Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา

9.6

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.

  43 chapter
  860 วิจารณ์
  68.40K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

15) - Fang & Poppy - ( ฟางและป๊อปปี้ )

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

- Fang & Poppy -

( ฟางและป๊อปปี้ )

 

หลายวันต่อมา...

 

 

วันศุกร์

 

 

“โอย...”

 

 

       ฉัน ค่อยๆลืมตื่นพร้อมกับต้องเอามือยกขึ้นมาบังแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในห้องนอน ในยามเช้าที่ฉันอยู่บ้านคนเดียวในวันธรรมดาที่ตามจริงฉันควรจะต้องไป โรงเรียนแต่ฉันไม่สามารถที่จะหอบร่างกายอันอ่อนล้านี้ไปได้เพราะอะไรน่ะเหรอ?

 

 

       เพราะว่าฉันคิดว่าตอนนี้ตัวเองกำลังป่วยเป็นโรค‘ทับระดู’เพราะ ตัวเองกำลังมีประจำเดือน ตั้งแต่วันจันทร์ฉันก็ขี่จักรยานไปโรงเรียนและเรียนตามปกติกะว่าจะหาทางเอา รูปของจองเบไปคือแต่ก็ไม่เจอเขาเลย

 

 

             และถึงจะเจอเขาก็อยู่กับกลุ่มพวกเคโอติค...

 

 

             อ้อ! แล้ว ฉันกับโทโมะตอนนี้ก็ไม่ได้คุยอะไรกันเลยนะและมันก็เหมือนกับช่วงแรกๆที่เจอก็คือเหมือนคนไม่รู้จักกันเลยหมอนั่นเวลาที่บังเอิญเจอฉันเขาก็ชอบทำเมินใส่ ตามแบบฉบับเดิมแถมบางทีก็มองจิก

 

 

             ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรของเขา =[]=;;;

 

 

      เมื่อวานฉันได้ฝากรูปจองเบไว้กับฟางเพราะว่าฉันลาหยุดหนึ่งวัน นี่ดีนะที่เป็นโรคนี้ตอนที่พ่อไม่อยู่บ้านกับพิชชี่ 3 วัน  ( พ่อไปเข้าค่ายสร้างสัมพันธ์กับลูกกับทางโรงเรียน 3 วันน่ะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ท่านเพิ่งออกเดินทางเมื่อวาน ) เมื่อวานฉันพยายามปรับสีหน้าและท่าทางให้เป็นปกติเพื่อพ่อจะได้ไม่ต้องเป็น ห่วง

 

 

            ท่านไม่รู้หรอกว่าฉันป่วยและก็ไม่รู้ด้วยว่าฉันลาหยุดเรียน เฮ้อ...และฉันก็หวังว่าฉันจะหายก่อนที่พ่อกลับมาบ้านนะ และก็หวังด้วยว่าฟางคงจะหาทางคืนรูปให้จองเบได้สำเร็จ

 

 

ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...

 

 

 

 

 

“ฮึบ” เมื่อ ได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ฉันจึงดันตัวเองให้ลุกขึ้นมาพิงหัวเตียงก่อนจะ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะวางโคมไฟข้างเตียง   

 

 

 

        + Fang +

 

 

 

ติ๊ด!

 

 

 

“ฮัลโหล”ฉันกดรับสายด้วยเสียงที่อ่อนล้า

 

 

 

[ ฮัลโหล แกเป็นไงบ้างเนี่ย? เย็นนี้ให้ฉันพาไปหาหมอมั้ย? ] ฟางถามขึ้นทันทีอย่างเป็นห่วง

 

 

 

           แต่ว่า...ไปหาหมอเหรอ?

 

 

 

      ไม่เอาอ่ะ! ><!  เกิดมาฉันไม่ชอบการไปหาหมอมากที่สุดในสามโลกเลย Y_Y  ฉันเกือบจะร้องไห้ออกมาตอนที่หมอจับฉีดยาตอนเด็กอยู่แล้วแต่ก็ข่มเอาไว้ได้

 

 

 

      แต่ถึงยังไงซะ! ฉันก็ไม่ไปเด็ดขาดดดดดดดด >O<!!

 

 

 

“ไม่ๆๆ ฉันคิดว่าเดี๋ยวกินยาแก้ปวดซักหน่อยแล้วก็พักผ่อน ก็คงดีขึ้น” ฉันบอก

 

 

 

[ เฮ้ย เป็นโรคทับระดูเลยนะเว้ย ฉันเองก็เคยเป็นมันปวดท้องมากอ่ะ ต้องกินของอุ่นๆแต่ไม่ใช้น้ำร้อนนะเว้ย กินน้ำอุ่นแล้วก็พวกข้าวต้มไรงี้อ่ะ ]

 

 

 

“โอเค”

 

 

 

[ งั้น...เดี๋ยวเย็นนี้ฉันไปหาที่บ้านเอามั้ย?]

 

 

 

“ถ้ามาได้ก็มา” ฉันบอกฟางแล้วก่อนจะเอามืออีกข้างขึ้นมากุมขมับเพราะตอนนี้มันปวดตุ๋มๆต่อมๆเหมือนหัวกำลังจะระเบิดเลยแฮะ ฮือ ฮือ Y_Y “แล้วนี่...เจอจองเบรึยังอ่ะ”ฉันถาม

 

 

 

[ ยังเลยแต่ถ้าเจอแบบอยู่คนเดียวฉันต้องรีบเอาไปคืนแน่นอน ^O^//]

 

 

 

“อืม ขอบใจนะ”

 

 

 

[ โอเค งั้นฉันไม่กวนและ เดี๋ยวมีงานอะไรจะโทรบอก ]

 

 

 

“จ้า”

 

 

 

ติ๊ด!

 

 

 

      และ หลังจากที่ฉันกดวางสายฉันก็รู้สึกว่าท้องมันเริ่มจะปวดขึ้นมาอีกแล้วจากที่ เมื่อวานก็ปวดฉันคิดว่าหิวพอไปกินข้าวก็ปวดอีก เฮ้อ...โรคทับระดูนี่มันทรมานจริงๆนะเนี่ยY_Y

 

 

 

“แฮ่กๆๆ” ไข้ที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อวานมันทำให้ฉันแทบไม่อยากจะลุกจากเตียงเลยแต่ก็ต้องพยายาม

 

 

 

           สาธุขอให้โรคนี้หายก่อนพ่อกลับหรือไม่ก็ให้ไข้เบาลงพอให้ฉันไปโรงเรียนได้ ด้วยเถอะนะ เพี้ยง!!!!

 

 

 

 

[ บันทึกพิเศษ : ฟาง ]

 

 

โรงเรียน  

 

 

พักกลางวัน

 

 

“เฮ้อ...”

 

 

       วันนี้ ‘ฟาง’ คนนี้เหงาเป็นพิเศษคร้าบบบบบบบทุกท่านนนนนนนน YOY!!!!!

 

 

       เพราะ ว่าเพื่อนรักป่วยไม่มาโรงเรียนทำให้ฉันต้องมานั่งเหงาหงอยอยู่คนเดียวแบบนี้ ที่ระเบียงหน้าห้องของตัวเองในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นก็ลงไปพักกลางวันกันจนหมด แล้วบนตึกนี้ก็เงียบและก็ไม่มีใครอยู่ด้วย

 

 

       เอ...คิดแล้วก็เป็นห่วงแก้วนะเห็นว่าอยู่บ้านคนเดียวด้วยเพราะเมื่อวานคุยกันว่าพ่อเธอไปเข้าค่ายผู้ปกครองกับลูกสร้างสัมพันธ์อะไรก็ไม่รู้ พอไปปุ๊บ! แก้วป่วยเป็นโรคทับระดูซะงั้น? ตามจริงอาการมันออกตั้งแต่เมื่อวานละว่าแก้วปวดตรงท้องน้อยแล้วตัวก็อุ่นๆด้วย ก็เลยรีบพาไปเขียนไปลาไว้ก่อนเลย

 

 

       นี่ดีนะที่เป็นวันศุกร์พอดีเพราะถ้าเป็นวันจันทร์คงต้องลายาวเลยอ่ะ =[]=!

 

 

“เฮ้อ...ไม่เจอแล้วจะเอารูปคืนยังไงวะเนี่ย”

 

 

      ฉันหยิบรูปของจองเบกับคลอรีนขึ้นมาดูแต่ทว่าจังหวะที่เงยหน้าจากรูปขึ้นมาสายตาอันเฉี่ยวคมสมเป็นเหยี่ยว =[]=;;;; ของฉันก็ดันไปเห็นว่าจองเบที่เพิ่งเดินขึ้นบันไดมากำลังเดินมาทางนี้ เขามองฉันเพียงแว๊บเดียวก่อนที่จะเดินสาวเท้าเข้าห้องไป

 

 

       เขามาคนเดียว????

 

 

       งั้น...ตอนนี้ล่ะ! o(><)o!!!

 

 

        เมื่อฉันได้โอกาสที่คิดว่าคงไม่มีใครในเคโอติคเดินตามจองเบขึ้นมา ( เพราะไม่ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกที่เหลือ ) ฉันจึงรีบใช้โอกาสนี้ที่จะคืนรูปของจองเบและอธิบายให้เขาฟังว่าแก้วเป็นคนเจอ รู้นี้ตกไว้

 

 

          ฉันลุกขึ้นแล้วเดินย่องๆไปที่ห้อง ม.5/7 ที่อยู่ถัดไปจากห้อง ม.5/2 เดินๆไปในใจก็คิดว่าจองเบจะแสดงอาการยังไงถ้าเขารู้ว่าฉันกับแก้วรู้ ‘ความลับ’ ของเขา

 

 

“ฮืม...” เสียงถอนหายใจของจองเบทำให้ฉันต้องแอบมองเขาก่อนจากประตูหลังห้อง ม.5/7

 

 

      ตอนนี้จองเบกำลังนั่งอยู่โต๊ะที่ติดกับขอบหน้าต่างของเขาแล้วกดเลื่อนโทรศัพท์ มือถือในมือเหมือนว่าเขากำลังเช็คอะไรอยู่   แต่ฉันจำเป็นต้องรีบคืนของฉันจึงค่อยๆย่างก้าวเข้าไปในห้องเรียนที่ไม่เคย คิดอยากจะเหยียบย่ำเข้ามาเล้ยยยยยยยย >O<!

 

 

     จำได้เลยตอนมาช่วยยกของให้อาจารย์ตอน ม. 4 ห้องนี้ฉันโดนพวกเคโอติคล้อแซวๆฉันกับไอ้บ้านั่น! ( ป๊อปปี้นั่นแหละ =;;= ) อึ๋ยยย คิดแล้วเจ็บใจนักเชียว!

 

 

“อะ...เฮ้...นาย”  

 

 

“...”

 

 

            จองเบเหมือนจะตกใจหน่อยๆที่มีคนทักขึ้นมาเขารีบเก็บโทรศัพท์ลงใต้โต๊ะก่อนจะ หันมามองฉันแล้วเลิกคิ้วสงสัยว่าฉันมาทำอะไรที่นี่? เพราะปกติฉันก็ไม่เคยที่จะเข้ามาอยู่แล้วถ้าอาจารย์ไม่สั่งให้มาเอาโน่นนี่นั่นและอีกบลาๆๆ

 

 

 

“ไม่น่าเชื่อนะว่า‘ฟาง’ จะเหยียบเข้ามาในห้อง ม.5/7 ^^”  

 

 

            จองเบนี่เห็นเงียบๆออกแนวสุภ๊าพพพพพพพสุภาพที่สุด!  ในเคโอติคนี่ตามจริงก็เกรียนใช่ย่อยนะเพียงแค่ไม่เผยทาสแท้เท่านั้นเอ๊ง! ><!

 

 

“ว่าแต่...เธอมีอะไรรึปล่าว?”

 

 

“ฉัน...”

 

 

           ฉันพูดแล้วกำลังจะล้วงเอารูปจากกระเป๋าเสื้อสูทจองเบก็พูดแซวขึ้น!

 

 

“มาหาป๊อปปี้?”

 

 

“ไม่ใช่! ><!” ฉันเถียงอย่างทันท่วงที  

 

 

           ‘มาหาป๊อปปี้?’ อ๊ากกกกกกกกกกกก คิดออกมาได้เยี่ยงไรก๊านนนนนนนนน หมอนั่นแค่เดินเฉียดฉันยังไม่อยากเลย! หน้าตาก็ดีแต่นิสัยกวนประสาทฉันก็ไม่อยากจะพบจะเจอด้วยหรอกจะบอกให้! >O<!!!

 

 

“ฮ่าๆๆ เธอเนี่ยนะ” จองเบหัวเราะออกมาแล้วถามอีกรอบ “แล้วสรุปมามีอะไรอ่ะ”

 

 

“คือ...ฉันเอาของๆนายมาคืน” ฉันพูดไปตรงๆอย่างไม่ติดขัดแล้วยื่นรูปถ่ายนั้นให้กับจองเบ

 

 

      ดูเหมือนจองเบจะตกใจไม่น้อยเลยที่เขาเห็นภาพนั้น เขานิ่งไปพร้อมกับลุกขึ้นยืนช้าๆสายตาอันแหลมคมมองจ้องที่รูปภาพนั้นก่อนที่ เขาจะรับมันไปจากมือของฉัน

 

 

      จองเบเงยหน้าจากรูปขึ้นมามองฉันแล้วเหมือนกับจะเอ่ยปากถามว่าฉันไป เจอรูปนี้มาได้ยังไงฉันก็เลยชิงพูดขึ้นก่อน

 

 

“วัน เสาร์ที่นายมาโรงเรียนแล้วเจอแก้วนายคงบังเอิญทำตกเอาไว้แก้วเลยเก็บไว้ ให้ เธอพยายามจะหาทางคืนรูปนี้ให้นายตัวต่อตัวแต่ก็ไม่โอกาส และวันนี้เธอป่วยเลยฝากรูปนี้ไว้กับฉันเผื่อว่าฉันเจอนายตอนอยู่คนเดียวพอดี จะได้คืนให้” ฉันพูดสรุปจองเบก็พยักหน้าเบาๆ

 

 

“งั้นสรุปว่าพวกเธอสองคนก็...รู้เรื่องฉันกับ...แล้วสินะ” จองเบพูดแล้วใช้นิ้วของเขาถูกจมูกของตัวเองไปมา

 

 

        เอ...แปลก! ท่าทางแบบนี้อย่างกับพยายามจะลืมคลอรีนหรือยังไงกันเนี่ย?

 

 

       ไม่คิดจะพูดแม้แต่ชื่อของคลอรีนเลยเหรอ?

 

 

       งั้นแสดงว่าสองคนนี้คงจบแบบค้างคาแน่นอนอ่ะ ชัวปาบ

 

 

“ฉัน รู้แค่กับแก้วเท่านั้นและไม่คิดจะเอาไปบอกใครด้วยนายวางใจได้เลย เพราะว่าถ้านายกับคลอรีนอยากให้เรื่องนี้มันเป็นความลับฉันก็จะไม่เข้าไป ยุ่งหรอกนะ” ฉันบอกแล้วมองจองเบตรงๆเพื่อให้เขาเชื่อใจ

 

 

“ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก โดยเฉพาะเพื่อนของเธอน่ะ” เขาพูดแล้วหยักยิ้มที่มุมปากหน่อยๆ

 

 

“เอ่อ...ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่านายกับคลอรีนไปคบกันตอนไหนแล้วเลิกกันเพราะอะไร ”

 

 

“...”

 

 

“แต่ ว่าที่ฉันจะบอกคือ...ถ้าเกิดนายยังรักคลอรีนอยู่ล่ะก็อย่ามาหลบๆซ่อนๆกับ คลอรีนแบบนี้เลย ฉันรู้นะว่านายพยายามตัดใจแต่ถ้ามันทำไม่ได้นายก็ควรจะสู้นะ”  

 

 

“ขอบใจสำหรับคำแนะนำนะ และก็ฝากขอบคุณเพื่อนเธอด้วยที่เก็บรูปใบนี้เอาไว้ให้”  

 

 

จองเบไม่ยอมรับว่าเขาจะเอายังไงแต่ก็พูดเหมือนว่าจะเก็บไปคิดดูเพียงแค่นั้น...

 

 

“อื้ม! แล้วจะบอกให้ ^^”

 

 

       เมื่อภารกิจการส่งคืนของให้จองเบเสร็จสิ้นลงด้วยดีและราบรื่นฉันก็เดินออกมาจากห้อง ม.5/7 และก็กำลังจะเดินตรงไปนั่งเล่นในห้องเรียน ม.5/2 ของตัวเองเงียบๆ จู่ๆก็มี  ‘เสียงเรียกจากนรก’  มาเรียกฉันเอาไว้เสียก่อน = =!!!

 

 

“นี่! ยัยฟางมัดข้าวววว! >O<!”

 

 

       ถึงนั่นจะไม่ใช่ชื่อของฉันแต่ฉันก็รู้เลยว่าใครเรียก! ><!

 

 

       อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก ไอ้บ้าป๊อปปี้อีกแล้วววววววววววววว >O<!!!!!!

 

 

       ฉัน ทำเป็นไม่สนเสียงเรียกนั้นแล้วเดินเข้าห้องของตัวเองไป แต่ทว่าไอ้บ้านั่นก็เดินตามเข้ามาในห้องเรียนของฉันอย่างไวแล้วรีบมาดักหน้า ฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง

 

 

      เฮ้ย! มาดักหน้ากันแบบนี้ถ้าหัวฉันชนอกนายทำไงฮะ!?

 

 

“มีอะไร - -?” ฉันถามตาลอย  

 

 

 

“เมื่อกี๊เข้าไปในห้องเรียนพวกฉันทำม๊ะ?” หมอนั่นพูดแล้วเงยหน้าขึ้นเป็นเชิงแต่ฉันก็แค่หยักไหล่ก่อนจะตอบไป

 

 

“แล้วมันเกี่ยวกับนายเหรอ ^^”

 

 

       ฉันสาบาญได้นะว่านั่นคือคำตอบจริงๆ ฮ่าๆๆๆ ^O^

 

 

“เกี่ยวสิ! ก็นั่นมันห้องเรียนฉัน >O<!” ป๊อปปี้พูดแล้วยืนเท้าสะเอว ( ? ) “รึว่า?! เธอแอบไปขโมยของ!”  

 

 

“นี่! ถามหน่อยเหอะทุกๆวันนายกินไส้เดือนเป็นอาหารเหรอ? คิดอะไรบ้าๆบอๆ ” ฉันพูดใส่หน้าป๊อปปี้แล้วพยายามจะผลักหมอนี่ออก “ออกไปเลย! >O<!”

 

 

“ไม่ออกเฟ้ย! จนกว่าเธอจะพูดความจริงว่าไปทำอะไรในห้องของพวกฉัน!”  

 

 

“ฉันจะทำอะไรจำเป็นต้องรายงานใครด้วย? นายเป็นใครกันมาสั่งให้ฉันบอกโน่นบอกนี่ฮะ? ไอ้ส้วมตัน!”

 

 

“เธอ!”

 

 

“ทำท่าทางเป็นคนเท่ห์นิสัยจริงๆอ่ะปากเสีย ฉันอยากจะรู้จริงล่ะว่าผู้หญิงพวกนั้นกล้าให้เบอร์โทรกับนายได้ไง”

 

 

“ก็ฉันหล่อ รวย ฉลาด เรียนเก่ง และมีดีอีกตั้งหลายอย่างผู้หญิงอย่างเธอจะไปรู้อะไร๊ ”  

 

 

       ตอบได้แบบไม่ค่อยเข้าข้างตัวเองเลยนะ! =[]=!!!!  

 

 

“- -!”

 

 

“อีกอย่างนะ เธอหลงชอบฉันรึปล่าวยังไม่รู้เล้ย สายตาฉันก็ออกจะแวววาวแถม HOT! ขนาดนี้ ^^”  

 

 

=[]=;;;;

 

 

        เดี๋ยวขอคิดภาพแป๊ปนึงนะ...  

 

 

  เพียงแค่คิดสถาพว่าหมอนั่นส่งสายตาทำอะไรแบบนั้นให้แล้วฉันขนลุกเลยอ๊า>O<!

 

 

“อ๋องั้นเหรอ?” ฉันเบ้ปากใส่เขา “งั้นถ้านายฉลาดจริงๆก็น่าจะมีสมองคิดได้บ้างว่าไม่ควรมาถามเรื่องของคนอื่นเขา!”

 

 

จึก!!

 

 

“>O<!!!” >>>>> ป๊อปปี้  

 

 

“ฉันเดินเข้าไปในห้องนายแล้วทำไม? มันติดป้ายเอาไว้เหรอว่า‘ห้ามเขา’”

 

 

“แล้วเธอเข้าไปทำไม? มีเหตุผลอะไรที่ต้องเข้าไป?”

 

 

“โอ๊ะ! ถามตื๊ออยู่ได้ น่ารำคาญ!”

 

 

      เมื่อป๊อปปี้ยังตื๊อไม่เลิกจนฉันต้องพูดออกมาแล้วถอนหายใจแรงๆแล้วจ้องหน้าหมอนั่น ค้อนๆแบบไม่พอใจก่อนจะตัดสินใจหันหลังแล้วทำท่าว่าจะเดินออกไปจากห้องนี้  

 

 

            ได้! ถ้าหมอนั่นไม่ไปฉันไปเอง! ขี้เกียจโดนกวนประสาท! >O<!

 

 

      พอจะก้าวขาออกจากประตูดูเหมือนว่าคำพูดต่อมาที่เอ่ยออกมาจากปากป๊อปปี้นั้นทำให้ฉันอยากจะตอบกลับมาก! จึงได้หยุดชะงักจากการเดินทันที! >O<!

 

 

“รึว่าคิดจะไปอ่อยไอ้จองเบ?”

 

 

กึก!

 

 

“...”

 

 

 “เห๊อะ! ยัยฟางมัดข้าว เตี้ยแบบนี้ ไอ้จองเบมันไม่ชอบหร๊อก! อย่าหวังเล้ย! ”

 

 

แปะๆๆๆ

 

 

“ขอปรบมือให้กับความ...บ้องตื้น! คิดเอง! เออเอง! ของคนเสียสติจิตหลุดโลกที่สุดในกลุ่ม เค-โอ-ติค!”ฉันทำปรบมือกวนๆแล้วพูดย้ำทีละคำจนป๊อปปี้ถึงกับควันออกหู  

 

 

 

       เห๊อะ! หมอนี่ใช้สมองส่วนใหญ่มาคิดเนี่ยว่าฉันอ่อยจองเบ บ้าไปแล้ว!

 

 

“นี่ยัย...!!!!” หมอนั่นชี้หน้าฉัน

 

 

“อะไรๆๆๆๆๆๆๆ” ฉันพูดเร็วๆกวนประสาทแล้วยืนกอดอกอมยิ้มอย่างสะใจในขณะที่ป๊อปปี้เอาแต่กัดฟัน

 

 

“หน๋อย! ยัย...ยัยปากปลาร้าค้างปี >O<!”

 

 

“อุ๋ย! ด่าได้แค่นี้หรา? แหม๋ แหม๋  ไอ้เราก็นึกว่า...ปากจะเสียกว่านี้ซะอีก!”

 

 

“ยัย!!!!!!!!”  

 

 

       ฉัน หมุนตัวเดินออกมาจากห้องเรียนแล้วรีบเดินลงบันไดกะว่าไปนั่งเล่นข้างล่างจะ ดีกว่าเพราะขืนอยู่บนอาคารต่อหมอนั่นตามหาเรื่องอีกแน่ๆ รอให้ถึงเวลาเรียนแล้วค่อยขึ้นมาดีกว่า

 

 

              ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ๊ยยยยยยย สะใจจริงเจรงงงงงงงงงงง ( หัวเราะพร้อมกับเอามือตบๆปากด้วยความสะใจ คิ คิ )

 

 

              คงสงสัยกันล่ะสิว่าฉันกับป๊อปปี้ทำไมถึงได้เกลียดขี้หน้ากันแบบนี้นะ?

 

 

       จะ เล่าย่อๆให้ฟังว่าตั้งแต่ที่เข้า ม.1 มาเนี่ยชีวิตฉันไม่เคยปกติเวลาที่เจอป๊อปปีเล้ยยยยยยยย หมอนี่น่ะนิสัยเสียเอาตรงๆไม่รู้จักกันแล้วมาแกล้งมาแซวนู่นนี่ มันสมควร?  ฉันคิดว่าตัวเองจะไม่โดนแล้วนะเพราะปกติก็ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับใครเขาอยู่แล้ว

 

 

             แต่หมอนี่ก็ยังวกวนมาแซวมาแกล้งกันจนได้! >O<!  

 

 

       วันแรกที่ถูกหมอนั่นแกล้งฉันกับหมอนั่นก็มีเรื่องกันเลยทีเดียว ก็ดันบังอาจมาดึงเปียแกะของฉันน่ะสิ ดึงซะหัวแทบหลุด! ><!   จากนั้นเราก็เริ่มทะเลาะกันจนเป็นเรื่องและด้วยความที่ฉันเป็นพวกความอดทน ต่ำจึงด่าหมอนั่นกระจุยกระจายต่อหน้านักเรียนคนอื่นๆแล้วก็ถีบตูดไอ้บ้าป๊อปปี้นกลิ้งเป็นลูกชิ้น@_@

 

 

            และตั้งแต่วันนั้นฉันกับหมอนั่นก็กัด เอ้ย! ก็จะเหน็บแหนมกันแบบนี้เป็นประจำจนชินไปแล้ว แต่ก็ยังหมั่นไส้กันอยู่ดีและคงไม่มีท่าทีว่าจะมาญาติดีให้กันง่ายๆแน่ๆ

 

__________________________________________________

อัพแล้วนะค่ะ ถ้าเม้นเยอะๆจะอัพทุกวันนะ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา