The Heart เพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
8.8
เขียนโดย พายุลมหนาว
วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 07.14 น.
12 chapter
83 วิจารณ์
18.19K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 00.03 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
8) [8] ขี้หลีเจอดี
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความThe Heartเพราะหัวใจรักใครไม่เป็น...
Chapter (8)
“เหวอ!”
สวบบบ โครม!! ตุบ!
“เจ็บชะมัด อูย..หลังช้านนน ” T^T ฉันดันก้าวพลาดตอนพลิกตัวกลับทำให้ร่างฉันหงายหลังชนกำแพงต้นไม้ทะลุ >^0? ทะลุ เป็นไปได้ไงอ่ะ กำแพงออกจะหนาแค่น้ำหนักตัวฉันไม่น่าจะ... ฉันดันศีรษะขึ้นมองทางที่ฉันชนข้ามมา ก็ว่าทำไมผ่านเข้ามาได้มันเป็นทางลวงนิเอง ตรงจุดที่ตัวฉันข้ามมาเป็นบริเวณที่บางกว่าตรงอื่นเหมือนกับเป็นประตูลับ โห้วเจ๋งว่ะ ใครคิดเนี่ยนึกว่าหลงเข้ามาในดินแดนอลิซสะอีก ถ้าไม่เผลอสะดุดขาตัวเองก็ไม่มีวันรู้เลยนะว่ามันมี แต่เจ็บเป็นบ้าเลยอ่ะ หลังจะหักไหมเนี่ย T T
“เปื้อนหมดเลยง่ะ” ฉันเดินอุบอิบมาตามทางพลางปัดคราบขี้ดินใบไม้ที่ติดมา ว่าแต่มันจะไปโผล่ไหนกัน โทโมะแวบมาทางนี้จริงๆเรอะ ฉันเดินมาเรื่อยๆจนพบกับปากทางออก ในที่สุดก็เจอแสงสว่างเสียทีแต่แปลกเหมือนกันแฮะไหงมันมีทางลับแถวนี้ด้วยว่ะ อยู่มาตั้งหลายปีไม่ยักกะรู้ OvO?
“นั้นไงโทโมะ” ฉันรีบเข้าไปแอบหลังต้นไม้แล้วแหงนมองร่างของเขาที่ยืนอยู่หน้าป้ายหลุมศพของใครสักคน สีหน้าเขานิ่งเรียบตามเคยแต่แววตากลับดูเศร้าสร้อย ฉันไม่เคยเห็นใบหน้ารันทดของเขาเลยสักครั้งโดยปกติไม่เอาแต่นิ่งก็แสยะยิ้มน่าขนลุก แล้วป้ายหลุมศพนั้นใครกัน
“นายเองก็มีเรื่องทุกข์ใจเหมือนกันสินะ” ฉันเคยแอบนึกว่าคนอย่างเขาเคยรู้สึกอะไรบ้างหรือป่าว มาวันนี้ถึงได้รู้ว่าเย็นชาเหยียบน้ำแข็งยังไงก็ร้อนเป็นเหมือนกัน โทโมะยืนนิ่งก่อนจะวางช่อดอกไม้สีแดงสลับขาวลงแล้วนั่งย่อตัวตาม เขายื่นมือใหญ่สัมผัสแผ่นป้ายเนิ่นนานก่อนจะลุกเดินกลับมาทางฉัน ทางฉันเรอะ =_=….
“ว้าย ตายแล้ว!” ลืมไปว่ามันมีทางกลับแค่ทางเดียวต้องรีบหลบก่อน ฉันรีบกระโดดมุดตัวเข้าพุ่มหญ้าแล้วเข้าหลังต้นไม้ใหญ่แนบติดพลางแอบชะเง้อดูนิดๆ โทโมะเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆตรงที่ฉันหลบอยู่แล้วหันไปหันมา เซนส์ดีไปแล้วพี่ค้าบบบ ไม่มีใครอยู่ตรงนี้นายคิดไปเอง เดินไปเดียวนี้เลยนะตาบ้า! ฉันนั่งภาวนาขับใส่ไล่ส่งให้เขารีบย้ายตัวออกไปซะ ใจอีแก้วจะหายแล้ว ขืนเขารู้ว่าฉันแอบตามมาไม่รู้ว่าพี่แกจะทำอะไรฉันบ้างนี้สิ
“เฮ้อ ไปสักทีเล่นเอาใจหายหมด” โทโมะเลิกกวาดมองแล้วเดินต่อ ฉันมองตามหลังเขาจนลับตาก่อนจะปล่อยโล่ง ยันตัวเองขึ้นไปดูหลุมศพที่แยกตัวออกมาจากสุสานซึ่งไม่ได้มีแค่คนเดียวมีถึงสองคน ฉันยืนดูสักพักก่อนจะยกมือไหว้เคารพหลุมศพถึงแม้ฉันจะไม่รู้จักฉันก็ต้องมีมารยาทไว้ก่อน
“แก้วไม่ได้มารบกวนพวกคุณนะค่ะ แค่อยากรู้ว่าคุณสองคนเป็นใครเท่านั้น” ฉันพูดขอต่อเจ้าของหลุมศพ ฉันไม่ได้ต้องการมาลบลู่พวกเขาแต่ต่อมเสือกฉันมันอยากรู้ว่าเขาสองคนมีความสำคัญอะไรกับโทโมะ ทำไมเขาถึงดูเศร้าได้ขนาดนั้นกัน ฉันก้มลงแล้วมองช่อดอกไม้บนแท่นก่อนระบายยิ้มอ่อนออกมา เพราะมันมีช่อเก่าวางอยู่หลายอันอยู่เหมือนกันแล้วแต่ล่ะอันดูเหมือนจะแห้งกรอบไปแล้ว เขามานี้บ่อยสินะ
“นายคงจะรักพวกเขามากสินะ” ฉันพึมพำกับตัวเองก่อนจะเหลือบดูชื่อป้ายทั้งคู่ว่าเป็นใคร
“มิสซิส มาซะ..” ภาษาอังกฤษซะด้วย @_@ ตาลายสิค่ะ
“ทำอะไร” เฮือก! ร่างฉันชะงักทันทีที่มีเสียงทุ้มใหญ่แทรกเข้ามาพร้อมกับมือใหญ่กุมไหล่ฉัน ฉันค่อยๆหันไปอย่างช้าๆเพื่อดูว่าใครทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ายังไงก็ไม่พ้น โทโมะ..
“เอ่อคือว่าฉัน..” เขาทำหน้าดุแบบโกรธสุดๆและดูท่าจะมากซะด้วย เล่นซะฉันไปไม่เป็นเลย แล้วไหนโทโมะนี้นายหลอกให้ฉันหลงเชื่อเพื่อที่จะล่อฉันออกมาติดกับใช่มั้ย หลักแหลมมากเอาซะวุฒิการศึกษาไม่ได้มีไว้ช่วยให้ความรู้ไม่เท่าทันฉันลดลงเลย ตายแง่ม =v=;;
“กรี้ดดดดดด!!! ปล่อยฉันโทโมะ ฉันไม่ใช่ของเล่นของนายนะที่จะได้หิ้วไปไหนมาไหนได้น่ะ!” ฉันถูกเขาแบกพาดบ่าหิ้วเตร่ออกมาจากสุสานเพราะรู้สึกว่าเขาจะไม่ชอบให้ใครเข้าไปยุ่มย่ามหลุมศพพวกนั้น แต่ถึงอย่างงั้นก็เหอะ บอกกันดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องเอาฉันพาดบ่ามาเลย กรี้ดดดดด ปล่อย!!!
“เธอมันจอมวุ่นวาย สร้างเรื่องปวดหัวไม่เว้นวันช่วยอยู่นิ่งๆสักพักไม่ได้รึไง” เขาพูดแล้วเร่งฝีเท้าเร็วกว่าเดิมเอาซะฉันต้องหาที่เกาะเพราะกลัวล่วง ขนาดเขาแบกรัดด้วยแขนข้างเดียวรอบขาอ่อนฉันแล้วนะ อ้ายไอ้โรคจิต กล้าดียังไงมาแต๊ะอั้งฉัน >0<!! ฉันทั้งดิ้นทั้งทุบทั้งจิกหลังหวังให้เขาปล่อยฉันแต่เขากลับไม่สะทกสะท้านตามเคย อ้ากกกกกฉันจะทำไงดี >[]<!!!
“อ้ายยย โทโมะวางฉันลงเดียวนี้หน่ะ!” ฉันเขม่นเขา โทโมะเลยหันมาขมวดคิ้วข่มกลับแต่ฉันสู้ไม่ถอยประจันหน้าต่อ แล้วอยู่ๆอีตานี้ก็ปล่อยร่างฉันซะดื้อๆหรือว่าง่ายๆ ทิ้งลงพื้นเลยดีกว่า เล่นซะก้นฉันกระแทกพื้นตามแรงทิ้งเขา ของเก่ายังไม่หายหาเรื่องระบมใหม่อีกแล้ว เจ็บบบบบ!!!!
“โอ๊ยไอ้บ้าวางดีๆไม่ได้รึไง ฉันเจ็บนะ!” ฉันมองเขาตาเขียว
“เจ็บนั้นแหละจะได้จำ ว่าอย่ายุ่งเรื่องคนอื่นให้มันมาก” เขาว่ากลับชักสีหน้าขุ่นใส่ฉันที่นั่งหน้างอเพราะเจ็บก้นไม่หาย ฉันรีบยันตัวเองขึ้นแล้วมองแรงโทโมะกลับ
“ถึงฉันจะชอบสอดเรื่องชาวบ้านแล้วยังไงล่ะมันช่วยไม่ได้นิเพราะฉันเป็นหมอ การรู้เรื่องคนอื่นให้มากถือว่าเป็นทักษะชีวิตอย่างหนึ่งเหมือนกัน และฉันก็มีขอบเขตพอไม่ได้จุ้นไปซะทุกเรื่อง” ฉันรีบแย้งเขาด้วยความโมโห ลองคิดดูถ้าฉันไม่รู้เรื่องคนป่วยแล้วฉันจะรักษาผู้ป่วยได้ยังไง
“แต่ฉันไม่ชอบให้ใครมาสอดเรื่องของฉัน!” เขาจ้องฉันตาขวาง มือหนากำแน่นข่มอารมณ์พลุ่งพล่าน ฉันรู้ว่าฉันผิดแต่ทำไมเขาต้องโกรธขนาดนี้ด้วยแถมจ้องซะยักกะจะเอาเลือดออกตัวฉันอ่ะ หมั่นไส้ซะจริงไอ้ชาเย็น เย็นชาเอ๋ย >A<’’
“เอ้อ! ฉันขอโทษที่จุ้นเรื่องนายแต่รู้ม่ะ เหตุผลหนึ่งที่ฉันตามไปน่ะก็แค่อยากเอาไอ้นี้มาคืนก็เท่านั้น แล้วหลังต่อจากนี้ฉันจะไม่ยุ่งกับนายอีกพอใจยัง!” ฉันหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าที่เขาให้มาตอนนั้นปาหน้าเขาด้วยความน้อยใจเขานิดๆ แล้วกระแทกเท้าหนีกลับรถอย่างหัวเสีย ไม่เห็นต้องตะคอกใส่ฉันเลย ตาบ้า บ้าๆๆๆ บ้าที่สุด
“เฮ้อ..” โทโมะมองตามร่างหญิงสาวที่พึ่งพาลใส่ก็ถอนหายใจ ก่อนจะก้มลงเก็บผ้าเช็ดหน้าของตัวเอง เขาบอกไปแล้วแท้ๆว่าไม่จำเป็นๆ ก็ยังเอามาคืนให้จนได้ โทโมะยิ้มนิดๆก่อนจะเดินกลับไปที่สุสานส่วนตัวตามเดิม เอาจริงๆเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแก้วแอบตามมา ที่เขาวกกลับมาก็เพราะลืมของไว้เลยเดินกลับมาเอาก่อนจะตกใจที่เห็นแก้วอยู่หน้าป้ายหลุมศพของคนที่เขารักและเคารพ
“ดอกหญ้า” ชายหนุ่มหยิบดอกหญ้าสีขาวที่วางรวมอยู่ในกองช่อดอกไม้ขึ้นมาดู ก่อนจะหันไปมองรอบๆหาที่มาก็เห็นพุ่มดอกหญ้าอยู่ข้างหลังไม่ไกลแต่ใจคิดว่าคงไม่ได้โดนลมพัดมาถึงนี้ น่าจะเป็นหญิงสาวที่เอามาวางไว้มากกว่า โทโมะหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาดูแล้วคลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“หึ ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริงๆ” มือใหญ่วางดอกไม้กลับที่เดิมก่อนจะหยิบของที่ลืมไว้เก็บเข้ากระเป๋าเสื้อ แล้วเดินกลับโดยมีสายลมอ่อนเบาบางพัดตามหลังเขาไป บางทีสายลมที่ว่าอาจเป็นวิญญาณของเจ้าของหลุมศพที่ยิ้มให้กับชายหนุ่มที่รัก
“โห้ว กูก็นึกว่ามึงจะทิ้งให้กูรอเก้ออีก เอ่อ เป็นไร ไหงหน้าบูดมางั้นว่ะ” ไอ้ป็อปพูดถามฉันที่พึ่งลงรถมาด้วยใบหน้าบูดเบี้ยวสุด ถามได้ก็อารมณ์เสียนะดิหน้ายังงี้คงมีความสุขหรอก ฉันกับมันอยู่ที่ลานจอดรถในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งมันให้ฉันจอดรถทิ้งไว้นี้แล้วขึ้นรถมันไป อันนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะพาฉันไปไหน แต่เท่าที่รู้ฉันยังหงุดหงิดไม่หายจนไอ้ป็อปมันนึกว่าตัวเองทำอะไรผิด ซึ่งฉันไม่ได้บอกมันไปด้วยว่าเป็นอะไรนี้สิ
“เฮ้ย ไอ้แก้วมึงเป็นไรว่ะ มีอะไรก็บอกกูดิ” ไอ้ป็อปจอดรถแล้วเขย่าร่างฉัน ฉันหันมาถอนลมหายใจก่อนจะส่ายหน้าไม่เป็นไรบอก
“ไม่เป็นไรเหี้ยอะไรเล่นถอนหายใจตลอดทางซะหรือวันนั้นของเดือนห่ะ?” มันคะยั้นคะยอฉันลูกเดียวจนฉันชักจะรำคาญมันแทนซะแหละ -_-‘’
“ถ้ามึงไม่หยุดกูจะเอาโก้โก้ยัดปากมึง” ฉันง้างแก้วโก้โก้ที่แวะซื้อก่อนมารอฟาด มันนี้หน้าเจื่อนเลย
“ก็กูห่วงมึงอ่ะ แล้วอย่าลืมดิกูพามึงไปพบพวกเขาขืนอารมณ์บูดไปเงี้ยมึงไปอาละวาดเขาขึ้นมากูจะซวยได้นะเว้ย” เอ่อๆ ฉันขอโทษ แต่มันหงุดหงิดนี้หว่าทำไงได้
“เอ่อๆรู้ล่ะ กูจะพยายามแต่มึงอย่าให้กูเล่าเลยนะ นึกทีไรมันฉุนตลอดอ่ะ” ฉันห้ามมันรื้อเรื่องเพราะไม่งั้นวันนี้ฉันคงหัวเสียยาว มันก็พยักหน้าตอบแล้วยอมขับรถมาถึงที่นัดหมายกันไว้รึป่าว รีสอร์ทนอกเมืองไม่ไกลสักเท่าไหร่แต่อากาศดีมาก มีนักท่องเที่ยวเยอะอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะชาวต่างชาติ
“ไอ้ป็อปมึงพากูมานี้ทำไมว่ะ” ฉันหันไปถามมันอย่างไม่เข้าใจ
“มารับเพื่อนอีกคนหนึ่งน่ะ มันบอกว่ามันอยู่นี้” แล้วเราก็เดินเข้ามาในสปาประจำรีสอร์ทแสนเย้ายวน ถ้าได้ลงสปา นวดตัว ขัดผิวสักหน่อยฉันคงอารมณ์ดี -v- ขณะนั้นไอ้ป็อปมันแยกตัวไปถามหาคนกับเจ้าพนักงานรีสอร์ท ฉันก็ต้องยืนรอมันอยู่นานก่อนตัดสินใจหาอะไรแก้เบื่อ ฉันเดินเล่นแก้เซ็งไล่ดูภาพประดับตามกำแพง (‘ ’ )( ‘ ’) สวยดีแฮะ
“สวัสดีครับคนสวยไม่ทราบว่าสนใจไปดริ้งกับผมไหมครับ” มีแขนใหญ่ที่ไหนไม่รู้มาพาดไหล่ฉันแล้วเปล่งเสียงกระซิบเอาซะฉันนี้สะดุ้งเล็กน้อยคิดว่าคงเป็นพวกขี้หลีแน่ๆ มันขยับมือใหญ่ลูบไหล่ฉันเบาๆเพราะเห็นฉันไม่ขัดขืน ใครว่าล่ะฉันขบกรามแน่นปล่อยให้มันได้ใจต่างหากแล้วเก็บร่วมยอดทีเดียว ขี้หลีดีนักใช่มั้ยเจอดีแน่ ฉันจัดการกระทุ้งศอกแทงอัดหลังเข้าหน้าท้องไอ้ขี้หลีนั้นเต็มๆ เล่นซะมันตัวงอก้มนั่งคดตัวเลย หึๆ
“ไอ้แก้วเกิดไรขึ้นว่ะ” ไอ้ป็อปมันวิ่งมาแต่ไกล ไม่ต้องแล้วมึง ฉันจัดการเรียบร้อยล่ะ =w=+
“ก็ไอ้บ้าเนี่ยมันจะลวนลามกูนะดิ” ฉันรีบฟ้องมันทันที
“เห้ย เดียวๆๆๆ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยเลยนะ” มันเงยหน้าร้องห้ามฉันก่อนจะไปสบตากับไอ้ป็อปที่ยืนอึ้ง มันอึ้งอะไรของมัน -^-?
“ไอ้เขื่อน!” เขื่อน?
“เห้ย ไอ้ป็อป!” อ้าวรู้จักกันเรอะ มันสองคนลุกไปกอดกันทำยังกะไม่ได้เจอมาแสนล้านนาที ก่อนไอ้คนที่ชื่อเขื่อนจะมาโค้งขอโทษฉันแล้วยิ้มทะเล้น ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกเพราะถ้าเพื่อนไอ้ป็อปก็เท่ากับเป็นเพื่อนฉันเหมือนกัน แต่ถ้ารอบหน้ามาขี้หลีกับฉันฉันเอาตาย
“นี้เพื่อนกูเอง ที่กูบอกมึงว่าแต่ก่อนเป็นคู่ขาเก่าสมัยเรียนตำรวจด้วยกันไง” อ้อ ไอ้หน้ายาวนี้เหรอเพื่อนมัน
“ดีค้าบ คุณแก้วผมผู้กองภัทรดนัยครับหรือเขื่อน ฝากเนื้อฝากตัวด้วย” เขายิ้มกว้างแล้วขอจับมือฉัน ฉันก็ยิ้มตอบแล้วบีบมือเขาแน่นพร้อมขู่ผ่านสายตาถ้ามีรอบอีกเอ็งโดน มันนี้ยิ้มแห้งเลย ไอ้ป็อปมันรู้ว่าฉันทำอะไรก็แอบลอบขำเบาๆ ฉันกับมันก็ต้องมานั่งรอไอ้เขื่อนไปเปลี่ยนเสื้อเพราะมันอยู่ในชุดคลุมพึ่งทำสปามา เอาซะฉันนิอยากทำด้วยถ้าไม่ติดธุระซะก่อน
“มึง ยิ้มอะไรตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้วว่ะ” ไอ้ป็อปมันหันมาถามฉันที่ยืนอมยิ้มจ่อจอโทรศัพท์
“อ้อ กูแชทกับฟางอยู่” ฉันตอบมันขณะกำลังพิมพ์ข้อความตอบกลับ ฉันเห็นมันแอบหน้าตึงนิดหน่อย
“ทำไมสนใจเหรอ” ฉันลองแหย่มันเพราะรู้ว่ามันกับฟางเกลียดขี้หน้ากัน มันนิหน้ายู่เลย
“โห้ว ยัยเตี้ยปากจัดอย่างนั้นกูไม่สนหรอก อย่างกูน่ะมันต้องสูงยาวเข่าดีถึงจะตรงสเป็ก” ค่ะ ไม่สนเลยค่ะเพื่อน ฉันหันไปไลน์กับฟางต่อจนนายเขื่อนนั้นมาถึงเราจึงรีบก็ยกพลไปสถานที่นัดหมายถัดไป ไอ้ป็อปขับรถมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของใครคนหนึ่งที่ไอ้ป็อปบอกว่าจะพาฉันมาทำความรู้จัก เขาเป็นคนหนึ่งที่ต้องการโค่นล้มพวกนายแสนเหมือนกัน เราทั้งสามคนเดินมาถึงข้างในก็เจอกับชายคนหนึ่งซึ่งเดินสวนทางมาพอดี
“อ้าวผู้กอง มาไวเชียวนะครับ” เขาเดินมาจับมือกับไอ้ป็อปเป็นการทักทาย ฉันกับเขื่อนมองหน้ากันเองเนื่องจากเราทั้งคู่ไม่รู้จัก
“เอ่อใช่ นี้ภีมคนที่กูจะพาพวกมึงมาทำความรู้จักในฐานะผู้ร่วมทีม” ไอ้ป็อปแนะนำนายหน้าตี๋นั้นให้ฉันกับเขื่อน ฉันยิ้มพลางพินิจเพื่อนใหม่ เขาเป็นผู้ชายตัวสูงกำลังดี ผิวขาวหน้าค่อนไปทางจีนออกหนุ่มอาตี๋หล่อใช้ได้ และเขามีรอยยิ้มที่ดึงดูดใจสาวๆน่าดู
“หวัดดีค่ะ ฉันแก้วแล้วนี้ไอ้เขื่อน” ฉันแนะนำตัวเองก่อนจะแนะคนข้างๆ เขื่อนก็โบกมือยิ้มแป้นให้เขาเป็นการตอบเพราะฉันบอกแทนไปแล้ว
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันไปนานๆนะ” เขาดูเป็นคนอัธยาศัยดีจนน่าเหลือเชื่อเล่นซะฉันแอบเขินนิดหนึ่ง น่ารักแฮะ -.,-
“เฮ้ยๆ เขามีแฟนแล้วโว้ยไอ้แก้ว มึงหมดสิทธิ์” ไอ้ป็อปแซะฉันทันที ฉันรีบไปทำตาเขียวใส่มัน
“อะไรมึงเนี่ย กูไม่ได้คิดอะไรกับเขาโว้ย” มันทำหน้าอ้อเหรอใส่ฉัน ฉันจึงงัดท่าเก่าเล่าใหม่จับตุ้ยท้องแม่มเอาซะมันจุกตามเดิม ไอ้เขื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆฉันถึงกับหลุดก๊าก แล้วนายภีมก็พาเราสามคนมาหลังบ้านซึ่งเป็นค่าย Boxing ขนาดย่อม มีคนมากมายกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดฝึกซ้อมกันขยันขันแข็ง ว้าว ดุเดือดเลือดพล่านดีจริง
“ยัยนั้นหายไปไหนน่ะชัย” ภีมพูดคุยกับหนึ่งในนักมวย เขากำลังถามถึงใครอีกล่ะนั้น ฉันหันไปสบตาไอ้ป็อปที่กำลังสนทนาพาทีกับนายหน้ายาวข้างหลัง โห้วได้ใหม่แล้วลืมเลยนะมึง ชิ
“ไปล้างหน้าครับนาย” ฉันกำลังดึงหูไอ้ป็อปอยู่เพราะมันเอาแต่คุยกับไอ้เขื่อนจนลืมว่ามีเพื่อนซี้มันอีกคนยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ เชี่ยป็อป สนใจกุบ้าง แล้วนายภีมก็เข้ามาแทรกวงเราเพื่อห้ามฉันกับไอ้ป็อปที่เริ่มตีกันตามภาษาเพื่อนสนิท
“นายพาใครมาน่ะ ภีม” เสียงใสรายใหม่เรียกพวกฉันหันไปมองจุดเดียวกัน เจ้าของลักยิ้มมีเอกลักษณ์เค้าโครงหุ่นดีผมรวบมัดขึ้นสูง เธอสวมเสื้อกล้ามกับกางเกงวอร์ม มาด้วยสภาพชุ่มน้ำน่าจะพึ่งเปียกมามาดๆแต่มันกลับทำให้เธอดูเซ็กซี่ แต่รู้สึกใบหน้าเธอจะนิ่งซะจนฉันนึกถึงใครบางคนที่ฉันรู้จัก
“อ้อ พวกเขาเป็น..” ภีมกำลังจะแนะนำพวกเราก็โดนไอ้เขื่อนดักหน้าเสียก่อน ไอ้หน้ายาวมันไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน O-O!?
“ผมเขื่อนครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณ..” ไอ้เขื่อนเล่นยื่นหน้าเข้าไปใกล้แม่สาวคนนั้นจนเธอต้องถอยหลังแล้วยิ้มแหย่นิดหนึ่ง มันรุกตั้งแต่แรกเลยเว้ย ฉันกับไอ้ป็อปมองหน้าภีมที่ออกอาการเว่อรก่อนเราทั้งคู่จะส่ายหน้ากันเอง พอเข้าใจความรู้สึก
“เฟย์” อ้อชื่อเฟย์นี้เอง
“ชื่อน่ารักจังเหมาะกับคุณมากเลยครับ ไหนๆแล้วเรามาทำความรู้จักกันหน่อยไหมครับ เย็นนี้แล้วเราค่อย...” ไอ้เขื่อนมันยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วเต๊ะเนียนเข้าไปโอบไหล่เฟย์อย่างถือวิสาสะ
“ห้ามไม่ทันแล้ว” เมื่อกี้นายว่าไรนะภีม หืม? 0.0 อยู่ๆเฟย์ก็ยิ้มหวานหันไปโอบรอบคอนายหน้ายาวนั้นเล่นเอาไอ้เขื่อนนี้ยิ้มแป้นก่อนจะกระทุ้งกล่องดวงใจมันแล้วฉุดแขนพร้อมกับหมุนตัวจับร่างไอ้เขื่อนทุบลงพื้นอย่างรวดเร็ว ฉันกับไอ้ป็อปนิสะดุ้งโหยงอย่างคาดไม่ถึงในตัวผู้หญิงคนนี้ นายภีมยิ้มแห้งๆ ส่วนไอ้เขื่อนนะเหรอหน้าหงิกด้วยความเจ็บเลยล่ะ =[]=;; เอ่อ..
“อย่ามาทำหื่นกับฉัน” เฟย์พูดพร้อมกับบิดแขนมันเอาซะไอ้เขื่อนร้องโอ๊ยเลย นายภีมเลยต้องเข้าไปแยกสองคนนั้นออกจากกัน ฉันกับไอ้ป็อปช่วยกันประคองไอ้เขื่อนพลางมองเฟย์ที่ยืนตาเขียวปั๊ดมาทางผู้ชายที่เธอพึ่งจับทุบเมื่อกี้ แม่นี้โหดว่ะ ถ้าภีมไม่มาช่วยขว้างไว้ล่ะก็ฉันเดาได้เลยว่าไอ้เขื่อนได้กินน้ำเกลือยาวแน่
ขอบคุณสำหรับทุกไลค์ที่เข้ามาและติดตามฟิคแรกของเรา ไม่คิดว่าจะมีคนรออ่านเยอะเหมือนกัน ดีใจมาก ช่วยเม้นๆกันเยอะๆเลยนะ จะพยายามทำให้สนุก อย่าลืมเม้นโหวตด้วยล่ะ!
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ