อยากเชื่อ
“ปล่าวครับพ่ออออ =[]=;;;”
“ก็เห็นร้อยวันพันปีไม่เคยถามพ่อเรื่องจีบสาวแล้วถามไปจะไปจีบใครเค้าล่ะ^^?”
“ก็...คนแถวนี้แหละครับ” ผมตอบไปแบบไม่ปิดบังจนพ่อถึงกับยิ้มล้อๆผม
เพราะคงรู้แหละว่าผมจะหมายถึงใครถ้าไม่ใช่...‘สาวข้างบ้านของตัวเอง’
“บ๊ะ! หนูแก้วเขาทำอะไรให้ลูกชอบเนี่ย แล้วนี่ชอบเขานานยัง? ทำไมพ่อดูไม่รู้เลยล่ะ O_O?”
“เอ่อ...ก็...”
“ชอบนานแล้วม้างแบบนี้ ^^”
“พ่ออย่าเพิ่งล้อดิ บอกผมก่อนว่าพ่อจีบแม่ยังไง ><!” ผมเอามือดึงแขนเสื้อพ่อให้บอกสักทีเมื่อพ่อเอาแต่มองผมยิ้มๆอยู่ได้><!
นี่ผมคิดถูกแล้วใช่มั้ยเนี่ยที่ถามพ่อ = =;;;
ใช่! ต้องถูกดิก็เขาเป็นพ่อผมนี่? ก็ต้องปรึกษาได้ดีอยู่แล้วใช่มั้ย?
“พ่อ เหรอ เอ่อตอนที่พ่อจีบแม่...พ่อก็...จะแอบตามแม่เขาเวลาที่เขาไปไหนแล้วพ่อก็จะ สังเกตว่าแม่เขาแวะซื้ออะไรบ่อยที่สุด สังเกตว่าเขาชอบอะไร แล้วพ่อก็จะซื้อของชิ้นนั้นไปวางไว้หน้าร้านแม่ทุกเช้าเลย ^^”
“แล้วไงต่อ”
“แล้วพ่อก็จะแอบมองแม่ว่าแม่เขาชอบของชิ้นนั้นรึปล่าว แต่พ่อไม่ได้ให้แม่เห็นพ่อนะ O_O!”
“อ้าว แล้วแม่เขาจะรู้ได้ไงว่าเป็นพ่ออ่ะ =[]=???”
“เพราะความรักของพ่อมันจะลอยไปบอกแม่เองไง ^^”
“พ่อ = =;;;”
“เอาน่า! ถ้าอยากจีบเขาก็ลองใช้วิธีพ่อดู แล้วจากนั้นวิธีของลูกมันก็จะมาเอง โตแล้วคิดเองบ้างสิ ตอนพ่อจีบแม่พ่อยังคิดเองเล้ย ><!” พ่อลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเอาแก้วกาแฟไปล้างก่อนจะเดินกลับมาตบหัวไหล่ผมเบาๆ “หนูแก้วน่ะน่ารักน้า ถ้าลูกจะลุยก็ลุยห้ามถอยเด็ดขาด เพราะพ่อเชียร์อยู่ ^^”
“แหม เชียร์กันจังนะ”ผมพูดออกมายิ้มๆก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าทำงานของพ่อที่วางอยู่ตรงโต๊ะนั่งเล่นหน้าทีวีแล้วเอามายื่นให้พ่อ“พ่อไปทำงานเถอะเดี๋ยวสาย”
“แหม พอได้วิธีการก็ไล่กันเลยนะ”พ่อผมบอกแล้วรับกระเป๋าที่ผมยื่นให้
“ไม่ได้ไล่ แต่ถ้าตรวจงานเสร็จช้าเดี๋ยวพ่อก็กลับมาไม่ทันกินข้าวเย็นกับแม่อ่ะดิ”
“อ่าๆๆ งั้นดูบ้านดีๆนะลูก จะไปไหนก็ล็อคบ้านด้วยนะ พ่อไปละ” “ครับผม”
แอ๊ด...ปึง...
หลังจากที่พ่อผมปิดประตูบ้านลงผมก็ยืนคิดอะไรอยู่สักพักก่อนจะหันหลังแล้ว รีบวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองในทันทีทันใดแล้วจากนั้นก็แอบมองไปยัง ห้องของแก้วที่ตอนนี้ยังคงไม่ยอมเปิดม่านตรงระเบียงเลย ให้ตายสิ นี่คิดจะปิดเป็นห้องปิดตายเลยรึไงกันนะ ><?
“เอาไงดีวะเนี่ย” ผมพูดแล้วเลื่อนประตูกระจกใสแล้วประตูเดินออกไปยืนนอกระเบียงพลางกวาดสายตามอง ไปยังด้านล่างแล้วมองข้ามรั้วบ้านตัวเองไปมองยังบ้านของแก้วและพอมองไปข้างล่างตรงสนามหญ้าที่เป็นสวนหลังบ้านของแก้ว
ผมก็เจอเธอจนได้!
วันนี้ร่างบางของเธออยู่ในชุดนอนลายมิกกี้เม้าส์เสื้อยีดกับกางเกงขาสั้นประมาณหัว เข่าอยู่เลยผมยาวๆสีน้ำตาลของเธอก็ถูกเอารวบขึ้นแล้วเหน็บด้วยกิ๊บหนีบผมแบบลวกๆและตอน นี้เธอก็เหมือนว่ากำลังจะมารดน้ำต้นไม้ล่ะมั้ง
“เอาวะ” ผมพูดบอกกับตัวเองแล้วคิดอย่างเด็ดขาดแล้วว่า
ครั้งนี้แหละ! ที่ผมจะทำให้ความรักของเธอกลับคืนมาหาผม และถ้ามันสำเร็จล่ะก็...ผมจะไม่ยอมปล่อยมันไปเด็ดขาด! ต่อให้แก้วจะมองว่าการกระทำของผมต่อจากนี้มันจะดูหน้าด้านกวนประสาทก็ตามทีเถ๊อะ!
แต่ขอบอกว่านิสัยแบบนั้นที่มันกำลังจะเกิดขึ้นนี้ของผม มันก็อยู่มานานแล้วแหละ เพียงแต่...ผมไม่ค่อยได้แสดงกิริยาอะไรแบบนั้นออกมาบ่อยนักเท่านั้นเอง แต่คราวนี้แหละ...
ผมจะปล่อยมันออกมาให้หมดเลย!
[ จบบันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
“พี่แก้วผมอยากรดน้ำต้นไม้ง่ะ =^=”
พิชชี่ที่กำลังยืนอยู่ตรงประตูหลังบ้านเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าฉันกำลังจะรดน้ำต้นไม้ที่สวนหลังบ้าน แต่ไม่มีทาง! คราวที่แล้วฉันจำได้เลยว่าให้พิชชี่ลองรดดูแล้วเจ้าตัวแสบนี่ดันฉีดน้ำเล่นจนฉันตัวเปียกไปหมด คราวนี้เลยเข็ดเลย= =;;;
“ไม่ต้องมาขอเลยพี่ไม่ให้สายยางนายหรอก”ฉันบอกอย่างเย็นชาก่อนจะเดินไปเปิดก๊อกน้ำใกล้ๆ
“ทำไมอ๊า >O<?”
“ก็ครั้งที่แล้วใครเล่นน้ำจนพี่ตัวเปียกกกกกก แต่เช้า?” ฉันหันไปบอกก่อนที่พิชชี่จะยืนกอดอกทำหน้ามุ่ยใส่
“แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ทำอีก สัญญาๆ ^O^//”
“พี่ไม่เชื่อ”
“โห่! พี่แก้วใจร้าย! ><!”
“เข้าบ้านไปเลยไป”
“ชิ! =^=”
พิชชี่ สะบัดหน้าแบบงอนๆก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านตามที่ฉันบอก ฉันก็ได้แต่มองตามหลังพิชชี่แล้วส่ายหัวเบาๆๆให้กับน้องชายจอมขี้งอนคนนี้ ก่อนจะเดินๆรดน้ำต้นไม้ดอกไม้หลังบ้านอย่างสบายใจคนเดียวเงียบๆพลางคิดอะไร ในหัวไปด้วยพลางๆ
และที่แน่ๆ ‘เรื่องเมื่อคืน’ มันอยู่ในหัวที่ฉันคิดด้วยสิ...
โชคดีที่พอกลับมาบ้านพ่อกับพิชชี่เข้านอนกันแล้วฉัน จึงไม่ต้องหาข้อแก้ตัวอะไรว่าทำไมถึงร้องไห้มาแบบนั้น และเรื่องเมื่อคืนก็ดันทำให้ฉันนอนไม่หลับเพราะขนาดอาบน้ำสระผมแล้วกินยาดัก ไข้เอาไว้แล้วนะ ยังไม่อยากจะนอนเลย คำพูดต่างๆของโทโมะมันอยู่ในหัวของฉันตลอดทั้งคืนจนถึงตอนนี้
มันก็ยังไม่จางหายไป...
สัมผัสนั้นที่โทโมะมอบให้ฉันล่ะสับสนจริงๆว่าเขาคิดอะไรอยู่ พอฉันถามก็ไม่ยอมตอบอะไรเลย นั่นแหละ! ที่ทำให้ฉันโกรธที่เขาไม่ยอมพูดอะไรให้ฉันเข้าใจเลยสักนิด เพราะฉันไม่อยากคิดไปเอง แล้วถ้าเขาคิดอะไรอยู่ทำไมถึงไม่พูดล่ะ
แต่ช่างเหอะ...
เพราะสรุปง่ายๆก็คือโทโมะไม่ได้คิดอะไรกับฉันเขาถึงไม่พูดอะไรยังไงล่ะ!
“เฮ้ๆๆๆ อย่าไปคิดถึงเขาสิ ><!” เมื่อตัวเองนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรคิดถึงโทโมะ ฉันจึงรีบเอามือขึ้นตีหัวตัวเองเบาๆแล้วรดน้ำต้นไม้ต่อด้วยความใจเย็น
แต่ทว่า...
“เฮ้!”
ขวับ!
จึก!
“...!”
ฉันถึงกับตกใจหน่อยๆเมื่อรดน้ำต้นไม้อยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกมา จากรั้วบ้านของโทโมะ และที่ตกใจไปกว่านั้นก็เพราะว่าเสียงนั้นก็คือโทโมะนั่นเอง และตอนนี้เขากำลังเกาะกำแพงรั้วบ้านสีขาวของตัวเองแล้วมองมาที่ฉันยิ้มๆ อะไรของเขา = =;;;
แล้วเขาเรียกฉันทำไมกันล่ะเนี่ย?
แต่ถึงกระนั้นฉันก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วหันไปสนใจกับการรดดอกกุหลาบกับ เบญจมาศต่อทำเหมือนว่าเมื่อกี้ไม่ได้เห็นโทโมะ ทำไมเหมือนเขาไม่มีตัวตนไปเล้ย! จะได้รู้ซะบ้างว่าการถูกเมินมันเป็นยังไง
ก็เหมือนตอนแรกๆที่เขาเมินฉันนั่นแหละ!
ตอนนั้นทำเย็นชาใสไม่สนใจ พอมาตอนนี้เหมือนอะไรก็ไม่รู้ นิสัยแปลกจนเดาไม่ออกจริงๆเลยผู้ชายคนนี้ เฮ้อ! อยากจะบ้าตาย! เก็บสายยางเดินหนีเข้าบ้านเลยดีมั้ย? แต่ไม่สิ...ทำแบบนั้นเดี๋ยวเขาจะหาว่าฉันงอนอะไรเขาและยังใส่ใจเขาอยู่น่ะสิ
ฉะนั้น! ทำเฉยๆไว้ดีกว่า
ก็เขารู้แล้วนี่ว่าฉันชอบเขา เห๊อะ! รู้แล้วไงต่ออ่ะ ฉันแพ้งั้นสิ? ที่ยอมรับว่าตัวเองชอบเขาและยังลืมเขาไม่ได้เพราะมันยากที่จะลืม โอ๊ย! ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นไปเลยจริงๆเพราะยิ่งทำให้วีได้ใจกว่าเก่าอยากจะเอาชนะฉันอีกน่ะสิ
“...”
“เฮ้! ฉันเรียกไม่ได้ยินรึไง?”
เขาเรียกฉันเหรอ? ไม่เห็นเอ่ยชื่อนิ?
แต่ถึงเอ่ยชื่อฉันก็ไม่สน! เพราะฉันไม่ขอให้เขามาปีนเกาะกำแพงเรียกฉันนี่นา ใช่มั้ย?
“...”
“นี่ถ้าเธอไม่พูดเพราะโกรธเรื่องเมื่อคืนที่ฉัน...!”
ขวับ!
“- -!” ฉันรีบหันไปมองโทโมะด้วยสายตาดุๆเพื่อไม่ให้เขาพูดถึงเรื่องเมื่อคืนเพราะดูเหมือนว่าเขาจะจงใจพูดเสียงดังกวนประสาทฉัน
แล้วถ้าพิชชี่ดันเดินมาหลังบ้านแล้วได้ยินแล้วเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพ่อเรื่อง มันต้องยาวแน่ๆ และฉันก็ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ด้วย แต่โทโมะเนี่ยสิทำไมต้องพูดเสียงดังด้วย เหมือนว่าเขาจงใจอยากจะให้ใครรู้เลยอย่างงั้นแหละ >O<!
“นี่! คุยกับฉันหน่อยสิ ><!” โทโมะบอกเมื่อเห็นว่าฉันเมินเขาอีกรอบ “แก้ว!”
“...”
พูดไปคนเดียวเถอะ! ชิ!
“แล้วปากเธอน่ะมีแผลรึปล่าวอ่ะที่ฉันจูบอ่ะ!”
“นาย...!!!” ฉันหันไปยังไม่ทันด่าโทโมะจู่ๆเสียงของพ่อก็ดังขึ้น!
“เสียงเอะอะอะไรล่ะแก้วเอ้ย”
เฮือก!!!
ซวยแล้วพ่อมา!
ซ่า!
“เฮ้ย!” โทโมะถึงกับตกกำแพงไปทันทีเมื่อฉันหันไปฉีดน้ำใส่เขาเพราะว่าพ่อกำลังเดินมาหลังบ้านแล้วไม่รู้ว่าโทโมะจะพูดอะไรบ้าๆอีกรึปล่าว
เขา...!!! ทำไมเขาถึงพูดแบบนั้นเนี่ย! ><///////
‘ แล้วปากเธอมีแผลรึปล่าวอ่ะที่ฉันจูบอ่ะ!’
แผลงั้นเหรอ?! โทโมะบ้า! ฉันไม่ได้คิดถึงจูบเขา อย่าคิดนะแก้วๆๆๆ อย่าคิ๊ดดดดดดดดด
“เมื่อกี้เสียงเอะอะอะไรอ่ะลูก O_O?” พ่อถามเมื่อเดินมาหลังบ้านแล้วชะเง้อมแงหาต้นตอของเสียง
“อ๋อ เสียงหมาเห่าน่ะพ่อ” ฉันบอก
แต่เหมือนกับมีความรู้สึกว่ามีคนกำลังแอบฟัง อยู่ด้วย และถ้าให้เดาโทโมะคงจะเจ็บใจที่ฉันหลอกด่าเขาอยู่แน่ๆ และตอนนี้ตัวของเขาก็คงจะเปียกโชกเลยล่ะ สม! ก็ถือว่าเป็นการแก้แค้นอะไรกลับคืนไปบ้างถึงแม้มันจะน้อยนิดกับที่โทโมะทำไว้กับฉันก็เถอะ!
“หมา?” พ่อถามแล้วขมวดคิ้วงงๆ
อ่าห้ะ! ก็เพราะปกติไม่เคยมีเสียงหมาเห่าแถวๆนี้ยังไงล่ะพ่อเลยงงๆ คิๆ ก็มันไม่ใช่หมาไงพ่อ! มันคือไอ้คนข้างบ้านเราเนี่ยแหละ ^^
“อื้ม! หมา ^^”
“อ่าๆๆ งั้นรถน้ำเสร็จก็ไปอาบน้ำอาบท่าซะนะเดี๋ยวเพื่อนมารับไปทำงานไม่ใช่เหรอ?”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้าบอกพ่อ พ่อจึงเดินเข้าบ้านไปเท่านั้นแหละฉันจึงชะเง้อหน้ามองไปยังกำแพงบ้านโทโมะที่ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาแล้ว
เห๊อะ! สงสัยโดนน้ำฉีดแล้วเข้าบ้านไปแล้วล่ะม้างงงงง
“คิก...”
“ขำอะไร = =?”
ขวับ!
O_O!!!
เย้ยยยยยยย นี่โทโมะเขาปีนมาเกาะกำแพงเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่อีกเนี่ย?
ให้ตายสิกำลังหัวเราะเยาะเลย ><!
“...”
“แล้วเมื่อกี้ด่าใครหมา?”
ด่านายไง :P
“...”ฉัน เงียบแล้วเดินทำรดน้ำสบายใจแต่ทว่าฝั่งสุดท้ายที่รดเป็นฝั่งตรงกำแพงบ้านโทโมะ เนี่ยสิฉันจึงต้องหันหน้าไปทางเขาแต่ก็ก้มหน้ารดน้ำต้นไม้ไม่สนใจโทโมะอยู่ดี
“ทำมึนใส่เหรอ?” เขาเค้นเสียงถาม
“...”
“นี่...ถ้าไม่พูดกับฉัน ฉันจะไปบอกพ่อเธอว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น”
“นี่!”
ดูเหมือนว่าคำพูดโทโมะมันกวนประสาทฉันจนฉันทนไม่ไหวกับสิ่งที่เขาพูด พอเงยหน้าขึ้นไปมองโทโมะก็ยิ้มกวนๆมาให้ในแบบที่ฉันไม่เคยมาก่อนแถมเขายังเอา มือเสยผมที่เปียกๆของเขาด้วยและนั่นแหละทำให้ฉันเห็นมือข้างหนึ่งของเขาที่ ถูกพันด้วยผ้าพันแผลแต่เห็นแบบนั้นฉันใจอ่อนพูดดีๆกับเขาไม่ลงหรอก
และวันนี้ทำไมเขากวนประสาทได้ดีจังนะ...
ฉันฉีดน้ำใส่เขาอีกรอบดีมั้ย?
“และถ้าเธอฉีดน้ำใส่ฉันอีก ฉันจะเล่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับ ‘เรื่องของเรา’ ให้หมดเลย”โทโมะพูดขู่พลางชี้นิ้วใส่ฉันที่กำลังจะฉีดน้ำใส่เขาอีกรอบเหมือนเป็นคำขาด “หรือจะฉีดก็ได้นะ^^ พ่อเธอจะได้รู้ไงว่าเธอคิดยังไงกับฉัน เธอว่าดีมั้ยล่ะ?.”
“กวนประสาท...” ฉันบ่นอุบอิบก่อนจะก้มลงรดน้ำต้นไม้เงียบๆ
แต่ในใจตอนนี้มันแปลกๆยังไม่รู้ที่อยู่ดีๆโทโมะมาทำแปลกๆใส่ แถมคำพูดของเขามัน...ยังไงๆอยู่นะ เฮ้อ! ใครก็ได้บอกทีว่าผู้ชายคนนี้เขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่ ทำไมเขาถึงต้องมากวนประสาทใส่ฉันแต่เช้าด้วย ไม่เข้าใจ!
ไม่ได้ชอบก็ไม่ต้องมาทำให้ฉันหวั่นไหวอีกครั้งจะได้มั้ย?
“ถึงฉันจะกวนประสาทแต่ยังไงซะ เธอก็บอกว่าชอบฉันจนยากที่จะลืมแล้ว ^^”
นั่น! เขากำลังพูดเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้ชนะอยู่ด้วย ><!
ฮึ่ย! รู้งี้ฉันไม่ยอมรับหรอกว่าตัวเองยังไม่สามารถลืมเขาได้ปล่อยให้โทโมะคิดไปคนเดียวจะดีกว่า อ๊าก! เจ็บใจ!
“...”
“นี่เงียบประชดหรือยังไง= =?” โทโมะถามเมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่เงียบ เงียบ แล้วก็เงียบ = =;;;
“...”
“นี่! ฉันบอกแล้วนะว่าถ้าเธอไม่พูดกับฉัน...”
“เราอยากรดน้ำต้นไม้เงียบๆ ถ้านายจะมากวนเราก็กลับเข้าบ้านนายไปเลยไป” ฉันเงยหน้าขึ้นไปบอกโทโมะอย่างเซ็งๆ
และนั่นแหละ! ที่ทำให้โทโมะถึงกับเหยียดยิ้มอย่างมีเลศนัยอะไรบางอย่าง อะไรของเขา = =;;; หรือว่าเมื่อคืนเขาตากฝนจนป่วยไข้ขึ้นแล้วก็ประสาทกินไปแล้ว เอ๊ะ? แต่อาจจะใช่ก็ได้นะ! ไม่งั้นเขาคงไม่มีท่าทีกวนกันแบบนี้หรอก ว่ามั้ย?
แต่ ว่าทำไมฉันเห็นรอยยิ้มของโทโมะแล้วมันทำให้ฉันต้องหลุบสายตาลงต่ำก็ไม่รู้ สิ คงจะเป็นเพราะ...ฉันไม่เคยเห็นเค้ายิ้มแบบนี้ล่ะมั้ง?
พอเห็นแล้วมันก็...ก็...ก็ไม่รู้สิ! >/////////<
“ไปหลงตัวเองไกลๆไป” ฉันไล่อย่างเย็นชาเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับโทโมะดี ในใจก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่
“หลงตัวเองที่ไหนก็พูดเรื่องจริง”เขาเถียงกลับมาก่อนจะพูดด้วยคำพูดต่อไปที่มันทำให้ฉันเริ่มหายใจติดขัด “แล้วที่เธอก้มหน้าอ่ะเธอกำลังเขินฉัน ^^”
“เราปล่าว” ฉันถียงไปอย่างทันควันแต่ก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองโทโมะอยู่ดี
“โกหก”
“จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะเพราะเราเบื่อที่จะคุยกับนายแล้ว”ฉันบอกไปอย่างสุดทนพร้อมกับถอนหายใจออกมาแรงๆ
แล้วก็อยากจะรู้นะว่าเขาเหนื่อยมั้ย? ที่อุตส่าห์ปีนมาเกาะกำแพงซึ่งมันก็สูงพออยู่เพื่อที่จะมาพูดกวนประสาทฉันเนี่ย = =?
“ถึงเธอไม่พูดกับฉัน ฉันก็จะพูดกับเธอแบบนี้แหละ” โทโมะบอกเสียงนิ่ง
“...”
“ฉันรู้น้า ว่าในใจเธอคิดถึงฉันตลอดเวลา”
“เข้าข้างตัวเอง” ฉันพูดพลางเบ้ปากอย่างหมั่นไส้โทโมะ
“ก็ฉันพูดถูก”
หลงตัวเอง!
“อย่ามาเถียงในใจเพราะเธอก็รู้ว่าฉันพูดถูก” คำพูดนั้นของโทโมะทำให้ฉันหยุดชะงักไปแต่ก็ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองเขาอยู่ดีและตอนนี้หัวใจของตัวเองก็เริ่มเต้นแรงขึ้นๆ “แถมฉันรู้หมดแล้วด้วยว่าฉันเป็น ‘รักแรก’ ของเธอ และที่สำคัญฉันก็ดีใจ...”
“...”
“...ที่ได้ครอบครองในสิ่งที่ไม่มีใครเคยได้...นั่นก็คือ...ริมฝีปากของเธอ...”
“...”
หลัง จากที่โทโมะพูดจบฉันก็เงยหน้าขึ้นมองดูแต่ทว่า...เขากลับไปได้เกาะอยู่ตรงกำแพง ของบ้านเขาแล้ว และแถมยังทิ้งคำพูดสุดท้ายเอาไว้ฉันยืนเงียบงันอยู่อย่างงั้นพร้อมกับหัวใจ ที่ตอนนี้มันเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง และจู่ๆเมื่อคิดถึงคำพูดของโทโมะฉันก็ยกมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเองเบาๆ พร้อมกับ...
‘ ยอมรับซะเถอะ.... ว่าเธอหลงรักฉันจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว...’
คำพูดเมื่อคืนนี้...
ทำไม...โทโมะเขาถึงพูดแบบนั้นนะ...
ตอนนี้มีหลายคำถามซึ่งฉันไม่รู้ว่ามันใช่อย่างที่ฉันเริ่มจะคิดในตอนนี้ มั้ย... แต่ฉันก็ยังไม่อยากปักใจเชื่อหรอกว่าโทโมะชอบฉันจริงๆ เพราะไม่อยากหวังเหมือนครั้งนั้นจนตัวเองเจ็บ แต่ให้ตายสิพระเจ้า! ท่านช่วยบอกให้ลูกรู้ทีเถอะว่าทำไมผ้ายคนนั้นเขาถึงทำแบบนี้ เขาคิดอะไรกับลูกกันแน่?
และถ้าเขารู้สึกอะไรกับลูกจริงๆทำไมเขาถึง...ไม่บอก...หรือว่าเขามีเหตุผลอะไรที่ไม่พูด
หรือว่า...ที่โทโมะไม่ยอมพูดออกมากับฉันตรงๆเพราะฉันเป็นคนที่ทำให้เขาไม่อยากจะพูดออกมารึปล่าวนะ? เฮ้อ! ช่างมันเถอะถ้ามันจะสับสนขนาดนี้ ><!
อย่าหวั่นไหวน้าแก้ววววววว เธอบอกตัวเองไว้แล้วไม่ใช่รึไง? ฉะนั้นเธอต้องทำให้ได้สิ!
...อย่าผิดสัญญากับตัวเองสิ...
___________________________________________________
อัพแล้วนะค่ะ อัพช้านิดนึงขอโทษนะ
เม้นกันหน่อยยย><
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ