Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา

9.6

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.

  43 chapter
  860 วิจารณ์
  67.50K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

16) - Take Care - ( ดูแล )

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
- Take Care -
( ดูแล )
 

“เมื่อไหร่แกจะได้รูปเพิ่มซักทีฮะยัยจินนี่! >O<!”
 
 
        เสียงโวยวายของพิมพ์ที่เกิดขึ้นอยู่หลังอาคาร ม.5 ที่ๆไม่ค่อยมีคนผ่านมาเพราะมันเงียบ แต่ที่นี่พวกโบว์ลิ่งจะชอบมานั่งคุยกันถึงเรื่องลับๆของพวกหล่อน บ้างก็นั่งคุยๆกันถึงเรื่องของแก้วกับโทโมะว่าสองคนนี้ยังไงกันแน่นะ
 
 
 
        เพราะตั้งแต่วันที่พวกหล่อนจัดการแก้วไปก็ไม่ค่อยเจอกันเลยเพราะคาบเรียนไม่ตรง กันด้วย นั่นถือว่าเป็นโชคดีของแก้วแต่เป็นโชคดีที่ทำให้ฝ่ายพิมพ์นั้นโมโหที่เธอไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแก้วกับโทโมะสักที
 
 
“ฉันก็หาอยู่นะแก แต่ดูเหมือนว่า...”
 
 
“เหมือนว่าอะไร!?” พิมพ์ยืนกอดอกแล้วตะคอกใส่จินนี่ “ นี่ฉันต้องทนดูรูปที่มันจับมือกับโทโมะไปอีกนานแค่ไหน?”
 
 
“เอ่อ...”
 
 
“ฉันบอกว่าให้ไปหาภาพมาอีก ฉันจะได้รู้ว่ามันกับโทโมะเป็นอะไรกัน! เพราะตอนนั้นฉันยังไม่ได้คำตอบจากปากมันเลย! เดี๋ยวนี้เวลามันไปไหนมันก็ไปกับอีหัวแกะสองข้างเพื่อนสนิทมัน แล้วฉันจะหาทางเค้นคอมันยังไง?”
 
 
“ใจเย็นๆน่า เราหาทางเค้นคอยัยนั่นได้อยู่แล้ว ดูท่าทางจะดูเป็นคนซื่อๆ ยอมคน แบบนี้มันไม่คนามือนักหรอก” เฟื้องฟ้าพูดบ้าง
 
 
“วันนั้นที่ฉันตบมันยัยคลอรีนก็เข้ามาขัด...แต่หลังจากนี้ฉันจะเล่นมันโดยที่ไม่ให้ใครเห็นเลยคอยดูสิ”
 
 
“อืม...ฉันว่า...”
 
 
“...”
 
 
“เราไม่ต้องลงมือเองหรอกมั้ง?”
 
 
“หมายความว่าไง” พิมพ์ถามเฟื้องฟ้าอย่างสงสัยในสิ่งที่เฟื้องฟ้าพูดเฟื้องฟ้าก็เหยียดยิ้มก่อนจะทำเป็นก้มดู เล็บสีแดงสดของเธอแล้วเงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบแต่แฝงไป ด้วยแผนการแสบๆบางอย่าง
 
 
“ก็แค่เราไม่ต้องลงมือจัดการเองไงล่ะ”
 
 
“แล้วจะเค้นคอยัยนั่นได้ยังไงล่ะ?” จินนี่ออกปากถามบ้าง
 
 
“ฉันว่าเรื่องนี้...ขอให้เป็นหน้าที่ฉันจะดีกว่า...รับรองว่าเด็ดแน่ ^^”
 
 
 
 
[ ช่วงของเคโอติค ]
 
 
 
คาบพละ
 
 
 
ม. 5/7
 
 
 
ตุ้บ!
 
 
 
ตุ้บ!
 
 
 
ตู้ม!
 
 
 
“ไอ้โทโมะมันเป็นอะไรของมันวะ = =?”
 
 
 
      เขื่อนเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่สังเกตพฤติกรรมของเพื่อนสุดเงียบที่เอาแต่เดาะลูกบา สลงพื้นแรงๆหลายรอบแล้วก็ทำการเขวี้ยงเข้าใส่กำแพงแรงๆเหมือนจะระบายอารมณ์ อะไรซักอย่างและโทโมะก็มีพฤติกรรมแบบนี้มาตั้งแต่วันจันทร์แล้วคือเขาเงียบกว่า เดิม ยิ่งเวลาเพื่อนๆแซวโทโมะก็จะเฉยๆหรือไม่บางทีก็เดินหนีทำเป็นไม่ใส่ใจไปเลย
 
 
 
       เพราะปกติก็จะด่ากลับบ้างว่าแซวทำไม? แต่นี่คือไม่พูดอะไรทั้งสิ้น อาการแบบนี้คืออะไรกัน...
 
 
 
“เขาคงโมโหอะไรมาน่ะแหละ” เคนตะตอบขณะที่สายตาจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์ของจองเบเพราะจองเบกำลังเล่นเกม
 
 
 
“ตอนอาจารย์เรียกชื่อก็ไม่พูดแค่ยกมือแค่นั้น” ป๊อปปี้เอ่ยบ้าง
 
 
 
“ป๊อปๆ”
 
 
 
“อะไรวะ?!”เสียงของเขื่อนที่ตะโกนเรียกม่อนจากหน้าประตูสนามบาสทำให้ป๊อปปี้ต้องหันตะโกนกลับไปเขื่อนก็กวักมือเรียกๆ
 
 
 
“อาจารย์ให้มาเขียนชื่อลงคัดตัวไปแข่งบาส เร็วๆๆๆ ><!” เขื่อนรีบกวักมือเรียกจนป๊อปปี้ต้องลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งไป
 
 
 
       กลุ่มเคโอติคน่ะป๊อปปี้จะเป็นตัวแทนที่ลงกีฬาเยอะที่สุด ไม่สิ! ต้องบอกว่า ห้อง ม.5/7 เลยดีกว่า ป๊อปปี้มีความเป็นผู้นำสูงมากและเขาได้รับการคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าทีมอยู่ บ่อยครั้งเวลาที่ไปแข่งแต่ละรอบ เห็นแบบนี้แล้วตามจริงกลุ่มเคโอติคไม่ได้เลวร้ายอะไรในแบบที่ทุกๆคนส่วนใหญ่ เข้าใจกันหรอก
 
 
 
      นั่นมันเป็นแค่ภาพลักษณ์ของเขาทั้นแหละ!
 
 
 
       กลุ่มเคโอติคน่ะถึงแม้ว่าจะทำตัวผิดระเบียบไปบ้างแต่เขาก็มีความรับผิดชอบต่อ หน้าที่การงาน อาจจะดูไม่ตั้งใจเรียน โดดบ้างอะไรบ้าง แต่พวกเขาก็ผ่านมาตลอดแถมหัวดีหัวกะทิยิ่งกว่าเด็กที่ตั้งใจเรียนมากกว่าพวก เขาเสียอีกน่ะ ( แอบอิจฉาเบาๆ 5555+ )
 
 
“เฮ้ยเป็นอะไรวะ” เคนตะถามทันทีเมื่อโทโมะกำลังเดินมานั่งลงข้างๆด้วยสีหน้าที่เซ็งๆ
 
 
 
 
“ป่าว” โทโมะตอบแต่สีหน้ากับคำตอบนี่คนละเรื่องกันเลยทีเดียว
 
 
 
“ฉันเห็นแกเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันจันทร์ละ แกเป็นอะไร  ขอ - ความ - จริง” เคนตะย้ำถามอีกรอบ
 
 
 
        ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะยุ่งเรื่องของเพื่อนแต่แบบนี้มันคืออาการห่วงเพื่อนจึง ถามหรอก ถ้าเพื่อนกันไม่แคร์ไม่ห่วงกันคงไม่ถามอะไรแบบนี้หรอกเน๊อะ...คุณว่ามั้ยล่ะ?
 
 
 
“ไม่มีความจริงอะไรทั้งนั้นแหละ ก็แค่เบื่อๆเซ็งๆ” โทโมะตอบแล้วถอนหายใจ
 
 
 
“แต่ปกติแกเบื่อแกก็ไม่เคยออกอาการอะไรแบบนี้นะ” จองเบพูดบ้างหลังจากที่นั่งเงียบๆเล่นเกมอยู่สักพัก “ทำแบบนี้เดี๋ยวสาวๆก็กลัวแย่หรอก”
 
 
 
        จองเบพูดจบก็หันไปยิ้มให้กับเหล่าบรรดาเพื่อนสาวที่พากันหลงใหลเคโอติคจนไม่มีอัน ซ้อมก่อนที่จะสอบในอาทิตย์หน้านี้เลย พวกเธอเอาแต่มอง มอง แล้วก็มองมาที่กลุ่มเคโอติคอย่างเดียวแต่พอจองเบยิ้มให้เท่านั้นแหละก็พากันกรื๊ดเบาๆตบไหล่เพื่อนข้างๆแก้เขินบ้างอะไรบ้างทำนองนั้นฮ่าๆ
 
 
 
“เออ! เพิ่งนึกได้ ฉันว่าจะถามแกตั้งแต่กลางวันละไอ้จองเบ”
 
 
 
“ถามอะไรของแกวะ”จองเบหันไปถามป๊อปปี้ที่พูดโพล่งขึ้นมา
 
 
 
            จองเบเขารู้...เขารู้ว่าป๊อปปี้เห็นตอนที่ฟางเดินออกไปจากห้อง ม.5/7 แล้วก็เดินตามฟางไปจนทะเลาะกัน แต่ด้วยความที่รู้อยู่แล้วฟางน่ะไม่ตอบอะไรไม่พูอดอะไรง่ายๆเขาจึงทำเป็นไม่ รู้ไม่เห็นและทำเนียนไปซะเลยยังไงล่ะ และเพราะรู้ว่าป๊อปปี้เป็นคนที่จองเบพูดแล้วเชื่อแน่
 
 
 
            กับแค่อีเรื่องแค่นี้โกหกเนียนๆไปป๊อปปี้ก็ไม่รู้หรอก!
 
 
 
“เมื่อกลางวันยัยฟางมัดข้าวนั่นเข้าไปทำอะไรในห้องเราวะ  O_O???”
 
 
 
      นั่น! เดาผิดซะที่ไหนละ
 
 
 
“เขาชื่อฟางแกก็ ฮ่าๆ ” เคนตะพูดปนขำแล้วตีไหล่ป๊อปปี้เบาๆ
 
 
 
“ก็ฉันจะเรียกยัยฟางมัดข้าวใครจะทำไม? หมั่นไส้! ><!”
 
 
 
“ยัย นั่นแค่เอาไม้กวาดที่ยืมไปมาคืนเท่านั้นเอง แต่คงไม่คิดว่าตอนคืนฉันจะอยู่ล่ะมั้งเลยรีบเดินเข้ามา เอาไม้กวาดวางแล้วก็ออกไปเลย ก็แค่นั้น” จองเบพูดอธิบายเนียนๆแบบไม่ติดขัดแต่อย่างใด
 
 
 
“แล้วยัยนั่นยืมไม้กวาดห้องเราไปตอนไหนวะ =[]=???”
 
 
 
“ตอนที่เราไม่อยู่ เพราะถ้าเราอยู่ยัยนั่นคงไม่คิดจะเข้ามา”
 
 
 
“นั่นเขาเรียกยืมเรอะ? แบบนั้นเขาเรียกแอบจกที่เผลอเว้ยยยยยยยยย >O<!!”
 
 
 
“ก็ไม่รู้สินะ ^^” จองเบพูดแล้วหยักไหล่เป็นเชิงก่อนจะก้มลงเล่นเกม Cookie Run ในโทรศัพท์มือถืออย่างสบายใจจนกระทั่ง...
 
 
 
 “แปลกนะ...ที่ยัยฟางเกลียดการเข้ามาเหยียบในห้องเราแต่ก็ยังเข้ามายืมไม้กวาด ทั้งๆที่ห้องอื่นก็มีให้ยืม แล้วทำไมต้องเป็นห้องเราวะ...”
 
 
ตู้ม! ตือ ดือ ดื๊ดดดด
 
 
“โหยยย โทโมะพูดทีจองเบเล่นเกมแพ้เลยเนี่ย กำลังลุ้นๆอยู่เลย Y_Y” เคนตะเอ่ยหลังจากจองเบเล่นแพ้
 
 
       น่า แปลกที่จู่ๆโทโมะก็พูดขึ้นมาจนทำให้จองเบถึงกับเสียสมาธิในการเล่นเพราะมัวแต่ฟัง คำพูดของโทโมะ แต่เขาคงไม่คิดว่าโทโมะจะคิดปะติดปะต่อแบบนี้รึปล่าวจึงทำให้จองเบเล่นแพ้หลังจบ คำพูดของโทโมะ
 
 
       โทโมะพูด...แต่เขาไม่รู้หรอกเขาแค่พูดขึ้นมาแค่นั้น
 
 
      แต่มันทำให้จองเบถึงกับเงยหน้าขึ้นมองโทโมะทีมองอยู่ก่อนแล้ว โทโมะก็หยักไหล่ทำเป็นไม่ใส่ใจอะไรกับคำพูดเมื่อกี้ และนั่นก็ทำให้จองเบแอบลอบถอนหายใจเบาๆออกมาเพราะความโล่งอก
 
 
      ตามจริง... ‘ความลับ’ของจองเบนั้นไม่ควรจะเกิดขึ้นกับ‘ความรัก’ของเขากับคลอรีนเลย...
 
 
      แต่สักวันถ้าจองเบยังไม่เลิกรักคลอรีนล่ะก็...ยังไงซะสักวันเพื่อนๆก็ ต้องรู้อยู่ดีเพราะว่า...‘ความลับไม่มีในโลก’...
 
 
 
[ บันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
 
 
6 โมงเย็นวันนั้น
 
 
ตื๊ด...ตื๊ด...
 
 
      ในขณะที่ผมกำลังเดินกลับบ้านเสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นมา
 
 
      หลังจากที่เมื่อกี้ผมเพิ่งแวะไปเล่นสเก็ตบอร์ดกับเพื่อนมาที่สวนสาร ธารณะที่เดิม ตามควรต้องอยู่ดึกกว่านี้เพราะว่าวันนี้วันศุกร์แต่พอเห็นว่าฝนทำท่าทีจะตก พวกเราจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน
 
 
      ‘ใครโทรมาวะ โอ๊ะ! แม่’
 
 
ติ๊ด!
 
 
“มีอะไรครับแม่” ผมกดรับแล้วทักปลายสายอย่างใจเย็น
 
 
[ โทโมะกลับบ้านรึยังลูก?]
 
 
“เกือบถึงแล้วครับ แม่มีอะไรรึปล่าว?” ผมถามกลับไปเมื่อเห็นว่าน้ำเสียงแม่เหมือนจะห่วงๆอะไรอยู่
 
 
[ ก็วันนี้แม่จะกลับบ้านดึกหน่อย ส่วนพ่อก็ติดตรวจข้อสอบคงจะกลับดึกเหมือนกัน ]
 
 
“…”
 
 
[ แม่ก็เลยอยากให้ลูกแวะไปดูแก้วหน่อยน่ะ ]
 
 
      แวะไปดู? ยัยเป็นอะไรทำผมต้องแวะไปดูด้วยเนี่ย?
 
 
“แล้วทำไมผมต้องแวะไปดูเขาด้วยล่ะครับ”
 
 
[ ก็พ่อกับน้องชายหนูแก้วไม่อยู่บ้านสามวันศุกร์ เสาร์อาทิตย์  แล้ววันนี้แม่เห็นเธอไม่ไปโรงเรียนแม่เลยถาม  เธอก็ตอบว่าไม่ค่อยสบายนิดหน่อย ]
 
 
      ยัยนั่นไม่สบายงั้นเหรอ?
 
 
      จริงสิ! มิน่าวันนี้ผมถึงไม่เห็นยัยนั่นที่โรงเรียนเลย ที่แท้ก็ไม่สบายนี่เอง
 
 
“อย่างงั้นเหรอครับ”
 
 
[ แต่แม่ว่าไม่นิดหรอกเพราะดูจากหน้าตาแล้วซีดเลยล่ะ ตอนแรกแม่อยากพาเธอไปหาหมอแต่เธอบอกว่าไม่ ไปแม่เลยเป็นห่วงเลยอยากให้ลูกไปดูเธอหน่อย ]
 
 
      ดู ท่าทางแม่จะเป็นห่วงแก้วมากเลยนะถึงได้ขอร้องให้ผมไปดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง แต่...ไม่สบายแบบนี้คืนนี้ดูท่าทางว่าฝนตกหนักซะด้วยสิ แล้วยัยนั่นจะเป็นยังไงบ้างนะ ยิ่งท่าทางที่ออกจะ...เอ๋อๆมึนๆซึนๆอยู่ด้วย ผมล่ะไม่อยากจะบอกเลยว่า...ผมก็แอบห่วงยัยนั่นเหมือนกันนะ
 
 
            อาจจะเป็นเพราะเราเป็น‘เพื่อนบ้าน’ กันก็ได้ผมถึงได้รู้สึกแบบนี้...
 
 
[ โทโมะ ]
 
 
“...”
 
 
[ โทโมะได้ยินแม่มั้ยลูก? โทโมะ! ]
 
 
“คะ...ครับ?”
 
 
[ รับปากแม่ก่อนว่าถ้าแก้วอาการไม่ดีลูกจะต้องอยู่ดูแลเธอจนกว่าแม่จะกลับ ]
 
 
“แม่...”
 
 
[ แต่ถ้าอาการสีหน้าเธอดูโอเคลูกก็แค่กลับบ้านแค่นั้น เข้าใจแม่มั้ย?]
 
 
“...”
 
 
[ ถ้าลูกไม่ไปดูเธอ เกิดเธอหน้ามืดล้มเป็นลมหัวฟาดพื้นขึ้นมาล่ะ ]
 
 
“ผมไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะไม่ไปดู” ผมตอบ
 
 
       แต่ทว่า...คำตอบนั้นมันเหมือนมันทำให้แม่ผมรู้สึกดีขึ้นมาทันทีทันใดเลยนะ เพราะว่าฟังดูจากน้ำเสียงดังต่อไปนี้แล้ว  = =;;;
 
 
[ โอเค๊จ้าลูกกกก แม่ฝากหนูแก้วด้วยนะ ^^ ]
 
 
ติ๊ด!
 
 
      ผม กดตัดสายแม่แล้วเดินตรงไปยังบ้าน จนถึงหน้าบ้านตัวเอง ผมก็แอบมองไปที่บ้านของแก้วที่มีดวงไฟเปิดแค่ที่ห้องนอนของเธอเท่านั้นนอก นั้นเธอปิดไปหมดเลย ไฟหน้าบ้านก็ไม่ยอมเปิดซะด้วย
 
 
       ผมหยิบกุญแจขึ้นมาไขเข้าบ้านของตัวเองเพื่อเอาของเข้าไปเก็บก่อนแล้วค่อยออก มาดูแก้วทีหลัง...
 
 
[ จบบันทึกพิเศษ : โทโมะ ]
 
 
 
1 ทุ่ม
 
 
ครึม....ครึม  
 
 
“ฮือ...”
 
 
       ตอน นี้เสียงของฉันมันเหมือนกับว่าไม่ค่อยจะมีเลยเสียงเหมือนจะออกแหบๆนิดๆแล้ว วันนี้ตื่นมาฉันแค่อาบน้ำแล้วกินข้าวต้มไปนิดเดียวเองก่อนจะกินยาแก้ปวดท้อง ประจำเดือนแล้วก็ยาแก้ไข้จากนั้นก็นอนพัก ตื่นมาอีกทีก็เย็นแล้วฉันก็เลยลุกไปอาบน้ำใส่ชุดนอนกระโปรงยาวคลุมขาและคิด ว่าจะนอนตั้งแต่หัวค่ำนี่แหละ
 
 
       เพราะฟางคงจะไม่มาแล้วเพราะฝนทำท่าทีว่าจะตกหนักเสียด้วยท้องฟ้าก็เริ่ม ครึ้มเข้ามาเรื่อยๆแล้ว...
 
 
      เฮ้อ...ฝนตกได้แต่ฟ้าอย่าร้องลมอย่าพัดได้มั้ยคนยิ่งไม่สบายอยู่นะ! ><!  อีกอย่างแถมอยู่บ้านคนเดียวอีก พ่อก็ไม่โทรมาบ้างเล้ยยยยยย ไปเข้าค่ายกับลูกชายหรือไปเที่ยวเนี่ยคงจะเพลินจนลืมโทรหาลูกคนนี้เลยสินะ!
 
 
“โอย...ฮือ...”
 
 
      ตอนนี้รู้สึกเลยว่าใบหน้าและปากของตัวเริ่มซืดเพราะว่าท้องน้อยของฉัน มันเริ่มปวดขึ้นมาอีกแล้วน่ะสิ ตอนนี้ฉันก็ได้แต่นอนเอามือกุมท้องตัวเองด้วยความปวด ตอนนี้มันปวดไปทั้งร่างเลยออกเหนื่อยๆล้าๆไม่อยากจะลุกเดินไปไหนเลยแต่จะ หลับก็หลับไม่ลงเพราะว่าหน้าผากร้อนมาก
 
 
      แถมปวดท้องอีก โอย...ทำไมมันทรมานแบบนี้นะ Y_Y
 
 
ปิ๊งป่อง!
 
 
     ‘ หือ? ใครกดออดหน้าบ้านกัน หรือว่า...ฟางจะมา’
 
 
      เมื่อ ในใจมันคิดว่าเป็นฟางฉันก็เลยพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นจากเตียงอย่างอยาก ลำบากแล้วค่อยๆก้าวขาลงจากเตียงช้าๆก่อนจะเอามือจับหัวเตียงไว้ตอนลุกขึ้น เพราะว่ากลัวจะล้มลงไป
 
 
      ฟางนะฟางก็บอกแล้วนะว่าฝนตกไม่ต้องมาเดี๋ยวก็เป็นไข้กันพอดีหรอก เฮ้อ...
 
 
ปิ๊งป่อง!
 
 
       เมื่อ เสียงออดถูกกดขึ้นอีกครั้งมันทำให้ฉันรีบเดินไปที่ประตูห้องนอนเพราะวากลัว ว่าฟางจะรอนาน แต่พอก้าวขาลงบันไดลงมาจากห้องนอนได้ไม่กี่ขั้นอยู่ดีๆหัวของฉันมันก็รู้สึก เหมือนกับว่าโดนค้อนทุบอย่างแรงเพราะมันปวดมากๆ แบบ ปึก! ปึก! ปึก! อยู่ในหัวเลย
 
 
       แล้ว ตาจากที่มองเห็นเป็นปกติก็มีลายมัวๆอะไรก็ไม่รู้จนฉันรู้สึกได้ว่าร่างกาย ของตัวเองกำลังเซไปเซมา มือที่ใช้กุมขมับอยู่บวกกับการที่ค่อยๆก้าวขาลงบันไดนั้นทำให้ฉันเริ่มขาชา ที่ละนิดๆ
 
 
        จนกระทั่งรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ก้าวบันไดพลาดขั้นเสียแล้ว!
 
 
“ว๊ายยยย” เสียงร้องแหบๆกับอาการเสียขวัญที่ตอนนี้ตัวเองกำลังจะตกบันได แต่ทว่าจู่ก็มีมือของใครก็ไม่รู้มาช่วยรับร่างของฉันเอาไว้ได้ทันท่วงที
 
 
 
หมับ!  
 
 
“หือออออ”
 
 
      ฉันหลับตาปี๋ด้วยความตกใจที่คิดว่าตัวเองจะตกบันไดหัวฟาดพื้นตายเสีย แล้วตอนนี้ร่างของฉันถูกใครไม่รู้รวบเอาไว้ในอ้อมแขน ฉันที่กำลังหลับตาปี๋ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ
 
 
“...”
 
 
 “เอ๊ะ...”เสียงอุทานออกมาเบาๆเมื่อฉันมองแผ่นหน้าอกของคนที่มาช่วยรับร่างฉันเอาไว้
 
 
       อ้าว?! ไม่ใช่ฟางนี่? ละ...แล้ว...คะ...ใครกัน!
 
 
“หวัดดี ”
 
 
       เมื่อ น้ำเสียงนั้นเอ่ยขึ้นก็สามารถทำให้ฉันรู้ทันทีว่าใครกันที่เป็นคนมารับร่าง ของฉันเอาไว้ แต่เพื่อให้แน่ใจกว่านี้ฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองให้เห็นกันชัดๆไปเลย! ><!
 
 
เฮือก!
 
 
       ปะ...เป็นเขาจริงๆด้วย...โทโมะ...
 
 
ผลั่ก!
 
 
       ฉันรีบใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีผลักโทโมะออกก่อนที่จะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ( ทั้งๆที่มันไม่ปกติ =//////= ) แต่ตอนนี้หัวใจที่กำลังสั่นระรัวทันทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูก
 
 
        แต่เดี๋ยวนะ! เขาเข้ามาในบ้านของฉันได้ยังเนี่ย ><!?
 
 
“นะ...นายเข้ามาในบ้านเราได้ยังไงอ่ะ O_o?” ฉันถามแล้วมองโทโมะอย่างไม่วางใจนัก
 
 
“ฉันกดออดแล้วเธอมาเปิดช้าก็เลยปีนรั้วเข้ามา แต่ก็ไม่คิดว่า...ประตูหน้าบ้านจะลืมล็อค - -!” โทโมะหรี่ตามองฉันด้วยสายตาดุๆเชิงตำหนิเหมือนกับจะบอกว่า ‘ทำไมเธอลืมล็อคประตู!’
 
 
“ละ...ลืมล็อค?”
 
 
“อยู่บ้านคนเดียวทำไมไม่ล็อคบ้านให้ดีๆวะถ้าใครมันมาทำอะไรเธอ...!” โทโมะหยุดชะงักคำพูดก่อนจะส่ายหัวไปมา
 
 
       เอ...ฉันนี่บ้าจริงที่ลืมล็อคประตูหน้าบ้านให้ตายสิ! ><!
 
 
“ระ...เรา...”
 
 
“แต่ก็โชคดีที่ไม่ได้ล็อค...”
 
 
“ชะ...โชคดี?”
 
 
 “ก็เพราะถ้าล็อคฉันคงเข้ามารับเธอเอาไว้ไม่ทัน...”
 
 
“O_O”
 
 
“แล้วเธอก็อาจจะหัวฟาดพื้นตายคาบันไดเลยก็ได้”
 
 
       เป็นคำพูดที่ดีนะ = =;;;;
 
 
“เอ่อ...แล้วนายมาทำอะไรที่นี่เหรอ”ฉันถามแล้วมองโทโฒะก่อนที่สายตาจะก้มมองไปเห็นถุงข้าวต้มในมือของโทโมะ
 
 
“แม่ฉันให้ฉันมาดูเธอว่าเป็นยังไงบ้าง...เห็นว่า...อยู่คนเดียวแถมยังไม่สบายอีก” โทโมะบอกแล้วมองมาที่หน้าฉันตรงๆ
 
 
ตึกตักๆๆๆๆ
 
 
      หัวใจของฉันตอนนี้เริ่มเต้นรัวๆขึ้นเมื่อโทโมะมองมาด้วยสายตาที่ไม่ได้เย็นชาแต่ไม่รุ้สิว่าทำไมหัวใจฉันมันสั่งให้คิดว่า...‘เขามองมาด้วยความห่วงใย’      
 
 
 โอ๊ะ! ไม่นะๆๆๆๆ อย่าได้คิดแบบนั้นเชียวนะแก้วเพราะว่ามันไม่ดีต่อหัวใจของเธอเลยนะ!><//////
 
 
____________________________________________________
มาอัพแล้วนะ เม้นโหวตกันหน่อยนะไรต์จะได้มีกำลังใจเขียนต่อ
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา